สวด ภาวนา ในชีวิตประจำวัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 11 มีนาคม 2016.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ถาม : พระคาถาป้องกันโรคระบาด ๒ พระคาถา คือ "ทุกขา ทุกขัง ปะติฎฐิตัง สัมปะฏิจฉามิ" กับ "สัพพะโรคา วินาสสันติ โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เม" มีผลต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?
    ตอบ : อย่างหลังป้องกันโรคและให้ลาภด้วย
    __________________
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๔
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    อุบาสกผู้ปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลตนเองและผู้อื่น เป็นอย่างไร
    ………….
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสกชื่อว่าผู้ปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลตนเองและเพื่อเกื้อกูล
    ผู้อื่น ด้วยเหตุเพียงเท่าไร”
    “มหานามะ เมื่อใดแล อุบาสก ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา และชักชวนผู้อื่นให้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
    ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล และชักชวนผู้อื่นให้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
    ตนเองเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ และชักชวนผู้อื่นให้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
    ตนเองเป็นผู้ประสงค์จะเห็นภิกษุ และชักชวนผู้อื่นให้เห็นภิกษุ
    ตนเองเป็นผู้ประสงค์จะฟังสัทธรรม และชักชวนผู้อื่นให้ฟังสัทธรรม
    ตนเองเป็นผู้ทรงจำธรรมที่ฟังแล้วไว้ได้ และชักชวนผู้อื่นให้ทรงจำธรรมที่ฟังแล้วไว้ได้
    ตนเองเป็นผู้พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ฟังแล้ว และชักชวนผู้อื่นให้พิจารณาเนื้อความแห่งธรรม
    ตนเองเป็นผู้รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม และชักชวนผู้อื่นให้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    เมื่อนั้น อุบาสกชื่อว่าผู้ปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลตนเองและเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล”
    ................
    ข้อความบางตอนใน มหานามสูตร อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓
    http://www.84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=23&siri=98
    หมายเหตุ ข้อความเบื้องต้นสรุปได้ว่า อุบาสกผู้ปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลตนเองและผู้อื่น คือตนเองมีธรรม ๘ ประการ และชักชวนผู้อื่นให้มีเหมือนตน
    ธรรม ๘ ประการ ได้แก่ (๑) เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา (๒) เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล (๓) เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ (๔) เป็นผู้ประสงค์จะเห็นภิกษุ (๕) เป็นผู้ประสงค์จะฟังสัทธรรม (๖) เป็นผู้ทรงจำธรรมที่ฟังแล้วไว้ได้ (๗) เป็นผู้พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ฟังแล้ว (๘) เป็นผู้รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม
    #ปฏิบัติธรรม #อุบาสก
    luDIDho90zzD03sxDVyWOv-VYlX6jVPotuI5sEnjgMcw&_nc_ohc=xCYJhjEtxfMAX9c3YfI&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ถาม : กราบนมัสการเจ้าค่ะ...รู้สึกว่า ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด จะต้องแก้ไขอย่างไรคะ ?
    ตอบ : แก้อย่างนี้นะ...แล้วหายขาดเลย
    270d.png ไปเก็บพระเก็บอะไรให้เรียบร้อยนะ
    270d.png แล้วสวดเจริญภาวนาพระคาถาเงินล้านแบบเข้าสมาธิ วันละ ๙ จบนะ
    เอาแบบนึกถึงพระด้วยนะ...ถ้าไม่นึกถึงพระ ก็ ๓๐ จบนะ แต่ถ้านึกถึงพระได้ก็ ๙ ก็พอ
    แล้วรับรองว่าจะมีลูกค้าไหลมาเต็มเลย
    อย่าลืม ปิยวาจานะ..แล้วรับรองว่า ฟื้นตัวได้..ไปต่อได้นะ
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎ 1f308.png 1f60d.png 270c.png
    #พระธรรมเทศนา#บ้านใจดี จ.ระยอง
    ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ : ตอนที่ ๘
    #ตอบปัญหาทางธรรม
    #พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    osFOS4MndvXtywAZgmh_U1V5zCnVz-k6aBXYv1nKYrq&_nc_ohc=7LxOzXYiGf4AX8eGd1P&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    vvmLrtakoeMkrcuASERzbVe&_nc_ohc=Yj-PMMeCjNAAX8OEY8G&tn=L8Om8k7uvz_DdHa1&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    เรื่อง.* วิธี ช่วยญาติ ที่เป็นสัมภเวสี *

    ..." ญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของ อุปฆาตกรรม.. คือไม่สิ้นอายุ.. ฟ้าผ่าตาย.. สุนัขกัดตาย.. มดกัดตาย.. ยุงกัดตาย.. คลอดบุตรตาย.. ถูกฆ่าตาย.. ถูกยิงตาย.. รถชนตาย.. แต่ก็ไม่แน่นักนะ บรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี.

    ~ แต่ก็เผื่อเหนียวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็น สัมภเวสี.. พอตายไปแล้ว ไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัด ๆ

    ~ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป.. เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบ ๆ อย่ามีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักลูกหนึ่ง.

    * เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด.
    ~ ถ้าทำอย่างนี้ ละ ท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบ.

    * เมื่อเข้าถึงอายุขัยเมื่อใด ก็เป็นอันว่า พวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน..."

    (จากหนังสือ *โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง* เล่มที่๑ หน้า ๔๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี)
     
  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    6tiXfuaPEDZ1qhDZk6TSU5mfeD5ZJUM88SrhvNHAcp4&_nc_ohc=C4BaVYEMPesAX9gxRaL&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    สวดพระปริตร
    ************
    พระศาสดาตรัสบอกอุบายป้องกัน
    พราหมณ์ทูลถามพระศาสดาว่า "ก็อุบายเครื่องป้องกันมีอยู่หรือ? พระเจ้าข้า."
    พระศาสดา. พึงมี พราหมณ์.
    พราหมณ์. พึงมีอย่างไร?
    พระศาสดา. ถ้าท่านพึงอาจเพื่อทำมณฑปใกล้ประตูเรือนของตน ให้ทำตั่งไว้ตรงกลางมณฑปนั้น แล้วปูอาสนะไว้ ๘ หรือ ๑๖ ที่ ล้อมรอบตั่งนั้น ให้สาวกของเรานั่งบนอาสนะเหล่านั้น ให้ทำพระปริตร ๗ วันไม่มีระหว่าง. อันตรายของเด็กนั้นพึงเสื่อมไป ด้วยอุบายอย่างนี้.
    พราหมณ์. พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์อาจทำมณฑปเป็นต้นได้. แต่จักได้สาวกของพระองค์อย่างไร?
    พระศาสดา. เมื่อท่านทำกิจเท่านี้แล้ว เราจักส่งสาวกของเราไป
    พราหมณ์ทูลรับว่า "ดีละ พระโคดมผู้เจริญ" แล้วทำกิจนั้นทั้งหมดใกล้ประตูเรือนของตนแล้ว ได้ไปยังสำนักของพระศาสดา.
    พวกภิกษุไปสวดพระปริตร
    พระศาสดาทรงส่งภิกษุทั้งหลายไป. ภิกษุเหล่านั้นไปนั่งในมณฑปนั้น. พราหมณ์สามีภริยาให้เด็กนอนบนตั่งแล้ว. ภิกษุทั้งหลายสวดพระปริตร ๗ คืน ๗ วันไม่มีระหว่าง. ในวันที่ ๗ พระศาสดาเสด็จมาเอง.
    เมื่อพระศาสดานั้นเสด็จไปแล้ว. พวกเทวดาในจักรวาลทั้งสิ้นประชุมกันแล้ว.
    ก็อวรุทธกยักษ์ตนหนึ่งบำรุงท้าวเวสวัณ ๑๒ ปี เมื่อจะได้พรจากสำนักท้าวเวสวัณนั้น ได้กล่าวว่า "ในวันที่ ๗ จากวันนี้ ท่านพึงจับเอาเด็กนี้" เพราะฉะนั้น ยักษ์ตนนั้นจึงได้มายืนอยู่. ก็เมื่อพระศาสดาเสด็จไปในมณฑปนั้น เมื่อพวกเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ประชุมกัน. พวกเทวดาผู้มีศักดิ์น้อยถดถอยไป ไม่ได้โอกาส หลีกไปตลอด ๑๒ โยชน์ ถึงอวรุทธกยักษ์ก็ได้หลีกไปยืนอย่างนั้นเหมือนกัน.
    เด็กพ้นอันตรายกลับมีอายุยืน
    แม้พระศาสดาได้ทรงทำพระปริตรตลอดคืนยังรุ่ง. เมื่อ ๗ วันล่วงแล้ว อวรุทธกยักษ์ไม่ได้เด็ก. ก็ในวันที่ ๘ เมื่ออรุณพอขึ้นเท่านั้น, สองสามีภรรยานำเด็กมาให้ถวายบังคมพระศาสดา. พระศาสดาตรัสว่า "ขอเจ้าจงมีอายุยืนเถิด."
    พราหมณ์. พระโคดมผู้เจริญ ก็เด็กจะดำรงอยู่นานเท่าไร?
    พระศาสดา. ๑๒๐ ปี พราหมณ์.
    ลำดับนั้น ๒ สามีภรรยาขนานนามเด็กนั้นว่า "อายุวัฒนกุมาร" อายุวัฒนกุมารนั้นเติบโตแล้ว อันอุบาสก ๕๐๐ คนแวดล้อมเที่ยวไป.
    ************
    ข้อความบางตอนใน เรื่องอายุวัฒนกุมาร สหัสสวรรควรรณนา อรรถกถาขุททกนิกาย ธรรมบท
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=18&p=8
    =AZULTp4UE8fTWxv6x9iSRjM9NKmqmm0qN0Wpul6ZJlxk3AL6R0HasfIMNCdGfJJbuK3UzAEMEuJwxUBwTMhbErmZsDTTwsDLCuh5AtEULubHNh-NGJbVQIa4Qojy59s9AFMtXPyk1JbryUYZpCxA3GlXUrLoFiLHeIgqWj5uaN7vH97wGqLqqkj9aw8Cv390mjU&__tn__=EH-R'] deiPFWT4IkaA9XM_GbLk3jttERQcjF2K_lMzlTaV2td&_nc_ohc=QVXaZM3x5KgAX_OlwSz&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ?temp_hash=5a6be2b92caf5ce018d58460c3a2d039.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    อธิษฐานบารมี จะทำให้เข้าถึงจุดหมายของความดีได้รวดเร็ว

    การบำเพ็ญบารมีใด ๆ หรือสร้างความดีใด ๆ เราจะตั้งมโนปณิธาน ความปรารถนาหรือไม่ก็ตาม ถ้าความดีมากครั้งเข้า ในที่สุดความชั่วก็สลายตัวไป เราก็เข้าถึงพระนิพพานตามเจตนา หรือ ไม่เจตนาเราก็จะต้องเข้าถึง ในเมื่อความชั่วถูกตัด เป็นสมุจเฉทปหาน

    แต่ทว่า ถ้าปราศจาก "อธิษฐานบารมี" กว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ก็รู้สึกว่ามันเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือไม่ค่อยจะตรงนัก

    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้มี "อธิษฐานบารมี

    ในการที่ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ตั้งใจกล่าววาจาว่า : "อิมาหัง ภควา อัตตะ ภาวัง ตุมหากัง ปริจจะชามิ" แปลเป็นใจความว่า : ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    นี่ก็หมายความว่า เราจะเอาชีวิตของเราเข้าแลกกับความดีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแนะนำไว้ อย่างนี้

    อาศัยเจตนา และความตั้งใจ จัดว่าเป็นอธิษฐานบารมี บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายจะเข้าถึงความดี ด้วยความรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง

    ( จากหนังสือ "รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ" เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    #พระคาถาพระเจ้าปัดแท่น
    อิสวาสุ อิสะปะมิ สุโข โหมะ
    • คาถาบทนี้เป็นพระคาถาองค์พระพุทธเจ้า ใช้ปัดที่จะนอนจะนั่ง แมลงมดง่ามขึ้นบ้านใช้ไม้กวาดอ่อนปัดกวาดไปภาวนาไป พระคาถาปัดมดง่ามเขาก็ว่า
    • เวลาเราอาบน้ำ เอามือลูบร่างกายของเรา ลูบเหมือนเราลูบขยะสิ่งสกปรกออกไปจากร่างของเรา ก่อนจะทำอะไรภาวนาก่อนแก้อาถรรพ์ต่าง ๆ ได้ โบราณว่าคาถาแป้ขึด คือชนะอาถรรพ์เน้อ
    ตุ๊พ่อพระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ
    วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่
    อ.ลี้ จ.ลำพูน
    ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓
    ที่มา เสียงธรรมจากถ้ำป่าไผ่
    ภาพจาก JoJo Wutty

    8saHPR8veglQfDlSikQxTVmABvQ8dbp6sLe1T1z0hOMd&_nc_ohc=1zhnx5Ha-oAAX-pBfjT&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    โอวาทเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔

    ขอโอกาสพระเถรานุเถระ น้องสามเณร ตลอดจนเจริญพรญาติโยมทุกท่าน วันนี้ทั่วประเทศไทยมีการสวดมนต์บทรัตนสูตร ซึ่งมีบางคนบอกว่าสวดเพื่อไล่เชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งถ้าหากว่าคิดอย่างนั้น เป็นการคิดผิดอย่างแรง..!

    เรื่องของหลักธรรม เรื่องของเนื้อหาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนกระทั่งตัวบทพระคาถาใด ๆ ก็ตาม ถ้าหากว่าเราเข้าใจ เข้าถึง ก็จะสามารถใช้ได้ดีกว่าคนอื่น หลายท่านก็อาจจะสงสัยวิชาการหรือคาถา ตลอดจนกระทั่งวัตถุมงคล วิชาเดียวกัน คาถาเดียวกัน วัตถุมงคลรุ่นเดียวกัน ทำไมผมใช้งานแล้วได้ผลมากกว่าคนอื่น ? หลักใหญ่อย่างหนึ่งก็คือ ผมเข้าใจว่าคาถาเป็นอย่างไร ในเมื่อเข้าใจก็จะเข้าถึงได้มากกว่า

    เรื่องของรัตนสูตรก็เหมือนกัน พระอานนท์ท่านไม่ได้รับจากพระพุทธเจ้าเพื่อไปสวดมนต์ไล่โรคร้ายซึ่งเกิดจากอมุนษย์ ทำให้เกิดโรคระบาดที่เมืองเวสาลี แต่ท่านอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย โดยประกาศเป็นมิตร ถ้าหากว่าเราสวดเป็นก็ขึ้น ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา นั่นเป็นการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย

    แต่ถ้าเราเริ่มตั้งแต่ ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข เราจะเห็นชัดว่าท่านประกาศความเป็นมิตรต่อภูติทั้งหลาย
    สะมาคะตานิ ที่มาประชุมรวมกัน ณ ที่นั้นก็ดี
    ภุมมานิ ที่อยู่ในพื้นที่นั้นก็ดี
    อันตะลิกเข อยู่ในบริเวณนั้นก็ดี
    สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ ขอให้ภูติทั้งหลายจงเป็นผู้มีใจอันดีเถิด พูดง่าย ๆ ก็คืออย่าใจร้าย..!

    แล้วท่านก็ประกาศว่า ให้ฟังสิ่งที่ท่านจะกล่าวถึง ก็คือการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ตั้งแต่ ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา ทรัพย์เครื่องปลื้มใจใดทั้งในโลกนี้หรือโลกอื่นก็ตาม ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าไปกว่าดวงแก้ว คือพระพุทธเจ้า คือพระธรรม คือพระสงฆ์ ไม่ได้สวดมนต์ไล่เลย

    แต่ด้วยความที่พระอานนท์เป็นพระโสดาบัน ความเคารพในพระรัตนตรัยของท่านมาจากจิตใจอย่างแท้จริง เมื่อกล่าวถึงก็เต็มไปด้วยความเคารพ เต็มไปด้วยความมั่นใจในคุณพระรัตนตรัย จึงก่อให้เกิดพลังอย่างมหาศาล เหมือนกับแสงสว่างที่สาดส่องออกไป แล้วทำให้ความมืดทั้งหลายอยู่ไม่ได้ บรรดาภูติผีปีศาจทั้งหลาย ก็เลยต้องเตลิดหนี..!

    ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ออกทางประตูไม่ทัน ก็เบียดกัน ดันกันจนกำแพงเมืองเวสาลีพังทลายลง พระอานนท์ก็เดินพรมน้ำพระพุทธมนต์ไปเรื่อย สวดบทรัตนสูตรสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยไปเรื่อย ฟังไม่ผิดครับ พรมน้ำพระพุทธมนต์ จริง ๆ ก็คือน้ำมนต์นั่นแหละ..!

    เพราะฉะนั้น..ใครพูดถึงเรื่องการเสกน้ำมนต์พ่นน้ำหมากไม่ใช่เรื่องในพระพุทธศาสนา ให้ไปดูในรัตนสูตรว่า พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ทำน้ำมนต์อย่างไร ในเมื่อพระพุทธเจ้าสอนเอง แล้วจะไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ? ถ้าท่านศึกษามากขึ้นเรื่อย ๆ ท้ายสุดก็จะเจอแม้กระทั่งพระพุทธเจ้าสอนอุตรมาณพร้องเพลง..!

    ฉะนั้น...สิ่งที่บรรดานักวิชาการทั้งหลาย พยายามที่จะใฝ่หาธรรมะบริสุทธิ์ ผมอยากจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงสัพพัญญุตญาณ รู้ว่าจะพูดอย่างไร จะทำอย่างไร จึงเหมาะสมที่สุดกับบุคคลนั้น หรือสถานการณ์นั้น บรรดานักวิชาการเหมือนกับหิ่งห้อยอับแสงครับ ไม่ใช่หิ่งห้อยที่สว่างด้วย แล้วพยายามที่จะเข้าใจว่าดวงอาทิตย์สว่างแค่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เองว่าอจิณไตย คือเรื่องที่ไม่ควรคิดมีอยู่ ๔ เรื่องด้วยกัน

    ๑) พุทธวิสัย ความสามารถของพระพุทธเจ้า อย่างน้อย ๔ อสงไขยกับแสนมหากัปที่สั่งสมบารมีมาเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ตายและเกิดจนนับไม่ถ้วน ความสามารถขนาดไหน เสียเวลาไปคิด

    ๒) ฌานวิสัย ความสามารถของผู้ทรงฌานทรงสมาบัติ ทำอะไรพิลึกพิลั่นเกินกว่ามนุษย์มนาทั่วไปจะทำได้ ถ้าเราเองเข้าไม่ถึง ทำไม่ถึง ก็เสียเวลาคิดเหมือนกัน คาดว่าจะตายเปล่าโดยไม่ได้อะไรเลย เพราะไม่สามารถที่จะคิดว่าคาดว่าได้ ว่าความสามารถเหล่านั้นเป็นอย่างไรกันแน่

    ๓) กรรมวิบาก การส่งผลของกรรม พิลึกพิลั่นมหัศจรรย์ขนาดไหน ลองไปศึกษาดูในกรรมทั้ง ๓ หมวด ๑๒ ประเภท

    ๔) โลกจิณไตย ความเป็นไปของโลก

    สี่อย่างนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่พึงคิด ผู้ที่คิดพึงมีส่วนของความเป็นบ้า บาลีใช้คำว่า อุมมัตตกภาโค พึงมีส่วนของความเป็นบ้า เนื่องจากไม่สามารถที่จะใช้สมองคิดแล้วประมวลด้วยตรรกะทั่ว ๆ ไปได้ เพราะว่าไม่ใช่เรื่องโลก ๆ แต่เป็นเรื่องของอภิสังขาร ก็คือยิ่งกว่าการปรุงแต่งทั่วไป
    ดังนั้น...ในการที่เรามาสวดรัตนสูตร โดยมติมหาเถรสมาคมที่ พิเศษ ๔/๒๕๖๔ ครั้งนี้ ถ้าหากว่าใครคิดตั้งใจจะไปสวดมนต์ไล่เชื้อไวรัสโควิด-๑๙ กระผม/อาตมภาพ..ขอบอกว่าท่านทั้งหลายกำลังคิดผิด

    เรื่องของเชื้อไวรัสไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวครับ ผมเองเคยทดสอบด้วยการนั่งแผ่เมตตา จนกระทั่งกำลังใจทรงตัวแล้ว มีความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเราอยู่ในน้ำ เชื้อไวรัสเหมือนกับลูกอ๊อด จะเป็นลูกกบ ลูกเขียด ลูกคางคกอะไรก็ช่างเถอะ ว่ายผ่านไปผ่านมาโดยไม่มีอันตรายกับเรา เพราะว่าเราตั้งใจแผ่เมตตา เขารับรู้ได้หรือรับรู้ไม่ได้ก็ตาม ด้วยกำลังใจของเราที่ทรงเมตตาบารมีอย่างสูง ทำให้เขาไม่รู้สึกอยากที่จะมายึดมาเกาะร่างกายนี้ เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นพวกเดียวกัน ต้องไปหาที่อื่น คนอื่น ในการยึดเกาะต่อไป

    ดังนั้น...การสวดรัตนสูตรก็เหมือนกัน เราต้องสวดด้วยจิตที่เมตตา ตั้งใจแผ่เมตตาสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ใครที่จมอยู่ในกองทุกข์ ขอให้ล่วงพ้นจากความทุกข์ ใครที่อยู่ดีมีสุข ขอให้อยู่ดีมีสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตัวเราไม่เป็นศัตรูกับใคร ยินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วทั้่งโลก ต้องทำใจให้ได้ขนาดนี้เป็นอย่างน้อย การสวดรัตนสูตรครั้งนี้ถึงจะได้ผล

    ถ้ากล่าวมากเกินไปเดี๋ยวจะเลยเวลา เพราะฉะนั้น..วันนี้ก็ขอถวายข้อคิดหรือมอบข้อคิด ให้แก่พระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้่ ขอสวัสดีและเจริญพร
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com


    ?temp_hash=5bd8abf652b45e1515297886e68162e0.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    คำสอนของหลวงตาม้า : อธิษฐานสัจจะบารมี
    หลวงตาท่านเมตตาสอนว่า “เราทั้งหลายควรหมั่นอธิษฐานสัจจะไว้บ้าง แต่ต้องดูเค้าของตัวเองก่อนว่าจะทำได้ไหม โดยให้อธิษฐานจากสิ่งรอบกายที่พอจะทำได้ก่อน เมื่อทำได้แล้ว ก็ให้ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น การอธิษฐานสัจจะบารมีนี้ เป็นการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง เพราะสัจจะบารมีที่เราอธิษฐานนี้ เราสามารถทำได้แล้ว จะได้บารมีอื่นๆ อีกหลายบารมีตามมา เช่น ขันติบารมี ทานบารมี ฯลฯ นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้เราเกิดกำลังใจในการปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นอีก เวลาจะตั้งอธิษฐานจิตให้กล่าวว่า “อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐานมิ”
    หลวงตายังบอกอีกว่า “นักปฏิบัติควรจะมีการตั้งจิตอธิษฐาน แต่ก่อนที่จะเริ่มตั้งจิตอธิษฐานนั้น อย่าลืมพิจารณาก่อนว่า สิ่งนั้นๆ เราต้องแน่ใจว่าเราสามารถทำได้ เราต้องเข้มแข็งพอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และการตั้งจิตอธิษฐานนี้ ท่านให้เริ่มจากทีละน้อยก่อน เช่น เริ่มจาก ๓-๗ วันก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็น ๑-๓ เดือน แล้วค่อยเป็นปี ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ ตามที่เราตั้งจิตอธิษฐานแล้ว บารมีของเราก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาลนะ ถ้าทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ ก็ต้องไปเริ่มต้นที่ ก ไก่ ใหม่ คือทุกอย่างที่เราเคยสร้างไว้ ทำไว้ เป็นอันว่าสูญนะ แต่ทุกคนต้องทำนะ อย่ามัวแต่รอช้า
    เริ่มจากง่ายๆ ก่อน อย่างเช่น เราตั้งจิตอธิษฐานขอถือธรรมะตลอดชีวิต ข้อนี้นักปฏิบัติต้องทำกันได้อยู่แล้ว หรือจะตั้งจิตอธิษฐานว่าชาตินี้เราจะไม่แต่งงาน อันนี้สำคัญนะ เวลาตั้งจิตอธิษฐานข้อนี้ดูเอาเองแล้วกัน ไม่รู้ใครต่อใครมาจากที่ไหนๆ มาหากันเป็นโขยงเลย รับกันไม่หวาดไม่ไหว ไม่เชื่อก็ไปลองทำดูเอง แรงอธิษฐานและบารมีเป็นสิ่งสำคัญ เช่น คน ๒ คน อธิษฐานด้วยกันอย่างไร ก็ต้องเจอกัน เพราะการอธิษฐานนี้เป็นการเชื่อมต่อจิตให้ถึงกัน การอธิษฐานนี้ให้เลือกช่วงที่เรามีจิตใจที่สบาย ปลอดโปร่ง จะช่วยให้การอธิษฐานนี้สำเร็จผล เหมือนกับการที่เราทำบุญ พอเริ่มตั้งจิตอธิษฐานตอนที่เราทำบุญนั้น เราเกิดความศรัทธา ความสบายใจ มันพร้อมไปหมด คำอธิษฐานนั้นก็ได้ผล อย่างหลวงตาพอเริ่มอธิษฐานปั๊ป ให้สังเกตเลย ไม่รู้คนมาจากไหน จนสร้างไม่ทัน เดี๋ยวก็มีโน่น เดี๋ยวก็มีนี่ ด้วยแรงอธิษฐานผู้ที่เกี่ยวพัน เกี่ยวข้อง จะต้องมาช่วยกัน ที่เห็นๆ อยู่นี้ ก็ด้วยแรงอธิษฐานทั้งนั้น ไม่ใช่เที่ยวไปหา ไปแจกซอง ใช้แรงอธิษฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวพันเท่านั้น แล้วผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันทั้งหลายก็ต้องมา ไม่งั้นอยู่ได้ที่ไหน เร่าร้อน หงุดหงิด ต้องมา”
    หลวงตาเล่าว่า “เคยให้พระชัชวาลท่านลองอธิษฐานจิตดู ตอนที่ท่านจะกลับไปบ้านท่าน โดยบอกให้ท่านอธิษฐานถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับท่าน ให้มาหาท่าน หลังจากนั้น พระชัชวาลได้กลับมาเล่าให้หลวงตาฟังว่า เห็นผลเลย เขาอยู่กันไม่ได้ อยากจะมาหา แล้วก็จะมาหาอีก เพื่อนท่านจากกรุงเทพฯ อยู่ๆ ก็ต้องขับรถมาเลย”
    หลวงตาบอกว่า “หลวงปู่ดู่ท่านให้อธิษฐานโดยตั้งบารมี ๑๐ ได้แก่
    ๑. ทานบารมี ความพอใจในการให้ทานอยู่เสมอ เป็นการตัดโลภ
    ๒. ศีลบารมี พยายามรักษาศีลให้ครบ เป็นการป้องกันอบายภูมิ
    ๓. เนกขัมมบารมีพยายามระงับนิวรณ์ในเบื้องต้น ป้องกันความวุ่นวายของจิต
    ๔. วิริยะบารมี ความพากเพียรต่อสู้กับกิเลส
    ๕. ปัญญาบารมี การทรงปัญญายอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง
    ๖. ขันติบารมี ต้องมีความอดทน
    ๗. สัจจะบารมี ความตั้งใจจริง
    ๘. อธิษฐานบารมี
    ๙. เมตตาบารมี
    ๑๐.อุเบกขาบารมี อดทนต่อความอดกลั้นทั้งหลาย และให้รู้จักละวาง
    ลูกศิษย์ถามว่า “ถ้าเราอธิษฐานตามใครสักคน ก็ต้องตามตลอดเลยหรือ”
    หลวงตาบอกว่า “แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องของบารมี ไม่ใช่ว่าบารมีคนจะเท่ากัน อย่างเช่น เราเกิดมาในภพนี้ เราอัดบุญกัน ๒ คน พร้อมๆ กัน บุญที่ได้ยังไม่เท่ากันเลย บารมีคือกำลังใจ อย่างคนนั่งสมาธิ ๒ คน คนหนึ่งนั่งแค่ ๒ นาทีก็เมื่อยแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งนั่ง ๒ ชั่วโมง ไม่เป็นไร นั่งเหมือนกัน ปฏิบัติเหมือนกัน ยังได้ไม่เหมือนกันเลย บุญที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน อย่างเรื่องของการพิจารณา ให้พิจารณาให้รอบคอบ พิจารณาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ลึกๆ ในคำสอนแต่ละข้อๆ ลูกศิษย์ ๕ คน สอนในบทเดียวกันยังใช้ไม่เหมือนกัน เพราะอะไร เพราะอยู่ที่ความตั้งใจ เจตนา และความเชื่อของแต่ละบุคคล
    ผลออกมาจึงย่อมไม่เท่ากัน ต้องรู้หลักอธิษฐานและหลักของการทำบุญ ผู้ที่ไปแล้วก็เยอะแยะ ผู้ที่ยังตามอยู่นี่ก็มี พวกที่ไปแล้ว อย่านึกว่าจะตามอีก บางคนก็ไม่ตาม เขาไม่ตามก็เพราะเขาถึงแล้ว เขารู้แล้วว่า เกิดนี่ทุกข์ขนาดไหน เขาก็ไม่ตามอีก” (คำว่า “ถึง” ในที่นี้ หลวงตาหมายถึง พระนิพพาน)
    ลูกศิษย์ถามว่า “ถ้าเราอธิษฐานขอถึงพระนิพพานนี่เรามีโอกาสจะถึงไหม”
    หลวงตาบอกว่า “ถ้าเราปฏิบัติจริงก็ถึง ถ้ากำลังใจเราถึง ดูอย่างพระมหาวีระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) สิ พอท่านละสังขาร ลูกศิษย์ท่านมาเยอะเลย หลวงตาพูดจริงไหมละ การลานี่ไม่ใช่ลากันง่ายๆ เพราะความผูกพันกับพรรคพวก หมู่คณะ ไหนๆ มาด้วยกันไม่รู้กี่ภพต่อกี่ชาติ กี่ชาติต่อกี่ชาติ ก็ตามกันมา เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาศรัทธา ศีล ทาน การศึกษา ปัญญา หลวงปู่ดู่ท่านสอนไว้อย่างนี้แหละ ว่ามีครบ ปรารถนาไปไหนก็ได้”
    ๑. ศรัทธา คือ ความเชื่อ เชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อว่านรก สวรรค์มีจริง เชื่อเรื่องมีเกิด มีแก่ มีตาย
    ๒. ทาน คือ การให้
    ๓. ศีล คือ การรักษา
    ๔. อศิตะ คือ การศึกษาจากพระไตรปิฎก หนังสือ คณาจารย์
    เวลาไปวัดไหนก็ตาม ท่านสอนก็ฟัง ฟังแล้วก็เอามาพิจารณาว่าเท็จจริงอย่างไร ถูกไหม แล้วก็รวมเข้าเป็นปัญญาทั้งหมด ตั้งแต่ข้อแรก อย่างเราเชื่อว่าเราต้องตายแน่ เมื่อตายแล้วเราต้องเกิด เมื่อเกิดแล้วเราอยากสวย อยากหล่อ อยากรวย อยากเป็นใหญ่ เราจะทำอย่างไร เราก็ต้องรักษาศีล ไม่เป็นคนขี้โกรธ หมั่นให้ทาน เกิดมาก็สวย ไม่โกรธ เพราะโกรธแล้ว ให้ไปส่องกระจกดู หน้าจะหงิก เมื่อหน้าหงิกเพราะความโกรธ จิตก็อัดเข้าไปแล้ว ยิ่งโกรธบ่อยเท่าไร เกิดใหม่ก็ไม่สวยเท่านั้น ถ้าไม่โกรธ เกิดอีกทีก็เป็นใหญ่ สวย รวย นี่มีในพระไตรปิฎก อย่างนางวิสาขา ในพระไตรปิฎกมีอยู่ ๗ นาง ที่ปรารถนาพร้อมกัน ตั้งแต่นางอุบลวรรณา นางเขมา นางผกาจารา ฯลฯ พอถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ดูซิทุกข์ไม่เหมือนกันเลย เพราะช่วงที่เวียนว่ายตายเกิด ไปทำกรรมไว้ นางผกาจารานี่ทุกข์กว่าใครเพื่อน ทั้งๆ ที่ปรารถนาพร้อมกัน นางวิสาขาสบายกว่าเพื่อน ฉะนั้น เมื่อเรารู้หลีกแล้วจะทำอย่างไร ก็เลือกกันเอาเอง เกิดมานี่ทุกข์มากเห็นๆ กันอยู่ ถ้าเรามองว่าเกิดมาแล้วเป็นอย่างไร แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ก็ใกล้เคียงกัน เวลาเขาให้ทาน ก็ไปกินเหล้าซะ ไม่โมทนา แค่โมทนาเท่านั้น หรือเวลาเขาทำบุญ ก็มัวแต่ไปขัดซะ ให้ดูเราโชคดีเท่าไร หลวงปู่ดู่ท่านสอนให้เตรียมตัวไว้ เพราะเราตายแน่ๆ ตายแล้วจะไปไหนนั่นคือปัญหา เราจะเอาพ้นทุกข์ หรือตามหลวงปู่ หรือจะปรารถนาสูงกว่านั้นก็ได้ ให้เราตั้งความปรารถนาไว้ ตั้งไว้แล้วก็ต้องทำ ไม่ใช่ตั้งแล้วก็ไม่ทำ อย่างนี้ก็จบกันเท่านั้น”
    ลูกศิษย์ถามว่า “ถ้าอย่างนี้เราอธิษฐานไว้สองอย่างได้ไหม คือ ถ้าเราไปไม่รอด ก็ขอตาม แต่ถ้าเราไปรอดก็ขอแยก”
    หลวงตาบอกว่า “ได้ เราต้องเผื่อขาดเผื่อเหลือไว้ หลวงปู่ดู่ท่านก็สั่งพระเล็กกับหลวงตาไว้ว่า ถ้าไปได้ให้ไปเลย และหลวงปู่ดู่ยังสั่งอีกว่า ให้ลูกศิษย์ทุกคนรีบปฏิบัติกลัวไม่ทันกัน หลวงปู่ดู่บอกว่า “ให้รีบทำเข้าไว้” โลกกำลังเปลี่ยนแปลง เราจะตายเมื่อไรก็ไม่รู้”
    หลวงตาท่านยังบอกอีกว่า “การตั้งสัจจะอธิษฐานอย่างที่ทำกันทุกวันนี้ถูกแล้ว ให้ทำกันอย่างจริงจัง จะได้ทั้งวิริยะ ได้ทั้งศีล ได้ทั้งทาน ได้ทั้งขันติ ได้ทั้งอธิษฐาน ได้เกือบครบบารมี ๑๐ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องทำให้ได้จริงๆ เอาเท่าที่กำลังใจเราจะทำได้ การตั้งสัจจะอธิษฐานในการนั่งสมาธินั้น ให้อธิษฐานว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ภายใน ๗ วัน ข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิทุกวัน แล้วก็ว่า อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐานมิ แต่อย่าบอกว่ากี่ชั่วโมง อย่าเจาะจงจนกว่าเราจะแน่น"
    ลูกศิษย์ถามว่า “ถ้าเราตั้งสัจจะอธิษฐานอะไรก็แล้วแต่ เกิดเราทำไม่ได้นี่ขอลาได้ไหม”
    หลวงตาบอกว่า “การตั้งสัจจะอธิษฐานนี้ ถ้าเราทำได้ เป็นการเพิ่มกำลังใจ ถ้าเราเสียสัจจะ เราก็เสียกำลังใจนะ ถ้าขอลาก็ได้ แต่กำลังใจเราจะคงที่หรือ การเสียสัจจะนี่ ทำให้บารมีไม่เต็ม ถ้าเราตั้งสัจจะอธิษฐานสมมุติตั้งไว้ว่า เราจะนั่งสมาธิ พอถึงเวลาเราก็ต้องนั่งนะ ถึงแม้ว่าเราจะนอนก็ต้องคิดว่าเรานั่งสมาธิอยู่ หมายถึงเอากายใน (กายทิพย์) นั่งก็ได้ เพราะเราไม่ได้ระบุว่า เราจะใช้กายไหนนั่งสมาธิ นอนเราก็นึกว่าเรานั่ง ถ้าเราอธิษฐานว่าใช้กายนอก (กายเนื้อ) นั่ง เราก็ต้องนั่ง แต่ถ้าเรากลัวก็ให้อธิษฐานว่า ข้าพเจ้าจะภาวนาทุกวัน นี่คือการใช้วิจารณญาณเป็นที่ตั้ง ถ้าเราทำได้ กำลังใจเราจะเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อเกิดบารมี ก็เกิดสัจจะและกำลังใจ เวลาเราภาวนาเราก็ใช้กายใน (กายทิพย์) ภาวนา ไม่ใช่กายนอก (กายเนื้อ) หลับตาก็นึกว่าเรากำลังนั่งภาวนาข้างหน้าพระ ทำไปเรื่อยๆ จิตกับกายจะสัมพันธ์กันตลอด จะไม่ละเมอ เพราะช่วงที่จิตกับกายปฏิสนธิอยู่จะติดคำภาวนา จะไม่มีการละเมอ ถ้าละเมอจะรู้เลย ถ้าเอาสติคุม จะรู้ทันทีว่านี่คือความฝัน จิตยังมีกิเลสตัณหา แต่กายนี้สามารถแยกได้ เราเอากายออกมาแล้ว เอาศีลคุมกรรมฐาน หลวงปู่ดู่ท่านว่า “พอตื่นขึ้นให้ทำเลย” คือลืมตาขึ้นทำเลย จะเอาวิปัสสนา หรือจะเอากรรมฐาน ๔๐ เราก็ต้องทำจนกว่าจะหลับ ให้คุมอยู่ตลอด มันจะโผล่บ้างก็ช่วงที่เราคุยกันอยู่”
    juolc_o6HC5kMOzWkyx-zkHUflzN37M-9qh-ZNMmkv2&_nc_ohc=Jp9b2v6xd9oAX8R9lE_&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    rJZJky3hyCjOe_dwfWT1rVXgiCR1fPGtwqWXNeXCa1mL&_nc_ohc=dUDByQDDpG0AX_U2tyN&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ..... ถ้าเราเข้าใจตัวเอง...เราจะไม่ว่าใคร......


     
  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ZuY-sKlMtziPyhrhP8p_zBhQxHKjSGGzlrT2XpK7Adr&_nc_ohc=07k9N_Ol9VkAX9DdKiA&_nc_ht=scontent.fbkk22-4.jpg
     
  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ถาม : ...(เรื่องพระคาถาเงินล้าน)...
    ตอบ : ถ้าเรามีความเชื่อ ความเลื่อมใสจริง ก็ภาวนาให้เป็นปกติ ยิ่งว่างงานยิ่งดี เล่นพระคาถาทั้งวันไปเลย แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วคนเรากำลังใจไม่พอ อันดับแรกคือ ศรัทธาไม่พอ อันดับที่ ๒ คือ วิริยะไม่พอ อันดับที่ ๓ คือ ขันติไม่พอ อยากรวยถ้าไม่ลงทุนแล้วจะรวยอย่างไร ? คราวนี้การลงทุนภาวนาพระคาถาเงินล้าน เป็นการลงทุนที่น้อยที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากจะลงทุนกัน
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
    =AZX9YtzNASH7RXw_3xHc3qQDCa6cWIdidu5TKRyFAZrkhs1LRBb4m-XacvuKWlnVpd-islfIodLq9jTB6FnKJueOP3-JvBhTq72j2MbuL4B9CWoNaVsqYOWUIK0Mzmb_5n9_hT5OBfUrXaBNCTD3hkHul937WoSaCZ8QFiCaE7eAa2DP1lLIpS9EUMk3b22bHEQ&__tn__=EH-R'] 9jDnwRakyvose1F-I6dTLBQr&_nc_ohc=7b-IzOiKMiEAX9v2KKI&tn=kCvwuuuHDyY7OkbX&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    ?temp_hash=1806e38099519a6ab88602b1f4be7057.jpg



    ภาวนาอย่างไรจะให้ลูกในท้องแข็งแรง

    1f64f.png ถาม : ภาวนาอย่างไรจะให้ลูกในท้องสมบูรณ์ แข็งแรง ?

    1f496.png ตอบ : ไปสวดอังคุลิมาลปริตรก็ได้ ในหนังสือเจ็ดตำนาน ที่ว่า ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา สั้น ๆ แค่ ๓-๔ บรรทัด ประโยคสุดท้ายบอกว่า โสตถิ คัพภัสสะ แปลว่า ขอให้ครรภ์นี้จงสวัสดี ก็คือ ปลอดภัยทุกอย่าง

    โบราณเขาใช้เป็นคาถาทำน้ำมนต์ให้คลอดลูกง่าย เราก็ภาวนาแล้วนึกถึงลูก ขอให้แข็งแรง สมบูรณ์ เลี้ยงง่าย โตเร็ว อะไรก็ว่าไป ในหนังสือมนต์พิธีก็มีจ้ะ ภาวนาเยอะ ๆ ลูกออกมาจะได้น่ารัก
    ........................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
     
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    "อาตมาตื่นนอนมาตอนตีสามก็เริ่มภาวนา จะไปครบจำนวนเอาตอนทุ่มหนึ่ง #แปลว่าทั้งวันอยู่กับการภาวนาผลของคาถาเงินล้านจะทำให้ลาภผลไหลมาเทมา
    ในสมัยนั้น ถ้านับในส่วนของพระด้วยกันแล้ว นอกจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องการเงินอาตมามีความคล่องตัวที่สุด #แต่คำว่าคล่องตัวอาตมาคือไม่มีเหลือ #เนื่องจากได้มาเท่าไรก็ทำบุญกับหลวงพ่อรายการนั้นบ้าง รายการนี้บ้างจนหมด…
    .
    .
    ดังนั้น..โยมที่บอกว่า ลำบากในเรื่องทำมาหากิน ถ้าตั้งใจภาวนาคาถาเงินล้านจริง ๆ #ไม่เกิน๒เดือนจะมีความคล่องตัวแน่นอน #ที่กล้ายืนยันเพราะทำเห็นผลด้วยตนเองมาแล้ว ทุกวันนี้ ที่บรรดาเพื่อนพระเห็นว่าอาจารย์เล็กรวย ก็คืออานิสงส์ของคาถาเงินล้านนั่นเอง"
    .
    .
    …แปลกดี..บางวันอาตมาเหลือเงินติดตัวอยู่แค่ ๒๒ บาทเท่านั้น..!
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านแนะนำเอาไว้ ท่านบอกว่าจะมากจะน้อย #ขอให้มีเงินติดตัวไว้ #บาทหนึ่งสลึงหนึ่งก็ยังดี ถ้าใช้คาถาเงินล้านของท่าน "#อย่าพูดคำว่าไม่มีเงิน" อย่างไรก็ต้องมี…
    ถ้าหากว่าโยมมี #เหรียญที่ไม่ได้ใช้ ก็ใส่ ๆ กระเป๋าไว้บ้าง #อย่างไรก็ให้มีเงินติดกระเป๋าอยู่เป็นการแก้เคล็ด.."
    .
    .
    "ในสมัยของหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์ที่ทำคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ แล้วประสบผลสำเร็จเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ พอมาถึงรุ่นหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านไม่ได้ยกตัวอย่าง #แต่อาตมาก็ทำให้เห็นแล้วว่าถ้าทำจริงก็มีผลจริง
    เหลือแต่พวกเราทั้งหลายว่า จะมีใครทุ่มเทจริงจัง เมื่อถึงเวลาแล้วจะได้ประกาศอย่างเต็มปากเต็มคำว่า #เราปฏิบัติกรรมฐานแล้วได้ผล โดยเฉพาะในส่วนของคาถาเงินล้าน ที่มีอานิสงส์พิเศษก็คือ #ความคล่องตัวในความเป็นอยู่
    อานิสงส์ของการภาวนานั้นเราได้พุทธานุสติเต็ม ๆ อยู่แล้ว #เพราะเป็นคาถาที่พระพุทธเจ้าท่านมอบให้มา ถ้าเราต้องการไปนิพพานก็ภาวนาคาถาเงินล้านแล้ว #เอาใจเกาะพระนิพพานไว้ ในส่วนของการดำรงชีวิตอยู่ #เราต้องการผลพิเศษของคาถา
    ไปทำจริง ๆ สักที เราต้องกล้าคิด กล้าทำ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าไม่มีใครกล้าเราก็ว่าเสียเอง #ทำตัวเองให้เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์เสียเลย ถ้าเราทำได้ผล ถึงเวลาไปสอนคนอื่น #ก็จะสอนได้อย่างเต็มปากเต็มคำอีกด้วย"
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๓
    =AZV6YKVQr789B-uCmBIiYN9xsoGMgLBlP6GmTA1wB1hqIfl6y4UvozJyTmXqL4RJr4s9HrGtZi0PTL58VfqDIwiKG6sciqAMl_vOEt5rvh6C6OLxjYto3IKnmFogfceDTSSgT_9_IdNXrYzJ_dMJCY-33sIOHNjMhhZWuommcamA55-67NV0IaT7IRA56SSOmBk&__tn__=EH-R'] tn7DEpTms__6csVIBPUqLexlWTTGoiTaBZKM6sa4AIo&_nc_ohc=aEhV59bfBtAAX_g7mHb&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    998
    ค่าพลัง:
    +70,040
    " วิญญาณเร่ร่อนสัพเพไปให้เขาเปลี่ยนภพแล้วค่อยให้เขารับบุญ เวลาจะสัพเพหรืออยากช่วยใครให้ใช้บารมีหลวงปู่ดู่ก่อนแล้วค่อยสัพเพไป นึกถึงหลวงปู่ดู่มาครอบที่ตัวเราก่อนแล้วกระแสก็จะส่งผ่านไปยังคนที่เรานึกถึงจะส่งได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับว่า....เรานึกถึงหลวงปู่ดู่ได้มากขนาดไหนน้อมหลวงปู่ได้ดีแค่ไหน "
    " พลังงานที่เต็มจะรู้อะไรหลายๆอย่างไปเรื่อยๆความระลึกรู้ ความสัมผัสรู้...เป็นภาพเลย "
    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
    ajmM644AXRA4OaVrVnMePob&_nc_ohc=NAJxYuYgCX4AX8ks3BV&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...