วันสิ้นโลกก็เรื่องหนึ่้งภัยพิบัติก็เรื่องหนึ่ง อยากฝากเตือนสักนิด อย่านำมารวมกัน

วันสิ้นโลกก็เรื่องหนึ่้งภัยพิบัติก็เรื่องหนึ่ง แต่เมื่อเอาสองเรื่องมารวมกัน ความประมาทจึงเกิด

เวลาที่เกิดภัยพิบัติ ก็จะมีการลือถึงวันสิ้นโลกอยู่เสมอ เพราะเรื่องวันสิ้นโลก เป็นตำนานที่ผูกอยู่กับมนุษย์มาแสนนาน โดยคอนเซปต์คือ โลกทั้งหมดจบสิ้นแล้วถูกพิพากษาโดยอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่สูงสุดของมนุษย์ ซึ่งเป็นลักษณะความเชื่อที่ผูกอยู่กับศาสนาใหญ่ ๆ บนโลก และกินเวลาผูกพันธ์กับมนุษย์มาร่วมพันถึงสองพันปีบางทีเมื่อมาการแตกศาสนาใหม่ หรือนิวเอจอะไรต่าง ๆ หรือข้อมูลทางตำนานเผ่าโบราณ ก็จะดึงเรื่องวันสิ้นโลกมาโยงกันไม่รู้จักจบสิ้น พอมีเหตุการณ์โลกใหญ่ ๆ ขึ้นมา ก็จะต้องเอามาโยงวันสิ้นโลกเสมอ เพราะวันสิ้นโลกเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจ ให้เชื่อในความเชื่อของตนหรือบรรพบุรุษตน ไม่ให้เสียศรัทธาว่าที่อุตสาห์ยึดถือมาทั้งหมดจะเป็นเรื่องสูญปล่าวไป


แต่เรื่องวันสิ้นโลก ผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ผลลัพธ์ที่ออกมาต้องเรียกว่า สร้างความขมขื่นให้แก่นักเชื่อวันสิ้นโลก อยู่เสมอ เพราะมันไม่สิ้นเสียที อันที่จริงเราอาจต้องยอมรับความจริงกันได้แล้วว่า วันสิ้นโลกที่ว่าตามตำนานนั้น คงไม่ได้มีอยู่จริง หรืออย่างน้อยถ้าแรงถึงขั้นโลกหายนะเกิดเหตุการณ์ใหญ่จนมนุษย์สูญสิ้น มันก็คงยังอีกนานแสนนานซึ่งเกินอายุขัยมนุษย์ไปอีกไม่รู้อีกกี่รุ่น และเมื่อการเก็งวันสิ้นโลกสำคัญ ๆ ผ่านไป เราก็อาจคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว และไม่ต้องมากังวลอะไร ไปใช้ชีวิตให้แสนสบายดีกว่า แต่!

ภัยพิบัติ เป็นคนละเรื่องกับวันสิ้นโลก การไม่มีวันสิ้นโลก ไม่ได้แปลว่า ภัยพิบัติมันจะหายไปหรือจะถูกแคนเซิลไป ภัยพิบัติเป็นสิ่งคู่โลกมาแต่ไหนแต่ไร และพังทลายโลกและสิ่งมีชีวิตอยู่เสมอ ๆ เพียงแต่บางครั้งมากบ้างน้อยบ้าง
บางช่วงแรง บางช่วงเบา ประวัติศาสตร์ในคาบสมัยเรา ต้องถือว่า โชคดีที่อยู่ในคาบช่วงที่เบา มาโดยตลอด แต่ในช่วงชีวิตของเราณ.เวลาปัจจุบันนี้ เราต้องยอมรับว่า มันถี่ เป็นอย่างมาก ความรุนแรงและความวิปริตก็ดูเหมือนจะเพี้ยนจนเราทั้งโลกต้องยอมรับว่ามันผิดปกติไปจริง ผิดปกติจนเรารู้อยู่แก่ใจว่า มันอาจจะต้องการความรุนแรงมาก ๆ อะไรบางอย่างขึ้น ในไม่ช้า ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องระมันระวังเป็นอย่างยิ่ง ภัยพิบัติยังคงคาดเดาไม่ได้และไม่น่าไว้วางใจ การที่วันสิ้นโลกไม่เป็นไปตามที่เก็ง อาจทำให้มนุษย์ประมาทและเลิกระมัดระวังต่อสถานการณ์ที่มันผิดปกติจริง ๆ ของโลกไป ซึ่งจัดเป็นความอันตรายอยู่ไม่น้อย


ภัยพิบัติ ยังคงเป็นสิ่งที่ควรพูดถึง และเป็นสิ่งที่ยังคงต้่องจับตามองอย่างยิ่งยวด เพราะโลกเรายังคงแสดงอาการเพี้ยนจริง ๆ เพียงแต่ว่า เราควรลดประเด็นการโยงไปสู่เรื่องวันสิ้นโลกไปเสีย และมาโฟกัสแต่ในเรื่อง ธรรมชาิติที่เราประจักษ์ได้ การค้นหาข้อมูลที่ค่อนข้างจะเป็นจริงจับต้องได้ รวมไปถึงวิธีการป้องกัน หรือการดำรงชีพหากเกิดกรณีฉุกเฉินก็ยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นและธรรมะแห่งพุทธศาสนา กับเรื่องภัยพิบัติก็ไปกันได้เสมอ แต่ควรเป็นไปในแง่เพื่อเตือนสติ ให้เข้าใจต่อความจริงแห่งธรรมชาติ และ เพื่อเตรียมสภาพให้พร้อมต่อความไม่แน่นอนแห่งโลกที่อาจเกิดขึ้น มากกว่าจะเน้นหนักไปที่อภินิหารย์ หรือการพยายามไปโยงกับเรื่องวันสิ้นโลกตามความเชื่ออื่น ๆ เขา

ขอให้ทุกท่านมีสติ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท พร้อมทุกเมื่อ ต่อยุคสมัยแห่งภัยพิบัติอันคาดเดาไม่ได้อันมีแนวโน้มถี่และรุนแรงขึ้น กว่ายุคก่อน ๆ หวังว่าผู้ติดตามเรื่องภัยพิบัติ จะยังคงติดตาม และให้ข้อมูลข่าวสารต่อไป เพราะยังคงเป็นเรื่องสำคัญและยังจำเป็นอยู่จริง ๆ

 

คนเค้าอุตส่าห์มาเตือน จะพูดอะไรก็ได้

ใครคัดค้าน เป็นฝ่ายมาร เป็นคนไม่ดีหมด ผิดศีลผิดธรรมหมด

เหอๆ

 

แบบว่า..ไม่อยากให้เครียด..หรือจะมาว่ากล่าวกันไปกันมา
เลยเอาอันนี้มาให้อ่าน..ขำๆ นะ