ประสบการณ์ ถอดกายทิพย์เต็มกำลังครั้งแรก, พบดินแดนความเร็วสูงในอีกมิติหนึ่ง

ในห้อง 'การทดลองทางจิต' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 8 ตุลาคม 2004.

  1. mayom

    mayom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +167
    รู้สึกเหมือนเคยไปมาเหมือนกันที่ว่านี้ แต่อยากถอดจิตแล้วเดินบนโลกกลม ๆ ใบนี้ ใครแนะนำได้บ้าง
     
  2. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +2,161
    เรื่องนี้ของคุณเวปสโนว์ไม่ใช่เพียงคนเดียวหรอกที่ไปหรือสามารถทำได้ จริงๆ แล้วฟังดูอาจไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ขอบอกว่าความเป็นจริงในโลกนี้ก็สภาวะนึง ความเป็นจริงในสภาวะทิพย์ก็อีกอย่างนึง ผมเคยคุยกับลูกศิษย์หลวงพ่อฯ มาก็เคยได้ยินเรื่องการฝึกอะไรต่างๆ อย่างนี้เหมือนกัน เล่นกันยิ่งกว่าคุณเวปสโนว์ซะอีก แถมยังมีอาวุธประจำกายกันด้วย(เป็นอาวุธทิพย์) แต่ละคนได้ไม่เหมือนกัน พระท่านสงเคราะห์มาให้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธที่มองไม่เห็นแต่มีพลังมาก เรื่องอย่างนี้เป็นปัจจตัง รู้ได้เฉพาะตน ใครเข้าถึงแล้วถึงจะรู้ แนะนำคุณเวปสโนว์ลองถามพระท่านดูก็ได้ว่าคุณได้อาวุธประจำตัวเป็นอะไร ถ้ามีก็จะได้ใช้และจะได้รู้ว่าในชาตินี้เรามีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง...
     
  3. purana

    purana สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับสำหรับการถอดกายไปไหนมาไหนได้สำหรับผู้ปฏิบัติถ้าเป็นการปฏิบัติที่ถูกวิธิตามแนวทางที่แท้จริงของพระพูทธเจ้า ยังไม่มีความรู้แจ้งว่าสถานที่ที่คุณไปนั้นคือที่ไหนหรอก แต่เคยรู้จากที่ได้ฟังธรรมะของหลวงปู่สรวงว่า ในชั้น อรูปพรหม ผู้ที่อยู่ในนั้นมองไม่เห็นว่ามีตัวตนกัน แต่สัมผัสถึงกันได้ จึงขอฝากให้ลองพิจารณาธรรมะของหลวงปู่ดูกันนะครับ http://www.wattham.org/menu4.htm
     
  4. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,998
    ค่าพลัง:
    +5,064
    จิตเดิมแท้ของ จขกท. มีบุญบารมีเก่า จึงฟื้นอภิญญาได้เร็ว


    ในการฝึกวิชชาโดยจิตเดิมแท้ จะทำให้ได้รู้เห็นและพัฒนาจิตเดิมแท้
    แต่หากยังมีภารกิจบนโลกมนุษย์ จะต้องใช้จิตเดิมแท้กลับมาสอนใจ
    ตนเองด้วย ตามหลักจิตของพุทธศาสนา เราเรียกว่า ใช้จิตในจิต สอน
    จิตนอก ฟังแล้วก็งงๆ แต่หากใช้ศัพท์ของทางสายธรรมจักรของฝ่าหลุน
    เขาใช้คำว่าจิตรอง กับจิตหลัก คือ จิตเดิมแท้ ไปฝึกวิชชามา ก็ต้องมา
    สอนจิตหลัก (ใจหรือสมองก็ดี) เพราะกิเลสอยู่กับใจ ไม่ได้อยู่กับจิต
    จิตประภัสสรไร้กิเลส แต่ใจมีกิเลส จำต้องให้จิตสอนใจ ละคลายกิเลส
    เมื่อละคลายได้ จะสามารถกำหนดจิตด้วยใจ คือ ใช้อภิญญาได้โดยที่
    ต้องการ จะไม่เกิดการถอดจิตโดยไม่ตั้งใจ ถอดโดยบังเอิญอีก



    จำต้องบรรลุธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมอภิญญาได้ดั่งใจ
    ธรรมมีหลายแบบ บรรลุธรรมแบบโพธิสัตว์ คือ ไร้กิเลสแต่เกิดใหม่ได้
    แต่ไม่จำเป็นต้องบรรลุธรรมแบบอรหันต์สาวก ที่ไม่เกิดอีกเลย


    การบรรลุแบบโพธิสัตว์นั้น เฉพาะอรหันตโพธิสัตว์และมหาโพธิสัตว์เท่านั้น
    ที่จะรู้และเข้าใจได้ว่าใช้วิธีใด หากท่านเป็นหนึ่งในนั้นก็ไม่ต้องกลัวท่านย่อม
    ทำได้ หากไม่ลองค้นหาตัวเองว่าทำได้ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นจริงได้ ใครจะมาบอก
    เราได้? ตำราคัมภีร์อาจตกหล่น ความรู้ไม่พอเพียงแก่คนบางระดับ ใยต้อง
    ยึดติดแต่ตำรา?


    สายฤาษีนั้น เขามองว่าธรรมะมีหลายสาย เขาแยกเป็น ธรรมอรหันต์, ธรรม
    ฤาษี, ธรรมเก้าห้อง ฯลฯ บรรลุธรรมแล้วก็ล้วนเข้าใจธรรมชาติถึงที่สุดทั้งสิ้น
    เพียงแต่ใครจะเลือกชีวิตให้ดำเนินไปตามสายไหนก็เท่านั้นเอง


    ทดลองดูสิ!...
     
  5. samusunn

    samusunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    517
    ค่าพลัง:
    +878
    อยากทำได้นะคะ แต่ใครพอจะบอกวิธีทำจิตให้ว่างๆได้ไหมคะ
    ต้องทำยังไง ต้องนึกถึงอะไรจิตถึงจะว่าง อยากรู้อ่ะค่ะ
     
  6. กรพีระ

    กรพีระ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่แน่ใจเหมือนกันน่ะ แต่ที่ผมไปส่วนมากจะเป็นเทวดา หรือไม่ก็พระน่ะ ที่เคยไปคือเทวดาเข้ามาตรวจจิตให้แล้วบอกว่า อะไรบางอย่างในจิตมีปัญหา แล้วท่านก็ช่วยรักษาให้ เคยอ่านในหนังสือเหมือนกัน ถ้าถอดจิตไปนานๆพลังจะลดลง สุดท้ายจะกลับเข้ากายเนื้อไม่ได้ ปล. การจะสามารถถอดกายทิพย์ได้ต้องมีครูก่อน ถ้าไม่มีครูจะได้รับอันตราย อีกอย่างต้องมีกำลังสมาธิขั้นสูง เอาประมาณว่าไม่รู้สึกประสาททั้ง 5 ของกายเนื้อได้ นั่นคือใกล้แล้ว ต้องมีบุญบารมีแต่ชาติปางก่อน จะถอดจิตได้เองโดยไม่ตั้งใจ สุดท้ายไม่ใช่เรื่องน่าลอง เพราะห่างจากความตายเพียงเส้นด้ายเดียว สู้มีชีวิตทำบุญ ปฏิบัติธรรมให้มีบุญบารมีเพิ่มสูงขึ้นดีกว่า เพราะชีวิตเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม ดังนั้นสร้างบุญไว้ดีกว่าครับ
     
  7. rwoot

    rwoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +191
    ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่หลงผิดทำแต่กรรมชั่วครับ...ใช้ความสามารถพิเศษที่มีโปรดเพื่อนมนุษย์ครับ.....สิ่งนั้นเป็นเพียงธรรมดาในความธรรมดาครับ....กลับสู่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดนี่สิ...เป็นความธรรมดาที่สุดในโลกุตระ แต่เป็นความประเสริฐและอัศจรรย์ที่สุด...ในโลกียะครับ...ขอบคุณครับ...
     
  8. rwoot

    rwoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +191
    ความแปลกในโลกนี้หามีไม่....มีเพียงความแปลกตา หู จมูก ลิ้น สัมผัสกาย สัมผังใจเท่านั้นเองครับ...ไม่เคยเห็น-ประสพพบด้วยตัวของตัวเอง ไม่ได้หมายความว่า สิ่งนั้นไม่ได้มีอยู่จริงนะครับ...ขอบคุณครับ...www.rwoot.igetweb.com
     
  9. jamscomcom

    jamscomcom สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมว่าท่านน่าจาฝันมากกว่าครับเรื่องพวกนี้ผมเชื่อนะครับแต่นี้มันคนละยุคครับไม่มีที่สงบทำสิ่งนี้หลอกครับถ้าเป็นแต่ก่อนน่าจะทำได้นะครับ
     
  10. แก้เครียด

    แก้เครียด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +6
    ทุกยุค ทุกสมัย เมื่อมี; เกืด, แก่, เจ็บ, ตาย, ย่อมมีสิ่งอื่นตามมาด้วยเสมอ


    บัวสี่เหล่า บ้างก็ยังพบปลาเต่า อยู่เนืองนิตย์ / ///// บัวเหล่าไหน พ้นน้ำพบแสงแดด นั่นล่ะ ดีแล้ว

    ขอปัญญาจงมีแก่ท่าน เอวํ โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  11. ตาแก่

    ตาแก่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +30
    เราทำได้แต่ไม่แน่ใจเพราะฝึกเองครับ แต่ไม่เหมือนนายนะ เราแค่พุ่งออกไปไม่เห็นกายตัวเองว่าเป็นไง ไปแต่ความรู้สึกเหมือนเป็นพลังอย่างหนึ่ง ยังไม่เห็นเป็นรูปร่างตัวเอง ออกก็พุ่งไปเลย ไม่เหมือนตัวเราไม่เคยมองดูร่างเรา มีแต่นึกจะไปก็ไปเลย น้อยครั้งที่เราจะเห็นตัวเองและก็จะมองแค่แป๊บๆ ว่าเรานอนอยู่ก็พุ่งไปเลย เป็นอย่างนี้หลายครั้งและไม่เห็นอะไรทีสวยงามเป็นสีสันอะไรเลย มีแต่เหมือนจะเป็นขาวดำมากว่านะครับ เคยถอดจิตออกไป นอนภาวนา นับลมหายใจพอสักพักเมื่อจิตเรานิ่ง ตัวเบาเหมือนจะลอย พอสงบแล้วก็ตั้งใจว่าจะถอดไปไหนดี มันก็พุ่งไปเองครับ แต่ไปไม่ได้หมดทุกที่นะ มีครั้งหนึ่งนะครับ ผมเองลองนึกถอดจะไปหาเพื่อนที่แห่งหนึ่ง แต่รู้สึกว่ามันไม่ยอมพุ่งไป แต่เข้าร่างเองเฉยเลย แต่นึกอยากไปตามหาญาต เช่น พ่อ แม่ ย่า ของเราหรือตรงไปหาพุทธเจ้าอย่างนี้มันไป แต่บางทีมันก็ตรงไปไม่ถึงนะ เหมือนว่าไปที่มืดๆ แล้วมันก็หยุด พอลืมตามันก็คลายออกมา พอวันหลังเราลองใหม่พอมันหยุดอยู่ตรงที่มืดๆ อีกครั้งเราก็ตั้งจิตใหม่มันก็วิ่งไปต่อได้ เราคงต้องพยายามเรียนรู้วิธีการที่จะ กำหนดจิตและบังคับมันให้คล่องกว่านี้ คงจะดีขึ้น เพราะเราพอเป็นสมาธิปุ๊บ จิตคิดไปเที่ยวอย่างเดียว บางทีเราลองไม่ไปบังคับนับลมหายใจต่อมันก็จะมีสมาธิดีขึ้น รู้สึกตัวเบาสบายมีความสุขดี เราก็รีบแผ่บุญกุศลให้ญาติ พ่อ แม่ของเรา ญาติๆ เพื่อน สัตว์ เจ้ากรรมนายเวรของเรา เพราะเราได้อ่านมาเขาบอกว่าหาดเรามีสมาธิขั้นอุปปจาระสมาธิการอุทิศผลบุญจะไปถึงได้ดี พอมีสมาธิรีบอุทิศเลย กลัวมันจะคลายก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2008
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สิ่งที่ท่านถาม เราเป็นผู้ตอบ
    ฌานเป็นเครื่องเล่นเครื่องอยู่ ของพระโพธิสัตว์
    เพื่อให้ผ่อนคลายจาก ความทุกข์ที่ต้องแบก
    สัตยาธิษฐานไว้ว่า

     
  13. ขันติธรรม

    ขันติธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +372
    อนุโมทนา สาธุ

    สิ่งทั้งปวงควรหรือจะถือมั่น เพราะว่ามันก่อทุกข์มีสุขไฉน ยึดมั่นมากทุกข์มากลำบากใจ
    ปล่อยวางได้เป็นสุขทุกคืนวัน
     
  14. poonjoss

    poonjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +114
    พยายามจะเชื่อให้
     
  15. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    สาธุกับเจ้าของเวป์ครับ

    ผมก็เคยแยกจิตแยกกายได้ครับ แต่ฝึกแบบหลวงพ่อฯ ฝึกเต็มกำลังที่บ้าน
    อาการก็ลอยขึ้นไป เหมือนกันเร็วมาก
     
  16. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    สาธุ

    เมื่อเราแยกจิตแยกกายได้แล้วเห็นภพภูมิต่างๆ แล้วเราก็นำมาปลงวิปัสนาญาณ ว่า โลกมนุษย์ก็ไม่หน้าอยู่ อบายภูมิก็ไม่หน้าอยู่ โลกของเทวดาก็ไม่หน้าอยู่ เพราะยังเวียนว่ายตายเกิดเป็นสิ่งที่ยังไม่แน่นอน เราปราถนาอย่างเดียวคือพระนิพพาน (หมายความว่า ๓ ภพนี้พระท่านสอนไม่ให้ปราถนา ให้ปราถนาอย่างเดียวคือพระนิพพาน ไม่ว่าพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ /ศรัทธาธิกะ /หรือวิริยะธิกะ /ท่านสอนให้ไปพระนิพพานกัน หลวงพ่อฤาษีก็สอนให้ไปพระนิพพาน
    เป็นบุคคลที่ได้บารมีเต็ม พวกนี้เขาเรียกว่าปารมัตถบารมี บารมีขั้นปลาย
    สะสมบุญมาหลายภพหลายชาติ มีความพิเศษกว่าคนอื่นเมื่อปฏิบัติธรรม สาธุการกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  17. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาครับ

    ..............................
    กิเลสคือประตู ของที่อยู่หลังประตูมีอยู่ คุณเปิดประตูไ่ม่ได้ใช่ว่าของนั้นไม่มี
     
  18. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533


    สาธุ อนุโมทนาเจ้าของกระทู้ครับ ดินแดนนั้นคงเป็นที่เล่นของพระโพธิสัตว์เป็นแน่
    ขอเป็นกำลังใจให้ิีอีกแรงครับ แต่ผมคงลาละครับ เบื่อเกิดแล้ว
     
  19. Luthiien

    Luthiien เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +215
    อยากทำบ้างจัง
     
  20. ขุนหลวงหาวัด

    ขุนหลวงหาวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +127
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าเมื่อกลางเดือนมีนาคม พุทธศักราช2550
    ในนิมิตนั้นมีพระในรูปพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งนั่งบนอาสนะเเบบปูนสูง
    ข้าพเจ้าได้เข้าไปกราบท่านกับคุณพ่อกับน้าชาย1คนรวมเป็นสามคน
    ข้าพเจ้าได้ถามชื่อพระอริยสงฆ์รูปนั้นที่ประทับบนอาสนะ
    ว่าชื่ออะไร ท่านตอบว่า โคตะมะ ข้าพเจ้านึกในใจว่า เกิดมาไม่เคยได้ยิน เลยถามรอบสองว่าชื่ออะไร ท่านก็บอกว่า โคตมะ ต่อมามีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขอบวชเเล้วกล่าวคำขอบวชเป็นบาลี
    ต่อหน้าพระอริยสงฆ์รูปนั้น ข้าเจ้านั่งทางซ้ายของพระอริยสงฆ์ที่นั่งบนอาสนะ ส่วนท่านที่มาขอบวชนั่งทางขวาของพระอริยสงฆ์ที่ประทับบนอาสนะปูน
    ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้นปีติที่เห้นชายผู้นั้นมาบวชในพระพุทธศาสนา
    เเล้วคิดในใจว่าเราน่าจะเกิดเป็นชายบ้างจะได้มาบวชต่อหน้าพระอริยสงฆ์
    ต่อมาพระอริยสงฆ์มีกระดานไม้ที่ตีตารางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสได้เท่าๆกัน
    จำนวนสิบช่อง ท่านให้เทียนไขสีขาวที่จุดไฟเเล้วให้เรียงในกระดานทั้งสิบช่อง
    เมื่อข้าพเจ้าเรียงเสร็จได้ส่งให้พระอริยสงฆ์ที่ประทับนั่งบนอาสนะ
    ท่านได้เมตตาเช็คให้เเล้วบอกว่า เรียงดวงเทียนถูกเพียงสามช่องจากสิบช่อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...