ปิดครับ #สรุปรายการหน้าที่ 27

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Anantsit, 24 เมษายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 30

    P1.jpg

    T1.png T3.jpg

    T2.png

    ตะกรุด 3 โลกธาตุ เนื้อตะกั่ว หลวงตาม้า อาจารย์ศุภรัตน์ (สายหลวงปู่ดู่)

    #สร้างเพียง 108 ดอกเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  2. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 31

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    ล๊อกเก็ตพระพิฆเนศ ฉากทอง
    ที่ระลึกครบรอบปีที่ 2 สถานธรรมพระเจ้าพรหมมหาราช จังหวัดเชียงราย


    #ผงสำคัญที่บรรจุ
    ๑.ผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่
    ๒.ผงกระเบื้องบดสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    ๓.ผงหลวงพ่อฤาษีสมัยอยู่ วัดบางนมโค
    ๔.ผงสร้างพระ ๓๐๐๐ กว่าชนิด หลวงพ่อก่อไผ่
    ๕.ผงสร้างพระนับหมื่นชนิด

    พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งศิลปวิทยา และความสำเร็จทั้งปวง ท่านเป็นเทพชั้นดาวดึงส์ ชื่อ ปิยสิขะเทพบุตร ผู้คอยทำหน้าที่สงเคราะห์ผู้ที่ศรัทธาองค์พระพิฆเนศ รูปกายแท้จริงมิได้มีหัวเป็นช้างแต่อย่างใด ผู้ที่นับถือองค์ท่านต่างมีความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองนับไม่ถ้วน ผมจึงขอบารมีท่านปู่นำรูปลักษณ์มาสร้างเพื่อผู้สัการะบูชาขอพรเพื่อความสำเร็จในกิจการงานต่างๆ

    พระอาจารย์สมพงษ์ วัดหนองโพ ปลุกเสก

    พระกรรมฐานผู้หลีกเล้นหนีความวุ่นวาย ออกจาริกโปรดสัตว์ไปทั่ว พบโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านมาโปรดที่รอยพระพุทธบาทเขากะลา จึงเป็นบุญใหญ่ครับได้กราบพระสุปฏิปัญโณ ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้มาโปรดแถวนี้พอดี ศิษย์หลวงปู่ในตำนาน

    #พระพิฆเนศ และพระสีวลี ได้รับการอธิฐานจิตดังนี้
    ๑.ครูบาวิฑูรย์ ปรียานันท์ธรรมสถาน นครสวรรค์ พระหนุ่มแต่มีบารมี เข้ากรรมฐานทุกปีครับ ครูบาอาจารย์มาร่วมงานกันมาก เช่น พระอาจารย์เล็ก หลวงปู่บุญยัง ครูบาเหนือชัย ฯท่านบอกว่า พระนี้อย่าแจกหมดนะให้เก็บไว้บูชาบ้างฉันขอบารมีพระให้ครบทุกด้านนะ ให้เก็บไว้ด้วย

    ๒.พระอาจารย์สมพงษ์ ท่านขอเชิญบารมีหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ แผ่เมตตาลงสู่วัตถุมงคลให้เป็นอย่างดี

    ๓.พระอาจารย์นิรนาม พระเถระที่หลีกหนีความวุ่นวาย มีศิษย์มากราบขอบารมีกันวันละเป็นร้อย ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ให้ออกไปอยู่ที่อื่น ไปแถวรอยพระพุทธบาทเขากะลา ผมจึงได้มีโอกาสกราบท่าน และได้รับฟังประวัติท่านเล็กน้อย จากพี่ท่านหนึ่ง ท่านจะทำอะไรจะถามครูบาอาจารย์ตลอด ท่านจะสั่ง พี่ท่านนี้จึงกราบเรียนถามว่า ครูบาอาจารย์ท่านคือผู้ใด ท่านว่า ท่านปู่พระอุปคุต อาจารย์ของเรา ท่านเมตตาอธิฐานจิตให้ด้วย พอเสร็จท่านบอกว่า เอ้าเสร็จละ ดีที่สุดเลย

    ๔.หลวงพ่อพระมหาสิงห์ ท่านเมตตามาก ครับ สว่างๆ

    ทุกครั้งที่ทำพระผมจะขอพี่ท่านนี้ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ตลอด ครั้งนี้ก็ไม่พลาดครับ ขอบารมีที่รอยพระพุทธบาท ที่ผมหาปัจจัยสร้างที่ครอบรอยจำลองครับ เชื่อมั่นส่วนตัวครับว่าพี่ท่าน ถึงพระ เทพ พรหม จริง ท่านกล่าวสั่นๆว่า ใสสว่างเป็นแก้วทั้งหมด...และก็ยกพระทั้งหมดไปขอพระอาจารย์นิรนามอธิฐานจิตให้อีกด้วย

    พระครูบาพรชัย พระพุทธบาทสี่รอย อธิฐานจิต ท่านสวดคาถาพระสีวลีหลายบทเหมือนจะทราบว่าในกล่องนั้นมีพระสีวลีอยู่ด้วย พร้อมทั้งบอกให้นำไปขอบารมีรอยพระพุทธบาทครับ ขึ้นไปสวดมนต์สงบดีมากครับ

    องค์ท่านป่ฤาษีในถ้ำพุทธบาทป่าไผ่ ท่านมาบำเพ็ญในถ้ำนานมากครับ บางท่านเคยเห็นออกมาเป็นตัวตน จึงนำไปขอบารมีท่านครับ

    ขอบารมีหลวงปู่ทวดในถ้ำป่าไผ่ตอนทำพิธีในถ้ำครับ

    พระคุณเจ้าและผมได้จุดธูปเทียนที่โต๊ะบวงสรวง ผมนิมนต์พระมาจากวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ครับ หลวงพ่อที่ติดกิจนิมนต์ไม่ได้มา จากนั้นกล่าวสัการะบูชา พระรัตนตรัย พรหม เทพ ทั้งหมด และบรวงสรวงพุทธาภิเษก วัดถุมงคล โดยใช้เสียงหลวงพ่อพระมหาสิงห์ ตอนเสกพระรอดควันขึ้น ครับ

    วัตถุมงคลที่มาเสกคลุมผ้าสีขาวครับ พระรูปหนึ่งกล่าวว่า พิธีดีสมบูรณ์แล้ว แต่แปลกมีองค์มหาเทพสีทององค์ใหญ่มากมาร่วมงานมีพญานาคด้วย ตอนผมเอาผ้าคลุมวัตถุมงคลออก ท่านจึงบอกว่า อ่อเข้าใจละเป็นท่านองค์ใด เพราะผมนำองค์พ่อจตุคามรามเทพขนาดบูชาเข้าพิธีอีกครั้ง ครับ องค์พ่อมาร่วมพุทธาเทวาภิเษกด้วยครับ

    เข้าพิธีเสาร์ห้า และวันฉัตรมงคล มีผู้เห็นกายทิพย์ตุ๊พ่อสิงห์ มาอธิฐานจิตให้ด้วยครับ ความเชื่อส่วนบุคคลครับ

    พระพิฆเนศ ได้รับการอธิฐานจิดปิดท้ายแล้วครับ โดยพระครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดงครับ

    เครดิตข้อมูล : woottipon


    = Sold Out

    19/9/2566 EMS : ED 8143 5195 3 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2023
  3. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2565 เลขพัศดุไปรษณีย์ไทย (EMS)
    บุญมงคล = ED 6141 4993 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
  4. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 32

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG

    รูปนิโรธสมาบัติ ยันต์พุทธเกษตร
    หลวงพ่อกัสสปมุนี เถราจาริย์ วัดปิปผลิวนาราม จังหวัดระยอง

    #รูปนิโรธสมาบัติ หลวงพ่อกัสสปมุนี

    1. รูปถ่ายของหลวงพ่อกัสสปมุนีที่อินเดียมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?
    ตอบ เมื่อปี พ.ศ. 2507 หลวงพ่อกัสสปมุนีได้เดินทางไปยังชมพูทวีปหรือประเทศอินเดีย และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 5 เดือน ตลอดเวลาที่ท่านเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ท่านจะห่มดองหรือห่มลดไหล่ตลอด ในขณะที่พระเถระองค์อื่น ๆ จะห่มคลุมตามพระวินัยบัญญัติว่า เมื่อภิกษุออกนอกบริเวณวัด ต้องห่มคลุมให้เป็นปริมณฑลคือข้างบนจีวรต้องติดคอ ด้านล่างต้องคลุมครึ่งแข้งจึงถูกต้อง แต่การที่หลวงพ่อห่มดองตลอดรายการนั้น ท่านให้เหตุผลว่าชมพูทวีปเป็นดินแดนแห่งพระพุทธองค์ ทุกหนแห่งล้วนแต่เป็นแผ่นดินของพระองค์ที่ทรงจาริกไปแสดงธรรม จึงถือว่าเป็น ‘เขตพุทธาวาส’ ทั้งสิ้น ท่านจึงไม่ห่มคลุม

    และทุกแห่งที่ท่านไปนมัสการ ตามพุทธประวัติก็ดี ตามโบราณาจารย์กล่าวอ้างก็ดี ตามที่แขกอินเดียเล่าให้ฟังก็ดี ว่าสถานที่นี้พระพุทธเจ้าทรงกระทำพุทธกิจอย่างนั้นอย่างนี้ หลวงพ่อท่านยังไม่เชื่อทีเดียว หากท่านลงมือนั่งภาวนา ‘ตรวจสอบ’ ด้วยองค์ท่านเองในที่ทุกแห่ง

    กระทั่งจิตท่านเห็นชัดว่า ณ สถานที่นี้พระพุทธองค์ได้ทรงทำกิจดังกล่าวอ้างมาแล้วจริง ๆ ท่านจึงปลงใจเชื่อ และเป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อท่าน ‘พิจารณา’ ด้วยอำนาจฌาน-ญาณ อันสูงยิ่งของท่านแล้ว ปรากฏว่าในทุกสถานที่ล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น ทุกแห่งแฝงเร้นด้วยพระพุทธบารมีที่ยังคงอบอวลแผ่รัศมีอยู่ทุก ๆ เวลา รอคอยผู้มีบุญญาธิการมานมัสการให้เกิดมหาบุณย์-มหากุศล

    ดังนั้นท่านใดที่คิดจะไปหรือไปมาแล้ว...

    ก็จงสบายใจและจงอิ่มบุญในใจให้เต็มที่เถิด

    ดังภาพถ่ายหน้าสถูปที่ถาม หลวงพ่อท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่ที่ถ้ำอจันตา ขณะที่ใช้อำนาจจิต ‘ตรวจสอบ’ อยู่นั้น ก็มีฝรั่งคนหนึ่งผ่านมาเห็นท่านเข้า เวลานั้นท่านเปลื้องจีวรและสังฆาฏิออกแล้วคงเหลือเพียงสบงและอังสะ อีกทั้งยังพาดลูกประคำเส้นเบ้อเริ่ม ทำให้ฝรั่งนายนั้นนึกว่าท่านเป็นเณร จึงเกิดความเอ็นดูและทำการบันทึกภาพท่านไว้

    ภายหลังฝรั่งก็ได้นำรูปนั้นมาให้ท่านดู ปรากฏว่าท่านไม่พอใจมาก คงเพราะแอบถ่ายโดยไม่ขออนุญาตท่านก่อนประการหนึ่ง และคงเพราะท่านแต่งตัวไม่เรียบร้อยประการหนึ่ง ท่านจึงดุเขา(เพราะท่านพูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม) และยึดทั้งรูปทั้งฟิล์มกลับมา

    ครั้นกลับเมืองไทยแล้ว คณะศิษย์อยากได้ของที่ระลึกจากท่าน ท่านจึงให้นำฟิล์มนี้ไปอัดออกมาเป็นรูปใบน้อย และยังเมตตาเขียนยันต์วิเศษที่ชื่อว่า ‘ยันต์พุทธเกษตร’ มอบให้ด้วยลายมือท่านเอง (ท่านได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)

    ศิษย์ได้นำยันต์พุทธเกษตรลายมือท่านไปบันทึกเป็นภาพถ่ายใบน้อยออกมาอีก 1 ใบ จากนั้นก็นำรูปหลวงพ่อกับรูปยันต์พุทธเกษตรนี้ประกบเข้าด้วยกัน แล้วนำมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตแจกผู้ศรัทธาในราวปี พ.ศ. 2508 –2509

    ต่อมาเมื่อท่านประสงค์จะตอบแทนคุณของเสี่ยไซ โยมอุปการะเป็นที่ยิ่ง ท่านก็ดำริเข้า ‘สัญญาเวทยิตนิโรธ’ เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2510 เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

    และรูปนี้ก็อยู่ในวาระนิโรธสมาบัติด้วย

    หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้

    อะไรจะขนาดนั้น

    เชื่อท่านไหม ?

    ถ้าเชื่อ....! รูปใบน้อยและพระเครื่องต่าง ๆ ที่ผ่านการเข้านิโรธจากท่านมาตั้งแต่ปี 2510 กระทั่งท่านละสังขารจากไปในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2531

    จะขลังเพียงไหน !?

    ผมยังเดาไม่ถูกเลย

    ดังนั้น ท่านจึงไม่ใคร่แจกรูปนี้ให้ใครง่าย ๆ แม้มีคนขอกันมาก ท่านก็ยังเลือกคนให้ ท่านบอกว่า ของดีต้องให้กับคนดีและนับถือเราจริงเท่านั้น

    หากจะมีคนขอเหรียญรุ่นแรกของท่านที่สร้างในปี พ.ศ. 2518 บางทีท่านก็มอบรูปนี้ให้ ครั้นคนนั้นบ่นว่าอยากได้เหรียญต่างหากเล่า ท่านจะบอกดุ ๆ ทันทีว่า

    “อะไร ให้ของดีแล้วยังไม่รู้จัก รูปนี่เก่งกว่าเหรียญอีกนะ”

    คือคนโบราณเมื่อจะกล่าวชมมงคลวัตถุใด ๆ ว่าขลัง ว่าศักดิ์สิทธิ์เหลือกำลัง ท่านมักใช้วลีว่า ‘เก่ง’ ก็เป็นอันรู้กัน

    ฉะนั้น รูปนี้จึงเหลือตกค้างมาจนทุกวันนี้ และมีคนได้รับประสบการณ์มากมายยิ่งกว่าเหรียญเสียอีก ถ้าจะให้เล่า คงต้องนัดเจอกันดีกว่าเพราะยาวมากจนไม่อยากพิมพ์

    เล่ามาเสียยืดยาว หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจ ใครที่มีอยู่แล้วก็รีบเอามาใส่ซะ คนที่ยังไม่มีก็ค้นคว้าหาเอาเถิด ของดีสุดยอดอย่างนี้ อย่าให้หลุดมือเลยครับ.


    #หลังยันต์พุทธเกษตร(ยันต์นี้ท่าน ได้มาเมื่อครั้งไปเที่ยววิเวกภาวนาใน จ.ลพบุรี ยันต์พุทธเกษตรได้ปรากฏขึ้นในนิมิตท่าน ท่านบอกว่ายันต์นี้มีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่ผู้ใช้จะอธิษฐานให้เป็นไปดังปรารถนา)

    หลวงพ่อเคยบอกว่า นิโรธสมาบัตินี้มีอานุภาพมากนัก มิใช่แต่กุฏิของท่านเท่านั้น แต่กำลังแห่งนิโรธยังครอบคลุมไปทั่วภูเขา ‘สุนทรีบรรพต’ อันเป็นที่ตั้งวัด อย่าว่าแต่ของในกุฏิท่านเลย แม้กรวดหินหน้าวัดหากจะหยิบขึ้นมาแล้วตั้งจิตระลึกถึงท่านก็ยังมีอานุภาพได้

    บันทึกเก่า ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2524 มีศิษย์ท่านหนึ่งกราบเรียนถามหลวงพ่อกัสสปมุนีว่า ตอนที่หลวงพ่อใช้พลังจิต"ลากรถไฟขึ้นเขาที่อินเดีย"นั้น หลวงพ่อทำอย่างไร. หลวงพ่อกัสสปมุนีตอบว่า "ใช้การรวมพลังเข้ามาเป็นหนึ่ง และออกเดินนำหน้าทันที ไม่เหลียวหลัง ไม่ใช่อิทธิวิธี หากเป็นการใช้"อาโลกสิน"(แสงสว่าง,ความว่าง) ดึงรถไฟขึ้นไป..!!?!"

    วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ คณะของหลวงพ่อกัสสป ฉันอาหารเช้าแล้ว ได้เวลา ๙.๐๐ น. จึงพาพวกอุบาสกและอุบาสิกาออกเดินทาง ไปยังสถานีเนาก้า เพื่อไปยังสวนป่าลุมพินีวันในแคว้นเนปาลอันเป็นสถานที่พระบรมศาสดาทรงประสูติ ถึงสถานีเนาก้าเวลา ๑๑.๐๐ น. แต่เจ้ากรรมแท้ๆ ... ที่พนักงานรถไฟแขกอินเดียมันมักง่าย ตัดรถตู้คณะของหลวงพ่อกัสสปมุนีออกปล่อยทิ้งไว้ อยู่ห่างจากตัวสถานีเกือบสามร้อยเมตร ตรงที่รถตู้ถูกตัดออกนี้เป็นที่ลาดต่ำกว่าที่ตั้งสถานี และห่างจากที่รถบัสจอดเกือบครึ่งกิโลเมตร

    ในคณะแสวงบุญของหลวงพ่อ มีอุบาสิกาอยู่ในวัยชราหลายคนจะต้องเดินไกล ทั้งตัวรถตู้ก็สูง บันไดก็ยิ่งลอยสูงขึ้นไปด้วย เพราะรถถูกตัดทิ้งไว้ในที่ลาดต่ำ แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแรงอย่างนายเอื้อ บัวสรวง ก็ยังต้องเกร็งข้อโหนตัวลอยขึ้นไป ยิ่งเป็นพระ เป็นผู้หญิงยิ่งทุลักทุเลใหญ่ ทำให้นายสุวรรณ เจามหาสุข ผู้อำนวยการเดินทางในครั้งนี้ และนายเอื้อ บัวสรวงโมโหมาก ปัญหาจึงมีอยู่ว่า จะทำอย่างไรจึงจะให้ตู้รถแล่นขึ้นไปจอดบนชานชาลาเหนือสถานีได้

    ในที่สุดปรึกษาตกลงกันได้ว่า ให้คณะแสวงบุญที่ขึ้นไปก่อนลงมาจากรถเพื่อให้รถเบาขึ้น แล้วจ้างพวกแขกสองสามคน และเด็กแถวนั้นให้ช่วยกันดันรถ แต่เมื่อทำดูแล้วรถไม่ได้ขยับเขยื้อนเลย เพราะตู้รถไฟใหญ่กว่าตู้รถไฟในบ้านเมืองเรามาก มีน้ำหนักเป็นตันๆ และจะต้องดันให้เคลื่อนขึ้นที่สูงเสียด้วย มันต้องใช้ช้างสารฉุดถึงจะเขยื้อนขึ้นไปได้

    ตอนนี้นายเอื้อ บัวสรวงเห็นหมดหนทางที่จะพึ่งแรงคน จึงคิดจะพึ่งแรงบารมีของพระเสียแล้ว จึงได้หันมาอาราธนาขอร้อง อาจารย์วิริยังค์ (ท่านเจ้าคุณญาณวิริยาจารย์) ช่วยให้รถเคลื่อนด้วยอานุภาพที่ท่านมีอยู่ เพราะมองไม่เห็นใครที่จะช่วยได้ ก็ต้องพึ่งพระกันบ้าง

    ท่านพระอาจารย์วิริยังค์ ได้เข้าไปยืนข้างตู้รถไฟภาวนาอยู่สักครู่ก็ทำท่าดัน แล้วบอกให้ทุกๆ คนช่วยกันดันรถ แต่ดันเท่าไหร่ๆ รถก็ไม่มีทีท่าจะเขยื้อน

    นายเอื้อจึงได้หันมาอาราธนาท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดยะลา ท่านเจ้าคุณเจ้าคณะอำเภอยะลาและหลวงพ่อทิมวัดช่างไห้ ขอให้ช่วยแสดงอานุภาพทำให้ตู้รถไฟเคลื่อนที่ แต่ท่านทั้งสามองค์ก็ตอบตรงๆ ว่าไม่ได้ฝึกมาทางนี้ คือไม่ได้ฝึกทางอภิญญา สุดท้ายนายเอื้อ บัวสรวงหมดหนทางอับจนปัญญา จึงได้ขอร้องให้ หลวงพ่อกัสสปมุนี ช่วยด้วย

    “ยังเหลือแต่หลวงพ่อกัสสป องค์เดียวเท่านั้น ผมเชื่อว่าคงจะไม่สิ้นหวังเสียทั้งหมด”

    นายเอื้อ บัวสรวง พูดค่อนข้างเสียงดังเปิดเผย พลางพนมมือนอบน้อม หลวงพ่อกัสสป จึงเอ่ยว่า

    “ทำไมมาเจาะจงอาตมา ก็ท่านเหล่านั้นยังรับไม่ไหว แล้วอาตมาภาพจะรับได้ยังไง”

    นายเอื้อ บังสรวง ได้ยืนกรานว่า

    “ถึงอย่างนั้น ก็ขอให้หลวงพ่อเห็นแก่ญาติโยมผู้หญิง และคนแก่ เถอะครับ ที่จะต้องโหนตัวขึ้นรถ”ว่าแล้วก็ไหว้อีก หลวงพ่อกัสสปเห็นนายเอื้อมีความมั่นใจเช่นนั้น จึงจำเป็นต้องช่วยสงเคราะห์ จึงบอกเบาๆ ว่า

    “โยมบอกพวกนั้นให้ดันรถพร้อมๆ กัน พอเห็นอาตมาเดินขึ้นหน้ารถก็ดันเลย”

    นายเอื้อก็รับคำเตรียมอยู่ข้างตู้รถไฟ จากนั้นหลวงพ่อกัสสป ก็เดินขึ้นไปทางริมรั้วสถานี ครั้นพอถึงหน้ารถตู้ นายเอื้อก็ร้องบอกให้พวกนั้นดันรถ เสียงรถเคลื่อนดังครืด แล่นตามหลังหลวงพ่อกัสสปมาได้หน่อยหนึ่ง หลวงพ่อกัสสปจึงยื่นไม้เท้าให้นายเอื้อจับปลายไว้ นายเอื้อเอื้อมมือขวามาคว้าปลายไม้เท้าไว้ ส่วนมือซ้ายจับอยู่ที่ราวบันไดรถ หลวงพ่อจับหัวไม้เท้าไว้ข้างแล้วจูงนำหน้า เท่านั้นเอง ตู้รถไฟอันใหญ่โตหนักอึ้ง ก็แล่นปราดๆ ขึ้นไปตามรางสู่สถานีอย่างง่ายดายน่ามหัศจรรย์ สร้างความตะลึงงันให้แก่ญาติโยมอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายที่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวต่อหน้าต่อตา สุดที่จะกล่าวพรรณาเป็นอักษรภาษาใดๆได้...!!!!!!

    นับว่าหลวงพ่อกัสสป ได้ฝังรากความมั่นใจให้แก่นายเอื้อ และญาติโยมในที่นั้นว่า อานุภาพของพุทธศาสนานั้น เป็นของมีจริง ที่พระสาวกของพระพุทธองค์ สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เมื่อถึงคราวจำเป็น หรือวาระอันสมควรจะพึงแสดง!


    = Sold Out

    19/6/2565 EMS : ED 7424 0943 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2022
  5. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 33

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG

    เหรียญเหินฟ้า หลวงปู่มีชัย กามฉินโท ปีพ.ศ.2545

    #เหรียญเหินฟ้า เป็นเหรียญที่หลวงปู่มีชัย ท่านชอบมากเป็นพิเศษ และสร้างตามเจตนารมณ์ของหลวงปู่มีชัย จึงสร้างจำนวนมาก ๆ เพื่อแจกให้ทั่วถึงผู้ที่ศรัทธา เพื่อใช้ในการคุ้มครอง ป้องกันภัย และมีโชคลาภ อดีตใน 3 จังหวัดชายแดนใต้และในประเทศมาเลเซีย เหรียญรุ่นนี้ จึงโด่งดังมาก จากประการณ์จริง ต่าง ๆ มากมาย ค่าใช้จ่ายในการสร้างเหรียญเหินฟ้า กลุ่มศิษย์ยุคเก่าในภาคใต้และทุนของหลวงปู่มีชัย ที่ท่านจ่ายเองให้โรงงาน แถววัดราชณัฐดา กทม


    = Sold Out

    11/12/2565 EMS : ED 2446 2047 6 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2022
  6. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 34

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    รูปหล่อเนื้อชนวน คุณยายชีนวล แสงทอง วัดภูฆ้องคำ จังหวัดอุบลราชธานี

    #ใต้ฐานอุดด้วยผงลูกแป้งล้วนๆ และ เกศาคุณยาย ทุกองค์ ไม่มีการผสมผงอื่นใดๆ ทั้งสิ้น เป็นของคุณยายล้วนๆ

    #วัตถุประสงค์เพื่อจัดสร้าง รูปหล่อเหมือนเท่าองค์จริงถวายวัด เพื่อนำประดิษฐานไว้ในเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุคุณยาย

    #ผลงาน อ.อำพล เจน
    รังสรรค์งดงามด้วยผลงานชั้นครู รุ่นนี้ เสกตั้งแต่ชนวนที่จะมาหล่อเป็นองค์รูปเหมือนคุณยายชีให้ศานุศิษย์ผู้ศรัทธาได้บูชา เสกนับไม่ถ้วน อุดด้วยผงลูกแป้งแท้ๆที่ให้คุณด้านเมตตามหานิยมค้าขาย พร้อมเกศาที่เป็นมงคลสูงยิ่ง ยันต์ที่เขียนรอบตรงฐาน " ยันต์ดวงแก้วสารพัดนึก" อธิษฐานดังใจปรารถนา สำเร็จ โชคลาภ ค้าขาย ดังแก้วสารพัดนึกครับ ลองคิดตรองดูเถิดหนา ชาวขลัง รูปหล่อคุณยายรุ่นนี้จึงดีพร้อมในทุกด้านมหาอนันตังครับ

    #รูปหล่อคุณยายชีนวล ได้ผ่านพิธีอธิฐานจิตปลุกเสกดังนี้
    วาระที่ 1. วันที่ 5 ตุลาคม 2562 เข้าพิธีที่วัดพระปรางค์เหลือง โดยพระเกจิอาจารย์ดัง 6 รูป
    - หลวงปู่สนม อติธัมโม วัดพระปรางค์ นครสวรรค์
    - หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน นครสวรรค์
    - หลวงพ่อสะอาด อาวุธฑสีโล วัดเขาแก้ว นครสวรรค์
    - หลวงพ่อกำจัด สุจิตโต วัดป่าสัก ชัยนาท
    - หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดชินวรารามวรวิหาร ปทุมธานี
    - หลวงพ่อพิศาล มังคโร วัดมหิงษาราม ปทุมธานี
    วาระที่ 2. วันที่ 14 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวันภูกุ้มข้าว กาฬสินธ์
    วาระที่ 3. วันที่ 14 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงปู่หนูอินทร์ กิตติสาโร วัดป่าพุทธมงคล กาฬสินธุ์ ( ตลอดทั้งคืน)
    วาระที่ 4. วันที่ 15 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ วัดบ้านเมย กาฬสินธุ์
    วาระที่ 5. วันที่ 20 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงพ่อเณร
    วาระที่ 6. วันที่ 21 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จันทบุรี
    วาระที่ 7. วันที่ 25 ตุลาคม 2562 โดย
    - หลวงพ่อสะหว่าง สุทัมโม วัดโพสรีสะหว่างรัดตะนาราม (หละก 33) เมืองปากช่อง สปป.ลาว
    วาระที่ 8. วันที่ 26 ตุลาคม 2562 โดย
    - อาจารย์ปู่ซาสุด ดอนสำโฮง สปป.ลาว
    วาระที่ 9. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 โดย
    - หลวงปู่สนั่น จิณณธัมโม วัดอโศการาม สมุทรปราการ
    วาระที่ 10. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 โดย
    - หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฒโน วัดอโศการาม สมุทรปราการ
    วาระที่ 11. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 โดย
    - หลวงปู่ลี ถาวโร วัดป่าหนองทับเรือ พิษณุโลก
    วาระที่ 12. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 (เช้า)โดย
    - หลวงปู่สนม อติธัมโม วัดพระปรางค์เหลือง นครสวรรค์
    วาระที่ 13 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 (กลางคืน)
    เข้าพิธีจันเพ็ญ จันทร์ซ้อนจันทร์ ที่วัดท่าเสา โดย
    - หลวงปู่ทอง สุวิชาโน อายุ 103 ปี วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร
    - หลวงปู่สำอาง ติสสเทโว วะดพันธุวงศ์ สมุทรสาคร
    - ครูบาโชคชัย วัดเชตตวนาราม(น้ำดิบ) กำแพงเพชร
    - หลวงพี่เก่ง (เฮง รวย) วัดท่าเสา สมุทรสาคร

    #รูปหล่อคุณยายชีนวล รุ่นนี้ได้ผ่านการอธิฐานจิตปลุกเสก ประจุความขลัง รวมทั้งหมด 13 วาระ ทั้งเดี่ยว และ พิธี นับว่าเป็นการเสกที่ไม่ธรรมดา ทั้งพระคณาจารย์แต่ละองค์ ก็มีแต่สุดยอดทั้งนั้น ด้วย พุทธศิลป์ ที่งดงามก่อเกิดเป็นวัตถุมงคลที่สวยงาม เข้มขลัง ล้ำค่า ปั้นออกมาได้เหมือนมากที่สุด ชนวนมวลสารที่นำมาจัดสร้างทั้งหมด ล้วนแต่ผ่านการอธิฐานจิตปลุกเสกจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณทั้ง จาร เจิม เสก ก่อนที่จะนำมาหล่อหลอมเป็นวัตถุมงคลที่สวยงาม และ เข้มขลัง ทั้งการนำขอเมตตาจากครูบาอาจารย์ อธิฐานจิตปลุกเสกให้นั้น ก็ไม่ธรรมดา ทั้งข้ามโขงไปเสกที่ฝั่งลาวตามสายวิชาของคุณยาย และนำเสกในไทยโดยครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะได้ขนาดนี้ นับเป็นวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การบูชายิ่ง องค์เล็กกระทัดรัดน่ารัก สวยงาม เข้มขลัง ชนวนโลหะที่นำมาหล่อรูปเหมือนคุณยายในครั้งนี้ กว่าจะสำเร็จเป็นรูปหล่อ ที่สวยงาม และ เข้มขลัง เป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่า แทนตัวคุณยาย ชนวนโลหะทั้งหมด ที่นำมาหล่อรูปเหมือนคุณยายชีนวล ในครั้งนี้ได้ผ่านการอธิฐานจิตปลุกเสก ทั้งจาร และ เจิม ชนวนโลหะทั้งหมด ก่อนที่จะนำมาหล่อ โดยได้รับความเมตตา จากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐหลายรูป อาทิ
    - ลป.บุญยัง ปัญญาวโร อายุ 114 ปี วัดหนองโค รัฐกระเหรี่ยง(พุทธ) เมียร์มาร์
    - ลป.บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จันทบุรี
    - ลป.สนม อติธัมโม ( ศิษย์ ลพ.เดิม) วัดพระปรางค์เหลือง นครสวรรค์
    - ลพ.โสภณ โอภาโส (ศิษย์ ลป.ชา) วัดบึงลัฏฐิวัน พระนครศรีอยุธยา สาขาที่ 20 วัดหนองป่าพง
    - ลพ.จักษ์ จัตตมโล (ศิษย์ ลพ.ย้อย วัดอัมพวัน) วัดซุ้ง สระบุรี
    - ลพ.หนุน สุวิชโย (ศิษย์ ลพ.ฤษีลิงดำ) วัดพุทธโมกข์ สกลนคร

    ชนวนโลหะทั้งหมดที่นำมาหล่อ ได้นำเข้าปลุกเสก จาร และ เจิม จากครูบาอาจารย์ทั้งหมดที่กล่าวมา นับเป็นเนื้อชนวนที่ทรงคุณวิเศษ ในการหล่อรูปเหมือนคุณยายชีนวล ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าทั้งดีนอกดีใน ขลังตั้งแต่ยังไม่เสก กันเลยทีเดียว

    #ด้วย พุทธศิลป์ ที่งดงามก่อเกิดเป็นวัตถุมงคลที่สวยงาม เข้มขลัง ล้ำค่า ปั้นออกมาได้เหมือนมากที่สุด ชนวนมวลสารที่นำมาจัดสร้างทั้งหมด ล้วนแต่ผ่านการอธิฐานจิตปลุกเสกจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณทั้ง จาร เจิม เสก ก่อนที่จะนำมาหล่อหลอมเป็นวัตถุมงคลที่สวยงาม และ เข้มขลัง ทั้งการนำขอเมตตาจากครูบาอาจารย์ อธิฐานจิตปลุกเสกให้นั้น ก็ไม่ธรรมดา ทั้งข้ามโขงไปเสกที่ฝั่งลาวตามสายวิชาของคุณยาย และนำเสกในไทยโดยครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะได้ขนาดนี้ นับเป็นวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การบูชายิ่ง องค์เล็กกระทัดรัดน่ารัก สวยงาม เข้มขลัง

    #ชีวประวัติ
    คัดลอกจากงานเขียน อ.อำพล เจน
    "เป็นศิษย์สำเร็จ(สมเด็จ)ลุน แห่งจำปาศักดิ์ จริงหรือ" เรื่องนี้ ทราบจากยายคำ แสงทอง ผู้เป็นน้องหญิงคนที่ ๔ ของยายชีว่า สมัยที่ #คุณยายชีนวล แสงทอง ยังเยาว์วัย ป่วยเป็นฝีที่คอ รักษาอย่างไรไม่หาย วันหนึ่ง มีหมอธรรม มาชี้แนะว่า มีผู้เดียวที่จะรักษาได้เป็นพระ ชื่อว่าครูบาลุน อยู่ภูมะโรง เมืองจำปาศักดิ์ อยากจะหายจงเร่งไปหา ด้วยว่าเวลานั้นท่านชราภาพมากแล้ว อย่านิ่งนอนใจ ช้าไปจะไม่ทันการ จากตรงนี้นั่นเอง จึงเป็นจุดหักเห ของชีวิตเด็กหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง จากที่ได้ดั้นด้น ไปจนถึงภูมะโรง ว่ากันขณะนั้น ยายชีมีอายุได้ ๑๓ ปี บางเสียงว่า ๑๘ ปี ถ้าจะวิเคราะห์เอาข้อเท็จจริง ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด ประมาณว่ายายชีตอนนั้น น่าจะมีอายุระหว่าง ๙-๑๑ ปี ดูที่ปีมรณภาพ ของสำเร็จลุน ซึ่งมีบันทึกปรากฏชัดเจน คือปี ๒๔๖๔(ปีระกา เดือน ๑๑ เพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลาใกล้รุ่ง)เอามาเป็นตัวตั้ง แล้วเอาปีเกิดของยายชี คือ ๒๔๕๓ ลบไป ก็จะได้ตัวเลข ๑๑ ปี ในขณะที่เดินทางไปภูมะโรงนั้น บิดาของยายชี กำลังอยู่ในเพศสมณมาแล้ว ๖ พรรษา น่าเชื่อได้ว่าพระภิกษุส่วน(บิดายายชี)ควรเป็นผู้นำพายายชีไปด้วยตนเอง หรือไม่ก็อาศัยผู้รู้จักหนทางที่ไว้วางใจ ได้ฝากฝังยายชี ให้เขาคนนั้นนำพาไป ในการเดินทางไปภูมะโรงคราวโน้น เป็นไปได้ว่า น่าจะมีหลวงปู่สวน ฉนฺทโร วัดนาอุดม ร่วมเดินทางไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน(บ้านนาทม ต.คำหว้า อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี) เมื่อไปถึงภูมะโรงแล้ว ครูบาลุน ได้บอกว่า โรคของยายชีจะหายได้ด้วยมโหสถขนานเดียว คือบวชชี รักษาศีลแปด ถือพรหมจรรย์ ซึ่งครูบาลุนได้เป็นผู้บวชให้ ยายชีนวล เมื่ออยู่รักษาตัวที่ภูมะโรง ก็เหมือนดังว่าหายสาบสูญ ด้วยไม่เคยมีข่าวส่งไปถึงครอบครัวแม้แต่น้อย กระทั่ง ครูบาลุน มรณภาพแล้ว ข่าวคราวของยายชี ยังคงเงียบหายไปอีกหลายปี จนวันหนึ่งข่าวว่า ยายชีถูกงูเหลือมกิน ก็มาถึงบ้านเกิด ทุกคนที่ทราบข่าว ล้วนสลดใจสงสาร พากันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ตามประเพณี

    เครดิตข้อมูล : อ.อำพล เจน


    <<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>

    = Sold Out

    30/12/2565 EMS : ED 2527 1874 7 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2022
  7. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 35

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG P4.JPG

    พระกริ่งหน้ายักษ์ รุ่นเเรก เนื้อนวโลหะ (หล่อโบราณ)
    หลวงพ่อเสริฐ เขมะโก วัดโอภาสี จังหวัดระยอง


    #พิเศษ สภาพคัดสวย องค์นี้ติดจีวรและเกศาหลวงปู่เสริฐ พร้อมกล่องเดิม

    #สร้างฉลองอายุครบ7 รอบ ตามความจำนงค์ของท่านอาจารย์เสริฐ บอกให้พระอาจารย์เเดงสร้างพระครู ความหมายก็คือพระกริ่งหน้ายักษ์นั่นเอง สร้างตามเเบบกริ่งหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง การหล่อพระหล่อเเบบโบราณ ทำพีธีภายในวัดได้ ชนวนพระกริ่งหน้ายักษ์ของหลวงพ่อโต ที่ท่านอาจารย์เสริฐเก็บไว้มาทำการหล่อ เเละใส่ตะกรุดเก่ารวม 300 ดอก พระชุดนี้เป็นพระเนื้อนวะ องค์จะเล็กกว่าของหลวงพ่อโต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  8. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 36

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG P4.JPG

    รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู (ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว)
    รุ่นโลกุตรธรรม สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ สร้างปี 2556


    #เนื้อนวโลหะ "สร้างจากชนวนล้วนๆ" (กรรมการ) สร้างเพียง 200 องค์เท่านั้น

    #ใต้ฐานคว้านบรรจุอัฐิอังคารธาตุของหลวงปู่พิศดู จีวร ตะกรุด มวลสารมงคลต่างๆที่หลวปู่พิศดูอธิษฐานจิตไว้

    ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่ท่านจริงๆ เพื่อคงความเป็นตัวตนและมหาพลังบารมีธรรมแห่งองค์หลวงปู่ไว้อย่างเต็มอัตรา เพราะคณะศิษย์สายนี้เชื่อกันว่า รูปหลวงปู่ท่านแม้ต่อให้ไม่ได้ผ่านพิธีใดๆเลย ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ท่านเองอยู่แล้ว อย่างที่หลวงปู่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า.. " รูปเรา ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์.."
    แต่ด้วยกำลังใจของผู้บูชา รูปหล่อหลวงปู่ขนาดกน้าตัก 1 นิ้ว จึงได้เข้าพิธีต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่ ดังนี้ครับ..

    1.พิธีเททองหล่อ พร้อมกับรูปเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ วัดเทพธารทอง

    2.พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ และพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในวันเพ็ญพุธ ณ พระมหาเจดีย์ ที่วัดเทพธารทอง โดยพระเกจิครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ
    หลวงพ่อมหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
    - หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต
    - หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาน้ำตก
    - หลวงพ่อมนัส สำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิต เขาแหลม
    - ฯลฯ
    และพระสวดพิธีธรรมอีก 9 รูป และช่วงบ่ายในวันเดียวกัน พระสงฆ์ได้ลงสวดพระปาฏิโมกข์ ถวาย โดยในพระมหาเจดีย์ ได้นำรูปหล่อองค์หลวงปู่มาประดิษฐานเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว (โดยในงานพิธีพุทธาภิเษก ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญบารมีธรรมขององค์พระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี และองค์หลวงปู่พิศดูมาประสิทธิด้วย)

    3.พิธีวางศิลาฤกษ์ ธัมมะจารีมณฑป ณ วัดเทพธารทอง โดยมี..
    เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี(ธ.) เป็นองค์ประธาน
    -หลวงปู่สนั่น จิณณธัมโม
    -หลวงปู่สวาท วัดโป่งจันทร์
    และพระเถระอีกนับ 10 รูปที่มีบุญสัมพันธ์กับหลวงปู่พิศดู

    4.พิธีบวงสรวง อัญเชิญญาณบารมีของพระมหาอุปคุต และบารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดู และสวดเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันเพ็ญพุธ ณ ลานพิธีริมหน้าผาอ่าวคุ้งกระเบน โดยพระอาจารย์หนึ่ง ปัญญาวุฑโฒ

    5.พิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ใหญ่ เนื่องในวันเททองหล่อพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิครูบาอาจารย์กว่า 10 รูป และพระสวดพิธีธรรมอีกรวมเกือบ 100 รูป
    ซึ่งพิธีเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นพิธีที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อบูชาคุณแด่องค์หลวงปู่พิศดูทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ดวงจิตอันบริสุทธิ์ขององค์หลวงปู่ท่านจะต้องรับทราบและมาร่วมพิธีด้วยอย่างแน่นอนครับ..
    อาจารย์กว่า 10 รูป อาทิ..
    - หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    - หลวงปู่ฉอ้อน วัดแหลมหิน จ.ปราจีนบุรี
    - หลวงปู่อั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
    - หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต จ.จันทบุรี
    - หลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง จ.ระยอง
    - หลวงปู่บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม
    - หลวงปู่สวาท ว่าป่าโป่งจันทร์ จ.จันทบุรี
    - หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
    - ... ฯลฯ

    ส่วนมวลสารที่ใช้บรรจุในองค์รูปหล่อหลวงปู่นั้น เป็นมวลสารที่เคยใช้บรรจุในรูปหล่อพระมหาอุปคุตปางปราบมาร.. กล่าวได้พอสังเขปคร่าวๆ มีดังนี้ครับ..

    - ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - พระผงเนื้อพระธาตุ รุ่นสุปฏิปันโณ ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม (หลายองค์)
    - พระรอดเกศาครูบาศรีฯ เนื้อครั่ง
    - พระปัจเจกโพธิเนื้อผงเขียว หลวงปู่พิศดู (พระชำรุด)
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่คำคนิง จุลมณี วัดถ้าคูหาสวรรค์
    - ผงสมเด็จ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น 3 (พระชำรุด)
    - ผงพระพระวัดคู้สลอด หลายองค์ (พระชำรุด)
    - ผงพระกรุ วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคปลุกเสก (จำนวนหลายองค์)
    - ผงพระขุนแผน กรุทุ่งมะขามหย่อง สมัยอยุธยา (พระชำรุด)
    - ผงพระหลวงพ่อโน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี (พระชำรุด)
    - ผงพระรุ่นอายุยืน หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค (พระชำรุด จำนวนหลายสิบองค์)
    - ผงพระกรุสมัยต่างๆ
    - ผงพระกรุบึงพระยาสุเรนทร์ (สมเด็จเขียว เหนียวจริง)
    - ผงพระกรุ วัดชนะสงคราม ยุคสงครามเก้าทัพ
    - ผงหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    - ผงหลวงปู่กิ วัดสนามชัยเขต
    - ผงหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    - ผงหลวงปู่แทน วัดธรรมเสน
    - ผงหลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
    - ผงหลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ
    - ผงหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    - ผงลบสูตร หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
    - ผงลบสูตร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
    - ผงตรีนิสิงเห และผงสบสูตร หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี
    - ผงยาที่ใช้พอกตะกรุด ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน
    - ผงยา 7 ชนิด ผงว่านสลักไก ผงว่านต่างๆ ดินปิดรูปู หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว
    - ผงไม้กงกะเด็น ว่านเปราะหอม หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม
    - ผงวิเศษหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - ผงบายศรีบูชาครู หลวงปู่หมุน
    - ผงกสิณ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    - ยาอจินไตย หลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร เพชรบูรณ์
    - ผงการบูรเสก หลวงปู่ละมัย
    - ผงจากขวานฟ้าผ่า ล้างอาถรรพ์
    - ผงพระว่านจำปาสักหลายองค์
    - ผงโสฬสมหาพรหม ที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ ปี 2500
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระสมเด็จ พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี 2495 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จ วัดประสาท ปี 2506 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จบางขุนพรหม ที่ใช้สร้างหลวงปู่ทวด วัดประสาท ปี 2506
    - ผงสมเด็จ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (พระชำรุด)
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อดินเผา ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อผงเกษร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร หลวงปู่สนั่น วัดธารเกษม ที่ชำรุด สิบกว่าองค์
    - ผงหลวงปู่สำเร็จลุน นครจำปาสัก

    - แผ่นรัก และผงปูนกระเทาะ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
    - ดินสังเวชนียสถาน และมวลสารพุทธภูมิ จากประเทศอินเดีย
    - ใบโพธิ์จากต้นตรัสรู้ ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย
    - ปฐวีธาตุ และทรายจากแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย จุดที่พระพุทธองค์อธิษฐานลอยถาด
    - ผงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ใช้อุดที่องค์พระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆ และปั้นเป็นลูกอม
    - ผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ ล้วน 99 % ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จำนวนมาก
    - ผงมวลสารจิตรลดา
    - ผงของหลวงพ่อแก้ว , หลวงพ่อปลอด , หลวงพ่อทองสุข วัดในปากทะเล จำนวนมาก
    - ผงอิทธิเจ สมัยอยุธยา วัดสัมฤทธิ์

    - ผงกสิณ ผงพุทธะมงคล และผงต่างๆ ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ผงยาวิเศษปลอดโรค หลวงปู่พิศดู
    - ผงที่ใช้บรรจุในองค์พระกริ่งธัมมะจารี และพระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ชุดอุดผง
    - ผงที่ใช้สร้างพระทุกรุ่น ของหลวงปู่พิศดู
    - ตะไบพระกริ่งธัมมะจารี
    - ผงชาญหมาก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เท้า หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เทพธาโรเสก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้โพธิ์นิพพาน วัดเทพธารทอง
    - ผงบายศรีพระมหาอุปคุต หลวงปู่พิศดู
    - ผงดอกไม้บูชาพระ ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงสี ที่ลอกออกจากพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ วัดเทพธารทอง
    - ข้าวก้นบาตร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงยาสมุนไพร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงน้ำอ้อยเสก หลวงปู่พิศดู
    - น้ำมนต์พิธีต่างๆ และน้ำล้างหน้า ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ปรอท ที่ใช้ทำเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงหอยเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - มวลสารที่ใช้อุดเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงเปลือกหอยสังข์มงคล หลวงปู่พิศดู
    - สีผึ้ง หลวงปู่พิศดู ทุกรุ่น

    - ผงรวมหัวเชื้อสุดยอดมวลสาร จากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ และผงชันเพชรฯ มหามงคลที่ใช้สร้างพระ ของท่าน อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตผู้อำนวยการกองช่างสิบหมู่กรมศิลปากร เป็นผู้มอบให้ พร้อมด้วยชนวนสำคัญอีกหลายอย่าง (ใครเคยศึกษาการสร้างพระ และตามเก็บพระของสายท่าน อ.อนันต์ ก็คงทราบดี ว่าต้องมีชนวน-มวลสารประเภทใดบ้าง)

    - แป้งเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ผงหลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    - ผงมวลสารของหลวงปู่เทพโลกอุดร
    - ผงหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
    - ผงพระคำข้าว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะ
    - ผงมวลสาร ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    - สีผึ้ง ครูบากฤษดา

    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ผงยาจินดามณี วัดท่าเสา สมุทรสาคร
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงไม้ช่อฟ้า พระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงรักเพดาน พระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงพุทธะอริยะรังสี ผงนี้ได้ผสมมวลสารมากมายกว่า 3,000 ชนิด ฯลฯ
    - สายสิญจน์อธิษฐาน หลวงปู่ทองดำ
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่หมุน
    - ผงดวงเศรษฐี หลวงปู่หมุน
    - เหล็กน้ำพี้ บ่อพระขรรค์ บ่อพระแสง จ.อุตรดิตถ์
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่ทองดำ
    - ผงแป้งเจิม หลวงปู่ทองดำ
    - ดินไทย และเบ้าดินที่ใช้หล่อพระสำคัญ
    - ผงยาตำรับ หลวงปู่เทพโลกอุดร

    - มวลสารที่ใช้สร้างพระของหลวงปู่บุญฤทธิ์
    - ผงพระโมคคัลลาน์ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
    - ผงที่ใช้สร้างพระหลวงปู่ทวด หลายวัด จำนวนมาก
    - ผงสมเด็จ " ปุญญมากโร " หลวงพ่อประสิทธิ์
    - มวลสารสร้างพระของหลวงปู่จันทา ถาวโร
    - แท่งอำพัน วัดพระปฐมเจดีย์
    - กระเบื้องนพเก้า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
    - ผงที่ใช้สร้างพระปิดตา หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด
    - ผงหลวงปู่ภู วัดต้นสน
    - ปรอทหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ละมัย และปรอทครูบาอาจารย์อีกหลวงองค์
    - ข้าวสารหิน
    - ผงที่ใช้สร้างพระของเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่แหวน
    - ผงวิเศษ หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่มหาปลอด วัดโพธินิมิตร

    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่พิศดู
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ท่อน วัศรีอภัยวัน

    - ผงธูปหลวงพ่อปิยปกาศิต
    - ผงธูปพระธาตุพนม
    - ผงทรายทอง ทรายเงิน ทรายนิล วัดพระธาตุพนม
    - ผงทองคำเปลว ที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหากัสปะ และองค์พระมหาอุปคุต ที่พระมหาเจดีย์พระธาตุพนม
    - พลอยเสก หลายพิธี
    - ผงว่านที่ใช้สร้างสมเด็จ วัดโยธานิมิตร
    - มวลสารที่อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ประเวศ วัดป่าคลองมะลิ
    - ผงที่ใช้สร้างพระ หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกลับ จ.กาญจนบุรี

    - ผงบายศรีบูชาพระอุปคุต หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - มวลสาร และว่านที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลังพระแม่ธรณี แจกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดพระบาทสี่รอย
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดอุปคุต (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาโอภาส วัดจองคำ
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่บุญกู้ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดป่าดาราภิรมย์
    - ทองคำเปลวที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหาอุปคุต วัดพระธาตุพนม

    - ผงมหาอำนาจ
    - ผงว่าน 108 ครบ
    - ว่าน 500 ชนิด หลวงปู่พรหมา
    - ผงหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - ผงหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    - ผงพระหลวงปู่ผาด วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก

    - ผงอุกามณี ของ สมเด็จลุน เมืองจำปาสัก
    - ผงปฐวีธาตุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงปฐวีธาตุ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงปฐจีธาตุ หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรเจ้าแก้ว
    - ทรายเสก หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ทรายเสก หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    - ทรายเสก หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมนต์
    - ทรายเสก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    - ทรายเสก หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
    - ทรายเสก หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร
    - ทรายแก้ว ทรายเงิน ทรายทองศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุพนม
    - ดินสังเวชนียสถาน แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย เนปาล
    - ทรายมหามงคล 4 ภาค

    - ผงปูนเสก คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ
    - ผงยาดำ และผงมวลสาร หลวงพ่อดิ่ง , หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    - ผงลบสูตร หลวงปู่ดี ธัมมะธีโร
    - ผงปรอทหลวงปู่ละมัย
    - ผงพระปิดตา ทั่วทั้งสายชลบุรี และใกล้เคียง
    - ผงชาญหมากพระอริย ครูบาอาจารย์หลายสิบองค์
    - ผงกะลาตาเดียว และไม้มงคล
    - ผงกาฝากไม้มงคลต่างๆ
    - ผงธูปวัดสำคัญๆหลายที่
    - ผงงาช้างโบราณ
    - ข้าวสารดำ 2,500 ปี
    - มวลสารเก่าพระธาตุพนม

    - แร่พระหัตถ์ 4 รอย วัดปะต๊ะ สิบสองปันนา
    - แร่จ้าวน้ำเงิน
    - แร่เมฆพัตร
    - แร่บางไผ่
    - แร่ข้าวตอกพระร่วง
    - แร่เหล็กน้ำพี้
    - แร่เกาะล้าน
    - แร่เหล็กไหลย้อย
    - แร่เหล็กเปียก
    - แร่เพชรหน้าทั่ง
    - แร่อุกาบาศ นอกโลก
    - แร่ วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506
    - ปรอทดำ
    - ปรอทขาว

    - ตะไบพระกริ่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ตะไบพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง
    - ตะไบพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ สุขังเสติ วัดเขาน้ำซับ
    - ตะไบรูปหล่อพระมหาอุปคุตปราบมาร วัดเขาน้ำซับ
    - ตะไบพระกริ่ง ญาท่านสวน วัดนาอุดม
    - ตะไบพระกริ่ง มงคลมหาเศรษฐี วัดศรีบูรพาราม
    - ตะไบพระกริ่ง ชินบัญชร ญสส. วัดศรีบูรพาราม

    - สีผึ้งหลายวัด จำนวนมาก
    - มวลสารต่างๆ จากสายสำนักเขาอ้อ
    - ผงมวลสารจากครูบาอาจารย์ สายพระป่ากรรมฐานทั้วประเทศ
    - ผงต่างๆ จากเกจิอาจารย์ ฯลฯ อีกจำนวนมากนับพันอย่าง ที่ไม่มีการจดบันทึกไว้
    - ... ฯลฯ

    มวลสารเหล่านี้ ได้ใช้บรรจุไว้ใต้ฐานรูปหล่อหลวงปู่พิศดูขนาด 1 นิ้ว ส่วนตัวประสานเนื้อผงให้เข้ากันนั้น ได้ใช้น้ำมันอนันตคุณ108 น้ำผึ้งเสก น้ำอ้อยผงเสกของหลวงปู่พิศดู ข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์(ชนิดเปียก) สีผึ้ง น้ำหมาก น้ำมนต์ ของเหล่าครูบาอาจารย์ กล้วยน้ำไทย และกาว ฯลฯ เป็นตัวประสานหลัก..

    ส่วนของมงคลที่ใช้บรรจุนอกเหนือจากผงมวลสารนี้ ได้แก่..
    - อัฐิอังคารธาตุ หลวงปู่พิศดู
    - จีวรเก่าของหลวงปู่พิศดู
    - แผ่นตะกรุดที่เข้าพิธีพร้อมกับรูปหล่อพระธรรมธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  9. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 37

    P1.JPG P3.JPG P4.JPG P2.JPG

    รูปพระปรคนธรรพ พ่อครูใหญ่ในดุริยเทพ ขนาดภาพ 6x8 นิ้ว มีโค๊ดยันต์

    #พร้อมประวัติการจัดสร้างแบบสมบูรณ์

    #จัดสร้างพร้อมชุด ตะโพนครู (ไม้กุ่ม)

    #พระครูปลัดมานิตย์ สุทธิญาโณ (พระอาจารย์มานิตย์) วัดเงินบางพรหม พระอารามหลวง กทม. เมตตาประกอบพิธีอธิฐานจิตรุ่นนี้ให้เป็นพิเศษ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  10. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 38

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG

    พระปทุมมาศ เสาร์ ๕ มหามงคลปี ๕๔ รุ่น2 เนื้อผงมวลสาร ตะกรุดเงิน
    หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ จังหวัดสุพรรณบุรี


    ปทุม แปล ว่า ดอกบัว มาศ แปลว่า ทอง ปทุมมาศ จึงมีความหมาย ดอกบัวทอง เป็นดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ มีองค์พระประทับอยู่กลางซุ้มเรือนแก้ว แสดงถึงความเจริญงอกงาม ออกดอกออกผล สำเร็จสมหวังทุกอย่าง

    พระปทุมมาศ ตะกรุด1ดอก พิมพ์พระประธานเนื้อผงพิมพ์หยดน้ำ มวลสารมีผงอธิฐานสมปรารถนาที่หลวงปู่เขียนและลบเองกับมือ ผงเทพนิมิตขรัวตาคง ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ผงพรายหลวงปู่เหมือน ฯลฯ ธาตุศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เช่น ผงเหล็กน้ำพี้ ผงเหล็กไหลฤาษี เส้นเกศาของหลวงปู่นาม ที่ด้านหน้าฝังตะกรุดยันต์เทาะว์ปัดตลอด พระปทุมมาศรุ่นนี้สร้างเมื่อปี 53 หลวงปู่นามปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลาหลายเดือน (เกือบปี) จะเอาไว้แจกเจ้าภาพกฐินปี54

    พิธีเสาร์ 5 มหามงคล เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2554 มีพระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งปรกอธิฐานจิตร่วมกับหลวงปู่นามอีก 4 รูปดังนี้...

    1.หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน

    2.หลวงปู่น่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ

    3.หลวงปู่ชุบ วัดวังกระแจะ

    4.หลวงพ่อแดง วัดฝาโถ

    #หลวงปู่นามเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกและจุดเทียนชัย


    = Sold Out

    27/12/2565 EMS : ED 2446 3993 7 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2022
  11. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 39

    P1.JPG P2.JPG

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg

    พระพุทธชินราช หลังยันต์ เนื้อทองแดง พิมพ์เล็ก
    หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    เหรียญพระพุทธชินราช รุ่นนี้จะมีอยู่ 2 พิมพ์ เล็ก และ ใหญ่

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงพ่อลำใย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  12. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 40

    P2.JPG P1.JPG

    เหรียญขวัญถุงโภคทรัพย์ 50 สตางค์ ตอกโค๊ด
    พระอาจารย์สุริยัณ จนฺทวณฺโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี จังหวัดชัยภูมิ


    #อธิษฐานจิตพิธีเดียวกับพระกริ่งใหญ่ พระชัยวัฒน์ รุ่นมหาจักรพรรดิ์ ปีพ.ศ.2562

    #พิธีพุทธาภิเษกและอธิษฐานจิตดังนี้
    1.พระอาจารย์สุริยัณปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์ในวันเททองหล่อพระกริ่ง
    2.พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 4 มกราคม 2562 #พิธีใหญ่มีพระคณาจารย์ร่วมปลุกเสก 10 รูป
    3.หลวงปู่สุธัมม์ วัดเทพกัลยาราม สกลนคร
    4.หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง สระบุรี
    5.หลวงพ่อพิเชษฐ วัดโคกหม้อ ลพบุรี
    6.หลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน อยุธยา
    7.หลวงปู่มี เพชรบูรณ์
    8.หลวงปู่อ้อน วัดบางตะไนย์ ปทุมธานี
    และวาระสุดท้ายปลุกเสกสมโภชน์พระกริ่ง


    = Sold Out

    3/12/2566 EMS : ED 0710 3145 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2023
  13. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 41

    P1.jpg P2.jpg

    A1.png
    A2.png

    ล็อกเก็ต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

    ล็อกเก็ต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใหญ่แห่งสายกรรมฐาน รุ่นนี้สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2547 ด้านหลังอุดด้วผงวิเศษของสำนักห้วยไผ่ อุดด้วยปฐวีธาตุถ้ำกระแซง ของ หลวงพ่ออุตตมะ ไม้หลังคากุฏิหลวงปู่เสาร์ เกษาหลวงปู่ทองสา ได้ผ่านการอธิฐานจิตปลุกเสก จากครูบาอาจารย์หลายองค์ อาทิ

    - หลวงปู่ทองสา ฐิตเปโม อธิฐานจิตเดี่ยวให้หลายวาระ

    - หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวันภูกุ้มข้าว กาฬสินธุ์

    - หลวงปู่หนูอินทร์ กิตติสาโร วัดป่าพุทธมงคล กาฬสินธุ์

    - คุณยายชีนวล แสงทอง

    เข้าพิธีนาคาภิเษก ที่สำนักห้วยไผ่ ของ อ.อำพล เจน โดยพระเกจิอาจารย์สายสำเร็จลุน ก่อนวันงาน หลวงปู่ทองสา ได้เดินทางมาก่อน 1 วัน และค้างคืนที่สำนักห้วยไผ่ ได้นำขอเมตตาให้ หลวงปู่ทองสา อธิฐานจิตเดี่ยวอีกตลอดคืน ก่อนนำเข้าพิธีในรุ่งเช้าอีกครั้ง ซึ้ง หลวงปู่ทองสา เป็นนประธารปลุกเสกในพิธี

    โดย อ.เวทย์ เป็นเจ้าพิธีบรวงสรวงอัญเชิญทวยเทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตลอดทั้งเหล่านาคาทั้งหลายให้มาร่วมในพิธี เป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์มาก โดยพระเกจิอาจารย์สายสำเร็จลุน อาทิ
    - หลวงปู่อ่อง
    - หลวงปู่มหาคำแดง
    - หลวงปู่เก่ง
    - หลวงปู่คล้าย
    - หลวงปู่ทองสา
    - ญาท่านเกษม
    ฯลฯ
    เอาเท่าที่จำได้แค่นี้พอ

    ล็อกเก็ต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใหญ่แห่งสายกรรมฐาน
    รุ่นนี้สร้างไว้ตั้งแต่ปี 2547 ด้านหลังอุดด้วผงวิเศษของสำนักห้วยไผ่ อุดด้วยปฐวีธาตุถ้ำกระแซง ของ หลวงพ่ออุตตมะ ไม้หลังคากุฏิหลวงปู่เสาร์ เกษาหลวงปู่ทองสา ฯลฯ...


    = Sold Out

    3/12/2566 EMS : ED 0710 3145 1 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2023
  14. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 42

    P1.JPG P2.JPG

    พระงบน้ำอ้อย เนื้อผงมวลสาร ปีพ.ศ.2544
    หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  15. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 43

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    พระตรีกาย พระครูสิทธิสังวร (วีระ ฐานะวีโร) วัดพลับ กทม.

    "พระตรีกาย" วัตถุมงคลที่ระลึก มงคลกาล ครบ 73 ปี พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อจิ๋ว)

    พระชุดนี้ได้จัดทำขึ้นทั้งหมด 547 องค์ ทุกองค์ได้ทาเคลือบด้วยสีผึ้งพญาการเวก ปิดทองเร่งลาภ

    ด้านหน้าองค์พระ จะเป็นรูปทรงลักษณะ พระตรีกาย หรือ พระนารายณ์ทรงปืน ครับ โดยจะมีรูปเคารพ 3 องค์ ครับ ประกอบด้วย

    "พระปางนาคปรก" เป็นประธานอยู่ตรงกลาง ประทับนั่งปางสมาธิ เหนือขนดนาค 3 ชั้น ซึ่งแผ่พังพานอยู่เหนือพระเศียรรวม 7 เศียร

    ส่วนพระโพธิสัตว์ประทับอยู่ด้านข้างทั้ง 2 อันได้แก่ พระอวโลกิเตศวร และ พระนางปรัชญา ปารมิตาเทวี ซึ่งเป็นองค์พระโพธิสัตว์ในคติพุทธศาสนาแบบมหายาน โดยเบื้องขวา เป็น อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ประทับยืน 4 กร 2 พระกรบน ถือลูกประคำและพระคัมภีร์ 2 พระกรล่าง ถือดอกบัวและคนโทน้ำอมฤต เบื้องซ้ายเป็น พระนางปรัชญาปารมิตา เทพีแห่งสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    โดยโบราณจารย์ได้จัดสร้างพระพิมพ์นี้ไว้ตามกรุพระเจดีย์สำคัญต่างๆ โดยมีความเชื่อว่า มีพุทธคุณโดดเด่นทั้งเรื่องอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย อำนาจบารมี ป้องกันเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจ ลาภยศ ตำแหน่งการงาน ทรัพย์สินเงินทอง และมีความสุขความเจริญนะครับผม

    ด้านหลังองค์พระ “ยันต์สุกิตติมา” เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ยันต์มหาละลวยพุทธคุณ” มีอุปเท่ห์การใช้สารพัด ไม่มีอดไม่มีอยาก มีอำนาจ บารมี เป็นนะจังงัง เมตตามหานิยม จัดว่าเป็นมหายันต์หนึ่งแห่งวิทยาคมสายล้านนา โบราณเขามีคาถาเมตตาอยู่บทหนึ่ง เรียกว่า คาถาวัวกินนมเสือ ต่อให้เป็นศัตรูเราก็สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ สมัยหลังๆ เรียกง่ายๆ ว่า คาถาสุกิตติมา


    = Sold Out

    9/12/2565 EMS : ED 1181 0823 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2022
  16. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 44

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG

    พระปางป่าเลไลย์ เพชรหลีกบัวบาน พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงินบางพรหม กทม.

    #พระอาจารย์มานิตย์อธิฐานจิตปลุกเสก 2 เดือน 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. - 5 พ.ค.65

    #ด้านหลังฝังตะกรุดและพลอยท่านอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ยันต์เพชรหลีกท่านว่ามีคุณทางด้าน ให้พ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ ที่มีก็ให้คลี่คลายเบาบาง กัน แก้ ราหูจร เหล็กหลาว และภัยต่างๆ ส่วนบัวบานก็ให้ความร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรือง ฯ

    #ด้วยพุทธบารมีในเรื่องราวพระปางป่าเลไลย์ ที่ทรงทำให้พระภิกษุหยุดทะเลาะวิวาท ได้ด้วยความสงบ ผมจึงได้น้อมนำพุทธบารมีตรงนี้ เฉกเช่นเป็นการระงับเหตุเภทภัย ขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆให้สงบราบคาบลง นำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุข ผู้เห็นผิดก็เห็นชอบ ผู้ว่ายากก็ว่าง่าย กลับร้ายกลายเป็นดี ทั้งความอุดมสมบูณ์ ของพระปางป่าเลไลย์ แม้นพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับในป่า ก็ยังมีพญาช้างและพญาลิงปรนนิบัติ จึงน้อมนำเอาพุทธบารมีอีกประการมาสร้างพระเป็นเคล็ด แม้ตกในที่ทุกข์ยากลำบาก ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ตกอับ มีผู้มาช่วยเหลือ มีโภคะบริบูรณ์ และมั่นคง คล่องตัว ดั่งพญาช้าง ที่เป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ และพญาลิงที่มีความคล่องแคล่ว ว่องไว คล่องตัว ไม่ติดขัด

    #มวลสารการสร้าง
    (ด้านหลังฝังตะกรุดและพลอยเสกพระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกองค์)
    1. ผงปูนพระประธานเก่าวัดเงิน
    2. ผงใบลานกัจจายนมูลวัดเงิน
    3. ผงอิฐโบราณวัดเงิน
    4. ผงมหาราช ผงลบนะ และยันต์ต่างๆ
    5. ผงธูปหน้าหิ้งพระ
    6. ผงดอกไม้งานไหว้ครูพระพุทธสิหิงค์ เสาร์ ๕
    7. ผงไม้แกะพระ หลวงปู่เล็ก
    8. ผงงาช้าง
    9. ยาจินดามณี หลวงปู่เล็ก
    10. ผงพระปิดตาเม็ดบัว พระอาจารย์ชาญณรงค์
    11. ผงพลอย พระอาจารย์ชาญณรงค์
    12. ทรายเสก พระอาจารย์ชาญณรงค์
    13. ผงพระเก่าหลวงปู่พลอย
    14. ผงพระพุทธซ้อนหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    15. ผงพระหลวงปู่โต๊ะ
    16. ผงพระสรรค์ ชัยนาท
    17. ผงพระนาคปรก หลังหมึกดำ ปี ๑๓ เจ้าคุณนรฯ
    18. สมเด็จหมึกแดง สามชั้น สมเด็จผาสุกฯ เจ้าคุณนรฯเสก
    19. ผงพระขุนแผนเนื้อว่าน หลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ
    20. สมเด็จหลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ฯ
    21. สมเด็จหมึกแดง สามชั้น สมเด็จผาสุกฯ เจ้าคุณนรฯเสก
    22. ผงตะไบชนวนพระโลหะฯ
    23. ผงพระแหวกม่านชนะจน
    24. น้ำมันมหาราช
    25. น้ำมันโพธิ์ใต้แม่
    26. ผงพระกรุ วัดทอง บางระมาด ตลิ่งชัน
    27. ผงดอกไม้ไหว้ครู
    28.ผงลูกอมหลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา
    29.พลอยเสก หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
    30.ผงกัลปังหา หลวงปู่อั๊บวัดท้องไทร
    31.ผง 12 นักษัตร หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์
    32.ผงดอกบานไม่รู้โรย พระอาจารย์เอราวัณ สวนพุทธธรรมอมฤต
    32.ผงรวมพุทธคุณหลายร้อยชนิด พระอาจารย์เอราวัณ สวนพุทธธรรมอมฤต
    33.ผงสมเด็จปรกโพธิ์ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค
    34.ดินกากยายักษ์
    35.ผงไพลเสก
    36.ผงส้มป่อยเดือน ๕ เสก
    ฯลฯ


    = Sold Out

    12/12/2565 EMS : ED 2386 4473 4 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2022
  17. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 45

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG P4.JPG

    A1.jpg

    A2.jpg

    ท้าวเวสสุวรรณ เจริญลาภ ปราบไพรี เนื้อนวโลหะแก่เงิน วัดเขาน้ำซับ จังหวัดจันทบุรี

    #ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าว-เวส-สุ-วัน)
    หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า "ท้าวกุเวร" ถ้าในพระพุทธศาสนาจะเรียก "ท้าวไพสพ" เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย โดย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวาร ว่ากันว่าอาณาเขตที่ ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองนั้นใหญ่มหาศาลมาก และ ท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อันประกอบไปด้วย
    " (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก
    " (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้
    " (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก
    " (ท้าวเวสสุวรรณ) เป็นเจ้าแห่งอสูร ทรงอิทธิฤทธิ์อานุภาพมาก ปกครองโลกด้านทิศเหนือ

    คนไทยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์ผูกไว้ที่หัวเตียงเด็ก เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายไม่ให้มารังควานแก่เด็ก ท้าวกุเวรองค์นี้มีกล่าวถึงในอาฏานาฏิยปริตรว่า เป็นผู้นำเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้ถวายสัตย์ที่จะดูแลพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกไม่ให้ยักษ์หรือบริวารอื่น ๆ ของท้าวจตุโลกบาลไปรังควาน

    และมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาดแก้ปีชง เสริมปีชง เทพแห่งปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ป้องกันภูติ ผีวิญญาณต่างๆไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆให้กับคนในครอบครัว ในร้านนั้นๆ เพราะภูติผีปีศาจ ยักษ์ เป็นบริวารท้าวเวสสุวรรณ คนมีลูกเพิ่งคลอด หรือมีเด็กเล็ก มักนิยมบูชาท้าวเวสสุวรรณ ตั้งไว้ตรงที่เด็กนอนหลับ เพราะมีความเชื่อว่าภูติผีปีศาจจะไม่กล้ามารบกวนเด็ก เพราะท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ปกครองแห่งภูติผีปีศาจนั่นเอง จึงแนะนำคนที่มีลูกอ่อน ลูกเล็ก หากชอบร้องไห้ตอนกลางคืน ไม่หลับไม่นอนเหมือนมีอะไรมารบกวนเด็ก และยังสามารถกันภูติผีปีศาจคุณไสย์มนต์ดำได้หมด

    ในตำราโบราณ ยังได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดต้องการ ความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และขจัด ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลไม่กล้าเข้ามารบกวน และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา เพราะท้าวเวสสุวรรณ ยังเป็นเทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์อีกด้วย
    ผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูป องค์ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร ตามคาถาบูชาต่อไปนี้

    #คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร
    ( ตั้ง นะโม 3 จบ )
    อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณมรณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ

    (ตอนที่ 1)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ ของวัดเขาน้ำซับ ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก พิธีแรก คือพิธีนี้..
    พิธีนี้จัดว่าสำคัญที่สุดอีกพิธีหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณรุ่นนี้ จัดสร้างโดยพระอาจารย์หนึ่ง ลูกศิษย์อุปัฏฐากใกล้ชิดในองค์หลวงปู่พิศดู ท้าวเวสสุวรรณรุ่นนี้จึงจัดเป็นวัตถุมงคลของสายหลวงปู่พิศดู ก็จำเป็นต้องเข้าพุทธาภิเษกที่วัดเทพธารทอง อันเป็นวัดของหลวงปู่พิศดู
    เหตุผลอีกประการหนึ่ง ก็คือ หลวงปู่พิศดูและท้าวเวสสุวรรณท่านถึงกันตลอด สมัยก่อนหลวงปู่ก็เคยอธิษฐานจิตท้าวเวสสุวรรณให้ลูกศิษย์ไปใช้(ลูกศิษย์เอามาให้เสก) และพบเจอประสบการณ์ในทางขับไล่ภูติผีปีศาจและคุณไสยได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญหลวงปู่พิศดูเคยบอกไว้ว่า หนึ่งในภพภูมิที่อยู่ที่วัดเทพธารทอง คือภูมิยักษ์ เป็นบริวารท่านท้าวเวสสุวรรณ
    พิธีนี้ เชื่อกันว่า นอกจากพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมที่นิมนต์มานั่งปรกอธิษฐานจิตแล้ว ยังมีกายทิพย์ของครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ และครูบาอาจารย์ในแดนลี้ลับที่ซ้อนภพกับเรา โดยเฉพาะ หลวงปู่พระอุปคุต หลวปู่เทพโลกอุดร ท่านพ่อลี หลวงปู่พิศดู พรหมเทวดาทั้งหลาย ท่านมาช่วยเมตตาสงเคราะห์ให้อย่างดีที่สุด (ใช้วิจารณญาณ)

    (ตอนที่ 2)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ วาระที่ 2
    พิธีนี้จัดขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่อ่อง ถาวโร วัดธรรมสุขสว่าง จ.จันทบุรี เดินทางมานั่งปรกอธิษฐานจิต พร้อมกับพระอุปคุตปางวิมุติสุข และสมเด็จบารมีธรรม ของวัดเทพธารทอง
    หลวงปู่อ่อง ถาวโร ท่านเป็นพระอริยสงฆ์เมืองจันท์ ที่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสมาก และมีความรอบรู้ทั้งในอรรถธรรม และการปฏิบัติอย่างแตกฉาน รวมไปถึงเป็นพระที่มีพลังสมาธิจิตสูง และท่านยังสำเร็จมนต์รัตนมาลาทั้ง 108 บท ขนาดหลวงปู่พิศดูยังเอ่ยปากชมว่า " เก่ง "
    นอกจากนี้ ทางท่านพระครูพิสิฐสรธรรม(เกรียงไกร) เจ้าอาวาสวัดเทพธารทอง ยังได้โทรศัพท์ไปกราบอาราธนาท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) จ.ลำพูน ให้ช่วยส่งจิตแผ่พลังมายังพิธีพุทธาภิเษกเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย ซึ่งก็ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์ด้วยดีจากท่านครูบา
    ซึ่งพระคณาจารย์ทั้งหมด ที่ทางวัดเทพธารทอง อาราธนานิมนต์มานั่งปรกอธิษฐานจิตทั้ง 2 วาระนี้ ทุกองค์ก็ล้วนแต่เป็นพระแท้ สามารถกราบได้โดยสนิทใจ และแต่ละท่านล้วนมีความเกี่ยวพันธ์กับองค์หลวงปู่พิศดูทั้งสิ้น ด้วยความเกี่ยวพันธ์กันทางกายและจิตนี้เอง จึงสามารถเป็นสื่อถึงบารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูได้โดยตรง จึงสมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องอาราธนาครูบาอาจารย์เหล่านี้มาเจริญจิตภาวนาในพิธี ที่วัดเทพธารทองดังกล่าว..

    (ตอนที่ 3)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 3 ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน อธิษฐานจิต
    แท้จริงก่อนหน้านี้ ในวันที่ 3 พ.ย. 64 ทางท่านพระครูพิสิฐสรธรรม(เกรียงไกร) เจ้าอาวาสวัดเทพธารทอง ยังได้โทรศัพท์ไปกราบอาราธนาท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) จ.ลำพูน ให้ช่วยส่งจิตแผ่พลังมายังพิธีพุทธาภิเษกที่วัดเทพธารทองเป็นกรณีพิเศษมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งก็ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์ด้วยดีจากท่านครูบา และในครั้งนี้ทางคณะศิษย์หลวงปู่พิศดูได้เดินทางนำพระขรรค์ ท้าวเวสสุวรรณ ขึ้นไปขอให้ครูบาท่านอธิษฐานจิตให้อีกวาระหนึ่ง ครูบายังเมตตากล่าวให้ฟังภายหลังด้วยว่า..
    " พิธีที่วัดเทพธารทองที่ผ่านมานี้ดีมาก หลวงปู่พิศดูท่านมา ครูบาอาจารย์ทุกองค์มากันหมด.. ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปเสกที่ไหนก็ดีอยู่แล้ว.."

    (ตอนที่ 4)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 4 หลวงปู่ครูบาบุญยัง ปุญญังกโร วัดห้วยน้ำอุ่น อ.ลี้ จ.ลำพูน อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ครูบาบุญยัง ท่านเป็นลูกศิษย์องค์สำคัญของครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม ที่มากด้วยสรรพวิชา และเปี่ยมด้วยมหาเมตตาบารมีอย่างสูงยิ่ง เมื่อคราวที่นำวัตถุมงคลไปกราบขอเมตตาครูบาบุญยัง ท่านได้พิจารณาดูวัตถุมงคลทุกชนิดที่นำไป ท่านได้อธิษฐานจิตทางด้านเมตตามหาลาภให้เป็นพิเศษ ซึ่งถูกทางที่สุดแล้ว เพราะว่าองค์ท้าวเวสสุวรรณนอกจากท่านจะเป็นมหาราชอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ผู้ปกครองเหล่ายักษ์และภูติผีปีศาจ เลิศในทางมหาปราบมหาอำนาจแล้ว ท่านยังมีอีกภาคหนึ่ง หมายถึง พระธนบดีศรีธรรมราช คือเทพเจ้าแห่งทรัพย์และบันดาลโชคลาภอึกด้วย..

    (ตอนที่ 5)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 5 หลวงปู่สนม อติธัมโม วัดพระปรางค์เหลือง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่สนมท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ที่ทันเรียนวิชามีดหมอและวิชาต่างๆจากหลวงพ่อเดิม
    ในคาถาอาวุธทั้งห้า ว่าด้วยวิชาการปลุกเสกมีดหมอเครื่องศาสตราวุธ หนึ่งในนั้นต้องมีคาถาอาวุธท้าวเวสสุวรรณ
    ซึ่งองค์หลวงปู่สนมท่านมีความเชี่ยวชาญและสำเร็จวิชาการสร้างและปลุกเสกมีดหมอตามตำรับหลวงพ่อเดิมอย่างหาผู้เทียบเคียงท่านยากในปัจจุบัน ประกอบกับท่านเป็นพระมหาเถรผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส เปี่ยมด้วยกระแสจิตสุดมหัศจรรย์ เพียบพร้อมด้วยสรรพวิชาและวิมุตติ ลูกศิษย์สายนี้ต่างรู้กันดี
    หลวงปู่สนมอธิษฐานจิตพระขรรค์และรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ เสร็จแล้วท่านได้ขึ้นเป็นการรับรองว่า.. " ดีแล้ว ดีแล้ว.."

    (ตอนที่ 6)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 6 หลวงพ่อเกาะ อาภากโร วัดท่าสมอ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงพ่อเกาะเป็นศิษย์สายตรง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู และเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสมอ ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ท่านปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย จิตใจเด็ดเดี่ยว พูดตรงไปตรงมา
    วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมาแต่ละรุ่น มีพุทธคุณเด่นรอบด้าน มีประสบการณ์ทุกรุ่น เป็นที่นิยมเสาะหา
    เมื่อท่านทำการอธิษฐานจิตพระขรรค์ ท้าวเวสสุวรรณของวัดเขาน้ำซับ ให้เรียบร้อยแล้ว ท่านได้กล่าวขึ้นว่า..
    " ไปเสกมาแล้วหลายที่ ดีๆทั้งนั้นเลย.."

    (ตอนที่ 7)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 7 หลวงปู่ตี๋ ปวโร วัดดอนเนรมิต อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ตี๋ ปวโร ทายาทพุทธาคมสายตรงสำนักวัดสะพานสูง ลูกศิษย์หลวงปู่ทองสุข วัดสะพานสูง สำนักนี้ขึ้นชื่อระบือไกลในเรื่อง ตะกรุดยันต์มหาโสฬสมงคล พระปิดตา ฯลฯ
    หลวงปู่ตี๋เป็นพระที่มากด้วยสรรพวิชา และศาสตร์ในเรื่องเคล็ดวิชาต่างๆ อย่างละเอียด ในตอนที่ทางคณะศิษย์วัดเขาน้ำซับได้นำพระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ ไปกราบขอเมตตาให้หลวงปู่ตี๋อธิษฐานจิต ท่านได้ลงวิชาตั้งธาตุ หนุนธาตุ หมุนธาตุ และวิชาต่างๆมากมาย รวมถึงลงคาถาของท้าวเวสสุวรรณให้หลายบท พร้อมทั้งยังเบิกพระเนตร พระกรรณ พระโอษฐ์ ให้กับวัตถุมงคลชุดนี้อย่างละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

    (ตอนที่ 8)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 8 หลวงปู่ดำ ทีปธัมโม สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรเขาเกลือ จ.จันทบุรี อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ดำ เขาเกลือ ผู้สืบทอดวิชาพระธรรมเก้าโกฏิ สายสัมเร็จลุน
    พระธรรมเก้าโกฏิ ห้องกรรมฐานโบราณ เป็นวิชาชั้นสูงที่แข็งกร้าว พิสดารในทางอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นวิชาสายมหาปราบ ด้วยบารมีหลวงปู่ดำ เทพเจ้าเขาเกลือ ผู้สืบทอดวิชาพระธรรมเก้าโกฎิ สายสัมเร็จลุน เมตตาเดินทางมาวัดเนินโพธิ์ เพื่อปลุกเสกท้าวเวสสุวรรณ และวัตถุมงคลต่างๆของวัดเนินโพธิ์ อย่างเข้มขลัง ตามสายวิชาที่ท่านได้ศึกษามา เมื่อเสร็จพิธีนี้ หลวงปู่ดำได้บอกว่า..
    " พิธีนี้หลวงปู่บุญ(อาจารย์ของหลวงปู่ดำ) ลงมาเสกให้เลย มาพร้อมท้าวเวสสุวรรณ ท่านถึงกัน.. ถ้าเรื่องท้าวเวสสุวรรณ ต้องยกให้ปู่บุญ.."

    (ตอนที่ 9)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 9 พุทธา เทวาพิเษก ณ ศาสเจ้าไต้เซียฮดโจ้ว จ.ระยอง
    โดยมี หลวงปู่อ่อง ถาวโร พระอาจารย์หนึ่ง วัดเขาน้ำซับ และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณหลายรูปนั่งปรกอธิษญานจิต
    หลังจากเสร็จพิธีนี้พระอาจารย์หนึ่ง ยังได้นำพระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณทั้งหมด กลับไปที่วัดเขาน้ำซับ เพื่อทำพิธีขอเชิญญาณบารมีหลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้อีกหลายครั้ง

    (ตอนที่ 10)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 10 หลวงปู่ขำ เกสโร วัดบ้านหนองแดง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ขำพระผู้รัตตัญญู ด้วยวัย 94 ปี และมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด สมถะ เปี่ยมด้วยเมตตา ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่เขียน ธัมมรักขิโต วัดสำนักขุนเณร และศึกษาสรรพวิชาของสายอีสานโบราณมามาก
    หลวงปู่ขำท่านเป็นพระที่มีกายลักษณะดีมากๆ ดูเข้มขลังน่าเกรงขาม เห็นท่านแล้วจะคิดถึงหลวงปู่หมุน
    ท่านเมตตาอธิษฐานจิตท้าวเวสสุวรรณ และพระขรรค์ของวัดเขาน้ำซับให้ด้วยความเมตตามากๆ เสร็จแล้วจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้เป็นอันเสร็จพิธี
    นอกจากนี้ หลวงปู่ขำยังแนะนำด้วยว่า..
    " ถ้าขึ้นไปทาง จ.นครพนม ให้เอาให้หลวงปู่ยอ วัดเทพนัดดา ให้ท่านช่วยปลุกเสกให้ด้วยนะ ท่านเก่ง สายเดียวกัน.."

    (ตอนที่ 11)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 11 หลวงปู่ยอ ขันติโก วัดเทพนัดดา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ยอ ศิษย์รูปสุดท้ายแห่งสำนักหลวงปู่ญาถ่านหลักคำ พระผู้มากด้วยไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำก่ำ แม่น้ำแห่งวัฒนธรรมพันปี ท่านเป็นสายญาครูขี้หอมพระปรมาจารย์ผู้วิเศษแห่งเมืองล้างช้าง
    ตามที่หลวงปู่ขำ ได้แนะนำคณะเราให้นำวัตถุมงคลมาให้หลวงปู่ยอท่านช่วยปลุกเสกให้ จึงได้รู้ ว่ายังมีพระดีที่ซ่อนกายอยู่ ประกอบกับคณะเราตั้งใจจะเดินทางไปนมัสการพระธาตุพนมพอดี จึงเดินทางนำวัตถุมงคลให้กราบขอความเมตตาหลวงปู่ยอ ช่วยอธิษฐานจิตให้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุพนมมากนัก
    ตามธรรมเนียมของพระโบราณสายอีสานก่อนที่จะทำพิธีการใดต้องมีการจัดแต่งขันธ์ 5 อาราธนา ซึ่งก็ได้ทำตามธรรมเนียมพิธี หลวงปู่ยอท่านนำพานขันธ์ 5 และม้วนสายสิญจน์ ยกขึ้นอธิษฐาน เชิญครูบาอาจารย์ของท่านลงมาช่วยประจุพลังวิชาให้กับวัตถุมงคล แล้วถึงทำการอธิษฐานจิตให้ สลับกับการนำพานขันธ์ 5 ขึ้นอธิษฐานอีก แล้วต้องการอธิษฐานจิตต่อ ท่านทำแบบนี้ถึง 4 ครั้ง (เข้าใจว่า ท่านมีครูบาอาจารย์หลายสาย ท่านจึงอัญเชิญครูมาช่วยเป็นรอบๆไป)
    การอธิษฐานจิตใช้เวลานานพอสมควร เมื่อเสร็จพิธีแล้วท่านได้กล่าวว่า..
    " โอ้..ใครเฮ็ด(ทำ)นี่ ขลังมากๆเลย.. ดีทุกอย่าง ดีทุกทาง แรงมาก.."
    พุทธคุณดีทางไหนบ้างครับ..?
    " มีครบเบิดล่ะ.. ทั้งโชคลาภ เมตตา และป้องกันภัย คุ้มครอง.. #พลังเต็มแล้วนะเนี่ย.."
    นับเป็นครูบาอาจารย์อีกองค์หนึ่ง ที่ได้รับรองในคุณภาพของรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ และพระขรรค์ รุ่นนี้..

    (ตอนที่ 12)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 12 หลวงปู่สูนย์ จันทวัณโณ วัดป่าอิสระธรรม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่สูนย์ ท่านเป็นพระอริยะ ที่มีวาจาสิทธิ์ มีอภินิหาริย์ทางจิตสูงมากอีกรูปหนึ่ง เป็นความตั้งใจของคณะเราที่ตั้งใจนำวัตถุมงคลคือ รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ และพระขรรค์ ของวัดเขาน้ำซับไปกราบขอให้ท่านแผ่เมตตาจิตให้ ซึ่งก็ได้รับความเมตตาด้วยดีจากองค์หลวงปู่สูนย์
    หลังจากท่านอธิษฐานจิตให้แล้ว ท่านยังได้เมตตาแจกชาญหมากมาให้อีกหลายลูก (จะเก็บไว้ทำมวลสารรุ่นต่อไป) เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ว่า ชาญหมากของท่านเป็นของดีมาก พระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์เวลาเคึ้ยวหมากจะขลังขนาดไหน ยิ่งถ้าได้เสกเป่าวัตถุมคลแล้ว จะทรงพลังเข้มขลังเพียงไหนลองพิจารณาดูเถิด..

    (ตอนที่ 13)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 13 หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่หา สุภโร พระอริยะสงฆ์เพชรน้ำหนึ่งแห่งเมืองกาฬสินธุ์ พระผู้มากด้วยเมตตาบารมี อธิษฐานจิตให้
    ผมเชื่อว่าหลวงปู่หาท่านเป็นพระกัมมัฏฐานที่สำเร็จในฤทธิ์อภิญญาอีกรูป ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน วัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากพระอริยสงฆ์ วัตถุมงคลนั้นจะเปี่ยมด้วยพลังอันบริสุทธิ์ จะสำเร็จประโยชน์ตามแต่ประเภทของนั้นๆอย่างบริบูรณ์ และที่สำคัญวัตถุมงคลนั้นจะไม่มีวันเสื่อมคลายความศักดิ์สิทธิ์ จนกว่าจะสิ้นกาลพระศาสนา หรือวัตถุนั้นจะสลายไปเองตามธรรมชาติ

    (ตอนที่ 14)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 14 พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่าวิเวกธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระเกจิผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรกเจริญจิตภาวนา ดังนี้..
    - หลวงปู่เจ วัดป่าวิเวกธรรม
    - หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท
    - หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์
    - หลวงพ่อสุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น
    - หลวงปู่พรชัย เคราะเหล็ก สํานักสงฆ์ถ้ําน้ําย้อย
    พิธีนี้อลังการงานขลังมากๆอีกพิธีหนึ่ง รวมพระเกจิครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง มากด้วยวิทยาคุณในปัจจุบัน โดยเฉพาะหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท พระทองคำแห่งเมืองกาฬสินธุ์
    งานนี้หลวงปู่เจ ได้ทำพิธีเพ่งตะวันทำนิมิตเตโชกสิณ และอโลกสิณ เปิดฟ้าเปิดอุปสรรคให้ราบรื่น ลงสู่วัตถุมงคลสุดเข้มขลัง นับเป็นครูบาอาจารย์เพียงไม่กี่องค์ในปัจจุบันที่สามารถทำวิชานี้ได้ ตามปกติสายตาคนเราจะไม่สามารถสู้แสงตะวันได้ นอกจากผู้ที่ฝึกฝนมาทางนี้และมีสมาธิจิตสูงถึงขั้นโดยเฉพาะเท่านั้น

    (ตอนที่ 15)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 15 หลวงปู่หนูอินทร์ วัดป่าพุทธมงคล อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หนูอินทร์ เป็นพระเถระผู้มากด้วยวิทยาคม เคร่งครัดต่อการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน แตกฉานในพระธรรมวินัย มีจิตเมตตาต่อสาธารณ และเผื่อแผ่ไปยังชุมชน และสังคม
    ด้วยกิตติศัพท์แห่งพุทธาคมทําให้ท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เชื่อกันว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ เนื้อนาบุญใหญ่กลางเมืองกาฬสินธุ์อีกรูปที่สามารถกราบได้สนิทใจ

    (ตอนที่ 16)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 16 พิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี 2564-2565 ณ วัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
    พิธีนี้ได้รับไฟพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราช มาจุดในพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล
    และยังได้อัญเชิญญาณบารมีของครูบาอาจารย์ต่างๆในสายหลวงปู่พิศดู มาร่วมแผ่บารมี เพิ่มพลังความศักดิ์สิทธิ์ให้กับพิธี ตามแบบฉบับของทางวัดเทพธารทองอีกด้วย

    (ตอนที่ 17)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 17 หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
    หลวงพ่อใจ คือพระเกจิคณาจารย์ที่เป็นคลังสรรพเวทวิทยาคม ของสายแม่กลอง และเรียนวิชาจากพระเกจิอาจารย์ลูกศิษย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เอาไว้หลายรูป อย่างครบถ้วนมากที่สุดในปัจจุบัน ท่านมีความมุ่งมั่นเป็นผู้คงแก่เรียน และมีวาสนาในทางนี้มาก ไม่ว่าจะเรียนอะไรก็สำเร็จได้ทุกอย่าง และเก่งทุกทางจริงๆ
    หลวงพ่อใจท่านมีเมตตาจิตเป็นสาธารณะ เป็นพึ่งของชาวบ้าน จึงมีลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือท่านเป็นจำนวนมาก เวลาใครมาขอเมตตาให้ช่วย เช่น การปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆท่านก็จะทำให้เต็มที่ และทำให้อย่างดีที่สุด และละเอียดทุกขั้นตอนตามแบบฉบับพระคณาจารย์โบราณอย่างแท้จริง

    (ตอนที่ 18)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 18 พิธีมหาพุทธาภิเษก ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม โดยมีพระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงคุณ นั่งปรกอธิษฐานจิต 28 รูป
    วัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
    วัดนี้มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ในเรื่องท้าวเวสสุวรรณ ที่มีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ศรัทธาของผู้คนจำนวนมาก
    คณะตัวแทนวัดเขาน้ำซับได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณ หลวงพ่ออิฏฐ์ เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี ให้นำพระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ และรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ ของวัดเขาน้ำซับ เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ตามความประสงค์ โดยพระอาจารย์สุรพงศ์(หนึ่ง) ปัญญาวุฑโฒ วัดเขาน้ำซับได้ทำหนังสือขออนุญาตขอเข้าร่วมพิธีตามธรรมเนียมปฏิบัติ และหลวงพ่ออิฏฐ์ยังเมตตาเซ็นกำกับหนังสือฉบับนี้เป็นลายลักษณ์อักษรให้อย่างชัดเจน
    พิธีนี้จัดได้อย่างยิ่งใหญ่สมบูรณ์แบบตามหลักโบราณอาจารย์ โดยมีพระเกจิคณาจารย์เข้าร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต จำนวน 28 รูป พิธีดำเนินไปนานเกือบ 4 ชั่วโมง
    การนำพระขรรค์ ท้าวเวสสุวรรณ และวัตถุมงคลของวัดเขาน้ำซับเข้าร่วมพิธีนี้ เป็นไปโดยราบรื่นลงตัวทุกประการเหมือนจับวาง ทั้งตำแหน่งที่วาง ฯลฯ เป็นอีกพิธีหนึ่งที่มีความเข้มขลังน่าประทับใจอย่างยิ่ง..

    (ตอนที่ 19)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 19 หลวงพ่ออวยพร ฐิติญาโณ วัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงพ่ออวยพร ทายาทวิทยาคม และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ของหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏืบัติชอบ เคร่งครัดเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ครบเครื่องทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ และมีพลังจิตอันกล้าแข็ง จัดเป็นพระเกจิอาจารย์แถวหน้าของเมืองนครปฐมอีกรูปที่น่าศรัทธาเลื่อมใสอย่างยิ่ง
    เมื่อคราวที่นำพระขรรค์ ท้าวเวสสุวรรณ ของวัดเขาน้ำซับ ไปขอให้หลวงพ่ออวยพรอธิษฐานจิต ท่านได้ทำการอธิษฐานจิตด้วยความมุ่งมั่นเต็มกำลัง และยังสวดพระคาถาท้าวเวสสุวรรณบรรจุลงไปในวัตถุมงคลอีกหลายบทตามพิธีการของท่าน

    (ตอนที่ 20)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 20 พระอาจารย์สุริยัณ จันทวัณโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ อธิษฐานจิตเดี่ยว
    พระอาจารย์สุริยัณ เป็นพระป่ากัมมัฏฐาน ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เปี่ยมด้วยเมตตาจิต และทรงญาณทัศนะละเอียดล้ำลึก และรอบรู้ด้านสรรพวิชาชั้นสูงแปลกๆมากมายสุดพรรณา ผู้ที่เคยมาพบท่านย่อมรู้กันดี ท่านเป็นพระที่คณะเราให้ความเคารพนับถือเป็นครูบาอาจารย์อีกรูปหนึ่ง
    พระอาจารย์ได้เมตตาอธิษฐานจิตพระขรรค์ ท้าวเวสสุวรรณ ชุดนี้ให้เป็นกรณีพิเศษ เมื่ออธิษฐานจิตใช้เวลาเพียงไม่นานนัก พระอาจารย์ได้ลืมตาขึ้นและกล่าวว่า..
    " โอ้ย ไม่ต้องเสกมาก ของเค้าดีอยู่แล้ว.."
    " ผ่านสำนักท้าวเวสสุวรรณมาแล้วนี่.."
    ทางคณะเราจึงได้สอบถามพระอาจารย์ว่า
    รุ่นนี้ มีญาณท้าวเวสสุวรรณอยู่หรือไม่ ?
    พระอาจารย์ได้ ยิ้ม แล้วตอบว่า..
    " มีสิ่.. รุ่นนี้มีญาณของท้าวเวสสุวรรณอยู่ด้วย ตอนเราหลับตาเสก เห็นท่านยืนตระหง่านสูงใหญ่ตรงหน้าเราเลย.."
    " รุ่นนี้ทำดีมาก เจตนาดี ชนวนมวลสารก็ดี บวงสรวงถึง ครูบาอาจารย์มาช่วยทำให้.."
    นับเป็นอีกหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่กล่าวรับรองถึงคุณภาพของวัตถุมงคลชุดนี้

    (ตอนที่ 21)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 21 หลวงปู่ทองปาน วัดป่าภูผาชัน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา อธิษฐานจิตเดี่ยว
    หลวงปู่ทองปานพระอริยะสงฆ์ของอำเภอปักธงชัย ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย สมถะ ไม่สะสมสิ่งของที่เป็นทางแห่งกิเลส เป็นพระป่ากัมมัฏฐานแท้ที่อยู่กับธรรมชาติ และเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมอย่างสูง
    คณะเราได้นำวัตถุมงคล พร้อมทั้งหนังสือขออนุญาตจากทางวัดเขาน้ำซับ ไปกราบขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยอธิษฐานจิตให้ ก็ได้รับความเมตตาอย่างดีจากองค์หลวงปู่และพระที่ดูแล หลวงปู่ยังเมตตาเบิกพระเนตรวัตถุมงคลให้ โดยเจิมผ่านรูปตัวอย่างที่เตรียมไป เมื่อเสร็จพิธีอธิษฐานจิตแล้วหลวงปู่ได้บอกว่า..
    " หลวงปู่อัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ ลงมาช่วยอธิษฐานวัตถุมงคลให้ด้วย บุญทั้งนั้นเลย.."

    (ตอนที่ 22)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 22 พิธีเพ็ญพุธ(มาฆบูชา) ตักบาตรพระอุปคุต วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี
    พิธีนี้ทางวัดเทพธารทองได้อัญเชิญญาณบารมีพระอุปคุต และองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี มาร่วมแผ่บารมีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลให้ด้วยอึกสำทับหนึ่ง ตามแบบฉบับพิธีของวัดเทพธารทอง และในพิธีนี้ได้มี.. หลวงปู่สำอางค์ วัดเขาสมิง จ.ตราด พระหลวงพ่อสมบัติ วัดวิเวการาม(เขาน้อยท่าแฉลบ) เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี มาเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยหมู่พระภิกษุสงฆ์ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่พิธี

    (ตอนที่ 23)
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 23 พิธีพุทธาภิเษกท้าวเวสสุวรรณ ของวัดธรรมสุขสว่าง จ.จันทบุรี โดยมีพระเกจิผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรก ดังนี้..
    - หลวงปู่อ่อง วัดธรรมสุขสว่าง
    - หลวงปู่มหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
    - หลวงปู่สำอางค์ ค์วัดเขาสมิง
    - หลวงปู่ดำ เขาเกลือ
    - หลวงปู่มหาอำนวย วัดหนองคัน
    - หลวงพ่อสายัณห์ วัดบ่อพุ
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดทรัพย์เจริญ
    - อาจารย์พราหมณ์พจน์ สิงห์ประภา
    พิธีนี้ดีมากๆอีกพิธีหนึ่งครับ พระอาจารย์สงกรานต์ เจ้าอาวาสวัดธรรมสุขสว่างได้วางแผนงานพิธี รวมทั้งกำหนดฤกษ์ยามอย่างดี ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ หลังจากเสร็จพิธีมีผู้รู้กล่าวว่า องค์ท้าวเวสสุวรรณท่านลงมาทำพิธีให้ และบอกว่า รุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มากให้หาบูชาไว้... ซึ่งพระขรรค์ และรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณของวัดเขาน้ำซับ ก็ได้นำมาเข้าพิธีนี้ด้วยเช่นกัน

    (ตอนที่ 24) เสกปิดท้าย
    #พิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ
    วาระที่ 24 ได้นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษก เหรียญรุ่นบารมีฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี พิธีนี้เป็นพิธีบุญใหญ่ รวมพลังจิต และบารมีของพระผู้ทรงคุณธรรมไว้มาก เป็นพิธีที่สำคัญเป็นที่สุดอีกพิธีหนึ่ง
    โดยมีพระเกจิผู้ทรงวิทยาคุณนั่งปรก ดังนี้..
    - หลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม
    - ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    - หลวงปู่เหิน ปุญญักเขตโต
    - หลวงปู่จื่อ วัดเขาตาเงาะ
    - หลวงปู่วิชัย วัดถ้ำผาจม
    - หลวงปู่เหลี่ยม วัดภูตูมวนาราม
    - หลวงปู่วงศ์ วัดป่าแก้วเจริญธรรม
    - หลวงปู่ทองสุข วัดป่าวัฑฒาราม
    - หลวงปู่ขำ วัดบ้านหนองแดง
    - หลวงปู่สมใจ วัดป่ามนังชโลธาร
    - หลวงพ่อโสภณ วัดบึงลัฏฐิวัน
    - หลวงปู่สวาท วัดอ่าวหมู
    - หลวงตาศิริ วัดถ้ำผาแดง
    - พระราชเมธากรกวี วัดสนามพราหมณ์
    - หลวงพ่อสมบัติ วัดเขาน้อยท่าแฉลบ
    สิ้นสุดพิธีพุทธาภิเษกพระขรรค์_ท้าวเวสสุวรรณ วัดเขาน้ำซับ เพียงเท่านี้..

    เครดิตข้อมูล : คุณสิรภพ


    = Sold Out

    7/12/2566 EMS : ED 0577 3417 6 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2023
  18. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 46

    P1.JPG

    P1.JPG P2.JPG

    พระนาคปรกอธิษฐาน เนื้อเกษรผสมผงปฐวีธาตุ
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จังหวัดนครพนม

    #พระนาคปรกอธิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี42
    ช่วงนั้นหากใครไปกราบหลวงปู่คำพัน มักจะถามหาปฐวีธาตุของหลวงปู่
    ซึ่งหลวงปู่ได้ให้รับรองเองว่า “กันนิวเคลียร์ได้”
    ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่พร้อมหินกรวดแม่น้ำโขงถุงใหญ่ (4กิโลฯ)
    เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ หลังจากหลวงปู่อธิษฐานเสร็จ ได้ขอปฐวีธาตุกลับมา1กำมือ
    พร้อมเรียนถามหลวงปู่ว่า “ถ้านำปฐวีธาตุไปบดเป็นผงแล้วทำพระยังจะกันนิวเคลียร์ได้อยู่รึเปล่าครับ”
    หลวงปู่ก็ตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานซ้ำ”
    หลังจากสนทนากับหลวงปู่ซักพักจึงลาหลวงปู่กลับ
    ตอนกราบลา หลวงปู่ได้ดันถุงใส่ปฐวีธาตุกลับมาพร้อมพูดว่า “จะเอาไปสร้างพระไม่ใช่เหรอ”
    ผมจึง คิดว่าหลวงปู่คงต้องการให้สร้างพระมาถวายจึงได้นำปฐวีธาตุถุงใหญ่กลับมาทำพระ
    ซึ่งตอนนั้นผมเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยปี 1
    และแทบไม่มีความรู้เรื่องการสร้าพระเลย
    หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในวงการสร้างพระคือ
    คุณอำพล เจน ที่เป็นธุระในการเขียนยันต์ข้างหลังองค์พระซึ่งเป็นพุทธคาถาในพุทธทำนาย
    คุณเนาว์ นรญาณที่เป็นธุระในการทำแม่พิมพ์พระฯ
    และคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาพร้อมวลสารในการสร้างพระ ฯลฯ
    หลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้วซึ่งแบ่งเป็นเนื้อโรงงาน 5,000 องค์
    เนื้อเกสรซึ่งกดมือกันเองอีกหลายพันองค์ (จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ซึ่งน่าจะราว5000องค์)
    ได้ไปถวายหลวงปู่เพื่ออธิษฐานหลังวันเข้าพรรษาปี42 หนึ่งวัน
    เมื่อไปถวายหลวงปู่ได้สั่งให้เก็บไว้ก่อนท่านยังไม่อธิษฐานเดี๋ยวนั้น
    และพระได้อยู่กับท่านจนออกพรรษาได้ราว5วันจึงได้ไปถวายพระนาคปรกเนื้อเกสรอีกราว5,000 องค์ที่กดกันเองในพรรษา
    (พระที่กดในพรรษาจะบรรจุทรายคำไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์)
    โดยหลวงปู่ได้เก็บพระที่ถวายไว้ในช่วงเข้าพรรษาทั้งหมด(พระชุดแรก)ไว้ที่หัวนอนท่านตลอดพรรษา
    และระหว่างสนทนาได้เล่าถวายให้ท่านฟังถึงการทำพระที่กดมือกันเองออกมาไม่สวย
    ท่านก็เมตตาให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไรอย่างพระสมเด็จวัดระฆังก็กดมือเหมือนกัน”
    และทราบว่าพระชุดนี้หลวงปู่มิได้จำหน่ายจ่ายแจก จนผ่านไปหลายปีจึงได้ยินว่าคุณเง็กได้รับแจกมา

    #พระปรกอธิษฐาน เป็นนามที่คุณเง็ก บางลำภู
    ได้เรียกพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ของหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย
    เมื่อไปถามคุณเง็ก ถึงที่มาของชื่อจึงทราบว่า
    มีคราวหนึ่งเพื่อนคุณเง็กซึ่งรู้จักกับหลวงปู่คำพันเป็นอย่างดี
    ได้ฝากปัจจัยไปถวายหลวงปู่ เมื่อคราวที่คุณเง็กได้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด
    พร้อมกำชับให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่า เขาขอพระหลวงปู่เป็นที่ระลึกด้วย
    หลังจากคุณเง็กได้กราบเรียนหลวงปู่แล้ว
    หลวงปู่จึงหยิบพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ขึ้นมาแจกทุกคนคนละ1องค์และได้ฝากไปให้เพื่อนคุณเง็กด้วย
    โดยหลวงปู่ได้กล่าวว่า “อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา”
    ตั้งแต่นั้นมาที่พันทิพย์งามวงศ์วานก็เรียกพระรุ่นนี้ว่า พระปรกอธิษฐาน
    ซึ่งคุณเง็กเล่าว่าปรกติเวลาหลวงปู่แจกพระให้คุณเง็ก
    ท่านจะแจกเป็นกำแต่กับพระรุ่นนี้ท่านให้แค่คนละ1องค์เท่านั้น
    เป็นประกอบกับคำกล่าวของหลวงปู่คำพันที่ว่า
    อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา
    จึงเป็นเหตุให้คุณเง็กซึ่งเป็นเซียนใหญ่พระหลวงปู่คำพัน
    ได้เริ่มกว้านเก็บพระปรกอธิษฐานตั้งแต่นั้นเป็นตนมา
    คุณเง็กเล่าต่อว่าพระหลวงปู่คำพันที่คุณเง็ก มีประสบการณ์มี2อย่าง
    คือพระพุทธปฐวีธาตุและพระปรกอธิษฐาน


    #หากจะกล่าวถึงการเล่นแร่แปรธาตุแล้ว หลายท่านคงจะทราบว่ามีอยู่หลายอย่าง และหลายแบบตามแต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน จะมีวิธีและวิชาอันแก่กล้าที่สามารถเสกหรือทำของต่างๆ ให้มีความขลัง

    ด้วยบทพระเวทย์ วิทยาคม อันแก่กล้า หรือด้วย จิต กฤตยา หรือบุญฤทธิ์ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้สิ่งของนั้นๆ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครอง ให้คุณแก่ผู้ที่ศรัทธานับถือ นำไปติดตัวไว้ใช้แล้วบังเกิดสิ่งอัศจรรย์ เหนือธรรมชาติ ที่วิทยาศาสตร์อันทันสมัยในปัจจุบัน ไม่สามารถอธิบายเป็นเหตุผลออกมาได้

    ผู้ที่มีความนับถือ ศรัทธาต่อองค์ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของแห่งธาตุวิเศษ สิ่งเหล่านี้ ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "ปัจจัตตัง" คือ สิ่งเฉพาะตน

    "ปฐวีธาตุ พระเพชรแห่งแม่น้ำโขง" ปฐวีธาตุของ เจ้าคุณสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนมนี้ มีความเป็นมา ครั้งตั้งแต่ท่านยังเป็นเพียงพระภิกษุธรรมดาของชาวบ้านตำบลมหาชัย จ.นครพนม
    แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีดีอยู่ในองค์ท่าน จากการปฏิบัติธรรม ฝึกจิต ตามแนวทางกรรมฐาน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล บูรพาจารย์ใหญ่ของสำนักกรรมฐานในยุคนั้น และวิชาสายพระเวทย์ของ ปะขาวครุฑ ซึ่งเป็นสายวิชาของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ผู้โด่งดังสองคาบฝั่งโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงแรกนั้น ทหารและตำรวจในพื้นที่ ต่างทราบถึงกิตติคุณท่านดีว่า เป็นพระดี มีวิชา จากปากคำของชาวบ้าน ปากต่อปาก ทำให้ทหารและตำรวจเข้าหาท่าน และจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ ขอของดี แต่ท่านปฏิเสธไป พร้อมกับบอกว่า ท่านเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง ไม่มีอะไรจะให้ได้ นอกจากพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ทั้งกลุ่มทหารและตำรวจ จึงลาท่านกลับไป แต่ด้วยกิตติคุณและบารมีธรรมของท่าน ทำให้ทั้งตำรวจ ทหาร และข้าราชการหลายกลุ่มยังเดินทางมาพบท่าน และก็เช่นเคย คือ ขอของดีจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคล และคุ้มครอง เพราะในสมัยนั้น (ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐) บ้านเมืองยังคงเต็มไปด้วย โจร ผู้ร้าย สัตว์ป่านานาชนิด และฝ่ายที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้การทำงานของข้าราชการฝ่ายต่างๆ มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตสูง เมื่อความศรัทธาที่มีต่อท่านมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ ปฐวีธาตุพระเพชร แห่งแม่น้ำโขง

    ศรัทธาของผู้ที่มาพบท่าน และต้องการขอของดีไว้คุ้มครองตัว เมื่อมีมากขึ้น ท่านจึงเอ่ยปากจะทำของดีให้ โดยให้ชาวบ้านและเหล่าทหารที่มาพบ ไปช่วยกันนำ หิน ที่อยู่ในแม่น้ำโขงขึ้นมา ซึ่งมีอยู่หลากหลายวรรณะ สีสันแตกต่างกันออกไป หลายลักษณะ สุดแต่ผู้ใดจะเก็บมาได้แบบไหน เมื่อได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมากองรวมกันแล้ว เสกตามสายวิชาที่ท่านได้เรียนมา
    หลวงปู่คำพันธ์ ได้แจก หินเสก ให้ลูกศิษย์ ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อเกิดประสบการณ์ จากเรื่องประสบอุบัติเหตุ ที่ผู้ประสบเหตุการณ์นั้นรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์สารพัดเรื่องราว ทำให้ปฐวีธาตุ และชื่อเสียงของหลวงปู่คำพันธ์ ยิ่งขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น

    จากการบอกกล่าวของผู้รู้ทางด้านวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ ให้ข้อมูลว่า การเสก ทำของ หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหินแม่น้ำธรรมดาๆ นั้น ให้เป็นของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่จะเสกด้วยจิตอันแก่กล้า และพระเวทที่ใช้เสกปฐวีธาตุนั้น คือ มนต์คาถาชินบัญชร เฉกเช่นเดียวกันกับ ปฐวีธาตุ ของ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย
    ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ และ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต มีความเหมือนกันหลายอย่าง คือ หลวงปู่คำพันธ์เสกและตั้งเป็นองค์พระ ท่านเรียก "พระเพชร" ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านก็เสกและตั้งเป็นองค์พระเช่นเดียวกัน ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ เรียกปฐวีธาตุของท่านว่า "พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ"

    ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้"พระคาถาชินบัญชร" เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณของปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์แห่งวัดธาตุมหาชัย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุที่เย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยที่เกิดจากรังสีของความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
    ในขณะที่ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์นั้น เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตเสร็จ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์ไว้ แล้วท่านได้กล่าวกับศิษย์ว่า พระแม่ธรณีนี้วิเศษนักหนา ท่านได้อธิษฐานให้เป็นของวิเศษ ให้เป็นพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีมีคุณอันอเนกอนันต์ เปรียบดังคุณแห่งมารดา ที่รักลูกจนหาที่สุดมิได้
    ท่านกล่าวกับศิษย์ว่า รักษาไว้ให้ดี กันฟ้า กันไฟ ได้นะ กันรังสีของนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์มีจำนวนน้อยมาก เพราะท่านทำไว้ก่อนท่านจะมรณภาพเพียงไม่นาน คือ ช่วงวาระสุดท้ายของสังขารท่าน
    ฉะนั้น กรณีที่มีหลายคนมีหินแล้วบอกว่าเป็นปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรรัตน์ ขอให้ท่านใช้สติ และปัญญาแห่งชาวพุทธ พิจารณาที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ด้วย
    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์นั้น ยังพอที่จะหาได้จากผู้รู้จริง แต่ควรจะเป็นการมอบให้กัน โดยไม่มีราคาค่างวด เหตุเพราะเป็นหินนั่นเอง ลักษณะและการพิจารณา ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เสกหรือไม่เสก แท้หรือไม่แท้ แตกต่างจากพระเครื่องอย่างสิ้นเชิง
    ให้ท่านคิดดูว่า พระเครื่องที่ดูแล้วสามารถบอกได้ว่าชนิดไหน สำนักใดผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังโดนของเก๊ เลียนแบบ

    ส่วนหินแม่น้ำนั้น สามารถหยิบหาที่ไหนมาก็ได้ แล้วบอกว่า เป็นปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นำมาตั้งราคาค่างวดซื้อขายกัน โดยมิได้ทำบุญเช่าหามาจากวัด นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีศรัทธา แต่ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาแบบชาวพุทธแท้จริง ท่านอาจจะแขวนกรวดงาน หรือหินตู้ปลาที่ไหนก็ได้ นับว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
    สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณคณะศิษย์ธาตุมหาชัย ที่เอื้อเฟื้อภาพ และข้อมูล ซึ่งเป็นผู้จัดทำหนังสือ "สัมผัสแห่งอริยะ" ซึ่งถือเป็นหนังสือที่รวบรวมทุกเรื่องราวของ หลวงปู่คำพันธ์ ได้อย่างสมบูรณ์เล่มหนึ่ง


    แต่เพราะ"พระเพชร"หรือ"ปฐวีธาตุ"นั้น หากจะว่ากันโดยกายภาพภายนอกแล้ว ก็คือ"ก้อนกรวด"เราดีๆนี่เอง
    ไม่อาจ"ตอกโค้ด"หรือ"รันนิ่งนัมเบอร์"แยกของเสกกับไม่เสกได้
    ต้องได้มาจาก"แหล่งที่เชื่อถือได้"เพียงสถานเดียวเท่านั้น จึงจะวางใจได้ว่า ไม่ได้เอากรวดตู้ปลา หรือกรวดก่อสร้างเปล่าๆมาห้อยให้หนักคอ หนักใจแท้ทีเดียว

    ด้วยเหตุนี้ จึงคณะศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ จึงได้นำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นองค์"พระเครื่องพระบูชา"เป็นหลายรุ่นหลายแบบด้วยกัน เพื่อตัดปัญหาดังกล่าวให้สิ้นไปโดยปริยาย อันเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด น่าอนุโมทนาสาธุการด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    หนึ่งใน"พระผงพระเพชร"ของหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัยที่หลวงปู่ท่านสั่งให้สร้างไว้ด้วยองค์เอง ซึ่ง"พุทธวงศ์"รู้เห็น,ช่วยเหลือในการจัดหาแม่พิมพ์มาตั้งแต่ต้น ที่ใคร่จะขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานสืบไปก็คือ"พระนาคปรกอธิษฐาน" ที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"แจกยาก"ที่สุดชุดหนึ่งเลยนั่นเทียว..!!?!

    แต่ก่อนที่จะเล่าล้วงลูกลึกไปถึงปฐมเหตุแห่งการจัดสร้างอันมีที่มาที่ไปค่อนข้างจะผิดแผกจากปกติภาพทั่วไป ก็ใคร่ขอพูดถึงเรื่องของพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ชุดนี้ก่อนสักเล็กน้อย
    แต่แรกสร้าง ก็ไม่ตั้งชื่อวิจิตรพิศดารอะไร นอกจากจะเรียกหาตามรูปลักษณ์อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่เพียงว่า "พระนาคปรกใบโพธิ์" เท่านั้น
    จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ"เง็ก บางลำพู" เซียนพระสายเจ้าคุณนรรัตน์ฯและหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรกๆ ซึ่งนับถือหลวงปู่คำพันธ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างยิ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกราบหลวงปู่ถึงวัดธาตมหาชัย อันเป็นกิจวัตรที่คุณเง็กได้กระทำมาโดยตลอด แทบไม่มีการว่างเว้นเลยแม้สักเดือนเดียว
    ในฐานที่เป็นศิษย์เก่าแก่ที่เคารพนับถือกันมานาน หลวงปู่คำพันธ์มักจะหยิบพระเครื่องรางให้คุณเง็ก บางลำพูทีละ"เป็นกำเป็นหอบ"เป็นของฝากจากนครพนมไปแจกจ่ายคนที่กรุงเทพอยู่เสมอๆ
    แต่มาคราวนี้ การกลับไม่เหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจ
    เพราะหลวงปู่คำพันธ์ หยิบ"พระนาคปรกใบโพธิ์"ให้คุณเง็กเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น..!!!!
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่ หรือองค์ที่สิบยี่สิบเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว..!?!?
    ยิ่งไปกว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์ยังสั่งกำชับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วยว่า
    "ปรารถนาอยากได้อะไร ลองอธิษฐานดูได้น๊ะ..!!??"

    ด้วยเหตุแห่งคำสั่งของหลวงปู่คำพันธ์ดังกล่าวข้างต้น "พระนาคปรกใบโพธิ์" จึงมีอันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ไพเราะและแฝงไว้ด้วยความนัยที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ด้วยประการฉะนี้ฯ

    สำหรับปฐมเหตุแห่งการอุบัติแห่ง"พระนาคปรกอธิษฐาน"รุ่นนี้ เกิดจาก"บอล" เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 1 (ประมาณปี 2541)ซึ่งสนใจศรัทธาพระสายกรรมฐานเป็นพิเศษได้ให้เพื่อนไปหา"กรวดแม่น้ำโขง"ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมให้ถวายให้หลวงปู่คำพันธ์เสกเพื่อเอาไว้"กันนิวเคลียร์"ตามกระแสนิยมในยุคนั้นที่สถานการณ์บ้านเมืองและโลกค่อนข้างที่จะร้ายแรง เสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่มิใช่น้อย โดยเมื่อเสกเสร็จ "บอล"ก็กราบเรียนถามหลวงปู่คำพันธ์ทีเดียวว่า
    "หลวงปู่ครับ ถ้าเอาปฐวีธาตุนี้ไปบดสร้างเป็นองค์พระแล้ว จะกันนิวเคลียร์ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ..???"
    หลวงปู่คำพันธ์ตอบทันทีว่า
    "ได้..!!!!"
    แต่...
    "ต้องเอามาให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกทีหนึ่งน๊ะ..!!!!"

    และภายหลังจากที่ได้สนทนาธรรมกับท่านจนพอสมควรแก่กาลเวลาอย่างยิ่งแล้ว ก่อนที่จะลาหลวงปู่คำพันธ์กลับ "บอล"ก็ล้วงเอาปฐวีธาตุออกจากถุงมากำมือหนึ่งด้วยหมายใจจะนำไปแจกจ่ายเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนท่านว่า
    "ปฐวีธาตุส่วนที่เหลือ ผมขอถวายหลวงปู่นะขอรับ..."
    ในทันใด สิ่งที่ไม่คาดคิดก็พลันเกิดขึ้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ผลักถุงปฐวีธาตุทั้งหมดนั้นออกมา พร้อมกับออกปากทีเดียวว่า
    "เอ้า..เอาไป จะเอาไปสร้างพระมิใช่หรือ..??!!??"
    และนี้เอง ก็คือปฐมเหตุแห่งการสถาปนา"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตามรูปแบบภายนอกทั่วไปแล้ว ไม่น่าจะมีความสลักสำคัญอันใด ด้วยเป็นเพียง "พระเครื่องเด็กสร้าง" เท่านั้น...
    แต่ไปๆมาๆ "พระนาคปรกอธิษฐาน"กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งในพระเครื่องดีที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"โปรดปรานสงวนรักษา"มากที่สุดชุดหนึ่งในกาลต่อมาอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
    เพราะหากไม่นับ"ศิษย์ต้น"ที่ตามปกติ หลวงปู่จะเทย่ามแจกพระให้ทีละเป็นกำเป็นหอบเป็นปกติอย่าง"เง็ก บางลำพู" แต่ท่านกลับให้เพียงองค์เดียวอย่างน่าฉงนอย่างที่กล่าวไว้แต่เบื้องต้นแล้ว ที่สุด แม้แต่"นายทหารชั้นผู้ใหญ่" บรรดาศักดิ์สูงท่านหนึ่งไปกราบท่าน แทนที่จะให้พระเหรียญพระกริ่งพระบูชาราคาสูงๆมาแจกให้สมกับศักดิ์ศรีทหารใหญ่อย่างที่น่าจะเป็น
    แต่คราวนั้น หลวงปู่คำพันธ์กลับเลือกหยิบ"พระนาคปรกอธิษฐาน"นี้ให้ทหารไทยใจหาญเพียง"โดดๆ"องค์เดียว..!!!???
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่นอกเหนือจากนี้เป็นอันเด็ดขาด
    และแม้แต่"ศิษย์ใกล้ชิด"คนอื่นๆ หลวงปู่ท่านก็มิได้แจกพร่ำเพรื่อแต่อย่างใดทั้งสิ้น
    แต่ท่านจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่"นับถือกันจริง"แต่เพียง"สถานเดียว"และเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น
    "สงวนรักษา"อย่างยิ่งถึงขนาดนี้จริงๆ......

    และภายหลังจากที่ได้รับคำประกาศิตจากหลวงปู่คำพันธ์มาเช่นนั้น "บอล"จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษาในการสร้างกับ"พุทธวงศ์" ซึ่งเคยได้กราบไหว้ใกล้ชิดท่านมาบ้าง ทำให้รู้ถึงความเป็น"พระดีพระเก่ง"อย่างครบเครื่องแห่งท่าน จึงยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อมกับได้จินตนาการดำริเสนอไอเดียไปว่า
    "อันหลวงปู่คำพันธ์นี้ ทราบมาว่าท่านมีความเกี่ยวข้องกับพญานาคอย่างยิ่ง (บางท่านว่า ท่านเคยเป็นพญานาคผู้มีศักดิ์ใหญ่และมีฤทธิ์มากมาแต่ชาติปางก่อน) แม้ปฐวีธาตุในสายของท่าน ก็เกี่ยวข้องกับพญานาคอยู่ด้วย จึงเห็นควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์นาคปรก เห็นถ้าจะเหมาะจะควรที่สุดเป็นแน่..."

    และยังทราบความเพิ่มเติมมาอีกด้วยว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ยังได้เคยกล่าวพยากรณ์เรื่องราวบางประการไว้กับผู้ใกล้ชิดเมื่อครั้งกระนั้น แต่มีเนื้อความที่มาสอดคล้องเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่คำพันธ์อย่างพอดีน่าอัศจรรย์ยิ่งอีกด้วยว่า
    "พระรูปเหมือนใบโพธิ์อันโด่งดังของท่านนั้น ต่อไปจะมีพระเกจิคณาจารย์สร้างตามแบบอย่างกันมากมาย แต่จะไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่า ยกเว้นจะมีพระทางภาคอีสานองค์หนึ่ง และพระองค์นั้นจะต้องเสกปฐวีธาตุได้ด้วยฯ"
    ด้วยเหตุดังกล่าวแม้นี้ พระนาคปรกที่จะทำ ก็ควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์"ใบโพธิ์"ด้วย จึงจะสอดคล้องต้องกับคำพยากรณ์ของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯเมื่อครั้งกระนั้นไม่ผิดคำอย่างแท้ทีเดียว......

    อาจเป็นเพราะได้กระทำการอันคล้อยตามกับ"มติสวรรค์" ตามสุภาษิตจีนบทหนึ่งที่ว่า "คล้อยฟ้าดินรุ่ง ขืนฟ้าดินดับ"เช่นนี้ ผลลัพท์จึงออกมา"เกินควรเกินค่า"กับความที่เป็น"พระเด็กสร้าง" จนที่สุด ได้กลายเป็นของดีที่พระอริยสงฆ์ระดับหลวงปู่คำพันธ์"เมตตาโปรดปราน"และสงวนเก็บรักษาหวงแหนใส่ใจเป็นกรณีพิเศษตราบจนมรณภาพ ละม้ายแม้นกับกรณีของ"เหรียญเมตตาหลวงปู่สิม" ที่ก่อน" นิพพาน"ไม่เท่าไร หลวงปู่สิมก็ยังปรารภถึงด้วยความพึงใจอยู่ แทบไม่มีข้อแตกต่างกันเลยแม้เพียงนิดเดียว....

    อนึ่ง ยิ่งหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ยังได้เคยกล่าวชมเชยหลวงปู่คำพันธ์กับคุณสุธันย์ สุนทรเสวี นักสร้างพระมือดีแห่งสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงครามมาแต่ครั้งกระโน้นอีกด้วยว่า "หลวงปู่คำพันธ์ที่นครพนมนั้น เก่งเรื่องธาตุน๊ะ"ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการันตีรับรองความ"เก่งแท้แน่จริง" แห่งหลวงปู่คำพันธ์ให้เป็นที่แจ้งประจักษ์อย่างสิ้นสงสัย
    เพราะรู้อยู่แก่ใจดีว่า ย่อมเป็นการที่ยากยิ่งนักที่หลวงปู่สิมจักกล่าวยกย่องสรรเสริญหรือชมเชยผู้ใดหรือพระไหนได้ง่ายๆ หากไม่"สุดยอด"อย่างแท้จริง จริงๆ
    แต่หากลองได้"ออกปาก"รับรองแม้เพียงคำครึ่งคำ ประโยคครึ่งประโยคแล้วไซร้ ก็ไม่มีใดต้องสงสัยตลอดชั่วกัปกัลป์เลยนั่นเทียว....
    ซึ่งก็ทำให้"พุทธวงศ์"พลอยได้ซึมซาบและติดอุปนิสัย"เอาแต่ของดีจริงถึงดีที่สุดเพียงสถานเดียว"ของหลวงปู่สิมมาอย่างสนิทจนแก้ไม่ออก ลบไม่หายตราบเท่าถึงวินาทีนี้ด้วยเช่นกัน


    แต่แม้กระนั้น ก็ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่า ในกาลต่อมา จะได้มีวาสนามีส่วนในการสร้าง"พระนาคปรกอธิษฐาน" ในรูปแบบและเนื้อหาที่"ลงตัว"ด้วยเหตุทุกสถาน อันเป็นการสืบสานคำพยากรณ์"เจ้าคุณนรรัตน์" ผนวกกับคำการันตีจาก"หลวงปู่สิม" กับรุ่นน้องร่วมอุดมการณ์ถวายหลวงปู่คำพันธ์อย่างถึงที่สุดเห็นปานนี้ได้....
    "นึกไม่ถึง"มาก่อนเลยจริงๆ............

    และต่อไปนี้ คือ"ลำดับผลการดำเนินงาน"แห่ง "พระนาคปรกอธิษฐาน" ของ"บอล" ที่ได้ทำรายงานมานำเสนอ จึงขอนำมาโพสต์ไว้เป็นจดหมายเหตุหลักฐานสืบไปเมื่อหน้าต่อไปเลยทีเดียว...
    "....ต่อไปนี้ เป็นการโม้ส่วนตัว สำหรับพระ Perfect ชุดนี้ ซึ่งมีองค์ประกอบที่ทำให้พระชุดนี้ Perfect ก็คือ
    1.เป็นรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์เมตตาสั่งให้ทำเอง
    2.เป็นรุ่นที่ใช้ปฐวีธาตุผสมมากสุดๆ (ปฐวีธาตุเกือบ 4 กิโลกรัม(4,000 กรัม)ต่อพระขนาดปลายนิ้วก้อยเพียง 5,000 องค์)
    3.เป็นรุ่นที่รวมพลังกันนิวเคลียร์ไว้ถึง 3 ประการ คือ
    3.1 , ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
    3.2 , พระหลวงปู่ทวด พิธีเปิดโลกชำรุดถึง 20 องค์(บดใส่เฉพาะพระนาคปรกอธิษฐานเนื้อดำ)
    3.3 , ด้านหลังประจุยันต์พุทธคาถาจากพุทธทำนายของหลวงปู่คำพันธ์เอง
    4. เป็นรุ่นที่ใช้เนื้อพิเศษมากๆ โดยเฉพาะชุดเนื้อดำ ได้ผสมพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง(มีผงเก่าของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เจ้าตำรับชินบัญชรคาถาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่เป็นอันมาก
    5.เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ เพื่อแจกเท่านั้น ทั้งยังได้แยกบล็อคออกจากกันมิให้ทำซ้ำได้อีก โดยบล็อคด้านหลังได้นำถวายให้หลวงปู่คำพันธ์ท่านเก็บรักษาไว้ด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
    6.องค์เสกเป็นผู้ทรงทั้งวิชาและวิมุติ แถมยังเก่งเรื่องธาตุเป็นพิเศษ การทำให้พลังจากผงปฐวีธาตุที่บดสร้างกระจายไปทั่วและโดดเด่นออกมาได้ จึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ยิ่งท่านมีเวลาเสกนานถึง 3 เดือน จึงไม่ต้องบรรยาย
    7.เป็นรุ่นที่หลวงปู่ท่านเมตตาสั่งเองให้เก็บไว้กับท่าน 1 ไตรมาสก่อน
    8.สำหรับเนื้อที่กดกันเอง(สีดำ) ใช้น้ำมนต์หลวงตามหาบัวเพียวๆในการนวดเนื้อ
    9. ฯลฯ

    สำหรับ Ball จึงถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงสุดๆที่ทำมา สำหรับ Ball เองไม่ได้รู้จักหลวงปู่คำพันธ์เป็นการส่วนตัว แม้ปัจจุบัน(พ.ศ. 2542) ท่านก็ยังจำหน้า Ball ไม่ได้เลย นับเป็นโชคอย่างยิ่งที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านเมตตาให้ได้ทำบุญใหญ่เช่นนี้
    และต้องขอขอบพระคุณพี่เนาว์ที่เมตตาเป็นธุระในการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึงร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ขออนุโมทนาครับ......."

    หมายเหตุ , มีผู้ฝึกสมาธิท่านหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกันมานานได้ลองตรวจพุทธคุณของพระนาคปรกอธิษฐานรุ่นนี้ดู ปรากฏผลเป็นที่น่าสนใจมาก จึงเห็นควรนำมาเสนอเพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาแก่ผู้ที่มีวาสนาได้ไว้สักการะบูชาสืบไป.....
    "พระนาคปรกอธิษฐานนี้ สัมผัสครั้งแรก จะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความร้อนฝ่ายอิทธิฤทธิ์แผ่ซ่านออกมาก่อนเลย แต่พอยิ่งเข้าสมาธิลึกเข้าๆ ก็จะปรากฏกระแสเย็นปรากฏขึ้นมาแทน จึงอาจที่จะกล่าวได้ว่า พระองค์นี้ ถึงพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ครบถ้วน...!!!!"
    "และในนิมิต ยังพบด้วยว่า ในพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้ จะได้มีพญานาคเพียงตัวเดียวหรือจำพวกเดียวก็หามิได้ แต่มีพญานาคหลายจำพวกด้วยกันเข้ามาอยู่รวมกันเต็มไปหมด เท่าที่เห็นก็มีพญานาคสีทอง,สีเขียว,สีนิล,สีน้ำเงิน เลื้อยเข้ามาพันไปหมดทั้งตัว พลังนี้ซ่านขึ้นหัวไปเลย...!!!"

    "นอกจากนี้ ยังเห็นกระแสพลังใสสว่างอย่างไม่มีประมาณ 2 สายวิ่งเข้ามาเชื่อมถึงกัน ก่อนจะม้วนตัวเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตร แล้วเปลี่ยนสภาพเป็นดวงใสสว่าง และพลังแห่งพุทธะก็ได้แสดงออกมาในรูปของพระพุทธรูปแก้วใสผุดขึ้นมาจากดวงใสนั้นอีกทีหนึ่ง...

    ได้ทราบมาว่า "ปฐวีธาตุ"ปกติเพียงหนึ่ง จะมี"พญานาค"ประจำอยู่แบบ"1 By 1" ก็ยังมีอิทธานุภาพใหญ่ยิ่งดังกล่าวข้างต้นเห็นปานนี้
    ก็แล้ว"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตรวจพบว่า ไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่มีพญานาคอยู่ถึง 4 ตระกูลใหญ่ จำนวนนับไม่ได้ปรากฏอยู่ภายในดังกล่าวข้างต้น จะทรงกฤษฏาภินิหารสักเพียงไหน คงไม่จำต้องอธิบาย
    นี้จึงเป็นการเฉลยความลับสวรรค์ที่หลายๆคนหลายๆท่านข้องใจสงสัยกันมานานว่า ทำไมหลวงปู่คำพันธ์จึง"สงวนรักษา"ในพระนาคปรกอธิษฐานที่ภาพลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงพระ"เด็กสร้าง"ชุดนี้อย่างผิดปกติธรรมดา ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยนำมาแจกเป็นของขวัญในงานรับปริญญาเป็นกำๆยังกับของโหลของสนามนับเป็นร้อยๆ ทำเอา"นายพล"ท่านหนึ่ง เมื่อได้มาเห็นเข้าถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะขนาดตัวท่านเองเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์ยังให้มาแค่"องค์เดียว"เท่านั้นเห็นเพียงนี้ได้.....

    "พญานาค" เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นสัตว์ในวรรณคดีด้วย และไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา แบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
    1.ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
    2.ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
    3.ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
    4.ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

    พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก
    เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

    หมายเหตุ 2, พระนาคปรกอธิษฐานที่ทำการตรวจพุทธคุณในครั้งนี้ เป็น"เนื้อธรรมดาสีนวล"เท่านั้น
    หมายเหตุ 3 ,แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ในความแม่นยำในการตรวจพลังในคราวนี้ ก็อยู่ตรงที่พระองค์ที่ว่านี้ ได้มีการตรวจพบแต่เบื้องแรกว่า มี"พลังงานพิเศษ"บางอย่าง มีลักษณะเป็นดวงสว่างแทรกอยู่ด้วยอย่างน่าประหลาดใจ
    เป็นพลังอะไรที่"ไม่เหมือน"กับพลังของหลวงปู่คำพันธ์ แต่ใสสว่างใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์
    เมื่อได้ฟัง "พุทธวงศ์"ก็ได้แต่อมยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนที่จะเฉลย"ความลับ"ประการหนึ่งให้ฟังทันทีว่า ก่อนที่จะนำพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้มาตรวจเพียงหนึ่งวัน "พุทธวงศ์"ได้ตั้งใจที่จะนำไปถวาย"พระ"องค์หนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากเรื่องการ"ดูจิต" (ขอสงวนนามไว้ในฐานที่เข้าใจ) ซึ่งเคยทราบว่า ท่านเคยไปกราบและเรียนกรรมฐานจากหลวงปู่คำพันธ์มาแต่ก่อนเป็นอนุสรณ์
    ขณะที่ได้พบกับพระสายดูจิตองค์นั้นนั่นเอง โดยในมือพนมไหว้นั้นมี "พระนาคปรกอธิษฐาน"อยู่ภายใน พระสายดูจิตองค์นั้นเมื่อเดินผ่านมา ก็เอื้อมมือมาจับมับเข้าที่ข้อมือของ"พุทธวงศ์"ทันที เป็นนัยให้ตามท่านเข้าไปสอบถามเรื่องธรรมะเป็นการเฉพาะอย่างไม่นึกฝันมาก่อน
    นี้จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจไม่ถวายพระนาคปรกอธิษฐานองค์"ในมือ"นี้เสียดื้อๆอย่างนั้นนั่นแหละ
    เพราะถือว่าเป็นกรณีพิเศษว่า ลำพังคนทั่วไปจะมีโอกาสได้คุยกับ"หลวงพ่อดูจิต"องค์นี้เพียงคำครึ่งคำก็แสนยาก
    แต่นี้ท่านคว้าข้อมือไปคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้ ก็นับเป็นวาสนาอย่างสุดๆไปถึงเพียงไหน คงไม่ต้องอธิบาย
    พูดอย่างติดตลกได้ก็คือ วันนั้นทั้งวัน แทบไม่อยากจะอาบน้ำล้างไม้ล้างมือเลยทีเดียว!?!?

    ประมาณว่า กลัว

    "ละอองมือ"แห่งท่านจะหายไปจากตัวนั่นแล

    แต่จุดหลักใหญ่ใจความที่จะหมายจะเล่าในที่นี้ ก็คือว่า ชั่วเสี้ยววินาทีที่"หลวงพ่อดูจิต"จับข้อมือของ"พุทธวงศ์"เพียงแว่บเดียว กระแสพลังแห่ง"ปราณ"และ"ธาตุรู้"อันเข้มแข็งแห่งท่านยังสามารถไหลแทรกเข้าไปปรากฏใน"พระนาคปรกอธิษฐาน"จนมีการตรวจพบเป็น"พลังงานพิเศษ"ทั้งๆที่มิได้มีการบอกกล่าวมาก่อนได้อย่างไม่ผิดพลาด เห็นปานนี้
    ก็แล้ว "พญานาค"ถึง "4 ตระกูลใหญ่" จำนวนนับไม่ได้ ซึ่งเป็น"พลังงานหลัก"ของพระนาคปรกอธิษฐานที่หลวงปู่คำพันธ์ได้บรรจงเสกประจุนานถึงไตรมาส 3 เดือนที่ปรากฏในสมาธิ จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ไฉน ก็ขอท่านทั้งหลายได้โปรดใช้วิจารณญาณวินิจฉัยกันเอาเองเทอญฯ

    เครดิตข้อมูล : "เนาว์สถิตย์"


    = Sold Out

    9/12/2565 EMS : ED 1181 0823 5 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2022
  19. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,148
    ค่าพลัง:
    +4,540
    รายการที่ 47

    P1.JPG P2.JPG P3.JPG P4.JPG

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A5.jpg
    A6.jpg
    A7.jpg
    A8.jpg

    ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ เนื้อผงพุทธคุณ (สีแดง) รุ่นที่ระฤกกฐิน59 วัดเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

    "ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่นที่ระฤกกฐิน ๕๙" วัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์โดยพราหมณ์สุเมธ พรหมชาติ และประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์ภาณยักษ์ มหาสมัย และธัมมจักรฯ โดยคณะสงฆ์ จ.ปัตตานี (สายพิธีหลวงพ่อทวด) โดยมีรายนามพระเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสกมากมายดังนี้
    ๑. พระเทพญาณโมลี (หลวงพ่อผัน) วัดทรายขาว จ.สงขลา ประธานจุดเทียนชัย ๒. พระครูพิสิฐธรรมคุณ (หลวงพ่อเอียด) วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง ประธานดับเทียนชัย
    ๓. พระครูสิทธิการโสภณ (หลวงพ่อผ่อง) วัดแจ้ง จ.พัทลุง
    ๔. พระครูวิจิตรธรรมวิภัช (หลวงพ่อช่วง) วัดจินตาวาส จ.พัทลุง
    ๕. พระครูอดุลสุตการ (หลวงพ่อมหาจรูญ) วัดเขาเมืองเก่า จ.พัทลุง
    ๖. พระครูปุณณธรรมคุณ (อาจารย์สุกานต์) วัดท่าช้าง จ.สงขลา
    ๗. พระครูประภัสร์ธรรมโสภณ (หลวงพ่อดำ) วัดโคกพิกุล จ.ตรัง
    ๘. พระครูโอภาสธรรมวิมล (หลวงพ่อนวน) วัดแจ้ง จ.ตรัง
    ๙. พระครูปลัดชัยยะโอภาโส (อาจารย์แดง) วัดไร่ จ.ปัตตานี
    ๑๐. พระอาจารย์ฐสิษฐ์ สุทธิญาโณ (หลวงพี่ติว) วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง
    ๑๑. พ่อท่านผอม ถาวโร วัดไทรขาม จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๒. พระครูภาวนารัตนวิสิฐ (หลวงพ่อหม่ำ) วัดนพรัตนาราม จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๓. พระอาจารย์จารึก จาริโก (อาจารย์หรั่ง) สำนักปฏิบัติธรรมบ้านห้วยแตง จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๔. พระครูโกศลเวทย์ (อาจารย์หม้อ) วัดแหลม จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๕. พระอาจารย์ชัย วัดบางไทร จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๖. พระครูวิศาลธรรมจารี (อาจารย์โรจน์) วัดเบิก จ.นครศรีธรรมราช
    ๑๗. พระอาจารย์ยุทธนา ธัมมวโร (อาจารย์ตือ) วัดปัจจันทาราม จ.สมุทรสาคร
    ๑๘. พระครูปลัดมานิต สุทธิญาโน (อาจารย์โรจน์) วัดเงินบางพรหม กทม.
    -พระมหานาคสวดคาถามังคลาภิเษก พระวรากรณ์ และคณะวัดไทรใต้ จ.นครสวรรค์
    -อาจารย์เล็ก ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช บัณฑิตเจ้าพิธี
    -อาจารย์จวบ ประจวบ คงเหลือ นั่งบัณฑิตสวดนพเคราะห์
    -คุณตาสวัส คุณตาทัด(บุตรชายคนหัวปี อายุ๙๑ ปี ของ อ.เที่ยง เมืองอินทร์)
    -คุณตาสังข์ ผู้จำเริญรัตนมาลาคาถา และพุทธคุณ ๑๐๘
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2024
  20. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,910
    ค่าพลัง:
    +5,730
    32 จองครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...