ล้านคำถามของคนมีองค์?

แนะนำตัว​

ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคับ ผมไม่ได้มาดูดวง ผมแค่ชี้แนวทางการปฎิบัติหลักพระพุทธศาสนาผนวกกับเทพยาดาที่คุ้มครองของแต่ละบุคลเพื่อจะไม่ได้หลงผิดเหมือนกับแม่บุญธรรมของผม มันเป็นเรื่องเดียวที่ผมแก้ไขไม่ได้แล้ว หรือผู้ใดมีความรู้เรื่องพวกนี้โปรดกรุณาแนะนำคนที่เริ่ม หรือเริ่มมาไม่ถูกช่วยให้เขาเจอแสงสว่างด้วย

 

ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เอาเป็นว่าส่วนหนึ่งผมไม่อยากเห็นคนทุกคนโดนหลอกว่ามีองค์แล้วไปรับอะไรต่อมิอะไรมา บางคนหมดเงินเป็นแสนก็มี บางคนอาจเดินทางผิด อาจจะไปเล่นอวิชาโดยไม่รู้ตัว
คนละเอียดอ่อนของคนมีองค์กับคนธรรมดามันต่างกันแต่คงมีองค์ มันเหมือนดาบสองคนผมไม่อยากเห็นคนๆนั้นโดนบาดเพราะมีดที่ตัวเองถืออยู่

 

ข้ามีองค์นะ แต่ข้าปฏิเสธ เรามีเสรีภาพส่วนเรา ข้าไม่เอาเลย พวกเทพพวกนี้ข้าทั่งไล่ทั้งด่า ขัามีสรณะของข้า พวกมันอย่าเจือกกับชีวิตข้า พวกนี้ส่วนมากไม่มีเทพอันใดหรอก เป็นเปรตจำพวกหนึ่งแฝงกายแปลงมาเป็นเทพนั้นนู่นนี้เพื่อมาหาความสรรเสริญหรือของเซ่นสนองตัณหา ฉะนั้นคนทรงเจ้าข้าลองทุกคน และไม่กลัว

คำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ดูถูกสติปัญญาเรามานาน
ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ ของจริงต้องพิสูจน์ได้

ทุกวันนี้ นับถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระโพธิสัตว์ พระคุรุ เป็นสรณะ


เพราะไม่มีผีสางเทพใด จะเมตตาได้เหมือนพระโพธิสัตว์ ผู้เมตตาโดยไร้เงื่อนไข

 

คน "มีองค์" กับ "ร่างทรง" ต่างกันอย่างไร?​

คนมีองค์ หมายความได้ถึง คนที่มี องค์พระ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาคุ้มครอง หรือมีความเกี่ยวพันกับชีวิตมาตั้งแต่เกิด อาจจะเป็นพันธะสัญญาแต่ชาติปางก่อน หรือทำบุญกุศลมามาก ทำให้เกิดมาชาตินี้เป็นคนที่สามารถสื่อจิตไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่ไม่มีองค์มาแต่กำเนิด แต่อาศัยการฝึกฝนจิต นั่งสมาธิ สวดมนต์บูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนสามารถสื่อจิตถึงเทพเจ้าได้ เมื่อคนมีองค์แล้ว ไม่หมั่นฝึกจิต สวดมนต์ นั่งสมาธิ การรับรู้สื่อจิตไปถึงองค์ก็จะค่อยๆหายไป กลับมาเป็นคนที่ ไม่มีองค์ ไปในที่สุด...

ร่างทรง คือคนที่ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือสามัญชนทั่วๆไป ด้วยการแสดงอิทธิฤทธิ์ เช่น อมควันธูป เดินลุยไฟ เหยียบหนาม เสกของ จัดสร้างวัตถุมงคลระดับต่ำ ทำนายทายทัก รักษาโรค ทำไสยศาสตร์ เล่นของดำ โดยส่วนใหญ่มักจะแอบอ้างพระนามของเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ดูยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์

นอกจากเรื่องเข้าทรง ยังมีเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ภาพนิมิต เสียงแว่วๆ พูดภาษาแปลกๆ อะไรต่อมิอะไรมั่วไปหมด ทำให้ศาสนาเสื่อม การทำนายทายทักที่เห็นว่าพวกร่างทรงนั้นสามารถทำได้อย่างแม่นยำ ก็เพียงแค่คาดเดา หรือไม่ก็หากแม่นจริงๆ ก็คือการเล่นวิชา ไสยศาสตร์ของเขมร (พวกนี้มีจริงๆครับ แต่ไม่ใช่แนวทางของศาสนาฮินดู) พวกที่นิมิตเห็นอดีตของเรา ทายเงินในกระเป๋าสตางค์ได้ถูกต้อง ทายชื่อแฟนเก่า ทายใจ ตอบได้ว่าสามี-ภรรยามีชู้อยู่ที่ไหน ตลอดจนการเสกของเข้าท้อง ฯลฯ พวกนี้มีอยู่จริง แต่เป็นวิชามาร (ทางเขมร หรือพม่า) คนโดนของจากพวกนี้จะถูกฉุดดึงให้ชีวิตตกต่ำ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น คนที่รู้ตัวและต้องการจะหลีกห่างจากร่างทรงพวกนี้ก็จะโดนไสยศาสตร์เช่นกัน ขอจงเข้าใจว่า วิชามารพวกนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์และฮินดูทุกพระองค์

คนที่ถูกทักว่า มีองค์ อย่าเพิ่งไปหลงเชื่อหลงดีใจ เพราะคนมีองค์ไม่ใช่ว่ามีได้ง่ายๆ บุญกุศลไม่ถึงพอก็ไม่สามารถมีได้เลยตลอดชีวิตนี้ ถามตัวคุณเอง ก่อนว่าคุณได้ปฏิบัติศีล ปฏิบัติธรรม ทำบุญกุศลไว้มากมายเพียงพอที่จะ มีองค์ ได้แล้วหรือไม่ แม้แต่นักบวช พราหมณ์ พระสงฆ์ เกจิอาจารย์ ผู้ปฏิบัติธรรมแก่กล้ามีวิชา ก็มีอีกนับไม่ถ้วนที่ยัง "ไม่มีองค์" เลย!!!!

สรุป...คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็น ร่างทรง...
ร่างทรง อาจจะ ไม่มีองค์ เลยก็ได้ (ผู้ที่เข้าข่ายหลอกลวง)
คนมีองค์ ไม่จำเป็นต้อง รับขันธ์ เพราะการรับขันธ์ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูแม้แต่น้อย
ถ้ามีคนทักว่า มีองค์ ก็ให้เฉยๆไว้ อย่าหลงเชื่อ... คุณอาจจะมีองค์จริง หรือไม่มีองค์ ก็ไม่มีใครทราบ และไม่จำเป็นต้องทราบ...
อย่าไปเสียเงินค่าพิธีแม้แต่บาทเดียว เพราะถ้าเสียเงินครั้งแรกจากการรับขันธ์..คุณจะโดนของเขมรทันที...และต้องเสียไปเรื่อยๆจนหมดตัวในที่สุด!!

ขอให้กลับไปสวดมนต์ภาวนาบูชาพระอย่างเดิม ไหว้พระก็ไหว้ที่บ้าน อยากไหว้นอกบ้านก็เข้าวัดหรือเทวสถานไปเลยจะดีกว่าครับ...

 

ข้อมูลดี....เยี่ยมๆ ถ้าแบบที่เอ็งบอกข้ามี

ตอนเด็กๆข้าเรียกว่าท่าน เขาจะคุยกับข้าในความคิด พอโตขึ้นเราก็นึกว่าเป็นแค่จินาการไม่ได้สนใจอะไร แต่แม่นยำจนข้าไม่รู้ว่าคืออะไร โอ้ยเรื่องยาวไว้อารมย์ดีจักมาเล่า

ทุกวันนี้เราก็รู้แล้วว่าท่านคือใคร เขาก็คือครูบาจารย์นั้นแหละ

 

ผมมาบอกในบางสิ่งที่พิสูจน์ได้ ผมไม่ได้มานั่งดูนิ อีกอย่างผมก็ด่าเทพมาแล้วเหมือนกัน อย่้างที่คุณพูดก็มีจริงพวกสัมปะเวสี อีกอย่างนะผมไม่ได้แนะให้เป็นคนทรงเจ้า หรือร่างทรง ผมก็แค่แนะนำในบางสิ่งที่คนมองข้ามไป สิ่งที่คุณนับถือมันก็ถูกแล้ว แต่พระโพธิสัตว์ นี่คุณว่าไม่ใช่เทพหรอ ผมว่าท่านก็เป็นคนนะ แต่เทพเขาสอนให้รู้จักทำความดี นี่สิที่ผมสน
ขอบคุณที่แสดงความเห็น

 

ไปเป็นไรมาละ อารมณ์ไม่ดี
ผมจะรอฟังนะครับท่าน

 

มีองค์แล้วเหอะได้ไหม พ่นไฟได้ไหม ไม่ต้องกินต้องนอนไหม ถ้าทำไม่ได้ ก็ไอ้คนธรรมดานี่แหละ แอบอ้างชื่อองค์เทพ ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง สนองความต้องการ กาม ราคะในจิตตนเอง เท่านั้นเอง

 

ที่คุณจะบอกว่านี่ คือ เหาะใช่ไหม โทษนะคับ คนมีองค์ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะได้ พ่นไฟได้ หรือเหาะได้ การที่แอบอ้างชื่อนั้นละที่ผมกลัว ไม่งันผมจะตั้งกรทู้มาทำไม ก็เพราะผมเห็นมาเยอะ ถึงต้องทำอะไรสักอย่าง
ผมถามคุณอย่างนี้ดีกว่านะคุณไม่สงสารหรอคนที่ไม่ผิดคนที่ไม่มี คนที่เสียเงินคนที่กำลังหลงทาง คนที่กำลังสงสัย
ฝากไว้อีกสักอย่างละกันนะ ถ้าพวกคุณไม่คิดที่จะเริ่มช่วยหรือไม่คิดจะเริ่มทำอะไรสักอย่างบนโลกนี้มันจะดีขึ้นไหม สังคมมันจะน่าอยู่ขึ้นไหม หรือคุณต้องการจะไป แค่ไม่ถึง 10ล้านคน
ลืมบอกอีกอย่าง ถึงคนพวกนี้จะเหาะไม่ได้ หรือพ่นไฟไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่สามารถเป็นคนดีได้ (พ่นไฟได้ทำให้นิพานได้หรอ) ผลสุดท้ายสายไหนก็มาจบที่เดียวกันมิใช่หรอท่าน

 

มิต้องหาอภินิหารที่ใดดอก

คนมีองค์ก็เหาะได้ คนไม่มีองค์ก็เหาะได้ อยู่ที่ว่ามีตังค์หรือป่าว ยุคนี้เป็นยุคแห่งอภินิหาร อยู่ต่างที่คนละมุมโลก็คุยกันได้ คนไม่เคยรู้จักกันก็คุยกันได้ จากเดินทางกันเป็นวันๆเหลือแค่ ไม่กี่นาที อยู่ที่ว่าเงินมีมั๊ย จะกินอะไรก็กดๆปุ่มโทรไปมันก็มาส่ง ดูบอลที่แข่งที่อังกฤษได้

ข้าว่าถ้าเอาโยคีผู้มีฤทธิมีอภินิหารยุคก่อนมาเจอยุคนี้ สงสัยหัวใจวายตาย 555

อภินิหารทั้งนั้นแต่อยู่ที่ว่าเงินมีไหม ^^

 

อันนี้ฮาดีท่าน
ขอบคุณสำหรับมุขสุดฮา

 

"ตัวกู-ของกู" ที่หลวงพ่อพุทธทาสย้ำนักย้ำหนา เป็นเวลาสิบๆปีมาแล้ว เป็นข้อธรรมที่แสลงใจพุทธบริษัทส่วนมาก เพราะเป็นคำสอนที่ตีลงไปที่แสกหน้า จี้ลงไปที่กลางใจ เป็นคำสอนแบบถอนรากถอนโคน......

 

ตัวกู-ของกู อีกก็อีกประโยคที่ต้องมานั่งบอกเพราะคนพวกนี้เป็นกันเยอะมาก

 

ผมก็ตัวเปล่า ยึดมั่นในพระรัตนตรัยครับ เข้าใจง่ายดี

ป.ล. เอาอีกเยอะๆครับ ชอบทุกโพสต์

 

ในพระไตรปิฏก มีกล่าวเหมือนกัน

เป็น เปรตที่มีฌาณสมาบัติชั้นสูง เทพเทวายังสู้ไม่ได้

วันหนึ่ง เปรตตนนั้นไปหลงรักสาวชาวบ้าน ลูกของยายตาบอด คนหนึ่งเข้า

ลูกสาว ก็อยากให้แม่สุขสบาย ดำริในใจ ว่าหากมีใครดลบันดาลเงินให้หมู่
ญาติโกโหติกาทั้งหมดได้ ก็จะยกตนเป็น ภรรยา

เปรตตนนั้นก็สบช่อง จำแลงกายมาเป็น เทพบุตรสุดอร่าม พร้อมทั้งเสนอ
หรือ กระซิบทางรวยให้ และจะให้กับ บรรดาญาติทั้งหมด ไม่มียกเว้น
ขอให้ สาวรับตนเป็นสามี

สาวก็รับเลยอย่างไม่รีรอ แล้ว หมู่ญาติก็ได้ทรัพย์ได้ทอง ถูกหวยกันเป็น
ไหเป็นกะละมัง เรียกว่า ชาตินี้ไม่มีใครอด ถึงลูกถึงหลาน

แล้ว สาวคนนั้นก็ไปอยู่กินกับเปรตตนนั้นในวิมาน ล่วงไปได้วันเดียว ก็
คิดถึงแม่ อยากไปพบแม่ เปรตผู้เป็นสามีก็จนใจต่อการอ้อนวอนไม่ไหว
เลยพากลับมาที่บ้าน

พอมาถึง บ้าน และ เมือง ก็กลายเป็นผง เป็นเมืองร้าง หมดญาติ
ขาดมิตรไปหมดแล้วเพราะ 1วันในวิมาน เท่ากับ 200ปี บนโลก

* * * * * *

จากเรื่องราวนี้ แสดงให้เห็นว่า เปรตบางจำพวก มีฤทธิ์และอำนาจ
เหนือพรหม และ หมู่เทวดา

แล้ว องค์ ที่คุณเจอ คืออะไร ?

ตบปาก รับคำไม่พิจารณาใคร่ครวญ ก็อาจจะได้ชื่อว่า

เป็นภรรยา หรือ สามีกับเปรต นะเอา

ไปคอย สนองตัณหาเขา ว่างั้นเถอะ

 

สงสัยแค่ว่า . . ขึ้นชื่อว่าเปรต จะมี ฌาณ สูงกว่าเทวดาได้ด้วยหรือครับ ก่อนที่จะเป็นเปรต ก็ต้องทำกรรมไว้เพียบ ไม่ใช่หรือ -*- ยังมีตัณหาอยู่ด้วยซ้ำ ยังมีกิเลสอยู่ผมว่าไม่น่ามีทางที่ฌาณจะสูงกว่าเทวดานะครับ

 

ตามที่เราเข้าใจนะ
ฌานนี่เป็นตัวสมาธิเนอะ จิตที่เป็นสมาธิมีฤทธิ์มีเดชมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันไม่ใช่ตัวปัญญาถอดถอนกิเลสไง ไม่เกี่ยวกันเลย คนที่ทำนิพพานให้แจ้งไม่ต้องได้ฌานก็ได้ ถึงจะได้ฌานแต่สะสมความโลภไว้มาก ตายไปก็ไม่พ้นเปรต สะสมความโกรธไว้มากตายไปเป็นอสูรกาย สัตว์นรก สะสมความหลงไว้มากตายไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน(มนุษย์ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย) ส่วนเทวดาสะสมหิริโอตัปปะ(ความเกรงกลัวละอายต่อบาป)จ้ะ....โอเคป่ะ
อนุโมทนา สาธุกับทุกท่านจ้าาา
นิพพานังปัจโยโหตุ.....

 

มิต้องเทวดาหรอก อ้างเป็นต่างดาวก็เยอะแยะ ไปตามสมัยที่มันจะหาอามิสได้นะ
เว็บนี้เจอทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องบอกนะว่าพวกไหน

 

ลองแทนคำว่าสะสม เป็นคำว่าบำเพ็ญแทนก็ได้นะ ทำให้เข้าใจลึกขึ้นไปอีก....
เจริญในธรรมจ้าาา^-^

 

ไอ๊ย่ะ โดน!!!