**ที่นรก วิญญาณล้วนถูกลงโทษ เขาไม่มีเลือดเนื้อ ทำไมถึงเจ็บ?(ผู้รู้ เมตตาตอบด้วยค่ะ)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ณัฐธยาน์, 8 พฤษภาคม 2008.

  1. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    **ที่นรก วิญญาณล้วนถูกลงโทษ เขาไม่มีเลือดเนื้อ ทำไมถึงเจ็บ?คะ

    อันนี้ น้องที่ทำงานเขาถาม มาตลอดค่ะ ว่า

    อันวิญญาณนั้นเป็นพลังงาน ร่างกายก็ไม่มี เพราะเผาหรือฝังไปแล้ว

    เส้นประสาทรับรู้ความเจ็บอยู่ตรงใหน

    มีเลือด ได้อย่างไร โดนหอกทิ่มก้น

    ขณะปีนต้นงิ้ว เจ็บมากๆ เห็นว่าเลือดกระฉูด เลือดเหมือนกับคนใหม?

    โดนต้ม ในกะทะ ได้ไง ในเมื่อไม่มีร่างกาย

    หรือ ที่นรก ใช้เวทมนตร์ บีบให้วิญญาณจินตนาการ
    ภาพน่ากลัว 3 มิติโดย อัตฺโนมัติ
    ทำนองเดียวกับการฝันร้าย ตอนเป็นคน ขณะหลับ


    ดิฉันพยายามจะ อธิบาย

    แต่ด้วย ความรู้แค่หางอึ่ง ..เลยยังไม่สามารถ

    ทั้งนี้รับปาก เขาว่า จะหาคำอธิบาย ที่ฟังง่ายๆ ที่สุด

    จึงขอพึ่งคำตอบ จากผู้รู้ทุกท่าน เมตตาด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2008
  2. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    เคยอธิบายแล้วค่ะ

    ว่าจิตมันเจ็บ ยิ่งกว่าอะไร

    แต่ด้วย คำอธิบายสั้นๆ

    น้องเขา อ่านเรื่องนรกมาเยอะ

    คนเขียนบรรยายภาพเหมือน ในหนัง

    ขอผู้รู้ ช่วยอธิบายด้วยคำง่ายๆ
    หรืออาจเปรียบเทียบกับบางเรื่องให้เข้าใจได้ค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เพราะดวงจิตเต็มไปด้วย อกุศลมูลจิต กลุ่ม โมหะ
    สืบต่อเป็นรากอย่างไม่ขาดสาย

    จึงมีอาจหยุดความหลง เพื่อ ตื่น เพื่อ เบิกบาน ในกอง
    กุศลมูลจิต

    เขาจะเพลินไปข้างหลง จนไม่รู้ว่านั้นคือกรรม

    พระบางท่าน ชี้ว่า นั่นไม่ใช่ทุกข์ในสายตาเขา
    แต่เป็นสุขที่เขาต้องการเสพโดยไม่ปล่อยวาง

    ด้วยมีความหลงมาก โมหะมาก หากมีผู้ชี้กุศลเขาก็
    ไม่สนใจมองเห็น เพราะยึดของที่ตนทำอยู่นั้นถูกต้อง
     
  4. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    มีจ๊ะ เป็นรูปขันธ์ละเอียด ที่เรียกโอปปาติกะ
    กายละเอียดนี่ อยู่ด้วยกำลังบุญและบาป
    ไม่ทำบุญ ไม่มีจะกิน ก็ทรมานแล้วนะ สัภเวสีน่ะ

    ส่วนอีกขันธ์สี่ ก็อยู่ครบจ๊ะ

    กายละเอียดจะแปรเปลี่ยนไปตามจิตขณะนั้นๆ รวดเร็วกว่ากายหยาบ

    กายเทวดา ก็สุขไปตามกำลังบุญหล่อเลี้ยง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2008
  5. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794

    จริง ๆ ผมก็ไม่ใช่ผู้รู้ครับ แต่เคยเดินทางไปนรก แล้วก็สงสัยมาตลอด เพราะนรกที่ผมเห็นมัน ดูเป็น กลางๆ ในเรื่องของ ภพ จนผมได้ ฟัง เสียงบรรยาย ที่คุณ โจโฉ อ่าน จากเรื่อง โอปปาติกะ (ขอบคุณ คุณโจโฉ ด้วยนะครับ ถ้าได้มาอ่าน) จะสามารถตอบปัญหาที่คุณกำลังถามได้ ทั้งหมดและหมดข้อสงสัยครับ

    ทำไมหรือครับ ก็เพราะ ผมได้ฟังแล้ว ก็ มาย้อนกลับ ที่ผมไปนรก (อ่านได้ตามลิงค์ ที่ลายเซ็น) สามารถแก้ไขปัญหาคาใจเรื่อง สภาวะของนรกที่เห็นและไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆ ตามที่เคยอ่านมาก่อนในตอนนั้น และ ทำเราเข้าใจเรื่องสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดจากจิตวิญญาณ นั่น คือสภาวะรูป ที่ไม่ได้ประกอบด้วยธาตุสี่ ได้ คือถ้าจะให้ง่าย ๆ ก็ จะเรียกว่า รูปในนาม อันนี้เป็นการยกคำมาอธิบายครับ ถ้าตามอภิธรรมจริงๆ รูปเราจะหมายถึง รูปของธาตุสี่ คือมนุษย์ เรานั่นเอง (นามรูป คือคนที่มีชิวิตอยู่คือเป็นเรานะแหละ คือ ประกอบด้วย รูปธาตุสี่ กับ นาม คือ เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ จึงเรียก นามรูป)

    เดี๋ยวจะงง ผมยกตัวอย่างแล้วกัน

    เมื่อผมไปภูมิที่เป็นนรกนั้น ภูมินั้นคือลักษณะของสภาวะแวดล้อม ต่างที่เป็นที่รวมของ โอปปาติกะ อยู่ด้วยกัน ก็เหมือนกับโลก ก็มาสภาวะมีธาตุสี่และเป็นเหมือนที่เราเห็นและอยู่ในตอนนี้เป็นต้น

    ทีนี้ภูมินรกที่ผมเห็น จะเป็นที่ว่างกว้างสุดลูกหูลูกตา มืดทึม แต่ ท้องฟ้ากลับเป็นเป็นสีแดง โอปปาติกะที่อยู่ที่ภูมินี้ จะมีลักษณะ ไม่ใส่เสื้อผ้า ผอมแห้งเหมือนท่อนไม้ ดูไม่มีเลือดเนื้อ ตาไม่มี ไม่มีฟัน เหมือนกันหมด ต่างปีนป่ายตะกุยตะกายทับถมกัน กัน จนมองเห็นเป็น ภูเขาเป็นลูก ๆ เห็นเป็นโลกที่เป็นภูเขาเต็มไปหมด แต่ภูเขาคือ โอปปาติกะกองๆ กัน และ มีอยู่มากมายจริง อยู่ในสภาวะทรมาณตลอดเวลา เสียงร้องกันระงม ไม่มีพันธนาการ และ มีความลำบาก รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส อยู่ตลอดเวลา จนต้องดินรนเอาตัวรอด เป็นภาพที่ น่าหดหู่มาก ๆ

    ผมสงสัยมาตลอดว่าผมเห็นอะไร นรกแบบไหน ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะจริงหรือ

    แต่พอได้ฟังเสียงบรรยาย ของคุณโจโฉ แล้ว ก็ได้รับความรู้ใหม่ที่ทำให้มีความเข้าใจได้มากขึ้นว่า

    โอปปาติกะ ที่ไปเกิดในนรกนั้น ๆ ในภูมิเดียวกันจะ เหมือนๆ กัน เพราะผลของ จิตวิญญาณ ที่ไปจุติ ในภูมิเดียวกัน ก็จะ มีลักษณะใกล้เคียงกัน ไม่เช่นนั้นก็จะไปจุติในภูมิอื่น ๆ หรือ นรก อื่นๆ ไป

    แต่ โอปปาติกะ เอง จะเห็นตัวเอง ไม่เหมือนกับเราเห็นเค้า เพราะ จิตวิญญาณ จะยึงติดในสภาวะที่เป็นตาม ทุกข์เวทนาที่เป็น และ ผลของวิบากกรรม คือ จะเจ็บปวด หรือ โดนกระทำอยู่จากอะไร ก็เป็นไปตาม จิตวิญญาณ ที่เคยได้รับรู้มาก่อน เช่น บางตน ก็เห็นถูกทิ่มแทงด้วยของแหลม อยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ ไม่มี ของแหลมนั้น ๆ แต่ จะเจ็บปวด เป็นจริงตามบาดแผลนั้น ๆ

    ทั้งนี้เพราะว่า เมื่อ จิตโอปปาติกะคิด มันเป็นจริงแก่โอปปาติกะนั้น ๆ และด้วยวิบากกรรมและทุกข์เวทนา ก็รับรู้ว่ามันเป็นจริงเป็นจังจนคิดไม่ได้ว่ามันคือจิตคิดให้เป็น (ในนรกก็มีสภาวะทุกข์เวทนาที่รับรู้ได้ ถ้าเมื่อไหร่รับรู้สุขเวทนาได้ ก็จะเปลี่ยน ภพ ไม่ได้อยู่ในภูมินั้นๆ คือ กรรมหมด จุติ ใหม่ หรือ มีคนไปช่วยให้ระลึกถึง บุญความดีและสุขเวทนาได้)

    ถ้าจะตอบเป็นข้อๆ

    อันวิญญาณนั้นเป็นพลังงาน ร่างกายก็ไม่มี เพราะเผาหรือฝังไปแล้ว

    ตอบ: วิญญาณจะว่าเป็นพลังงานก็ได้แต่ให้คิดว่าวิญญาณเป็นจิดรูปแบบหนึ่งจะดีกว่า โอปปาติกะคือผลของจิตวิญญาณนั้น ก็เสมือนเป็น รูปในนาม ร่ายกายในโลกที่เรายึดถือก็รูปที่เป็นธาตุสี่ เกิดจากนามคือจิตวิญญาณ ดังนั้นเมื่อเราตาย รูปกายธาตุสี่ ก็ไม่มีจิตวิญญาณ และไม่เกี่ยวพันใด ๆ กับ จิตวิญญาณที่เป็นโอปปาติกะไปแล้วอีกต่อไป เพราะ จุติไปเป็น โอปปาติกะแล้ว (อาจมองว่าเป็นรูปในนามก็ได้)

    เส้นประสาทรับรู้ความเจ็บอยู่ตรงใหน

    ตอบ: ไม่ต้องมี เพราะว่า โอปปาติกะ จะ มีเวทนาตาม วิบากรรม นั้นๆ ไปโดยจิตวิญญาณของ โอปปาติกะนั้นกำหนดขึ้นมาเอง โดย โอปปาติกะ จะไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเอง ถ้าคิดง่ายๆ เหมือนเราเป็นโรคเครียดแล้วเราป่วยเป็นโน่นเป็นนี่ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไร แต่ สำหรับโอปปาติกะ มันเป็นจริงจังกว่าและไร้เหตุผลกว่า

    มีเลือด ได้อย่างไร โดนหอกทิ่มก้น

    ตอบ: จิตสร้างเห็นได้เป็นจริงเป็นจัง และ รับทุกข์เวทนาได้ เพราะเป็นสภาะของ นาม

    ขณะปีนต้นงิ้ว เจ็บมากๆ เห็นว่าเลือดกระฉูด เลือดเหมือนกับคนใหม?

    ตอบ: เหมือนและยิ่งกว่าถ้าได้รับรู้ในช่วงที่มีชีวิตรุนแรงแค่ไหน ถ้าต้องไปตกในภูมินั้น ก็จะได้รับและเห็นเป็นจริงเป็นจังตามที่บอก

    โดนต้ม ในกะทะ ได้ไง ในเมื่อไม่มีร่างกาย

    ตอบ: จิตวิญญาณ โอปปาติกะนั้น ๆ จะสร้างเป็นจริงเป็นจัง ถ้า โอปปาติกะอื่น ๆ คิด เหมือนกับ ก็จะรวมกันรับเป็นกลุ่มๆ พร้อมๆ (อย่าลืมทั้งๆ ที่ไม่มี)

    หรือ ที่นรก ใช้เวทมนตร์ บีบให้วิญญาณจินตนาการ

    ตอบ: จิตวิญญาณ วิบากกรรม สัญญา รวมๆ กัน สรุป คือ นามเป็นผู้ทำ
    ภาพน่ากลัว 3 มิติโดย อัตฺโนมัติ
    ทำนองเดียวกับการฝันร้าย ตอนเป็นคน ขณะหลับ

    ตอบ : ครับ ใกล้เคียงกัน แต่ ร้ายกว่าคือ คนพอตื่น ก็เหมือนเดิม แต่ โอปปาติกะนั้น เป็นจริงเป็นจังตามนั้น


    สรุป ถ้าไปฟังที่ คุณ โจโฉ อ่านให้ฟัง ก็จะเข้าใจดี อาจติดขัดบ้าง เพราะไม่ได้เห็นจริง ผมสรุปให้ ก็เอาพอใกล้เคียง ถ้า ได้อ่านหรือฟัง่ของจริงแล้ว คงเข้าใจดี ครับ ไปฟังได้ที่เสียงอ่านของเวป พลังจิต ได้เลยครับ ทุกคำถามตอบได้ครับ


    แต่ทั้งนี้ที่ทำให้ผมมั่นใจเพราะว่า เมื่อได้ทำการทบทวน ภาพที่ไปดูนรก โดยจิตออกจากร่างไปแล้ว มันรู้ได้เองว่า สภาวะทุกข์เวทนา แต่ละ ตนนั้น แตกต่าง กันจริง ๆ คือ ในภูมิเดียวกัน จะ มีสภาวะการรับทุกข์ไม่เหมือนกัน ตัวอย่าง เหมือนเราเห็น บางตน วิ่งหนีเหมือนมีอะไรไล่กัด แต่ ที่เราเห็นจะไม่เห็นว่ามีอะไร วิ่งไล่ และ ถ้าสมมุติว่า บางตน นั่งร้องโหยหวลเหมือนกำลังถูกต้มในกระทะทองแดง ทำมือทำไม้เหมือนกำลัง ถูกราดด้วยน้ำร้อนๆ เราจะเห็นว่า เค้านั่งอยู่ที่ว่าง ๆ ไม่มีใครมาทำเค้า

    ทั้งนี้ บางคนอาจสงสัยไปว่าแล้วที่คนอื่นๆ เค้าไปเห็น นั้นก็แสดงว่าไม่เห็นจริงนะสิ อันนี้ ผมว่าไม่ใช่อีก เพราะ การไปเห็น ของบางคน ไม่เท่ากัน คือ บางคนเห็นได้เหมือนที่ โอปปาติกะ เห็น ก็จะเห็นเป็นนรกที่พร้อมไปด้วยการทรมาน และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ แต่ บางคนก็เห็นเหมือน ๆ ก้น ไปหมด แต่สภาวะทุกข์เวทนาแต่ละตนไม่เหมือนกับ แต่ถ้าอยากเห็นบางคนก็เพ่งดูโอปปาติกะนั้นๆ ก็จะเห็นว่าได้รับ ทุกข์เวทนาแบบไหนอย่างไรจากอะไร

    พอดีท่านที่พาผมไปท่านให้เห็นในสภาวะของภูมิตามจริง อาจเป็นเพราะตอนนั้นผมเป็นพระ แต่ผมไม่เห็นสภาวะที่สร้างจากจิต ของโอปปาติกะที่กำลังได้รับทุกข์เวทนาอยู่

    ขอตอบคร่าว ๆ ตามนี้

    ทุกวันนี้ ผมจึงเน้นปฏิบัติ ธรรม ที่เข้าถึง นามรูป เป็นหลัก เพื่อ พัฒนาจิตวิญญาณให้ ไปสู่ภูมิที่ดี และ ทำวิบากกรรมที่ดี เพื่อสู่ภูมิ ที่สูงกว่า อบายภูมิ ซึ่งผมยืนยันว่าถ้าเราทำความเข้าใจเรื่อง โอปปาติกะนี้อย่างดี จะเข้าใจว่า เราทำได้ เราเลือกที่ไปได้

    ขอให้ไปลองอ่านหรือฟัง สักครั้ง ไม่เสียหาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2008
  6. jake009

    jake009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +285
    ก็เหมือนเวลาฝัน ฝันว่าโดนยิงทำไมจึงรู้สึกเจ็บ
     
  7. suparush

    suparush Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +61
    นับถือคุณมนุษย์ร้อยแปด
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ต้องลองฟังคุณใบไม้ ผู้เห็นนรกอีกคนครับ หุหุ
     
  9. thanatos hipnos

    thanatos hipnos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +26
    กรรม+พลังจิต ครับ
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ง่ายๆ ที่สุด คุณเคยฝันว่า โดนทำร้ายไหม ทำไมมันถึงเจ็บได้
    เอาแบบในกรณีที่ไม่ได้ไปนอนกดทับอะไรนะ

    ทำไมเรามีความกลัว ความโกรธ ในฝัน

    ตอบว่า เพราะอายตนะ ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่อยู่ที่ใจนี้ครับ
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075

    [​IMG]
    ม่รุ ม่ชิ.

    ขอเนื้อๆหน่อยครับ
     
  12. suparush

    suparush Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +61
    อะคุณใบไม้ก็ตอบดีเข้าใจๆ
     
  13. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    สวัสดีครับ เรื่องนี้ผมเคยตอบไปทีแล้วนะ
    ในกระทู้ที่เก่ามากๆ แล้ว เด๋วผมจะลองไปค้นดูก่อนครับ

    ถ้าเจอก็โชคดี จะได้ไม่ต้องพิมพ์ใหม่ ^ ^
     
  14. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    โอ๊ะ กระทู้เก่ายังอยู่ ดีใจจังไม่ต้องพิมพ์ใหม่ ^ ^

    "เชื้อโรคนี่จัดว่าอยู่ในภพไหน? ต้องรับบุญรับบาปเหมือนเราไหม๊"

    http://palungjit.org/showthread.php?p=338414#post338414


    เรื่องเชื้อโรคนี้แล้วแต่จะเชื่อแล้วกันนะครับ

    ในความเชื่อของผม ผมเชื่อแบบนี้ครับ (สุดแท้แต่จะพิจารณา)


    "เชื้อโรค คือ ตัวสร้างมิติ นรกภูมิ" ตัวอย่างเช่น


    ในเวลากลางวันแสงแดดเจิดจ้า มีเชื้อโรคมากมาย กำลังถูกแสงแดดแผดเผา
    จนตายไปเป็นเบือ การรับรู้ในความร้อนของแสงแดดนั้น จะส่งสัญญาณไปสร้าง
    มิตินรก ที่มีสัตว์นรกมากมาย กำลังนอนตากแดด แรงกล้าทนทุกข์ทรมานอยู่

    ในถังเกรอะ ที่เต็มไปด้วย น้ำปัสวะ อุจจาระ มีเชื้อโรคมากมาย ที่กำลังย่อยสลาย
    สิ่งปฏิกลูนั้นอยู่ การย่อยสลายนั้นจะส่งสัญญาณไปสร้างมิตินรก ที่เป็นทะเลอาจม
    และมีเหล่าสัว์นรก ที่กำลังทนทุกข์ทรมานในการแหวกไหว้ทะเลอาจมนั้นอยู่

    การใช้แอลกอฮอลล์ เพื่อทำการล้างแผลฆ่าเชื้อโรค ตามทางเพทย์ปัจจุบัน
    เชื้อโรคที่ตายไปจะส่งสัญญาณไปสร้างน้ำร้อนในกระทะทองแดงใช้ต้มสัตว์นรก


    ยกตัวอย่างให้ฟังคราวๆ ได้ประมาณนี้นะครับ สุดแท้แต่จะพิจารณา

    การแผ่เมตตาให้เชื้อโรค ก็เท่ากับว่าเป็นการแผ่เมตตา ให้สัตว์นรกต่างๆ ทางอ้อมน่ะเอง
    การแผ่แมตตาตรงๆ ให้สัตว์นรกอย่างที่ทำกันอยู่ หรือ แผ่นผ่านเชื้อโรค ย่อมมีค่าเท่ากัน

    การฆ่าเชื้อโรค ไม่บาป เพราะ เป็นหน้าที่ของมันอยู่แล้ว
    ที่จะต้องส่งสัญญาณการตายของมัน ไปสร้างมิตินรกครับ
     
  15. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ตอนเป็นมนุษย์ดวงจิตอยู่กับกายมนุษย์รับรู้ความรู้สึกแบบกายมนุษย์
    พอตายไปดวงจิตออกจากกายมนษย์อยู่ในกายใหม่เป็นกายละเอียดกว่ากายมนุษย์ การรับรู้ก็เป็นแบบกายละเอียด

    ดวงจิตประกอบด้วยธาตุที่ทำหน้าที่ เห็น จำ คิด รู้ ธาตุทั้งสี่อย่างนี้รวมเรียกดวงจิต การเวียนว่ายตายเกิด ในภพภูมิต่างๆเพื่อเสวยกรรมก็อาศัยดวงจิตดวงนี้
    แต่ดวงจิตจะต้องมีกายรองรับเสมอ เหมือนเป็นภาชนะรองรับ โดยดวงจิตจะขยายส่วนของธาตูเห็น จำ คิด รู้ ซึ่งเป็นส่วนละเอียดให้เป็นส่วนหยาบ โดยส่วนหยาบนั้นจะเป็นอายตนะ ที่มีความละเอียดตรงกับภพ ภูมิ ที่รองรับกายนั้นๆ อีกที เช่นเป็นสัตว์นรก เป็นเทวดา เป็นพรหม ซึ่งกายเหล่านี้มีความละเอียดของกายไม่เท่ากันในแต่ละภูมิ
    ความรู้สึกจึงไม่จำกัดอยู่ที่กายมนุษย์เพียงกายเดียว ที่จะต้องมีสมอง มีเซลล์เหมืนที่เราเห็นอยู่ในกายมุษย์นี้เท่านั้น
    รวมทั้งความคิด การจำ การเห็นก็เช่นกัน
    อาหารที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกายของแต่ละภพภูมิก็ไม่เหมือนกัน การซึมซับธาตุอาหารก็ต่างกัน เทวดากินอาหารที่ไม่ต้องผ่านการย่อยแล้วมีเหลือส่วนที่ไม่ไช้ จึงไม่มีการขับถ่าย
    อวัยวะต่างๆของสัตว์ในแต่ละภูมิจึงเกิดขึ้นตามความจำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิตในภูมินั้นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2008
  16. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    ไม่ลองไม่รู้ครับ
     
  17. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ไม่มีร่างกายเลือดเนื้อแบบมนุษย์ แต่ก็มีร่างกายเลื้อดเนื้อแบบสัตว์นรก ไม่ใช่ว่าไม่มีกายเหลือแต่จิต
    ขันธ์ 5 ของมนุษย์ถูกปรุงแต่งด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยมีบุญบาปกำกับอยู่เบื้องหลัง ส่วนขันธ์ 5 ของสัตว์นรกถูกปรุงแต่งด้วยบาปโดยตรง
     
  18. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    นามธรรม ของอาการมีหลายระดับมั้งครับ

    นามธรรมของมนุษย์ในโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    นามธรรม ของเทพ สุข เฉยๆ ไม่ทุกขฺ์

    นามธรรมของนรก ทรมาน ทุกข์สุดๆ


    อันนี้อิงวิทย์ไม่ได้นะครับ

    จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่คับ เพราะผมอยู่โลกใบนี้ก็เจอนารกบนโลกใบนี้ใกล้จุกและ
     
  19. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    แหล่มๆ

    กระทู้ดีมีสาระ(||)
     
  20. ณัฐธยาน์

    ณัฐธยาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +767
    ขอบคุณ ทุกท่านที่ให้คำตอบ

    ล้วนเป็นข้อธรรม ที่ทำให้ยึดมั่นและวางใจในการทำความดี ค่ะ

    วันนี้ น้องที่ถามเรื่องนี้ ไม่อยู่

    แต่...หากเขาอยู่ คาดว่าเขาต้องมีคำถาม แน่ๆ

    1. จาก คุณ108man

    โอปปาติกะ เอง จะเห็นตัวเอง ไม่เหมือนกับเราเห็นเค้า เพราะ จิตวิญญาณ จะยึงติดในสภาวะที่เป็นตาม ทุกข์เวทนาที่เป็น และ ผลของวิบากกรรม คือ จะเจ็บปวด หรือ โดนกระทำอยู่จากอะไร ก็เป็นไปตาม จิตวิญญาณ ที่เคยได้รับรู้มาก่อน เช่น บางตน ก็เห็นถูกทิ่มแทงด้วยของแหลม อยู่ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ ไม่มี ของแหลมนั้น ๆ แต่ จะเจ็บปวด เป็นจริงตามบาดแผลนั้น ๆ

    ทั้งนี้เพราะว่า เมื่อ จิตโอปปาติกะคิด มันเป็นจริงแก่โอปปาติกะนั้น ๆ และด้วยวิบากกรรมและทุกข์เวทนา ก็รับรู้ว่ามันเป็นจริงเป็นจังจนคิดไม่ได้ว่ามันคือจิตคิดให้เป็น

    บางตน วิ่งหนีเหมือนมีอะไรไล่กัด แต่ ที่เราเห็นจะไม่เห็นว่ามีอะไร วิ่งไล่ และ ถ้าสมมุติว่า บางตน นั่งร้องโหยหวลเหมือนกำลังถูกต้มในกระทะทองแดง ทำมือทำไม้เหมือนกำลัง ถูกราดด้วยน้ำร้อนๆ เราจะเห็นว่า เค้านั่งอยู่ที่ว่าง ๆ ไม่มีใครมาทำเค้า

    2.จาก คุณ ใบไม้นอกกำมือ

    พระยายมราชท่านลงโทษวิญญาณบาปเหล่านี้ จากความจำที่อยู่ในวิญญาณธาตุ ไฟนรก หอก ดาบ พวกนั้นเป็นแค่ของมายา แต่ดูเหมือนเป็นของจริงจนแยกไม่ได้ เช่นเดียวกับในโลก ทุกอย่างก็เป็นมายาทั้งนั้น แต่เราไปคิดว่ามันเป็นของจริง มันเลยกลายเป็นของจริง

    ต่อให้วิญญาณบาปเหล่านั้นรู้ว่าไฟนรกเป็นเรื่องลวงเป็นมายา เขาก็หนีมันไม่ได้ เพราะจิตของเขาไม่สามารถทะลวงผ่านสิ่งมายานั้นไปได้ วิญญาณธาตุของเขายังยึดติดว่า เขามีตัวตน มีตา หู คอ จมูก เลือด ประสาทสัมผัสทุกอย่าง ฯลฯ เมื่อไฟมาเผาเขา เขาจึงปวดแสบปวดร้อน


    และอีกหลายท่าน ก็มีคำตอบ เฉกเช่นเดียวกัน

    ดังนั้น จึงขออนุญาต เรียนถามก่อนเลยนะคะ

    ในเมื่อ โอปปาติกะ หรือ วิญญาณธาตุ

    ล้วนทุกข์ทรมาณในนรก จากจิตของตนคิดไปเอง จากกรรมชั่วที่ทำมาในอดีตก่อนตาย

    ทั้งนี้ สมมุตินะคะ

    หากตอนมีชีวิตอยู่ คนทำชั่วโดยที่ไม่รู้ว่ามันผิดมากๆ เข้าใจว่า ดีแล้ว

    ในขณะที่ทำชั่ว ทำผิดอยู่นั้น เขาก็สนุก มีผลสำเร็จอย่างใจเขาต้องการ

    มีความสุข ร่าเริง และยังแจ่มใส ไม่มีทุกข์ร้อน อะไรเลย ไม่มีใครว่าอะไร

    เพราะไม่มีใครสนใจ

    ทุกอย่าง ราบรื่น ดีสุดๆ

    สรุปคือ เขาทำชั่วแล้วมีความสุข เพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด และไม่มีใครเอาผิดเขาด้วย ทั้งชีวิตเขามีแต่ความสุขเพราะเขาพอใจในตัวเองมากๆ

    อย่างนี้ ถ้าตายไป

    **โอปปาติกะ หรือ วิญญาณธาตุ ของเขาจะทุกข์ทรมาณใหมคะ

    ในเมื่อความทรงจำ ในจิตของเขา

    ไม่เคยมีเรื่องที่ไม่ดี ไม่มีเรื่องชั่ว จิตเขามีแต่สุข ตามที่เขาคิดอย่างพอใจ

    ** เขาต้องรับโทษ แบบใหนคะ

    อาจเป็นคำถามพื้นๆ แต่คำตอบมีค่ามากๆค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...