เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232

    2616b826.jpg
    หลวงพ่อบอกว่า ปีใหม่นี้ ขอให้อธิษฐานไว้เสมอๆว่า

    "ขอคำว่า ไม่มี จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า"

    แล้วจะมีผลจริง ๆ

    ก่อนวันขึ้นปีใหม่ หลวงพ่อยังแนะนำให้อธิษฐานอย่างนี้เลยว่า "ขอความซวย
    จงหายไปกับปีเก่า และความรวย ความโชคดี จงมากับปีใหม่"

    ที่มาของคำอธิษฐานเป็นอย่างนี้.....

    คำอธิษฐานปีใหม่

    ผู้ถาม : ที่หลวงพ่อบอกว่า ให้นั่งหน้าพระพุทธรูปแล้วอธิษฐานว่า ความรวยจงปรากฏ มันเป็นอย่างไรครับ ?

    หลวงพ่อ : ล้อ "เจ้าขวัญ" มันว่า ถ้าอยากรวยก็เอาแบบนี้ซิ 5 ทุ่ม 45 นาทีใกล้ๆจะ 6 ทุ่มใช่ไหมเล่า ก็ไปนั่งหน้าพระพุทธรูป บูชาพระ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ เทวดา และพรหมทั้งหมด ครูบาอาจารย์ ผู้มีคุณทั้งหมด บูชาท่านขอลาภ

    ''ขอให้ความซวยทั้งหมด ความยากจน จงไปกับปีเก่า
    แล้วความรวย ความดี ความโชคดี จงมากับปีใหม่ ''

    หลังจากนั้นก็ภาวนาคาถาเงินล้านเรื่อยๆไป พอนาฬิกาตีเป๊ง ขึ้นปีใหม่

    "ขอให้ความซวย จงหายไปพร้อมกับปีเก่า ฉันต้องการความรวยจากปีใหม่"

    ผู้ถาม : อ๋อ หลวงพ่อพูดกับ ขวัญ เหรอ ?

    หลวงพ่อ : ใช่

    ผู้ถาม : แล้ว ลูกๆหลานๆ ที่ไม่ใช่ขวัญ จะได้ไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ก็มีขวัญนี่ ลองก้มหัวดู คนไหนไม่มีขวัญทำไม่ได้ ความจริงไม่ต้องรอดึกก็ได้ ถึงวัด ถึงบ้าน อาบน้ำ สวดมนต์ไหว้พระ ก็อธิษฐานก่อนนอนเลยก็ได้ ไม่ต้องรอถึงเวลานั้น


    คำอธิษฐานได้ผล


    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2531 นี้ ลูกได้ทำตามคำแนะนำของหลวงพ่อที่อธิษฐานว่า " ความซวยจงหมดไป พร้อมกับปีเก่า และขอความร่ำรวย จงมาพร้อมกับปีใหม่ 2532 นี้ " ปรากฏว่าวันนี้การค้าของลูกคล่องตัว ลูกอยู่ในโอวาท (แหม..นี่แกคงจะดีใจว่า ลูกอยู่ในโอวาทนะ) หากลูกจะอธิษฐานอย่างนี้ทุกคืนๆ ไป จะผิดกฏที่เทวดาเขาสงเคราะห์อยู่ในเวลานี้หรือเปล่าเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : ดีมาก ถ้าทำตามนั้นนะ จะดีมากเลย จะมีการทรงตัว เงินจะเหลือใช้ เอาทุกวันดีกว่า ไม่ใช่ทำวันเดียว

    ผู้ถาม : อ๋อ..ยิ่งว่าบ่อยๆ ยิ่งดีหรือครับ

    หลวงพ่อ : ใช่ ทำเป็นสมาธิแบบนั้น ก็ไม่ต้องใช้เวลาใกล้ 2 ยาม เวลาไหนก็ได้ที่เราเห็นสมควร ที่ว่าใกล้ 2 ยาม เพราะปีเก่าจะไป ปีใหม่จะมา เวลานี้เป็นเวลาของปีใหม่ ก็ใช้ได้ทุกเวลาตามที่ชอบใจ นั่นดีมากนะ ต่อไปจะรวยใหญ่ เมื่อทุกคนรวยใหญ่ ฉันก็สบายใจ สร้างวัดอีก 10 วัด (หัวเราะ)

    ผู้ถาม : นี่ก็เป็นผลดีแก่แม่บ้านนะ มีผัวอยู่ในโอวาท เอ..ถ้าผู้ชายว่าบ้าง ลูกเมียจะอยู่ในโอวาท หรือเปล่าครับ ?

    หลวงพ่อ : เราอยู่ในโอวาทเขา เขาก็อยู่ในโอวาทเรา " วันทโก ปฏิวันทนัง " ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ " ปูชา ลภเตปูชัง " ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ในเมื่อเราอยู่ในโอวาทเขา เขาก็อยู่ในโอวาทเรา


    (จากคอลัมภ์ "หลวงพ่อตอบปัญหา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 96 เดือนกุมภาพันธ์ 2532 หน้า 6-7)
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    49790.1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2021
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    ลพ.ยิ้ม.jpg

    พรปีใหม่

    ท่านสาธุชนทั้งหลายปีเก่าเคลื่อนไปปีใหม่เข้ามาแทนที่ เป็นอันว่าชีวิตของเราเก่าลง
    ไปอีก 365 วันและกำลังจะเก่าต่อไป ในที่สุดเราก็ตาย ความตายเป็นของเที่ยง แต่ทว่าชีวิตคือ ความเป็นอยู่ เป็นของไม่เที่ยง ถ้าชีวิตเป็นของเที่ยงมันก็ต้องไม่ตาย ในเมื่อความเกิดมีขึ้นมาแล้ว ก็มีความตายเป็นที่สุด จึงกล่าวว่า "ความตายเป็นของเที่ยง" ด้วยเราไม่มีโอกาสจะหลีกหนีมันได้

    เมื่อเราเกิดแล้วจะต้องตาย กรรมคือการกระทำในสมัยที่มีชีวิตอยู่มีความสำคัญมาก ถ้าเราสร้างกรรมสมัยที่มีชีวิตอยู่นี้ เป็นปัจจัยของความสุข เมื่อตายไปแล้ว ความสุขก็ตามไปด้วย ถ้ากรรมที่เราทำในสมัยที่มีชีวิตอยู่ เป็นปัจจัยของความเร่าร้อน เมื่อตายไปความเร่าร้อนก็ตามไปเผาผลาญอีก

    ฉะนั้น ก่อนที่จะทำอะไรลงไป ขอให้ทุกท่านใคร่ครวญเสียก่อนว่า การกระทำที่จะทำลงไปนั้น เป็นปัจจัยของความสุขหรือความทุกข์

    ถ้าเราทำแต่กรรมดี เมื่อมีชีวิตอยู่เราก็เป็นคนดี ถ้าตายไปเป็นผี ก็เป็นผีดีมีความสุข การทำดีเราทำอย่างไรจึงจะเป็นกรรมดี ความดีที่เราต้องการเหมือนกันก็คือ "ความสุข"

    การที่จะแสวงหาความสุขก็ต้องหาจุดความสงบเป็นต้นเหตุ ถ้าหาเหตุของความสุขไม่ได้ ทั้งนี้เพราะความสงบเป็นต้นเหตุของความสุข ต่อนี้ไปเรามาแสวงหาความสงบกันดูว่าอะไรที่เป็นปัจจัยของความสุข คือ ความสงบ

    ท่านบิดาของนางวิสาขาท่านสอนลูกของท่านก่อนที่จะไปอยู่กับสามี ท่านสอนไว้มากด้วยกัน ขอนำมากล่าวโดยย่อดังต่อไปนี้

    1. จงนั่งให้เบ็นสุข
    2. จงนอนให้เป็นสุข
    3. จงกินให้เป็นสุข
    4. ไฟในอย่านำออก
    5. ไฟนอกอย่านำเข้า
    6. เขาให้เราจึงให้
    7. เขาไม่ให้จงอย่าให้
    8 เขาให้หรือไม่ให้ก็ตามจงอย่าให้
    9. เขาให้หรือไม่ให้ก็ตามเราควรให้
    10. จงบูชาไฟในบ้าน

    ท่านสอนไว้ 10 ข้อ คำสอนของท่านธนัญชัยเศรษฐี บิดาของนางวิสาขา มีคำอธิบายอย่างนี้

    ข้อ 1 จงนั่งให้เป็นสุข ข้อนี้ต้องบวกยืนให้เป็นสุขเข้าไว้ด้วย การนั่งหรือยืนให้เป็นสุข ท่านอธิบายไว้อย่างนี้ ขณะที่บิดามารดาหรือสามีรับแขกอยู่ หรือทำการงานอยู่ หรือท่านยังตื่นอยู่ ควรนั่งอยู่ใกล้ๆ ไม่อยู่ห่างเกินไปพอท่านใช้เสียงปกติเรียกได้ยิน และนั่งหรือยืนไม่พ้นสายตาท่าน พอที่ท่านจะเห็นได้ง่าย

    ถ้าจำเป็นที่จะต้องนั่งหรือยืนอยู่กับท่าน จงอย่านั่งหรือยืนตรงหน้าท่าน จะเป็นการ
    บังหน้า ถ้ามีแขกผู้มาหาเขาจะหาว่าเราไร้มรรยาท อย่านั่งหรือยืนข้างหลังหรือตรงข้างซ้ายหรือขวาเกินไป ท่านจะต้องหันหน้ามาสั่งงานลำบาก อย่ายืนหรือนั่งข้างหลัง ท่านจะต้องหันหลังมาสั่งงานด้วยความลำบาก

    จงนั่งหรือยืนเฉียงหน้าท่านเล็กน้อย ไม่ตรงหน้า หรือตรงข้างเกินไปเพื่อความสะดวกในการรับใช้ จงอย่านั่งหรือยืนขวางทาง จะหาความสุขไม่ได้ ด้วยเมื่อมีคนจะต้องผ่านทางเราต้องขยับเขยื้อนเสมอ ไม่มีความสุข

    ข้อ 2 จงนอนให้เป็นสุข ก่อนนอนภาระอันใดที่จะต้องปฏิบัติกับสามี หรือบิดามารดา เช่น น้ำใช้ น้ำบริโภค หรือสิ่งจำเป็นที่ท่านจะต้องใช้ในเวลากลางคืน เตรียมไว้เพื่อท่านให้พร้อม แล้วจึงนอนจะได้ไม่ต้องลุกมาหาของตามความจำเป็นให้ท่าน เมื่อเรากำลังหลับสบาย

    ข้อ 3 จงกินให้เป็นสุข ก่อนที่เราจะกิน ควรจัดอาหารเพื่อสามีบิดามารดาให้เพียงพอเสียก่อนจึงกิน หรือกินเมื่อท่านเหล่านั้นกินเสร็จแล้วเป็นการกินที่เป็นสุข ไม่เดือดร้อนเพราะคำครหาว่ากันกิน

    ข้อ 4 ไฟในอย่านำออก หมายถึงเรื่องชั่วร้ายที่สามีหรือบิดามารดาทำผิดศีลธรรม กฎหมายหรือประเพณี รวมความว่า อย่านินทากันเองจะเป็นการสาวไส้ให้กากิน เมื่อทำอย่างนั้นเราเองก็จะหาความสุขไม่ได้ เพราะจะเกิดความแตกร้าวระหว่างเรากับสามีหรือบิดามารดา สมัยปัจจุบันเมื่อบ้านเมืองระส่ำระสาย จงเก็บความลับของประเทศไว้ อย่ามอบหมายความลับให้แก่ข้าศึก

    ข้อ 5 ไฟนอกอย่านำเข้า เมื่อทราบว่าใครเขานินทาสามี หรือบิดามารดา จงอย่านำมาบอกท่าน ด้วยจะทำให้ท่านไม่มีความสุข เพราะการนินทาว่าร้ายเป็นปกติของชาวโลกจะต้องประสบ จงเก็บไว้เป็นความลับ

    เว้นไว้แต่ถ้าทราบว่าคนคิดประทุษร้าย อย่างนี้ต้องบอกด่วน นินทากับทำร้ายไม่เหมือนกัน นินทา ได้แก่การแกล้งกล่าวหา การทำร้าย มีเจตนาสังหารหรือทำลายทรัพย์สิน

    ตามเหตุการณ์ปัจจุบัน ข้อนี้ก็ต้องไม่นำข้าศึกเข้าบ้าน คือไม่เห็นขี้ดีกว่าไส้ ไม่หวังผลสินจ้างจากข้าศึก นอกจากไม่นำข้าศึกเข้าบ้านแล้วช่วยกันสอดส่องดูการเคลื่อนไหวจากข้าศึก ทราบแล้วรีบแจ้งผู้รักษาความปลอดภัยของประเทศด่วน

    ข้อ 6 เขาให้เราจึงให้ ข้อนี้หมายความว่าเมื่อมีใครมายืมของใช้ เมื่อเสร็จกิจแล้ว เขานำมาส่งคืนตามสัญญา อย่างนี้ให้ยืมได้เสมอ ควรรวมการกู้ยืมเงินด้วย

    ข้อ 7 เขาไม่ให้จงอย่าให้ ข้อนี้มีความหมายตรงกันข้ามจากข้อ 6 เมื่อเขายืมไปแล้วไม่ส่งคืน คราวต่อไปมายืมอีกไม่ควรให้

    ข้อ 8 เขาให้หรือไม่ให้ก็ตามจงอย่าให้ ข้อนี้หมายถึงนินทาว่าร้ายชวนวิวาท เขาจะด่าว่านินทาเราหรือไม่ก็ตาม จะต้องไม่ด่าว่าตอบหรือแอบนินทาว่าร้าย จะทำให้ใจไม่สบาย

    ข้อ 9 เขาให้หรือไม่ให้ก็ตามเราควรให้ ข้อนี้ท่านหมายถึงการให้ทาน เป็นสังคหวัตถุ คือสงคราะห์คนหรือสัตว์ที่มีความลำบาก ควรให้เพื่อหวังการสงเคราะห์ ไม่ประสงค์การตอบแทนด้วยวัตถุและแรงงานแต่ประการใด

    ข้อ 10 จงบูชาไฟในบ้าน หมายถึงสามีหรือบิดามารดา ด้วยท่านเหล่านี้มีสภาพเหมือนไฟ ไฟถ้าเราใช้ถูกต้องก็มีประโยชน์มหาศาล ถ้าใช้ในทางเผาผลาญก็วอดวายในชั่วครู่ ฉะนั้น ควรรู้จักรักษาน้ำใจท่านไว้อย่าสร้างความขุ่นข้องหมองใจซึ่งกันและกัน ต่างก็จะมีความสุข

    ที่นำโอวาทของท่านธนัญชัย เศรษฐีบิดานางวิสาขาที่ท่านสอนลูกสาว เมื่อขณะที่จะไปอยู่กับสามีมาเป็นอนุสรณ์ชีวิต ที่พวกเรายังมีลมปราณเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงร่างกาย คอยรับใช้มาร คือ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศกรรมอยู่นี้ เพื่อป้องกันใจไม่ให้ทำตามบัญชาของกิเลสมากเกินไป

    เมื่อทุกคนทั้งหญิงหรือชาย นำปฏิปทานี้ไปปฏิบัติ ผลที่จะพึงได้รับก็คือ มีความสงบไม่เดือดร้อน เมื่อความสงบมีก็จะพบแต่ความสุข

    ที่กล่าวมานี้เป็นความสุขบนพื้นฐานของโลก ยังไม่ใช่สุขตลอดกาล ถ้าจะเอาสุขตลอดกาล ก็ต้องหวังสุขในนิพพาน สำหรับเรื่องนิพพานนี้จะขอยกไว้ ด้วยไม่ใช่สาธารณสุข เป็นความสุขที่จำกัดบุคคล

    ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ขอส่งความสุขมาให้ท่าน แม้ความสุขที่นำมาเป็นเครื่องบรรณาการนี้ เป็นสุขในมุมเล็กๆ คือ มีความสุขเฉพาะระหว่างครอบครัวก็ตาม แต่ถ้าทุกๆครอบครัวต่างก็มีปฏิปทาแสวงหาความสุขเหมือนกันแบบนี้ทุกครอบครัว คนทั้งประเทศหรือทั้งโลกต่างก็จะมีความสุขเสมอกัน เป็นอันว่า โลกนี้เป็นแดนสุขาวดี


    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 9 หน้า 3-7)



    DSC_0080.JPG
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    208137_138987509612043_2045467455_n.jpg

    การปลุกพระ

    ผู้ถาม : หนูขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า มีประโยชน์อย่างไรบ้างเกี่ยวกับการปลุกพระคะ ?

    หลวงพ่อ : ความจริงพระท่านตื่นอยู่แล้วนะ การเข้าพิธีปลุกพระนั้นเป็นพิธีกรรมก็มีประโยชน์ แต่ว่าบางทีก็เป็นพิธีขายเหมือนกัน แต่ไอ้ที่เขาทำมีประโยชน์ก็มี ที่เขาทำขายก็มีใช่ไหม

    ที่เรียกว่า ปลุกพระ ความจริงไม่ได้ปลุกหรอก เขาเรียกว่าอาราธนาพระหรืออาราธนาบารมีท่าน ความจริงใช้เวลาเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ แต่บางทีล่อกันทั้งคืนน่ะซิ ไอ้นี่เป็นนโยบายขาย นี่มันเรื่องของคน ให้คนเขานึกว่าแหม..ปลุกกันทั้งคืนเลย

    ปลุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ความจริงปลุกทั้งคืนนะ ไอ้พวกปลุกก็คือพวกปลุกพระสงฆ์หรอกนะ ดีไม่ดีนั่งหลับ ถ้าคนจัดงานโง่นะจึงจะประกาศแบบนั้น ถ้าคนจัดงานเพื่อผลประโยชน์จริงๆด้วยความฉลาดเขาไม่ประกาศแบบนั้น

    ตามปกติถ้าเข้าไป เขาจะนิมนต์รวดเดียว ถ้าท่านพอใจขนาดไหนก็เลิกได้ทันที อันนี้เขารีบทำ ทำรวมแล้วก็ทำแบ่ง ถ้าพวกบอกทั้งคืน องค์นี้กะหัวค่ำนะ องค์นี้กะสว่างนะ เสร็จ ไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งส่งเดช อย่างดีที่สุดตอนต้นน่ะหน่อยหนึ่ง ต่อไปก็ไม่มีอะไร นั่งหลับไปบ้าง เขาเห็นไม่เป็นเรื่องเขาไม่เอาด้วยหรอก

    ถ้าจะทำให้ดีต้องบอกผมขอรวดเดียวครับ เวลาเท่าไหร่เป็นเรื่องของท่าน ท่านจะเลิกเมื่อไรเป็นเรื่องของท่านผมไม่เกี่ยวนะ อย่างนี้ดี ก่อนที่จะลุกก็มีพระอยู่ 2 ประเภท คือพระฝ่ายวิชาการ นี่อาจจะต้องว่าคาถาเขาให้จบตามความพอใจ

    แต่ว่าพวกที่ได้ฌานสมาบัติชั้นสูง อันนี้เขาจะรอคำสั่งพระพุทธเจ้า เขาจะเลิกได้ต่อเมื่อพระพุทธเจ้าทรงบอกว่า เต็มแล้ว เลิกได้

    เวลาที่ท่านสั่งนี่ไม่แน่ บางที 5 นาที 10 นาที บางทีถึงชั่วโมงก็สุดแล้วแต่ท่าน ถ้าหากท่านไม่บอกว่า เต็ม เขาก็ยังไม่เลิก ถ้าถามว่าเสกยังไง ก็ต้องตามคำสั่งท่านให้ว่ายังไง แต่คาถาที่ให้ว่านี่ไม่เกิน 4 ตัว บางทีก็ 1 คำบ้าง 2 คำบ้าง แต่โดยมากไม่เกิน 4 ตัว บาง
    ทีทำไปท่านสั่งว่า ว่าคาถาบทนี้ไว้นะ พอมาถึงท่านก็เปลี่ยนให้ว่าอย่างนี้ไว้นะ ที่พระพุทธเจ้าทำนี่มันมีอยู่ 2 ประเภทนะ

    ***เป็นอันว่าการปลุกพระนี้มีประโยชน์แน่ แต่ว่าท่านซิได้พระแล้ว เอาไปทำประโยชน์บ้างหรือเปล่า เคยระลึกนึกถึงพระวันละกี่ครั้ง ถ้านึกถึงบ่อยๆมีประโชน์มากทีเดียวอย่างที่หลวงพ่อบอกว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน***

    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 9 หน้า 76-77)


    ลพ.รดน้ำอบผ่านแก้วจักรพรรดิ์.jpg
    1-14.jpg
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    DSC07402.0.jpg
    เคล็ดลับจะต้องอธิษฐานขอบารมีพระ


    มีตัวอย่างที่หลวงพ่อเล่าให้ฟังรุ่นที่แล้วอาจจะเล่าไปแล้ว ขอเล่าซ้ำ เพื่อจะเป็นประโยชน์ในการใช้ของ

    คือหลวงพ่อนี่ท่านเป็นนักเทศน์ สมัยก่อนไปเที่ยวที่ไหนไม่ได้ไปด้วยรถเหมือนสมัยนี้ คือจะต้องเดินทาง เดินกลางคืนบ้าง เดินตอนเย็นบ้าง เดินตอนเช้าบ้าง ไม่เป็นเวลา

    มีวันหนึ่งถ้าเสร็จก็ต้องเดินกลางคืน เพื่อจะไปเทศน์อีกวัดหนึ่ง เดินไประหว่างทางฝนตก ชาวบ้านก็เห็นว่าพระเดินมาเย็นแล้ว เห็นหนาว ก็นิมนต์ให้พักที่บ้าน บ้านโบราณเขามี 3 หลัง เจ้าของบ้านให้นอนหลังเดียวกับเจ้าของบ้าน อีก 2 หลังนั้นเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้นอน หลวงพ่อเวลานอนกลางคืน ขอเล่าลัด ๆ เลยนะ หลวงพ่อก็สงสัยเจ้าของบ้านทำไมไม่ให้นอน บ้าน 2 หลังนั้นก็ไม่มีคนนอน

    ตกกลางคืนท่านก็แอบไปนอน แอบไปนอนบ้านที่เขาไม่ให้นอน พอนอนเท่านั้นเองที่มันกวน พี่มันมารออยู่ที่ห้องท่าน 3 คน 3 ตัวก็แล้วกัน หลวงพ่อก็บอกไล่ไปๆ ข้าจะนอนมันก็ยังไม่ไป ไม่หนี พอไม่หนีท่านก็บอก ท่านก็ควักผ้ายันต์เกราะเพชรมาอธิษฐาน แล้วแกว่งไป 3 เที่ยว ผีหายออกไปหมดเลย คืนนั้นนอนหลับ

    ตื่นเช้ามา เจ้าของอยู่นอกบ้าน กลับมาไม่มีผีอยู่ที่บ้านเลย ผีหนีไปหมด เจ้าของบ้านก็ถามหลวงพ่อว่า ผีเขาไปไหนผีเขาไปไหน หลวงพ่อกำลังฉันข้าวอยู่ บอกแก นี่เมื่อคืนกวนฉัน เลยไล่ไปอยู่ข้างนอกเดี๋ยวมันก็กลับมา

    ทีนี้เราก็ถาม หลวงพ่อครับผ้ายันต์เกราะเพชรนี่สมัยหลวงปู่ปานหรือเปล่าครับ

    หลวงพ่อบอก สมัยหลวงปู่ปาน

    แล้วถามว่า สมัยนี้ยังใช้ได้อยู่หรือเปล่าครับ

    ท่านบอก ใช้ได้ ข้าไม่ได้ทำเองหรอกหลวงปู่ปานทำ

    มันอยู่ที่อธิษฐาน เอาผ้ายันต์มาอธิษฐาน นึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้า

    ทีนี้ใครมีของอยู่ ขอให้ติดตัวไว้ก็แล้วกัน อาจจะมีผีหลอกบ้าง ใช้อธิษฐาน

    คือเคล็ดลับจะต้องอธิษฐานขอบารมีพระนี่แหละ

    ขนาดผ้ายันต์อยู่ในตัวท่านยังหลอกได้ สมัยก่อนโบราณเขาเลี้ยงผีกัน เรียกว่าผีโรงอะไรนี่


    (จากคอลัมภ์ "จากคำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ เดือนมกราคม 2562 หน้า 27-30)

    1-19.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2024
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    54354.jpg 54357.jpg
    หลวงพ่อทนทรมานสอนเรา



    อย่างหลวงพ่อ เคยฟังท่านเทศน์ครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่า

    "สงสารพระพุทธเจ้าเหลือเกินที่ทรมานร่างกายอยู่ตั้งนาน ผมก็สงสารตัวผมเหมือนกัน ผมก็ทรมานร่างกายของผมอยู่นานเหมือนกันที่สอนคนแล้วไม่เอาถ่าน ผมเหนื่อย"

    ท่านเทศน์พูดออกมานี่ โอ้โฮ สะท้อนใจจริงๆ

    อันที่จริงหลวงพ่อเราสอนประคับประคองเราตลอด ไม่เคยใช้ลูกแข็งเลย ลูกให้กำลังใจทุกลูก ประคับประคองกำลังใจอย่างกับคนตั้งไข่จะเดิน ท่านประคับประคอง

    พอท่านปล่อยเดี่ยวเข้ามาอย่างนี้ โอโฮ ถึงจะรู้พระคุณท่านประคบประหงมเตาะแตะๆ ต้อนเล็กต้อนน้อยอยู่เรื่อย ให้กำลังใจ ถึงมีกิจกรรมโน่นนี่ทำอยู่เรื่อย ทั้งๆที่ร่างกาย
    ท่านก็ไม่ไหว แต่ก็ประคับประคองจนเราเข้มแข็งขึ้นพอเดินได้ ถึงต้องละไปตอนนี้

    ดร. ปริญญา : ไม่มีอะไรที่จะไม่สอน

    ท่านเจ้าคุณฯ : สอนหมดทุกอย่าง

    ตอนหลังนี่อยู่กับท่าน สมัยก่อนถ้าพูดเรื่องทิพจักขุญานต้องดูหน้าคนนะ ต้องดูหน้า เออ พูดได้ไหม พูดแล้วจะมีอะไรเกิดหรือเปล่า ต้องดู

    ตอนหลังนี่ท่านคุยหมดนี่ คุยแม้กระทั่งว่าตอนนี้เป็นยังไง ใครมาอยู่ข้างๆบ้าง จะฉีดยาใครคุมเข็มบ้าง หรือใครเป็นหัวหน้าอยู่ตอนนี้ บอกหมด

    จะป่วยท่านก็บอกเราตลอดนะ หมายความว่าเจ็บตรงนั้นเจ็บตรงนี้เล็กๆน้อย ท่านจะพูดในเทปก็เรื่องป่วยทั้งนั้น แต่ที่จริงนั้นท่านเจ็บมาก หลวงพ่อนี่พอออกปากนี่เจ็บมาก

    **************************************************************************************

    หลวงพ่อไข้ขึ้นสูง



    มีอยู่คราวที่เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนปัสสาวะไม่ออก เรากล้าละจับตัวท่าน "นันต์ แกลองจับตัวข้าดูซิคล้ายๆ มันร้อน"

    พอจับตัว อู้หูร้อนยังกับไฟ ท่านบอกคล้ายๆ มันร้อนนะ แต่ร้อนอย่างกับไฟ ก็เลยให้ หมออี๊ดวัดอุณหภูมิดู ก็ให้หมออี๊ดวัดปรอท

    หมออี๊ดบอก โอ้โฮ หลวงพี่อย่างนี้เด็กตายเลยนะ ความร้อนขนาดนี้นะ เด็กตาย


    หลวงพ่อนี่อดทนไม่ปริปากมารับแขก ทำไมหลวงพ่อถึงป่วยจะแย่ทำไมถึงไม่รู้เลย

    ท่าน (หลวงพ่อ) บอกว่า "ถ้าทำให้คนรู้ว่าป่วยนี่ คนมาเห็นก็จะเสียกำลังใจ เสียใจ กังวล ความแช่มชื่นของจิตก็จะไม่มี" ท่านจึงกลับไปหมดเลย

    ดร.ปริญญา : เรียกว่า ขันติบารมีเป็นเลิศ
    สัมพเกษี แปลว่า เลิศทุกอย่าง
    สัมพ สัพพแปลว่า ทุกอย่าง หรือ ทั้งหมด พูดแล้วก็คิดถึง

    ท่านเจ้าคุณฯ : คิดถึงแล้วพวกเราก็รวมตัวกันนะ เกาะเป็นกลุ่มได้พอสมควร ก็คงจะรักษาสมบัติที่หลวงพ่อสร้างไว้ได้

    งานที่วัดเราเป็นงานของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น หลวงพ่อจะทำงานตามพระพุทธเจ้าสั่ง ท่านจะสั่งหลวงพ่ออะไรนะ พูดแล้ว เอาแล้ว "ช่วยพ่อหน่อย ช่วยพ่ออีกสักอย่างนะ ลูกนะ" พระพุทธเจ้าสั่งหลวงพ่อให้ทำงานน่ะนะ โอ้โฮ พูดเพราะมาก เอาแล้ว พูดตรงนี้ไม่ไหวแล้ว ปีติ เดี๋ยว...


    ***ที่ท่านเจ้าคุณฯเล่ามานี้ก็คงได้เข้าใจอะไรอีกเยอะนะ***


    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 462 เดือนกันยายน 2562 หน้า 15-16)

    1195152.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2024
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    49900136_10157035881149329_3148113880102731776_n.jpg
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ


    หลวงพ่อคะ ใบคาถาเงินล้านที่มี "เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ" หมายความว่าอย่างไรคะ ?

    นั่นพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านบอกใหม่ท่านมาคืนแรกท่านบอก "เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ"
    แล้วเขียนเป็นตัวหนังสือ หนังสือสมัยท่านนะ

    ถามว่า ดียังไง ท่านบอก ว่าเย็นว่าเช้าเถอะดี ท่านว่าอย่างนั้นนะ แล้วก็ได้ยินแต่เสียงกับตัวหนังสือ

    รุ่งขึ้นอีกคืนจึงถาม ที่บอกเมื่อคืนนี้คือใคร ท่านปรากฎองค์ บอกฉันคือพระปัจเจกพุทธเจ้า และคาถานี่ต้องไม่แปลนะ แปลก็แปลไม่ออก คาถานี่เขาไม่แปลกัน

    "เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ" นี่แสดงว่าเป็นหัวใจ บทจริงๆต้องยาวกว่านี้ เข้ามาในหัวใจเลยท่านบอกว่าดี ก็หมดเรื่องกันไป ท่านบอกแค่นั้นก็ไม่ซักเพราะซักไม่ได้ ถ้าท่านบอกมากกว่านั้นท่านบอกเอง นี่ท่านไม่บอก

    "เวลาลูกว่าคาถาเงินล้าน ลูกก็ว่าตามนั้นไป"

    ดีๆๆว่าคาถาเงินล้าน ก็ว่าต่อไปเลยก็ได้ ขึ้นต้นก็ได้ คาถาเงินล้านนี่จริงๆ ท่านมาบอกหลายปีนะ คาถาวิระทะโยนี่ หลวงพ่อปานท่านบอกมาก่อนใช่ไหม แล้วต่อมามาที่วัดนี้ ที่วัดนี้สภาพเก่ามันไม่เป็นวัดแล้ว มีกุฏิที่อยู่ได้ก็เจ้าอาวาสหลังเดียว ก็บวงสรวงท่านก็มาบอกคาถาบทหนึ่ง บทต้น คู่ต้นนะ

    ต่อมาอีกปีหนึ่งบอกคาถาเงินแสน พอบอกคู่ต้น ก็ได้เงินเป็นหมื่น กฐินเวลานั้นได้เงินเป็นหมื่นก็มากแล้ว มาอีกปีท่านบอกคาถาเงินแสนนะ พอถึงกฐินได้เงินเป็นแสนจริงๆ เราต้องภาวนาไว้เรื่อยๆนะ

    ปีนั้นบังเอิญไปฉันที่วัดแก่นเหล็ก มีเจ้าอาวาสสักสิบองค์ อีกองค์หนึ่งท่านถามว่าท่านมหา ปีนี้ได้เท่าไร ที่วัดเขาได้วัดละหมื่นๆทั้งนั้น เลยบอกท่านได้สองแสนห้าครับ แล้วต่อมาอีกปีท่านบอกนี่คาถาเงินล้านนะ จวนจะเข้าถึงวิระทะโย คาถาเงินล้าน ไม่ได้บอกคราวเดียว

    แต่ว่าเมื่อก่อนห้ามบอกคนอื่น แล้วต่อมาเห็นท่าทางสถานการณ์มันเครียด เลยขออนุญาตท่าน ว่าให้ลูกหลานได้ไหม ท่านย่าก็ช่วย ย่าช่วยท่านก็อนุมัติ ท่านบอกว่าสุดแล้วแต่คนนะ คนที่รับไปมันไม่เท่ากัน ใช่ไหม กำลังใจไม่เท่ากัน

    มาระยะแรกจริงๆ ก็ออกไปไม่กี่วัน ก็มีคนมาขอเรียนที่นี่ มาจากที่ไหนล่ะ จังหวัดเลย บอกคุณไม่ต้องเรียนหรอก เขาแจกอยู่แล้ว คุณไปทำเป็นสมาธิด้วยนะ ตอนเช้าก็ว่าเรื่อยๆ ตอนว่างก็ว่าเรื่อยๆ

    อีกสักเดือนแกโทรศัพท์มาบอกได้ผลมหาศาลครับ เวลานี้ผมกับเมียไม่ต้องว่างแล้ว (หัวเราะ) ก็มีหลายรายเขาได้ผลนะ เขาต้องจริงจัง คือถ้าเราจริง ท่านก็จริงกับเราด้วย เราไม่จริง อย่างเทวดานี่เราแกล้งทำเป็นเคารพแต่ใจนึกไม่เคารพนี่ท่านรู้นะ เทวดาไม่ได้ดูมือ ท่านดูจิตเราจิตเคลื่อนไหวท่านทราบ

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 122 เมษายน 2534 หน้า 16-17)

    DSC06066.jpg DSC06067.jpg DSC06074.jpg DSC06073.jpg DSC06064.jpg
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    DSC_0074_1.jpg
    DSC_0077_1.jpg DSC_0078_1.jpg

    เหรียญพระพุทธประทานพร


    ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธ ปางประทานพร (นั่ง) ด้านหลังเป็นรูปยันต์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ออกเพื่อเป็นที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา วัดทองทรงธรรม จ. อยุธยา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2525

    พิธีพุทธาภิเษกจัดในระหว่างพิธีตัดลูกนิมิต
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) วัดสามพระยา เป็นประธานพิธี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ร่วมพิธีในครั้งนั้นด้วย

    เหรียญด้านบนเป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า นอกจากนี้ยังมีเนื้อโลหะลงดำ, ชุบทอง และ ชุบสีทองแดง


    11.jpg 13.jpg 14.jpg
    (ภาพข้อมูลด้านบนนำมาจากหนังสือรายงานผลการปฏิบัติงานของศูนย์สงเคราห์ผู้ยากจนในถิ่นธุรกันดาร ประจำปี 2525)
    12.jpg
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    1.Pzzr8Qcu9zqv8mzRvg-yslOt7kwFYBeC_MJ9ZZIT6RAs0SZM_yoRs-lK_g2nOV69 (1).jpg


    เรื่อง ตรุษจีน, ที่มาของโป๊ยเซียน

    ต่อนี้ไปจะนำเอาอานิสงส์แห่งการทำตรุษจีนของบรรดาชาวจีนทั้งหลายมากล่าวไว้ให้บรรดาท่านพุทธบริษัทได้รับทราบ

    ชาวจีนแต่โบราณนั้นความจริงก็นับถือพระพุทธศาสนา คำว่าศาสนาหรือศาสดาใดๆนี้ ไม่ว่าประเทศใดทั้งหมดจะถือศาสนาเป็นอย่างเดียวกันทั้งหมดก็หาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าย่อมเป็นที่ถูกใจของบุคคลบางประเภท บางท่านก็ชอบศาสดาองค์นี้ บางท่านก็ชอบศาสดาองค์นั้น

    ดูตัวอย่างในประเทศอินเดียเองก็มีศาสนาจริงๆ ก็เกือบร้อยศาสนา คำว่า ศาสนา แปลว่า คำสอน แสดงว่ามีคณาจารย์ผู้สอนเกือบร้อยลัทธิ ในประเทศจีนก็เช่นเดียวกัน ในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาทรงอุบัติขึ้น และก็พระพุทธศาสนาได้แผ่ขยายเข้าไปในเขตประเทศจีน ความจริงประเพณีเดิมของเขาก็มีอยู่ แต่ว่าศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมครูเข้าไปต่อเมื่อภายหลัง

    เราจะเห็นได้ว่าชาวจีนมักจะนิยมบูชารูปพระมหากัจจายนะ เขาถือว่าเป็นพระที่ประกอบด้วยลาภสักการะ มีความร่ำรวย และอีกประการหนึ่ง การทำวัตถุสิ่งของที่ปั้นขึ้นเป็นภาชนะมักจะมีรูปโป๊ยเซียน

    คำว่า เซียน นี่แปลว่า ผู้วิเศษ โป๊ย แปลว่า แปด


    โป๊ยเซียนแปลว่ามีผู้วิเศษ 8 ท่าน ก็ได้แก่อรหันต์ 8 ทิศ

    ฉะนั้นในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระธรรมสามิสรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีชีวิตอยู่ เมื่อพระองค์ใดได้สดับพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระบรมครูเป็นอรหันต์แล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ส่งไปประกาศพระศาสนาในทิศต่างๆ ในตอนต้นที่ยังมีพระน้อยอยู่ สมเด็จพระบรมครูก็ทรงแนะนำว่า

    "จงช่วยกันไปสอนคนละทิศคนละทาง แต่ทิศหนึ่งทางหนึ่งอย่าไปพร้อมกัน 2 องค์ให้แยกกันไป"

    ภายหลังเมื่อพระสาวกขององค์สมเด็จพระจอมไตรมีมาก ก็ย่อมไปอยู่ในแดนละหลายๆองค์ได้ อันแดนที่จะพึงทราบมาเท่าที่สังเกตได้

    คือแดนทางเหนือของประเทศไทยตั้งแต่จังหวัดลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ได้ทราบว่าเป็นแดนของ พระมหาโมคคัลลาน์

    ถ้าเลยเชียงใหม่ไปในเขตเชียงรายถึงเชียงตุง อันนี้เป็นแดนของ พระมหากัสสปะ

    เข้าไปในเขตประเทศจีนเป็นแดนของ พระมหากัจจายนะ ฉะนั้นสัญลักษณ์แห่งการบูชาพระของชาวจีนจึงมีรูปของพระมหากัจจายนะมาก

    ที่มาของโป๊ยเซียน


    และที่ชาวจีนมีรูปโป๊ยเซียน คืออรหันต์ 8 ทิศ นั่นก็หมายความว่า สมัยที่องค์สมเด็จพระธรรมสามิสรประกาศเขตให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรม เวลานี้เขาเรียกกันว่า อุโบสถ

    คำว่า อุโบสถ หรือที่ทำสังฆกรรม ก็หมายถึงว่า เป็นที่ประชุมของสงฆ์ ปรึกษาหารือกันหรือประกาศผลบางเหตุบางประการ อย่างนี้องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงกระทำขึ้น ให้พระอรหันต์ 8 องค์ไปยืนอยู่ใน 8 ทิศ และองค์สมเด็จพระธรรมสามิสรก็ทรงถามว่า

    "ที่นั่นใครยืนอยู่"

    พระที่ยืนอยู่ก็ตอบองค์สมเด็จพระบรมครูตามชื่อท่าน เช่น พระสารีบุตรยืนอยู่ท่านถามว่านั่นใคร พระสารีบุตรก็ตอบว่า นี่พระสารีบุตร พระเจ้าข้า

    สมเด็จพระบรมศาสดาก็ทรงถามว่า"ตรงนั้นมีอะไรเป็นนิมิต" หรือมีเครื่องหมายอะไรเป็นเครื่องกั้นเขต

    พระที่ยืนอยู่ก็ตอบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ว่า มีหินหรือต้นไม้ เป็นต้น

    เป็นอันว่าอาศัยที่องค์สมเด็จพระทศพลแนะนำบรรดาภิกษุสงฆ์ว่า ที่ๆควรจะทำสังฆกรรม ก็ให้ตั้งเขตประเภทนี้ไว้แล้วห้ามบุคคลอื่นไปยุ่งในเขตนั้น

    ขณะที่พระสงฆ์ประชุมกันเรียกว่า แดนสังฆกรรม เวลานี้เรียกว่า แดนอุโบสถ เพราะฝังลูกนิมิต

    นิมิต แปลว่า เครื่องหมายเป็นการกั้นเขต

    การที่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ทำครั้งแรกแบบนี้ ต่อไปบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายที่อยู่แยกกันไปในแดนไกลก็พากันกั้นเขตเช่นเดียวกับพระบรมโลกเชษฐ์ที่ตั้งไว้เป็นที่ประชุมสงฆ์

    ฉะนั้นอาศัยที่พระต้องยืนกั้นเขตหรือยืนรักษาเขตหรือชี้เขต 8 องค์ บรรดาชาวจีนจึงเรียกกันว่าโป๊ยเซียน แปลว่าผู้วิเศษ 8 ท่าน

    สมัยนั้นที่พระพุทธเจ้ากระทำก็มีพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอนุรุทธ พระมหากัจจายนะ พระอานนท์ เป็นต้น ซึ่งเป็นพระที่มีความสำคัญทั้งหมด

    นี่ว่ากันถึงว่าชาวจีนที่เขานับถือพระพุทธศาสนา แต่ว่าในขณะเดียวกันที่นับถือพระพุทธศาสนา เขาก็นับถือศาสนาอื่นมาก่อน ในเมื่อพระพุทธศาสนาเข้าไปแล้ว ศาสนาอื่นก็ยังถืออยู่ ฉะนั้นจึงรวมความว่า ในเขตที่ศาสนาขององค์สมเด็จพระบรมครูเข้าไปถึง ก็มีทั้งพระพุทธศาสนาด้วย มีทั้งศาสนาดั้งเดิมด้วย

    (จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม 19 หน้า 3-5)


    Pzzr8Qcu9zqv8mzRvg-ysuYNFrSwR7eh0Ku6PcUmZrs-kOkOmslZSMqAcrAqwFLY.jpg

    เหรียญรุ่นพลังทิพย์ ของ วัดมะทาย อ.มะขาม จังหวัดจันทบุรี

    ด้านนึงเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมและเทพโป๊ยเซียน อีกด้านเป็นรูปเทพไต่เสี่ยฮุกโจ้ว (เจ้าพ่อเห้งเจีย)

    เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุง แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญกฐินกับวัดมะทายปี 2558
     
  10. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะครับ… ขอให้พี่วรรณและครอบครัว และทุกๆท่านที่เข้ามาโพสต์เผยแพร่เรื่องราวดีๆในกระทู้นี้และติดตามอ่านกระทู้นี้มีสุขภาพแข็งแรง สุขสมหวังดังตั้งใจทุกประการ มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นทั้งในทางโลกและทางธรรมครับ
    บุญรักษาครับ
    (^__^)

    ปล. ขอขอบพระคุณพี่วรรณอีกครั้งที่เมตตาช่วยชี้แนะให้คำแนะนำดีๆในเรื่องพระเครื่องและวัตถุมงคลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ โดยเฉพาะ พระผงรุ่นที่ระลึกครบรอบ 100 วันหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมรณภาพ (6 ก.พ. 36) ครับ… ผมอาราธนาใส่ห้อยคอโดยตลอดตามแบบที่พี่วรรณได้กรุณาแนะนำผมครับ (^__^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2021
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    138559.jpg

    สาธุ ขอบคุณนะครับคุณ Ray
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    เปิดดูไฟล์ 5568592
    _02perfect.jpg

    เรื่อง ภาพถ่ายหลวงพ่อ

    ยกทรง : มีโยมเขาถาม 2 ข้อ

    ข้อที่ 1 ถามว่าภาพถ่ายหลวงพ่อรูปสุดท้ายในชุดรวมคำสอนเล่ม 3 เป็นที่น่าอัศจรรย์
    มาก อยากอาราธนาให้ท่านเจ้าอาวาสเล่าเรื่องภาพนี้สักหน่อยเถอะครับ

    ท่านเจ้าคุณฯ : อ๋อ ที่มีรูปแสงน่ะนะ

    ยกทรง : คล้ายๆ มีรูปพระพุทธรูปคลุมองค์หลวงพ่อ อะไรนี่

    ท่านเจ้าคุณฯ : รูปพระพุทธอยู่ในอกอะไรนี่นะ

    ยกทรง : รูปพระพุทธปะหน้าหลวงพ่อ เป็นภาพสุดท้ายในเล่มนั้นน่ะ แสดงว่าเจ้าอาวาสเคยดูแล้ว

    ท่านเจ้าคุณฯ : ดูแล้ว แต่ว่าคนถ่ายเขาก็พูดเหมือนกัน ของพรรค์นี้นี่เคยมีคนมาถาม ภาพมหัศจรรย์แปลกๆอะไรอย่างนี้

    หลวงพ่อก็บอก พุทธานุภาพ เราจะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรไปไม่ได้ มันเกี่ยวกับพุทธานุภาพ บารมีของพระพุทธเจ้านี่ เราจะว่าเท่านั้นเท่านี้ก็ไม่ได้ แล้วแต่ท่านจะเมตตานี่

    ถ้าเราไปคุย...คุยกับพวกเราคุยกันได้นะ แต่ถ้าไปคุยนอกวง (เขาก็จะบอก) เฮ้ย.. ภาพอย่างนี้ใครก็ทำได้ อยากจะนั่นนี่ อยากจะมีชื่อเสียงไปอย่างนั้นไปซะ เราก็ เออ..อย่าไปคุยเลย เราก็รู้ ก็รู้เฉพาะพวกเรา นี่พุทธานุภาพนี่

    ยกทรง : ดีไม่ดีปรามาสไปเลยนะ

    ท่านเจ้าคุณฯ : ปรามาสไป ใครก็ทำได้อยากจะมาให้กราบ ใครนะถาม ศพหลวง
    พ่อเป็นอย่างไร ถ้าไม่เต็มที่เราก็จะไม่บอกหรอก ก็จะปล่อย เดี๋ยวจะหาว่า มันอยู่เฉยๆ ไม่ชอบ มันอยากจะดัง เจ้าอาวาสมันอยากจะดังคุยโม้ไปเรื่อย

    เออ เสียเวลา ก็ปล่อยให้เป็นเองไปตามธรรมชาติก็แล้วกัน แต่มีอะไรก็ค่อยว่าทีหลัง คือจะไม่พูดนำไปก่อน จะเป็นอย่างนั้นเอง ให้เป็นซะก่อน เป็นมากหรืออะไรสามารถจะให้คนดูได้ อะไรอย่างนี้ จะไปส่องดูไปเจอแล้วมาคุยมาก อย่างนี้เขาจะหาว่าเราโฆษณา คนที่อยากตกนรกมีอยู่ เราก็ไม่อยากจะส่งเสริมเขา

    ยกทรง : ตกลงภาพนี้ก็เรื่องของพุทธานุภาพ

    ท่านเจ้าคุณฯ : พุทธานุภาพ สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ก็ถามนี่ มีภาพอะไรพิเศษอะไร
    อย่างนี้ (หลวงพ่อ) บอกพุทธานุภาพ ประมาณอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ หาประมาณไม่ได้อยู่แล้ว แล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์อะไรอย่างนี้

    เรานี่เราเห็นว่าเกิดอย่างนี้ คนถ่ายเองปีติยิ่งกว่าเราอีก โอ้โฮ เราไม่ได้แต่ง มาได้ยังไง อะไรอย่างนี้ กำลังใจของคนที่ทำนี่มีอยู่

    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 479 เดือนกุมภาพันธ์ 2564 หน้า 27-28)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2024
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    ถูกต้อง.jpg

    บนพระคำข้าว

    ท่านเจ้าคุณฯ : อันที่จริงที่แก้บน เมื่อตะกี้นี้ด็อกเตอร์ถาม หลวงพ่อท่านให้บนพระคำข้าวนี่แหละ

    พระมหาลาภนี่ที่เขาใช้ได้ผลก็มีอยู่ ตามกำลังที่ท่านจะช่วยได้นะ เพราะว่าพระมหาลาภนี่พระที่เกี่ยวกับค้าขายทำมาหากินโดยเฉพาะเลยนี่

    ยกทรง : มหาลาภรุ่นแรกหรือรุ่นปัจจุบันครับ

    ท่านเจ้าคุณฯ : รุ่นแรก รุ่น 1 รุ่น 2 ใช้ได้ทั้งนั้น ที่หลวงพ่อทำน่ะนะ

    ยกทรง : แล้วรุ่นปัจจุบันล่าสุดนี่ก็...

    ท่านเจ้าคุณฯ : ก็มีเชื้อบ้าง มีเชื้อ บางคนก็ถามว่า เอ๊ะ จะต้องสวดบทไหน

    มีคนจีนที่อุทัยฯ แต่เช้ามาก็จับพระคำข้าว หลวงพ่อช่วยขายให้ขายดีๆ เขาก็พูดแค่นั้น เขาก็ขายก๋วยเตี๋ยวโล๊ะไปหมด ไม่เห็นพูดอะไรมาก จับพระมาก็เรียกหลวงพ่อ

    ยกทรง : คำถามที่ว่าขายของไม่ดีบนบานศาลกล่าวไม่ประสบความสำเร็จน่ะนะ พอ
    ฟังท่านพระครูฯบอกแล้วคือว่า ให้อธิษฐานพระคำข้าว ตามที่จะมีประโยชน์เหรอครับ


    ท่านเจ้าคุณฯ : ใช่ เพราะว่าก่อนจะทำพระคำข้าวนี่ ไม่ใช่เหมือนเอาผงอื่นๆมาทำธรรมดา ก็ต้องชิมอาหารที่มีรสอร่อย (ถ้าอร่อยเอาแยกออก) แล้วตากเป็นผง อย่าง
    นี้ 3 เดือน พอตากเป็นผงแล้วก็ทำพิธีอีก

    สมัยหลวงปู่ปานยังมีชีวิตอยู่ท่านเคยทำอยู่ หลวงพ่อท่านก็ไม่เชื่อ อยากจะลอง
    ว่า เอ๊ะ ท่านบอกถ้ามีความทุกข์ยากอดอยาก ก็ให้ไปจุดธูปบอกพระมหาลาภองค์นี้

    พอจะอดบ้างเล็กน้อยหลวงพ่อก็ไปลองเลย ไปลองขอท่าน ก็มีเจ้าภาพทางบ้านแพนทำอาหารมาให้หม้อใหญ่เลย

    หลวงพ่อก็บอก เออ เป็นของที่จริง หลวงปู่ปานก็มาตำหนิ ท่านบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าไปทำอย่างนี้ ต้องให้มันอดซะก่อน นี่แกลองนี่ แสดงว่าปรามาสพระรัตนตรัย

    ปกติหลวงพ่อก็ให้ไว้ทุกอย่างแล้ว คาถาก็ให้ไว้แล้ว พระคำข้าวก็ให้ไว้แล้ว บาตรวิระทะโยเป็นทานบารมีก็ให้ไว้แล้ว

    ท่องคาถาที่จะท่องมีผลจริงๆต้องมีฌาน เป็นฌานนี่ ท่องแค่จบ 2 จบแล้วก็หายไป 20-30 วันจะมาท่องอีกสักทีหนึ่ง อย่างนี้จะหวังจะรวยยาก

    ท่องจนจิตมันขึ้นมาเองในจิต นี่สังเกตดูเขาท่องมีผล ลองคุยกับเขาดูสิ มันจะผุดขึ้นมาในใจเลย ไม่ต้องเตือนภาวนา มันจะนึกอยากภาวนาของมันเองตลอด ตรงนี้ผลจะเกิดเลย รับรองได้ด้วย ถามหลายคนแล้วจะเป็นอย่างนี้

    อย่างจ่าปัญญา (เล่าให้ฟัง) ว่า ภาวนาจบมันก็อยากจะรวยเท่านั้น อีก 7 วัน 8 วันเจออีกสักจบ มันก็ โอ้โฮ ไม่เห็นขลังสักที

    มันต้องเป็นฌานถึงจะมีผล ท่องจนขึ้นใจอย่างนี้ ต้องขึ้นใจ สังเกตดูที่เขาทำมีผลลองไปคุยกับเขาดู เขาบอก โอ้โฮ (ภาวนา) มันขึ้นมาเอง ใจมันภาวนาขึ้นมาเองเลย ไม่ต้องเตือน

    ยกทรง : อย่างนี้ถึงจะมีผล

    ท่านเจ้าคุณฯ : ใช่

    (จากคอลัมภ์ "ท่านเจ้าคุณฯสนทนา" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 479 เดือนกุมภาพันธ์ 2564 หน้า 29-30)


    หลวงพ่อทำพิธีฯพระคำข้าวรุ่น 1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2021
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    ใหม่เก่า.jpg


    ภาพซ้ายมือจะเป็นสติกเกอร์รุ่นเก่าสมัยหลวงพ่อ ขวามือจะเป็นรุ่นใหม่สมัยหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ

    สังเกตุว่าคาถาเงินล้านตรงคำว่า "มานีมามะ" จะพิมพ์ผิดเป็น "มานีมานะ" ในสติกเกอร์รุ่นใหม่
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    0001 (14).jpg

    ตรุษจีนถวายสังฆทาน

    ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตรุษจีนปีนี้ลูกเป็นคนอกตัญญูเสียแล้วเจ้าค่ะ คือตรุษจีนทุกปี ลูกจะต้องซื้อหมู เห็ด เป็ด ไก่ ไหว้ศาลเจ้าด้วย

    มาปีนี้ขออกตัญญูสักครั้งหนึ่งเปลี่ยนมาเป็นถวายสังฆทานแทน แล้วเชิญเจ้าที่ เชิญศาลเจ้าต่างๆมาโมทนา

    ไม่ทราบว่าท่านจะยินดีด้วยหรือว่าโมโหเพราะไม่ได้กินเป็ดไก่เจ้าคะ

    หลวงพ่อ : เดี๋ยวฉันขอพูดต่อจากลุงนะ (ลุงพุฒิ) ลุงท่านบอกว่าอย่างนี้ เขาเรียก มหากตัญญู

    กตัญญูอย่างใหญ่คือให้บุญไงล่ะ เทวดาทั้งหมดเขาต้องการบุญ ไอ้หมูเห็ดเป็ดไก่เขาไม่ได้กิน แต่ว่าที่ทำไปแล้วก็ไม่ผิดเพราะเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณ แต่ว่าที่ทำโดยถวายสังฆทาน ตัวเองก็มีอานิสงส์มาก น่าจะรวย และคนที่ตายไปแล้ว เทวดาหรือเจ้าเขาโมทนาเข้า ทิพยสมบัติก็ดีขึ้นสูงขึ้น ต่างคนต่างดี

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 97 มีนาคม 2532 หน้า 10)

    5201308.jpg
    ทำสังฆทานแทนไหว้วันตรุษจีน

    ลูกศิษย์ : กราบเรียนถามหลวงพ่อ คือที่หนูทำสังฆทาน แต่ที่นี้ผู้คนส่วนใหญ่ เขาบอกให้หนูไหว้วันตรุษจีน ให้พวกที่ปล่อยผืออกมานี่ ก็ทำไหว้กลางแจ้ง หนูก็ทำอยู่สัก 3-4 ปี เพราะตอนหลังนี่ แหม มันยุ่งเหลือเกิน หนูก็เลยมาเปลี่ยนเป็นมาทำสังฆทานให้เขา แต่ไม่ได้ทำวันตรุษจีน แต่ทำก่อนคงไม่เป็นไรนะคะ

    หลวงพ่อ : ปัทโธ่เขาไม่ปล่อยมาวันเดียวหรอกจ่ายล่วงหน้าน่ะดี อย่างเงินเดือนออกวันที่ 30 จ่ายตั้งแต่วันที่ 15 ละชอบไหม

    ลูกศิษย์ : ไม่เป็นไรนะคะ

    หลวงพ่อ : ไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าอันนี้เข้าใจกันไปเอง เข้าใจกันไปเองว่าต้องวันนั้นวันนี้ปล่อยผีมา อย่างของเราพอถึงวันสาร์ทวันสาร์ทไทยปล่อยผี

    ลูกศิษย์ : แล้วเราไปนั่งทำกับข้าวนี่เขาก็ไม่ได้กิน

    หลวงพ่อ : ไม่ได้กินหรอก

    ลูกศิษย์ : เราก็ทำบุญ ทำสังฆทานให้เขาก็ได้

    หลวงพ่อ : คือว่าจะเป็นแบบ หมอทองคำ ที่ พิจิตร แกไม่มีพ่อ มีแต่เตี่ย เตี่ยตายไปแล้วก็ทำแต่กงเต็ก ทำตึก ทำร้าน มีรถ มีธนบัตร แล้วก็เตี่ยแกก็เป็นคนไหว้พระ แกเจอฉันอยู่เสมอ ไม่ถึง 10 วันหรอกเดี่ยมาอีหนู ไอ้แบ็งค์ขี้เถ้าของมึงนี่ ติดขี้เถ้าแล้วจะไปใช้อย่างไรวะ กูใช้ไม่ได้หรอก เราก็เลยถามท่าน แล้วจะทำอย่างไร ก็ไปเข้าฝันไว้ชัดเจนเลย ถวายสังฆทานซิลูก ถาม เดี่ยมีทุกข์เหรอ กูไม่ทุกข์หรอก ได้นี่ก็สบายมากขึ้น ที่เจ้าทำน่ะไม่เสียเปล่าหรอก ทีหลังแกก็มาถาม วิ่งไปถามที่วัด เราก็บอก ถวายสังฆทานที่ไหนก็ได้ สังฆทานนี่เป็นบุญแกก็ไม่ยอมจะถวายที่วัด

    ลูกศิษย์ : อย่างนี้แกก็ต้องซื้อกระดาษเงินกระดาษทองทำบุญ แล้วก็แพงด้วย

    หลวงพ่อ : แพง ไปส่งขี้เถ้าให้ผี

    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 8 หน้า 486)
     
  16. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    เนื่องในเทศกาลตรุษจีน… ขอให้พี่วรรณและครอบครัว และทุกๆท่านที่เข้ามาโพสต์เผยแพร่เรื่องราวดีๆในกระทู้นี้และติดตามอ่านกระทู้นี้สุขสมหวังในทุกสิ่ง สุขภาพแข็งแรง มีความสิริมงคลในทุกเรื่อง มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นทั้งในทางโลกและทางธรรม มีความโชคดีตลอดปีและตลอดไปเทอญ … บุญรักษาครับ (^__^)

    3.PNG


    ขอบพระคุณพี่วรรณอีกครั้งครับสำหรับข้อมูลและคำแนะนำดีๆที่น่าสนใจมากๆ ในเรื่องพระเครื่องและวัตถุมงคลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    รักและนับถือพี่วรรณครับ
    Ray


    ปล. พระผงรุ่นที่ระลึกครบรอบ 100 วันหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมรณภาพ (6 ก.พ. 36) อ้างอิงจากโพสต์ #801 นี่ตั้งแต่ผมได้เช่ามาบูชาจากคำแนะนำที่พี่วรรณได้เมตตาแนะนำผมนี่… เวลาผมนำมากำพนมแล้วสวดมนต์อาราธนาหรือใช้ในการทำกรรมฐานนี่ผมรู้สึกสัมผัสได้ถึงกระแสพลังบางอย่างที่ไม่ธรรมดาครับ “ของดีราคาตอนนี้หลักร้อย แต่ มวลสาร และ พุทธคุณหลักร้อยล้านครับ” (^__^) ลูกหลานทุกๆคนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดําจำเป็นต้องมีครับรุ่นนี้… เชื่อผมครับพี่น้องครับ (^_^)

    2.PNG
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    1610878879.jpg

    ขอบคุณครับคุณ Ray

    ขอพรนี้มีแก่คุณ Ray และครอบครับด้วยเช่นกันครับ



    138557.jpg

    ขอโมทนาบุญในการปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯด้วยนะครับ
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232
    IMG20210219143218.jpg

    เรื่อง แก้วมณีรัตนะปราบผี
    1.jpg

    2.jpg 3.jpg 4.jpg 5.jpg 6.jpg 7.jpg 8.jpg 9.jpg 10.jpg
    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 22 หน้า 216-225)

    ***เรื่องแก้วมณีรัตนะปราบผี ด้านบนนำมาจาก E-Book ของเวบวัดท่าซุง ท่านสามารถหาอ่านธรรมเรื่องต่างๆได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ

    http://www.thasungmedia.com/wat/puy/ebook/index-newbook-59.php

    IMG20210219142956.jpg
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    52
    ค่าพลัง:
    +225,232


    หลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯสวดให้พรที่บ้าน พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,149
    ค่าพลัง:
    +21,318


    นำมาฝากวันมาฆบูชาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...