วิชากระสุนคต หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ วัดหนองกระดี่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย montrik, 12 พฤศจิกายน 2020.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    วิชากระสุนคต หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์
    14 สิงหาคม 2020#พรานหญิง ตำนานเกจิสยาม

    65Untitled-1.png

    วิชากระสุนคต หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ ปะลองเปิงด๊าจ์ก สำรับมอญบ้านป่าแดง ในขณะที่หลวงปู่เคลือบ ยังทรงธาตุขันธ์อยู่นั้น เมื่อท่านมารับเป็นสมภารปกครองอยู่วัดหนองกระดี่เป็นเวลาที่เกียรติคุณของท่านได้ปรากฏขจรขจายแพร่หลายไปทั่วถึงความเรืองเวทย์วิทยาคมของท่าน ได้มีพระภิกษุสงฆ์ตลอดจนฆราวาสและค่อนไปทางนักเลงบ้านต่างๆมาฝากตัวเป็นศิษย์กันหลายท่าน ยังมีกลุ่มมอญทางตำบลทุ่งพงกลุ่มหนึ่งนำโดยมหาทองคำและนางสำเนียง ภัททาจาระ สองสามีภรรยาเดิมอยู่บ้านป่าแดงได้ชักชวนญาติมาฝากตัวเป็นศิษย์กับท่าน

    เมื่อถึงเทศกาลตรุษสงกรานต์มหาทองคำกับภรรยาจะชักชวนญาติพี่น้องพากันหาบสำรับเปิงด๊าจ์ก(ข้าวแช่) มีทั้งคาว-หลาน เดินลัดมาทางบ้านหนองสับปลาร้าทัพทรายมาถวายหลวงปู่ที่วัด โดยถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนั้นทุกปี มหาทองคำ(ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว) เล่าว่า “ถึงวัดมักเป็นสำรับเพลเหยียบหัวกระไดกุฏิยังไม่ทันเห็นตัวท่านเรียกแล้ว”อ้ายคำรึ” หัวร่อฟันดำปี๋ คุณพ่อ(สรรพนามมหาทองคำเรียกหลวงปู่) จำแม่นไม่ว่าใครต่อใคร ลองได้เจอกันสักครั้งจะหายไปกี่ปีๆมาพบกันใหม่ท่านเรียกชื่อถูกหมดจำได้ทุกคน ท่านเป็นจีนชอบฉันข้าวต้มกับเกลือ ถั่วลิสง หรือเนื้อเค็ม ถ้าหวานชอบข้าวตอกน้ำกระทิ ข้าวแช่ไม่ค่อยชอบเท่าไร ยังเคยสัพยอกให้ว่า”คำเอ้ยจะต้มก็ไม่ต้มน้อ” หัวร่ออย่างเดียวแต่ก็ฉันได้

    2-1.jpg

    คราวต่อมาจึงต้มข้าวต้มใส่หาบไปด้วย เวลาท่านฉันทั้งหมาเอยแมวเอยล้อมหน้าล้อมหลัง ท่านไม่ไล่และห้ามไม่ให้ใครตีด้วยทั้งยังป้อนให้กินเสียอีกแมวกินคำหนึ่งท่านกินคำหนึ่ง มหาทองคำเล่าถึงวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมาว่า ท่านไม่ได้ซี้ซั้วสอนให้ทุกคนได้มากบ้างน้อยบ้างเป็นวาสนาต่างกันไป ตัวได้วิชาผูกพยนต์เฝ้าข้าว(สะอะนิโส,เรียก โสสะอะนิ,ปลุก นิโสสะอะ,ขับ อะนิโสสะ,ผูก) วิชาทำนายและวิชาคงกระพันท่านกำชับเสมอว่า “จงใช้เพื่อคุ้มตัว อย่าได้ใช้ในทางผิดทางระยำ”

    พร้อมกับเล่าว่ามีอยู่ครั้ง เวลาบ่ายๆนั่งคุยกำลังสนุกๆกับท่านบนกุฏิจู่ๆท่านนิ่งไปและเรียกหาอ้ายจงเด็กวัดให้หยิบคันกระสุนที่แขวนอยู่ข้างฝาในกุฏิมาให้ ท่านพูดว่า”หนอยแน่ อ้ายแมวโขมย” พูดพลางยิงลูกกระสุนออกไปทางหน้าต่างกุฏิ สักพักได้ยินเสียงคนร้องโอยมาทางสระท้ายวัด จึงพากันวิ่งไปดูเห็นหลังคนไวๆ ๒ คน ขึ้นจากสระทิ้งสุ่มทิ้งตะข้องใส่ปลาเอามือกุมหัวจึงรู้ว่า เป็นหัวโขมยลักปลาวัด สักพักก็พากันเข้ามาขอขมาท่าน สังเกตุดูโดนที่หัวปูดเป็นลูกมะนาวแต่ไม่แตก ก็เป็นของปะหลาดอยู่เหมือนกันว่าท่านยิงออกไปโดยไม่เห็นตัวคนแต่ยิงโดนได้อย่างแม่นยำและยิงลูกเดียวแต่โดนทั้ง๒คน

    กุลบุตรผู้ที่ได้รับการอบรมมา ครูบาอาจารย์มักจะอบรมสั่งสอนให้อย่างดี ปลูกฝังคุณงามความดี ปลูกฝังคุณธรรม เพราะเสียงสะท้อนจากการปฏิบัติตัวของศิษย์ ย่อมสะท้อนถึงครูบาอาจารย์ ดังคำกลอนที่ว่า” วิสัยครูดูอย่างเหมือนช่างปั้น ต้องคาดคั้นโขลกสับแทบจับไข้ ไม่สันทัดขัดแต่งรุนแรงไป ก็บรรลัยแยกร้าวลงแหลกราญ อันภูมิครูดูได้จากลูกศิษย์ เหมือนดูช่างชาญประดิษฐ์จากเชิงสาน มีลูกศิษย์หัวรั้นอันธพาล เขาประจานด่าครูไม่ดูแล “ อุปมาว่า เมื่อต้นคดแล้ว ก็ยากที่ปลายจะตรง ก็มีความหมายดุจเดียวกัน

    Cr. Narawee Siri


    ฝากข้อคิดก่อนอ่าน
    วิชาเหรียญสองด้านของอาจารย์ไพฑูรย์ท่านนั้นมีประโยชน์ยิ่งนักสำหรับใช้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นมองเป็นสิ่งไม่ดีน่าเกลียดและสวยงามเมื่อลองพิจารณาพลิกดูอีกด้านของเหรียญให้ดีแล้วทุกสิ่งท่านในโลกมีทั้งดีและโทษแฝงไว้อยู่ตรงกันข้ามเสมอ..

    ขอขอบคุณ เวป นักเลงโบราณ
    https://naklangbolan.com/__trashed-56/
     
  2. auUthaithani

    auUthaithani สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +32
    สาธุครับ "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง"
     
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
     

แชร์หน้านี้

Loading...