วัดพระธาตุดอยคำ ฉากหลัง...มหกรรมพืชสวนโลก

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 31 มกราคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>วัดพระธาตุดอยคำ ฉากหลัง...มหกรรมพืชสวนโลก</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ หากแหงนหน้ามองบริเวณฉากหลังของ "หอคำหลวง" จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์สีขาว สุกสกาว ขนาดมหึมา


    ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนยอดดอยที่มีความเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่
    น้อยคนนักจะทราบว่า เป็นที่ตั้งของ วัดพระธาตุดอยคำ วัดที่มีประวัติอันเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ มานานกว่า ๑,๓๐๐ ปี ที่สำคัญภายในวัดมีลานชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของงานมหกรรมพืชสวนโลก ทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจน
    วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียงมาตั้งแต่โบราณ เป็นอีกวัดหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่มีความน่าสนใจในด้านการท่องเที่ยว การศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวล้านนาโบราณ
    ต้นเหตุแห่งการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ สืบเนื่องมาจาก เจ้าแม่อินหวัน ณ เชียงใหม่ ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ล่วงลับไปเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ สิริรวมอายุ ๘๖ ปี
    หลังจากนั้นประมาณ ๗-๘ วัน เจ้ากุลวงศ์ ทายาทคนหนึ่งของท่านฝันว่า เจ้าแม่ขอให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้บนที่สูง เพื่อให้ชาวบ้านบูชากราบไหว้จากระยะไกลได้
    จากนั้นจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้บรรดาญาติพี่น้องได้ทราบโดยทั่วกัน และได้รวบรวมเงินทุนจำนวน ๔.๕ แสนบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างพระพุทธรูป
    โดยได้ไปนมัสการ พระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ปรารภเรื่องการจัดสร้างพระพุทธรูปขึ้น
    ท่านพระครูแนะนำให้สร้างไว้บน วัดพระธาตุดอยคำ เพราะเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล และจะเป็นศรีสง่าแก่ จ.เชียงใหม่ ในอนาคต อีกด้วย พร้อมกับได้ติดต่อขออนุญาตการก่อสร้างจากกองบิน ๔๑ จ.เชียงใหม่ และกระทรวงกลาโหม
    เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็ได้เริ่มงานก่อสร้างขึ้น เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๓๑ และแล้วเสร็จเมื่อต้นปี ๒๕๓๔ โดยถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธพีสีพิงครัตน์ อันมีความหมายว่า พระพุทธรูปอันเป็นแก้วที่ประเสริฐของเมืองเชียงใหม่
    วัดพระธาตุดอยคำ เดิมชื่อว่า วัดสุบรรณบรรพต ซึ่งตั้งอยู่บนดอยคำ แต่ชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า "วัดดอยคำ" ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญคู่กับประวัติศาสตร์ของอาณาจักรล้านนามาแต่โบราณ
    ตามประวัติ วัดนี้สร้างโดยพระโอรสทั้ง ๒ พระองค์ของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีแห่งนครลำพูน คือ เจ้ามหัตยศ และ เจ้าอนันตยศ เมื่อ พ.ศ.๑๒๓๐
    จากตำนานก่อนพระพุทธกาลเล่าว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับยังดอยคำ ซึ่งแต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ ๓ ตน ได้แก่ ยักษ์สองผัวเมีย ชื่อ จิคำ และ ตาเขียว และลูกยักษ์อีก ๑ ตน โดยยักษ์ทั้ง ๓ ตนต้องการจับพระพุทธองค์กินเป็นอาหาร
    ครั้นพระพุทธองค์ทรงแผ่เมตตาจนยักษ์ทั้ง ๓ ตนยอมอ่อนน้อม กราบไหว้บูชา พร้อมทั้งยอมเลิกกินเนื้อมนุษย์ โดยต่อรองขอกินเนื้อสัตว์แทน ทั้งนี้เจ้าเมืองในขณะนั้นก็ยินยอม เพื่อต้องการรักษาชีวิตมนุษย์ไว้
    นับแต่นั้นมา ก็มีพิธีกรรมการฆ่าโคให้ยักษ์กิน หรือที่ชาวเชียงใหม่รู้จักกันในปัจจุบัน คือ พิธีกรรม "ปู่แสะ-ย่าแสะ" นั่นเอง
    บนเนื้อที่ทั้งหมดกว่า ๗ ไร่ ภายใน วัดพระธาตุดอยคำ ประกอบด้วย พระพุทธพีสีพิงครัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สีขาวผ่องดั่งไข่มุก หน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร สูง ๑๗ เมตร ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนดอยคำ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
    องค์พระเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมศิปละแบบล้านนา สร้างครอบสถูปโบราณอายุกว่า ๑,๓๐๐ ปี พร้อมกับวิหารหลวง
    พระครูสุนทรเจติยรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นมากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัดนี้ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งได้ครบกำหนด ๓ เดือนในวันนี้ แม้ว่างานพืชสวนโลกจะผ่านไปแล้วก็ตาม หวังว่าคงจะยังมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ขึ้นมาสักการบูชาพระพุทธพีสีพิงครัตน์ พร้อมกับชมความสวยงามของวัดพระธาตุดอยคำ และทัศนียภาพรอบวัดต่อไปอีก
    0 เรื่อง / ภาพ พิชัยยง มาเยอะกู่ 0

    -->[​IMG]


    นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ หากแหงนหน้ามองบริเวณฉากหลังของ "หอคำหลวง" จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์สีขาว สุกสกาว ขนาดมหึมา
    ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนยอดดอยที่มีความเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่
    น้อยคนนักจะทราบว่า เป็นที่ตั้งของ วัดพระธาตุดอยคำ วัดที่มีประวัติอันเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ มานานกว่า ๑,๓๐๐ ปี ที่สำคัญภายในวัดมีลานชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของงานมหกรรมพืชสวนโลก ทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจน

    [​IMG]

    วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียงมาตั้งแต่โบราณ เป็นอีกวัดหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่มีความน่าสนใจในด้านการท่องเที่ยว การศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวล้านนาโบราณ
    ต้นเหตุแห่งการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ สืบเนื่องมาจาก เจ้าแม่อินหวัน ณ เชียงใหม่ ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ล่วงลับไปเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ สิริรวมอายุ ๘๖ ปี
    หลังจากนั้นประมาณ ๗-๘ วัน เจ้ากุลวงศ์ ทายาทคนหนึ่งของท่านฝันว่า เจ้าแม่ขอให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้บนที่สูง เพื่อให้ชาวบ้านบูชากราบไหว้จากระยะไกลได้

    [​IMG]

    จากนั้นจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้บรรดาญาติพี่น้องได้ทราบโดยทั่วกัน และได้รวบรวมเงินทุนจำนวน ๔.๕ แสนบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างพระพุทธรูป
    โดยได้ไปนมัสการ พระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ปรารภเรื่องการจัดสร้างพระพุทธรูปขึ้น
    ท่านพระครูแนะนำให้สร้างไว้บน วัดพระธาตุดอยคำ เพราะเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล และจะเป็นศรีสง่าแก่ จ.เชียงใหม่ ในอนาคต อีกด้วย พร้อมกับได้ติดต่อขออนุญาตการก่อสร้างจากกองบิน ๔๑ จ.เชียงใหม่ และกระทรวงกลาโหม
    เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็ได้เริ่มงานก่อสร้างขึ้น เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๓๑ และแล้วเสร็จเมื่อต้นปี ๒๕๓๔ โดยถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธพีสีพิงครัตน์ อันมีความหมายว่า พระพุทธรูปอันเป็นแก้วที่ประเสริฐของเมืองเชียงใหม่
    วัดพระธาตุดอยคำ เดิมชื่อว่า วัดสุบรรณบรรพต ซึ่งตั้งอยู่บนดอยคำ แต่ชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า "วัดดอยคำ" ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญคู่กับประวัติศาสตร์ของอาณาจักรล้านนามาแต่โบราณ
    ตามประวัติ วัดนี้สร้างโดยพระโอรสทั้ง ๒ พระองค์ของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีแห่งนครลำพูน คือ เจ้ามหัตยศ และ เจ้าอนันตยศ เมื่อ พ.ศ.๑๒๓๐
    จากตำนานก่อนพระพุทธกาลเล่าว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับยังดอยคำ ซึ่งแต่เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ ๓ ตน ได้แก่ ยักษ์สองผัวเมีย ชื่อ จิคำ และ ตาเขียว และลูกยักษ์อีก ๑ ตน โดยยักษ์ทั้ง ๓ ตนต้องการจับพระพุทธองค์กินเป็นอาหาร
    ครั้นพระพุทธองค์ทรงแผ่เมตตาจนยักษ์ทั้ง ๓ ตนยอมอ่อนน้อม กราบไหว้บูชา พร้อมทั้งยอมเลิกกินเนื้อมนุษย์ โดยต่อรองขอกินเนื้อสัตว์แทน ทั้งนี้เจ้าเมืองในขณะนั้นก็ยินยอม เพื่อต้องการรักษาชีวิตมนุษย์ไว้
    นับแต่นั้นมา ก็มีพิธีกรรมการฆ่าโคให้ยักษ์กิน หรือที่ชาวเชียงใหม่รู้จักกันในปัจจุบัน คือ พิธีกรรม "ปู่แสะ-ย่าแสะ" นั่นเอง
    บนเนื้อที่ทั้งหมดกว่า ๗ ไร่ ภายใน วัดพระธาตุดอยคำ ประกอบด้วย พระพุทธพีสีพิงครัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สีขาวผ่องดั่งไข่มุก หน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร สูง ๑๗ เมตร ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนดอยคำ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
    องค์พระเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมศิปละแบบล้านนา สร้างครอบสถูปโบราณอายุกว่า ๑,๓๐๐ ปี พร้อมกับวิหารหลวง
    พระครูสุนทรเจติยรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นมากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัดนี้ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งได้ครบกำหนด ๓ เดือนในวันนี้
    แม้ว่างานพืชสวนโลกจะผ่านไปแล้วก็ตาม หวังว่าคงจะยังมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ขึ้นมาสักการบูชาพระพุทธพีสีพิงครัตน์ พร้อมกับชมความสวยงามของวัดพระธาตุดอยคำ และทัศนียภาพรอบวัดต่อไปอีก
    0 เรื่อง / ภาพ พิชัยยง มาเยอะกู่ 0

    -------------------
    Ref.
    http://www.komchadluek.net/2007/01/31/j001_86936.php?news_id=86936

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...