สมัครลั่น!! บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ พร้อมทิ้งท้ายอย่างแสบๆคันๆ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 27 พฤศจิกายน 2007.

  1. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    เมืองโบราณที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี คือเมืองสำคัญของแคว้นลังกาสุกะ ทั้งเมืองโบราณที่บ้านวัด และบ้านจาเละ เป็นเมืองลังกาสุกะเดิมที่มีการสืบเนื่องกัน และมีอายุอยู่ในสมัยศรีวิชัย คือประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔-๑๕ ลงมา


    เมืองโบราณที่บ้านประแว คือเมืองลังกาสุกะในสมัยหลังก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเมืองปัตตานีที่สัมพันธ์กับตำนานมะโรงมหาวงศ์และตำนานเมืองปัตตานีที่กล่าวถึงการเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม


    การขุดค้นพบพระเจดีย์ที่บ้านจาเละ และข้อมูลที่ได้จากพระพิมพ์ ทำให้สามารถเลื่อนอายุของแคว้นและเมืองลังกาสุกะขึ้นไปถึงพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔-๑๕ ร่วมสมัยเดียวกับศรีวิชัย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลังกาสุกะคือศรีวิชัยในลักษณะที่เป็นเมืองราชธานี (เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ในขณะนี้)


    แต่หากมองศรีวิชัยในลักษณะที่เป็นกลุ่มเมืองหรือสหพันธรัฐที่มีอำนาจทางทะเลแล้ว ลังกาสุกะก็คือรัฐหนึ่งหรือแคว้นหนึ่งที่เป็นเครือข่ายของศรีวิชัย เป็นรัฐที่งอกงามขึ้นจากความเจริญทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการค้าขายทางทะเลอย่างแน่นอน เพราะโดยสภาพทางภูมิประเทศและตำแหน่งที่ตั้งของเมืองปัตตานีเอง คือมีลักษณะเป็นอ่าวที่พักจอดเรือได้ มีลำน้ำที่ยาวลึกเข้าไปจนจรดเทือกเขา บริเวณสองฝั่งแม่น้ำมีที่ราบลุ่มให้ตั้งชุมชนบ้านเมืองได้


    เมืองลังกาสุกะที่อำเภอยะรัง เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมกับบรรรดากลุ่มชนที่อยู่ภายในด้วย เพราะตามลำน้ำปัตตานีไปทางตะวันตกนั้น มีชุมชนบ้านเมืองและป่าเขาที่เป็นที่มาของสิ่งที่เป็นสินค้าป่าอีกมากมาย และถ้าหากข้ามเทือกเขาลงสู่ฝั่งทะเลด้านตะวันตกก็เป็นเขตแดนของแคว้นไทรบุรีและเประ ที่เป็นแหล่งบ้านเมืองโบราณอีกเช่นกัน

    ฉะนั้น ความสำคัญของลังกาสุกะจึงอยู่ในลักษณะที่สมบูรณ์กว่าเมืองอื่น ๆ ในด้านหลักฐานทางโบราณคดีและสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์


    ถ้าจะถามว่า "ลังกาสุกะ" คืออะไร


    คำตอบคือ คือชื่อเมือง (อิ) ลังคาโศกะ ในภาษาสันสกฤต คือ ลังคะ กับ อโศกะ แปลว่า "เมืองสหพันธรัฐแห่งอโศก" ปรากฏชื่อตามเอกสารจีนว่า หลังหยาชูว ใน "พุทธศตวรรษที่ ๑๑" (เก่าแก่กว่า "สุโขทัย" ที่ "ประวัติศาสตร์ไทย" สั่งสอนกันในโรงเรียนทั่วประเทศมาช้านานว่าบรรพบุรุษของ "คนไทย" ได้อพยพลงมาจากตอนใต้ของเทือกเขาอัลไต แล้วมาตั้ง "สุโขทัย" เป็น "ราชธานีแห่งแรก" เมืองราว "พ.ศ. ๑๘๐๐") และต่อมาเรียกผิดเพี้ยนไปในเอกสารอาหรับและมลายูในพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๒ ว่า ลังคะศุกา และลังกะสุกะ แล้วมาเพี้ยนเสียงในภาษาไทยโดยนักวิชาการไทยนำมาใช้ว่า "ลังกาสุกะ
     
  2. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ลังกาสุกะ เคยเป็นเมืองอิสระในภาคใต้ที่มีเอกราชในการปกครอง มีฐานะเป็นประเทศ และเป็นที่รู้จักในประชาคมโลก เพราะปรากฏชื่ออยู่ในแผนที่โลก มีความสัมพันธ์กับอีกสองรัฐ ได้แก่ ลิกอร์ หรือละคร (นครศรีธรรมราช) และสิงขระ (สงขลา)


    มิติประวัติศาสตร์เท่าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าอาณาจักรลังกาสุกะ และราชอาณาจักรปัตตานีตั้งขึ้นเมื่อไร และใครเป็นผู้ก่อตั้ง และเรื่องนี้คงจะหาคำตอบยาก


    อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้บอกให้คนรุ่นหลังต่อ ๆ มาให้รู้ว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของผู้คนเชื้อสายมลายูที่เคยนับถือลัทธิภูตผีและวิญญาณ (animism) มาก่อน


    ส่วนศาสนาพราหมณ์ ฮินดู พุทธ เข้ามามีอิทธิพลต่อผู้คนในภายหลัง ซึ่งโดดเด่นมากในสมัยที่เป็นอาณาจักรลังกาสุกะ ทั้งนี้


    เนื่องจากปัตตานีต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของราชอาณาจักรมัชปาหิต ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ชวากลาง ต่อมาชาวลังกาสุกะได้รับอิทธิพลศาสนาพุทธนิกายมหายานจากศรีวิชัยอีกระลอกหนึ่ง

    เมื่อศาสนาอิสลามแผ่เข้าไปในภายหลัง ทำให้วัฒนธรรมของผู้คนที่นั่นเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกระลอกหนึ่ง ดังนั้น การให้ความสำคัญกับความโดดเด่นตามลักษณะอิทธิพลของกระแสวัฒนธรรมใหญ่ อย่างฮินดู-พุทธ และวัฒนธรรมอิสลามที่ปรากฏต่อมานั้น จึงมีความหมายที่สำคัญ


    ข้อมูลอ้างอิง
    ๑. บทความเรื่อง "ปัตตานีในภาพประวัติศาสตร์ศรีวิชัย" โดย รองศาสตราจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม อดีตอาจารย์ประจำภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, พิมพ์ครั้งแรกในเมืองโบราณ ปีที่ ๑๙ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-มีนาคม ๒๕๓๖), หน้า ๑๙-๓๓.

    ๒. หนังสือ "การปฏิสัมพันธ์ระหว่างศาสนิกที่ปรากฏในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดย รองศาสตราจารย์ รัตติยา สาและ แห่งภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา, พิมพ์ครั้งแรก, ๒๕๔๔ (โครงการย่อยภายใต้โครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว. ซึ่งมี ศาสตราจารย์ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ เป็นหัวหน้าโครงการ และได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.))
     
  3. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    อะส่วนนี้ จาก ประวัติของ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)



    .เมื่อก่อนเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ข้าพเจ้า (สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ)ได้เคยลงไปถึงเมืองเหล่านั้นบางเมือง สังเกตเห็นราษฎรเป็นไทยกับเป็นมลายูมากไล่เลี่ยกัน และตั้งบ้านเรือนอยู่ด้วยกันโดยปรองดอง เป็นแต่ถือศาสนาผิดกันและใช้ภาษาต่างกัน เพราะเหตุนั้นจึงคิดว่าจัดการปกครองเมืองแขกทั้งเจ็ดจะต้องใช้นโยบายให้เหมาะกับท้องที่ คือรวมหัวเมืองแขกทั้งเจ็ดเข้าด้วยกันคล้ายกับมณฑล แต่ให้เรียกว่า "บริเวณ" เพราะยังขึ้นอยู่ในจังหวัดสงขลา และจะต้องแก้ไขระเบียบการปกครองให้ผิดกับเมืองอื่นบ้าง จึงให้เจ้าพระยายมราชลงไปตรวจตามเมืองทั้งเจ็ดให้รู้ลักษณะการที่เป็นอยู่อย่างไร และทำรายงานมาเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเสียก่อน แล้วปรึกษาหานโยบายที่จะจัดต่อไป เจ้าพระยายมราชตรวจแล้วเสนอรายงานมีเนื้อความว่า

    ---------------------------------------------------------


    ๑). วิธีปกครองเมืองทั้งเจ็ดเป็นอย่างที่เรียกกันว่า "กินเมือง" เจ้าเมืองจะทำอย่างไรก็ได้ สุดแต่อย่าขัดขืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเท่านั้น

    ๒). ภาษีอากรยังเก็บอย่างโบราณก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ยกตัวอย่างเช่นเก็บค่านาด้วยเอาจำนวนโคสำหรับใช้ไถนาเป็นเกณฑ์เก็บภาษี โคคู่ละเท่านั้นๆ ไม่ต้องรังวัดเนื้อนา (วิธีนี้เป็นมูลที่เรียกว่า "นาคู่โค" ) ภาษีอย่างอื่นก็ให้จีนรับผูกขาดไปเก็บ ใช้ทั้งวิธีชักส่วนสินค้าและวิธีให้ซื้อขายได้แต่เจ้าภาษี

    ๓). การปกครองราษฎรในท้องที่ก็แล้วแต่เจ้าเมืองจะตั้งใครเป็นนายตำบล และจะต้องการใช้แรงงานเมื่อใด หรือให้ราษฎรหาสิ่งของอย่างไรให้เมื่อใด ก็เกณฑ์ตามใจเจ้าเมือง

    ๔). การชำระตัดสินความอยู่ในอำนาจ "โต๊ะกาลี" คืออาจารย์ทางฝ่ายศาสนาเป็นผู้ชำระตัดสินตามกฎหมายอิสลาม มีเมืองหนองจิกเมืองเดียวที่ใช้กฎหมายไทยเพราะเจ้าเมืองเป็นไทยมาหลายชั่วคนแล้ว
     
  4. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    เมื่อเสนอรายงานแล้ว เจ้าพระยายมราชกับข้าพเจ้าปรึกษากันเห็นว่าการปกครองท้องที่ตามแบบมณฑลเทศาภิบาลชั้นในจะจัดในเมืองทั้งเจ็ดได้สะดวก แต่จะต้องใช้นโยบายผ่อนผันในอย่างอื่นบ้างบางอย่าง อย่าให้พวกมลายูชาวเมืองรู้สึกว่าไทยลงไปจัดการให้เดือดร้อนกว่าแต่ก่อน ในเรื่องนี้เห็นเป็นข้อสำคัญมีอยู่ ๓ ข้อ คือ


    ๑). การเก็บภาษีอากรยังไม่ควรแก้ไขให้เหมือนกับเมืองอื่นในมณฑล ให้ราษฎรเสียภาษีอากรแต่ตามที่เคยเสียอยู่อย่างเดิมเป็นแต่เลิกผูกขาด แม้จะลดพิกัดลงบ้างก็เชื่อว่าคงจะได้จำนวนเงินมากขึ้นเหมือนเคยปรากฏในมณฑลอื่น



    ๒). ยังไม่ควรเลิกศาลโต๊ะกาลี เพราะราษฎรนับถือศาสนาอิสลามมีอยู่มาก เป็นแต่จะแก้ไขด้วยเลือกตั้งพวกอาจารย์ศาสนาอิสลามที่คนนับถือมาก เป็น "ดาโต๊ะยุติธรรม" ขึ้นไว้คณะหนึ่งราว ๒๐ คน ถ้าคนถือศาสนาอิสลามเป็นความกัน หรือเป็นจำเลยในคดีที่ต้องตัดสินด้วยกฎหมายทางศาสนา คือความผัวเมียอย่างหนึ่ง ความมรดกอย่างหนึ่ง ให้คู่ความเลือกดาโต๊ะยุติธรรมที่ได้ตั้งไว้เป็นอนุญาโตตุลาการฝ่ายละคนหนึ่ง หรือหลายคนตามตกลงกันมานั่งชำระตัดสินในศาลไทย ถ้าคู่ความเป็นไทยหรือเป็นความประเภทอื่น ศาลไทยชำระและตัดสินตามกฎหมายไทยทั้งสิ้น



    ๓). ไม่ควรให้ผู้ที่เป็นเจ้าเมืองอยู่ในเวลานั้น (อันเป็นมลายู ๖ คน เป็นไทยคนหนึ่ง) ได้ความเดือดร้อนเพราะที่ไปจัดการเปลี่ยนแปลงวิธีปกครอง ข้อนี้ปรึกษากันเห็นว่ามีทางที่จะแก้ไขอย่างเดียวแต่ให้เงินบำนาญทดแทนให้พอเลี้ยงผลประโยชน์ที่ต้องขาดไป



    ปรึกษากันแล้วนำความขึ้นกราบบังคมทูล ก็โปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตามความคิดที่ปรึกษาตกลงกันนั้น ก็ให้เจ้าพระยายมราชลงไปแก้ไขวิธีการปกครองบริเวณเจ็ดเมืองตามหลักดังกล่าวมา....

    เพชรพระมหามงกุฎ - เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rattanakosin225&group=1&date=24-03-2007&gblog=16

    ------------------------------------------------------


    ถามตรง ๆ เถอะครับ แล้ว คนอิสลามในพื้นที่อื่นเนี่ย ทำไมเขาไม่ได้สิทธิหมือน พวกคนเหล่านี้้บ้างเอ่ย
    กฏหมายนี้ เพิ่งมายกเลิก สมัย จอมพล ป.

    อย่าลืมนะครับ อยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญเดียวกัน คุณจะเอาศาสนามาอ้างสิทธิเหนือคนอื่นได้อยู่คนเดียวเหรอครับ ?

    และ ขอโทษ โจรทำเพื่อศาสนาบ้าบออะไรครับ ดันไปค้ายาเสพย์ติด สูตร 4 X 100 เนี่ย
    กระ่ท่อมผสมยาบ้าเนี่ย ถามว่า พระเจ้าของศาสนาคุณ คงดีใจกับ ศาสนิกแบบนี้หรอกนะครับ ?
     
  5. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ถ้าพวกคุณอ้างข้ออ้างศาสนาได้ พวกผมก็อ้างได้เหมือนกันครับ
    ทำอะไรต้องให้เท่าเทียมสิครับ พี่น้อง ประชาธิปไตยไม่ใช่เหรอครับ ?

    คนพุทธอีกไม่น้อย เขาก็ทำงานเสียภาษีให้รัฐบาล เอาไปให้พวกคุณใน 3 จังหวัดนั่น ได้กิน ได้ใช้ เคยสำนึกกันบ้างไหมหละครับ ?

    อย่างน้อย ๆ ไฟฟ้า น้ำประปา นั่นก็ภาษีมาจากเงินพวกผม ทำอะไร เอาหัวคิดมั่งสิครับ
     
  6. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,936
    คนละเหตุการณ์และคนละเหตุผลกันครับ ตอนปฐมสังคายนา ในครั้งนั้นถ้าคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีการนำมาจัดหมวดหมู่และทำความเข้าใจกัน จะผิดเพี้ยนและไม่มีมาตรฐาน สิบคน ร้อยคน พันคน แสนคน ก็สามารถพูดแตกต่างกันได้และอาจแอบอ้างได้ว่าได้ยินได้ฟังมาจากพระพุทธเจ้า มีผลทำให้เหล่าชนทั้งหลาย ไม่สามารถรู้ได้ว่าอันไหนถูกทางหรือผิดทางและเกรงว่าเมื่อคำสั่งสอนที่ผิดทาง มีผลให้พุทธศาสนามีอายุสั้น

    ส่วนเหตุการณ์บรรจุพุทธศาสนาในเป็นกฏหมายประจำชาติในยุคนี้ ไม่ได้มีผลกับการทำให้พระธรรมคำสั่งสอนเพี้ยนไป และไม่สามารถการันตีได้ว่าถ้าบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติแล้วจะทำให้ศาสนาเข้มแข็งขึ้นหรือเสื่อมช้าลง เพียงแต่หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าถ้าบรรจุแล้ว"ผลลัพธ์ที่ตามมาน่าจะดี น่าจะเป็นการสืบทอดอายุพุทธศาสนา"

    ลองดูความเคลื่อนไหวของเหล่าครูบาอาจารย์พระป่า พระกรรมฐานก็ได้ครับ เวลามีเหตุการณ์สำคัญ ภัยร้ายแรงเกี่ยวกับพุทธศาสนา ท่านเหล่านี้จะออกมารปกป้องพระศาสนากัน

    แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์เรื่องการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติหรือเหตุการณ์เรื่องภาพภิกษุสันดานกาก็ดี ท่านเหล่านี้ไมได้ออกมาเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่มีแต่พระสงฆ์ที่เราเรียกกันว่าพระบ้านหรือพระปริยัติที่ออกมาเคลื่อนไหวในการให้ทบทวนเรื่องเหล่านี้ ถ้าคุณมีโอกาสไปกราบครูบาอาจารย์พระป่า พระกรรมฐานจริงๆ คุณลองถามท่านก็ได้ครับว่าทำไมท่านไม่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องเหล่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2007
  7. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    อันนี้ดีแล้วครับที่ท่านไม่ออกมาและเราก็อย่าไปคิดรบกวนท่านมากนักเลยครับเป็นการสร้างภาระให้แก่ท่านถ้าสิ่งไหนหนักหนาท่านพิจาณาเห็นท่านก็คงออกมาเอง
    ลองคิดดูซิครับเราเป็นชาวพุทธเป็นหนึ่งในพุทธบริษัท 4 เรื่องอะไรทุกอย่างก็จะให้พระสงฆ์องค์เจ้าท่านออกมาเป็นแกนนำดำเนินการทุกอย่างดูมันจะไม่เหมาะสมนะครับ ถ้าคิดแบบนี้ในฐานะพุทธบริษัทเราจะไม่ละอายใจบ้างเลยเหรอ ก็ในเมื่อสิ่งไหนที่ฆราวาสอย่างเราทำได้ผมว่าก็ควรทำให้เต็มที่เสียก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ควรเลยที่จะไปรบกวนพระสงฆ์องค์เจ้า
     
  8. ซาลาดิน

    ซาลาดิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +11
    กูมุสลิมก็เสียภาษีโว้ย ไอ้ควาย
    สงครามจะเกิดก็เพราะคนเหี้ยๆอย่างมึงแหละ
     
  9. ซาลาดิน

    ซาลาดิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +11
    ปล. ขี้เกียจอ่านว่ะ
    เป็นแต่ก๊อปชาวบ้านเขามาแปะหรือไง ไร้สาระทั้งนั้น เหมือนคนไม่มีสมองเป็นของตัวเอง
     
  10. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222

    แล้ว สงครามจรยุทธ์ใน 3 จังหวัดนั่น เกิดเพราะใครหละครับ ?

    ผมแปลกใจครับ คนศาสนาเดียวกัน ทำไมไม่ตักเตือนกันเลยครับ ?

    นี่ผมยังไม่พูดถึง ความพยายามของ กลุ่มคนในศาสนาคุณบางกลุ่มที่พยายามจะริดรอนพระราชอำนาจ ของ พระเจ้าแผ่นดิน เกี่ยวกับ เรื่อง อำนาจ ของ จุฬาราชมนตรี นะครับ อยากฟังไหม เดี๋ยว Copy มาให้อ่านกัน...อิ ๆ ๆ

    ----------------------------------------------------

    จริง ๆ เมื่อวาน ผมมานึกได้ อ๋อ ที่แท้ ที่เขาวางระเบิดให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง หรือ พยายามตัดสายไฟฟ้า ฆาตกรรมพยาบาล ครู ฯลฯ ก็เพราะ เขาไม่ต้องการความเจริญนี่เอง.. อ๋อ ผมเข้าใจและ
     
  11. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222

    ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ ขึ้นอยู่กับว่า ใครมีเหตุผลอยากรู้ข้อเท็จจริงมากกว่ากัน

    เห็นพวกผู้ก่อการร้ายศาสนาเดียวกับคุณ Saladin เขาอ้างว่า สยามไปข่มเหงเขาอย่างโน้น อย่างนี้ ผมก็เลย เอาข้อมูลที่แท้จริงมาให้อ่านกันว่า

    รัฐบาลสยาม (สยามเนี่ย ยังอยู่ใต้การปกครองระบอบพระมหากษัตริย์นะครับ ไม่ใช่ประเทศไทย)
    เขามีนโยบายต่อ 3 จังหวัดนั้นอย่างไร

    อ่านแล้ว จะได้รู้ว่า ที่พวกผู้ก่อการร้ายศาสนาเดียวกับคุณเนี่ย เขาอ้างกันมา มันจริงหรือไม่อย่างไร

    ยกเว้นว่า เป็นศาสนาเดียวกันต้องช่วยเหลือกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ต้องมีเหตุผล ก็ว่ากันไปครับ... เ

    คนเชื้อสายอื่นเขายังไม่โวยวายทำตัวเป็นเด็ก ๆ เลยครับ

    คนเหนือเขาก็มีอัตลักษณ์ส่วนตัวของเขาเหมือนกัน คนอิสานจะเป็นลาว หรือ เขมร ก็เหมือนกัน

    คนภาคกลาง จะเป็น ลาว หรือ มอญ ก็เหมือนกัน

    ก็ไม่เห็นเขาจะต้องโวยวาย เรียกร้องทำยังกะเด็ก ๆ เลยครับ

    แล้ว พวกผู้ก่อการร้ายศาสนาเดียวกับคุณหละครับ ? โตแต่ตัวหรือเปล่า สมองโตบ้างไหม หัดเตือน ๆ ไว้บ้างก็ดีนะครับ ชาวบ้านเขาเดือดร้อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2007
  12. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222

    1.. ในสมัยนั้น พระอรหันต์มีเป็นแสน ๆ นะครับ พระอริยเจ้าทุก ๆ ระดับชั้น ยังมีสมบูรณ์มากมาย (ทั้ง บรรพชิต และ คฤหัสน์)

    พระสัทธรรม ยังอยู่บริบูรณ์ แต่ ภิกษุผู้บวชเมื่อแก่ นั่น กำลังกล่าวตู่พระพุทธองค์

    พระอรหันต์ อย่าง ท่านพระมหากัสสป ท่านคงยอมไม่ได้หรอกครับ

    ลองอ่านดูดี ๆ ครับ




    ----------------------------------------------------------------------

    2.. แล้ว การที่ พระพุทธศาสนาเสื่อมทรามลง มันมาจากเหตุปัจจัยอะไรหละครับ ?

    ผมถ้าให้ลองไปอ่านประวัติศาสตร์ดูครับ ช่วงไหน พระมหากษัตริย์ ได้บวชเรียนนาน ช่วงนั้น พระพุทธศาสนา จาก Peak สุด ๆ

    มีหลายสมัย อย่าง พญาลิไท , พระบรมไตรโลกนาถ , พระเจ้าทรงธรรม , ร.4... เป็นต้น

    หรือ พระเจ้าแผ่นดิน ที่ทรงฝักใฝ่การพระพุทธศาสนา อย่างเช่น

    ร.1 และ ร.2 เป็นต้น

    ในสมัย ระบอบราชาธิปไตย พระมหากษัตริย์ ทรงอุปถัมภ์ พระพุทธศาสนาเต็มที่

    ผลงานอย่าง ไตรภูมิพระร่วง นั่น เป็นผลงานที่เห็นได้ชัด

    แม้แต่ การลงโทษ และ อัตราโทษ ที่ สมี หรือ อลัชชี ทั้งหลายจะได้รับ เมื่อทำผิดพระธรรมวินัย ก็มีโทษสูง ทำให้ อลัชชี เกรงกลัว ไม่กล้าทำผิดพระธรรมวินัย เช่น ถ้าต้องโทษ เสพเมถุน ต้องอาบัติปาราชิก นอกจากถูกจับสึกแล้ว ต้องโดนโทษสักหน้าผากประจาน ฯลฯ เป็นต้น

    ------------------------------------------


    แล้ว ในสมัย ประชาํํธิปไตย รัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจพระเจ้าแผ่นดิน ตั้งแต่ พ.ศ.2475 ทำอะไร ที่เป็นการปกป้องพระพุทธศาสนาบ้าง ?

    จำนวนอลัชชี ที่เพิ่มขึ้นมา มันแสดงให้เห็นอะไรบ้าง ?

    กฏหมายที่มีคุ้มครองพระพุทธศาสนา เข้มแข็งแค่ไหน ?

    ลองดู มาตรา ต่าง ๆ เป็นไงครับ


    " มาตรา 44 ผู้ใดพ้นจากความเป็นพระภิกษุเพราะต้องปาราชิกมาแล้วไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยตาม มาตรา 25 หรือไม่ก็ตาม แต่มารับบรรพชาอุปสมบทใหม่โดยกล่าวความเท็จหรือปิดบังความจริง ต่อพระอุปัชฌาย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี"



    " มาตรา 44ตรี ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือ ความแตกแยก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"


    พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ปี พ.ศ. 2535
    http://www.kodmhai.com/m4/m4-2/Nthailaw4-2/N815.html

    จากสองมาตรานี้ เคยบังคับใช้จริง ๆ จัง ๆ หรือไม่ครับ ?
    อย่าง กรณีสันติอโศก นั่น ทำไงดี ? , หรือ สนธิ Manager นั่น ว่า มหาเถระสมาคม นั่นทำไงดี ?


    พรบ.ฉบับนี้ ออกมาเพื่อ ควบคุมพระสงฆ์ แต่ ไม่มี พรบ หรือ กฏหมายใด ที่จะทำหน้าที่ คุ้มครองพระพุทธศาสนาเลย สักนิด

    แล้วแบบนี้ คณะรัฐบาลจะทำอะไรเพื่อพระพุทธศาสนาบ้างหละครับ ?

    ใน รัฐธรรมนูญ ปี 2550 บอกว่า จะให้การคุ้มครอง แล้ว ถามว่าคุ้มครองยังไงหละ ?

    พรบ.อุปถัมภ์ นั่นก็โดนดองไปทีแล้ว แล้ว มันจะคุ้มครองพระพุทธศาสนายังไง

    ตอนนี้ กฏหมายอย่าง แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ยังไม่สามารถใช้กับ สันติอโศก ได้เลย

    แล้วมันจะคุ้มครองพระพุทธศาสนาได้เหรอ ? นี่ยังไม่รวม กรณี สมีที่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ ไม่ดังเป็นข่าว จนมาบวชใหม่ไม่ได้นะครบ

    ไหนยังจะมี เรื่อง สร้างวัตถุมงคล อีก ? พอเป็นข่าวขึ้นมา คนพุทธด้วยกันนี่แหละ ก็ต่อว่า พระ ว่าไม่สอนมั่งหละ ? ไม่ทำตัวให้ดีมั่งหละ ?

    แล้วชาวบ้านอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ เนี่ย ทำอะไรเพื่อพระพุทธศาสนามั่งหละครับ ?

    มีชาวพุทธอยู่กี่คน ที่จะรู้เรื่องพระพุทธศาสนา ดีกว่า แค่ เรื่องของ การทำบุญตักบาตร ?

    คุณบัวใต้น้ำ ให้ทำไงดีครับ ?

    ---------------------------------------------------------------

    ส่วนเรื่อง จะแบ่งเขาแบ่งเรา นั่น จะสายป่า สายบ้าน ก็แล้วแต่เถอะครับ หน้าที่ของแต่ละท่านทำให้ดีกันดีกว่า

    งานเพื่อพระพุทธศาสนามีอยู่เยอะครับ แบ่ง ๆ กันทำดีกว่า มานั่งทะเลาะกันครับ

    ใครถนัดแบบไหนก็ว่ากันไปครับ ดูอย่างสมัยพุทธกาลสิครับ

    พระอัครสาวกยังต้องมีสองเลยครับ

    เพราฉะนั้นก็แบ่งหน้าที่กันทำดีแล้วครับ


    คิดเล่น ๆ ครับ นี่ขนาดมีแค่หมู่เดียวที่เดินหน้า ยังทำให้บางกลุ่มเดือดร้อนขนาดนี้ แล้ว ถ้ามารวมตัวกันหมด เขาไม่ยิ่งร้องกว่านี้เหรอครับ...(||) (||) (||) (||) (||) :555: :555: :555: :555:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2007
  13. Bill PEA31

    Bill PEA31 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +417
    ถ้าเงาทักษิณขึ้นครองอำนาจ ประเทศชาติคงไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลาน เกือบ 8 ปีที่ผ่านมา สมบัติของชาติได้ถูกแปรสภาพไปไม่ใช่น้อย ขอท่านทั้งหลายคอยดูต่อไปครับ เอาใจประชาชน บิดเบือนข่าวสาร แก้กฏหมายให้อื่อประโยชน์ต่อพวกตน หลายองค์ของรัฐที่เป็นสมบัติชาติได้เคยหลั่งน้ำตากันมาแล้ว
    นี้คือ สัตว์โลกมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
    ทำดีกันต่อไปครับท่านทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2007
  14. *~NooNooN~*

    *~NooNooN~* Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +64
    ดิฉันไม่ได้เป็นองค์กรค่ะ เป็นประชาชนไทยชาวพุทธธรรมดาที่มีสิทธิ์เลือกตั้งค่ะ
     
  15. yokine

    yokine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +602
    ถ้าบรรจุ ศาสนาของไทยเป็นศาสนาประจำชาติแล้ว จะมีผลอย่างไรเหรอครับ คือ จะช่วยให้คนไทย หันมาสนใจพุทธศาสนามากขึ้นหรือว่าอย่างไร คืออันนี้อยากทราบจริงๆ ครับ
     
  16. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    มีครับ ตอบก่อนเลย (ผมคงไม่ตอบตามแบบองค์กรอื่น ๆ มุมมองของผมคนเดียว นะครับ)

    ในระยะสั้น (1-2) ปี
    -------------------
    1..พระพุทธศาสนา จะได้ัรับการยอมรับ และ ถือเป็นสิ่งที่ละเมิดไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญ พอ ๆ กับ สถานะของประเทศไทย

    ซึ่ง เมื่อได้สิทธิตรงนี้แล้ว รัฐ ก็สามารถ ออกกฏหมายลูก เพื่อมาประกอบการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาได้
    ผู้ที่กระทำผิดต่อพระพุทธศาสนา (ทั้ง ฆราวาส และ ภิกษุ) ย่อมได้รับการลงโทษตามกฏหมาย

    2.. พระพุทธศาสนา จะได้รับการบรรจุ ให้ เด็กนักเรียนที่นับถือพุทธ ได้เรียนอีกครั้ง
    (ศาสนาอื่น ก็ไปเรียน วิชาของแต่ละศาสนา ไม่มีการบังคับ ไม่ต้องกังวล)

    เพราะถ้าดูแต่อดีต จะพบว่า การศึกษาไทยอิงอยู่กับวัด ทำให้ ประชาชนสามารถ ได้รับคำสอน ให้อยู่ในหลักชาวพุทธที่ดี (รักษาศีล ทำทาน ปฏิบัติภาวนา)

    ภายหลังจาก ดร.บุญสม มาร์ติน เป็น รมว.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการยกเลิก การสอน วิชาพระพุทธศาสนา

    ก็ทำให้ เด็กชาวพุทธ ที่อยู่ห่างไกลวัดอยู่แล้ว (เพราะการศึกษาสมัยใหม่ ให้เรียนที่โรงเรียน ไม่ใช่ที่วัดเหมือนแต่ก่อน) ยิ่งห่างไกลจากการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีเข้าไปอีก

    อย่างที่เคยบอกไป เมื่อเขาไม่มีความรู้ และ ด้วยอายุที่ยังน้อย ขาดความยังคิด เมื่อเจอสื่อสาร ที่เป็นตัวกระตุ้นในทางที่ไม่ดี (เหล้า,บุหรี่,การพนัน,ยาเสพย์ติด,ภาพลามก)

    เด็กเหล่านี้ ย่อมมีสิทธิหลงผิดไปได้ ก็เห็น ๆ กันอยู่ครับ

    ...แต่... ถ้าเขาได้ัรับข้อมูล และ ได้รับการศึกษาทางพระพุทธศาสนาบ้าง อย่างน้อย ๆ ปัญหามันคง
    บรรเทาลงไป จำนวนเด็กที่หลงผิดจะต้องลดลงได้


    3.. ใจของผม อยากให้มี กฏหมายคัดเลือกผู้บวชด้วยซ้ำ ไป เราจะได้ กุลบุตรผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่พระพุทธศาสนาที่แท้จริง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ต่อไป

    เรื่องมัวหมองก็จะน้อยลง เพราะมีการคัดเลือกผู้บวชกันแล้ว (เหมือนสมัครงาน)

    กฏหมายนี้ ไม่ใช่ห้ามบวช แต่ เป็นการขอความร่วมมือ จาก หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมการปกครอง ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ

    เพื่อสอบประวัติ ผู้ขอบวชว่า มีคดีติดตัวมาก่อนไหม (ต้องโทษให้ปาราชิก หรือ ต้องสึก ) เพื่อปิดกั้นโอกาส ไม่ให้พวก สมี ต่าง ๆ ที่โดนสึกไป กลับมาทำความเสื่อมเสียให้ พระพุทธศาสนาอีก


    และ ผู้ขอบวช ต้อง มาอยู่วัดตามแบบโบราณ (ตติยะวาส ?) เพื่อให้ เจ้าอาวาสดูนิสัยก่อน ว่าสมควรให้บวชได้ไหม

    เพราะปัจจุบัน ใครใคร่บวช ก็บวช บางที พระวินัยยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป ท่องขานนาคได้อย่างเดียว
    แล้วจะเป็นพระภิกษุที่ดีได้อย่างไร ?

    ไม่ว่าจะบวช ไม่นาน หรือ บวชตลอดชีวิต ก็ต้อง ทำตามแบบนี้ครับ

    -------------------------------------------------------------

    นี่คือ ผลระยะสั้น ทีี่ผมคาดว่า ถ้าทำตามแนวทางของผมแล้ว การบัญญัติพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติไทย จะเป็นผลดีต่อชาวพุทธทั้งมวล และ พระพุทธศาสนาด้วย

    (ไปเบียดเบียนศาสนาอื่นไหมเนี่ย ???????)
     
  17. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    อีกประการ ภาพ สมมติสงฆ์เดินพันทิพยุ์ หรือ สามเณรหรือสงฆ์ที่ออกแนวเพศที่ 3 ชัดเจนจะบรรเทาเบาบางลงไปครับ

    พระพุทธศาสนา จะต้องดีขึ้น อย่างน้อย ๆ ประเภท บวชหนีทหาร บวชผลาญข้าวสุก บวชเพราะขี้เกียจทำงาน
    บวชเป็นพระเพราะเหลือขอ จะต้องถูก Screen มากขึ้น


    -----------------------------------------------------------------

    ในระยะยาว (3-5 ปีขึ้นไป)

    เมื่อมีการเข้มงวดผู้ขอบวชมากขึ้น สงฆ์อยู่ในกรอบมากขึ้น พระพุทธศาสนาก็จะเจริญและบริสุทธิ์ ขึ้นอีกครั้งครับ


    ผมตอบในมุมมองที่จับต้องได้ ผมคงไม่ตอบแนวทางเดียวกับ องค์กรอื่น ๆ เพราะผมเห็นว่า

    นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ตั้งคำถามว่า พระพุทธศาสนามีอะไรดี ถึงต้องบัญญัติไว้

    น่าเห็นใจ นายเจิมศักดิ์ ที่เขาไม่คิดแบบผม ถ้าเขาคิดแบบผม เขาคงจะรู้คำตอบว่า วิธีการที่จะจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดีขึ้น ต้องทำอย่างไร


    กฏหมายฉบับนี้ ผมคิดว่า จับต้องเป็นรูปธรรมได้ ไม่ใช่นามธรรม ที่จับต้องไม่ไ้ด้อีกต่อไป

    จริง ๆ ยังมีประเด็นพวกค้าพระเครื่องอีก ซึ่งต้องลงในรายละเอียดถึงจุดเหมาะสมต่อไปครับ
    แต่ผมไม่ใช่ รมต.. 5 55 5 ผมก็เลยหยุดไว้แค่นี้ครับ
     
  18. เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ลืมไปอีกนิด

    เดี๋ยวจะมีคนมาถามต่ออีกว่า

    อ้าว แล้ว กฏหมายที่มีอยู่เดิม ๆ หละ ไม่พอรึ ประกาศเป็น พรบ ไม่พอรึ ทำไมต้องบัญญัติ ไว้ในรัฐธรรมนูญหละ ?


    คำตอบ

    ถ้าเจอกับคำว่า สิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน แล้วจะเอาอะไรมาแก้ไขครับ ?
    เพราะสองคำนี้ บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พรบ.(กฏหมายลูก)ที่มีอยู่ ก็ต้องบัญญัติ ไม่ให้ขัดกับ รัฐธรรมนูญ (กฏหมายแม่)

    ยังมี พวกกรณี แต่งกายเลียนแบบสงฆ์อีกเยอะแยะ หรือ จะ สันติอโศก ที่ตั้งเย้ย มหาเถระสมาคม อยู่อีก
    แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้

    เพราะก็ต้องตีความว่า อะไรคือ แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ? เขาก็มีสิทธิแต่งกายได้ (มันก็จงใจจะเลียนแบบสงฆ์เห็น ๆ อยู่ , นิกร เอย ยันตระเอย เลียนแบบสงฆ์ทั้งนั้น ยังลอยนวลอยู่ได้เลย )

    นี่หละครับ ปัญหาที่เราไม่เคยคิดกัน


    จะมาปล่อย ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ไม่ได้แล้วครับ พระพุทธศาสนามัวหมองมาพอแล้ว นานเกินไปแล้วครับ
     
  19. johot

    johot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +673
    เยี่ยมๆเรื่องนี้สนับสนุม(เรื่องเดียว)
     
  20. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,516
    ค่าพลัง:
    +27,187
    จะช่วยกฎหมายที่ออกมาเพื่อทำลายพุทธศาสนาไม่สามารถทำได้ เพราะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...