มาเกิดเพราะจิตเดิมแท้ยังมีอวิชชา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 9 พฤษภาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    ถ้าว่ากันตามกรรม ดูคนดีเบตกันเรื่องธรรม อานิสงค์ดีกว่า ดูเรื่องโลกๆดีเบตเรื่องวัคซีน อนุโลมตามได้เลยว่าเข้าไปหาสมณะหรือพราห์มแล้วถามอะไรคือกุศล หรือ อกุศล การดีเบตเข้าข่ายเหมือนกัน
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    โอ้โห หล่อเลย วันนี้ กลายเป็น 14อีกครั้ง
     
  3. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    มันยากจริงๆนั่นแหละลุง แม้ว่าถกกันแล้ว ก็ยังไม่สรุป เว้นเสียว่า...ซึ่งมันก็แล้วแต่ เพราะมันมีทั้งแบบพอใจในคำตอบและไม่พอใจในคำตอบ ทีนี้ก็เลยมีการลาก...มา ปัญหาจึงอยู่ที่ จะถามอย่างไรและจะตอบอย่างไร เพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการมากที่สุดมากกว่า
     
  4. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    แก้จิกไปละ จิตซึมทือบือ55
     
  5. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    แล้วถ้าคิดในแง่ได้ประโยชน์กับเสียประโยชน์ละ เขาจะได้หรือเสียอย่างไร หรือมันยังพอเป็นอุปนิสัยปัจจัยได้บ้าง หรือต้องแก้ไขทั้งหมดใหม่
     
  6. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    พี่เก่ง เอาแนวไหนละ

    แนวถกธรรม ประโยชน์มันก็มีอยู่ ตามกาล
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ธรรมแท้คำตอบมันประนีประนอมไม่ได้
    มันจึงเถียงกันเละ จนต้องมีคนมา
    คอยเปิดเพลงกล่อมโลกฮับ55
     
  8. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    หมายถึงพระสูตรนี้ เกสปุตตสูตร
    ๖๖. สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท
    พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จถึงนิคมของพวกกาลามะชื่อว่า เกสปุตตะ
    พวกชนกาลามโคตร ชาวเกสปุตตนิคมได้สดับข่าวมาว่า พระสมณโคดมศากยบุตร
    ทรงผนวชจากศากยสกุลแล้ว เสด็จมาถึงเกสปุตตนิคมโดยลำดับ ก็กิตติศัพท์อัน
    งามของพระสมณโคดมพระองค์นั้นแล ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ
    พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ... ทรงเบิกบานแล้ว ทรงจำแนกธรรม
    พระองค์ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วย
    พระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์
    เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม พระองค์ทรงแสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะใน
    ท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อม
    ทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลายเห็นปาน-
    *นั้น ย่อมเป็นความดีแล ครั้งนั้น ชนกาลามโคตร ชาวเกสปุตตนิคมได้เข้าไป
    เฝ้าพระผู้มีพระภาคจนถึงที่ประทับ บางพวกถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง
    ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการ
    ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประนมมือ
    ไปทางพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประกาศชื่อและ
    โคตรแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกนั่งเฉยๆ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
    เมื่อต่างก็นั่งลงเรียบร้อยแล้ว จึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า มีสมณ
    พราหมณ์พวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคม สมณพราหมณ์พวกนั้น พูดประกาศ
    แต่เฉพาะวาทะของตัวเท่านั้น ส่วนวาทะของผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น
    พูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า มีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคม
    ถึงพราหมณ์พวกนั้น ก็พูดประกาศแต่เฉพาะวาทะของตนเท่านั้น ส่วนวาทะของ
    ผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า พวก
    ข้าพระองค์ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในสมณพราหมณ์เหล่านั้นอยู่ทีเดียวว่า ท่าน
    สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกร
    กาลามชนทั้งหลาย ก็ควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลงสงสัย และท่าน
    ทั้งหลายเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะที่ควรแล้ว มาเถิดท่านทั้งหลาย
    ท่านทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำ
    สืบๆ กันมา อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้ อย่าได้ยึดถือโดยอ้าง
    ตำรา อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน อย่าได้ยึดถือโดย
    ความตรึกตามอาการ อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าได้
    ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้
    เป็นครูของเรา เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล
    ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว
    เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรม
    เหล่านั้นเสีย ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ความโลภ เมื่อเกิดขึ้นในภายในบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสิ่งไม่เป็น
    ประโยชน์ พวกชนกาลามโคตรต่างกราบทูลว่า เพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์
    พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็บุคคลผู้โลภ ถูกความโลภครอบงำ มีจิต
    อันความโลภกลุ้มรุมนี้ ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้ ลักทรัพย์ก็ได้ คบชู้ก็ได้ พูดเท็จก็ได้
    สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน บุคคลผู้โลภ ย่อม
    ชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ความโกรธเมื่อเกิดขึ้น
    ในภายในบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสิ่งไม่ใช่ประโยชน์ ฯ
    กา. เพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็บุคคลผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำ มีจิต
    อันความโกรธกลุ้มรุมนี้ ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้ ลักทรัพย์ก็ได้ คบชู้ก็ได้ พูดเท็จก็ได้
    สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน บุคคลผู้โกรธย่อม
    ชักชวนผู้อื่น เพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ความหลง เมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสิ่ง
    ไม่เป็นประโยชน์ ฯ
    กา. เพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย บุคคลผู้หลง ถูกความหลงครอบงำ มีจิต
    อันความหลงกลุ้มรุมนี้ ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้ ลักทรัพย์ก็ได้ คบชู้ก็ได้ พูดเท็จก็ได้
    สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน บุคคลผู้หลง ย่อม
    ชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ธรรมเหล่านี้เป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ฯ
    กา. เป็นอกุศล พระเจ้าข้า ฯ
    พ. มีโทษหรือไม่มีโทษ ฯ
    กา. มีโทษ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ท่านผู้รู้ติเตียนหรือท่านผู้รู้สรรเสริญ ฯ
    กา. ท่านผู้รู้ติเตียน พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์
    เพื่อทุกข์หรือหาไม่ ในข้อนี้ท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไร ฯ
    กา. ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อ
    ทุกข์ ในข้อนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความเห็นเช่นนี้ ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย เราได้กล่าวคำใดไว้ว่า ดูกรกาลามชน
    ทั้งหลาย มาเถอะท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้
    ฟังมา ... อย่าได้ยึดถือโดยนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้
    ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้ติเตียน
    ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์
    เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย เพราะอาศัยคำที่เราได้กล่าวไว้แล้ว
    นั้น เราจึงได้กล่าวไว้ดังนี้ ดูกรกาลามชนทั้งหลาย มาเถอะท่านทั้งหลาย ท่าน
    ทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา ... อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือ
    ว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่า
    นี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้
    ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อสุข เมื่อนั้น ท่าน
    ทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะ
    สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ความไม่โลภเมื่อเกิดขึ้นในภายในบุรุษ ย่อมเกิดเพื่อ
    ประโยชน์หรือเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ฯ
    กา. เพื่อประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ไม่โลภ ไม่ถูกความโลภครอบงำ
    มีจิตไม่ถูกความโลภกลุ้มรุมนี้ ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ
    สิ่งใดย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข สิ้นกาลนาน บุคคลผู้ไม่
    โลภ ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ความไม่โกรธ เมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อ
    สิ่งไม่เป็นประโยชน์ ฯ
    กา. เพื่อประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย บุคคลผู้ไม่โกรธ ไม่ถูกความโกรธครอบงำ
    มีจิตไม่ถูกความโกรธกลุ้มรุมนี้ ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ
    สิ่งใดเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข สิ้นกาลนาน บุคคลผู้ไม่โกรธ
    ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ความไม่หลง เมื่อเกิดขึ้นในภายในของบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อ
    สิ่งไม่เป็นประโยชน์ ฯ
    กา. เพื่อประโยชน์ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ไม่หลง ไม่ถูกความหลงครอบงำ
    มีจิตไม่ถูกความหลงกลุ้มรุมนี้ ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ
    สิ่งใดย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข สิ้นกาลนาน บุคคลผู้ไม่
    หลง ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น ฯ
    กา. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
    ธรรมเหล่านี้เป็นกุศลหรือเป็นอกุศล ฯ
    กา. เป็นกุศล พระเจ้าข้า ฯ
    พ. มีโทษหรือไม่มีโทษ ฯ
    กา. ไม่มีโทษ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ท่านผู้รู้ติเตียนหรือท่านผู้รู้สรรเสริญ ฯ
    กา. ท่านผู้รู้สรรเสริญ พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
    ความสุขหรือหาไม่ ในข้อนี้ ท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไร ฯ
    กา. ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
    ความสุข ในข้อนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความเห็นเช่นนี้ ฯ
    ดูกรกาลามชนทั้งหลาย เราได้กล่าวคำใดไว้ว่า ดูกรกาลามชนทั้งหลาย
    มาเถอะท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา อย่าได้
    ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินว่าอย่างนี้ อย่าได้ยึดถือ
    โดยอ้างตำรา อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน อย่าได้ยึดถือโดย
    ตรึกตามอาการ อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตน อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่า
    ผู้พูดสมควรเชื่อได้ อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
    เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรม
    เหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้
    บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้นท่าน
    ทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่ เพราะอาศัยคำที่เราได้กล่าวไว้แล้วนั้น เรา
    จึงได้กล่าวไว้ดังนี้ ดูกรกาลามชนทั้งหลาย อริยสาวกนั้น ปราศจากความ
    โลภ ปราศจากความพยาบาท ไม่หลงแล้วอย่างนี้ มีสัมปชัญญะ มีสติ
    มั่นคง มีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ๓
    ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอด
    โลก ทั่วสัตว์ทุกข์เหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยใจอันประกอบด้วยเมตตาอัน
    ไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน
    อยู่ มีใจประกอบด้วยกรุณา ... มีใจประกอบด้วยมุทิตา ... มีใจประกอบด้วย
    อุเบกขาแผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่ ๒ ทิศที่ ๓ ทิศที่ ๔ ก็เหมือนกัน
    ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั่วสัตว์ทุกเหล่า
    ในที่ทุกสถาน ด้วยใจอันประกอบด้วยอุเบกขาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่
    หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่ ดูกรกาลามชนทั้งหลาย
    อริยสาวกนั้นมีจิตไม่มีเวรอย่างนี้ มีจิตไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่
    เศร้าหมองอย่างนี้มีจิตผ่องแผ้วอย่างนี้ ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการใน
    ปัจจุบันว่าก็ถ้าปรโลกมีจริง ผลวิบากของกรรมทำดีทำชั่วมีจริง เหตุนี้เป็นเครื่อง
    ให้เราเมื่อแตกกายตายไป จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดังนี้ ความอุ่นใจ
    ข้อที่ ๑ นี้ พระอริยสาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าปรโลกไม่มี ผลวิบากของกรรมทำดี
    ทำชั่วไม่มี เราไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์เป็นสุข บริหารตนอยู่
    ในปัจจุบันนี้ ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๒ นี้ พระอริยสาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าเมื่อ
    บุคคลทำอยู่ ชื่อว่าทำบาป เราไม่ได้คิดความชั่วให้แก่ใครๆ ไหนเลยทุกข์
    จักมาถูกต้องเราผู้ไม่ได้ทำบาปกรรมเล่า ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๓ นี้ พระอริย
    สาวกนั้นได้แล้ว ก็ถ้าเมื่อบุคคลทำอยู่ ไม่ชื่อว่าทำบาป เราก็ได้พิจารณาเห็น
    ตนว่าเป็นคนบริสุทธิ์แล้วทั้งสองส่วน ดังนี้ ความอุ่นใจข้อที่ ๔ นี้ พระอริย
    สาวกนั้นได้แล้ว ดูกรกาลามชนทั้งหลาย อริยสาวกนั้นมีจิตไม่มีเวรอย่างนี้
    มีจิตไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่มีเศร้าหมองอย่างนี้ มีจิตผ่องแผ้ว
    อย่างนี้ ย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการนี้แลในปัจจุบัน ฯ
    กา. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้าแต่พระสุคต ข้อนี้เป็น
    อย่างนั้น ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พระอริยสาวกนั้น มีจิตไม่มีเวรอย่างนี้ มีจิต
    ไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้ มีจิตไม่เศร้าหมองอย่างนี้ มีจิตผ่องแผ้วอย่างนี้
    ท่านย่อมได้ความอุ่นใจ ๔ ประการในปัจจุบัน ... ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของ
    พระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ขอพระองค์โปรดทรงจำพวกข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสก
    ผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
     
  9. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    ก็แนวถกธรรมนั่นแหละ แต่บ่อยครั้งก็เห็นมีการเสียกำลังใจ หรือ ทำไมละ ก็จะทำใครจะว่าก็ไม่สน เลยอยากถามว่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ หรือพอสร้างเหตุเป็นอุปนิสัยปัจจัยต่อได้ หรือ ไม่ได้เลย หรือใช้คำหนักเลยว่า เป็นการปิดมรรคผลนิพพาน หรือขึ้นอยู่กับเรื่องที่ถกกัน อธิบายพอเป็นประโยชน์กับคนอื่นและพี่ด้วย
     
  10. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถ้า กล่าวว่าตัวเองเป็นนักภาวนา เป็นนักปฏิบัติ
    ก็ต้อง วางตัวหนังสือลงได้ เรื่องนี้เป็นเรื่อง เบสิก สำหรับนักภาวนา

    หากวางตัวหนังสือไม่ได้ ก็อย่าไปถกกะเขา

    เพราะการถาม การถก
    มันจะถามไปถามมา
    ต้องยันออกจากการปฏิบัติ หรือ เบสิกจะหาตำรามาอ้างอิง

    ก้เป้นไปด้วยการหาความรู้
    การถามไปถามมา ก้เป้นไป

    ถามเพราะไม่รู้
    ถามเพื่อเทียบเคียง
    ถามเพื่อจะแก้
    ถามเพื่อจะตอบ
    ถามเพื่อจะอธิบาย
     
  11. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    นั่นนะสิ ทำไม มันไม่พอดี ช่างเถอะลุงแมว ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่นึกถึงถ้าเราเพิ่งเริ่มปฏิบัติ อันที่จริง ทุกๆวินาทีก็เหมือนเพิ่งเริ่ม คิดไปเองทั้งเพ เลยนึกตั้งคำถามขึ้นมา เรื่อง รูป นาม ตรรกะผมบอกว่า เรากำลังตีความเรื่องรูปกับนาม ไม่ว่า มันจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ บ้างว่า ทราบแล้วซึ้งถึงขั้นอยากลาโลก บ้างก็ว่า นี่คือสุขสุดยอด บ้างก็ว่า นี่คือ นิพพาน ซึ่งอันหลังผมไม่รู้หรอก อันที่สองก็ว่ายากที่จะรู้แล้ว อันแรกหลายคน หรือคนส่วนใหญ่น่าจะพอรู้
     
  12. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    พิจารณาให้เข้าสัมมาทิฐิอะ หรือแก้ความเห็นผิด เช่นเรื่องคว่ำพระไตรไปเลยชาวบ้านอย่าไปแตะเป็นต้น แต่โดยส่วนตัวก็แนะว่าก็ต้องมีสติระลึกอยู่เสมอนะ ว่าการถกแบบตรรกะเป็นแค่ส่วนตบแต่งขัน กะมัง เป็นเหตุแห่งฟุ้งซ่านได้เรื่อยๆ ก็ต้องมีความพอดี บาลานซ์เรื่องภาวนากับรับฟังธรรม(สุตตะ)ให้พอเหมาะ ตามความสะดวก
     
  13. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    อย่างไรคือสัมมาทิฐิคับลุงโจ และถ้าเราทราบว่าสิ่งนี้คือสัมมาทิฐิ สิ่งตรงข้ามย่อมคือ มิจฉาทิฐิ คิดแบบนี้พออนุโลมได้ไหม อันนี้กรณีที่รู้ว่า สัมมาทิฐิเป็นแบบไหนอย่างไร เช่นเดียวกัน ถ้าตั้งสติพิจารณาระลึกรู้เราจะรู้ใช่ไหมว่า ตอนนี้เราอยู่ฝั่งไหน อันนี้พอมีวิธีไหมคับ ที่จะทราบว่าเราอยู่ฝั่งไหน ด้วยการพิจารณาตนลงปัจจุบันเป็น สติพื้นๆ มันจะทำให้เรารู้ไหมคับว่า ตอนนี้เราอยู่ฝั่งไหน
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ลุงแมวเข้าใจว่า
    เพราะความพร้อมของ
    เหตุปัจจัยในแต่ละคนที่มี
    ภูมิจิตเดิมมีมาไม่เท่ากัน
    จิตเคยสัมผัสพระธรรมมาไม่เท่ากันทั้งอดีต
    และชาติปัจจุบัน
    ปัญญาในการเข้าใจธรรมะจึงต่างกัน
    มากบ้างน้อยบ้าง
    ทีนี้จะมีการไปเร่วไปเร้าได้มั้ย เพื่อให้พ้นทุกข์ไปด้วยกัน
    คำตอบแบบลุงแมวคือ มันต้องรอเหตุ
    ปัจจัยถึงพร้อมการเร่งการเร้ามันถึงจะ
    มีผลขึ้นมา
    ตามธรรมชาติถึงแม้ไม่ได้คาดหวัง ให้ใครได้ใครเป็นคับ
     
  15. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    ที่ผมพูดเพราะอยากให้เห็นใจกันเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไร ผมคิดว่า แม้ว่าเขาจะไม่รู้แต่ไม่ได้หมายความว่า วันหน้าเขาจะไม่รู้ ส่วนความอยากที่จะพาด้วยกันมันเป็นเรื่องเหตุปัจจัยตามที่ลุงว่าผมก็ชอบฟังชอบอ่านนั่นแหละนะที่เขาถกกัน แต่ผมตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเรารักษาจิตได้ จิตจะไม่กระเพื่อมไปตามแรงภายนอก ส่วนใหญ่กลิ้งจริงๆ เป็นน้ำบนใบบอน หรือใบบัว แต่นั่นแหละ ผมมองการเคลื่อนไป หลายคนอาจมองการแยก ผมเลยใช้ตรรกะว่า จิตใดไม่เคลื่อน จิตนั้นจึงไม่มีเหตุ อันนี้ตรรกะคับ ผมไม่รู้
     
  16. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    มันก็จริงนะ ธรรมแท้คำตอบมันประนีประนอมกันไม่ได้

    กิเลสกะธรรม

    กิเลสเจอ ธรรม สะดุ้งเฮือก อั๊กๆ กระอักเลือด

    เหมือน เล่าปัง ด่าอองลอง ตกม้า กระอักเลือดตาย

    เหมือนหลวงปู่ดุลย์ บอก คนนึงไป " อีตอแหล"

    ถ้ามัวแต่ โอ๋รัก โอ๋รัก ก็ จะได้ แว๊ แว๊
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2021
  17. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    ตัดท่อนนี้ดีกว่า
    ก็ไม่ได้เป็นคนอธิบายอะไรเก่งเหมือนมืออาชีพหลายคนในบอร์ดนี้นะ ถ้าถามว่ารู้ไหมอยู่ฝั่งไหน คือภาวนาออกในเชิงไหนอะ ถ้าไปอีกห้องก็อาจจะภาวนาออกไปอีกแนว ถามนิมิตรรายวันแบบนี้ใครก็เดาออกว่าอยู่ฝั่งไหน ใครเพลินแบบนั้นก็คุยกันสนุกหน่อย
    แต่ถ้าเน้นฝั่งหลุดพ้น เรื่องพลิกไม่พลิกประเด็นรองอะ แต่ก็มาแนวสัมมาละ เห็นภัยในปรโลก อันนี้ศาสดายกย่อง
     
  18. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นองค์ศาสดา
    ของพุทธะและทรง
    เผยแผ่พระธรรมที่ทรงค้นพบนะคับ
    อย่าว่าแต่นั่งคิดนึกไปเองถึงรูป นามเลยคับ
    ใจเราก็มืดบอดไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
    ตัวเราจะมีอัตภาพเป็นสัตว์อะไร
    แต่สัตว์อย่างเราเคยสัมผัสพระธรรม
    มาแล้วหลายกัปป์
    จึงมีภูมิจิตได้ขนาดนี้สำหรับ
    ทำให้เจริญต่อไปคับ
     
  19. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ตั้งชื่อกระทู้ได้ดี
     
  20. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...