ติดตามสถานะการณ์

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ แพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงหน่วยงานความมั่นคง และ ศบค. คัดค้านการรรับผู้ป่วยต่างชาติมารักษาในประเทศ วอนอย่าสู้ศึกหลายด้าน ขณะนี้ควรจัดการกับกิจการในประเทศเสียก่อน

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000064668
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

นอกจากการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเป็นวิกฤตไปทั่วโลกแล้ว ปัญหาอีกอย่างที่กำลังคุกคามมนุษยชาติอยู่ในขณะนี้นั่นก็คือสภาวะโลกร้อน ไม่นานมานี้สื่อต่างประเทศออกมารายงานถึงประเด็นที่น่าเป็นห่วงนี้ว่า
.
ที่เมือง Verkhoyansk ในเขตไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ได้เกิดปรากฏการณ์อุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 38 องศาเซลเซียส โดยเมืองนี้ตั้งอยู่เหนือวงกลมอาร์กติก ซึ่งเป็นเส้นแบ่งสภาพภูมิอากาศที่อยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ และตามปกติจะมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นแม้แต่ฤดูร้อนเช่นในตอนนี้
.
อุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองนี้ในช่วงฤดูร้อนเริ่มจากเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 13.2 องศาเซลเซียสเท่านั้น แม้แต่กลางฤดูร้อนคือกรกฎาคมยังสูงแค่ 16.4 องศาเซลเซียสโดยเฉลี่ย อย่างไรก็ตาม เมืองนี้ยังเป็นเจ้าของสถิติโลกกินเนส ในฐานะเมืองที่มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วที่สุดในโลก
.
โดยในฤดูหนาวอุณหภูมิเคยลดต่ำลงถึง -68 องศาเซลเซียส และในฤดูร้อนเคยร้อนถึง 37.2 องศาเซลเซียส แต่ล่าสุดอากาศร้อนทุบสถิติใหม่เรียบร้อยแล้วที่ 38 องศาเซลเซียส ถือเป็นสภาพอากาศที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกกันมาในเขตขั้วโลกเหนือ
.
นอกจากนี้พื้นที่อื่นๆ ของไซบีเรียยังร้อนผิดปกติจนทำให้เกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในสาธารณรัฐ Sakha ที่ตั้งของเมือง Verkhoyansk ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วถึง 1,718,750 ไร่

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.timesnownews.com/mirror...soars-to-38-degrees-celsius-in-siberia/610150

https://www.euronews.com/2020/06/22/the-other-new-normal-a-record-38c-and-forest-fires-in-the-arctic

https://www.posttoday.com/world/626635
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนหลายล้านคนในฝรั่งเศสเข้าร่วมเทศกาลดนตรีกลางฤดูร้อนประจำปีที่จัดขึ้นทั่วประเทศ ภายในงานมีการเต้นรำและสังสรรค์กันอย่างไม่กลัวโควิด-19
.
โดยสื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า คาเฟ่ และหัวมุมถนนในฝรั่งเศสเต็มไปด้วยการแสดงดนตรีที่จัดขึ้นพร้อมกัน ย่านแฟชันในกรุงปารีสที่มีคนเนืองแน่น ซึ่งส่วนใหญ่ต่างเต้นรำ และดื่มกินไปตามจังหวะเพลงของวงดนตรี และดีเจที่เปิดแผ่นอย่างสนุกสนาน เหมือนเป็นการปลดปล่อยความอัดอั้นจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
.
ถึงแม้ว่าทางการยังใช้มาตรการห้ามรวมตัวในที่สาธารณะเกิน 10 คนก็ตาม ที่น่าตกใจก็คือ มีหลายคนไม่สวมหน้ากากอนามัย หญิงวัย 28 ปีรายหนึ่งบอกว่า เทศกาลดนตรีเป็นงานระดับประเทศที่ต้องมี ส่วนถ้าจะให้มารักษาระยะห่างทางสังคมในงานนี้ เธอมองว่ามันเป็นเรื่องตลก
.
โดยหลายคนในโลกโซเชียลที่เห็นภาพกิจกรรมนี้ ต่างแสดงความตกใจกับภาพที่เห็น เพราะเกรงว่าฝรั่งเศสจะเกิดการระบาดรอบสอง และตำหนิทางการว่าหย่อนยานเกินไป แพทย์โรงพยาบาลในกรุงปารีสที่ยังคงรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อยู่หลายคนตำหนิว่า แบบนี้ไม่ใช่การทยอยยกเลิกมาตรการจำกัด เข้าใจดีว่าเทศกาลนี้เป็นการแสดงออกซึ่งเสรีภาพ แต่จำเป็นต้องจัดในช่วงเวลานี้หรือ

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.france24.com/en/2020062...os-as-covid-19-lockdown-measures-ease-further

https://www.bbc.com/news/world-europe-53138300

https://www.mcot.net/viewtna/5ef081c0e3f8e40aef44f5f5
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

สำหรับขาเที่ยวที่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยว ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ คงจะรู้ดีถึงความสวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ของที่แห่งนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่อุดมสมบูรณ์ในทุกๆด้านมาก ซึ่งล่าสุดประเทศไทยของเราก็เตรียมที่จะเสนอชื่อ ดอยหลวงเชียงดาว ต่อองค์การยูเนสโก้ ให้เป็น พื้นที่สงวนชีวมณฑล แห่งใหม่
.
โดย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ยื่นเสนอ ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ต่อองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ให้เป็น พื้นที่สงวนชีวมณฑล แห่งใหม่ของประเทศไทย โดยจะยื่นเสนอภายในสิ้นเดือนกันยายน 2563 เพื่อจะให้เข้าสู่กรอบเวลาการพิจารณาของยูเนสโก้ในปีถัดไป ก็คือปี 2564
.
สำหรับพื้นที่สงวนชีวมณฑล หมายถึง พื้นที่ระบบนิเวศน์ทางบก ระบบนิเวศน์ทางทะเล หรือชายฝั่งทะเล หรือระบบนิเวศน์ทั้งหมดรวมกัน ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายของพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ในระบบนิเวศน์นั้นๆ และเป็นการพัฒนาส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน
.
อีกทั้งเป็นการสงวนพื้นที่เอาไว้สำหรับศึกษา อบรม และทำวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในประเทศไทยของเรามีพื้นที่สงวนชีวมณฑล อยู่แล้ว 4 แห่ง ได้แก่
...

-พื้นที่ชีวมณฑลสะแกราช จ.นครราชสีมา

-พื้นที่ชีวมณฑลแม่สาคอกม้า จ.เชียงใหม่

-พื้นที่ชีวมณฑลป่าสักห้วยท่า จ.ลำปาง

-พื้นที่ชีวมณฑลระนอง จ.ระนอง

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.bangkokbiznews.com/news...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

https://plearnjainaifun.wordpress.com/2016/01/25/doi-luang-chiang-dao/
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศในวันนี้ว่า นางฮะลีมะฮ์ ยาคอบ ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้
.
นายกฯ ลี ยกย่องการรับมือโรคโควิด-19 ของภาครัฐ โดยกล่าวว่า สิงคโปร์ตอบสนองการแพร่ระบาดได้อย่างเด็ดขาด และขณะนี้ประเทศเริ่มกลับมามีเสถียรภาพแล้ว และการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้จะไม่เหมือนกับครั้งอื่น ๆ ที่เราเคยเจอ เพราะบรรยากาศอันเคร่งขรึมของสถานการณ์โรคระบาดและสารพัดปัญหารุนแรงที่รุมเร้าประเทศ
.
สำหรับวันสมัครรับเลือกตั้งส.ส. จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2563 เท่ากับว่าผู้สมัครจะมีเวลาหาเสียงเพียง 9 วันเท่านั้น เนื่องจากวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เป็นวันก่อนเลือกตั้งนั้นห้ามหาเสียง
.
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการประกาศให้วันเลือกตั้งในวันที่ 10 ก.ค. เป็นวันหยุด เพื่อให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์อีกด้วยทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดของสิงคโปร์เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2558 ซึ่งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งใหม่นี้ นับเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 13 ของสิงคโปร์นับตั้งแต่ได้รับเอกราช

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.scmp.com/week-asia/poli...ads-general-election-pap-seeks-mandate-amidst

https://www.straitstimes.com/politics/ge2020-singaporeans-will-go-to-the-polls-on-july-10

https://www.thansettakij.com/conten...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

วันนี้ฟังเพลงบ้านทรายทองแล้วได้แง่คิดเห็นสัจธรรมมากขึ้น มีคนเคยถามผมว่าทำไมผมจึงกลับมาเกิดที่โลกนี้อีก เพราะผมไม่จำเป็นต้องกลับมาอีกแล้วก็ได้ และเขาก็บอกว่าผมไม่ควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้นาน ควรกลับไปยังที่จากมา

ผมเลยลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเปรียบบ้านทรายทองเป็นดังห้วงวัฏสงสาร และมีดวงจิตหนึ่งที่แตกต่างและจะกลับมาสู่ห้วงวัฏสงสาร อาจจะมาทำหน้าที่สักอย่าง ในช่วงที่จะกลับสู่วัฎสงสารเขาจะรู้สึกยังไง เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายจะเป็นยังไง เมื่อเขากลับมาแล้วจะได้รับการต้อนรับจากโลกนี้เป็นอย่างดีแค่ไหน และเมื่อเข้ามาแล้วจะเดียวดายเท่าไหร่ และจะอยู่ได้ไหม เพราะอาจรู้ไม่เท่าทันผู้อื่นจนตัวเองอาจจบสิ้นดังคำว่า อาจตายเพราะโง่ โอ้อนิจจา ดังนั้นก็ขออย่าได้ โปรดอย่าอิจฉา สมาชิกใหม่ ของบ้านทรายทอง.

เอาไปคิดกับการที่เราจะริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆก็ได้ครับ ทุกอย่างก็เป็นเช่นนี้

คนแต่งเพลงนี้แใงแง่คิดดีๆ เอาไว้ดีจริงๆ

บ้านทรายทอง : สวลี ผกาพันธ์

เนื้อเพลง : บ้านทรายทอง
ศิลปิน : สวลี ผกาพันธ์

นี่คือสถาน
แห่งบ้านทรายทอง
ที่ฉันปองมาสู่
ฉันยังไม่รู้
เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน
อาจมียิ้มอาบ
ฉาบบนสีหน้า ว่ามีน้ำใจ
แต่สิ่งซ่อนไว้ ใน ดวงจิต
คือความริษยา

เขตรั้วไพศาล
โอบบ้านทรายทอง
คือแขนของพระเจ้า
ขอจงเอื้อมมือ และโอบกอดเรา
ผู้ผ่านเข้ามา
เพียง เดียวดาย
อาจตายเพราะโง่ โอ้อนิจจา
โปรดอย่าอิจฉา สมาชิกใหม่
ของบ้านทรายทอง

เขตรั้วไพศาล
โอบบ้านทรายทอง
คือแขนของพระเจ้า
ขอจงเอื้อมมือ และโอบกอดเรา
ผู้ผ่านเข้ามา
เพียง เดียวดาย
อาจตายเพราะโง่ โอ้อนิจจา
โปรดอย่าอิจฉา สมาชิกใหม่
ของบ้านทรายทอง.

 

#ความจริงหรือบิดเบือนของจอห์น_โบลตัน
#อีกแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับทรัมพ์

ในวันที่ 23 มิถุนายน จะเป็นวันวางแผงหนังสือแฉสะเทือนทำเนียบขาว ผลงานของอดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง นายจอห์น โบลตัน ที่ชื่อว่า The Room Where It Happened: A White House Memoir (เหตุเกิดในห้องนี้: บันทึกความทรงจำในทำเนียบขาว)

สำหรับนายจอห์น โบลตัน นี่ไม่ใช่หนังสือเล่มแรกที่เขาเขียน ก่อนหน้านี้เขาเคยออกหนังสือมาก่อนแล้วเล่มหนึ่ง ที่ชื่อว่า Surrender Is Not an Option: Defending America at the United Nations
(การยอมจำนนไม่ใช่ทางเลือกของเรา: การยืนหยัดต่อสู้เพื่ออเมริกาในเวทีสหประชาชาติ) ในสมัยที่โบลตัน ยังดำรงตำแหน่งเป็นฑูตสหรัฐประจำที่ UN

ดังนั้นเรื่องงานเขียนแบบดุดัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ และประสบการณ์ระดับ High Profile ของโบลตัน ที่หาได้ยาก ทำให้สำนักพิมพ์ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้เขาล่วงหน้าถึง 2 ล้านเหรียญ เพื่อออกหนังสือเล่มนี้

ทางสื่อสหรัฐ ที่ไม่ค่อยจะโปร-ทรัมพ์ ต่างเชียร์หนังสือของโบลตันกันสุดฤทธิ์ ถึงกับฟันธงว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นตะปูตอกปิดฝาโลงทรัมพ์กันเลยทีเดียว

แต่ในฟากการเมือง กลับไม่ค่อยมีใครพูดถึงหนังสือของโบลตัน แน่นอนว่าคนในรัฐบาลทรัมพ์ รวมถึง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศที่เคยเป็นคู่หูกัน ต่างออกมาบอกว่า โบลตันโกหก แม้กระทั่งฝ่ายเดโมแครต บางคน ก็ใช่ว่าจะปลื้มซักเท่าไหร่ด้วย

และเมื่อวานนี้ มีข่าวออกมาจากทำเนียบฟ้า ของเกาหลีใต้ เมื่อนาย ชุง อุย-ยอง ผู้อำนวยการสำนักความมั่งคงของเกาหลีใต้ ออกมากล่าวว่า เนื้อหาบางส่วนในหนังสือของโบลตัน ที่พูดพาดพิงถึงเกาหลีใต้ เมื่อตอนที่มีการเจรจา เปียงยาง-วอชิงตัน เรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือนั้นบิดเบือน และเป็นเพียงความเห็นของนายโบลตันแต่ฝ่ายเดียว ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

นอกจากเนื้อหาบางส่วนจะไม่จริงแล้ว ชุง อุย-ยอง เตือนว่า เนื้อหาในหนังสืออาจมีผลเสียอย่างมากในเชิงการฑูต ที่จะทำลายโอกาสในการพูดคุยเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพในอนาคตอีกด้วย

ในบางช่วงของหนังสือ โบลตันได้พูดถึงรัฐบาลเกาหลีใต้ รวมถึงประธานาธิบดีสายพิราบ นายมุน แจ-อิน อยู่หลายช่วง อาทิ งานประชุมสุดยอดผู้นำ เปียงยาง-วอชิงตัน ที่ผ่านมา ทางฝ่ายเกาหลีใต้เน้นแต่เรื่องประเด็นรวมชาติ โดยลืมไปว่าเป้าหมายหลักของของงาน อยู่ที่ คิม และ สหรัฐ และยังพาดพิงถึง ประธานาธิบดีมุน แห่งเกาหลีใต้ว่า ช่างเป็นคนเพ้อฝัน ถึงขั้นเพ้อเจ้อ แยกความเป็นจริง กับ จินตนาการไม่ได้

ซึ่งนายชุง อุย-ยอง ที่เป็นหัวหน้าของฝ่ายความมั่นคงเกาหลีใต้ ก็ไม่ใช่คนนอกในเรื่องนี้ เพราะเขาเป็นคนที่เข้าไปพบทรัมพ์ถึงในทำเนียบขาว และเปิดประเด็นว่า ทรัมพ์ กับ คิม น่าจะลองมาคุยกัน

นอกจากจะพูดถึงฝ่ายเกาหลีใต้แล้ว นายจอห์น โบลตัน ยังเขียนพาดพิงถึง นโยบายด้านการทหารทั้งในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นว่า ทรัมพ์เคยให้ โบลตันไปพบกับฝ่ายความมั่นคงของทั้งเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ให้จ่ายค่าโสหุ้ยกองทัพสหรัฐที่เข้าไปประจำการในทั้ง 2 ประเทศ โดยที่ญี่ปุ่นต้องจ่าย 8 พันล้านเหรียญ และ เกาหลีใต้ จ่าย 5 พันล้านเหรียญ ไม่อย่างนั้นให้ขู่ว่าสหรัฐจะถอนทหารออก

แต่ทว่า นาย โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าคณะรัฐบาลของญี่ปุ่นได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยมีการเจรจาขอขึ้น "ค่าคุ้มครอง" ใดๆ (ขอใช้คำนี้เลยนะคะ เพราะเหมือนเหลือเกิน)

เพราะทุกวันนี้รัฐบาลญี่ปุ่นก็ต้องจ่ายให้กองทัพสหรัฐที่มาประจำการในญี่ปุ่นอยู่แล้วถึง 3 หมื่นนาย ราวๆ 1.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เรื่องที่จะให้จ่ายเพิ่มถึง 8 พันล้านเหรียญ ไม่เคยมีการพูดถึง

แค่เพียงฉบับย่นย่อ ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนขายหนังสือจริงยังเป็นประเด็นโต้แย้งถึงขนาดนี้ แล้วเนื้อหาทั้งหมดในตัวเล่มจริงที่กำลังจะออกขาย จะร้อนแรงถึงขนาดไหน

สิ่งที่กำลังสงสัยอยู่ในตอนนี้คือ อาจไม่ใช่แค่ท่านเสี่ยทรัมพ์คนเดียว ที่จะถูกลากไส้จากหนังสือของโบลตัน ตัวคนเขียนเองก็คงไม่น่าได้รับช่อดอกไม้เกียรติยศจากงานนี้

ในความเห็นส่วนตัวมองว่า มันจะไม่มีปัญหากับใครเลยถ้าโบลตันจะเขียนแฉทรัมพ์ ในเรื่องราวของบ้านตัวเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น

เพราะหากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเจรจาด้าน "ความมั่นคง" ระหว่างประเทศ โดยผู้นำระดับสูง มันควรเก็บเป็นความลับสุดยอดระหว่าง 2 ประเทศ

ลองคิดว่า เรื่องความลับด้านความมั่นคงระดับประเทศ คุยกันระดับ High-Profile วันดี คืนดี คนระดับอดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เกิดเงินช็อต อยากหาเงิน ก็เอาความลับมาเขียนหนังสือขาย แล้วอีกหน่อยจะมีชาติไหนไว้ใจที่จะมาเจรจาด้วย

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ ที่ทั้งเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ต้องรีบออกมาปฏิเสธงานของโบลตัน ไม่ว่าจะมีความจริงอยู่ในนั้นบ้างหรือไม่ แต่เนื้อหาที่พูดถึงความมั่นคงของชาติ ถือเป็นที่สุด

และที่ฝ่ายเดโมแครตก็ไม่ปลื้มกับโบลตัน ที่มาพูดพาดพิงถึงการทำหน้าที่ของพรรค ในการชงประเด็นถอดถอนทรัมพ์ เรื่องการสมคบคิดกับยูเครน ให้เข้ามาแทรกแซงการเมืองสหรัฐ ว่าเดโมแครตมัวแต่มุ่งประเด็นเดียว ทั้งๆที่เสี่ยทรัมพ์ก็มีประเด็นความสัมพันธ์กับจีน แต่ไม่เล่น เลยทำให้ถอดถอนไม่สำเร็จ

ชาวเดโมแครตเลยออกมาตอกหน้าว่า อ้าว! แล้วตอนที่เขากำลังหาหลักฐาน หาพยานเพื่อยื่นญัตติถอดถอนทรัมพ์อยู่นั้น โบลตันหายไปอยู่ไหน ทำไมไม่ออกมาทำตามกระบวนการทางกฏหมายที่ถูกต้อง เรื่องมันจบไปแล้วก็ออกมาพูดแขวะคนอื่นว่า นั่นไม่ดี นี่ไม่ใช่ แล้วมาออกหนังสือขายหาเงิน ไม่โลภไปหน่อยหรือ

แนนซี่ เปอโรซี่ ประธานสภาผู้แทนฝ่ายเดโมแครต ถึงกับออกมาพูดว่า หนังสือของโบลตัน ฉันไม่ซื้อย่ะ!

นายจอห์น โบลตัน ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงให้ทรัมพ์ตั้งแต่ช่วงเมษายน 2018 ถึง กันยายน 2019 ที่ตอนแรกก็ดูเข้าขากันดี เพราะสายเหยี่ยวเหมือนกัน แต่ลึกๆแล้ว โบลตัน คือสายเหยี่ยวแท้ๆ ขวาจัดสุดๆ ไม่มีพิราบปน และมีความเห็นไม่ตรงกับทรัมพ์หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับเกาหลีเหนือ เรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ หรือ การเจรจาสงบศึกกับกลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน

โดยโบลตันทั้งเยาะ ทั้งหยันทรัมพ์ว่า แค่อยากไปคุย กับคิม จอง-อุน ให้ตัวเองได้หน้าสื่อ อวดว่าจะเป็นเพื่อน กับคิม จอง-อุน โดยหารู้ไม่ว่า จดหมายหวานจ๋อยที่คิม ส่งถึงทรัมพ์นั้น เขาให้ทีมฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อเขียนให้

และสิ่งที่ทำให้โบลตันฟิวส์ขาด และต้องลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง คือไอเดียของทรัมพ์ ที่จะเชิญหัวหน้าตาลีบัน มาเจรจายุติสงครามอาฟกานิสถานกันที่แคมป์เดวิด

ถึงแม้ว่าท่านเสี่ยแกจะไม่ได้รู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ หรือระเบียบขั้นตอนทางการฑูตอะไรกับเขาเลย และดูเหมือนจะเป็นพวกบ้าสื่อ ชอบให้ตัวเองอยู่ในกระแส ขึ้นหน้าหนึ่งไปวันๆ

แต่อย่างน้อยท่านเสี่ยทรัมพ์ของเราก็ยังมีมุมลึกๆ ที่เป็นสายพิราบกับเขาอยู่บ้าง อย่างน้อยแกก็ยอมไปหาคิม จอง-อุน ที่เขตปลอดทหารในเกาหลีจริงๆ แถมยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก ที่กล้าเดินข้ามไปเขตเกาหลีเหนือ และกล้าเซ็นถอนทหาร เพื่อยุติสงคราม 18 ปี อาฟกานิสถาน

เรียกว่าถึงผลงานความดีจะมีน้อย แต่ก็ยังพอมีนะ

แต่กับจอห์น โบลตัน คือสายเหยี่ยวพันธุ์แท้ ไม่มีพิราบปนอยู่เลย ไม่งั้นแกจะว่า ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้เป็นพวกเพ้อฝันเหรอ

เมื่อมีคนถามว่า เลือกตั้งสหรัฐสมัยหน้า ระหว่างทรัมพ์ กับ ไบเดน โบลตันจะเลือกใคร ?

โบลตันตอบชัดเจนว่า - ผมไม่เลือกทั้งสองคนนั่นแหล่ะ ถ้าผมเลือกได้ ขอเป็นชาวรีพับลิกันที่มีแนวคิดอนุรักษ์ขวาหน่อยจะดีกว่า

โอ้! แม่เจ้า! แค่นี้ยังขวาไม่พออีกหรือ? ถ้าขวากว่านี้ก็ตกขอบโลกแล้วลุ๊ง

ก็หากท่านใดสนใจว่า จอห์น โบลตัน เขียนถึงท่านเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ อะไรบ้างในหนังสือ ก็ลองหาซื้อมาอ่านได้นะคะ กับ The Room Where It Happened แต่ก็ฟังหู ไว้หู ถือว่าอ่านเพื่อสาระบันเทิงแล้วกันนะคะ

แหล่งข้อมูล

https://www.japantimes.co.jp/news/2...pacific/south-korea-john-bolton/#.XvGlAGgzbIV

https://japantoday.com/category/pol...d-japan-pay-8-bil.-annually-for-troops-bolton

https://www.reuters.com/article/us-...n-trump-kim-summit-is-distorted-idUSKBN23T0F2

https://en.yna.co.kr/view/AEN20200622004700325

https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2020/06/356_291608.html

https://thehill.com/homenews/house/503388-pelosi-bolton-put-gop-and-greed-over-country

https://en.m.wikipedia.org/wiki/John_Bolton

 

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากคณะทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ตรวจสอบพบการทุจริตมาจากการจ่ายเช็คของสำนักงานจังหวัดเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายกว่า 1.2 แสนบาท ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปรักษาความปลอดภัยในกาชาดปี 2563 มีปัญหาเช็คของธนาคารกรุงไทยไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี เจ้าหน้าที่จึงสอบถามไปที่สำนักงานจังหวัด ทั้งที่เงินค่าเบี้ยเลี้ยงดังกล่าวผู้บริหารระดับจังหวัดได้สั่งจ่ายเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีการตรวจสอบย้อนหลังถึงเดือนมิถุนายน 2562 กระทั่งมีการออกหมายจับในดีดังกล่าว สำหรับเงินค่าเบี้ยเลี้ยง

 

John Traczyk

อุณหภูมิบันทึกที่ 100 องศาในไซบีเรียที่กำลังสร้างหัวข้อข่าวภาวะโลกร้อนเป็นพื้นที่ที่แน่นอนซึ่งขั้วเหนือแม่เหล็กโลกกำลังวิ่งเข้าหา

That 100 degree record temperature in Siberia that is making global warming headlines is the exact area where the North magnetic pole is racing toward.

 

John Traczyk

มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ Geoelectric Field ทั่วสหรัฐอเมริกาโดยปกติจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม มันจะตอบสนองเฉพาะเมื่อมีพายุ geomagnetic, เปลวสุริยะที่เข้ามาเท่านั้น แต่ไม่มีอะไรแบบนั้น พวกเขาปิดข้อมูลถูกต้องเนื่องจากสิ่งนี้เกิดขึ้น 22 มิถุนายน เวลา 15:43:30 UTC นั่นมันสูงถึง 108 mV / km โดยปกติแล้วจะมีความผันผวนระหว่าง 1 ถึง 3 และรูปแบบแปลก ๆ มันไม่ได้อัปเดตและติดค้างอยู่

Geoelectric Field เป็นการวัดอันตรายจากการเหนี่ยวนำให้แก่ตัวนำประดิษฐ์เช่นสายไฟฟ้าซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรม Geomagnetic และสามารถใช้ในการประมาณปริมาณกระแสไฟฟ้าที่เหนี่ยวนำโดยการรวมเข้ากับทางเดินนำ

https://www.swpc.noaa.gov/products/geoelectric-field-1-minute-empirical-emtf-3d-model

Something happened yesterday to the Geoelectric Field across the U.S. It's normally dark blue. It only reacts when there is a geomagnetic storm, incoming solar flares, etc. But there was nothing like that. They turned off the data right as this occurred June 22 at 15:43:30 UTC. That's a surge reaching 108 mV/km. It normally fluctuates between 1 to 3. And what an odd pattern. It's not updating and it's frozen in place.

The Geoelectric Field is a measure of the induction hazard to artificial conductors, such as electrical power lines, that results from Geomagnetic Activity, and can be used to estimate the amount of current induced by integrating along the conducting pathway.

https://www.swpc.noaa.gov/products/geoelectric-field-1-minute-empirical-emtf-3d-model

 

มีการประกาศให้ฟูงากุ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นเป็นคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี

ฟูงากุ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสถาบันวิจัยริเก็งและฟูจิตสึ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในการจัดอันดับความเร็วซึ่งจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ประกาศโดยการประชุมนานาชาติของคณะผู้เชี่ยวชาญ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ติดตั้งอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองโกเบ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น โดยได้เข้ามาอยู่ในการจัดอันดับโลกเป็นครั้งแรก

ฟูงากุเอาชนะซูเปอร์คอมพิวเตอร์อื่น ๆ ไปได้ใน 4 จาก 6 ประเภทหลัก ซึ่งรวมถึงความเร็วในการคำนวณ

ฟูงากุสามารถประมวลผลได้กว่า 400 เพตาฟล็อบต่อวินาที หรือ 400,000 ล้านล้านปฏิบัติการจุดลอยตัวต่อวินาที

นอกจากนี้ ฟูงากุยังได้ที่ 1 ในประเภทอื่น ๆ อีก 3 ประเภทซึ่งวัดประสิทธิภาพในวิธีเชิงคำนวณสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม, การนำไปใช้กับปัญญาประดิษฐ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลมหัต หรือ "big data"

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

ผลสำรวจความคิดเห็นของ NHK แสดงให้เห็นคะแนนไม่สนับสนุนคณะรัฐมนตรีของนายอาเบะ ชินโซ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ 2 ของเขาเริ่มบริหารประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปี 2555

มีการจัดทำผลสำรวจนี้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ตอบการสำรวจมากกว่า 1,200 คน

คะแนนสนับสนุนคณะรัฐมนตรีชุดนี้ร่วงลง 1 จุดจากเดือนพฤษภาคมมาอยู่ที่ร้อยละ 36 ขณะที่คะแนนไม่สนับสนุนเพิ่มขึ้น 4 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 49

ฝ่ายที่สนับสนุนคณะรัฐมนตรีนี้ ร้อยละ 58 ระบุว่า สมาชิกของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ดีกว่าชุดอื่น ๆ ขณะที่ร้อยละ 19 ระบุว่าคณะรัฐมนตรีนี้เป็นตัวแทนของพรรคการเมืองที่พวกตนสนับสนุนอยู่

ส่วนฝ่ายที่ไม่สนับสนุน ร้อยละ 44 ระบุว่าพวกตนไม่เชื่อมั่นนายอาเบะ และร้อยละ 27 ระบุว่าพวกตนไม่คาดหวังอะไรมากจากนโยบายของคณะรัฐมนตรีชุดนี้

ในประเด็นเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ร้อยละ 75 ระบุว่าคณะรัฐมนตรีนี้ทำให้พวกตนรู้สึกกังวลอย่างมากหรือกังวลในระดับหนึ่ง

เมื่อสอบถามเรื่องการรับมือของรัฐบาลที่มีต่อการระบาดดังกล่าว ร้อยละ 51 มีมุมมองในแง่บวก ขณะที่ร้อยละ 47 มีมุมมองด้านลบ

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

แผ่นดินไหว ขนาด 7.4
ภูมิภาค OAXACA, ประเทศแม๊กซิโก
วันที่ 2020-06-23 เวลา 15: 29: 04.2 UTC
ตำแหน่ง 16.10 N; 95.91 W
ความลึก 10 กม
Macroseismic
เอฟเฟกต์ความเข้ม V: สั่นสะเทือนรุนแรง

Magnitude 7.4
Region OAXACA, MEXICO
Date time 2020-06-23 15:29:04.2 UTC
Location 16.10 N ; 95.91 W
Depth10 km
Macroseismic
Intensity V Effects: Strong Shaking

Distances
407 km SE of Puebla de Zaragoza, Mexico / pop: 1,591,000 / local time: 10:29:04.2 2020-06-23

136 km SE of Oaxaca de Juárez, Mexico / pop: 263,000 / local time: 10:29:04.2 2020-06-23

25 km NE of Santa María Xadani, Mexico / pop: 5,900 / local time: 10:29:04.2 2020-06-23

https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=870434

 

MEXICO - นี่คือวิธีที่ผู้ใช้เครือข่ายโซเชียลสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของแผ่นดินไหวในเม็กซิโกซิตี้ ในวันที่ 23 มิถุนายน

 

MEXICO - การสั่นไหวที่รุนแรงจากแผ่นดินไหว ขนาด M7.4 ที่โจมตี Oaxaca ใกล้กับจุดศูนย์กลางของเช้าวันที่ 23 มิถุนายน

 

หมอ เตือนดัดแปลงปรอทวัดไข้ เป็นอุปกรณ์เสพยา ระวังอันตรายตายไม่รู้ตัว
หมอ เตือนดัดแปลงปรอทวัดไข้ เป็นอุปกรณ์เสพยา ระวังอันตรายตายไม่รู้ตัวเพราะสารปรอท พร้อมแนะครอบครัวดูแลวัยรุ่นใกล้ชิด พบพฤติกรรมติดยาแจ้ง 1165 เข้าบำบัดด่วน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกโรงโต้สหรัฐที่ประกาศให้สื่อจีน 4 บริษัท มีสถานะเป็นผู้แทนต่างชาติ (foreign mission) ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ซีซีทีวี) ทำให้สื่อจีนต้องอยู่ภายใต้ระเบียบหลายเรื่อง รวมไปถึงต้องยื่นข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานและทรัพย์สินที่ถือครองในสหรัฐ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของสหรัฐ ถือเป็นการกดขี่ทางการเมืองต่อสื่อจีนที่ชัดเจน และตอกย้ำให้เห็นว่า สหรัฐมีเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความเห็นแบบจอมปลอม

 

ว่าด้วยเรื่องของ Paramount Leader
.
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วเติ้งเสี่ยวผิงไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (งงใช่มั้ย! เราก็งงเหมือนกัน ) แต่ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศยาวนาวกว่า10ปี (22 ธันวาคม 1978 - 9 พฤศจิกายน 1989) เราค่อนข้างสนใจประวัติศาสตร์ของทุกประเทศที่เราเคยไปอาศัยอยู่ ก็เลยพอมีความรู้ติดตัวมาบ้าง วันนี้จะเล่าเรื่องตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศจีนให้ทุกคนฟัง รับรองมีงงแน่นอน
.
ประเทศจีนน่าจะเป็นประเทศเดียวที่มีตำแหน่ง Paramount Leader หรือ 最高領導人 แปลเป็นภาษาไทยก็คือตำแหน่งผู้นำสูงสุด คำว่า最高領導人เป็นคำที่ใช้เรียกอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งตำแหน่งนี้ “ไม่จำเป็น” ต้องดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี (Head of State, 國家主席) แต่มีอำนาจในการสั่งการทั้งในพรรคคอมมิวนิสต์，รัฐบาล และกองทัพ พูดง่ายๆก็คือเป็นทั้งผู้นำจิตวิญญาญ ผู้นำประเทศ ดูแล้วมีอำนาจมากกว่าประธานาธิบดีซะอีก
.
ตำแหน่งทางการเมืองในประเทศจีนมีความซับซ้อนมากตามสไตล์ประเทศที่มีความลับเยอะ ระบบการเมืองของจีนหลักๆประกอบไปด้วย 3 องค์กร เรียกว่า黨政軍三大組織 ได้แก่ 黨 (พรรคการเมือง) 政 (รัฐบาล) และ軍(การทหาร) นอกจากนี้ยังแบ่งยิบย่อยออกไปอีกหลายภาคส่วน ตั้งแต่เปิดประเทศในปี1949 เหมาเจ๋อตงเป็นบุคคลเดียวที่ดำรงตำแหน่งประธาน（主席）ของทุกองค์กรในประเทศ เรียกได้ว่าเหมาหมดเลยทุกตำแหน่ง เป็น Paramount Leader ตัวจริงเสียงจริง
.
โดยปกติแล้วผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ （General Secretary of the Communist Party of China - 中國中央總書記）และ Chairman of the Central Military Commission - 中共中央軍委主席 (ขออภัยไม่รู้ชื่อตำแหน่งในภาษาไทย) มักจะมีอำนาจควบคุมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์，รัฐบาลจีนและกองกำลังติดอาวุธ หรือ中國武裝力量 （ประกอบไปด้วยกองกำลังปลดปล่อยประชาชน หรือ 中國人民解放軍 ซึ่งเป็นกองทัพของสาธารณรัฐประชาชนจีนและเป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกองกำลังตำรวจ 中國人民武裝警察部隊 อีกด้วย)
.
อย่างไรก็ดีตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ หรือ Paramount Leader ในอดีตก่อนปี1990นั้น ไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี (Head of State) เติ้งเสี่ยวผิงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักการเมืองในตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศด้วยอำนาจและบารมีของตัวเองล้วนๆโดยเติ้งเสี่ยวผิงไม่เคยดำรงตำแหน่งประธานในหน่วยงานที่สำคัญทางการเมือง （黨國政） ได้แก่ 黨 - เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ （中共中央總書記 General Secretary of the Communist Party of China)，國 - ประธานาธิบดี (國家主席 Head of State) และ 政 - นายกรัฐมนตรี (國務院總理 Premire of the State Council) แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลทำให้เติ้งเสี่ยวผิงได้รับความนิยมอย่างสูงในพรรคคอมมิวนิสต์ กองทัพทหาร และประชาชน
.
นโยบายสำคัญๆของเติ้งเสี่ยวผิงที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน เช่น การฟื้นฟูระบบการสอบเอนทรานซ์（高考）นโยบายเปิดประเทศ หรือ Economic Reform and open up （改革開放 / 對外開放政策）ในปี1978 ซึ่งเราได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนในวาระครบรอบ40ปีเมื่อปี 2018 ด้วย （อยากอวด) และนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ （一國兩制）ผู้ที่ปฏิเสธ Margaret Thatcher นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรในการขอต่ออายุสนธิสัญญาเช่าเกาะฮ่องกงหลังครบ99ปีแล้วก็คือ เติ้ง เสี่ยว ผิง คนนี้แหละ
.
เติ้งเสี่ยวผิงดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ (ไม่ใช่ประธานาธิบดี) นานกว่า10 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรม ประเทศจีนในช่วงปี1979-1983เป็นช่วงที่ไม่มีคนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จนกระทั่งปี1983-1993 ก็มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เชื่อว่าไม่มีใครรู้จัก ก็คือ Li Xiannian （李先念）และ Yang Shangkun （杨尚昆）โดย Li Xiannian ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงปี 1983-1988 ส่วน Yang Shangkun ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงปี 1988-1993 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เหมือนเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดของเติ้งเสี่ยวผิง โดยเฉพาะ Yang Shangkun ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองขัดกับเจียงเจ๋อหมิน（江泽民）จึงถูกเติ้งเสี่ยวผิงอัปเปหิออกจากวงโคจรไป
.
เมื่อเข้าสู่ยุค90 เติ้งเสี่ยวผิงเสียชีวิตและเหตุการณ์สกัดดาวรุ่ง Yang Shangkun ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เจียงเจ๋อหมินขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี1993 (เจียงเจ๋อหมิน ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศยาวนานเป็นอันดับ2 รองจากเหมาเจ๋อตง อยู่ในตำแหน่งทั้งหมด13ปี) และนับจากวันนั้นผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ หรือ Paramount Leader กลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติว่าจะต้องดำรงตำแหน่งใน 3 หน่วยงานสำคัญของประเทศ (三位一體）นั้นคือ ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ （中共中央總書記 General Secretary of the Communist Party of China)，ตำแหน่งChairman of the Central Military Commission （中共中央軍委主席）และตำแหน่งประธานาธิบดี (Head of State, 國家主席)
.
นับตั้งแต่เปิดประเทศจนถึงปัจจุบัน จีนมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศทั้งสิ้น 5 คน ในนั้นไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี 1 คน ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศประกอบไปด้วย
1. ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตง （毛澤東，毛主席）
2. เติ้งเสี่ยวผิง （鄧小平）
3. ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน （江澤民）
4. ประธานาธิบดีหูจิ่นเทา（胡錦濤）
5. ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง（習近平）
.
ส่วนนายกรัฐมนตรีฮว๋ากั๋วฟง 華國鋒 （เป็นนายกรัฐมนตรีถัดจากโจวเอินหลายในยุคเหมาเจ๋อตง เป็นผู้จัดการGang of four ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม）จริงๆจะไม่นับก็ได้เพราะที่เมืองจีนก็นับฮว๋ากั๋วฟงเป็นหนึ่งในผู้นำที่สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แต่ไม่ได้เป็นผู้นำสูงสุด （แต่จริงๆเค้าก็เป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์อยู่2ปี) ตอนที่เราไปmuseumตรง Hall of frame ก็มีแค่5คนเท่านั้น อย่างไรก็ดีในวิกิพีเดียนับฮว๋ากั๋วฟงเป็นผู้นำสูงสุดด้วย จึงรวมทั้งหมด 6 คน

 

จีน : มณฑลกุ้ยโจว เป็นเมืองที่น้ำท่วมต่อจากฉงชิ่ง ฝนตกหนักหลายวัน น้ำจากแม่น้ำ น้ำป่า เอ่อท่วมเมืองตั้งแต่วันที่ 22 ที่ผ่านมาถึงวันนี้ หน่วยกู้ภัยกำลังเข้าช่วยเหลือในหลายเขต วันนี้ทางการกุ้ยโจวยังประกาศเตือนฝนตกหนัก แม่น้ำสายหลักระดับน้ำสูง # คลิปเพิ่ม >> ลิ้งค์กลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/220900739128637/permalink/271102924108418/

 

World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

สหรัฐ : ภาพถ่ายจากดาวเทียม แสดงให้เห็นถึงพายุฝุ่นจากทะเลทรายสะฮารา จากทวีปแอฟริกาใต้ห่าง 8200 กิโลเมตรจะพัดเข้าปกคลุมสหรัฐและอเมริกาใต้ในอาทิตย์นี้