พระสมเด็จ แท้ หรือเก๊...

ท่านที่ชื่นชอบ สะสมพระสมเด็จฯ ช่วยกัน คอมเม็นท์ วิเคราะห์ตามความเข้าใจกันได้เลยครับ

 

ภาพด้านหลัง

 

พระเนื้อปูน แต่กลับเคลือบผิวปูนเปลือกหอยดิบ แทนที่จะเคลือบรัก ดูแปลกๆ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่พระขรัวโตแน่

 

ขอบคุณครับคุณนักชก ที่ให้คอมเม็นท์เป็นพระเคลือบผิว ครับ

เชิญสมาชิกท่านอื่นๆ ลงคอมเม็นท์ ได้เลยครับ
นานๆกว่าจะได้เห็นเนื้อระเบิดแบบนี้ เลยเอามาให้คอมเม็นท์กันพอขำๆ

 

ขอลงรูปภาพ พระสมเด็จวัดระฆังของ อ.ต้อย เมืองนนท์ ครับ
เอาไว้ศึกษาเปรียบเทียบกัน

 

ถ้าพระอย่างนี้ เจอตบก้อสมควร

 

555

 

อยากถามท่าน นักชก เรื่องสมเด็จ พิมพ์วัดเกศไชโย 6ชั้นอกตัน หน่อยครับ พระในรูปทันรุ่น สร้างเขื่อน หรือปล่าวครับ

 

คงต้องขออภัยด้วย ผมเก็บเฉพาะของสมเด็จโต และเจ้าคุณนรเท่านั้น ส่วนพระสมเด็จที่เกจิอื่นสร้างกันหลายคนเหลือเกิน เดี๋ยวดูไปดูมาจะมั่ว แค่ของช่างหลวงสร้างยังแยกยาก ให้ผู้รู้ท่านอื่นเข้ามาตอบแทนก้อแล้วกันนะคับ

 

ไม่เป็นไร ขอบคุณนะครับ ผมละกลัวจริงๆ อาจจะทันยุค ท่านสมเด็จโต ท่านปลุกเสก
หากท่านใดทราบ ขอช่วยแชร์ และวิเคราะห์ให้ด้วยนะครับ ศึกษาร่วมกัน หลายความคิด หลายประสพการณ์

 

สาเหตุที่ผมถ่ายรูปพระสมเด็จ มาลงในเวปเพื่อให้เพื่อนๆช่วยกันคอมเมนท์ก็เพราะต้องการทราบว่าเพื่อนสมาชิก ท่านใดถนัดดูพระสมเด็จแบบไหนบ้าง เพราะย่อมที่จะมีประสพการณ์ที่แตกต่างกัน เคยเห็นเคยจำมาคนละอย่างกัน บางคนจดจำพิมพ์ทรงได้แม่นยำ ต่อให้โย้ ให้เอียง จากการกดพิมพ์ก็จำได้ดี ส่วนบางคนมีความรู้ในการจำแนกมวลสารชนิดต่างๆ บางคนก็ดูเนื้อหาของธรรมชาติ และพัฒนาการที่เกิดขึ้น ทั้งในเชิงวิทย์ และ พุทธศิลป โบราญ ที่ละเอียดยิบย่อย ทั้งช่วยศึกษาให้ข้อมูลเพื่อความรู้ความเข้าใจร่วมกัน นั้นเป็นจุดดี ที่ได้ร่วมกันวิเคราะห์และหาข้อสรุป ในสิ่งที่ชอบ ที่เหมือนกัน

บางท่านอาจจะตีเก๊ เพราะมีหลักวิธีการดูและความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ก็ขอให้เข้าใจ และไม่โกรธเปิดใจรับฟังข้อมูลใหม่ แล้วเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์

บางท่านอาจจะตีว่าแท้ เพราะมีหลักการดูเหมือนกัน ถนัดแบบเดียวกัน ก็อย่าคิดไปว่า ของเราแท้ ดี กว่าของคนอื่นๆ

เพราะสมเด็จมีหลายเนื้อ หลายสูตรผสม บางองค์ลงรัก บางองค์ไม่ได้ลง หรือล้างมานาน และเพิ่งล้างออก ทุกอย่างล้วนมีพัฒนาการตามธรรมชาติ กับอายุ อีกทั้งมวลสารหนัก มวลสารเบา ที่ย่อยสลายและไม่ย่อยสลาย ก็ต้องมีการพัฒนาการของสิ่งนั้น ควบคู่ไปด้วยถึงจะบอกได้ว่า เก่าจริง แท้จริง หรือทำขึ้นมาเลียนแบบ ถ้าเล่นคนเดียวปิดกั้นความรู้ จะรู้ได้ยังงัย ครับ และไม่อยากให้การสนทนาจบลงด้วย คำว่า " คุณเกิดทันหรือ" เพราะการศึกษาย่อมจะต้องมี หลักการ ในการวิเคราะห์และหาเหตุผล เพื่อบรรลุผล

 

การเริ่มต้นศึกษาพระสมเด็จของผม เริ่มแบบง่ายๆไม่ซับซ้อน ไม่สิ้นเปลือง เพราะรู้ดีว่ายากและได้ยินมามากคำที่ว่า " เล่นสมเด็จ เสร็จ ทุกราย" คงคุ้นๆกันดี ประโยคนี้
ผมเริ่มจากการศึกษา ส่องดูจากวัสดุใกล้เคียงตามธรรมชาติ เพื่อศึกษาการพัฒนาการในเชิงวิทย์ จากมวลสารหลักของพระสมเด็จปูนเปลือกหอย โดยตัดประเด็นเรื่อง ปูนเปลือกหอยดิบ หรือสุก และพิมพ์ทรง พุทธศิลป ออกไป เพราะยากสำหรับการเริ่มต้นในขั้นแรก เตรียมอนุบาล
ผมได้ถ่ายภาพ macro เพื่อง่ายต่อการดู การพัฒนาการของปูน ทั้งเปลือกหอย เก่า และไม่เก่า แต่ไม่ใช่เปลือกหอยที่พึ่งจะนำขึ้นมาจากน้ำ ต้องอยู่ในที่แห้งสัมผัสอากาศมานาน ถึงจะมีพัฒนาการของเนื้อปูน จนชินตาแล้วก็อ่านตำราจากหนังสือแหล่งความรู้จากครูอาจารย์ ที่เขียนขึ้นเป็นที่ยอมรับ สอดคล้องกับผิวเปลือกหอย ตามธรรมชาติ

 

จะเห็นได้ว่าในเปลือกหอย ก็มีน้ำมัน มีการกร่อนของชั้นผิว มีรูพรุ่น ยุบ ย่น เหี่ยว ใส นวล บนผิว มีการงอกตัวของปูนบนชั้นผิว การพัฒนาการเมือสัมผัสกับอากาศ ความร้อน ความชื้น ตามธรรมชาติ และไล่ระดับความเก่า กับ ความใหม่บนชั้นผิว ของเปลือกหอย เป็นเม็ดเล็กๆใสๆ กลมๆ บนที่สูงของพื้นผิวและอีกชนิดเป็นเม็ดผดขาวๆเป็นกลุ่มในที่ลุ่มต่ำ

แล้วเริ่มหาเช่าพระแท้ สายวัดระฆัง ที่วัด เป็นของหลวงปู่นาค พระคะแนน ที่เป็นพระต้นแบบที่มีอายุน้อยกว่า ของสมเด็จโต เพื่อดูความแตกต่าง คือการพัฒนาการของเนื้อ ในเรื่องแคลเซี่ยม ในพระสมเด็จแท้ อายุประมาณ 70 ปีเศษ และจากพระนอกพิมพ์ วัดระฆัง ของสมเด็จโตที่ ไม่เป็นที่นิยม นั้นเป็นเนื้อครู เพื่อป้องกันไม่ให้หลงทาง และจดจำธรรมชาติ พัฒนาการที่เกิด ตามอายุ หรือการใช้ที่ เกิดการกร่อนผุ โดยใช้หลักการนี้ เป็นจุดเริ่มต้น
เพราะเกิดไม่ทัน ไม่มีพระแท้ สากลที่เค้าว่ากัน เพื่อถ่องแท้และรู้ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะขึ้นไปในระดับประถม เรื่องมวลสาร และต่อด้วย พิมพ์ทรง พุทธศิลป ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าง่าย แต่ไม่ยากถ้าอยากรู้ ครับ

 

เป็นวิธีที่ สิ้นเปลืองน้อยที่สุด และเข้าใจง่ายที่สุดไม่สับสนในภาษาที่เรียกกัน เช่น หนอนด้น ปูไต่ ตะไคร่น้ำ รูน้ำตา ทั้งหลาย เพราะสุดท้ายอยู่ที่การจดจำ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ การพัฒนาการบนชั้นผิว และเนื้อหามวลสาร พุทธศิลป ได้พระแท้ถึงยุคแน่นอน แต่นิยมหรือไม่นั้น แล้วแต่กลุ่มผู้ที่กำหนด ชี้ขาด
ผมหวังแค่พุทธคุณ และศรัทธา ในความเป็นอริยะ และความดีที่ได้เป็นแนวทางในการดำรงค์ชีพ ต่อไป
หวังว่า นักส่องมือใหม่คงได้ประโยชน์ ไม่หมดเงินไปกับพระเก๊ ครับ

 

ที่จริงพระสมเด็จโตนะดูง่าย แต่คนสอน ๆ มั่ว มาเริ่มเอาตรงวัดระฆัง ซึ่งควรเริ่มจากวัดเกศก่อน
และจากการสอนที่มั่วที่แหละ ทำให้บุคคลบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์จากความไม่รู้ ยิ่งถ้าศึกษาการเล่นหาพระสมเด็จก้อจะแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ พวกใครพวกมัน ไม่มีสาระที่เป็นแกนกลาง จนผู้ศึกษาไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากไหน และจะจบลงตรงไหน ยิ่งพิจารณาจากองค์พระยิ่งจบยาก ต้องใช้สติอย่างเดียวในการพิจารณา ทำให้โอกาสได้พระแท้ ๆ ยิ่งเป็นเรื่องยาก เพราะการสอนในปัจจุบัน ขอเน้นว่าเป็นการส่งเสริมการขายมากกว่าการให้ความรู้จริง ๆ อย่างไรก้อแล้วแต่ พึงจำไว้ โบราณว่าไว้ สมเด็จวัดระฆังเกศคตและหูติดรำไร หากได้พบเห็น นั่นคือของจริงเสมอ

 

ถูกครับ ยิ่งระดับเตรียมอนุบาล ลำพังจะหาพระแท้มาส่องยังยากเลย ควรเริ่มจากวัสดุ ธรรมชาติ หาง่าย ก่อน และไม่ควรส่องพระเก๊ บ่อย เพราะจะทำให้มีความจดจำที่ผิด ครับ
ควรหาวิธีแยก เนื้อ พระเนื้อปูน ออกจากพระพลาสติกแต่งผิว ให้เกิดความเข้าใจก่อน ในระดับต้นๆ

 

จากที่ได้สัมผัส จับต้อง เปลือกหอยบ่อยๆ..อิอิอิ (ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ) ได้อะไรเพิ่มขึ้นบาง นอกจากการส่องดูธรรมชาติ การพัฒนาการของผิว ก็คือ เมื่อลูบ จะได้ความรู้สึก ลื่นๆ เสียงทุ้มๆ
เมือจับ รู้สึกนุ่มไม่สากมือ ไม่จิกเนื้อ ครับ
พระสมเด็จแท้ เก่าจริง แม้ไม่ได้ผ่านการใช้บูชามา ก็นุ่ม ลื่น ไม่สากมือ
เกิดความเคยชิน นี่ก็เทคนิคอีกข้อที่ใช้ได้ดี เลย ในพระที่ดูยาก