บันทึกลับบุรุษนิรนาม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Tiger Dear's, 31 ตุลาคม 2020.

  1. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +301
    นทึกลับบุรุษนิรนาม

    ๒๐ ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เรื่องราวที่จะแบ่งปันและนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงจากโชคชะตาที่ชอบเล่นตลกกับผู้คนเสมอ โดยเฉพาะกับตัวผมเอง จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องดี บางทีเรื่องนี้ผู้ที่เล่นตลกกับชีวิตของผมอาจเป็นผมเอง มันอาจเริ่มต้นขึ้นมานานมากแล้ว อาจเป็นผมในภพชาติที่ผ่านๆมา แต่อย่างไรก็ตาม ผมทราบดีว่านี่ไม่ใช่จุดจบ ผมยังมีอนาคต ยังมีเวลา และผมก็มีเพียงแค่นี้ ผมไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะรับฟัง สิ่งที่ผมอยากพูด แน่นอนว่าเพื่อนคู่คิดของผมก็มีเพียงเสียงจากหัวใจของผมนั่นเอง แม้แต่คนที่ใกล้ชิต เช่นคนในครอบครัว ผมก็ไม่อาจที่จะเอ่ยปากบอกกับเค้าได้เลย สิ่งที่ผมสูญเสียไปในอดีตอาจมีค่ามากกว่าสิ่งใด ๆในชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ผมศรัทธา ผมไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งที่ผมศรัทธานั้นจะต้องยิ่งใหญ่ แต่นั่นแหละ มันยิ่งใหญ่ และหนทางก็ยาวไกลมาก สำหรับผมเมื่อสมัย ๒๐ ปีก่อนนั้นผมเคยสำคัญตนว่าเป็นตนเองจะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต แต่ ปัจจุบันผมไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเป็นบุคคลสำคัญอีกต่อไป ไม่เหมือนสมัยเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น วันวานที่ผ่านมาผมเคยเดินจากลูกน้อย และครอบครัว โดยไม่เคยให้ใครเห็นน้ำตา ผมรู้ว่าเค้าเหล่านั้นต้องลำบากมากเพียงใดหากขาดผมไปสักคน เสียงลูกน้อยของผมสะอื้นตอนผมเดินจากมา เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแกร่ง แม้เธอจะเพิ่งเริ่มที่จะหัดพูดเท่านั้น เธอมีเพียงน้ำตาและเสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นมันเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ผมเดินจากมาอย่างช้า ๆ และนั่นเป็นภาพที่สะเทือนใจผมมาจนถึงปัจจุบัน แต่ผมก็ไม่อาจที่จะเดินกลับไปหาลูกน้อยของผมได้อีกในเวลานั้น เพราะผมเองก็ไม่มั่นใจว่าผมจะมีความกล้าพอที่จะเดินจากลูกน้อยของผมไปเป็นครั้งที่สองได้หรือไม่ แล้วในที่สุดผมก็จากมา ครอบครัวที่อบอุ่นคือสิ่งแรกที่ผมปรารถนามาแต่วัยเยาว์ ผมเฝ้าถามตัวเองว่ามันคุ้มค่าหรือไม่จนถึงทุกวันนี้ วันนี้ความศรัทธาของผมเริ่มสั่นไหว ไม่ใช้เพราะสิ่งที่เสียไป หรือสิ่งใด ๆ ที่ได้มา ผมพบกับความจริงว่าแม้ผมจะทุ่มเทแรงกายแรงใจมากสักเท่าใด ผมก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ หากผมยังไม่กล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ผมเคยพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองหลายครั้งจนสำเร็จแล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ แล้วสุดท้ายวันนี้แม้ศรัทธาของผมจะแรงกล้าสักเท่าใด แต่สุดท้ายผมก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาบ้าง ผมไม่อาจที่จะป่าวประกาศให้ใครรับรู้ได้ว่าผมคือผู้ให้อย่างแท้จริง ถึงแม้นว่าผมจะเป็นเพียงบัณฑิตตกยากคนหนึ่งที่ไม่มีใครใส่ใจ หรือให้ความสำคัญ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่สำคัญอะไร ถึงเขาเหล่านั้นจะเคยสบประมาทผมบ้างในบางครั้ง แม้ว่าจะบ่อยครั้งก็ตาม นั่นไม่ใช่ความผิดของเขา ความผิดทั้งหมดอาจเกิดจากตัวผม ที่ไม่สามารถอธิบายให้เขาเหล่านั้นเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของผม กระบวนการทางความคิดทั้งหมดนั้นผมตระหนักชัดแล้วว่าควรที่จะเปิดเผยออกไปให้มันจบๆไปเสียที เพราะเวลาของผมในโลกใบนี้นั้นเหลือน้อยลงทุกวัน และเชื่อว่าหากวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เมื่อผมต้องกลับมาบนโลกใบนี้อีกครั้ง โลกใบนี้อาจจะน่าอยู่มากกว่านี้ ด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ ผมเชื่อว่ามันคุ้มค่ากับทุกสิ่งที่ผมเคยสูญเสียไปในอดีต และไม่ใช่กับสิ่งที่ผมพลาดไป ผมจะไม่ยอมใช้คำนั้น เพราะผมไม่เคยพลาดกับสิ่งใด ๆที่ผมศรัทธา และเชื่อมั่น นั่นคือสิ่งที่ผมอยากประกาศให้ใครสักคนได้รับรู้ ผมสามารถที่จะเรียนรู้ ผมสามารถที่เข้าใจ แต่ผมไม่สามารถที่จะป่าวประกาศบอกใครได้ ผมไม่สามารถที่จะเชิญชวนให้ใครมารับรู้ หรือเข้าใจ กระบวนการทางความคิดทั้งหมดของผมได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมไม่รู้เลยว่าควรเริ่มต้นด้วยคำพูดประโยคแรกว่าอะไรด้วยซ้ำ หลายต่อหลายครั้งที่ผมได้พยายามเริ่มต้นบทสนทนากับคนแปลกหน้าด้วยเรื่องง่ายๆ แต่ด้วยความสามารถทางสติปัญญาของเขาเหล่านั้น อาจคาดคิดไม่ถึง และทุกครั้งผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกันก็คือ การถูกสบประมาทด้วยวาจาที่เสียดแทง ทั้งที่เขาเหล่านั้นยังไม่ได้เข้าสู่เนื้อหาสาระในเชิงวิทยาศาสตร์ที่ผมพยายามอธิบายด้วยความหวังเพียงน้อยนิด ที่จะพยายามอธิบายให้เขาเหล่านั้นได้รับรู้ และสามารถที่จะเป็นตัวแทนของผม หากผมเกิดเสียชีวิตไปเสียก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วง โดยมากผมจะเริ่มต้นด้วยเรื่องที่ง่ายดายที่สุด และรวบรัดโดยตัดประเด็นที่ไม่สำคัญทิ้งไปเสียด้วยซ้ำ ผมต้องฝึกพูดซ้ำไปซ้ำมา ฟังเสียงที่ถูกบันทึกไว้ซ้ำไปซ้ำมา จนแน่ใจว่าจะไม่เกิดการผิดพลาดในการสื่อสารออกมา จนมั่นใจว่าสามารถอธิบายโดยใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยการแก้ไขสมมุติฐานที่นักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน เชื่อว่าสิ่งนั้นคือความเป็นจริง เพราะไม่มีผู้ใดเข้าใจถึงกระบวนการทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น จึงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ปิดกั้นความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญคือ เรื่องที่เชื่อว่าสมมุติฐานของตนถูกต้อง เพราะเป็นที่ยอมรับจากสังคม ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และเพราะสมมุติฐานเหล่านั้นผิดพลาดอย่างเช่นเรื่องที่เป็นที่ยอมรับ และยังบรรจุลงในหลักสูตรการเรียนการสอน ว่าต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตเกิดจากมหาสมุทร และวิวัฒนาการจนเป็นชีวิตชั้นสูงในปัจจุบัน นี่ทำให้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติถูกบิดเบือน ในอดีตผมเองก็เคยมีความสงสัยในเรื่องนี้ แต่ในที่สุดผมถามตนเองว่าแล้วน้ำมาจากไหน จนทราบคำตอบด้วยความบังเอิญ ว่าน้ำมาจากความชื้นในอากาศ เพราะแรกเริ่มเมื่อโลกถือกำเนิดขึ้นมีแต่ความร้อน จะมีน้ำได้อย่างไร ส่วนอุณหภูมิที่มีทั้งความร้อนและความเย็น เพราะมีสิ่งเป็นู้มีชีวิตขนาดเล็กได้สร้างออกซิเจน และมีเทน โดยกระบวนการสังเคราะห์แสง ความชื้นในอากาศจึงเกิดการรวมตัวเป็นน้ำ ในสถานะที่แตกต่างกัน ตามองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ตามเหตุตามปัจจัย และผมเชื่อว่ามีชีวิตขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ในขณะนี้ และยังไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนว่าน้ำมาจากไหน ผมได้ศึกษาด้วยตนเอง จากความผิดพลาดของเขาเหล่านั้น โดยใช้สมองของผมเป็นห้องทดลองศึกษาต่อยอดจนเข้าใจถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสนามแม่เหล็กโลกในที่สุด ซึ้งนักวิชาการกล่าวว่าเป็นปัญหาโลกร้อน ซึ้งแท้ที่จริงแล้วโลกไม่ได้ร้อนขึ้น เพี่ยงแต่ค่าเฉลี่ยสูงผิดปกติในบางปี และนั้นทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ซึ่งมีเทนที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำแข็งลอยตัวไปกระทบกับชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศบริเวณขั้วโลกถูกทำลาย สนามแม่เหล็กจึงเกิดการผิดปกติและแกนโลกเอียง ผมยังไม่ขอเอ่ยถึงสสารมืดที่เชื่อว่าเป็นพลังงานชนิดเดียวกันกับที่ UFO เขาใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนกันในปัจจุบัน ซึ้งพลังงานนี้จะไม่มีมลภาวะ และมีมีวันหมด นอกจากนี้ยังมีอยู่ทุกซอกทุกมุมของจักรวาล และไม่ว่าจะเป็นจักรวาลอื่นๆก็ไม่ต่างกัน ผมไม่กล้าคิดว่าถ้าผมเอ่ยออกมาทั้งหมดว่าผมรู้อะไรบ้าง เพราะกลัวคำถามเดิม ๆว่ารู้แล้วทำไมไม่ทำ ประมาณว่าเก่งแต่ปาก ทำนองนี้ผมก็คงไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้อีก ผมอยากบอกกับเขาเหล่านั้นว่า ผมไม่ได้มีความสามารถพิเศษใด ๆ ที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา ๆคนนึง วิชาคณิตศาสตร์ผมก็ต้องใช้เครื่องคิดเลขในการแก้โจทย์ง่ายๆด้วยซ้ำ ใช่ครับสมัยก่อนผมเองก็เคยคิดอย่างนั้น คิดว่าตนเองฉลาด แต่ปัจจุบันนี้โลกมันแตกต่างจากอดีตมากมายนัก โลกทั้งใบได้ถูกเชื่อมต่อถึงกันหมด ทำให้ผมได้รับรู้ความจริงบางอย่างที่สำคัญ คือ ไม่ได้มีเพียงผมที่ฉลาดเพียงแค่คนเดียว ซึ่งองค์ความรู้ที่ได้มาถูกกลั่นกรองเป็นอย่างดี ผ่านจากประสบการณ์ชีวิต จากการลองผิดลองถูก ฝึกปรืออย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ จนวันนี้ผมเริ่มปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง และไม่ยึดติดที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นแดนสุขาวดี ถึงแม้จะทราบเป็นอย่างดีว่า ในโลกในนี้คงไม่มีใครอีกแล้วก็ตามที ที่จะสะสางปัญหาทั้งหมดให้สิ้นไปจากโลก กระบวนการทางความคิดทั้งหมดนั้นผมไม่สามารถที่จะอธิบายให้ใครฟังเป็นขั้นตอนได้ เพราะผมไม่ได้มีแผนการณ์ที่วางไว้แบบสำเร็จรูป แต่ผมรู้ว่าจะเริ่มต้นจากที่ไหน อุปสรรคหรือขวากหนามไม่มีอีกแล้วสำหรับผมในเวลานี้ เพราะผมเชื่อและศรัทธาในตนเอง แล้วการเกิดในชาติภพนี้ของผมมันไม่สูญเปล่า ถึงแม้ว่าผมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกไม่ได้ก็ตาม แต่ผมทราบดีว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้หากผมต้องการ อาจมีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่อยากเห็นโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีความคติของตนเอง แต่จุดจบมักลงเอยด้วยความขัดแย้ง สาเหตุที่ลงเอยเช่นนี้มาหลายต่อหลายครั้งนับครั้งไม่ถ้วน เหตุผลเดียวที่ผมพอจะทราบ และยืนยันได้ก็คือ เขาเหล่านั้นเป็นผู้มีอำนาจและไม่มีสมอง หรือสมองของเขาเหล่านั้นอาจเล็กเกินไป ไม่ว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไรจึงไม่พบทางออกที่แท้จริงของปัญหา เพราะมีข้อจำกัดทางด้านชนชั้น เชื้อชาติ หรือศาสนา เป็นข้อจำกัด สันติสุขที่แท้จริงจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ มองในมุมกลับกัน ถ้าเอาข้อจำกัดทางด้าน ชนชั้น เชื้อชาติ หรือศาสนาออกไปก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งออกไปจนหมดสิ้น นี่คือเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรืองที่ผมศรัทธา และเชื่อมั่น แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเราในขณะนี้ เพราะผมยังไม่มีโอกาสในการดำเนินตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ แต่โอกาสของผมจวนจะถึงเวลาแล้วในขณะนี้ เวลานี้โลกเริ่มเปิดโอกาสให้กับผม ในทีนี้ ผมหมายถึงดาวเคราะห์ดวงนี้ ดวงดาวที่อาจไม่มีสมอง หรืออายตนะใด ๆ แต่สามารถแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง และบ่อยครั้งที่โลกใบนี้ก็รับบทเป็นผู้ทำลายล้างอย่างไร้ความปราณี และครั้งนี้ก็เช่นกัน ทุก ๆ วินาทีที่ผ่านไป ภัยธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่เปลี่ยนแปลงตาม วัน เวลา และสถานที่เท่านั้น ประเทศไทยอาจถือว่ายังพอมีโชคอยู่บ้าง เพราะที่ตำแหน่งที่ตั้งนั้นอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งห่างไกลจากขั้วโลกทั้งสองด้าน คือทิศเหนือ และทิศใต้ ปัจจุบันทวีปแถบขั้วโลกเหนือกำลังประสบกับชะตากรรมที่นับวันมีแต่จะยิ่งเลวร้ายขึ้นทุกเรื่อย ๆ ส่วนผู้มีอำนาจก็ยังนิ่งเฉยต่อปัญหา ไม่เร่งรีบในการแก้ไขปัญหา และดูเหมือนว่ายังไม่มีหนทางแก้ไข เพียงแต่รับมือกับปัญหาพอจบๆไปเท่านั้น ดังนี้จึงเป็นหน้าที่โดยชอบธรรม ตามสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ทุกคน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้มีอำนาจ หรืออิทธิพล เพราะคำว่า ผู้มีอำนาจ และ ผู้มีอิทธิพล ไม่ได้ให้นิยามถึงความเป็นผู้นำแต่ประการใด และหลังจากปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากสนามแม่เหล็กบริเวณขั้วโลกจบลง ซึ่งตามแผนการที่ผมได้คำนวณ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายใน ๗ วัน หลังจากที่ได้ดำเนินการตามแผนงานที่ผมได้เตรียมการไว้นับ ๑๐ ปีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้มีศรัทธากับเรื่องที่กล่าวมานี้เท่านั้น ขอเพียงแค่โอกาสให้ผมได้แก้ปัญหาที่ผมต้องการ และหากการกระทำใด ๆที่ เกิดความขัดแย้งขึ้นจากการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของผม หากสามารถพิสูจน์ทราบชัดแจ้งว่า เกิดจากแก้ปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ผมยินดีที่จะยุติบทบาททันที ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อีกประการที่ต้องทำความเข้าใจ คือ ต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าทุกประเทศต้องยินยอมให้ผมสามารถใช้ทรัพยากรที่มีภายในประเทศเท่าที่จำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาสนามแม่เหล็กที่ขั้วโลก อันสืบเนื่องมาจากมีเทนที่ซ่อนอยู่ภายใต้น้ำแข็งขั้วโลกนับแสนล้านตัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะผมไม่สามารถดำเนินการแก้ไขใด ๆ ได้เลย หากปราศจากความร่วมมือจากทุกประเทศ อีกประเด็นคือเพื่อให้ทุก ๆ ประเทศนั้นได้มีส่วนร่วมในการเยียวยาโลกในครั้งนี้อย่าเสมอภาคและเท่าเทียม และเมื่อปัญหาภัยพิบัติทุเลาลง ก็จะเป็นเรื่องของการสร้างโลกให้เป็นแดนสุขาวดี ซึ่งเรื่องนี้ผมอาจเพิ่มข้อเรียกร้องให้ดำเนินการบนดาวเคราะห์ทุกดวงที่มนุษย์จะเดินทางไปอยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้ด้วยเช่นกันคือ ให้จัดตั้งสหกรณ์ขึ้นในทุก ๆประเทศทั่วทั้งโลก แต่สหกรณ์ของผมนั้นจะแตกต่างจากที่ใช้กันอยู่เดิม ในปัจจุบัน และเช่นเดิมทุก ๆประเทศต้องยอมให้ผมจัดตั้งสหกรณ์ โดยสนับสนุนด้วยทรัพยากรภายในประเทศนั้น ๆ เท่าที่จำเป็นตามความเป็นจริง และหากเกิดความขัดแย้งขึ้น ผมยินดียุติบทบาท และถือว่าเป็นการสิ้นสุดสัญญา ส่วนเรื่องอื่นอาจมีเพิ่มเติมบ้างเช่นการให้ความรู้โดยห้ามการจดลิขสิทธิ์ในภายหลัง เช่นยานบินแบบ UFO ซึ่งทั้งพลังงานและความเร็วจะเป็นแบบเดียวกัน หรืออาจดีกว่า และการสร้างอาณานิคมนอกโลก โดยการสร้างดาวเคราะห์ ให้เป็นแบบเดียวกับดาวโลกได้ ซึ่งดาวเคราะห์แต่ละดวง จะมีพื้นที่อย่างน้อย ๑ ใน ๑๐ ส่วน ที่มนุษย์สามารถดำรงชีพอยู่ได้ โดยปราศจากโดม หลังจากที่ผ่านกระบวนการสร้างชั้นบรรยากาศเป็นที่เรียบร้อย และยานบินความเร็วสูงพร้อมใช้งาน ระบบการดำรงชีพต่าง ๆในอนาคต เป็นเรื่องของสหกรณ์ ซึ่งต้องให้เข้าใจตรงกันก่อนว่าสหกรณ์ที่ผมพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างไร ซึ่งอธิบายง่ายๆดังนี้ โดยมีองค์ประกอบของสหกรณ์ ๑๓ ประการ โดยจะยกมาเพียงแต่หัวข้อก็น่าจะพอเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง สหกรณ์, สหธรรม, สหกรรม, สหกิจ, สหคิด, สหพินิจ, สหศึกษา, สหสติ, สหสมาธิ, สหปัญญา, สหศรัทธา, สหชีวิต, สหจิตใจ ดังนี้ ด้านคุณภาพของสหกรณ์นั้นวัดจากการที่ ทุก ๆหมู่บ้านภายใน ๑ ตำบล จัดตั้ง ๑ สหกรณ์ หลักเกณฑ์คือ ทุก ๆ ตำบลจะต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ จากรัฐบาล เพราะไม่มีความจำเป็นใด ๆ พื้นที่ ๑ ตำบลนั้นไม่เล็กเลย ผมเชื่อว่าหากประกอบองค์ความรู้ที่ผมจะมอบให้ และการพัฒนาแหล่งน้ำในถิ่นธุระกันดาร ผมมีวิธีเหมือนกันที่ได้ผล ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แหล่งน้ำตามธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ธรรมชาติสร้างแหล่งอย่างไร เราก็เพียงแต่เรียนแบบธรรมชาตินำมาปรับปรุงนิดหน่อยก็จะแก้ไปความแห้งแล้งให้หมดไปได้ เมื่อสามารถดำเนินการเช่นนี้ได้ มนุษย์ก็พร้อมสำหรับแดนสุขาวดี ที่คู่ควรกับสถานะของความเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงในจักรวาล ผมเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาใน จักรวาลอื่น ๆก็ควรดำรงชีพเช่นนี้ และในอนาคตหากมนุษย์จากดาวเคราะห์โลกจะเมตตา ช่วยสั่งสอนกันต่อไป หากพบสิ่งมีชีวิตในจักรวาลอื่น ๆที่ด้อยการพัฒนาเช่นเดียวกับเราทั้งหลายในวันนี้ จงช่วยสั่งสอนด้วยความเมตตา จักรวาลอาจไม่มีที่สิ้นสุด แต่มิใช่ไม่มีวันสิ้นสุด หากจักรวาลภายในจิตใจ ของเราสิ้นสุดก็เท่ากับเราและจักรวาลของเราสิ้นสุดแล้ว โดยทุก ๆ จักรวาลล้วนเกิดขึ้นโดยอาศัยจิตเป็นสำคัญ เมื่อจิตเราท่านทั้งหลายหามีไม่แล้ว จักรวาลมีขึ้นมาด้วยเหตุไฉน จงใคร่ครวญดูเถิด สุดท้ายขอฝากถึงท่านผู้มีอำนาจ ช่วยเก็บข้อมูลที่ผมให้มีความเป็นส่วนตัวด้วยนะครับ เรื่องที่จะพัฒนาด้านอื่น ๆนั้น หากจะรับผมไว้เป็นที่ปรึกษา แน่นอนว่าผมไม่ขัดข้องแต่ประการใด แต่อยากขอความอนุเคราะห์ เกี่ยวกับเรื่องการสบประมาทในศรัทธาความเชื่อส่วนตัวของผมนั้น บางเรื่องที่ท่านไม่เข้าใจ หรือสงสัย สามารถสอบถามได้ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เนื้อหาเกี่ยวกับ ขั้นตอนการทำงานในเรื่องต่าง ๆ ที่เล่ามาทั้งสิ้นนี้ ผมสามารถใช้หลักตรรกะ และวิทยาศาสตร์ในการอธิบายได้หมด ในทุก ๆ เรื่องที่ท่านสงสัย เวลานี้ยังเร็วเกินไปหากท่านมีความไม่มั่นใจ ก็จะเป็นการดี บางครั้งผมก็ยังต้องการคำชี้แนะเสมอ ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ท้ายที่สุดก็ขอฝากผลงาน เรื่องนี้ไว้พิจารณาด้วยนะครับ







    ชื่อ นายชัดเจน ตัณฑอินทร์

    Email: chadjanclub@outlook.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...