ผมฝีกสมาธิไม่เคยได้ผลเลยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jokeyvoy, 18 มีนาคม 2006.

  1. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมฝึกสมาธิมาก็นานแล้วไม่เคยได้ผลเลย ลองมาก็หลายวิธี ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมมีกรรมเยอะหรือเปล่า ใช้วิธีไหนก็ไม่เคยได้ดีเลย ก็เสียใจบางครั้งยังคิดเลยว่าผมอาจจะบุญน้อยมากๆเลย ทำสมาธินั่งได้แค่ 5 นาที และผมยังสงสัยอยู่เรื่องนึงไม่รู้ว่าทุกคนจะช่วยอธิบายได้หรือเปล่าครับ ผมเป็นคนที่มักจะไปหลงรักคนที่มีเจ้าของแล้ว มันเป็นกรรมหรือเปล่า เพราะผมไปทำอะไรเมื่อชาติที่แล้วไม่ดีหรือไง ถึงไม่มีเป็นตัวเป็นตนสักที ผมก็เริ่มเหนื่อยกับชีวิตที่ผ่านมา เพราะตลอดมาจะมักไปรักกับแฟนชาวบ้านหรือเมียชาวบ้าน ชีวิตมันไม่ดีเลย พยายามค้นหาคำตอบหลายครั้งก็ไม่ได้คำตอบที่ดี หวังว่าที่นี้จะมีคนให้คำตอบผมได้ครับ
     
  2. พระป่าสุพรรณ

    พระป่าสุพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +13,135
    คำว่านานแล้วของคุณ Jokeyvoy คือเท่าไหร่ครับ เป็นปีเลยรึเปล่า ผมเดาว่าคุณคงปฏิบัติเองโดยไม่มีครูบาอาจารย์มาชี้แนะใช่หรือไม่ ถ้าใช่คุณลองเริ่มจากอาณาปานสติก่อนก็ได้ครับ จะกำหนดตรงไหนก็ตามแต่ 5 นาที 10 นาทีก็ได้เพราะแรกเริ่มนั้นผมก็นั่งได้แค่เท่านี้แหละครับ พอนั่งแล้วจะรู้สึกทรมานมากใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็พอครับไม่ต้องไปฝืน แล้วทำซ้ำๆทำบ่อยๆก็จะดีขึ้น เหมือนการกินข้าวน่ะครับ ถ้ากับข้าวไม่อร่อยก็ไม่ต้องฝืนกิน แต่ต้องกินทุกมื้อเพื่อไปบำรุงร่างกายบ่อยๆใช่หรือไม่ครับ ฉันใดก็ฉันนั้นน่ะครับ และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เริ่มปฎิบัตินั้นคือความอดทนครับ คุณไม่ได้มีกรรมเยอะหรอกครับ เพราะถ้ามีขนาดนั้นจริงๆคุณคงไม่มาโพสถามในเวบนี้หรอก ....หาอาจารย์ดีๆสักคนครับ แล้วจะดีขึ้น
     
  3. chai_yai

    chai_yai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +331
    ตั้งใจและพยายามทำต่อไปตามที่คุณลูกเจ้าคุณนรแนะนำนะครับ อย่างน้อยถ้าไม่ได้ถึงขั้นสูง แต่ทำแล้วมีความรู้สึกว่าจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ผมว่าก็เป็นสิ่งที่ดีนะ
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ลองใช้วิธีนำสติมาระลึกรู้อยู่ในกาย คอยสังเกตการเคลื่อนไหวกับความรู้สึกภายในที่เกิดขึ้นในกายเนืองๆดูสิครับ ไม่ต้องไปสนใจกับความคิดมากอยากจะคิดก็ให้คิดไปให้เราสนใจอยู่กับความรู้สึกตัวทั่วพร้อมก็พอ พอเราเอาสติมาระลึกภายในกายสังเกตอิริยาบถและความรู้สึกอยู่เนืองๆ สติของเราจะได้รับการฝึกและพัฒนา แล้วเดี๋ยวสมาธิก็จะดีตามมาเองครับ

    วิธีนี้จะค่อนข้างเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายกว่าการพยายามกำหนดจิตเป็นจุดๆหรือการบริกรรมซึ่งวิธีเหล่านั้นจะเป็นการพยายามบังคับจิต ซึ่งถ้าคนที่เป็นพวกวิตกจริตหรือเป็นคนคิดมากยิ่งปฏิบัติจะยิ่งฟุ้งซ่านหนักเข้าไปใหญ่(ยกเว้นกรรมฐานที่เกี่ยวกับลมหายใจเพราะลมหายใจสามารถตัดวิตกหรือความคิดได้ดีครับ) ดังนั้นควรเริ่มด้วยการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมจะดีกว่าครับ (และถ้าฝึกอย่างต่อเนื่องก็สามารถปฏิบัติธรรมจนถึงขั้นสูงได้เลยครับ) หรือจะใช้อานาปานสติด้วยการเอาสติมากำหนดอยู่ที่ปลายจมูกคอยสังเกตลมหายใจที่เข้าออกก็ได้ครับ
     
  5. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมฝีกมา 6 ปีกว่าแล้วครับ แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ผมฝึกทุกวันนะครับ จิตใจมันฟุ้งซ่านตลอด ผมพยายามทำความดีให้มากแล้ว ไม่ฆ่าสัตว์มา 14 ปีเห็นจะได้ครับ เห็นมดผมยังหลบเลย แต่ผมกำลังนึกสงสัยว่าตนเอง บารมีคงไม่ค่อยมีครับ มันถึงฟุ้งซ่านตลอด ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วนั่งแล้วชอบนึกถึงตัดสิ่งรบกวนไม่ได้เลยครับ ต้องขอบคุณทุกคนมากครับ ที่กรุณาช่วยเหลือ ผมเคยทำแล้วนั่งได้แค่ 2-3 นาทีก็รู้สึกอึดอัดแล้วไม่มีความสงบในใจ คงจะมีมารในใจมันเยอะครับ แต่ผมก็ต้องพยายามเอาชนะครับ ขอบคุณจริงๆครับ
     
  6. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เคยเหม่อลอยไหมครับอาการอย่างนั้นให้จับเป็นหลักแห่งสมาธิได้ บางครั้งเหมออยู่นาน บางครั้งผมขับรถใจเหม่อลอยเป็นนานแต่มารู้สึกตัวอีกทีปาเข้าไปหลายนาที ถ้าเป็นการหลับในคงอยู่โรงบาลแล้วแต่แปลกมากกายมันขับให้เองโดยใจผมนั้นไม่ได้อยู่ตรงนี้ ตื่นมาอีกทีมันมาได้ไงตั้งไกล มันเอามาจับเป็นสมาธิได้ คือใช้อารมบังคับให้เกิดผมนั่งจิตนิ่งจริง ๆ จนไม่รู้สึกตัวประมาณ 10 นาที จากนั้นมันจะเกิดปิติ มีแสงวูปวาปผ่านเปลือกตา และแสงคล้ายแฟลชถ่ายภาพเราตอนหลับตา และได้นั้งจนไม่รู้สึกตัว และรู้สึกวูปดิ่งลงเลื่อยๆ จากนั้นก็กลัว แล้วตื่นจากสมาธิ ....(กลัวๆๆๆๆ) มันจะไปไหนมะทราบไม่เคยไปกลัวไม่กลับ
     
  7. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    แก้ไขข้อความ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤศจิกายน 2012
  8. พระป่าสุพรรณ

    พระป่าสุพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +13,135
    จริงตามที่คุณ Dis-esp ว่าไว้ทุกประการครับ ถ้าคุณนั่งแค่นี้ยังว่าเป็นทุกข์ ให้คุณลองพิจารณาดูว่ายังมีทุกข์อย่างอื่นในโลกนี้อีกมากมายนักรอให้คุณเจออยู่ เอาแค่อดข้าววันนึงก็เห็นผลแล้วละครับ อดทนเข้าครับ ผมเอาใจช่วย
     
  9. พระป่าสุพรรณ

    พระป่าสุพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +13,135
    จริงตามที่คุณ Dis-esp ว่าไว้ทุกประการครับ ถ้าคุณนั่งแค่นี้ยังว่าเป็นทุกข์ ให้คุณลองพิจารณาดูว่ายังมีทุกข์อย่างอื่นในโลกนี้อีกมากมายนักรอให้คุณเจออยู่ เอาแค่อดข้าววันนึงก็เห็นผลแล้วละครับ อดทนเข้าครับ ผมเอาใจช่วย
     
  10. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    โมทนาครับ

    ผลมันได้ตั้งแต่เราไม่ทำบาปแล้วครับ... เทียบกะคนเหยียบมดโดยตั้งใจดิครับ อิอิ

    ..... ก็ให้อย่าคิดมากไปครับ มันจะไปตัดอารมณ์สงบ
     
  11. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    เริ่มต้นกราบพระ และสมาทานพระกรรมฐานก่อน เพื่อกำหนดทิศทางหรือเป้าหมาย

    ก่อนจะทำสมาธิ ควรตัดความกังวลทุกอย่างก่อน (วางไว้สัก 5นาที 10นาที) เพราะคิดติดกังวลก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร คือ กิจของกายพักชั่วคราว ขอฝึกกิจของใจก่อนได้ไหม(สอนใจตนเองเบื้องต้น) คือว่าที่ผ่านมาแล้ว ยังไงก็แก้ไม่ได้ ที่ยังไม่ถึงมันก็ยังไม่เกิด กังวลไปก็เท่านั้น แต่ตอนนี้เราจะสร้างความดีซึ่งจะมีผลในวันข้างหน้าแม้ขณะนี้...(...ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง..ความตายเป็นของเที่ยง อย่าประมาท ยังไงก็ต้องตาย จะอะไรนักหนา...จิตรู้ตัวก็เริ่มสงบลงบ้าง..)

    อันดับต่อไป ตั้งใจระงับยับยั้ง นิวรณ์(อารมณ์ชั่ว) สักเพียงชั่วคราว
    1.อารมณ์ของความรัก (สวย งาม)ใช้ กายคตานุสสติกรรมฐาน+อสุภกรรมฐาน ให้พอรู้เห็นว่า ร่างกายของเราของเขาประกอบไปด้วยอะไรที่เหมือนๆกัน แยกออกแต่ละชิ้นเป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรเมื่อกาลเวลาผ่านไป มีความสกปรกอย่างไร จิตจะพอเริ่มสงบลงได้บ้าง
    2.อารมณ์ของความโกรธ อาฆาต ใช้ พรหมวิหาร4 โดยตั้งใจว่าจะเป็นมิตรกับทุกชีวิตในโลก เพราะต่างก็มีทุกข์ทั้งสิ้น ต่างก็รักสุขเกลียดทุกข์ทั้งสิ้น หากช่วยบรรเทาทุกข์ได้จะช่วยทันที หากเกินวิสัย ก็ปล่อยเป็นเรื่องกฎแห่งกรรม แล้วแผ่เมตตาจิตไปในจักรวาลตั้งแต่ใกล้ตัวไปจบลงที่ตัวเอง หรือใช้วรรณกสิณ จะทำให้จิตเริ่มสงบลงได้บ้าง
    3.อารมณ์ของความง่วงเหงา ทำความเข้าใจกับจิตไว้ก่อนว่า จิตมีสภาพตื่นตลอดเวลา จิตไม่เคยหลับ แม้ร่างกายหลับจิตยังตื่นเสมอ จิตจะเริ่มไม่สนใจกับกาย
    4.อารมณ์ฟุ้งซ่านของจิตที่จะคิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ ถ้าคิดพิจารณามาถึงตรงนี้หลายกรรมฐานแล้ว จิตเริ่มยอมแล้ว กันพลาด จับอานาปานุสสติกรรมฐานคุมไว้ จะทำให้จิตรวมตัว ใจสบายขึ้น
    5.อารมณ์แห่งความสงสัย ใช้พุทธานุสสติ(คุณแห่งพระพุทธเจ้า ว่าก่อนเป็นท่านคิดอย่างไร เพื่อใคร ต้องค้นหาอย่างไรจนตรัสรู้ ตรัสรู้อะไร ด้วยอาการอย่างไร) หรือธรรมานุสสติกรรมฐาน(คุณแห่งพระธรรม คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มุ่งให้คนละความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้เบาสบาย ดีหรือไม่) หรือใช้สังฆานุสสติกรรมฐาน(คุณแห่งพระอริยสงฆ์ ท่านคือผู้ที่ข้าถึงตามคำสอนก่อนเป็นตัวอย่างให้เราเดินตาม หากไม่มีท่าน เราจะเอารูปแบบจากไหน ..ได้อ่าน..ได้ฟัง..ได้ทำตาม..) จิตจะเริ่มสงบลงได้บ้าง

    ระงับนิวรณ์5 ได้ จิตก็เข้าถึงปฐมฌานแล้ว โดยไม่รู้ตัว สังเกตุได้ขณะที่ทำอยู่ จิตจะไม่สนใจอะไรภายนอกเลย(หมายถึงเสียง)

    จากนั้นไป ก็จับลมหายใจควบภาวนาต่อไปตามอัธยาศรัย ตามกำลังใจอย่าฝืนบังคับ เพราะฌานต่อไป จะปรากฎเองตามกำลัง
     
  12. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพร้อมที่จะตั้งใจจริงๆ ในการปฏิบัตินะครับ...
    ที่บอกว่าฝึกมา 6 ปีกว่านะฝึกแบบไหนละครับ...

    การที่เราจะปฏิบัติตรงนี้ได้ทุกอย่างจะเริ่มจากการที่เรา...ถือศีล...ให้ทาน...
    เป็นการปูพื้นฐานขัดเกลาจิตใจของเราให้ผ่องใสก่อน...แล้วจึงเริ่มปฏิบัติภาวนา...

    ถ้าเราเองยังไม่พร้อมที่จะตั้งใจฝึกปฏิบัติอย่างจริงจัง...นั่งอย่างไรก็ฟุ้งซ่านครับ...

    หรืออีกอย่างนะครับลองสวดมนต์ก่อนปฏิบัติภาวนาก็ได้...
    จะทำให้เรามีสมาธิมากขึ้นครับ...ลองดูใหม่ครับ...ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...
    อย่าใจร้อนข้ามขั้น...อย่าอยากเห็นโน่นเห็นนี่...กิเลสครับ...:cool:
     
  13. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณทุกคนเลยครับ โดยเฉพาะคุณ Dis-esp ที่ให้คำตอบที่ดี ผมพยายามมากๆนะครับ ผมก็ศิษย์มีครูเหมือนกันแต่ท่านเหมือนจะให้ฝึกเพื่อให้ใจสงบเท่านั้น ผมก็ภาวนาทุกครั้งแต่สักพักใจมันก็วนไปนึกถึงแต่เรื่องอื่นๆที่ผ่านมาทั้งทุกข์และสุข ผมสาระวนกับเรื่องต่างๆในใจมากๆบางครั้งก็เครียดว่าเราปฎิบัติมาเนี่ยเสียเปล่าแท้ ๆ ทำไมหลายๆคนฝึกแล้ว จิตใจเขาดูเป็นสมาธิกัน แต่ผมฝึกเท่าไหร่ก็ไม่เคยเห็นความมหัศจรรย์แห่งจิตบ้างเลย บางครั้งก็ท้อมากๆ จนไม่อยากนั่งก็มีแต่ก็รู้สึกอยากนั่งตลอดเวลา อีกเรื่องนึงเรื่องเหน็บที่ชอบเกิดขึ้นจนทำให้ผมนั่งได้แค่ 5-15 นาทีเท่านั้น ผมเคยฝืนนั่งชั่วโมงกว่าเหน็บจะหายไปเอง แต่ก็เป็นครั้งเดียวเท่านั้นจากนั้นร่างกายก็ไม่ยอมทำตามใจตัว ผมขอบคุณทุกคนจริงๆครับ ที่ให้คำตอบดีๆและไม่ได้ว่าอะไรผมเหมือนที่ผมเคยไปคุยกับเพื่อนๆที่เว็ปอื่น ผมมาแค่ขอความรู้เท่านั้น แต่ถ้าใครจะแนะนำเรื่องนี้อีกก็ขอบคุณมากๆครับ
     
  14. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    .....ลองหาโอกาสไปทำบุญตักบาตร ทำทานบ้างก็ได้นะครับคือสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เราสบายใจได้ครับ และทำให้จิตใจมันเบา สบายขึ้นครับ เวลาทำสมาธิจะได้ใจสบายขึ้น อย่าไปฝืนมันมากนัก เมื่อยก็ขยับได้ เปลี่ยนท่าทางได้ครับ เวลาฝึกก็อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ได้เหมือนกันทุกวันหรอกครับ ผ่อนคลายร่างกาย กล้ามเนื้อ และข้อต่อก่อนฝึกจะทำให้จิตใจลดความตึงเครียดไปได้เหมือนกันครับ อุตส่าห์ทำมาได้ตั้งขนาดนี้ไม่สูญเปล่าหรอกครับ ผมว่าน่ายกย่องมากที่คุณยังไม่ละทิ้งความดี และพยายามหาทางแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง ขอให้ประสบความสำเร็จครับผม
     
  15. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    ผมก็เป็นเหมือนคุณมาก่อนครับ นั่งได้ไม่นานครับมีเรื่องต้องคิดเยอะแยะทั่งที่เป็นเรื่องดีและไม่ดี มันเป็นธรรมชาติของจิต ที่จะต้องคิด หากเราไม่เคยฝึกอบรมจิต ก็จะเป็นการยากมากที่จะมีสมาธิ มีอุบายในการฝึกครับ เมื่อเราคิดถึงเรื่องอะไรก็ตามให้เราพิจารณาซิ ว่าใจของเรารู้สึกอย่างไร เช่นเมื่อนึกถึงคนที่เรารู้สึกชอบมากๆ แล้วถามใจเราขณะนั้นว่า มีความรู้สึกชอบ, ไม่ชอบ หรือรู้สึกเฉยๆ แล้วให้ทดลองกำหนดลักษณะของคนที่เรานึกถึงให้แจ่มชัดว่าใส่เสื้อผ้าแบบใด อยู่ในท่วงท่าแบบใด แสดงสีหน้าอารมณ์แบบใด อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใด เหมือนเรามองเป็นภาพสามมิติ ว่าทำได้ไหม เมื่อทำได้แล้วจงภูมิใจเถิดว่าท่านได้ฝึกอบรมจิตของท่านได้ระดับหนึ่งแล้ว รู้ให้ทัน จะรู้ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร จิตเราก็เหมือนว่าว การอบรมจิตก็เหมือนการบังคับว่าวนั่นแหละ หากมันจะตกก็ต้องชักโต้ลม หากมันตึงมากก็ต้องผ่อนลงบ้าง หากมีอุปสรรคก็ต้องพิจารณาว่าจะหลบหรือต้องฟันฝ่าออกไป
     
  16. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ส่วนตัวผม ก็มีฟุ้งซ่านบ้างแต่ก็บอกกับจิตตัวเอง ฟุ้งซ่าน หรือ สิ่งอื่นๆที่เกี่ยวกับนิวรณ์ แล้วมันจะหายไปเอง(จริงๆครับ ผมลองมาแล้ว) พยายามทำจิตให้รู้เท่าทันความคิดในสมอง แล้วสมองมันจะไม่คิดต่อครับ เพราะว่าสมองกลัวจิตเราตามทัน และยึดพระพุทธองค์ไม่ว่าคำภาวนาที่หนักแน่นขึ้น พุท โธ หรือ นะมะ พะธะ หรือ ฝึกกสิณซึ่งผมยังไม่ค่อยชำนาญเท่าไหร่ หารูปพระพุทธองค์จากในเวปนี้ก็ได้ ผมก็เริ่มทำอยู่ และถ้าที่บ้านมีพระพุทธ และมีพระธาตุ ผมจะขอบารมีท่านขณะอยู่ในสมาธิด้วยครับ
    อย่าลืมรักษาศีล ผมเองก็สังเกต วันไหน เม้าท์กับเพื่อนๆเยอะ โม้เยอะ วันนั้นสมาธิจะไม่ค่อยแล่น แต่วันไหน ศีลบริสุทธิ์ (มักจะเป็นวันที่อยู่บ้าน ทำให้ผมนึกได้เลยว่า ความสันโดษนี่มันทำให้เราสามารถไปได้เร็วจริงๆครับ ) วันนั้นการนั่งสมาธิไปได้เร็วมาก แต่มักจะมีอุปสรรคด้านเสียงที่ได้ยิน ทำให้หลุดสมาธิได้บ่อย บางทีนั่งแล้วใบหน้ามันแน่นไปหมด และรู้สึกเหมือนจะตาย(ไม่รู้จริงมั้ย เหมือนตัวเราจะหายไปจากโลก)
     
  17. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ส่วนตัวผม ก็มีฟุ้งซ่านบ้างแต่ก็บอกกับจิตตัวเอง ฟุ้งซ่าน หรือ สิ่งอื่นๆที่เกี่ยวกับนิวรณ์ แล้วมันจะหายไปเอง(จริงๆครับ ผมลองมาแล้ว) พยายามทำจิตให้รู้เท่าทันความคิดในสมอง แล้วสมองมันจะไม่คิดต่อครับ เพราะว่าสมองกลัวจิตเราตามทัน และยึดพระพุทธองค์ไม่ว่าคำภาวนาที่หนักแน่นขึ้น พุท โธ หรือ นะมะ พะธะ หรือ ฝึกกสิณซึ่งผมยังไม่ค่อยชำนาญเท่าไหร่ หารูปพระพุทธองค์จากในเวปนี้ก็ได้ ผมก็เริ่มทำอยู่ และถ้าที่บ้านมีพระพุทธ และมีพระธาตุ ผมจะขอบารมีท่านขณะอยู่ในสมาธิด้วยครับ
    อย่าลืมรักษาศีล ผมเองก็สังเกต วันไหน เม้าท์กับเพื่อนๆเยอะ โม้เยอะ วันนั้นสมาธิจะไม่ค่อยแล่น แต่วันไหน ศีลบริสุทธิ์ (มักจะเป็นวันที่อยู่บ้าน ทำให้ผมนึกได้เลยว่า ความสันโดษนี่มันทำให้เราสามารถไปได้เร็วจริงๆครับ ) วันนั้นการนั่งสมาธิไปได้เร็วมาก แต่มักจะมีอุปสรรคด้านเสียงที่ได้ยิน ทำให้หลุดสมาธิได้บ่อย บางทีนั่งแล้วใบหน้ามันแน่นไปหมด และรู้สึกเหมือนจะตาย(ไม่รู้จริงมั้ย เหมือนตัวเราจะหายไปจากโลก)
     
  18. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    หลังจากที่ได้ปรึกษากับหลายๆคน ผมก็ได้นั่งสมาธิและภาวนาไปเรื่อยๆมีความรู้สึกว่ามันจะหลุดให้ได้ทำให้ผมกลัวมากตอนนั้นผมก็อธิษฐานว่าอย่าหลุดออกจากกายนะ เพราะผมไม่มีใครนั่งอยู่ด้วย ผมตกใจมากตัวเบามากๆ ผมลืมตาขึ้นเลย ผมรู้สึกเหนื่อยมากๆ ผมคิดว่าต่อไปผมคงต้องอดทนมากๆเพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น ขอบคุณครับ และหากใครมีคำแนะนำดีๆอีกก็บอกได้เลยครับ
     
  19. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047

    // ที่แท้ ก็ยังกลัวตาย ห่วงร่างกายอยู่นั่นเอง..... ตายในขณะทำสมาธิ อย่างต่ำก็เกิดบนสวรรค์ .... ให้มันตายไปเลย... ร่างกายอันเน่าเหม็นสกปรก ไม่ต้องไปอยากรักษามันไว้ ...

    ชีวิตก็มีแต่กองทุกข์ ยังอยากมีอีกเหรอ ไอ้ชีวิต ความเป็นมนุษย์นี่....

    เบื่อมนุษย์ เบื่อสังขารร่างกายซะ...

    วิปัสสนา แบบนี้ก่อนนั่งสมาธิ ก็ได้ นะ ... ผลการปฏิบัติน่าจะดีขึ้น...

    ตายเป็นตาย ยึด พระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ..


    โมทนา...
     
  20. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมก็คิดแบบนี้ทุกทีครับ แต่ว่าพอถึงเวลาก็กลัวเหมือนกัน ผมเคยมีช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานนานเป็นเวลาเกือบปี ผมเคยหลายครั้งแล้วเหมือนวิญญานจะกระเด็นหลุดไป บางครั้งก็ขลาดกลัวว่าถ้าได้เห็นอะไรแล้วจะตกใจ เพราะพี่สาวชอบพูดว่ามีคนบ้าก็เพราะการฝึกกสิณทำนองนี้ครับ ผมเคยบอกว่าจะไปปฎิบัติธรรมแต่ว่าพี่สาวก็ไม่ยอมและคัดค้าน แต่ตอนนี้ผมอยากขัดเกลาจิตใจจึงมาขอความรู้จากทุกคน ผมไม่รู้นะครับว่าทุกคนเคยเป็นแบบผมมั๊ย ผมเคยนั่งจนขนลุกและมีความสุขมากแต่ก็เป็นแค่วันสองวันติดกันเท่านั้น พอผมเล่าอาการให้แฟนพี่สาวฟังเท่านั่นจากนั้นผมก็ไม่เคยเป็นอีกเลย เป็นเพราะผมต้องการได้ความสุขแบบนั้นหรือเปล่าไม่ทราบก็เลยทำให้จิตฟุ้งซ่านไป คิดว่าคงใช่ครับ แฟนพี่สาวก็เตือนแล้วเหมือนกันว่าถ้ายังปฎิบัติไม่สำเร็จก็อย่าไปเล่าให้ใครไม่งั้นจะช้าหรือไม่ได้อีก ช่วงนี้ผมฝึกอานาปานสติอยู่ครับ ถ้าผลเป็นยังไงจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...