ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

มีคนเล่าให้ฟังว่าไปดูดวงกับหมอดูที่เป็นผู้หญิงท่านหนึ่งมา แล้วเขาทักขึ้นมาเฉยๆว่าดวงก็ไม่ได้ดีอะไรนะช่วงนี้ ซึ่งพี่ท่านนี้ก็แย้งอยู่ในใจว่าช่วงนี้ก็เจอะแต่เรื่องดีๆนะยังไม่รู้สึกมีอะไรไม่ดีพี่เค้าว่าแค่คิดนะแต่ไม่ได้พูดออกไป จะดูลูกเล่นหมอดูว่าจะพูดอะไรต่อ

แล้วหมอก็พูดต่อว่า ดวงไม่ดีก็จริงแต่พ่อปู่ที่ห้อยอยู่ในคอกลับทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง พี่เค้าก็รู้สึกทึ่งนิดๆเพราะว่าเค้าห้อยพระไว้ในเสื้อ เป็นไปไม่ได้ที่หมอดูจะเห็น แล้วที่เค้าห้อยก็คือเศียรครูพระสยมของพ่ออาจารย์นี่เอง พี่เค้าว่าหมอดูใช่คำว่าพ่อปู่นะ ไม่ใช่พระ ไม่ใช่หลวงพ่อ แปลว่าเค้าคงเห็นเป็นญาณคล้ายๆฤาษีเพราะพระศิวะก็แต่งตัวคล้ายฤาษีโยคี

พี่เค้าเล่าว่าพอดูดวงเสร็จก็เลยเอาพระที่ห้อยคอกับตะกรุดของพ่ออาจารย์ชุดที่เค้าคาดเอวให้หมอดูเขาดู เขาว่าดีมากเลย ของที่ไหนพลังดีจัง เล่นแต่ของแรงๆนะ พี่เค้าว่าไม่รู้เรียกว่าประสบการณ์มั๊ย แต่ตั้งแต่บูชาไปก็เจอเรื่องดีๆไม่มีอะไรที่เลวลงเลย แล้วเค้ากำชับมาว่าเค้าเชื่อบารมีครูโดยเฉพาะองค์พระสยม ถึงเขาไม่เคยฝันเห็นแต่หมอดูยังทักมาตรงๆแปลว่าองค์พ่อต้องอยู่กับเค้าแน่นอน

* ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง ขอแค่ชีวิตดีขึ้นไม่ต้องฝันต้องเห็น เพียงห้อยแล้วอบอุ่น ใจเราก็สามารถตอบได้เเล้วว่าท่านอยู่กับเราหรือไม่

 

อรุณสวัสดิ์ครับ เดี๋ยวว่าจะมีกิจกรรมให้ร่วมเล่นกันไม่ใช่เกมส์แบบที่ผ่านๆมา ยังไงก็ติดตามกันไว้นะ ส่วนที่โอนมาเดี๋ยวจะเรียงตามลำดับแล้ววันนี้จะจัดส่งให้

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่รังสรรค์ ER 5708 0893 2 TH

พี่นวรัตน์ ER 5708 0894 6 TH

พี่ศิระ ER 5708 0895 0 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ER 5708 0896 3 TH

 

ก็ติดตามกันนะครับ เดี๋ยวจะบอกอีกทีว่าเมื่อไหร่กับกิจกรรมแจกพระขุนแผนผงพรายกุมาร

 

การลอยของ​

ก็เห็นหลายๆคนที่เคยบูชาสายพรายมีวัตถุอาถรรพ์ของซากศพเคยบูชามามักจะถามว่า จะเลิกเล่นแล้ว จะทำอย่างไรดี จะเอาไปไว้ใต้ต้นไม้ ทางสามแพร่งหรืออะไรก็ตามบางคนคิดได้ก็ทำเลย บางคนก็เป็นกังวลต่างๆนานาว่าเอาไปวางแล้วเค้าจะไปมั๊ย เค้าจะตามเราอยู่มั๊ย ส่วนใหญ่เหล่านี้คือคนที่รู้ตัวว่าดวงตกมากและตัวเองไม่ถูกกับสายผีเหล่านั้นก็จะเป็นกังวลเพราะตัวเองไปเชิญไปบูชาเค้ามาเอง ซึ่งสมัยนี้ของพวกนี้ก็มีอยู่มาก

ทีนี้ก็ถามกันมาว่าจะเอาไปปล่อยไปทิ้งไว้ที่ไหนดี ทำอย่างไรให้ถูกต้อง ก็ให้ทำตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลย

หลายคนอาจได้เช่าบูชาของขลังเครื่องรางต่างๆ ที่บางที่ คุยนักคุยหนาว่าแรง ถึงแรงมาก โดยเฉพาะเครื่องรางสายพราย หรือแม้แต่การรับขันร่างทรงมาแล้วอาจจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเจอเคราะห์เจอเรื่องที่ดึงให้ชีวิตตกอับลง จะอะไรก็แล้วแต่อาจจะมาจากไม่มีเวลาปฏิบัติกับของนั้นหรือบูชาไม่ถูกวิธีก็ตาม

ทีนี้อยากจะเอาออกไปให้พ้นจากตัวจากบ้านเรือนหรือพูดง่ายๆคือเอาไปทิ้งไม่เอาแล้ว เรียกกันง่ายๆว่าเอาของไปปล่อยจะเอาไปใว้ในที่ต่างๆโดยพลการนั้นย่อมไม่เกิดผลดีด้วยเกรงว่าจะมีอันเป็นไปต่างๆนานาเพราะของนั้นยังผูกพันกับตนเองอยู่ หลายคนอาจจะเอาไปไว้วัดไว้โคนไม้ก็จะไม่พ้นวิสัยอยู่ดี อาจจะต้องธรณีสารด้วยซ้ำด้วยว่าของบางอย่างแม้เราจะเอาไปวางไว้เพื่อความสบายใจของตนเองแต่ว่าเราก็ทำได้เพียงกายภาพ พูดให้ถูกคือเอาเขาไปวางไว้ แต่สิ่งที่มองไม่เห็นก็ยังเกาะอยู่กับเรา เคยเห็นบางคนเอาไปทิ้งลงชักโครกเกิดอาการเจ็บป่วยจนตายก็มีมาแล้ว

ฉะนั้นการจะละหรือเอาของออกจากตัวตลอดจนเรียกว่าการปล่อยหรือลอยหรือทิ้งเสีย ซึ่งของต่างๆ ตลอดจนขันที่รับมาจากร่างทรงทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน มีวิธีกระทำเป็นขั้นตอนดังนี้

1.ให้นำน้ำพระพุทธมนต์มาอย่างน้อย7 วัด ใช้วัดไหนก็ได้ มาผสมกันแล้วนำมาเสกด้วยพระคาถาถอนเสมาว่าดังนี้
"สมุหะเนยยะ สมุหะนะติ สมุหะคะโต เสมาคะตัง พัทธเสมายัง สะมุหะนิตัพโพ เอวังเอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทธคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อนหลุดลอย" (ท่อง 7 จบ) เสร็จแล้วนำน้ำพระพุทธมนต์ไปใส่ผสมให้คนที่เราทำดื่มหรืออาบในกรณีที่เป็นการกระทำเช่นทำให้เค้ารักเค้าหลง
- ส่วนในกรณีที่เป็นวัตุผีพรายหรือขันต่างๆก็ให้ใช้วิธีเดียวกันนี้ โดยนำน้ำพระพุทธมนต์ไปประพรมของทั้งหลายเหล่านั้นที่เราต้องการจะนำไปลอยไปปล่อยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลังหรือขันเจ้าทรงใดๆก็ตาม

2.ขณะประพรมของให้ท่องดังนี้ "นะเคลื่อน โมคลาย พุทธหาย ธาแก้ ยะสูญหายบัดนี้" ว่าไปด้วยก็พรมไปด้วย ทำเช่นนี้โดยกำหนดเอาด้วยการว่าคาถานี้เจ็ดจบก็เป็นอันจบเรื่อง

3.เมื่อพรมน้ำมนต์แล้ว ทีนี้จะเอาของไปลอยน้ำ ก็ให้พิจารณาให้ดี ให้เลือกแม่น้ำที่มีน้ำไหลไม่ใช่น้ำขัง โดยหันหน้าของเราไปทางทิศตะวันออก พร้อมกับภาวนาคาถา ดังนี้
"พุทธังกำ ธัมมังกำจัด สังฆังกำจัด พุทธังกำจาย ธัมมังกำจาย สังฆังกำจาย โอมเพิกถอนสวาคลาย หายด้วย นะโมพุทธายะ "เมื่อท่องเสร็จก็ให้เอาของต่างๆลอยลงแม่น้ำนั้นทันที แล้วอย่าหันกลับไปมองอีก

หลังจากนั้นภายในวันเดียวกันนั่นเองให้รีบไปวัดพร้อมกับเตรียมถังสังฆทานไว้ด้วย ถ้าของที่ลอยนั้นเป็นรูปพระพุทธเจ้าซึ่งพวกขุนแผนทั้งหลายก้มักจะเป็นรูปนี้ ก็บอกพระเค้าไปว่ามามาขอขมาพระรัตนตรัย มาทำสังฆทานมารับศีล แต่ถ้าไม่ได้เป็นรูปพระก็บอกไปว่ามาขอขมาครูบาอาจารย์ มาทำสังฆทานมารับศีล เสร็จแล้วเวลากรวดน้ำก็ให้อธิษฐานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเขาก่อนอันนี้ต้องแม่น คืออุทิศให้เขาไปก่อนแล้วก็อธิษฐานให้ของต่างๆตลอดจนคุณผีคุณพรายทั้งหลายนั้นตัดขาดจากเรา ไม่มีความผูกพันธ์หรือพันธะใดๆต่อกันอีก นับจากนี้จะขอมีแต่พระรัตนตรัยยึดเอาพระไตรสรณคมเป็นที่พึ่งที่ระลึก เสร็จแล้วก็ขอน้ำมนต์หลวงพ่อที่พรมให้เานั้นกลับไปผสมน้ำอาบเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไป

 

เห็นมีหลายคนถามเรื่องเกมเดือนนี้ ก็ขอรวมไว้เป็นกิจกรรมพิเศษที่จะให้ติดตามกันนี้เลยนะครับกับพระขุนแผนพิมพ์ขุนแผนพรายกุมาร ห้ามพลาด ติดตามดีๆ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาร่วมกิจกรรมกัน อย่าพลาดๆ

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่วันชัย ET 0633 7468 4 TH

 

แจ้ง​

ก็เตรียมตัวไว้นะครับ วันพรุ่งนี้จะมีกิจกรรมให้เล่นกัน ใครเร็วใครได้ เพราะน่าจะมีพระไม่พอ ชุดนี้เป็นพระขุนแผนที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นโดยล้อพิมพ์หลวงปู่ทิม และใช้ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมเป็นชนวนหลักผสมด้วยผงพุทธคุณต่างๆ ท่านว่าตัวนี้เพิ่มความแรงด้วยผงไม้ตะเคียนฟ้าผ่าอาถรรพ์ผิดธรรมชาติ ตลอดจนน้ำมันช้างตกมัน น้ำตาปลาพะยูน เรียกว่าแรงด้านเมตตามหาเสน่ห์ใช้ทางทำมาหากินการเจรจาได้ไม่มีผิดหวัง ท่านว่าแรงจับแล้วสะดุ้งเลย

เอามาให้ดูกันก่อน ท่านทำไว้ไม่มากเพราะพระท่านนั่งกดพิมพ์มือเอง นั่งตัดขอบแต่งองค์พระเอง ค่อยๆทำไปด้วยตัวท่านเองทีละองค์ๆจึงทำให้พระมีจำนวนน้อย เป็นสไตล์แบบของท่านที่ว่าไม่เน้นสวยแต่ต้องขลัง เอารูปมาให้ดูกันคร่าวๆ ชุดนี้ไม่มีให้บูชา มีแต่ให้ร่วมกิจกรรม ติดตามๆนะ

 

ใครจะฝากคำถามอะไร PM ไว้นะครับ

 

ร่วมกิจกรรม แจกพระขุนแผนผงพรายกุมารชุดตะเคียนฟ้าผ่า​

สำหรับกิจกรรมที่จะให้ทำในครั้งนี้ ก็คือการบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ท่าน แต่เราจะไม่ได้ให้พิมพ์เล่ากันหน้ากระทู้ เพราะมันจะดูเหมือนการโฆษณากระทู้มากเกินไป

ตามดำริของพ่ออาจารย์ท่านที่ถามมา ซึ่งก็มีหลายๆคนเล่าประสบการณ์ให้ฟังอยู่บ่อย แต่ผมไม่เคยรวบรวมอะไรเอาไว้เลยสุดท้ายพอหลายเรื่องเข้าก็จำไม่ได้ ก็เลยจะถือโอกาสนี้ให้บอกเล่ากันจะได้รวบรวมมอบให้ท่านอ่านต่อไป เลยจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น

สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมก็สามารบอกเล่าประสบการณ์ที่เคยมีกับเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ท่านได้เลย ทาง PM เท่านั้น โดยกระทำตามนี้
- เพียง PM เข้ามาแล้วเล่าประสบการณ์ของเครื่องมงคลที่บูชาไปว่าเคยมีประสบการณ์อะไรกับเครื่องมงคลองค์ไหนเท่านั้น
โดยประสบการณ์ทั้งหลายที่เล่ามา ผมอาจจะยกมาเล่าข้างหน้าเพจต่อไป หรืออาจจะก้อปมาให้อ่านกันก็ได้ แต่ก็เหมือนเดิมคือเราจะไม่มีการเปิดเผยยูสเซอร์หรือชื่อของผู้เล่าแต่อย่างใด จะใช้แค่คำว่าของพี่ท่านหนึ่งเท่านั้น เหมือนที่เคยยกมาเล่าเมื่อก่อน

ทั้งนี้สำหรับกิจกรรมปัจจุบันนี้ ผมได้ขอพระขุนแผนมวลสารวิเศษผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้น พระชุดนี้ท่านทำไว้ไม่มากเพราะพระท่านนั่งกดพิมพ์มือเอง นั่งตัดขอบแต่งองค์พระเอง ค่อยๆทำไปด้วยตัวท่านเองทีละองค์ๆจึงทำให้พระมีจำนวนน้อย เป็นสไตล์แบบของท่านที่ว่าไม่เน้นสวยแต่ต้องขลัง โดยชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เพิ่มมวลสารพิเศษเข้าไปนอกจากผงพุทธคุณต่างๆ คือผงไม้ตะเคียนฟ้าผ่าอาถรรพ์ผิดธรรมชาติ ตลอดจนน้ำมันช้างตกมัน น้ำตาปลาพะยูน ซึ่งเป็นชุดที่ท่านเสกเก็บไว้นานแล้วและมีจำนวนไม่มาก จากที่ท่านพูดก็คือแรงจับแล้วสะดุ้งเลย แรงด้านเมตตามหาเสน่ห์ใช้ทางทำมาหากินการเจรจาได้ไม่มีผิดหวังมาเป็นสิ่งกำนัลน้ำใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

* ก็จะเปิดให้ PM เข้ามาเล่าประสบการณ์กันได้เลย ภายในระยะเวลาที่กำหนดคือสองวัน วันเสาร์ กับวันอาทิตย์นี้เท่านั้น เนื่องจากพระมีจำนวนจำกัด หากมีผู้ร่วมกิจกรรมหลายท่านเราก็จะจับฉลากให้ว่ามีใครได้รับพระของขวัญชุดนี้กันบ้าง ส่วมรายชื่อผู้ที่จะได้รับพระขุนแผนผงพรายกุมารตะเคียนฟ้าผ่าชุดของขวัญพิเศษในครั้งนี้นั้น หลังจากจบกิจกรรมเราจะแจ้งรายชื่อคนที่มีสิทธิ์ต่อไป โดยจะใช้วิธีเหมือนเล่นเกมส์รอบปกติ สำหรับคนที่มีสิทธิ์ตามรายชื่อที่ได้ประกาศไว้หน้าเพจนั้น ให้โอนค่าจัดส่ง 100 บาทไว้หลังประกาศพ้นหนึ่งวัน ถ้าไม่มีข้อความแจ้งเข้ามาก็ถือว่าสละสิทธิ์ไป เราจะได้ยกยอดให้ท่านอื่นต่อไป ก็มาร่วมกิจกรรมกันนะครับ ขอบารมีพ่อขุนแผน บารมีพ่อครูฟ้าฟื้นคุ้มครองรักษา ขอให้ผู้ที่หวังจะได้บูชาสมหวังกันทุกคนนะครับ

 

มีพี่ท่านหนึ่งประสงค์จะบูชา ก็นำมาให้ดูกัน จะได้น้อมจิตกราบนมัสการไหว้ครูบูรพาจารย์กันะครับ เป็นพระราหุลกุมารขนาดบูชา องค์นี้ใหญ่และหนักมากๆเลย มาขอพรพระราหุลเถระเจ้ากัน สาธุๆๆ

 

ที่ pm มาเล่ากัน ท่านที่อ่านแล้วผมจะพิมพ์คำว่ารับทราบกลับไปนะครับ

 

ของวันนี้ก็อ่านครบแล้วนะครับ เจอเรื่องแปลกๆเยอะเลย

 

ปู่โสมเฝ้าทรัพย์​

เอามาให้อ่านเป็นความรู้กันนะครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้น จริงในอดีตเกี่ยวกับลายแทงสมบัติอันบ่งบอกจุดที่ซ่อนของขุมทรัพย์มากมาย ภายในอาณาบริเวณอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ลายแทงนั้นบอกว่า พระนครศรีอยุธยามีสมบัติโบราณถูกฝังเอาไว้ถึง 303 แห่ง โดยเฉพาะที่ "วัดกุฏิดาว" มีขุมทรัพย์ฝังอยู่ถึง 16 แห่ง

ลายแทงขุมทรัพย์มีค่า มหาศาลนี้ผู้ที่ได้ครอบครองไว้เป็นเจ้านายระดับพระองค์เจ้า พระองค์หนึ่ง การได้มาของลายแทงนี้ไม่ทราบชัดว่าท่านได้มาอย่างไร...จากใคร...แต่พิสูจน์ ได้แน่ชัดว่า ต้องมีทรัพย์มีค่าฝังอยู่ใต้ดินจริงๆ

เพราะพระองค์ เจ้าพระองค์นี้ กับพระสหายชาวต่างประเทศได้นำเอาเครื่อง "ไมน์ดีเทคเตอร์" ซึ่งเป็นเครื่องสำรวจหาวัตถุธาตุมาสำรวจตรวจดูแล้ว และปรากฏว่าเครื่องมือดังกล่าวนี้ระบุว่าจุดที่ตรวจค้นมีสมบัติล้ำค่าถูกฝัง อยู่ใต้ดินจริงๆ

วัดกุฏิดาวเป็นวัดร้าง มีร่องรอยว่าเคยเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในสมัยอยุธยาในลายแทงขุมทรัพย์บอกว่า ที่วัดแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังไว้รอบอุโบสถถึง 16 แห่ง ดังนั้นพระองค์เจ้าพระองค์นี้และพระสหายหลายคน

จึงได้ทำเรื่องเสนอ ต่อกรมศิลปากร ขออนุมัติดำเนินการขุดค้นหาขุมทรัพย์ดังกล่าว โดยขอแบ่งทรัพย์ที่ขุดขึ้นได้เพียง 10% และอีก 90% จะมอบให้เป็นสิทธิ์ของกรมศิลปากร เมื่อกรมศิลปากรอนุมัติ ท่านจึงเริ่มดำเนินการขุดค้นที่วัดกุฏิดาวเป็นแห่งแรกในปี พ.ศ.2503

น่าประหลาดที่การขุดสมบัติที่วัดกุฏิดาว เมื่อขุดลงไปตรงจุดที่ลายแทงระบุว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ กลับไม่พบสิ่งใดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งที่ก่อนลงมือขุดได้ใช้เครื่องไมน์ดีเทคเตอร์ตรวจสอบดูก่อนแล้ว เครื่องก็ส่งสัญญาณว่ามีสิ่งมีค่าฝังอยู่แน่นอน แต่พอขุดลงไปกลับไม่มีอะไรเลย

การขุดค้นหาสมบัติโบราณที่วัดกุฏิดาว ในครั้งนั้น นอกจากจะพบความผิดหวังแล้ว พระองค์เจ้าฯ และพระสหายยังพบกับเหตุการณ์อัศจรรย์ที่น่ากลัวอีกหลายอย่าง

นั่นก็ คือท่านและพระสหายเห็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" มาปรากฏต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ เป็นร่างของนักรบไทยโบราณ ร่างใหญ่โต แต่ไร้หัว นอกจากนี้ภายในวังของท่านก็ยังมีเสียงคล้ายคนขุดดินตลอดเวลา เสียงนั้นดังชัดเจนได้ยินกันหลายคน

เหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้น ทำให้พระองค์ต้องเชิญอาจารย์ที่นั่งทางในเก่งๆ มาช่วยดู อาจารย์ที่ท่านนั้นก็บอกว่า วิญญาณที่ปรากฏเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เขาเป็นเจ้าของสมบัตินั้น และโกรธแค้นมากที่เจ้านายพระองค์นี้ มาทำการขุดค้นสมบัติของเขา จึงมาสำแดงกายให้เห็นทั้งยังสาปแช่งพวกที่มาขุดสมบัติของเขาทุกคน

คำ สาปแช่งนั้นต่อมาก็เป็นจริง เพราะพระสหายคนหนึ่งที่ร่วมทีมขุดสมบัติกับท่านได้เสียชีวิตกระทันหัน ทั้งๆ ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง ส่วนประสหายอีกคนก็หายสาบสูญไป โดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนตัวท่านเองทำธุรกิจอะไรก็ขาดทุน

ขุมทรัพย์ โบราณที่วัดกุฏิดาว ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ที่เดิม เพราะยังไม่มีใครกล้าหาญไปขุดค้น เพราะเกรงว่าวิญญาณที่ยังคงวนเวียนเฝ้าสมบัติ จะมาหลอกหลอนและสาปแช่ง

วัด กุฏิดาวเป็นวัดเล็กๆ ป้ายชื่อวัดไม่มีบอก ต้องอาศัยถามจากชาวบ้าน แถวใกล้วัดกุฏิดาวยังมีวัดใกล้เคียงหลายวัด รวมถึงวัดมเหยงค์ซึ่งขึ้นชื่อว่า "ผีดุ" อีกวัดหนึ่ง

"วัดมเหยงค์" นี้เคยเป็นวัดร้าง ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังของอุโบสถซึ่งกระเทาะหลุดร่อนเหลือแต่อิฐ แดงๆ แต่ก็ยังมีเค้าโครงให้เห็นว่าเคยเป็นศาสนาสาถนที่สวยงามในอดีต

วัดมเหยงค์แห่งนี้เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า มีคนเคยได้ยินเสียงสวดมนต์ในท่วงทำนองอันไพเราะ ดังแว่วมาจากอุโบสถ เสียงสวดนั้นดังพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะ สวดช้า และเยือกเย็น ทำนองสวดไม่เหมือนปัจจุบัน และจะดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งพอเดินไปดูที่ต้นเสียงกลับไม่มีใครเลย แล้วเสียงนั้นมาจากไหน ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้...

คำว่าปู่โสมนี้ ได้ยินมาบ่อยๆ ที่เรียกว่าปู่นี้คงเพราะมักมาเป็นรูปอย่างคนเฒ่าคนแก่ คงเป็นชายเสียส่วนมากจึงได้เรียกว่าปู่ ไม่เคยได้ยินว่ามีย่าโสมที่ไหน ส่วนคำว่าโสมนั้นคงเป็นคำโบราณ แปลว่าอะไรไม่แน่ใจ โดยรวมปู่โสมก็เป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อว่ามีหน้าที่คอยเฝ้าสมบัติต่างๆที่คนโบราณแอบเอาไว้ตามถ้ำหรือกรุ สมบัติ ที่จริงเรื่องปู่โสมนี้เป็นเรื่องที่ดูยังคาบเกี่ยวกับวิชามายาศาตร์(ฝังอาถรรพ์)อยู่มากในที่นี้เป็นการกล่าวถึงแต่คติเรื่องผีจึงขอคัด เอาแต่คติที่ดูจะเกี่ยวกับผีๆสางๆสักหน่อย

การอุบัติของปู่โสมนี้อาจ แยกเป็นสองอย่างหลักคือ เกิดจากอำนาจทางมายาศาสตร์ ผูกขึ้นมาให้เป็นตัวตน คงคล้ายๆกับการผูกหุ่นพยนต์ กับอีกอย่างหนึ่งคือเกิดจากคนตายคือผีตามความเข้าใจของคนทั่วไป ซึ่งอย่างหลังนี้ดูจะเกี่ยวกับปู่โสมที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่หน่อย ปู่โสมที่เกิดจากอำนาจคนตายนี้ ก็ยังแยกออกเป็นแบบอีกคือ เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติกับเขาทำให้เกิด

อย่างแรกที่ว่าเกิดกันตาม ธรรมชาตินี้คือเกิดจากคนที่เป็นจ้าวสมบัติเมื่อตาย ลงจิตยังคงหลงยึดมั่นในสมบัตินั้นเลยทำให้ไม่ได้ไปเกิด กลายเป็นผีเฝ้าสมบัติ เรื่องอย่างนี้ได้ยินกันบ่อยไป เช่นเคยได้ยินว่ามีนักเล่นของเก่าไปหาซื้อเตียงโบราณมาพอจะเอาเตียงมานอน เข้าจริงๆก็โดนเจ้าของเตียง(ผี)มาเล่นงานตั้งแต่คืนแรก อย่างนี้คงเป็นเพราะวิญญาณยังคงหวงเตียงนั้นอยู่เลยไม่อยากให้ใครมาเกาะแกะ ฟังดูอาจตลกดีแค่เตียงเก่าๆยังหวงอะไรหนักหนา แต่มาคิดดูเรื่องการหวงข้าวของนี้เป็นอัตตาที่เข้มข้นอย่างหนึ่ง เช่นของของเราๆก็ไม่อยากให้ใครมาแอบใช้ คนรักของเราๆก็ไม่อยากให้ใครมาเกาะแกะ แต่อย่างนี้ยังดูไกลจากผีปู่โสมของเราอยู่สักหน่อย

การเกิดผีปู่โสม อีกอย่างหนึ่งก็คือเป็นการกระทำให้เกิดคือเจ้าตัวก็ไม่ได้ อยากเกิดเป็นผีปู่โสมแต่มีใครบางคนทำให้เป็น ไม่ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม อย่างนี้เองจึงเป็นผีปู่โสมเฝ้าสมบัติของแท้ เรื่องเอาคนมาฆ่าแล้วตรึงวิญาณให้เฝ้าสมบัตินี้มักได้ยินบ่อยๆ เป็นความเชื่อของลัทธิมายาศาสตร์

 

วันนี้รอบค่ำๆจะมาแจ้งปิดกิจกรรมนะครับ ตอนนี้ยัง PM มาเล่ากันได้อยู่

 

เดี๋ยวมืดๆจะประกาศปิดกิจกรรมแล้วคืนนี้จะประกาศผลนะครับ เห็นมีประสบการณ์น่าสนใจอยู่แล้วจะสุ่มเอามาลงให้อ่านกันนะ

 

ก็ปิดกิจกรรมนะครับ เดี๋ยวรอบค่ำจะประกาศผลจับฉลากให้

 

ก็มีเล่าประสบการณ์กันมาเยอะ จะค่อยๆสุ่มแล้วก้อปปี้มาให้อ่านกันนะครับ

พี่ท่านนี้เกี่ยวกับพระองค์อินทร์

ได้รู้จักคนขายของคนหนึ่ง เขาบอกดูพระได้ เลยให้เขาดูพระองค์อินทร์จากรูปแล้วทาย
คือเราจะช่วยให้เขามีรายได้บ้าง
ทายไปแล้วยกแรก ก็ฟังๆไปอย่างงั้น สักพักแกบอกองค์พระสื่อบอกแกให้มาบอกเรา ใช้องค์นี้รักษาโรคได้ เฮ้ย นี่พระสายเสน่ห์นะ คิดอีกที ตอนนั้นก็เครียดๆเรื่องสุขภาพแม่อยู่
เหมือนพระมาบอกผ่านแก ใช้แบบนี้ก็ได้นะ พระของอาจารย์พ่อนี่ ครบเครื่องจริงๆเลย
เปลี่ยนโหมดการทำงานตามสถานการณ์ได้ด้วย อย่าคิดว่าเปนพระสายหนึ่งสายใดเพียงอย่างเดียว

 

พี่ท่านนี้รอฟังเรื่องน้องก้อนทอง

ส่วนตัวผมมีประสบการณ์กับวัตถุของท่านพ่ออ.พลในแบบที่ไม่หวือหวามากนัก จะออกแนวมาเรื่อยๆมากกว่าครับ ปกติผมจะสลับองค์พระขึ้นคอตามโอกาส ที่ติดตัวอยู่เกือบตลอด (ยกเว้นตอนนอน จะถอดออกหมด) จะมีตะกรุดพระยาพิเภกค้ำดวง,ตะกรุดมงคลอธิษฐานและน้องก้อนทองครับ

ผมเคยหยิบตะกรุดมงคลอธิษฐานมาอธิษฐานขอให้ถูกหวย งวดนั้นถูกกินครับ 555
ลองขออีกงวดก็ถูกกินอีก มานั่งนึกๆดูสงสัยดวงเราไม่มีก็เลยหยุดขอไป ต่อมามีโอกาสกลับบ้าน
ที่บ้านผมก็เล่นหวยกันพอสมควร ผมจะซื้อก็ไม่รู้จะซื้อเลขอะไร เลยหยิบตะกรุดมาอธิษฐาน
ขอให้คนในบ้านถูกหวย ปรากฏว่างวดนั้นถูกหวยกันทั้งบ้าน คนที่เล่นหวยถูกหวยทุกคน ถูกแบบงงๆจากเลขที่ไม่ได้เด่นอะไร ขนาดคนซื้อยังจำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าซื้อเลขนี้ด้วย 555 แต่ครับแต่ ถูกเท่ากับเงินที่เล่นหวยไปทุกคนเลย คือคนที่เล่นเยอะก็ได้เยอะ เล่นน้อยก็ได้น้อย แต่พอมาหักลบค่าหวยนี่ ทุกคนไม่ได้กำไร แต่ไม่ขาดทุน เหมือนเท่าทุนนั่นล่ะ 555
ผมก็อมยิ้มไปนึกไปว่า เออ สงสัยดวงด้านลาภลอยช่วงนี้ไม่มีกันซักคน จะได้ก็ได้เท่าทุนแค่นั้น
ปกติผมไม่ค่อยหยิบตะกรุดมาอธิษฐานอะไรนะ พกติดตัวไว้อย่างเดียว จะขอก็รู้สึกเกรงใจยังไงไม่รู้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 555

ยังเหลือเรื่องน้องก้อนทองอีก แต่เอาไว้ก่อนรอว่างๆก่อน อันนี้ว่าจะเล่านานละแต่เล่ายากและยาววว 555