ร่วมทำบุญบูชา มงคลแกะสลักสะกดกินโลกาวุฒิ(มหาสุขวิบากเติมเต็ม) พ่ออาจารย์พล

อยากฟังประสบการณ์ตะกรุดท้าวก่ำกาดำมั่ง ใครได้ไปแล้วแชร์ด้วย

 

ขออนุญาตครับคุณกร...

พี่ท่านนี้น่าจะหมายถึงว่า อยากทราบพุทธคุณของพระเครื่องว่าเด่นด้านใด ต้องภาวนาหรือสวดมนต์บทใดครับ (ไม่ทราบเข้าใจถูกหรือเปล่านะครับ)

 

รับมาแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย 555
อีกอย่างตั้งใจว่าจะนำไปใส่หลอดพลาสติกก่อนครับถึงจะห้อย
ถ้ามีประสบการณ์เช่นไรจะนำมาแบ่งปันครับ

 

แจ้งโอนเงินจำนวน 2,000 บาทเพื่อชำระค่าตะกรุดบรมอินทรา และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อเวลา 14.07 น. เรียบร้อยแล้ว ที่อยู่แจ้งทาง PM ขอบคุณครับ

 

น่าจะประมาณนั้น แต่จะถูกต้องหรือไม่น่าจะรอเจ้าตัวมาคอนเฟิร์มครับ

 

พระสุนทรีวาณี

ก็มีคนมาฝากถามเรื่องพระสุนทรีวาณีกับพ่ออาจารย์มาหลายวันเเล้ว วันนี้ก็จะลงให้

สำหรับประวัติของท่านก็มีเเพร่หลายกันทั่วไปหาอ่านได้ไม่ยาก เเต่จะกล่าวพอสังเขปก่อน

พระสุนทรีวาณีนี้ ต้นกำเนิดก็มีมาเเต่สมเด็จพระวันรัต(แดง) ทรงถอดพระคาถาที่เป็นนามธรรมมาเป็นรูปทางกายภาพ โดยอาศัยความเชื่อของหลักมหายาน เเม้เเต่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง(ร.5)หรือคนทั้งหลายก็ยอมรับนับถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์

ซึ่งก็มีความหมายในตัวของรูปเคารพนางฟ้าพระองค์นี้เองว่า เป็นพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า หมายถึงหลักธรรมคำสอนหรือพระไตรปิฏก

พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า ตามหลักเทววิทยานั้น เทพเจ้าอาจจะมาเเต่การกำเนิดจากดวงจิตอุบัติขึ้นมา แต่ก็มีอีกกรณีหนึ่งเกิดจาก ความเชื่อเเละพลังศรัทธาของสิ่งมีชีวิต เมื่อสะสมรวมกันนานเข้ามากเข้าก็ก่อให้เกิดเทพเจ้าทั้งหลายได้เช่นกัน

ซึ่งเทพเจ้าประเภทหลังนี้จะมีอยู่ได้ก็ต่อเมื่อมีคนเชื่อเเละศรัทธา ตราบใดที่ยังมีความเชื่อความศรัทธาอยู่เทพเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ คติพระสุนทรีวาณีก็เช่นกัน เหมือนเป็นรูปธรรมทางกายภาพของพระโอษฐ์พระพุทธเจ้าที่ประทานพระสัทธรรมสั่งสอนหมู่สัตว์ หรือเจ้าแม่กวนอิมที่เรารูู้จักว่าเป็นพระโพธิสัตว์อวโกิเตศวรนี่ก็เหมือนกัน เป็นภาคส่วนแห่งมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า หากเเต่ต่างกันตรงที่พระอวโลกิเตศวรนั้นเป็นรากฐานความเชื่อที่มีชนนับถือเนิ่นนาน เเต่พระสุนทรีวาณีนั้นเกิดจากสมเด็จพระวันรัตท่านประดิษฐ์รูปขึ้นมาตามความหมายเเละนัยน์แห่งพระคาถาที่ท่านนิยมท่องเเละเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระสูตรของมหายาน

ความเชื่อหลักเทววิทยาเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิด เป็นพื้นฐานที่มีอยู่ในสังคมทั่วไป เช่นพระสยามเทวาธิราชนี้ก็ไม่ได้มีมาเเต่เดิมหากเเต่มนุษย์สมมติรูปท่านให้มีถึงมี รูปเทพเจ้าทั้งหลายที่สร้างตามคติและเเปลตามพระสูตรอย๋างพระสุนทรีวาณีก็เช่นกัน เมื่อบังเกิดรูปขึ้นเเล้ว มีการไหว้บนบานศาลกล่าว เป็นที่ศรัทธาพึงเนื้อพึงใจว่าเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แก่ชนหมู่มาก เนื่องจากว่าได้บริกรรมพระคาถาประกอบกับพิจารณาพระรูปที่เเฝงความหมายโดยนัยน์ทำให้เกิดศรัทธาเกิดสมาธิเกิดฌานของผู้ภาวนาขึ้นตามลำดับ รุปนั้นจึงศักดิ์สิทธิ์ ด้วยระบบเทวโลกจะเลือกเทพยดาให้มาดูเเลรักษาพระรูปเหล่านั้น ตรงจุดนี้ก็จะมีดวงจิตมาประจำสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ถ้ายังมีคนนับถืออยู่จิตนั้นก็จะถือครองอยู่ตามหน้าที่ ซึ่งรูปนี้ยิ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือเป็นรูปเปรียบ หมายถึงตัวเเทนพระโอษฐ์ที่ใช้ประกาศหลักธรรมคำสั่งสอน เช่นนี้ย่อมมีเทพยดาที่รับหน้าดูแลพระรุปนี้อย่างเเน่นอน

ซึ่งส่วนมากแล้วผู้ที่ได้รับมอบหมายในส่วนที่ดูแลคอยรับการอธิษฐานการบวงสรวงต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ กับพระรูปของสิ่งต่างๆอันถูกสร้างขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์หรือตัวเเทนของพระพุทธเจ้า จะถูกคัดเลือกมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต ในกลุ่มพระโพธิสัตว์อันเนื่องด้วยพุทธวงศ์ทั้งสิ้น

อันนี้ก็ตอบตามท่านอธิบายเเบบลงลึกให้ เเต่ขอไม่ลึกมากกว่านี้ เเค่รู้คร่าวๆพอ เพราะมันเกี่ยวกับความเชื่อของหลายๆคน เเละไม่อยากไปขัดช่องทางทำมาหากินอะไรของหลายๆที่ ก็ถือว่าเข้าใจตรงกันนะครับ

 

มีคนได้ตะกรุดท้าวก่ำกาดำเเล้ว เเจ้งผมมาว่าน้ำมันหอมมากกกกกกกกกกกกกก

ต้องบอกว่าไม่ใช่น้ำมันที่หอมเพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่นิยมเทหัวน้ำหอมกลิ่นต่างๆผสมลงในน้ำมันที่ท่านหุงเวลาหุงให้มันหอม เเต่ที่หอมเพราะตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านนำมาเจิมน้ำปรุงประพรมน้ำปรุงเบิกเนตรให้ทีละดอกอีกที เลยหอมชื่นจายย

 

เกล็ดความรู้ (กระต่ายในดวงจันทร์)

วันนี้ก็จะพูดถึงเรื่อง สิ่งที่เราทุกคนเคยเห็นและอาจนึกแปลกใจ ตั้งเเต่เล็กเชื่อว่าหลายๆท่านคงได้มองดูดวงจันทร์เเละผู้ใหญ่ก็สอนก็บอกให้มองหากระต่ายซึ่งอยู่ในดวงจันทร์

จ้องดีๆหรืออาจเพราะจินตนาการของเราก็เป็นได้ เออ มันเห็นเป็นรูปเป็นร่างกระต่ายจริงๆ ใครเคยเห็นบ้าง

แต่ก่อนที่จะไปคุยเรื่องกระต่ายน้อย ก็อดกล่าวถึงองค์เทพที่เราเรียกขานกันว่าจันทร์เทพบุตรไม่ได้

ความเชื่อเกี่ยวกับพระจันทร์นั้นมี 2 นัยยะ ประกอบด้วย
- พระจันทร์นั้นเป็นเทพบุตรที่มีตำแหน่งสำคัญในจาตุมหาราชิกาเเละดาวดึงส์
- พระจันทร์นั้นเป็นองค์วัตถุทางกายภาพที่สองแสงสว่างในตนเอง

เเต่โบราณนั้นกล่าวกันมาว่าพระจันทร์นั้นจะโคจรไปต่ำกว่าพระอาทิตย์ได้ 8,000 วา ซึ่งมีความกว่างได้ 392,000 วา อันนี้พูดถึงในมุมมองของเเง่วัตถุที่ให้ปรากฏการณ์ทางเเสงสว่าง

แต่อีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีทิพย์ภาวะรุ่งเรืองก็เชื่อถือกันว่า พระจันทร์เทพนั้นทรงอาศัยอยู่ในปราสาท อันเทียมด้วยเกวียนแก้วมณีรัตนะ มีพญาสินธพอัศดร 500 เข็นไปกลางอากาศต่ำกว่าพระอาทิตย์ โคจรอยู่ในเส้นทางรอบเขาพระสุเมรุ พร้อมทั้งเหล่าดวงดาราบริวารทั้งหลาย คอยควบคุมวงโคจรของดวงดาวต่างๆ

ต้องกล่าวว่าเป็นความเชื่อ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราเองมองดวงจันทร์ด้วยความเชื่อแบบใด

แต่ชาวพุทธเราเชื่อแน่อยู่เเล้วถึงความเป็นทิพยภาวะเเละความเป็นเทพของพระจันทร์ที่เป็นมากกว่าองค์วัตถุที่ให้เเสงสว่าง

ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะพระจันทร์นั้น ได้เคยปรากฏพระองค์ เข้าไปเผ้าพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อทูลถามปัญหาธรรมกับพระพุทธองค์มาเเล้ว

เเละที่สำคัญ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าชาวพุทธทั้งหลายสมควรจะรู้ไว้ ทั้งพระมหาโมคคัลลานะ เเละพระสารีบุตร เอกสงฆ์ผู้เป็นอัครสาวกฝ่ายซ้ายเเละฝ่ายขวาของพระผู้มีพระภาค ล้วนเคยถือเอากำเนิดเกิดเป็นจันทรเทพ ขึ้นไปขับเคลื่อนมหาราชรถประจำตำเเหน่งมาเเล้วด้วยกันทั้งคู่ ในต่างโอกาส ต่างชาติ ต่างกรรม ต่างวาระนั่นเอง

ทั้งนี้จากพุทธประสบการณ์ของพระพุทธเจ้ารวมถึง การหยั่งรู้อดีตชาติของพระมหาโมคคัลลานะเเละพระสารีบุตร จึงยิ่งตอกย้ำความเชื่อเข้าไปอีกว่าพระจันทร์นั้นไม่ใช่เพียงวัตถุทางกายภาพอย่างเเน่นอน

ยังจำได้มั๊ยว่าพ่ออาจารย์ท่านเคยให้คาถาเชิญพระจันทร์เข้าตัวเป็นวิทยาทานไป วิชานี้ก็เช่นกันจริงๆเเล้วต้องใช้คำว่าโคตรดีเลย ดีเเละดีเสียยิ่งกว่าพระลักษณ์หน้าทองหรืออะไรนับ10นับ100เท่า ก็กลับไปค้นๆหาดูกันเอาเอง ให้ไปเเล้วนำไปใช้กันด้วยก็ดี

ก็มาเข้าเรื่องกัน ถึงเจ้ากระต่ายน้อยที่อยู่บนดวงจันทร์ว่าคืออะไร เอ้ะเเล้วทำไมใครมันมาคิดคำว่ากระต่ายหมายจันทร์ ก็ในเมื่อมีกระต่ายอยู่เเล้วในดวงจันทร์555+

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าที่เรามองเห็นกระต่ายในพระจันทร์นั้น ด้วยอานุภาพเเห่งองค์อินทร์จอมเทพเเห่งดาวดึงส์นั่นเอง

มีพระชาติหนึ่งของพระมหาโพธิสัตว์อันได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระองค์ทรงได้เกิดเป็นกระต่าย เเละได้สละเนื้อเเละชีวิตของพระองค์เป็นทาน

กระต่ายตัวน้อยๆได้ทำสิ่งที่อินทร์เทพทรงตื้นตันพระทัยนัก ถึงกับทรงมีพระดำริเเละมีความปรารถนาที่จะปรากาศคุณงามความดีของพระมหาโพธิสัตว์ตอนที่ยังเป็นกระต่ายน้อยๆให้ปรากฏ ให้โลกรับรู้ ให้มนุษย์ได้เห็นสืบไป

ทั้งนี้เพื่อระลึกถึงคุณของการทำทานด้วยชีวิต ซึ่งเป็นมหาทานอันยิ่งใหญ่เเละได้ชื่อว่าเสียสละได้ยากของเจ้ากระต่ายนั่นเอง พระอินทร์จอมเทพจึงใช้เทวานุภาพของพระองค์กระทำการบีบเอาภูเขาบนดวงจันทร์ขึ้นมากลุ่มหนึ่งเป็นรูปกระต่ายน้อยนั้น เปรียบดั่งอนุสาวรีย์เวลาที่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตนั้นมองพระจันทร์ก็จะเห็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกระต่ายน้อยสืบไป

 

บูชาสมิงพระกาฬ 1 องค์

 

คิดเล่นๆนะตามที่บูรพาจารย์ท่านชอบเล่าว่าเสือนั้นมีมนต์สะกด สะกดสายตาให้มองไปที่ตัวมันได้ อารมณ์จะแบบถึงจะกลัวแต่ก็อยากจะมอง กลัวเเค่ไหนเเต่ก็สนใจมองไปอยู่ดี มาดูตาเจ้าตุ๊กแกนี่ก็เหมือนกัน แม้จะช้อคตายเเต่ตาก็ยังคงมองไม่กะพริบเลยทีเดียว ท่านว่าเป็นธรรมชาติของยอดพยัฆ์เจ้าป่า ราชาเเห่งป่า เมื่อปรากฏตัวขึ้นที่ไหนสรรพสัตว์อื่นๆย่อมหวาดกลัวเเละสำหรับเสือสมิงที่มีตบะสูงส่งนั้นเเม้เเต่บรรยากาศก็ยังหวาดผวา

 

แจ้งโอนเงิน รายละเอียดตาม PM ครับ

 

โอนพระขุนแผนฯย่านาค และ สมิงพระกาฬฯ แล้วครับ

 

สมิงพระกาฬ

ก็จะเล่าให้ฟังเเต่ตกไป

ตอนถามท่านถึงเรื่องสมิงพระกาฬ ว่าจิตของสมิงที่พ่ออาจารย์ผูกขึ้นด้วยเวทย์อาถรรพ์อยู่ในเครื่องมงคลนั้นเค้าเป็นอย่างไร

ท่านบอกว่าลงไว้หลายตัวหลายดวง ทั้งสายเหนือเเละสายกลางเเต่ตัวหัวหน้าที่มีอำนาจมากที่สุดนั้นที่เราเห็นจะมีรูปกายเเบบคนสูงล่ำผมหยักโศก เราไม่เข้าใจว่าทำไมมีลักษณะเช่นนั้น จึงถามท่าน ท่านบอกว่าเสือสมิงนั้นเค้าจะจำเเลงเป็นคนก็ได้ เป็นชายหรือหญิงหรือสัตว์ป่าหรือเทวดาก็ได้ ขึ้นอยู่กับอำนาจเเละตบะของเค้า เธอไม่ต้องคิดเสมอไปหรอกว่าจะมาเป็นรูปเสือ บางครั้งเค้าก็มาหาเธอในร่างจำเเลงก็ได้

ก็เล่าเผื่อไว้ถ้าใครบูชาไปมีโอกาสฝันเห็นชายสูงล่ำผมหยักโศกก็จะได้เข้าใจ เเต่จากที่ท่านอธิบายว่าสมิงนี้มีมายาเฉพาะตนจะจำเเลงเป็นอะไรก็ได้ ก็คอยดูกันไปว่าใครจะเจอเป็นรูปแบบไหน

 

ฝัน

ตื่นเช้าๆขึ้นมาก็มีเรื่องมาพูดคุยกันสบายๆอีกวันหนึ่ง

ที่จริงกะจะพิมพ์เรื่องนี้แหละ เเต่พอดีมีเรื่องสมิงพระกาฬเข้ามาเลยดองไว้วันนี้แทน

ได้รับสายโทรศัพท์พี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่ขอให้พ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องมงคลพิเศษตามความเชื่อความปรารถนาของเค้าให้ ก็ส่งไป แล้วเราก็ลืมไปเเล้ว

ทีนี้เมื่อวานซืนพี่ท่านนี้ก็ได้โทรกลับมาหาเราเเละคุยกันอีกรอบ ก็เอ๋อกินเหมือนกันในใจนึกใครวะ คือจำไม่ได้ต้องเเนะนำตัวกันใหม่บอกว่าสั่งบูชาอะไรไปถึงนึกขึ้นมาได้

เรามาดูปัญหาของพี่ท่านนี้กันดีกว่า ว่ามีปัญหาอะไร คือเหมือนเค้าจะค่อนข้างมีสัมผัสพิเศษ คือเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นอยู่หลายครั้ง แม้ในกลางคืนก็ฝันเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาหา คอยบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆทั้งที่จะเกิดกับตนเองเเละสังคม

ซึ่งก็ยอมรับว่าฝันของพี่ท่านนี้เเม่นเเละค่อนข้างเห็นจริง แต่ว่ามันมีปัญหาติดอยู่ตรงนี้คือ พี่เขาบอกเราว่า เขาฝันเห็นก็จริง เเต่เขาไม่สามารถพูดจาตอบโต้รึถามอะไรเบื้องบนได้ เขาทำได้เพียงรับรู้เเละรับทราบเรื่องที่เเจ้งลงมาเท่านั้น

เนื่องจากเป็นคนฝักใฝ่ในกรรมฐานก็เลยเรียนปรึกษาพ่ออาจารย์ว่าญานทัศนะของตนนั้นยังไม่เปิดเต็มที่หรืออย่างไร จะทำอย่างไรบูชาอะไรให้เปิด ซึ่งเรื่องก็จบไป ได้ของดีไปบูชาด้วย

การโทรกลับมาครั้งนี้ พี่ท่านเล่าให้เราฟังว่า พี่ตั้งใจบูชาทำตามวิธีการไม่ขาด ตอนนี้พี่ติดต่อ คือสามารถสอบถามเเละพูดคุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เเล้ว คือเห็นผลเริ่มจะบ่อยครั้งขึ้น หลังๆนี้ท่านว่าโต้ตอบสอบถามได้เป็นปกติ จากเดิมที่คอยรับรู้รับฟัง เหมือนโดนปิดปากไม่สามารถถามตอบได้ ให้รู้ให้เห็นอะไรก็รู้เเค่นั้นเเล้วก็จบ

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล หลายคนฟังว่า เห้ย เพี้ยนไปรึเปล่า ก็ต้องบอกว่าสำหรับคนบางคนที่เกิดมาพร้อมสัมผัสพิเศษ มีหน้าที่มีภารกิจพิเศษให้ลงมากระทำ เเละยังเอาดีฝักใฝ่ในพระกรรมฐาน เรื่องเเบบนี้ไม่ถือว่าแปลก เพราะเป็นผลเเห่งทิพยจักขุญาณมันเริ่มเปิด เริ่มมีความกระจ่างชัดขึ้นสืบมาเเต่ผลการเจริญกรรมฐานเเละลิ๊งค์เข้ากับของเก่าๆที่เคยทำมา ถ้าเจอคนประเภทนี้ก็อย่าเพิ่งไปคิดอคติกับเค้า

ที่เรารู้ว่าฝันเค้าเเม่นคือหลายเรื่องที่ได้คุยกัน เออ มันเกิดขึ้นจริงทั้งนั้น แม้เเต่หวยก็ออกตามที่เค้าบอกหลายงวด ด้วยเราเป็นคนไม่ได้เล่นขนาดรอถามคิดจะเล่น พอเล่นที่เคยออกตรงๆกลับเคลื่อนไป1ตำแหน่ง นี่มันเป็นแบบนี้เลยไม่ได้สนใจที่จะเล่นอีก ถามพี่เค้าเค้าก็ว่าเค้าไม่ได้เล่น

ก็มีหลากหลายปัญหาเข้ามาถึงตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องรักๆใคร่ๆอย่างเดียว ตามบุญทำกรรมเเต่งของเเต่ละคนเมื่อเกิดปัญหาก็มาปรึกษา หาทางออกกัน ต่างกันไปคนละเเบบ

สุดท้าย ตรงนี้ก็คิดเเค่ว่าทำอย่างไรเวลาคนเจอปัญหาต่างๆมาจะช่วยให้เค้าสบายใจคลายปมทุกข์ในใจ ก็ช่วยด้วยคำพูดเราส่วนหนึ่งนี่แหละ ให้พอมีกลังใจมีสติบ้างก่อนจะเเนะนำเรื่องอื่นๆ ทำไปทำมาก็เริ่มชอบนะ555+ ก็สนุกดีเพราะได้เจอคนหลายประเภท ได้เรียนรู้ปัญหาชีวิตหลายๆรูปแบบ

ใครมีปัญหาอะไรจะถามจะพูดคุยก็โทรมาหาเราได้ แอบอ่อยเหยื่อทิ้งเบอร์ไว้อีกรอบ0948866245 555+เวลามีเรื่องอะไรเข้ามา มันได้ทั้ง2คนนะ คือเราก็ไม่เหงาดีด้วย

 

จัดไปครับ......

 

การบูชาภควันกฤษณะ มหาเทพ ขั้นแรกต้องทำอย่างไรครับ

 

น่าจะมีในวิธีบูชา เเต่ส่วนมากองค์เทพถ้าเป็นเครื่องมงคลก็ขึ้นคออาราธนาได้เลย ยกเว้นเราจะเอาท่านใส่พานไว้ตั้งบูชาเป็นกิจลักษณะก็อีกย่างนึง จะมีบายศรีถวาย น้ำชา น้ำเปล่าพวกนี้ก็ไม่ควรให้ขาด พวงมาลัยจะเป็นมะลิหรือดาวเรืองก็ได้ เทพทางพราหมณ์นี้ ที่ควรจะมีไหว้ท่านตลอดก็ได้เเก่พวก นม ขนมโมทกะ เนยใส ผลไม้ซัก5-9อย่าง ของเหล่านี้จะถวายในบางวาระบางเวลาที่เราต้องการจะบูชาหรือวันสำคัญทางศาสนาของท่านก็ได้

หรือจะถวายเวลาบนก็ยังได้ พอถวายเสร็จธูปหรือกำยานหมด อย่าเอาไปทิ้งที่ไหน ให้นำมาอธิษฐานจิตขอรับประทานเพื่อเป็นยารักษาโรคเป็นสิริมงคลเเก่ร่างกายเรา เพราะถือกันว่าของเหลือจากเทพเจ้านั้นเป็นสิริมงคลสามารถทานได้ อันนี้ก็กล่าวไว้เเบบรวมๆ

 

ขอบคุณมากครับ แต่องค์ใหญ่มากอาราธนาขึ้นคอไม่ไหว

 

ผลของกรรม

พอดีไปอ่านเจอเห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาลงไว้ให้

คนเราผูกพันธ์กับกรม คือสิ่งที่ตนเองได้กระทำไว้ ชื่อว่ากรรมนั้นๆย่อมส่งผลเเละกำหนดสิ่งต่างๆมากมาย ดังนั้นจึงมาเรียนรู้ไว้ดีกว่าว่าทำไมเกิดมาชาตินี้จึงมีชีวิตความเป็นอยู่เช่นนี้ ชาติก่อนเราไปทำอะไรไว้ จะได้เร่งปรับปรุงตัวทำสิ่งที่ดีกันต่อไป มาดูกฏแห่งกรรมต่างๆกันเลย

- ถ้าชาตินี้เรามีเสื้อผ้าเครื่องประดับสวมใส่ เพียบพร้อมมากมาย เป็นอานิสงค์ของการถวายจีวรแก่พระสงฆ์

- ถ้าชาตินี้เรามีอาหารการกินบริโภคสม่ำเสมอ เป็นอาหารรสเลิศ ประณีต เป็นอานิสงค์เพราะชาติก่อนเราได้ทำทานให้อาหารเเก่คนยากจนทั้งหลาย

- ถ้าชาตินี้ชีวิตเราเกิดมาลำบากยากจน หาเช้ากินค่ำไม่มีความสุขสบาย เพราะชาติก่อนนั้นเราเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียวไม่เห็นความสำคัญในการทำทาน ละเลยการให้ทานในชาติก่อน

- ถ้าเกิดมาชาตินี้สุขสบาย มีบ้านเรือนกว้างขวางโอ่อ่าใหญ่โตเป็นของตัวเอง เพราะชาติก่อนนั้นเราเคยทำบุญถวายข้าวสารเข้าวัด

- ถ้าชาตินี้เกิดมาชีวิตทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง ประสบเเต่ความสุข งอกงามไพบูลย์ เพราะชาติก่อนๆคุณเคยสละปัจจัย ทรัพย์สินเงินทองสร้างวัด

- ถ้าชาตินี้เกิดมามีรูปกายงดงาม สวยงาม หล่อเหลา เป็นอานิสงค์ที่เกิดจากการถวายดอกไม้เครื่องหอม บูชาคุณพระด้วยความเคารพสม่ำเสมอ

- ถ้าชาตินี้เรามีไหวพริบเป็นเลิศ ฉลาดปราดเปรื่อง มีปัญญาดี เพราะชาติก่อนเป็นพุทธมามกะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เเละชอบทานอาหารมังสวิรัติ

- ถ้าชาตินี้เรามีคนรักมากมาย มีเพื่อนมาก เป็นที่รักของชนหมู่มาก เพราะชาติก่อน เราเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลอื่นๆไว้

- ถ้าชาตินี้มีวาสนาดีมีพ่อแม่อยู่พร้อมเพรียง ได้บำรุงรักษาบิดามารดา เพราะชาติก่อนนั้นเราได้ให้ความช่วยเหลือ ให้ความเคารพเเก่ญาติผู้ใหญ่

- ถ้าชาตินี้เกิดมาเป็นลูกกำร้า เพราะชาติก่อนเราเคยพรากชีวิตสัตว์ ยิงนก ตกปลา เช่นนั้น

- ถ้าเกิดมามีสุขภาพเเข็งเเรง ไม่เจ็บป่วยง่าย อายุยืนนาน เพราะชาติก่อนนั้นเคยให้ทานด้วยชีวิต ปล่อยสิ่งมีชีวิตต่างๆเป็นทานมาก่อน

- ถ้าเกิดมาเเล้วมีอายุขัยสั้น เพราะชาติก่อนนั้นเคยฆ่าสัตว์มากมาย

- ถ้าเกิดมาเป็นทาส เป็นคนคอยรับใช้คนอื่น เพราะชาติก่อนนั้นเคยดูถูกเหยียดหยาม รังเกียจคนจน

- ถ้าเกิดมามีดวงตาสดใส การมองเห็นเเจ่มชัดไม่พร่ามัว แสดงว่าเป็นอานิสงค์ที่เคยเติมน้ำมันตะเกียง จุดไฟ(เทียน)บูชาพระ

- ถ้าชาตินี้เกิดมาเป็นคนโง่เขลา ปัญญาอ่อน หูหนวก เป็นใบ้ เพราะอดีตนั้น เราเคยด่าว่าเเละทำกิริยาหยาบคายใส่พ่อแม่

- ถ้าชาตินี้ต้องตายเพราะยาพิษ เป็นผลจากชาติก่อนได้เคยวางยาพิษในต้นน้ำลำธาร

- ถ้าชาตินี้ต้องเเขวนคอตาย เป็นผลจากการใช้ตะข่ายล่าสัตว์ดักจับสัตว์

- ถ้าชาตินี้เราฆ่าเขา ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าเรา เเล้วก็จะสลับกันฆ่าเช่นนี้ต่อไปไม่รู้จบ

- ถ้าชาตินี้เรานำความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม บอกเล่าถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ ชาติหน้า เราจะเป้นที่นับหน้าถือตา มีคนเคารพนับถือยกย่องมากมาย

ก็อ่านไว้ให้พิจารณากัน เพราะเป็นหลักของกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้าอ่านจบเเล้วก็มาสั่งเกตุเอาว่าชีวิตเราเป็นยังไงตรงตามข้อไหน อะไรที่ยังไม่มียังไม่ได้พอจะปหรับปรุงแก้ไขได้อย่างไร ลองทำกันดูนะครับ

 

เช็คพระ

เฮ้อก็เป็นประเด็นกลุ้มๆที่น่าหนักใจ ลังเลอยู่ว่าจะลงหรือไม่ลง เเต่ก็ติดตรงมารยาท วันนี้ก็จะลงเเต่จะพิมพ์ให้อ่าน ถือว่าอ่านเล่นๆก็เเล้วกัน

มีหลายท่านมาปรึกษาห้อยพระวัดดังหลายที่ทำไมใช้ไม่ขึ้น ทำไมเจอเรื่องเเย่ๆ ทำไมตกต่ำลง พอเอาของออกก็หาย ลองสอบถามหลายๆท่านที่ถามผมมาว่าของที่ไหน เออก็จริง แต่ละที่มันระดับTOPCLASS เกจิดังระดับประเทศนอกประเทศทั้งนั้นเลย ทำได้ก็เพียงเเต่บอกกล่าวกันส่วนตัว พูดอะไรมากไม่ได้เพราะมันกระทบกับชื่อเสียงหลายๆท่าน

บางทีเราก็ถามนะว่าของที่ไปเช่ามาน่ะ ปลอมมั๊ย เสกมามั้ย ศูนย์สร้างรึเปล่า พยายามจะสร้างเครดิตให้กับหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ แต่บางทีเราเองก็ถึงทางตันเหมือนกัน เพราะศูนย์ไม่ได้สร้าง รับมากับวัดบูชามากับมือท่าน เราหมดข้ออ้างจนเเต้มไปเลย เพราะไม่อยากจะให้บุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นต้องเสียชื่อ

ก็ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ หลายสิ่งมันเกินพุทธพานิชย์ไป มันกลายเป็นระบบโรงงานเเล้ว จะพระเหรียญ พระผง พระหล่อ ทุกอย่างสำเร็จได้ที่โรงงานหมด บางที่จะออกเหรียญออกกริ่งอะไร โฆษณามวลสารเยอะไปหมด จะไม่เยอะได้อย่างไรก็หล่อโรงงานเดิม มันหล่อมาเป็น100วัดเเล้ว ก็เอาเศษโลหะที่เหลือเวลาทำให้วัดต่างๆนั่นเเหละมาหล่อต่อ คนก็เฮกันไป อาศัยความเชื่อเกาะกินกับพระศาสนาตรงนี้ ประโคมข่าวโฆษณาด้วยทีมสายงานเดิมๆ มุกเดิมๆหรืออาจจะสร้างทีมขึ้นใหม่ ก็เเล้วเเต่ มีหลากหลายสายเลยทีเดียว

ต้องกล่าวว่าเหตุปาฏิหาริย์ต่างๆที่นำมาเขียนนั้นอ่านดีๆจะเจอเรื่องเเปลกๆคล้ายๆกัน นั่งบนเมฆคนขับเครื่องบินเห็นมั่งเหมือนหลวงปู่เเหวนเด้ะเลยก็มี หรือว่าอะไรก็เเล้วเเต่ที่เราอ่านเเล้วโคตรคุ้น เเต่ก็คงไม่หนักเท่าทีมงานพิสูจน์เกจิระดับประเทศหลายๆที่ ที่อึ้ง ทึ่ง และเสียวสันหลังวาบ พระเกจิออกของระดับพันล้าน เเต่ว่าตัวหลวงปู่ยังอ่านขอมไม่ได้เขียนขอมได้เเค่บางคำบางตัว เเต่กระเเสทำข่าวโหมโฆษณานี่สืบสายสารพัดวิชาครอบคลุมทั่วทิศทั่วประเทศก็ยังมี ระวังเรื่องเเต่งปั้นเกจิล้วน อ่านสนุกยิ่งกว่านิทานเสียอีก

ที่หนักหน่อยก็บอกว่า ของออกจากวัดตะกรุดจารมือ เราเคยเช่ามาอยู่นับสิบดอก สืบไปสืบมามือใครจาร ไม่ใช่มือหลวงปู่หลวงพ่อ มือใครเเต่โฆษณาทุกครั้งว่าท่านจารเอง ยิ่งทำออกตามนิตยสารเขียนว่าวัดสร้างก็มี ตะกรุดดอกเล็กๆนี่คลี่มาเป็นตะกรุดเปล่าๆ บางเจ้าก็ลงยันต์ซ้ำเดิมๆเเต่ตั้งชื่อให้หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป เจ็บใจสุดๆดอกโตๆ5-6นิ้วจารเบ่อเร่ออยู่ 5 ตัว คนละเรื่องกะชื่อตะกรุดที่ตั้งก็มี

อันนี้ก็เล่าให้ฟังคร่าวๆ มันสารพัดจะวิธีคิดเลย เลวเลยไปเช่าพระงานเเบกะดินออกตามท่าพระจันทร์มาเสกขายก็ยังมี จะเห็นเบี้ยแก้ของท่าพระจันทร์มีตามวัดต่างๆเยอะมาก ผมเองไปทำบุญมาหลายวัด ไปเจองานเบี้ยแก้ท่าพระจันทร์เขย่าดู ดูลายถักดูแบบต่างๆเห็นเเล้วรู้เลย ถามพระบอกหลวงพ่อสร้างก็มี ขนาดพระยังมุสาได้จะเอาอะไรกับใจคนสมัยนี้ ก็สรุปคร่าวๆให้ฟังว่าทำไมหลายท่านบ่นว่าเช่าวัตถุมงคลถึงใช้เเล้วตกต่ำลง

หลายคนจะบอกว่าก็เช่ามาเเล้วเอาความสบายใจ เรารับมากับมือเอามาจากวัด จะปลอบใจตัวเองอย่างไรก็คิดกันไป มันก็เป็นเพียงข้ออ้างที่ทำให้เราสบายใจ สมัยก่อนหลวงปู่หลวงพ่อฆราวาสเรืองอาคมต่างๆมีรึที่จะให้โรงงานสร้างของให้ เหรียญรูปหล่ออะไรที่ต้องใช้โรงงาน ก็ต้องหาชนวนมวลสารลงเเผ่นจารย์กันให้สุดฤทธิ์ เสกกันแบบไม่ลืมหูลืมตาจริงๆถึงจะทำได้ไม่ใช่สุกเอาเผากิน

วัตถุมงคเคยกล่าวเเล้ว ว่ามันจะสำเร็จเป็นเครื่องมงคลจริงๆได้ จะต้องประกอบด้วยสิ่งดีๆ 3 อย่าง
1. วัตถุประสงค์เจตนาในการสร้างของผู้สร้าง
2. ชนวนมวลสาร ตัววัตถุมงคลเองที่ต้องมีอาถรรพ์ประกอบด้วยว่านยาของศักสิทธิ์ต่างๆที่เป็นโลหะก็ต้องประกอบไปด้วยชนวนมหายันต์เเร่ธาตุวิเศษมวคลมากมาย
3. ผู้อธิษฐานจิตปลุกเสก
ก็ลองคิดดุว่าน่าตลกหรือไม่เดี๋ยวนี้สร้างเหรียญซักรุ่น ลงเเผ่นจารกัน2-3แผ่นเอาไปหลอมรีดอย่างไรยังได้เหรียญไม่ถึงครึ่งองค์เลยกระมัง บางที่ก็อาจจะดีหน่อยลงหลายองค์หลายที่ เเต่ก็ต่างจากสมัยโบราณ ที่ครูบาอาจารย์ท่านค่อยๆทำไป หากจะปั๊มจากโรงงานก็ตาม ก็ต้องเอามาเสกจนเต็มจนมั่นใน ไม่ใช่ได้พระเสร็จจัดงานปลุกนิมนต์ๆมา จบวันนี้ของออกเเล้ว เช่นนี้เป็นต้น

ก็มาเข้าเรื่องของเรา มีหลายๆท่านส่งพระมา ให้พ่ออาจารย์ท่านเช็คให้ เราดูก็มีเเต่หลวงพ่อดังๆ ส่วนใหญ่เป็นพระจากงานพุทธาภิเษกเเทบทั้งสิ้น เคยบอกกล่าวเเล้วว่าในงานปลุกเสกหนึ่งๆ หากมีผู้ที่ทรงคุณทรงอภิญญานั่งอธิษฐานจิตอยู่ครอบคลุมกองวัตถุมงคลทั้งหมด คนอื่นท่านอื่นก็จะเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น ได้เเต่เจริญพระพุทธคุณไปกล่าวคือไม่มีความจำเป็นใดๆเลยด้วยซ้ำที่ทำขนาดนี้

ก็ไม่ขอกล่าวอะไรมากเพราะมันกระทบกับความเชื่อเเละการทำมาหากินหลายๆท่าน ที่อ่านที่พิมพ์ให้ไปก็ไปตีความกันเอาเอง เอาง่ายๆให้ท่านเช็ค ชื่อรุ่นกับอักขระยันต์ที่ลงบางเหรียญสายวิชายังไม่ตรงกันก็มี คือเเต่ละรุ่นตั้งชื่อกันโก้ๆไปเพียงเเค่นั้น

ก็ระวังกันให้ดี ผมไม่สามารถพูดได้มากกว่านี้เพราะมันดูไม่งาม