บำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะกับวิริยาธิกะพิเศษต่างกันอย่างไร?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 15 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    สมัยหนึ่ง พระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ทั้งหลายควรใช้เวลานานเท่าไร พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุด ๒๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนด ปานกลาง ๔๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนดอย่างสูง ๘๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป ทั้ง ๓ ประเภทนั้น คือ พระพุทธเจ้าผู้เป็นปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ "

    @ วิริยาธิกะพิเศษหมายความว่าอย่างไร และต้องบำเพ็ญบารมีเท่าไร?
    - วิริยาธิกะพิเศษ หมายถึง ผู้ที่ตั้งความปรารถนาอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างเป็นพิเศษ การบำเพ็ญบารมีจะยาวนานกว่าแบบวิริยาธิกะทั่วไป แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นพระพุทธสิกขีทศพล เพราะขาดเรื่องการค้นคว้าวิชาใหม่

    - การบำเพ็ญบารมีของวิริยาธิกะพิเศษต่างจากวิริยาธิกะทั่วไปตรงที่ต้องบำเพ็ญบารมีนานกว่ามาก คือ อย่างน้อย ๑๕๔ อสงไขย กับกำไรแสนมหากัปป

    ตัวอย่างการบำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะพิเศษ ซึ่งบางพระองค์บำเพ็ญบารมีเป็น ๑,๐๐๐ อสงไขย อย่างเช่น พระอวโลกิเตศวร บำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๑,๒๕๓ อสงไขย อยู่ที่ว่าพระองค์จะทำต่อหรือไม่ ตราบใดที่พระอมิตาภพุทธเจ้ายังไม่เคลื่อนสู่อายตนะนิพพาน พระอวโลกิเตศวรจะยังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาน หรือพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ที่บำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๓๕๔ อสงไขย เป็นต้น

    หมายเหตุ : จากบทสนทนาบางส่วนระหว่างสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๒ (พระบวรรัตนรังสีบรมพุทธเจ้า) ตรัสผ่านคุณน้ำใสมายังผู้เขียน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2016
  2. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ

    เดี๋ยวผมต้องไปลดความเป็นพิเศษออกสักสองสามขีด แค่นี้ก็แทบจะลากไม่ไหว ลากตัวเองก็ยังหนักสาหัส แล้วการต้องไปลากชาวบ้านเขาด้วยนี่ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองเลยว่าจะจบแบบใหน

    นี่ขบวนแรกกว่าจะผ่านไปได้ก็เครื่องแทบจะพัง
    อีกขบวนต้องหนึ่งหัวลาก สองหัวดันท้ายขบวน นี่เรียกว่าเหลือกำลังลาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2016
  3. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    เอิ่ม... ขอไม่เชื่อย่อหน้าล่างนะครับนะครับ อันบนน่ะเชื่อที่พระพุทธเจ้าตรัส แต่อันล่างของคนธรรมดามโน ขอไม่เชื่อละกัน แม้คุณจะเคยโพสท์ถูกต้องมาหลายที แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะโพสท์ถูกตลอดไป ถ้าไม่ใช่ที่หลวงพี่เล็ก หรือหลวงพ่อฤาษีพูดไว้ไม่น่าเชื่อหรอก ต่อให้คนๆนั้นจะเก่งยังไงก็ช่าง
     
  4. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    ไม่มีหรอกที่จะมีวิธีสร้างบารมีแบบพิเศษแบบนั้น

    ที่คนเขาเอามาพูดเกิดจากจินตนการ เลยกลายเป็นว่ามีการสร้างบารมีแบบแปลกๆ
     
  5. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    ในความรู้สึกแบบปุถุชนคนกิเลสหนา ถ้าได้ยินว่าพิเศษ ผมนึกแค่ว่าใส่ไข่ ไม่เอาขิง อิอิ
     
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ผมว่าแค่ใส่ไข่นี่ก็แทบตายแล้ว หากว่าสถานที่นั้นๆ ไม่เอื้ออำนวย มีความอุดมสมบูรณ์
    เช่นเราดันผ่าไปต้มบะหมี่สำเร็จรูปบนภูเขาสูงโน่น หรือผ่าไปติดเหง็กริมๆทะเลทราย การจะหาไข่สักไข่มาใส่หม้อต้มบะหมี่นี่ก็ต้องหาไก่มาเลี้ยง กว่าจะครบวงจรของมัน กว่าจะได้ไข่มาหนึ่งไข่ คนที่รอไข่ก็อาจจะตายซะก่อน

    ถ้ายิ่งร้องหาขิงก็ร้องจนคอแหกกว่าจะได้ขิง เพราะกว่าจะปลูกขิงเอามากินได้ ก็ลมใส่ตายไปซะก่อนอีก ทำเล่นไป นี่ผมก็ว่าอย่างคนปัญญาน้อยประสาวิริยาธิกะแล้วดันต้องการให้หมู่คณะได้รับผลพิเศษ

    วิริยาธิกะมันต้องทำเอง ไม่ค่อยมีปัญญาหาที่ ที่มันสะดวกสะบายได้ อย่างในเมืองที่มันอุดมสมบูรณ์มันเลือกไม่ค่อยจะได้ แค่ไข่หนึ่งไข่ธรรมดามากสำหรับคนบางคนที่อาจเป็นเจ้าของฟาร์มไก่ หรือคนทั่วไปที่ในเมืองหาไข่ที่ตรงใหนก็หาได้ง่าย

    ไข่หนึ่งใบสำหรับผมนี่ ที่อยู่ในที่ทุระกันดาร มันพิเศษมากมันต่างกัน
     
  7. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ท่าน PCO_ ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ สมัยก่อนเขาอธิษฐานต้นกัลปพฤกษ์หรือสัตว์อะไรก็ไม่ทราบ(สมัยนั้นยังไม่มีโดราเอมอน)ที่ปรารถนาอะไรก็สอยเอาหรือดึงของออกมาได้
    ถ้าบำเพ็ญบุญไว้เยอะพอนะ ขอโดราเอมอนแค่ตัวเดียวก็สบายแล้วครับ อยากได้อะไรก็ล้วงออกมาจากกระเป๋าได้ ^_^
     
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ความจริงน่ะไม่ต้องการลำบากแม้แต่น้อย ใจจริงนั้นอยากขับรถเล่นไปวันๆ สตางค์หมดก็กดเอทีเอ็ม แบบใช้ยังไงก็ไม่พร่อง ยิ่งหมู่คณะญาติมิตร ยิ่งไม่ต้องการให้พวกเขาลำบาก โดยฉเพาะอย่างยิ่งพ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย นี่ก็ว่าเรื่อยเฉื่อยไป นึกไปทางใหนก็ห่วงใยเขาทางนั้น

    ที่พยายามอย่างสุดกำลังอยู่นี่ ก็หวังว่าสักวันในอนาคต จะมีต้นกัลปพฤกษ์จำนวนมากปลูกเรี่ยรายทางไป ไว้ให้หมู่คณะญาติมิตรได้พี่งได้อาศัย จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพาน

    แต่แหมอีชาตินี้ไม่รู้มันเป็นไง มันได้แต่เมล็ดพันธุ์ต้นกัลปพฤกษ์ กำลังปลูกเป็นการใหญ่อยู่นี่
     
  9. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ค่อยๆ ปลูกไปครับ ถ้ามีเยอะก็แบ่งเมล็ดพันธุ์ให้ผมเอาไปปลูกให้ลูกหลานของผมบ้างก็ได้นะครับ
     
  10. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    พุทธเจ้าไม่ได้พูดจะเชื่อหรือครับ
     
  11. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เอากิ่งพันธ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงซักกิ่งนะครับ เข้ากองทุนมูลนิธิหลวงปู่ปาน-พระมหาวีระ เขาลือกันว่ากองทุนมูลนิธิ กินใช้อย่างไรก็ไม่พร่องครับ และพร้อมทั้งบุญทานกองการกุศลทั้งปวงที่ผมพาหมู่คณะทำ โดยฉเพาะอย่างยิ่งผมฝากออมสิน ทุกอย่างไว้ที่วัดท่าซุง และที่พระวิหารน้ำน้อย ที่พระวิหารน้ำน้อย ผมก็เปลี่ยนป้ายจากเดิมบูรณะวิหาร เปลี่ยนว่าทำบุญทุกอย่าง เพื่อว่าสำหรับคนที่เขามาไม่ทัน เขามาทีหลังแต่การงานทุกอย่างมันเสร็จแล้ว เมื่อทำบุญแบบนี้เขาก็จะได้ทันคนอื่นๆ นี่ว่ากันเรื่องทาน ที่ต้องการให้คนในหมูคณะมั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวงเป็นพิเศษในอนาคต บุญบางอย่างที่ผมทำคือกลัวว่าลูกหลานผมไม่ทันชาวบ้านเขาเพราะเราอยู่ไกล ผมก็พยายามพาพวกเขาเหมารวม คือทำบุญทุกอย่าง แล้วคำว่าทุกอย่างนี่หมายความว่าตั้งแต่ที่มีการเริ่มคิดที่จะทำ ไปจนถึงที่สุดของทุกอย่าง นั่นผมแอบๆพาหมู่คณะญาติมิตรทำแบบนี้

    ความจริงเรื่องปฏิภาณปัญญาดีพวกเราก็พากันทำกะเขาเหมือนกัน ทั้งสร้างพระไตรปิฎก และอื่นๆที่จะทำให้พอจะฟัดกะชาวบ้านเขาได้ เราขอแค่เสมอ ผมแค่ต้องการแค่ว่าหมู่คณะญาตมิตรของผมทั้งหมดไม่เว้นแม้สัตว์ในปกครองสักตัว ไม่เป็นสองรองใครในทุกที่ทุกสถานในน้ำหนักพิกัดเดียวกัน ความเป็นพิเศษผมต้องการเท่านี้

    แต่แหมแค่นี้ กว่าจะครบทั้งหมดทั้งคณะนี่ไม่รู้ว่าจะต้องเกิดๆตายๆอีกเท่าไร

    เพราะฉนั้นชาตินี้พวกเราจึงจำเป็นต้องเลือกเนื้อนาบุญ

    เนื้อนาบุญอันอุดมไพบูลที่พวกเราเหล่าลูกหลานในพระเดชพระคุญหลวงพ่อ ได้พากันปลูกพากันหว่านลงไปด้วยใจที่เคารพรักอย่างสูงยิ่งนี้
    ฉะนั้นไม่ว่ากิจการใดๆก็ตามหากจะพึงมี จงเป็นดั่งต้นกัลประพฤกษ์ฉันนั้นนับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าถึงซึงพระนิพพาน

    แก้วสองแก้วของผมแกก็พยายามช่วยผมปลูกต้นกัลประพฤกษ์เป็นการใหญ่ตลอดเวลา อยู่บ้านก็พากันใส่กระปุกออมสินโดยการตั้งบาตรทำบุญเอาไว้เลยนึกอยากทำบุญอะไรแม้นอนอยู่ นึกได้ลุกขึ้นมาทำทันที เราต้องการแบบสารพ้ดนึก หากว่ามันไม่ได้รับผลพิเศษก็จะได้รู้กัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8896.JPG
      DSCN8896.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121.6 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSCN8900.JPG
      DSCN8900.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124.6 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCN8901.JPG
      DSCN8901.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.2 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCF0785.JPG
      DSCF0785.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF6014.JPG
      DSCF6014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      39
    • 20161107_091814.jpg
      20161107_091814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      45
    • 20161107_094029.jpg
      20161107_094029.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF4363.JPG
      DSCF4363.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      44
    • DSCF3650.JPG
      DSCF3650.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      45
    • DSCN5755.JPG
      DSCN5755.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.2 MB
      เปิดดู:
      48
    • DSCN8661.JPG
      DSCN8661.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.1 MB
      เปิดดู:
      37
    • DSCF4773.JPG
      DSCF4773.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2016
  12. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ตัวอย่างการบำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะพิเศษ ซึ่งบางพระองค์บำเพ็ญบารมีเป็น ๑,๐๐๐ อสงไขย อย่างเช่น พระอวโลกิเตศวร บำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๑,๒๕๓ อสงไขย อยู่ที่ว่าพระองค์จะทำต่อหรือไม่ ตราบใดที่พระอมิตาภพุทธเจ้ายังไม่เคลื่อนสู่อายตนะนิพพาน พระอวโลกิเตศวรจะยังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาน หรือ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ที่บำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๓๕๔ อสงไขย เป็นต้น


    .
     
  13. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    มีที่มาที่ไปไหมครับ ที่ครูบาอาจารย์เทศน์สอนไว้นะครับ เรื่องพวกนี้นะครับ
     
  15. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ผมก็หาถาม กุรุ ดู เค้าก็บอกว่า

    เหตุที่องค์โพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร กลายเป็นเจ้าแม่กวงอิม

    ถ้า อวโลกิเตศวร เป็นเจ้าแม่กวนอิม จริง

    ก็คงได้ยินครูบาอาจารย์เทศน์ไว้แล้วนะครับ ว่าเข้านิพพาน ไปแล้วนะครับ

    เอาว่า ผมก็ไม่รู้หรอก เลยสงสัย
     
  16. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    มันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ

    ขอโทษที่ต้องให้ความเห็นแรงๆ เพราะความจริงมันเป็นแบบนั้น

    เหตุที่มหาญาน เขายกข้อมูลมาอ้างก็เพื่อข่ม ทางเถรวาท ว่าทางเขามีความอลังการมากกว่า ดีกว่า หรูหราฯลฯ

    การจะอ้างข้อมูลแนะนำทางเถรวาทเถอะครับ ในชั้นพระไตรปิฏกแรกๆตอนปฐมสังคยานามีการสืบทอดที่ถูกต้องจนปัจจุบัน การสังคยานาครั้งหลังๆหากมีการเพิ่มเติมก็จะมีการให้ความเห็นไว้ ส่วนชั้นอรรถาชั้นแรกๆยังมีความแม่ยำน่าเชื่อถือ แต่บางคำภีร์ชั้นหลังๆที่มีการแต่เติมเพื่อมาสู้กับมหาญาน/พราหม์ ก็ต้องชั่งใจให้ดี ฟังหูไว้หู


    อย่างการสร้างบารมี 4/8/16 อสงไขยของพระพุทธเจ้าประเภทต่างๆ พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอง มีอยู่ในพระสูตรมากมาย แต่ที่อ้างว่าสร้างบารมี 20/40/80 อสงไขยเกิดจากอาจารย์ชั้นหลังแต่ขึ้น ยิ่งถ้าเอามหาญานมาอ้างมั่วสร้างบารมีเป็น100ๆอสงไขยจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอาใช้อ้างอิงสำหรับผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์

    ปล.คัมภีร์อนาคตวงศ์ ก็แต่งขึ้นภายหลังไม่มีปรากฏในพระไตรปิฏกชั้นแรก แต่ทั้ง10ท่าน ก็มีที่เป็นตัวจริง อยู่หลายท่าน บางท่านไม่ใช่
     
  17. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    พี่ข้างบน คือ ที่ว่าสร้างบารมี 20/40/80 นี่คือการนับรวมๆทั้งอธิษฐานในใจ เปล่งวาจา แล้วก็ค่อยถึงขั้นตอนบำเพ็ญปรมัตถบารมีนะครับ(ของแต่ละสายๆ) อันนี้ใครๆก็รู้ แล้วพระโพธิสัตว์ที่เห็นเด่นชัดท่านก็พูดไว้เองด้วย ว่าถ้าวิริยะธิกะนั้น 80 อสงไขยกว่า ไม่ได้มั่ว พูดจากสายของไทยเรา แล้วที่แยกมา 16 อสงไขยคือขั้นสุดท้าย ขั้นปรมัตถบารมี 16 อสงไขย ต้องลองไปศึกษาของพระท่านที่ท่านเคยเป็นพระโพธิสัตว์มาก่อนมาอ่านดูนะครับ ของหลวงพี่เล็กก็มีท่านพูดไว้ล่าสุด
     
  18. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    [​IMG][/url][/IMG]

    ถ้าไม่เชื่อพระโพธิสัตว์ที่ท่านเคยบำเพ็ญมา(ท่านลาแล้ว) กับคนธรรมดาพูดคุณจะเชื่อใครล่ะจริงมั้ย?

    ที่มารู้จักสายพุทธภูมิ-พระโพธิสัตว์จริงๆได้ก็เพราะสายหลวงพ่อฤาษีฯนี่แหละใช่ไหมครับ หลวงพี่เล็กก็สายหลวงพ่อฤาษีฯ แล้วพิจรณาดูละกันว่าคนธรรมดากับพระที่ท่านปฏิบัติ คำพูดใครจะมีน้ำหนักกว่ากัน นะครับ

    ลืมแปะลิ้ง

    http://www.watthakhanun.com/webboard/showpost.php?p=157132&postcount=30
     
  19. ปราบปลิง

    ปราบปลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +180
    ผมไม่ได้อยากสร้างความวุ่นวายเลยนะครับ แต่เห็นคนเข้าใจผิดละอดที่จะบอกไม่ได้ คิดดูดีๆนะครับบำเพ็ญเป็นพันอสงไขยนี่เก่งเกินพระพุทธเจ้าไปเยอะนะครับ จะเป็นไปได้หรือ ไม่เคยอ่านผ่านตาเลยหรือครับว่า พวกเก่งเกินพระพุทธเจ้าแต่ละคนจุดจบเป็นยังไง(คือพาตัวเองลงนรกไปเลย) อย่างเช่นพระเทวทัศ จะให้ศีลที่เคร่งกว่าพระพุทธเจ้า จะให้พระกินเจ ก็ไปไม่รอด ลงนรกไปแล้ว แล้วก็บางท่านที่เอาความคิดของตัวเองมาตัดสินละเป็นยังไง คือนึกถึงพระรูปนึงเลยบอกว่ายุงก็เข้านิพพานได้ แหม่คิดไปได้นะ


    ผมไม่เก่งนะครับ แต่ผมเชื่อพระที่ปฏิบัติมากกว่าท่านที่เป็น ..คนธรรมดา! ที่ไม่มีฤทธิ์ มีญาณอะไร หรือที่มีญาณก็ไม่ใช่พระอริยะเจ้า

    กราบขออภัยด้วยครับ ผมยังเลวอยู่มาก แต่ห้องนี้นับวันยิ่งมีแต่ฉุดคนลงนรก ไม่ทำอะไรมีแต่มากระแนะกระแหนกัน เวลาคนเขาถามดีๆ ไม่ค่อยอยากจะพูดจากันดีๆสักเท่าไหร่เลยที่เห็น มีแต่อีโก้สูงๆทั้งนั้น ตัวกูของกูยังมีมากอยู่อันนี้พูดตามที่เห็นนะครับ ตัวผมก็มีเหมือนกัน แต่ไม่ไปข่มคนอื่นเล่นๆให้เขาเสียใจแบบบางท่านในหมวดนี้ทำหรอกนะ
     
  20. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    ผมก็อ่านหนังสือแม้ไม่มากแต่ก็ก็คิดว่าน่าเยอะพอ ซึ่งผมไม่เคยเจอพระสูตรไหนเลยที่กล่าวถึงการสร้างบารมี20/40/80อสงไขย

    แต่ผมเคยอ่านผ่านตามากมายที่พระองค์ตรัสว่าพระองค์ทรงสร้างบารมี มา 4 อสงไขยแสนกัปป์ หรือตรัสถึงพระศรีอารย์ที่สร้างบารมีมา 16 อสงไขยแสนกัปป์

    ผมคาดว่าผู้แต่งต้องการมาเชื่อมโยงกับระดับบารมีทั้ง3 คือ บารมีปกติ บารมีขั้นกลาง และปรมัติบารมี จึงใส่เวลาเพิ่มในการบำเพ็ญเพียร จาก 4/8/16 มาเป็น 20/40/80


    ส่วนสายอาจารย์ของท่านอาจจะมีความเชื่อว่าต้องสร้าง 20/40/60 แต่ท่านก็เอามาจากคัมภีร์ชั้นหลังมาอ้างเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่ความผิดท่านเพราะความเชื่อนี้มันมีมาหลายร้อยปี พอคัมภีร์มันแต่งเกิน1000ปี มันก็จะกลายเป็นความเชื่อหลักไป

    โดยเมื่อก่อนผมก็เคยเชื่อการสร้างบารมี 20/40/80 แต่ภายหลังศึกษามากเข้าจึงเข้าใจว่าหลักในการยึดถือต้องเอาหลักฐานชั้นปฐมมาก่อน คือ พระไตรปิฏกที่สังคยานาตั้งแต่ครั้งพระมหกัสปเป็นหลัก ถ้าคัมภีร์ที่แต่งภายหลังถ้ามันขัดหรือแย้งให้เอาหลักฐานชั้นแรกก่อน ยิ่งของมหายานอ่านเอาความรู้ได้ครับแต่ไม่เอามาเป็นหลักฐานในการพิจารณา

    ตย.คัมภีร์ภาคเหนือจะมีนิทาน ที่มีอีกาเผือกออกไข่ 5 ฟอง และทั้ง 5 ได้กลายเป็นพระพุทธเจ้าในกัปป์นี้ คือมันเป็นเพียงนิทานแต่ผ่านไป 100ปีมันกลายเป็นความจริงไปแล้ว(ทั้งที่เป็นเพียงนิทานแต่ไม่กี่ร้อยปีนี้เอง)

    เหมือนกับเฮ่งเจีย นิทานไซอิ๋ว แต่งผ่านไปหลายร้อยปี ก็มีเทพเฮ่งเจียจริงๆ มีศาลให้เคารพด้วย แถมมีเข้าทรงอีกต่างหาก

    หรืออย่างอาณิสงค์ 16 ประการของนิตยโพธิสัตว์ที่ว่าจะไม่เป็นมาร แต่พยามารนี่หัวหน้ามารชั้น 6เลย แสดงว่าต้องมีการผิดพลาดเกิดขึ้นเพราะมันขัดแย้งแบบสุดโต่ง

    สุดท้ายขอฝากว่า การจะเชื่ออะไรหลักฐานต้องมีก่อน และจัดลำดับว่าสิ่งไหนควรเชื่อ สิ่งไหนเป็นข้อมูลแย้งที่ไม่ตรงกับหลักฐานชั้นแรก แล้วค่อยมาจัดลำดับความสำคัญ อย่างพึ่งเชื่ออะไร ต้องใช้หลักาลามสูตรประกอบด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...