ติดตามสถานะการณ์

Fed สั่งห้ามไม่ให้ ธพ. ซื้อหุ้นคืนในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ รวมถึงกำหนดเพดานสำหรับการจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกินค่าเฉลี่ยของกำไรรายไตรมาสในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 ถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2020) และ Fed จะทำการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของธนาคารพาณิชย์อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้



ผลการทดสอบ Stress test ของธนาคาพาณิชย์ (ธพ.) ในสหรัฐฯ รสะท้อนว่า ธพ. ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและเพียงพอต่อการรับมือกับภาวะวิกฤติ อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบ Sensitivity analysis สะท้อนว่าเงินทุนสำรองของ ธพ. อาจปรับลดลงสู่ระดับที่ใกล้เคียงจำนวนขั้นต่ำ ในกรณีที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นในลักษณะตัว U หรือ W ซึ่งเป็น Worst-case scenario ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้า ๆ หรือเจออุปสรรคระหว่างการฟื้นตัวเช่น การกลับมาระบาดของเชื้อไวรัส ขณะที่ผลของกรณีการฟื้นตัวในลักษณะตัว V แสดงภาพใกล้เคียงกับผลของ Stress Test
ทั้งนี้ ผลของ Sensitivity analysis แสดงในลักษณะผลรวมของทุกธนาคารซึ่งได้ผลขาดทุนจากการปล่อยกู้ที่ 560 – 700 พันล้านดอลลาร์ และสัดส่วนทุนสำรองปรับลดลงจากร้อยละ 12.0 ณ สิ้นปี 2019 มาอยู่ในช่วงร้อยละ 7.7 – 9.5 เพื่อควบคุมให้ ธพ. มีทุนสำรองเพียงพอรองรับ Worst-case scenario
นอกจากนี้ Fed ได้สั่งห้ามไม่ให้ ธพ. ซื้อหุ้นคืนในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ รวมถึงกำหนดเพดานสำหรับการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 3 ได้ไม่เกินค่าเฉลี่ยของกำไรรายไตรมาสในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 ถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2020) โดย Fed จะวิเคราะห์ทุนสำรองของ ธพ. อีกครั้งในไตรมาส 4 ปีนี้
อย่างไรก็ตาม Governor Lael Brainard (Governor, Voter) คัดค้านการตัดสินใจดังกล่าวเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ ธพ. สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับที่เท่ากับค่าเฉลี่ยของกำไรในอดีต ขณะที่แนวโน้มกำไรในอนาคตมีแนวโน้มปรับลดลง
ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้ทุนสำรองของ ธพ. ปรับลดลงเข้าใกล้จำนวนขั้นต่ำซึ่งจะยิ่งลดความน่าเชื่อถือของ ธพ. และเพิ่มความเสี่ยงด้านเครดิตในมุมมองของผู้ฝากเงินและอาจทำให้ ธพ. เข้าถึงเงินทุนได้ยากขึ้น
Source: BoTSS
- Fed freezes stock buybacks, caps dividends after stress test results: https://www.americanbanker.com/news/fed-freezes-stock-buybacks-caps-dividends-after-stress-test-results

 

นาย David Frost ผู้แทนการเจรจาของสหราชอาณาจักร ระบุสหราชอาณาจักรจะไม่ยอมลงนามในข้อตกลง Brexit ใดๆ ที่อนุญาตให้สหภาพยุโรปสามารถดำเนินมาตรการทางด้านภาษีเพื่อเป็นการตอบโต้ หากสหราชอาณาจักรเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้ต่างจากมาตรฐานของสหภาพยุโรปหลัง Brexit



นาย David Frost ผู้แทนการเจรจาของสหราชอาณาจักร ระบุว่า สหราชอาณาจักรจะไม่ยินยอมตกลงในข้อตกลง Brexit ใดๆ ที่อนุญาตให้สหภาพยุโรปสามารถดำเนินมาตรการทางด้านภาษีเพื่อเป็นการตอบโต้ หากสหราชอาณาจักรเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้แตกต่างจากมาตรฐานของสหภาพยุโรปภายหลัง Brexit และจะไม่ยอมปล่อยให้เศรษฐกิจของประเทศต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ยังมองไม่เห็น
คำปฏิเสธของ นาย Frost เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า สหราชอาณาจักรอาจยินยอมที่จะตอบรับลงนามในข้อตกลงที่ระบุ ถึงความเท่าเทียมกันในการทำการค้าภายใต้มาตรฐานของยุโรป หรือที่เรียกว่า “level playing field” ซึ่งสหภาพยุโรปอาจสามารถที่จะดำเนินมาตรการทางด้านภาษีต่อสหราชอาณาจักรได้ หากสหราชอาณาจักรเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้ต่างไปจากข้อกำหนดของสหภาพยุโรป โดย นาย Forst กล่าวว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะไม่ตอบรับต่อข้อตกลงในลักษณะดังกล่าว
สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นในการเจรจาข้อตกลง Brexit ภายหลังสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาช่วงเปลี่ยนผ่าน “Transition Period” ในวันที่ 31 ธ.ค. 2020 ซึ่งเหลือเวลาในการเจรจาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่าย ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในหลายๆ ประเด็น โดยสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรมีกำหนดจะหารือเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ร่วมกันอีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประชุมโดยไม่ผ่านระบบ conference ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19
ข้อติดขัดของการเจรจาในขณะนี้คือเรื่อง “level playing field” ที่สหภาพยุโรปเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และมาตรฐานของสหภาพยุโรป อาทิ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านแรงงาน และนโยบายการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ เนื่องจากสหภาพยุโรปกังวลว่า สหราชอาณาจักรอาจกลายเป็นคู่แข่งทางการค้าคนสำคัญภายหลัง Brexit หากมีกฎเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งสหราชอาณาจักรมองว่าสหภาพยุโรปปฏิบัติต่อตนเองแตกต่างจากการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ หากทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในสิ้นปีนี้ การค้าระหว่าง 2 ภูมิภาค จะต้องตกอยู่ภายใต้ข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก (WTO)
Source: BoTSS
- https://www.express.co.uk/news/politics/1301190/brexit-news-uk-eu-trade-deal-david-frost-michel-barnier-talks-meeting-latest

 

Government Accountability Office หน่วยงานด้านการตรวจสอบของสภาคองเกรสเปิดเผยรายงานการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตาม CARES Act ชี้ความเสี่ยงต่อการเกิดทุจริตในโครงการ Paycheck Protection Program (PPP)



GMO หน่วยงานด้านการตรวจสอบของสภาคองเกรสเปิดเผยรายงานการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งชี้ความเสี่ยงต่อการเกิดทุจริตในโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) ที่มีมูลค่า 670 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ที่ออกมาช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเห็นว่าโครงการ PPP มีกฎเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจนและสับสน ประกอบกับการควบคุมดูแลที่อาจยังไม่เพียงพอทำให้เงินกู้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ อาทิ การที่ Small Business Administration (SBA) อนุญาตให้ ธพ. ปล่อยสินเชื่อได้โดยพิจารณาคุณสมบัติจากการรับรองตัวเองของผู้กู้ ซึ่งสินเชื่อนี้อาจได้รับการยกหนี้ให้ หากผู้กู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องปริมาณและความเร็วในการอนุมัติสินเชื่อที่อาจเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมได้ ทาง GAO ได้เสนอแนะให้ทาง SBA เตรียมแผนงานในการจัดการความเสี่ยงเพื่อปิดช่องโหว่ และทำให้มั่นใจได้ว่าโครงการ PPP ได้ดำเนินการด้วยความสุจริตและมีประสิทธิภาพ อนึ่ง ในช่วงเวลาน้อยกว่า 3 เดือน โครงการ PPP ได้ให้ความช่วยเหลือธุรกิจแล้วกว่า 4.7 พันล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 515 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ที่เป็นเงินที่ยกหนี้ให้ แต่ทาง GAO กล่าวว่า SBA ไม่ได้ให้ข้อมูลของโครงการ PPP ครบถ้วนตามที่ GAO ร้องขอ
นอกจากนี้ทาง GAO ยังได้ชี้ว่าโครงการ PPP มีความขัดแย้งกับโครงการ new unemployment insurance ที่ออกมาภายใต้ CARES Act ที่มีการให้การช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์กับผู้ตกงานในขณะที่โครงการ PPP กำหนดให้ทางนายจ้างต้องคงการจ้างงานไว้ตามเกณฑ์ถึงจะได้รับการยกหนี้ให้
ทาง GAO ได้มีการพูดถึงการทำงานของหน่วยงานรัฐอื่น ๆ และโครงการที่ออกมาเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น พบว่า The Centers for Disease Control and Prevention มีการรายงานข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์และไม่สอดคล้องกันระหว่างระดับรัฐและหน่วยงานทางด้านสาธารณสุขในเรื่องการทดสอบผู้ติดเชื้อทำให้ยากที่จะติดตามและลดผลกระทบ รวมทั้งอาจไม่เพียงพอให้เกิดการตัดสินใจในการเปิดระบบเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม ส่วนด้านโครงการจ่ายเช็คให้ภาคครัวเรือนของรัฐบาล มีประเด็นด้านประสิทธิภาพในการแจกจ่ายเช็ค รวมทั้งมีการจ่ายให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิหรือผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจาก Bureau of the Fiscal Service ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการแจกจ่ายเช็คไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทะเบียน Social Security Administration ได้
อนึ่ง ทาง GAO กล่าวว่าข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐฯ ตามโครงการ CARES Act ยังมีไม่ครบถ้วนทั้งหมด เนื่องจากทางรัฐบาลได้สั่งให้หน่วยราชการต่าง ๆ ยังไม่ต้องรายงานข้อมูลจนกว่าจะถึงเดือน ก.ค.
Source: BoTSS
- Small-Business Aid Program Has Significant Fraud Risk, GAO Says: https://www.wsj.com/articles/small-business-aid-program-has-significant-fraud-risk-gao-says-11593093601

 

รัฐบาลสหรัฐประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดการลงทุนสำหรับภาคธนาคาร



คณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) แถลงในวันนี้ว่า FDIC ได้ผ่อนคลายข้อกำหนดจาก Volcker Rule โดยจะอนุญาตให้ธนาคารสหรัฐสามารถทำการลงทุนได้มากขึ้น
ทั้งนี้ การผ่อนคลายข้อจำกัดดังกล่าว จะทำให้ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐสามารถเข้าลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน (venture capital) หรือกองทุนอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้รับการยกเว้นจากการสำรองเงินสดสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ระหว่างบริษัทในเครือ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.ryt9.com/s/iq29/3136711
เพิ่มเติม
- Bank stocks surge after regulators ease Volcker Rule, JPMorgan Chase climbs 2% : https://www.cnbc.com/2020/06/25/bank-stocks-reverse-higher-as-regulators-ease-volcker-rule-jpmorgan-chase-rises-2percent.html

 

Wirecard ยักษ์ใหญ่ฟินเทคเมืองเบียร์ล้มละลาย หลังหนี้ท่วมจากเหตุอื้อฉาวทางการเงิน



Wirecard ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ของเยอรมนี ประกาศยื่นคำร้องต่อศาลในกรุงมิวนิคเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมาก
การยื่นคำร้องต่อศาลดังกล่าวมีขึ้น หลังบริษัทเปิดเผยว่าเงินจำนวน 1.9 พันล้านยูโรในงบดุลบัญชีได้สูญหายไป ขณะที่บริษัทมีหนี้สินราว 3.5 พันล้านยูโร
Wirecard เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี ซึ่งในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด บริษัทมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ชื่อเสียงของบริษัทเริ่มได้รับผลกระทบในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว จากการที่ตำรวจสิงคโปร์เริ่มทำการสอบสวนบริษัท หลังจากสื่อรายงานว่าบริษัทได้ทำผิดกฎระเบียบทางการเงินในสำนักงานที่สิงคโปร์
ต่อมาในวันที่ 5 มิ.ย.ในปีนี้ ตำรวจเยอรมนีบุกเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของบริษัท และดำเนินคดีต่อฝ่ายบริหารของบริษัทในข้อหาปั่นราคาหุ้นในตลาด
นอกจากนี้ บริษัทที่ปรึกษาทางบัญชีได้ปฏิเสธที่จะลงนามรับรองงบการเงินของบริษัทประจำปี 2562 เนื่องจากมีเงินสูญหายไป 1.9 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ Wirecard ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2542 โดยมีพนักงานจำนวน 5,800 รายใน 26 ประเทศทั่วโลก
Source: นโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.ryt9.com/s/iq29/3136705
-German payments firm Wirecard files for insolvency after revealing $2 billion accounting black hole : https://www.cnbc.com/2020/06/25/german-payments-company-wirecard-files-for-insolvency.html

 

‘อุโมงค์เงียบ’ ครอบทางรถไฟหัวกระสุน วิ่งเร็วที่สุดในโลก
.
1/ การคมนาคมในจีน โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟหัวกระสุน รถไฟความเร็วสูง กำลังเพิ่มขึ้นทั่วจีน ประชาชนได้ความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ประชาชนส่วนหนึ่งกลับถูกรบกวนด้วยเสียงจากรถไฟ
.
2/ การลดเสียงรบกวนจากรถไฟจึงเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิต
.
3/ ทางออกที่ดีที่สุดที่ทีมนักพัฒนาและทีมวิศวกรของบริษัทไชน่า เรลเวย์ กรุ๊ป คิดค้นคือ การสร้างอุโมงค์กำแพงกั้นเสียง เรียกอีกชื่อว่า อุโมงค์เงียบ ช่วยลดเสียงรบกวนจากรถไฟหัวกระสุนที่วิ่งด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เป็นรถไฟเชิงพาณิชย์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก)
.
4/ อุโมงค์ดูดซับเสียงแห่งแรกก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว เป็นระยะทาง 847 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเชื่อมกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน กับเขตใหม่ ‘สยงอัน’ มณฑลเหอเป่ย ทางเหนือของจีน
.
5/ อุโมงค์ทำด้วยโครงเหล็ก รูปร่างกลมครอบทางรถไฟ พื้นผิวด้านนอกคลุมด้วยแผ่นโลหะดูดซับเสียง
.
6/ ดูดซับเสียงได้จริงมั้ย? จริงครับ เพราะทีมวิศวกรได้ทดสอบคุณภาพ ด้วยการทดสอบความล้า (Fatigue Test) กับอุโมงค์แห่งนี้ถึง 4 ล้านครั้ง เทียบเท่ากับรถไฟวิ่งผ่านปีละ 40,000 ครั้ง นาน 100 ปี
.
7/ ทางรถไฟสายนี้ (ปักกิ่ง-สยงอัน) มีกำหนดเปิดให้บริการภายในสิ้นปีนี้ จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางระหว่าง 2 เมือง จากเดิม 2 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น
.
● ทำความรู้จักเมืองใหม่ เมืองสยงอัน กันซักนิด ●
.
1/ เมืองใหม่สยงอัน เป็นเมืองแห่งอนาคตของจีน ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 100 กม.
.
2/ สยงอันได้รับการออกแบบให้เป็นเมืองแห่งนวัตกรรม เมืองแห่งดิจิทัล
.
3/ ผังเมืองถูกออกแบบให้ผสมผสานกันระหว่างเมืองสมัยใหม่กับเมืองแบบดั้งเดิม มีพื้นที่ที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและเอื้อต่อธุรกิจ
.
ที่มา: http://www.xinhuanet.com/english/2020-06/23/c_139161547.htm
.
ขอบคุณภาพจาก China Xinhua News

 

รัฐบาลจีนอ้าแขนกว้างขึ้น เวลคัมนักลงทุนต่างชาติ
ถือหุ้นได้มากขึ้น บริหารบริษัทจีนได้เต็มร้อย
.
-------------------------------
ประเด็นเด่น:
.
-1 ปีครึ่งที่ผ่านมา กระแสเงินลงทุนไหลเข้าจีนมากเป็นประวัติการณ์
.
-ยิ่งสหรัฐฯและจีนทะเลาะกันหนักเท่าไหร่ ประเทศในเอเชียยิ่งเป็นจุดสนใจของนักลงทุน
.
-กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า นักธุรกิจจีนลงทุนในต่างประเทศลดลง แต่การลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในจีนเพิ่มขึ้น
-------------------------------
.
1/ ในรอบ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา แม้ว่าโลกจะผันผวนด้วยเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ นักลงทุนต่างชาติเลือกไปลงทุนในจีนมากที่สุด โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและเทคโนโลยี
.
2/ สาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลจีนลดเงื่อนไขและข้อจำกัดลง อนุญาตให้นักธุรกิจชาวต่างชาติสามารถดำเนินการอะไรๆได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เช่น ถือหุ้นได้มากขึ้น หรือเป็นเจ้าของธุรกิจได้
.
3/ รัฐบาลจีนอ้าแขนต้อนรับนักลงทุนต่างชาติกว้างกว่าที่เคย และสนับสนุนการลงทุนในระยะยาว มากกว่าระยะสั้นหรือระยะกลาง
.
4/ โลกเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆขึ้นมากมาย ไฮไลท์คือ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯที่ย่ำแย่เรื่อยมา และยิ่งแย่มากๆเมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาด สองประเทศยักษ์ใหญ่ จีน-สหรัฐฯได้รับผลกระทบหนักไม่ต่างกัน
.
5/ จีดีพีของทั้งจีนและสหรัฐฯร่วงในไตรมาสที่ 1 และคาดว่าไตรมาสที่ 2 จีดีพีสหรัฐฯจะร่วงมากถึง 40% แต่จีนอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า
.
6/ กระทรวงพาณิชย์บอกว่า พฤษภาคมที่ผ่านมา นักธุรกิจจีนไปลงทุนในต่างประเทศลดลง ตรงกันข้ามกับต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในจีนเพิ่มขึ้น 7.5% ด้วยเม็ดเงินลงทุน 9.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
.
7/ เบื้องหลังสำคัญ นอกจากรัฐบาลจีนสนับสนุนแล้ว หลายๆอุตสาหกรรม จีนขึ้นมาเป็นผู้นำ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี
.
8/ ขอยกตัวอย่าง: โฟล์คสวาเกนซื้อหุ้น 26% ของ Guoxuan High-Tech บริษัทผลิตแบตเตอรี่ชื่อดังของจีน / เป๊ปซี่ซื้อธุรกิจขนมขบเคี้ยวแบรนด์ดังของจีน Be & Cherry ด้วยเงินลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ / เจพี มอร์แกน เข้าบริหารบริษัทร่วมทุนสัญชาติจีน แบบเต็มตัว ด้วยเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
.
9/ อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ธุรกิจประกันชีวิตกำลังเติบโตในจีน แบรนด์ประกันของฝรั่งเศส ‘Axa - แอกซ่า’ มองเห็นโอกาสนี้ และประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ว่า ตนเป็นบริษัทประกันต่างชาติ ที่ใหญ่สุดในจีน
.
10/ อย่างไรก็ดี แม้ตลาดจีนจะหอมหวานสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ แต่นั่นคือช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อรัฐบาลแสดงศักยภาพจัดการกับวิกฤตโรคระบาดได้รวดเร็ว ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นอย่างมากว่า ตลาดจีนจะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้ผลกำไรจะพร่องไปมากในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักๆก็ตาม
.
11/ อีกสองเรื่องที่นักลงทุนต่างชาติเป็นห่วงคือ หนึ่ง-การคอร์รัปชั่น ซึ่งรัฐบาลจีนแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการปราบปราม และสอง-ความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งจีนมีท่าทีดีกว่า ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากกว่า เพราะทะเลาะกันทีไร จีนจะบอกเสมอว่า มานั่งคุยกันดีๆดีกว่า หาทางออกร่วมกันดีกว่า
.
ที่มา: https://www.cnbc.com/2020/06/22/investing-in-china-foreign-firms-buy-more-china-despite-tensions-with-us.html
.
ขอบคุณภาพจาก www.china.org.cn/business/2016-01/19/content_37611528_9.htm

 

‘มีคนรัก ย่อมมีคนชัง’ ต้นกำเนิดเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
.
1/ เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เป็นเทศกาลที่สืบทอดมาแต่โบราณจีน วันไหว้บ๊ะจ่างจะตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจีนของทุกปี
.
2/ ที่มาของเทศกาลนั้น มาจากกวีชวีเหวี๋ยน แห่งรัฐฉู่ ขุนนางผู้รักชาติ รักประชาชน และประชาชนก็รักกวีท่านนี้มากเช่นกัน
.
3/ แต่มีคนรัก ย่อมต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดา ชวีเหวี๋ยนถูกขุนนางใส่ร้ายป้ายสี และท่านอ๋องก็รับฟัง จนท้ายที่สุดชวีเหวี๋ยนถูกเนรเทศออกจากรัฐฉู่
.
4/ ชวีเหวี๋ยนทำอย่างไรต่อไป ติดตามได้ที่วีดิโอเลยครับ ^^
.
5/ สำหรับเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง บ๊ะจ่างคือพระเอกเลยครับ China Report ASEAN – Thailand ขอบอกว่า บ๊ะจ่าง 2 ร้านนี้ อร่อยจัดจ้าน ถึงเครื่อง ถึงใจจริงๆ
.
6/ 2 ร้านที่ว่านั้นอยู่ที่ไหนบ้าง ชมได้ที่นี่ครับ https://youtu.be/3G7NlyWmE2Q
.

 

สุดช็อก! จีนขุดหลุมฝังสัตว์ป่าทั้งเป็น! รวม 6,000 กิโลกรัม เป็นเม่น งู หนู เหตุต้องรีบกำจัด หลังรัฐประกาศแบนค้าสัตว์ป่า

หลังจากที่จีนออกกฎหมายห้ามบริโภคและซื้อขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายบางชนิดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงนำสัตว์บางสายพันธุ์อย่างตัวนิ่มออกจากบัญชียาจีนแล้ว นักอนุรักษ์หลายคนออกมาชมและมองว่าการกระทำนี้เป็นก้าวสำคัญในการปกป้องสัตว์ป่า

ถึงกระนั้น ยังไม่มีการจัดการสัตว์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในคลังและนำออกมาขายต่อไม่ได้ พวกมันจึงต้องพบจุดจบอันโหดเหี้ยมอย่างการฝังทั้งเป็น

ไม่นานมานี้ สื่อท้องถิ่นจีนเผยแพร่คลิปวิดีโอจากเมืองเซียนหมิง มณฑลหูเป่ย ที่มีเกษตรกรกำลังจะฝังหนูอ้น เม่น และงูที่เลี้ยงไว้สำหรับการค้าทั้งเป็น ทั้งหมดกว่า 6,000 กิโลกรัมลงหลุม

ในวิดีโอเกษตรกรเทพวกหนูอ้น Bamboo Rats นับร้อยชีวิตลงไปในหลุมลึกก่อนที่จะเทปูนสุกและนำดินมาฝังกลบพวกมัน เหตุจากพวกเขาต้องหาวิธีกำจัดสัตว์ในคลังทั้งหลายหลังจากมีกฎหมายแบนการค้า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลท้องถิ่นทางตอนใต้ของจีนสนับสนุนให้เกษตรกรเพาะพันธุ์หนูอ้น พร้อมจัดให้มีการกู้ยืมเงินและการสนับสนุนต่าง ๆ เพื่อช่วยเสริมรายได้ให้กับพวกเขา โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ยากจน ในขณะเดียวกัน รัฐก็ผลักดันให้หนูขนาดใหญ่เข้ามาอยู่ในเมนูอาหารจีนอันโอชะด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา รัฐบาลจีนหยุดชะงักการค้าสัตว์ป่า และเปลี่ยนแปลงบัญชีรายชื่อสัตว์ที่สามารถเลี้ยงเพื่อการค้าหรือเพื่อทำยาจีนต่อไป ซึ่งในบัญชีนั้นไม่มีเม่น งู ชะมด และหนูอ้น

เกษตรกรที่ไม่รู้จะจัดการหนูอ้นที่มีจำนวนมหาศาลอย่างไร และหากขืนเลี้ยงต่อไปก็อาจจะสร้างรายได้ไม่ได้ จึงตัดสินใจกำจัดพวกมันด้วยการฝังกลบอย่างที่เห็นในวิดีโอ

หนูอ้นที่ปรากฎอยู่ในวิดีโอเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อการค้า คนมักนำมันมาทำอาหารด้วยความเชื่อที่ว่ามันมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงและเป็นยาดีท็อกซ์ชั้นดี แต่แน่นอน มันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่นักวิจัยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสด้วย (นอกจากงู ตัวนิ่มและค้างคาว) ดังนั้นมันจึงถูกถอนออกการรายชื่อการค้า

ตอนนี้เราก็คงต้องคอยดูต่อไปว่าทางรัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและจัดการหนูอ้นและสัตว์ป่าอื่น ๆ ที่ค้างอยู่ในคลังหลังจากการแบนอย่างไร

ที่มา

https://www.dailymail.co.uk/news/article-8447367/China-culls-1-6-tonnes-bamboo-rats-bred-meat.html

https://www.globaltimes.cn/content/1192497.shtml

https://shanghaiist.com/2020/06/23/6000-kg-of-wild-animals-buried-alive-in-pit-following-wildlife-trade-ban/

https://www.nytimes.com/2020/02/27/science/coronavirus-pangolin-wildlife-ban-china.html

ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

เล่าเรื่อง #เพลง ดัง สาว #จีน ขาย #บะจ่าง สู้ชีวิตลำเค็ญ รัฐบาลไต้หวันเคยสั่งแบนเป็นเพลงต้องห้าม




เพลง “#เซียวบะจ่าง” 烧肉粽 ที่ #เติ้งลี่จวิน นำมาร้องจนโด่งดัง ต้นฉบับเป็นผลงานของ กัวจินฟา นักร้องชาว #ไต้หวัน ร้องไว้ตั้งแต่ปี 1949 ครั้งหนึ่งเคยเป็น “เพลงต้องห้าม” ของรัฐบาลทหารไต้หวัน เพราะรำพันถึงชีวิตที่ยากเย็นแสนเข็ญในยุคหลังสงคราม
.
ผู้เขียนเนื้อเพลงคือ จางชิวตงซง เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้ว่า กลางดึกคืนหนึ่ง เขาและภรรยาได้ยินเสียงร้องเร่ขาย #บ๊ะจ่าง ดังขึ้นในซอยละแวกบ้าน ดึกดื่นเช่นนี้บะจ่างร้อนๆ ช่วยประทังความหิวได้ดี แต่ใครจะหวนคิดบ้างว่า คนที่หิวโหยจริง ๆ คือ แม่ค้าที่ตระเวนขายบะจ่างยามราตรี

ไต้หวันในช่วงนั้นเพิ่งพ่านพ้นสงครามจากจีนแผ่นดินใหญ่ เศรษฐกิจย่ำแย่ ชาวบ้านมีชีวิตลำเค็ญ เนื้อเพลงบอกเล่าชีวิตของนักศึกษาคนหนึ่งที่เรียนจบแล้ว แต่หางานทำไม่ได้ ต้องเร่ขายบะจ่างหาเลี้ยงชีพ เนื้อเพลงส่วนหนึ่งเล่าว่า

ชะตาชีวิตอาภัพ พ่อแม่ยากลำบากส่งเสียเรียนหนังสือนานหลายปี
เรียนจบแล้วกลับหางานไม่ได้ ต้องขายบะจ่างเลี้ยงชีวิต
ทำการค้าก็ลำบาก เงินทุนไม่มี ไม่รู้ลู่ทาง ต้องจำใจขายบะจ่าง
ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน ชาวบ้านยากเข็ญ เร่ขายจนขาแข็ง แต่ก็ยังขายไม่ได้ ตั้งหน้าตั้งตาขายบะจ่าง บะจ่างร้อน ๆ

เนื่องจากเนื้อเพลงบรรรยายถึงชีวิตชาวบ้านที่ยากลำบาก สะท้อนสภาพสังคมด้านลบ เป็นภาพลักษณ์ไม่ดีในยุคก่อร่างสร้างชาติ ทำให้กรมข่าวสารของรัฐบาลไต้หวันในยุคของจอมพลเจียงไคเช็ก สั่งให้เพลง“เซียวบะจ่าง” เป็นเพลงต้องห้าม ห้ามเผยแพร่ในที่สาธารณะ แต่ว่าในหมู่ชาวบ้านก็ยังร้องกันอย่างแพร่หลาย...จนเมื่อไต้หวันมีเศรษฐกิจดีและเข้าสู่ประชาธิปไตย เพลง “เซียวบะจ่าง” ก็ถูกร้องโดยนักร้องคนดังมากมาย และเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ เติ้งลี่จวิน

“เซียวบะจ่าง” เป็นเพลงภาษาหมิ่นหนาน (ฮกเกี้ยน) แต่คนจีนในท้องถิ่นอื่น ๆ ก็ชื่นชอบและร้องตามได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาท้องถิ่นก็ตาม
(ผลงานในคลิปวิดีโอขับร้องโดย เฉินเจีย นักร้องสาวจีนที่ได้รับเลือกให้เป็น “เงาเสียงเติ้งลี่จวิน”)
https://www.youtube.com/watch?v=8hYHKvWGLP0

 

รู้จักคลองปานามา หนึ่งในโครงการที่ก่อสร้างยากที่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า มีผู้เสียชีวิตจากการก่อสร้างคลองปานามาไม่ต่ำกว่า 27,600 คน
จนทำให้คลองปานามา ถูกขนานนามว่า “หนึ่งในโครงการที่ก่อสร้างยากที่สุดในโลก”

ทำไมคลองแห่งนี้ถึงก่อสร้างยาก
และมันมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ต่อประเทศปานามามากแค่ไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อย่างที่ทุกคนรู้ เส้นทางหลักสำหรับการคมนาคมในสมัยก่อน ทั้งเพื่อทำการค้าและล่าอาณานิคม ก็คือ เส้นทางทางทะเล

ดังนั้น การลงทุนก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคต่างๆ จึงมีความจำเป็น และหนึ่งในนั้นก็คือ คลองสำหรับการเดินทางของเรือขนส่งสินค้า ซึ่งรวมถึงคลองปานามาด้วย

คลองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1881 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เพื่อย่นระยะเวลาสำหรับการคมนาคมทางทะเล ทั้งยังถูกใช้เป็นเส้นทางเดินเรือสำหรับการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ โดยเชื่อมการเดินทางระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติก

บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสภายใต้การบริหารของนาย Ferdinand de Lesseps เป็นบริษัทแรกที่เข้าไปลงทุนในโครงการนี้

ซึ่งจากการที่เขาประสบความสำเร็จจากการก่อสร้างคลองสุเอซ ในประเทศอียิปต์ จึงช่วยให้เขาสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้จำนวนมาก
แต่ความสำเร็จจากการสร้างคลองสุเอซ ไม่สามารถนำมาใช้กับการสร้างคลองปานามาได้เลยแม้แต่น้อย..

เพราะด้วยความที่พื้นที่ก่อสร้างนั้นเป็นป่าดิบชื้น จนเป็นสาเหตุของโรคระบาด เช่น มาลาเรียหรือไข้เหลือง เป็นเหตุให้คนงานบางส่วนเริ่มกลัวและหนีกลับฝรั่งเศส รวมทั้งปัญหาดินถล่ม จนทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งในช่วงการก่อสร้าง

เมื่อทราบเรื่องดังกล่าว นาย Ferdinand de Lesseps จึงพยายามระดมเงินทุนจากนักลงทุนมากขึ้น รวมทั้งส่งคนงานไปที่ปานามา เพื่อทดแทนแรงงานที่ลดลง

แต่ดูเหมือนว่า ความพยายามของเขาจะล้มเหลว หลังจากบริษัทของเขาต้องใช้เงินไปเกือบ 9,000 ล้านบาทในสมัยนั้น พร้อมทั้งสูญเสียชีวิตคนงานไปกว่า 22,000 คน

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้สุดท้าย เขาต้องขายสินทรัพย์ออกไปให้แก่สหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังสนใจการขุดคลองผ่านคอคอดปานามาในเวลานั้นเช่นกัน

สหรัฐอเมริกาเริ่มเข้ามาก่อสร้างโครงการนี้ต่อในปี ค.ศ. 1904 ซึ่งเงินจำนวนมากถูกนำไปปรับปรุงระบบสาธารณสุข ที่พักอาศัย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่คนงานของสหรัฐฯ เพื่อลดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะโรคระบาดที่บริษัทฝรั่งเศสเจอก่อนหน้า

แต่สุดท้ายแล้วก็มีคนงานของสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตไปจำนวน 5,600 คน จากปัญหาโรคระบาดและอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง

คลองปานามาสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1914 ซึ่งสหรัฐอเมริกาใช้เงินลงทุนสำหรับโครงการนี้ไปทั้งหมด 15,500 ล้านบาท หรือเทียบเท่าเงินจำนวน 284,000 ล้านบาท ในสมัยนี้..

โครงการนี้ ช่วยย่นระยะการเดินทางระหว่างทะเลด้านตะวันตก และตะวันออกของสหรัฐอเมริกา มากถึง 15,700 กิโลเมตร

ปัจจุบัน คลองปานามา อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ Panama Canal Authority มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 และคลองแห่งนี้ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์สมัยใหม่ของโลกอีกด้วย

โดยคลองปานามา จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมผ่านทางของเรือที่มาใช้บริการ ซึ่งค่าบริการนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของเรือ ขนาด รวมทั้งประเภทของสินค้าที่ขนมากับเรือ

ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยในการผ่านคลองแห่งนี้เท่ากับ 1.7 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมที่แพงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2010 ซึ่งเป็นของเรือสำราญ Norwegian Pearl ซึ่งจ่ายค่าผ่านคลองไปจำนวน 11.6 ล้านบาท

แล้วคลองปานามามีรายได้ค่าธรรมเนียมปีละเท่าไร
ปี 2017 รายได้ค่าธรรมเนียม 69,400 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ค่าธรรมเนียม 76,800 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ค่าธรรมเนียม 80,300 ล้านบาท

แม้ว่าคลองปานานามีความยาวทั้งหมด 82 กิโลเมตร น้อยกว่าระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปชลบุรี แต่สามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้แก่รัฐบาลคิดเป็นสัดส่วนถึง 3.7% ของมูลค่า GDP ของปานามา ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่าค่าธรรมเนียมที่น้อยที่สุดในการผ่านคลองแห่งนี้ ไม่ได้ถูกเก็บจากเรือ แต่ถูกเก็บจากชายที่ชื่อว่า Richard Halliburton นักเดินทางชาวอเมริกัน ผู้ที่ว่ายน้ำผ่านคลองแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ. 1928

โดยตอนนั้น เขาจ่ายค่าธรรมเนียมไป 11 บาท หรือคิดเป็นจำวนเงิน 166 บาทในวันนี้..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook -
ลงทุนแมน

Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Panama_Canal
-https://en.wikipedia.org/wiki/Ferdinand_de_Lesseps
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wonders_of_the_World#Wonders_of_the_modern_world
-https://www.statista.com/statistics/710174/toll-revenue-panama-canal/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Panama

 

นพดล มากทอง

#เตือนต่อ #ไม่รอแล้วนะ!!!(26มิย.63)
21.27 น. แผ่นดินไหวขนาด 3.8 รับรู้แรงสะเทือนเมืองเลยหลายจุด มีข้อสังเกตุว่า ในอดีดที่เกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดเลย มักนับรู้แรงสันสะเทือนแทบทุกครั้ง!!!
วันที่ 26 ก.ค. 2558 ไหวขนาด 3.1 อำเภอวังสะพุง รับรู้แรงสั่นสะเทือน
วันที่ 10 มิ.ย. 2561 วังสะพุงที่เดิม ขนาด 3.4 อันนี้ก็มีแรงสั่นทะเทือน
วันที่ 16 ต.ค. 2562 ขนาด 3.9 ก็เกิดแรงสั่นสะเทือน
แผ่นดินไหวจังหวัดเลย เกิดจากรอยเลื่อนเพชรบูรณ์ ซึ่งเคยไหวขนาด 4.0 เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2533 เกิดแรงสั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน
จังหวัดเพชรบูร์ จังหวัดเลย เป็นจังหวัดที่กรมทรัพยากรธรณี จัดอยู่ในพื้นรอยเลื่อนมีพลังพาดผ่าน ร่วมกับอีก 22 จังหวัดทั่วประเทศ!!!
สะเทือนบ่อยเช่นนี้ควรยิ่งที่ผู้มีหน้าที่ทั้งหลาย ควรเร่งความเข้าใจกับประชาชน รอยเลื่อนนี้พาดผ่านที่ไหนบ้าง บอกกล่าวให้เข้าใจ เตรียมตัวอย่างไรหากมีมากกว่าแรงสั่นสะเทือน!!!
วกกลับมาเรื่องฟ้าฝน ว่ากันว่าในยามนี้อยู่ในช่วงฝนน้อย แต่ไม่ถึงกับหมดฝน โปรดจงรู้ไว้ว่า ณ ขณะนี้ "น้ำท่า" ยังไม่ดีมีน้ำน้อย แล้งยังมีอยู่ทั่วไป!!!
26 มิถุนา ฝนฟ้าดี มีที่ไหน
ฝนน้อย แล้งไปบ้าง ไม่เป็นไร
ประเทศไทย อยู่ในช่วง ฝนทิ้งช่วงเอย.
สวัสดี วันสุนทรภู่ ขอรับ กระผ้ม

 

บูรพาไม่แพ้

โควิด-19: สวมหน้ากากคือการแสดงความเคารพสิทธิในชีวิตซึ่งกันและกัน
ในขณะที่เรายังคงต่อสู้กับความเป็นจริงของการใช้ชีวิตผ่านการระบาดใหญ่ของโควิด -19 นายแพทย์ ดร. มาร์ค สโมลินสกี้ แพทย์โรคติดเชื้อและประธาน Ending Pandemics ประเทศสหรัฐอเมริกา อธิบายว่าทำไมการสวมหน้ากากจึงช่วยหยุดการแพร่กระจายของ Covid-19 และเป็นแสดงความเคารพต่อผู้อื่น
ในฐานะแพทย์สาธารณสุข ดร.มาร์ค รู้ว่าไวรัส SARS-CoV-2 ไม่สนใจว่าเราทุกคนกำลังหลบเก็บตัวที่ไหน โอกาสในการติดเชื้อของทุกคน ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของคน ๆ นั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับผลกระทบจากพฤติกรรมของคนรอบข้างด้วย
"นี่คือเหตุผลที่ผมรู้สึกผิดหวังกับการกระทำที่ดูไม่สนใจของคนที่ไม่สวมหน้ากาก และเศร้าที่รู้ว่าการไม่ใส่ใจเรื่องนี้คือสาเหตุการระบาดใหญ่ ทำให้เกิดความเจ็บป่วยและความตายของผู้คนต่อไป
"ผมยังรู้ว่าเราไม่สามารถอยู่ในบ้านของเราตลอดไปได้ ผู้คนจำเป็นต้องกลับไปทำงาน ต้องการกลับไปโรงเรียนและต้องสนุกไปกับกิจกรรมสันทนาการอีกครั้ง ผมก็อยากที่จะใช้เวลาช่วงฤดูร้อนผ่อนคลายที่ชายหาดรับประทานอาหารกับเพื่อนและเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวที่อาศัยอยู่ในสถานที่ห่างไกล ซึ่งต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ผมยังคงลังเลที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้เพราะคนจำนวนมากแวดล้อมปฏิเสธที่จะสวมหน้ากาก"
"คุณสวมหน้ากากเพื่อปกป้องผู้อื่นและผู้อื่นสวมหน้ากากเพื่อปกป้องคุณ การสวมหน้ากากเป็นสัญญาณที่แท้จริงของการเคารพผู้อื่น มันไม่ได้เป็นการกระทบกระเทือนต่อเสรีภาพของผู้อื่นตามที่หลายคนอ้าง" ดร.มาร์คกล่าว
ดร. มาร์คสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ Black Lives Matter แต่ก็ต้องขอร้องพร้อมกันว่าผู้ประท้วงควรสวมหน้ากากทุกครั้ง ถ้าไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้
ความจริงอันแสนเจ็บปวดของชนชาติในอเมริกาได้มาถึงจุดเปลี่ยนในช่วงการระบาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้คนทุกเพศทุกวัยเชื้อชาติเผ่าพันธุ์รสนิยมทางเพศและเพศสนับสนุนเรียกร้องสิทธิ Black Live Matter ปัญหานี้เรียกร้องให้มีการรวมตัวกันอย่างสันติ โดยการประท้วงอย่างสันติ และการเดินขบวนที่ไม่สามารถรอให้โรคระบาดหายไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ความเศร้าเมื่อเห็นการชุมนุมทางสังคม ซึ่งฝืนมาตรการเว้นระยะฯ และผู้คนจำนวนมากไม่ได้สวมหน้ากาก สิ่งนี้จะนำไปสู่การแพร่กระจายของ Covid-19 ต่อไป คนผิวดำ ชาวละตินและชาวอเมริกันพื้นเมือง ก็จะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดต่อไปอีก สาเหตุของเรื่องนี้มีมากมาย แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติที่เป็นระบบที่แพร่หลายในอเมริกา
ชัดเจนว่า สหรัฐอเมริกาไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เรามีประชากรน้อยกว่าห้าเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจาก Covid-19 ถึงหนึ่งในสี่ของการเสียชีวิตทั่วโลก
เราทุกคนต้องทำส่วนของเราเพื่อควบคุมการระบาด การสวมหน้ากากรวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมและการล้างมือดูเหมือนไม่มากเกินไปเลยที่จะทำ ถ้าหากเราต้องการเปิดสังคมอีกครั้ง
ไวรัสไม่ได้หายไปเพียงเพราะเราต้องการออกจากบ้าน ดังนั้น เมื่อเราก้าวออกจากบ้านของเราและเข้าสู่พื้นที่ใด ๆ ที่ต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น โปรดสวมหน้ากากเพื่อชีวิตที่อาจไม่ใช่ของคุณเอง และหวังว่าคนอื่นจะทำเช่นเดียวกันเพื่อชีวิตของคุณ
ข่าว - https://www.forbes.com/sites/coronavirusfrontlines/2020/06/25/wearing-a-mask-is-a-sign-of-mutual-respect-during-the-coronavirus-pandemic/?utm_source=FBPAGE&utm_medium=social&utm_content=3448031941&utm_campaign=sprinklrForbesMainFB#58b088495645

 

Jun 26 , 2020 โฆษก ศบค.ยันไทยจะไม่รับทัวร์รักษาโควิด 19
.
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.เปิดเผยว่า มาตรการ Travel bubble ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องศึกษาอีกระยะหนึ่ง เร็วสุดคงเป็นเดือน ส.ค.นี้ ดังนั้นการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแบบ 40-50 ล้านคน คงยังไม่เกิดขึ้น แต่จะเน้นคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เช่นกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาระยะสั้น แรงงานมีฝีมือ ครู อาจารย์ แรงงานต่างด้าวที่มีครอบครัวในไทยเท่านั้น
.
ส่วนการเข้ามารักษา สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ไม่ให้เข้ามาในประเทศแน่นอน โดยจะคัดกรองตั้งแต่ต้นทาง ส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาคือรักษาอาการอื่นๆ เช่น มีลูกยาก หรือเสริมความงามเท่านั้น
.
สำหรับวันที่ 29 มิ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม ศบค.เพื่ออนุมัติมาตรการต่างๆ 4-5 เรื่อง ทั้งการผ่อนคลายเฟส 5 รวมถึงบุคคลเดินทางมาจากต่างประเทศ การขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน การเปิดเทอมเด็กชายแดน และการยกเว้นระยะห่างภายในขบวนรถขนส่งมวลชน อาจมีการผ่อนคลายให้ใช้เก้าอี้ได้ทุกตัว
.
#ทัวร์ #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

#ข่าวสั้น (26 มิ.ย.) โตเกียวพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 54 ราย เพิ่มเกิน 40 รายติดกันเป็นวันที่สาม

เพิ่มขึ้นเกิน 3.5 เท่าภายใน 1 เดือน

แม่โคอิเคะ แห่งเมืองโตเกียวบอกว่า แม้จำนวนจะเพิ่มคล้ายเดือนมีนาคม แต่สถานการณ์ไม่เหมือนกัน เพราะรอบนี้สถานพยาบาลเตรียมไว้พร้อมแล้ว ยังไม่เรียก second wave

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #โควิด19

ภาพ : J-channel

 

Jun 26 , 2020 ภูเก็ตปลดล็อคบางลา-ป่าตอง ยกเว้นผับ-บาร์
.
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณายกเลิกคำสั่งปิดพื้นที่และกำหนดมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ว่าสามารถเปิดสถานที่ซอยบางลาได้เฉพาะส่วนร้านอาหาร สถานประกอบการที่ไม่เป็นข้อห้ามที่ได้รับตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐ แต่ต้องปฏิบัติตามที่กำหนด ยกเว้น สถานบันเทิงผับบาร์ ยังไม่สามารถเปิดได้เนื่องจาก ศบค.ยังไม่ให้ผ่อนผัน
.
นอกจากนี้ยังได้ประเมินผลการดำเนินการป้องกันโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ได้รับรวมความร่วมมือของสถานประกอบการต่างๆอยู่ในเกณฑ์ระดับ10 แต่ยังพบว่าบางกลุ่มเช่น หาบเร่แผงลอย ยังต้องมีการตักเตือนในการเว้นระยะห่างและต้องกำชับไม่ให้ละเลยการสวมหน้ากากอนามัย
.
#ป่าตอง #บางลา #เปิด #ผับบาร์ #Misterban

 

เจอตะปูตอกคาไม้ กับดักเพื่อสกัดเจ้าหน้าที่คนอนุรักษ์ช้างป่า! ที่ห้วยเขย่ง ทองผาภูมิ
•
24 มิ.ย.2563 เพจเฟซบุ๊ก ช้างป่า ห้วยเขย่ง ทองผาภูมิ ได้โพสต์ภาพกับดักสกัดพร้อมข้อความว่า “ทำแล้วมีความสุขก็เอาที่สบายใจเลยครับพิกัดพุปูราชินี” โดยพิกัดดังกล่าวอยู่ในผืนป่าห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
•
จากภาพที่โพสต์เป็นตะปูตอกคาไม้ คาดว่านำมาใช้สกัดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ช้างป่าทองผาภูมิ ซึ่งมีการติดตามศึกษาพฤติกรรมของช้างป่าเพื่อเก็บเป็นข้อมูลศึกษา และลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนในชนชุมกับช้างป่าให้อยู่อาศัยร่วมกันได้ในพื้นที่ขอบชายป่า
•
ซึ่งก่อนหน้านี้ช้างทองผาภูมิ เคยเดินหากินเป็นฝูงใหญ่กว่า 30 ตัว และเคยรุกล้ำไปถึงพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน รวมถึงเคยปะทะทำร้ายชาวบ้าน เมื่อปี 2561
•
โดยจากเรื่องนี้มีความกังวลว่าถ้าฝูงช้างไปเหยียบกักดักตะปูตอกคาไม้ จะเกิดอะไรขึ้น ช้างป่าคงได้รับบาดเจ็บแน่
•
หากย้อนกลับไปพื้นป่าหลายแห่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่ามาก่อน เมื่อมีไปสร้างพื้นที่เกษตรกรรม ก็ทำให้ถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของช้างป่าลดลงเรื่อยๆ ซึ่งมักเกิดปัญหามากในฤดูแล้ง เมื่อช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และรุกล้ำเข้ามาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ชิดเขตพื้นที่ป่า
•
ช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญของประเทศ และโลก ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่นั้นๆ เราทุกคนสมควรช่วยอนุรักษ์ช้างและป่าไว้ ให้อยู่กับเราไปตราบนาน
•
ที่มา

https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000065130

https://www.facebook.com/100023580682431/posts/702734717189211/?d=n

https://youtu.be/jluRwy7Z46A

 

เรียนรู้โลกใต้ท้องทะเล! โครงการทำแผนที่พื้นมหาสมุทรโลกสำเร็จไปแล้ว 20% หวังช่วยเข้าใจกระแสน้ำ-สู่การอนุรักษ์ มุ่งเสร็จภายใน 2030 ใช้เรือหุ่นยนต์ช่วย
•
พื้นมหาสมุทร 1 ใน 5 ของโลกได้ถูกร่างแผนที่ไว้เรียบร้อยแล้ว!

โครงการร่างแผนที่พื้นมหาสมุทรเริ่มตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งในปีนั้นมีพื้นมหาสมุทรทั่วโลกเพียง 6% เท่านั้นที่ถูกร่างไปเรียบร้อยแล้ว โดยภายใต้โครงการ Seabed 2030 ของ GEBCO มุ่งหวังที่จะร่างแผนที่พื้นมหาสมุทรทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในปี 2030
•
ในปัจจุบันมีพื้นมหาสมุทรทั้งหมด 19% ที่ได้ถูกร่างแผนที่ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าเรายังมีพื้นมหาสมุทรอีก 81% ทั่วโลกที่ยังต้องร่างให้เสร็จสิ้น
•
สำหรับการร่างแผนที่พื้นมหาสมุทรนี้ จะใช้เรือทั้งเล็กใหญ่ในการออกสำรวจ โดยการใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียงในการวัดความลึก

ทั้งนี้ทางบริษัท Ocean Infinity กำลังพัฒนาเรือหุ่นยนต์ Armada เพื่อช่วยในการสำรวจเพิ่มเติมในส่วนของช่องว่างที่ขาดหายไป
•
การทำแผนที่ดังกล่าวมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากบริเวณรอบ ๆ ภูเขาใต้น้ำมีสัตว์อาศัยอยู่หลายชีวิต หมายความว่าภูเขาทะเลเป็นจุดที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงนั่นเอง
•
เมื่อแผนที่ Seabed 2030 เสร็จสิ้น ข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ในอนาคต รวมถึงการเคลื่อนตัวของตะกอน การไหลเวียนของมหาสมุทร การคาดการณ์อุณหภูมิ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น คลื่นสึนามิ และหากเราต้องการจะรู้ว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงเท่าไหร่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก การมีแผนที่ของพื้นทะเลถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
•
https://www.gebco.net/news_and_media/gebco_2020_release.html

https://www.bbc.com/news/science-environment-53119686?fbclid=IwAR03gN6WWg36yhVEo5jD8VxZgnXt8FraEmL5Mx_LDX26VmGNlh7bG0TnXxI

 

ทส.ทุ่มงบประมาณกว่า 445 ล้าน จ้างงาน 16,488 อัตรา ช่วยคนตกงาน–ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 ทำงานกับกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ให้ค่าตอบแทนเดือนละ 9 พันบาท จ้างงาน 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย.นี้
•
วันที่ 25 มิ.ย.63 นายวราวุธ ศิลปอาชารมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) แถลงข่าว “โครงการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ” ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำโครงการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 เพื่อให้การช่วยเหลือบัณฑิตที่ตกงานรวมทั้งประชาชน
•
โดยมีหน่วยงานที่จะจ้างงาน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จำนวน 5 โครงการ รวมอัตราการจ้างทั้งสิ้น 16,488 อัตรา อัตราการจ้างเหมา 9,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการจ้าง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 445,176,000 บาท
•
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า สำหรับการจ้างงาน ทั้ง 4 หน่วยงาน โดยสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดทำโครงการ 1 คน 1 ตำบล ร่วมใจฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับจำนวน 7,255 อัตรา กรมป่าไม้ รับ จำนวน 5,058 อัตรา ไปทำหน้าที่ลูกจ้างผู้ช่วยงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในการปฎิบัติงานตามนโยบาย คทช. ในการสำรวจการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และ โครงการจ้างงานประชาชนเพื่อฟื้นฟูป่าหลังถูกไฟไหม้ “สร้างป่า สร้างงาน สร้างรายได้”
•
ขณะที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ รับ 3,500 อัตรา ไปเป็นลูกจ้างเหมาบริการผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำแหล่งอาหารของสัตว์ป่า และ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รับ 675 อัตรา ไปทำโครงการจ้างสำรวจพื้นที่ใช้ประโยชน์ในเขตป่าชายเลน
•
“โครงการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จะช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์โควิด – 19 และที่สำคัญเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่ารวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ โดยให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อยู่อาศัยของตน โดยทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือภาครัฐในการสำรวจข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ในพื้นที่ชุมชน เพื่อก่อให้เกิดศักยภาพในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ฉุกเฉินของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายวราวุธ กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/177283235750504/posts/2230724033739737/?d=n

https://www.facebook.com/177283235750504/posts/2231594210319386/?d=n

 

ผู้คนต่างพากันงง หลังเพิ่งรู้ว่า ลูกนกฮูกชอบนอนคว่ำหน้า เพราะหัวของมันหนักเกินไป
•
ในวันที่เหนื่อยล้าเราคงอยากจะอยากเดินทางไปให้ถึงเตียงและทิ้งตัวนอนให้เร็วที่สุด เจ้านกฮูกพวกนี้ก็เช่นกัน!
•
Mark Rees ได้โพสภาพของรูปลูกนกฮูกหมดสภาพ ที่นอนงีบแบบคว่ำหน้าลง ที่เมื่อเห็นแล้วชวนให้รู้สึกน่ารักในความที่ดูเหนื่อยล้าของพวกมันซะเหลือเกิน
•
Rees ได้อธิบายว่า สภาวะทิ้งตัวของลูกนกฮูก เกิดจากที่หัวของมันหนักเกินไป (สำหรับตัว) เลยต้องนอนเอาหน้าคว่ำตัวติดพื้นแบบนี้
•
นกฮูกวัยโตเต็มที่ ตัวของมันจะสามารถรับน้ำหนักหัวได้ดี ซึ่งแตกต่างจากลูกนกฮูกที่มีปัญหาเรื่องการรับน้ำหนักจึงต้องนอนงีบแบบในรูป
•
การที่ลูกนกฮูกสามารถงีบบนต้นไม้อยู่ได้เพราะ นิ้วเท้าหลังของมันที่มีลักษณะที่อำนวยต่อการเกาะกับต้นไม้ โดยมันจะไม่คลายออกเด็ดขาดหากไม่งอขา
•
คลิปเจ้าตัวเล็กนอน
https://twitter.com/toricaferoppong/status/1273914013517148160
•
สามารถเข้าไปชมภาพของบรรดาเจ้านกฮูกนอนทิ้งตัวได้เพิ่มเติมที่นี่เลย!
https://www.boredpanda.com/sleeping-owls-face-down/
•
https://www.boredpanda.com/sleeping-owls-face-down/

https://happymag.tv/apparently-baby-owls-sleep-face-down-because-their-heads-are-too-big/

https://www.unilad.co.uk/animals/people-are-just-learning-baby-owls-sleep-face-down-as-their-heads-are-too-heavy/

https://www.indiatimes.com/trending/environment/baby-owl-sleeping-face-down-516312.html