หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong

ผมขอเป็นแค่เศษผ้าเช็คเท้าท่าน
ไม่เอาอะไรมากกว่านี้
................
ครับ แมว

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Piriya Jord Chukeawngam
.
จริงๆ #หลวงปู่บุญส่ง ท่านไม่ได้อยากไปโรงพยาบาล แต่ที่ยอมไปท่านว่าให้หมอ พยาบาล และศิษย์เขาได้บุญกัน ยอมให้ไปตรวจไปเช็คได้... แต่ยังไม่ยอมนอนโรงพยาบาล ท่านว่าจะไม่นอนแต่จะไปตรวจให้ได้ 55... ท่านบอกว่างานยังไม่เสร็จ ซึ่งหมายถึงการสร้างโบสถ์ ฉะนั้นจะยังไม่เป็นอะไร
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์
#กราบอาราธนาให้ท่านมีธาตุขันต์ที่แข็งแรงครับ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
ครั้งหนึ่งผมได้พาองค์หลวงปู่โพธิ์ท่านนั่งรถกอล์ฟชมโบถส์
ขณะท่านนั้งชมอยู่บนรถ
ท่านให้ความสนใจสอบรายละเอียดต่างๆทั้งการสร้าง
และงบประมาณในการสร้าง
ตลอดทั้งเงินที่หามาก่อสร้าง
ท่านถามว่า
พอมั้ย
หาทันมั้ย
เป็นหนี้เขามั้ย
หลวงปู่โพธิ์
ท่านมาสรูปสั้นๆ ว่าพระเหมือนกัน
แต่ไม่เหมือนกัน
เหมือนกันอาจารย์บุญส่งเป็นพระเหมือนกัน
แต่บุญที่ทำสะสมมานั้นมากมายเหลือเกิน
เราอนุโมทนากับท่านด้วย
โบถส์หลังนี้ไม่ใช่โบถส์อย่างนี้ มันเป็นมากกว่าโบถส์
เมือโบถส์นี้สำเร็จจะเป็นสิ่งประกาศให้คนทุกชาติทุกศาสนาได้มาเห็นมาชม
และบารมีอาจารย์บุญส่งจะแผ่ไกลไปทุกทิศทั่วทาง...
ถ้าเรายังอยุ่เราจะมาชมบารมีท่านทุกปีจนโบถส์เสร็จ....

 

#หลวงปู่บุญส่ง ท่านออกตรวจดูความเรียบร้อยในงานก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งมหาอุโบสถ ส่วนของบริเวณอ่างเก็บน้ำ และบริเวณต่างๆภายในวัด เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นและเรียบร้อยที่สุด ตามที่ศิษยานุศิษย์ได้ร่วมบุญกันเข้ามาด้วยความศรัทธา... โดยในทุกวันหลังจากนี้ หากไม่ติดอะไร หลวงปู่ท่านจะออกตรวจงานที่ดำเนินการอยู่ในทุกๆวัน
.
.
#กราบอาราธนาให้องค์ท่านมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรง

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...ทัตธนันท์ ก้อ แสงโพธิญาณ
.
วาร์ปมาจากแดนไกลด้วยความห่วงใยในองค์หลวงปู่อันเป็นที่เคารพรักยิ่ง
เช้านี้ก้อได้เดินทางไปที่วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เพื่อเข้ากราบองค์ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร พร้อมกับได้น้อมถวาย โพรโพลิซ สเปรย์ และ Multivitamin เพื่อบำรุงดูแลธาตุขันธ์องค์ท่าน พร้อมทั้งปัจจัยดูแลธาตุขันธ์ และทำบุญกับองค์ท่านด้วยค่ะ.. กล้วยปิ้งกว่า 20 ชุดถวายเพลที่วัด และนำทุเรียนหมอนทองปราจีนบุรี 2 ลูก บัวหิมะ 6 กก. ขนมปัง ชิฟฟ่อน และหอมแดงศรีสะเกษ เข้าโรงครัววัดด้วยค่ะ
องค์หลวงปู่ยังคงเมตตา ถามสารทุกข์สุกดิบ ถามสุขภาพ การทำงาน ด้วยความห่วงใยเจ้าก้อเหมือนเช่นเคย.. ท่านเมตตาศิษย์อย่างนี้ทุกๆคนเสมอค่ะ
ช่วงนี้ท่านต้องเข้ามาดูแลงานที่วัดหนักหน่อยค่ะ หลังจากที่ครูบาประโยชน์ หัวเรี่ยวหัวแรงกำลังหลักในการช่วยก่อสร้างอุโบสถเพิ่งจะมรณภาพไป.. ลูกศิษย์ทุกคนต่างก็มีความห่วงใยในองค์หลวงปู่ท่าน จึงได้แวะเวียนสลับสับเปลี่ยนมากราบดูแลและช่วยงานท่านกันตามกำลังที่ทำได้กันตลอดเลยค่ะ
หลังถวายเสร็จแล้ว.. ท่านอำนวยพรให้.. ให้มีแต่ความสุขความเจริญกันทุกๆคนนะ..
(ก้อได้ใช้ปัจจัยในกองบุญสงฆ์อาพาธฯ จัดซื้อโพรโพลิซสเปรย์ มัลติวิตามิน และปัจจัยในกองบุญอีก 1,000 บาท ถวายท่านค่ะ)
ขอทุกท่านน้อมตั้งจิตรับพรจากองค์หลวงปู่บุญส่ง ด้วยกันนะคะ เสมือนทุกท่านได้มาร่วมถวายด้วยกันกับก้อ และรับในอานิสงส์ร่วมกันค่ะ สาธุๆๆค่ะ

 

รู้ว่าหลวงปู่ท่านเหนื่อย แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอใดๆออกมา ที่เห็นก็มีแต่เพียงความเข้มแข็งความเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดเพียงเท่านั้น...
.
ด้วยวัยขนาดนี้ แต่ไม่มีเลยท่านคิดจะหยุดพัก ท่านบอกอยู่เสมอว่าอ่อนแอเป็นเสนียด ขี้เกียจเป็นจัญไร...
.
"... คนอยู่ก็ต้องทำต่อไป หาหนทางไป ทำมาขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้ ถอดใจไม่ได้ เราก็ทำต่อไปนั่นแหละ ทั้งศิษย์และทั้งคนงานต่างๆ ก็ต้องช่วยกันต่อไป ทุกอย่างก็เริ่มใหม่ เดินหน้าต่อไป..."
.
.
=========================
.
.
#ร่วมด้วยช่วยกันสานต่องานครูบาที่ท่านตั้งใจทำงานถวายองค์หลวงปู่บุญส่งและพระศาสนาด้วยกันครับ
.
เพื่อให้แล้วเสร็จตามที่ท่านตั้งใจในวาระสุดท้ายของท่าน

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Piriya Jord Chukeawngam
.

#อนุโมทนาบุญ
.
ขณะนวดหลวงปู่ท่านอยู่ในกุฏิ ท่านได้พูดถึงเรื่องราวต่างๆหลังจากที่ครูบาประโยชน์ท่านได้มรณภาพช่วงหนึ่งตอนนวดว่า
.
"... เกรงใจญาติโยม ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็ยังมากันมาช่วยให้กำลังใจกัน ใครไหนรู้เรื่อง ไม่ติดอะไรเขาก็มากัน เราก็เกรงใจเขา บางคนมาไม่ได้ก็ร่วมบุญกันมา ..."
.
.
อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านนะครับ
.
.
นอกจากนี้หลวงปู่ท่านได้ถามว่ามีใครมาบ้างอะไรยังไง เพราะพอรดน้ำสรีระครูบาเสร็จแล้ว หลวงปู่ท่านก็ขอเข้าพักที่กุฏิ แล้วก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย ท่านบอกให้ปิดประตู ไม่อยากได้ยินเสียงอะไร อยากนอนนิ่งๆ โดยระหว่างนั้นมีศิษย์บางส่วนนวดถวายท่าน
.
.
มีตัวแทนคณะศิษย์ฯ จากกทม. ได้ปวารณาเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมคืนแรกให้กับท่านครูบา เมื่อเสร็จแล้วจึงกลับไปหาท่านที่กุฏิอีกครั้ง
.
.
แจ้งให้ท่านทราบว่าศิษย์มากันพอสมควรหลังจากที่ทราบข่าว หากท่านไหนสะดวก ส่วนท่านไหนติดงานก็จะร่วมบุญกันเข้ามา โดยเบื้องต้นได้ร่วมบุญกันมาส่วนหนึ่งแล้วสำหรับช่วยงาน
.
.
ท่านก็ถามไถ่ถึงแต่ละคน พร้อมกล่าวโมทนาบุญที่ช่วยกัน
.
.
หลวงปู่ท่านเคยปรารภไว้... คนเราเวลาจะดูนิสัยใจคอ ก็ดูตอนมีเรื่องมีปัญหา จะเห็นถึงนิสัยใจคอกันก็ตอนนี้นี่แหละ...
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยความเคารพ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Piriya Jord Chukeawngam
.
#ครูบาประโยชน์มาหาหลวงปู่บุญส่ง
.
ช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการชันสูตรที่โรงพยาบาล ทางคณะศิษย์ได้นำสรีระของท่าน #ครูบาประโยชน์ กลับมาที่วัดในเพื่อจะทำพิธีสรงน้ำในช่วงเย็น เมื่อสรีระครูบามาถึงวัด ขณะนั้นหลวงปู่ท่านพักอยู่ภายในกุฏิขององค์ท่าน
.
เวลาเดียวกันศิษย์ช่วยกันยกสรีระของครูบาท่านขึ้นไว้บนศาลาพร้อมทำความสะอาดเบื้องต้น หลังจากศิษย์ช่วยกันนำสรีระท่านไว้บนศาลาเรียบร้อยแล้ว จึงได้เข้าไปกราบเรียนแจ้งให้หลวงปู่ท่านทราบ
.
.
ขณะเข้าไปในกุฏิ หลวงปู่ท่านยังคงนอนพักอยู่แต่ท่านตื่นรู้สึกตัวแล้ว เรียนท่านว่าสรีระครูบามาถึงวัดแล้ว และตอนนี้นำขึ้นไว้อยู่บนศาลาเตรียมพร้อมสรงน้ำในช่วงเย็นแล้ว
.
.
กล่าวจบ หลวงปู่ท่านก็ปรารภว่า...
.
" เมื่อกี้เขาเข้ามาหาเราแล้ว จึงถามท่านว่ามายังไง หลวงปู่ท่านบอกว่าเข้ามาหาเดินยิ้มเข้ามา..."
.
จากนั้นก็พูดกันอีกสองสามคำ หลวงปู่ท่านว่าเข้ามาหาแล้วเมื่อกี้ ยิ้มเข้ามาเหมือนทุกครั้ง ...
.
.
.....................
.
.
จากนั้นเมื่อถึงเวลาหลวงปู่ท่านจึงออกไปรดน้ำที่สรีระของท่านครูบาตามภาพ และอยู่ร่วมพิธีจนเสร็จ ก่อนจะเข้าพักที่กุฏิอีกครั้ง...
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยความเคารพ

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
ผมและคณะได้น้อมถวายปัจจัย ในการบำเพ็ญ กุศลศพหลวงพี่ประโยชน์ 11,000 บาท
สวดพระอภิธรรมคืนแรก
และน้อมถวายเข้าโรงครัวกลาง เป็นจำนวน 1,500 บาท
และจองเป็นเจ้าภาพในคืนสุดท้ายในวันอาทิตย์นี้อีก 10,000 บาท
ปัจจัยที่ทุกท่านร่วมบุญมา ผ่านการประกาศบอกบุญใน Facebook ของผมจำนวนเงิน 16500 บาท
น้อมกราบอนุโมทนาในบุญนี้ด้วยกันนะครับกระผมกราบอนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมบุญมาสาธุสาธุครับผม

 

#ถ้าไม่มี
#ไม่ได้ท่านโยชน์ดูแลเราก็แย่เหมือนกัน
ท่านนี้เก่งจริงๆเรืองก่อสร้าง
#คำกล่าวหลวงปู่บุญส่ง
ผู้สรรสร้าง
และเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ในการก่อสร้างพระ พระอุโบสถ
และสิ่งก่อสร้างในวัดสันติวนาราม
ท่านเป็นดูแลควบคุมโดยครูบาประโยชน์
เบื้องหลังของจริง

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Piti Songchom
.
#ครูบาประโยชน์

ศิษย์ที่ทราบข่าวรวมตัวกัน
แบบไม่ได้นัดหมายเพื่อมาส่งครูบา
น้อมถวายอาลัย

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Thammawong Namthong
.
คนเราจะเห็นใจกันจะได้ใจกันจะรู้ใจ
และเห็นความเป็นเพือนกันก็ต้องตอนนี้ละนะ คิด
............................
ครับ ปู่
บทสนทนา ค่อนข้างจะทำใจลำบาก ในค่ำคืนอันแสนสงัด เปล่าเปลี่ยวอ้างว่าง โศกเศร้าอาดุลย์
ถวายยาหยอดตา ถวายยาฉัน ห่มผ้าภวายท่าน
ปิดไฟ
แล้วลากลับ กราบ กราบ กราบ แค่นี้ คืนนี้

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...
.
ทำบุญถวายหลวงปู่บุญส่ง : 5,000 บาท
#สร้างมหาอุโบสถ ....
ชาตินี้ผมตายไป ผมไม่เสียดายแล้ว ชีวิตผมด้วยวัยแค่นี้ ผมคิดว่าผมสร้างบุญแบบไม่เสียดายอย่างมากมายทั่วประเทศ รวมถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก
ผมมีส่วนร่วมบุญสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างศาลา ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 วัด
ผมมีส่วนร่วมสร้างพระใหญ่ ไม่น่าจะต่ำกว่า 50 องค์
ผมมีส่วนร่วมสร้างถนน โรงพยาบาล เจดีย์ ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 แห่ง
ผมมีส่วนร่วมสร้างพระกับท่านอื่นๆ และสร้างเอง ไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000,000 องค์
ผมมีส่วนร่วมทำบุญปล่อยวัว ปล่อยควาย ปล่อยปลา ไม่น่าจะต่ำกว่า 100,000 ตัว
ทำสังฆทาน ตักบาตร รวมๆแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 500-1,000 ครั้ง
มีส่วนร่วมผ้าป่า กฐิน ไม่น่าจะต่ำกว่า 200-300 ครั้ง
เดินสายกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ตามวัดต่างๆไม่น่าจะต่ำกว่า 300 วัด
ทำบุญกับวัดวาอารามต่างๆ สร้างบุญรวมต่างๆด้วยเงินตัวเอง ไม่น่าจะต่ำกว่า 5-10 ล้านบาท ในรอบหลายสิบปีมานี้
แบบนี้ ... ทำด้วยใจที่ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา มั่นคงแน่วแน่ สร้างบารมีให้มากพอต่อเป้าหมายสูงสุด
ภารกิจเป้าหมายต่อไป ที่ถือเป็นเป้าหมายอันสูงสุดคือ #ปราสาทฆฏิกามหาพรหม ... ยังรออยู่เสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เมื่อไหร่หนอ ผู้มากด้วยอำนาจ วาสนา บารมี ตะบะ เดชะ จะเดินทางมายัง สุสานทุ่งมน
ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ปี 2567 ปราสาทฆฏิกามหาพรหม จะได้สร้าง ... ปีนี้ 2564 ยังคงมีเวลาอีก 3 ปี ... หวังว่าคำทำนายของท่าน จะเป็นจริง และผมจะได้ทำตามฝันของผมให้เสร็จ
.........
โพสต์นี้ใครหมั่นไส้ผม หาว่าผมโม้ มโน สร้างภาพ ขอเชิญเลื่อนผ่านนะครับ ไม่ต้องมาทำให้จิตใจตนเองเศร้าหมอง และมาสร้างเวรสร้างกรรม ทางกาย วาจา ใจ ต่อกัน ... เทวดาท่านรับรู้ได้ ว่าเรื่องที่ผมโพสต์คือเรื่องจริง หรือเรื่องไม่จริง ให้ท่านตัดสินใจเอง
ส่วนใครยินดี ขอร่วมเชิญอนุโมทนาบุญได้ตามอัธยาศัยครับ ...

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
.
มากราบมาทำบุญกับเราเนี่ย...มีเวลาไปเดิน
ดูโบสถ์กันบ้างหรือยัง....ไปดูกันหน่อยนะ..ว่าเงินที่ทำบุญมานี่...ที่วัดได้เอามาทำตามเจตจำนงค์ของทุกคนกันหรือเปล่า...ไปเดินดูกันหน่อยนะ...ว่าโบสถ์มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว...เงินที่ทุกคนทำบุญกันมา..ทางวัดได้นำมาใช้ก่อสร้างทันทีนะ...ไม่ได้เอามาใช้หนี้เก่า
.
เพราะตั้งแต่ทำโบสถ์หลังนี้มา...ยังไม่เคยเป็นหนี้เลย...ตั้งใจว่าถ้าเป็นหนี้เมื่อไร...ก็หยุดทำเมื่อนั้น...ดีที่มีเทวดาสมมุติเทพทั้งหลาย..ก็พวกเธอๆ ทุกคนนี่แหละที่มาช่วยกัน....
.
ทำบุญกับพระไม่มีหนี้ดียังไงรู้ไหม..?
พวกเธอจะได้ไม่มีหนี้กันไงล่ะ...ใครที่มีหนี้อยู่ก็
จะมีช่องทาง..มีโอกาส..ให้ปลดเปลื้องหมดหนี้กันได้ง่ายนะ...จะได้สบายกันเสียที
.
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
(กล่าวกับผู้มาทำบุญที่วัด 10/ธ.ค./60)
.
ปล.1 อุโบสถวัดสันติวนาราม เริ่มสร้างปี 2555 - ปัจจุบัน2564
ปล.2 หลวงปู่บุญส่งท่านก็ออกตรวจงานด้วยตัวขององค์ท่านเองมาโดยตลอด ตั้งแต่เดินตรวจงานเอง จนมาขี่รถไฟฟ้าคันสีแดง จนมาปัจจุบันรถไฟฟ้าคันขาวคู่ใจของท่าน
ปล.3 จากพี่สุทิน คนขับรถคู่ใจของท่าน มาเป็นพี่แมว สารถีที่คอยดูแลองค์หลวงปู่บุญส่งอย่างใกล้ชิด ผมขอขอบพระคุณพี่แมวแทนลูกศิษย์ทุกท่านด้วยครับ
ปล.4 สำหรับผมแล้ว ชาตินี้ถือว่าคุ้มสุดๆที่เกิดมาแล้วได้มีโอกาสคอยช่วยงานองค์หลวงปู่บุญส่ง มีโอกาสได้ร่วมบุญสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม

 

เปรตไถนา
.
พระภิกษุสงฆ์กลุ่มหนึ่งจำพรรษาอยู่ในโรหนชนบท มีความประสงค์จะเดินทางไปนมัสการพระศรีมหาโพธิ์ ระหว่างทางหลงทางเข้าไปในป่า แล้วไม่สามารถหาทางออกได้ เดินวนเวียนกลับไปกลับมาในป่าเป็นเวลาหลายวัน ภิกษุเหล่านี้ได้รับความหิวโหยลำบากเป็นอันมาก
วันหนึ่ง หมู่ภิกษุสงฆ์เดินมาถึงทุ่งกว้างกลางป่าใหญ่แห่งหนึ่ง เห็นร่างๆ หนึ่งคล้ายมนุษย์ แต่มีรูปร่างที่ดูแปลกประหลาดไม่เหมือนคนธรรมดากำลังเทียมโคใหญ่ ๔ ตัวเข้าที่ไถเหล็กไถนาอยู่คนเดียวในกลางป่า ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่อย่างนั้น โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ภิกษุสงฆ์ดีใจมากจึงพากันตรงรี่เข้าไปถามว่า
"อุบาสก ขอให้ท่านพักไถสักครู่เถิด พวกอาตมาหลงทางอยากถามเส้นทางออกจากป่านี้ ขอให้ท่านบอกแก่อาตมาหน่อยเถิด จะได้เป็นบุญกุศล"
ชายผู้นั้นตอนแรกๆ ก็ไม่ตอบคำถามอะไร ได้แต่ไถนาไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อพระภิกษุถามซํ้าๆ อีก จึงกราบเรียนท่านไปว่า
“พระคุณเจ้า พวกท่านเพิ่งหลงทางแค่ ๗ วันเท่านั้น ความลำบากยังไม่มากเท่าไร แต่ข้าพเจ้าสิหลงทางอยู่ที่นี่ ไถนาอยู่ตรงนี้ตั้ง ๑ พุทธันดรแล้ว ได้รับความลำบากมากกว่าพวกท่านอย่างมากมาย”
พระภิกษุทั้งหลาย ได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจ จึงพากันพิจารณารูปร่างของอุบาสกผู้นั้น จึงทราบว่า บุรุษผู้นี้มิใช่มนุษย์
พระภิกษุจึงถามว่า "ท่านเป็นใคร"
เขาตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นเปรต กำลังรับทุกข์ทรมานอย่างหนัก ต้องไถนาทั้งกลางวันกลางคืน จะวางคันไถลง ก็วางคันไถลงไม่ได้"
เปรตตนนั้นพูดขึ้นด้วยความรันทดหดหู่ใจ พระภิกษุทั้งหลายจึงถามถึงกรรมในอดีตของเขา เขาจึงเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ตนเองเผลอไปทำพลาดพลั้งเอาไว้ว่า
"เมื่อก่อนตัวข้าพเจ้าเป็นชาวนา ในยุคของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่วันหนึ่งกัลยาณมิตรทั้งหลาย ซึ่งรักการสร้างบุญสร้างบารมีพากันไปทำบุญ สักการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเอิญว่ากัลยาณมิตรเหล่านั้นอยากจะให้ข้าพเจ้าได้บุญกับเขาด้วย จึงพากันมาชวนข้าพเจ้าไปทำบุญ แต่ตอนนั้นข้าพเจ้าเองกำลังมีใจขุ่นมัว ไม่อยากจะทำบุญทำทานแต่อย่างใด จึงคิดด้วยใจขุ่นๆ ว่า
การไปทำบุญเป็นการเสียประโยชน์ เสียเวลาทำมาหากิน สู้ไถนาไม่ได้ จึงตอบคนพวกนั้นไปว่า ไม่ไปหรอก เสียเวลาไถนา
พวกเขาก็พยายามชี้แจงเรื่องไม่ประมาทในชีวิต ข้าพเจ้าโมโหเลยพูดว่า พวกท่านเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เราหนวกหู ถ้าพระพุทธเจ้าของพวกท่านไม่สามารถไถนาให้เราได้ เราก็จะไม่ไปทำบุญด้วยหรอก เมื่อใดที่ท่านมาไถนาให้ดูได้ เมื่อนั้น เราจึงจะไปทำบุญ ด้วยการพูดจาไม่ยั้งคิด ไม่พิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ทำให้ข้าพเจ้านั้นต้องเกิดมาเป็นเปรต ชดใช้กรรม อดข้าว อดน้ำ ไม่ได้นั่ง ไม่ได้นอนตลอด ๑ พุทธันดร ต้องไถนาอยู่ตลอดเวลา ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะหมดกรรมสักที"
เมื่อพูดถึงตอนนี้เปรตก็ทำนิ่งๆ แล้วชี้บอกเส้นทางออกจากป่ากับเหล่าพระภิกษุทั้งหลายพร้อมกับบอกว่า เมื่อพระคุณเจ้าทั้งหลายออกไปแล้ว ขอให้บอกเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายด้วยเถิดว่า
ขอให้เพื่อนมนุษย์ผู้ยังไม่ตาย จงขวนขวายในการทำบุญให้ทาน อย่าได้ประมาททำบาปอกุศลแม้เพียงเล็กน้อยเหมือนอย่างข้าพเจ้าเลย อย่าได้เป็นคนมีวาจาชั่วหยาบ จ้วงจาบผู้ทรงศีลจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ให้หมั่นสร้างบุญกุศลไว้ เมื่อถึงคราวละโลกไป จะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานเหมือนอย่างข้าพเจ้า
พูดจบก็ประนมมือนมัสการพระภิกษุแล้วก็เริ่มไถนาต่อไป

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
.
.
"ทำบุญร่วมสร้างอุโบสถหลังนี้นะ ทำปุ๊ปมีวิมานมารอเราเลยนะ"
.
ประโยคนี้เป็นการได้ยินเป็นครั้งที่3 จากพี่ที่รู้จักท่านนึง ซึ่งพี่เค้าก็เป็นคนปฏิบัติท่านนึง
พี่เค้าเล่าว่าที่ตามมาทำบุญร่วมสร้างอุโบสถกับหลวงปู่บุญส่งเรื่อยๆ เป็นเพราะว่ามีคืนนึง ฝันเห็นอุโบสถจตุรมุข ซึ่งก็คล้ายกับอุโบสถวัดสันติวนาราม แล้วมีคนมาบอกว่า ทำบุญสร้างอุโบสถหลังนี้นะ ให้ร่วมบุญนะ เพราะถ้าทำแล้วจะมีวิมานมารอเราเลย อุโบสถหลังนี้... อานิสงส์เหลือคณานับและยิ่งกอปรกับทำบุญกับพระที่มากบารมีอย่างองค์หลวงปู่บุญส่งด้วย... ยิ่งหนุนส่ง ส่งเสริมขึ้นไปอีก
ความจริงผมก็เคยได้ยินประโยคแนวๆนี้จากพ่อแม่ครูอาจารย์มาก่อนหน้านี้มาแล้วถึง2องค์ ยิ่งตอกย้ำทำให้มั่นใจถึงอานิสงส์ผลบุญจากการร่วมทำบุญสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม
#โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อย่าเชื่อที่ผมเขียน แต่ให้มาพิสูจน์ดูด้วยตัวของท่านเอง
.
ปล. อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมเข้าใจนะว่ามีหลายคนที่ช่วยกันร่วมบุญสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม และก็มีอีกหลายคนที่แอนตี้หรือมีความคิดที่ไม่ชอบ หรือไม่เห็นด้วยกับการสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม "สร้างทำไมให้ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีความจำเป็นเลย เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า"
ซึ่งตรงส่วนนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่าน แต่ตอนนี้ผมอยากให้ก้าวผ่านประเด็นนั้นไป ตอนนี้อุโบสถวัดสันติวนารามก็สร้างมาได้สัก70-80%แล้ว สร้างมาได้จนถึงขนาดนี้แล้ว เราๆท่านๆที่เป็นพุทธศาสนิกชน เราก้าวข้ามความคิดส่วนตัวแล้วมาร่วมแรงร่วมใจร่วมบุญกันสร้างถาวรวัตถุชิ้นนี้เพื่อสืบสานต่อยอดให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเรากันดีกว่าครับ
#น้อมอนุโมทนาบุญด้วยครับผม

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
.
หลวงปู่...ผู้เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว
#ประโยคอมตะ
วันเกิดรู้ได้ ....วันตายไม่รู้..
วันนี้ยังอยู่....ต้องสู้ต่อไป....
หลังจากครูบาประโยชน์ได้มรณภาพลง หลวงปู่บุญส่งก็ให้คนงานหยุดงาน 2 วัน ตัวหลวงปู่เองก็ได้นอนชาร์จพลังอยู่ 2 วัน ท่านคงพิจารณาอะไรหลายอย่าง จนเมื่อวานซืนและเมื่อวานและวันต่อๆมาก็เริ่มลุยงานใหม่ ท่านว่า...ต้องทำต่อไป อ่อนแอไม่ได้ เป็นผู้ปกครอง ถ้าหัว...มันหมดกำลังใจ คนอยู่ใต้บังคับบัญชาก็จะไม่เหลืออะไร
รู้ว่าท่านเหนื่อย และไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหน อะไรยังไง แต่ท่านก็เด็ดเดี่ยวมากๆ ไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น ที่เห็นก็จะมีแต่ความเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งและเด็ดขาดเท่านั้น
ด้วยวัยขนาดนี้ แต่ไม่มีเลยที่ท่านคิดจะหยุดพัก ท่านบอกอยู่เสมอว่าอ่อนแอเป็นเสนียด ขี้เกียจเป็นจัญไร...
.
"... คนอยู่ก็ต้องทำต่อไป หาหนทางไป ทำมาขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้ ถอดใจไม่ได้ เราก็ทำต่อไปนั่นแหละ ทั้งศิษย์และทั้งคนงานต่างๆ ก็ต้องช่วยกันต่อไป ทุกอย่างก็เริ่มใหม่ เดินหน้าต่อไป..."
.
.
.
ปล. เชื่อมะครับ ผมงี้พิมพ์เอง อ่านตรวจสอบอีกทีเอง อ่านแล้วน้ำตาคลอเลยอ่ะ สะท้อนใจแท้ๆ พระผู้เฒ่าวัยเกือบ85ออกมาลุยงานเอง
#พวกคุณอ่านแล้วรู้สึกเหมือนผมไหมอ่ะครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับผม

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...NooFirst LoveLove
.
เช้านี้ คุณ ตั้ม หล่อรวยเท่ห์ กำลังเดินทางไปวัดสันติวนาราม
คุณตั้มได้เล่าว่า พอทราบข่าวการมรณภาพของครูบาโยชน์ ก็ได้คิดในใจ.... อยากให้ครูบาโยชน์มาเข้าฝัน และครูบาก็มาเข้าฝันจริงๆ เหมือนท่านรู้ว่าคุณตั้มจะไปวัดสันติวนารามวันนี้ แต่ไม่ได้มาเข้าฝันคุณตั้ม มาเข้าฝันภรรยาของคุณตั้มแทนช่วงเช้ามืด ภรรยาคุณตั้มบอกเห็นหน้าครูบาโยชน์ยิ้มลอยมาเต็มห้องเลย พอสะดุ้งตื่นก็เล่าให้คุณตั้มฟัง
.
ครูบาโยชน์.... ท่านอาจจะเป็นห่วงหลวงปู่บุญส่ง เป็นห่วงงานก่อสร้างอุโบสถ จึงมาเข้าฝันลูกศิษย์ เป็นนัยว่าให้ไปช่วยๆหลวงปู่สร้างอุโบสถกัน อย่าทิ้งหลวงปู่นะ... อะไรแบบนี้
#น้อมกราบครูบาโยชน์และหลวงปู่บุญส่ง

 

เรื่องเล่าจากลูกศิษย์...Piriya Jord Chukeawngam
.
"สนทนากับศิษย์"
.
"หลวงปู่บุญส่ง" ท่านเมตตาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง นานกว่าชม. ทั้งเรื่องธรรมะและการใช้ชีวิตทางโลก หรือเรื่องความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและดวงจิตดวงใจที่ท่านเจอ เล่าเรื่องสมบัติชิ้นสุดท้ายของท่าน เล่าอะไรให้ฟังอีกมากมาย เป็นชม. อยู่กับศิษย์สองคน ณ ที่พัก โดยปกติท่านมักจะไม่ค่อยเล่าอะไรมากเวลาคนเยอะ
.
ศิษย์จึงได้เข้าใจว่าองค์ท่านเจนจบในศาสตร์ความรู้บางสิ่งบางอย่างตั้งแต่บวชไม่ถึง10พรรษา รู้วาระจิตวาระใจ ทำอะไรเอาจริงเองจัง และเช่นเดียวกันหากมีใครทำอะไรไม่ดีกับท่านก็มีอันเป็นไปเองทั้งหมด
.
อย่างเช่นหนึ่งในหลายเหตุการณ์ครั้งในสมัยอดีต มีผู้ที่มีมิจฉาทิฐิแรงกล้าทำไม่ดีกับองค์ท่าน ทั้งใช้อาวุธปืนยิงใส่วัดและข่มขู่ท่านนานาสารพัด แต่ท้ายสุดก็ดั่งที่องค์ท่านปรารภเสมอ ว่าธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ฉันใดฉันนั้น
.
คนบางกลุ่มที่คิดไม่ดีกับท่าน ท้ายสุดกลับโดนปืนนั้นแหละที่ตนใช้ยิงวัดกลับเกิดอุบัติเหตุลั่นไกใส่ขาตนเอง จนต้องตัดขาทิ้ง และจากนั้นไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งพลิกคว่ำเสียชีวิต
.
ส่วนความเป็นอยู่ของครอบครัวหรือฐานะบ้านก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด ทำอะไรก็ไม่เจริญรุ่งเรือง หาความสุขในครอบครัวและชีวิตไม่ได้ อาจด้วยเพราะผลกรรมที่ทำไม่ดีไว้กับองค์ท่าน.. แม้หลวงปู่่เองจะไม่ได้ถือสาหาความ แต่กรรมเหล่านั้นมันได้เกิดขึ้นแล้วจากผลของการกระทำของคนเหล่านี้ที่ได้ก่อไว้
.
.
ท่านว่า เราไม่ได้อะไรกับใคร เราอยู่ของเรา แต่แปลกเหมือนกัน ใครที่ร้ายกับเราหรือจะหาประโยชน์กับเรา กลับมีอันต้องกระเด็นกระดอนกันออกไปกันหมด มีอันเป็นไปกันหมด พระอย่างเรา เอาจริงทำจริง บวชก็เอาจริง ทำอะไรก็ทำจริงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีกลิ้งกลอกปลอกปลิ้น บาปบุญมันก็เลยเห็นผลจริง
.
.
หลวงปู่ท่านมักบอกอยู่เสมอว่า กับเราน่ะเธอทำให้จริง ดีให้จริง แล้วเดี๋ยวเธอจะเห็นกันเอง
.
.
หากยังไม่ได้ความลึกซึ้งหรือหลุดพ้นในทางธรรม อย่างน้อยในทางโลกเธอก็จะไม่มีทางลำบาก ... ด้วยผลบุญที่ได้สร้างได้ทำไว้...
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
.
.
Cr.หลวงปู่สนทนากับศิษย์ฯ