ธรรมชาติของธรรม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ouam, 4 กรกฎาคม 2016.

แท็ก: แก้ไข
  1. ouam

    ouam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +285
    นามนั้นใช่เราเรียกหาได้ ธรรมชาตินั้นเป็นผู้กำหนด ใครเรียก ใครร้อง เราไม่เคยรู้ว่า จิตที่จับจ้องนั้น มองหาผู้เป็นใหญ่ในโลกันตร์ ว่าท่านทำอะไรอยู่ จึงปล่อยให้สัตว์นรกคอยเล่นงานคนดี ๆ ที่ทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นงานของแผ่นดิน งานทางด้านศาสนา งานที่ต้องรักษาพื้นโลก งานเกี่ยวกับสังคมโดยรวม (สังคมที่ต้องใช้พื้นที่บนโลกใบนี้ร่วมกัน) งานที่ต้องเก็บดวงจิต ดวงวิญญาณทุกดวง ในทุก ๆ 3 หมื่นปี พร้อมกับมาชำระล้างโลกและโลกันตร์ เพื่อให้สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของความคิดและประพฤติกรรม ในวาระโอกาสนี้ กาลเวลาได้มาถึงที่สุดของที่สุดแล้ว เหล่าหมู่มารทั้งหลายได้แสดงฤทธิ์ แสดงเดชกันจนหมดเปลือก ซึ่งคนในโลกส่วนใหญ่เฝ้าดูเฝ้าติดตาม แบบใจจดใจจ่อว่า หมู่มารเหล่านั้นจะจบลงเช่นไร

    เราผู้ถือกรรมเป็นเครื่องกำหนด "ทำสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น" เป็นเครื่องชี้ชัด เราเป็นผู้เปิดโลก-เปิดจักรวาล หรือผู้นำสารมาจากแดนสนธยา และจะเป็นผู้เปิดเผยทุกสิ่งในทุกมิติ ทั้งที่อยู่ในโลก และนอกโลกลงมายังพื้นพิภพ ทำให้สังคมโลกต้องยอมรับแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เราจะใช้พื้นที่โลก ที่เป็นแดนพุทธภูมิ เพื่อตัดสินระหว่างความดี - ความชั่ว (ผิด-ชอบ, ชั่ว-ดี) ผี เปรต อสูรกาย(ปอบ คือผู้มีวิชา แต่เอามาใช้ในทางที่ผิด) เทพ พรหม เทวะ ครุฑ นาค สมณะ ชี พราหมณ์ พระ และนิกาย ทุก ๆ นิกาย ในทุก ๆ สภาวะธรรม ซึ่งจุดสุดท้ายคือ การอวตาร

    วิถีแห่งการเกิด คือ แจ้ง วิถีแห่งการดับ คือ ปิดกั้น เมื่อการเกิดและดับมีอยู่จริง คนทุกคนคงต้องหาเหตุผล 2 สิ่งนี้ให้ได้ ถ้าหาเหตุผล 2 สิ่งนี้ไม่ได้ ก็ยังไม่ครบองค์รวม ก็จะไม่เห็นจิตในจิตได้อย่างแท้จริง ความคิดที่ติดลบ จะเป็นอุปสรรคในธรรมชาติของจิต แต่ถ้าความคิดที่เพิ่มพูล ด้วยหลักของธรรมชาติแล้ว จะเข้าถึงจิตที่เป็นภูมิขั้นสูง คือ เปิดใจรับทุกภาคส่วน หรือเรียกว่าองค์รวม

    สำหรับเราผู้อวตาร ความคิดย่อมไม่เป็นอุปสรรคที่จะแจ้งด้วยภูมิธรรม ซึ่งธรรมชาติของผู้อวตาร ย่อมมีจิตที่กว้างไกล ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ สุดรอบขอบจักรวาล โดยไม่เสียสติในขณะที่คิดและปฏิบัติ เพราะมีองค์ธรรมอยู่ล้อมรอบ รักษาจิตและกายนี้ไว้ ไม่ให้มารแทรก อีกทั้งยังตรงต่อหน้าที่ ไม่ออกนอกธรรม ไม่ตีความหมายแห่งธรรมเข้าข้างตนเอง ไม่ติดสุข หรือทุกข์นานเกินไป ไม่หลงยึดติดกับวัตถุ หรือบุคคลไม่ว่าความรัก-ความชัง ไม่ถือตัวถือตน ไม่อ่อนแอจนคนอื่น เหยียบย่ำได้ง่าย ๆ ไม่แข็งกร้าวจนคนอื่นเข้าไม่ถึง ไม่เคารพคนพาลสันดานหยาบ ไม่ดูหมิ่นคนจน ไม่ทอดทิ้งคนธรรม

    ในวาระจิต นอนก็คิด นั่งก็คิด กินก็คิด คิดทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับตนเอง และคนรอบข้าง (ดี-ชั่ว, รวย-จน, โง่-ฉลาด, สำนึกได้-สำนึกไม่ได้ ฯลฯ) ในใจนั้น ยังไม่หายสงสัยว่า ความคิดและการกระทำที่สวนทางกัน (ดีชั่วรู้หมด แต่อดทำไม่ได้) จะเกิดขึ้นกับบุคคลประเภทไหน ใช่นักการเมืองและพระภิกษุสงฆ์หรือไม่ แต่เมื่อใดที่มารใช้ฤทธิ์ ใช้มนต์ดำ ใช้บทสวด ใช้กำลังภายใน ธรรมมะครอบจักรวาล ที่เข้มข้น รุนแรง จะกำจัดหมู่มารได้ทันที แต่สิ่งที่มารส่วนใหญ่กลัวมากที่สุด คือ กฎหมายบ้านเมืองนะจ๊ะ สาธุกาล..อาเมน

    4 ก.ค.2559
     

แชร์หน้านี้

Loading...