ประมวลภาพศิษย์นับแสนร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง

ขอถวายความนอบน้อมสักการะบูชาหลวงปู่ศรี ด้วยเศียรเกล้า ขอน้อมจิตส่งหลวงปู่สู่พระนิพพาน และขออาราธนาบารมีหลวงปู่เมตตาสงเคราะห์ลูกให้มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ สาธุ สาธุ

 

ขอกราบหลวงปู่ และน้อมจิตส่งองค์หลวงปู่สู่นิพพาน

 

พระมหาเถระ และพระเถระ นับหมื่นรูป เข้าร่วมงานพระราชทานเพลิง

 

ขออภัย..โหลดรูปไม่ขึ้น เชิญเข้าชม ที่ลิ้งค์ด้านล่าง..ครับ
๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๑

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๒

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๓

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๔

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๕





ที่มา http://www.watpakung.org/

 

ชมภาพของเว็บวัดป่ากุง(เพิ่มเติม) ตามลิ้งค์ด้านล่าง...

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๖

๑๔ ม.ค. ๕๕ พิธีพระราชทานเพลิงสรีระ [D7000] ชุด ๗

 

น้อมกราบหลวงปู่ศรี มหาวีโรครับ

 

หลวงปู่โฮม มาร่วมงาน

พระเถระ จากกรุงเทพฯ มาร่วมงาน

พระสงฆ์จากทั่วประเทศนับหมื่นรูปเดินทางมาร่วมงาน

 

พระเถระ

พระอาจารย์สมปอง เจ้าอาวาสวัดเขาจอมทอง พระอุปฐากรับใช้หลวงปู่ศรี มาเกือบ30ปี

สถานีโทรทัศน์ช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดสดงานพระราชพิธี

 

หีบไม้จันหอมจากประเทศอินโดนีเซีย





พระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมงาน

 

พระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ขึ้นวางดอกไม้จันบนจิตกาธาน

 

ผ่านไปกว่า2ชั่วโมง ศิษยานุศิษย์ยังขึ้นไปวางดอกไม้จัน อย่างต่อเนื่อง

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบนมัสการหลวงปู่ศรี และขออนุโมทนาสาธุการ ทุกๆท่าน..

 

สองทุ่มกว่าแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ขึ้นไปวางดอกไม้จัน จะหมดหรือลดน้อยถอยลง



บรรดาศิษยานุศิษย์จุดโคมลอย ถวายหลวงปู่ศรี

 

เริ่มพิธีเผาจริง เวลาประมาณ ๒๒.๐๙ น.

 

เวลาผ่านไปกว่าสามชั่วโมง

 

เปลวไฟ ค่อยๆมอดลงหลังเวลา ๐๔.๓๐ น.

 

ช่วงเวลาประมาณ ๙.๐๐ น. หลังเสร็จสิ้นพิธีสามหาบช่วงเช้า ศิษยานุศิษย์ต่างเข้าไปหาอังคารธาตุ บริเวณจิตกาธานล้อมด้วยรั้วสแตนเลสมีหลังคา เพื่อเก็บรักษาอัฐิธาตุขององค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ไว้ที่วัดป่ากุงเพียงแห่งเดียว

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=o7bMLR8gCEQ&feature=player_detailpage"]แสดงธรรม หลวงปู่ศรี มหาวีโร - YouTube[/ame]
น้อมกราบส่งองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร สู่แดนนิพพาน

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

มะหาเถเรปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะกะตัง
สัพพังอะปะราธังขะมะตุโนภันเต.

มะหาเถเรปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะกะตัง
สัพพังอะปะราธังขะมะตุโนภันเต.

มะหาเถเรปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะกะตัง
สัพพังอะปะราธังขะมะตุโนภันเต.
กราบขอขมาองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ข้าพเจ้า นายเกียรติศักดิ์ ปลื้ม และครอบครัว

 

พิธีเดินสามหาบ

​

พิธีเดินสามหาบ<O></O>
การเดินสามหาบ<O></O>
การเดินสามหาบ คือ พิธีเก็บอัฐิ แต่เป็นพิธีเก็บอัฐิแบบเต็มหรือแบบพิเศษ ซึ่งก็มีอยู่หลายรูปแบบ
<O></O>
รุ่งขึ้นเช้า เจ้าภาพไปเก็บอัฐิ เตรียมเครื่องบูชาและเครื่องสามหาบไปด้วย คือ เครื่องทองน้อย (ธูป ๑ เทียน ๑ ใส่เชิงเล็กและดอกไม้ทำเป็น ๓ พุ่ม) ๑ ที่, สุหร่าย (ขวดโปรยน้ำ) ใส่น้ำอบไทย ๑ ขวด พานใส่เงิน (เศษสตางค์) ๑ พาน และที่ที่จะใส่อัฐิ ของเหล่านี้วางไว้ตรงข้างศีรษะอัฐิ
<O></O>
เมื่อพร้อมกันแล้วก็ตั้งต้นเดินสามหาบ คือ มีของไปถวายพระ เลี้ยงพระ ๓ ชุด ชุดที่หนึ่งมีไตรครอง เป็นประเภทเครื่องนุ่งห่ม ชุดที่สองที่มีสำรับคาว ๑ หวาน ๑ เป็นเครื่องกิน ชุดที่สามมีหม้อข้าวเตาไฟเครื่องใช้ หรือจะจัดสามหาบอีกหนึ่งก็ได้คือ จัดให้มีหม้อข้าวเชิงกราน และพริก หอม กระเทียม ฯลฯ อยู่ในสาแหรกข้างหนึ่ง สาแหรกอีกข้างหนึ่งมีของคาวหวาน และเหมือนกันอย่างนี้ทั้งสามหาบ จัดให้บุตรหลาน หรือเครือญาติ (ศิษยานุศิษย์) ๓ คน เป็นผู้หาบคนละหาบ
<O></O>
หรือสามหาบอีกแบบหนึ่ง จัดคนขึ้น ๙ คน แบ่งเข้าชุด ๓ คน ต่อ ๑ ชุด ชุดหนึ่ง ๆ มีดังนี้คือ ถือไตร ๑ คน, ถือจาน ช้อน ช้อนซ่อม แก้วน้ำ ๑ คน, หาบสำรับคาวหวาน ๑ คน จัดอย่างนี้ทั้ง ๓ ชุด เดินเวียนเมรุคนละหรือชุดละ ๓ รอบ เวลาเดินให้กู่กันด้วยตามวิธีชาวป่า เรียกกันว่า "วู้ ๆ ๆ" คนและ ๓ ครั้ง แล้วจึงนำสามหาบขึ้นตั้งยังอาสน์สงฆ์
<O></O>
เมื่อเดินสามหาบแล้วก็ขึ้นไปเก็บอัฐิ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยแล้ววางไตร ๓ ไตรบนผ้าคลุมอัฐินั้น แล้วนิมนต์พระสงฆ์ขึ้นไปชักผ้าบังสุกุลนั้น จากนั้นจึงเปิดผ้าคลุมออกพรมน้ำอบ และเก็บอัฐิใส่ที่ที่เตรียมไว้ แล้ววางบนพาน ส่วนเถ้าถ่านคือ อังคารรวบรวมใส่ผ้าขาวที่รองนั้น รวบชายขึ้นห่อใส่ในที่ใส่อังคารที่เตรียมไป แล้วเชิญอัฐิและอังคารกลับลงมาตั้งที่ทำบุญ เลี้ยงพระสามหาบและบังสุกุล แล้วก็เป็นอันเสร็จงาน หรือถ้าไม่มี ๓ หาบ ก็เก็บอัฐิอังคารและบังสุกุล ณ ที่นั้น เป็นอันเสร็จพิธี ตอนที่ลงจากเมรุแล้วขึ้นบันไดบ้าน เมื่อถึงบ้านนั้น เจ้าภาพจะโปรยเศษสตางค์เป็นการให้ทานด้วย

​

การแปรธาตุ<O></O>
ประเพณีเกี่ยวกับการเก็บอัฐิมีอยู่ว่า เมื่อถึงเวลาเก็บอัฐิ จะเป็นในวันเผา หรือในวันรุ่งขึ้น หรือ ๓ วัน ๗ วัน หลังจากเผาเสร็จก็ตาม ครั้งแรกให้ทำกองกระดูกให้เป็นรูปคนนอนหงาย หันศีรษะไปทางทิศตะวันตก สมมติว่าตาย แล้วนิมนต์พระมาบังสุกุล ตอนนี้เรียกว่า "บังสุกุลตาย" จะมีผ้าทอดก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ พระสงฆ์จะพิจารณาว่า "อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปปาทวยธมฺมิโน อุปปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺ ติ เตสํ วูปสโม สุโข"
<O></O>
เมื่อพระพิจารณาจบแล้ว ก็ให้ทำรูปอัฐินั้นใหม่ เป็นรูปคนหันศีรษะไปทางทิศตะวันออก สมมติว่าเกิด แล้วเจ้าภาพก็ใช้น้ำหอมประพรมโปรยด้วยดอกไม้และเงินทอง นิมนต์พระสงฆ์บังสุกุลอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เรียกว่า "บังสุกุลเป็น" พระสงฆ์บังสุกุลว่า "อจิรํ วตยํ กาโย ปฐวึ อธิเสสฺสติ ฉุฑฺโฑ อเปตวิญฺญาโณ นอรตฺถํ วกลิงฺครํ" แล้วทำการเก็บอัฐิ
<O></O>
เมื่อเก็บอัฐิตามต้องการแล้ว อัฐิที่เหลือรวมทั้งเถ้าถ่าน ก็รวบรวมไปบรรจุ, ทิ้งแม่น้ำหรือฝังในที่เหมาะสมต่อไป

<O>></O>​

<O></O>

ข้อมูล จากหนังสือพุทธศาสตร์ "ศาสนพิธี" ปีที่ ๔๓ อันดับที่ ๑/๒๕๔๓ <O></O>
อนุโมทนาที่มาข้อมูล : พิธีศพ เวบคลังปัญญาไทย<O></O>

<O>
</O>​