หอพักผีสิง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 20 มิถุนายน 2008.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    หอพักผีสิง

    ขนหัวลุก

    ใบหนาด



    "แต้ว" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากหอพักสยองขวัญ

    ดิฉันเคยได้ยินเขาพูดกันมานานแล้วค่ะ ว่าคนกลัวผีมักจะโดน ผีหลอก ส่วนคนที่ไม่สนใจหรือไม่กลัวผีจะไม่โดนผีหลอก บอกตรงๆ ว่า ดิฉันคนหนึ่งละที่ไม่เชื่อเด็ดขาด!

    ผีจะหลอกหลอนใคร หรือการปรากฏเป็นตัวตน เป็นเสียง หรือเป็น กลิ่นต่างๆ นั้น ผีไม่ได้มัวเลือกว่าใครจะกลัวหรือไม่กลัว นึกอยากจะหลอก ก็หลอกขึ้นมาดื้อๆ ถ้าสถานที่และโอกาสอำนวย เช่น ในวัดหรือตามซอยเปลี่ยวๆ เป็นต้น

    วันนี้ดิฉันมีประสบการณ์เรื่องผีหลอกชนิดดุเดือดเลือดพล่านมาเล่า สู่กันฟังค่ะ!

    จากเด็กบ้านนอกมาอยู่เมืองหลวงเพื่อเรียนหนังสือต่อ ตอนแรกก็อาศัยญาติๆ อยู่แต่แล้วก็ทนไม่ไหว ขนาดพ่อแม่จ่ายเงินแต่ญาติๆ ยังคิดว่าเราเป็นสาวใช้ซะอีก ต้องทำงานบ้านงกๆ ไม่เป็นอันพักผ่อน หรือมีเวลาดูหนังสือกับเขาหรอก การเรียนก็แย่ลงทุกที

    ไม่อยากเป็นเด็กเก็บกด เลยส่งข่าวให้พ่อแม่รู้...ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าอยู่หอพักดีกว่า เสียเงินทองพอๆ กันแต่ไม่ต้องแบกจ๊อบเป็นสาวใช้ไปด้วยไงคะ

    เรียนหนังสือก็อยู่หอ พอสอบเข้าพยาบาลได้ก็อยู่หออีกแล้ว!

    เป็นเด็กหอมาเกือบห้าปี มีประสบการณ์นับไม่ถ้วน แต่เรื่องอื่นๆ ขอข้ามไปนะคะ มาว่าด้วยเรื่องผีหลอกวิญญาณหลอนล้วนๆ แถมเยอะแยะอีกต่างหาก ยิ่งหอพักหญิงล้วนไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ เรื่องกลัวผีน่ะ เพราะกลัวกันทุกคนแหละ อยู่ที่ว่าจะกลัวมากกลัวน้อยเท่านั้นเอง

    ถ้าจะมองถึงสถานที่ก็ต้องนับว่ามีส่วนนะคะ เพราะค่อนข้างเก่าและเงียบ กฎเกณฑ์เคร่งครัดยิ่งกว่าสมัยนี้...ไหนจะเรื่องมีคนเจ็บป่วยล้มตายในหออีกล่ะ ไม่มากก็น้อย...ต้องยอมรับความจริงกันตรงนี้ค่ะ

    เจ็บป่วยตายก็มี ฆ่าตัวตายก็มี...สาเหตุจากอกหักบ้าง เรียนไม่ทันเพื่อนจนเกิดอับอาย รวมทั้งกลัวถูกพ่อแม่ดุด่า เลยตัดสินใจลาโลกโดยวิธีกินยาตายบ้าง ผูกคอตายบ้าง พุ่งลงมาจากระเบียงชั้นบนบ้าง...เพื่อนร่วมหอที่เห็นศพก็มี รู้ข่าวก็มี จะบอกว่าไม่กลัวผีเลยมันก็หนังอินเดียเกินไปนะคะ

    ที่สุดสยองก็คือ "ไปปารีส" หรือรีดลูกที่นิยมเรียกกันว่า "มารหัวขน" นั่นแหละค่ะ บางคนก็น่าอ่อนใจแทนเพราะเล่นไปปารีสตั้ง 3-4 ครั้งแน่ะ ...หลายๆ คนถึงกับตกเลือดจนตายคาห้องพักก็มี!

    โธ่! เพื่อนๆ หอเดียวกันก็เลยขนหัวลุกตั้งกันเป็นทิวน่ะซี...อึ๋ยยยย...

    คนกลัวผีมากๆ นี่แหละค่ะตัวแสบที่สุด เพราะมันจะมีเรื่องผีมาตากลวงโบ๋มาเล่าให้เพื่อนห้องใกล้ๆ กันฟัง ไม่รู้ว่าเสกสรรค์มาจากไหน ล้วนแต่สุดหลอน แสนสยองทั้งนั้น...ที่ว่าเป็นตัวแสบก็เพื่อจะทำให้เพื่อนๆ พลอยกลัวผีไปกับมันด้วย นอนกันสองคนไม่พอ ต้องชวนมันเข้าไปนอน ด้วยเป็นสามคน

    แล้วแม่ตัวแสบไม่มีเพื่อนร่วมห้องหรือไง? อ๋อ! มีค่ะ แต่ถ้าคืนไหนเพื่อนติดธุระติดงานต้องกลับดึก มันต้องนอนคนเดียวไงคะ ตัวเองกลัวผีเลยต้องมาเล่าเรื่องผีให้เพื่อนสยอง...แล้วชวนมันนอนห้องเดียวกันไง!

    "เจ้าจุ๋ง" นี่เป็นหนึ่งในตัวแสบที่จะเล่าต่อไปนี้ละค่ะ

    คืนนั้นเพื่อนร่วมห้องชื่ออ้วนไปเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนักอยู่ลพบุรี ตกค่ำ นังจุ๋งก็เดินเอี้ยมเฟี้ยมมาห้องเราที่อยู่ติดกัน คือดิฉันกับเจ้าอ้อย...ดิฉันรู้ ทันก็จ้องมองไม่วางตา มันทำเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มแหยๆ บอกว่า...ผีดุจริงๆ ว่ะ ไม่ได้แกล้งพูด! ดิฉันถามว่าดุยังไง? ผีที่ไหน? ทำไม ก่อนนั้นไม่เล่า?

    "ผีที่ห้องฉันน่ะซี ถ้าไอ้อ้วนอยู่ก็ไม่น่ากลัวหรอก แต่อยู่คนเดียวมันกลัวว่ะ!"

    แล้วไอ้จุ๋งก็เล่าว่า คืนก่อนกำลังนอนหลับอยู่กับไอ้อ้วนดีๆ ก็ได้ยินเสียง สะอึกสะอื้นจากข้างเตียง ต่างคนต่างหันไปดูกันก็ไม่อะไร...พอจะหันกลับ เท่านั้นแหละ ร่างดำๆ ของผู้หญิงก็ลอยขึ้นมาระหว่างเตียงทั้งสอง เหมือนเล่นกล...ก่อนจะหายวับไป

    "ยังงี้จะให้ฉันนอนคนเดียวได้ไง" มันออดอ้อน "นะๆ พวกแกนอนสองคนก็ไม่สู้มีฉันนอนเป็นเพื่อนหรอก ขอนอนข้างเตียงก็ได้วะ"

    ดิฉันมองสบตาเจ้าอ้อยก่อนจะพยักหน้า ไอ้จุ๋งยกมือไหว้ปลกๆ ชวนเจ้า อ้อยไปช่วยหอบที่นอนหมอนผ้าห่มหน่อย...ดิฉันอดนึกขำไม่ได้ว่าไอ้จุ๋ง มันเก่งที่มาตื๊อเราจนสำเร็จ

    "ช่วยด้วย! ผีหลอก!!" ประตูเปิดผาง สองสาววิ่งหน้าเริ่ดเข้าห้อง... คล้ายกับมีลมแรงๆ กลุ่มหนึ่งพัดฮือเข้ามาด้วย ไอ้จุ๋งโจนขึ้นเตียงตาหูเหลือก เจ้าอ้อยโผเข้ามาหาดิฉันแล้วร้องไห้โฮ...มันนอนขึ้นอึ้ดทึ่ดอยู่เต็มเตียงเลย!

    ตกลงคืนนั้นเรานั่งคุยกันแทบจะไม่ได้หลับได้นอน เจ้าอ้อยยืนยันว่าเปิด ประตูเข้าไปก็เห็นผีนอนอยู่บนเตียง แถมหันหน้ามามองจนแทบจะช็อกตาย คาที่...ดิฉันเชื่อค่ะเพราะไอ้จุ๋งขอย้ายห้องในวันรุ่งขึ้นเลย!


    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEl3TURZMU1RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB5TUE9PQ==
     
  2. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ผมก็ต้องย้ายเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้ามาขอส่วนบุญหรือเปล่า ผมก็เคยเจอทำบุญให้ไปครับ
     
  3. dark-green

    dark-green เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +310
  4. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ผมก็มีนะครับตอนสมัยเรียนที่ กทม.มีเรื่องเล่ากันมากมายผมเป็นเป็นหนึ่งที่พักหอด้วย แต่ผีที่หอไม่มี มีแต่ที่ตามเพื่อนผมมาเพราะมันมีกรรมเคยฆ่าเขาเมื่อชาติที่แล้ว เขามาเข้าฝันมันผมก็พลอยซวยไปด้วย มีอยู่วันหนึ่งพอรู้เรื่องที่ผีตามเพื่อนผมก็หยอกเพื่อนว่าวันนี้เมียเมิงไม่มาหาเหรอ เท่านั้นแหละไม่ทันขาดคำเสียงตบประตูดัง ตูมๆๆ กระหน่ำรัวแล้วหมุนลูกบิดแล้วกระชาก ผมกระโดกอดกับเพื่อนอยู่ซักนาที พอตั้งสติไดก็ตะโกนเรียกถามมันดู ไม่มีเสียงตอบผมก็เดินไปที่ประตูได้ยินเสียงคนหอบแต่ที่หน้าประตูไมม่มีใคร ก่อนปิดประตูผมเอาน้ำมนต์ราดที่ลูกปิด แล้วก็ต้องเปิดไฟนอนกัน ขอย้อนไปนิดนะครับการที่รู้ว่าผีตามได้ไง ก็มาจากผมไปเจอเพื่อนที่เรียนมันเล่นผีปากกา ลิตเติลแองเจอร์ อะไรนี้แหละที่สองคนจับปากกาแล้วจะลากไปตามกระดาษ ผมเห็นก็พูดทันทีว่าพวกเมิงทำบ้าอะไรกันโม้ทั้งนั้น สุดท้ายผมมาแอบเล่นที่ห้องกับเพื่อนอีก 4 คน เพื่อนอีกคนบอกว่าอย่าเล่นมันกลัวผี แต่ผมไม่กลัวเลยเล่นตอนแรกก็เชิญผีมาก็ไม่ขยับ พอบอกให้เจ้าที่อนุญาตใครเข้าก็ได้ เท่านั้นล่ะมาเลย ปากกาแล้วลากเป็นคำโดยไม่ได้ยกปากกาขยับคราวนี้ก็ถามว่าใคร เขาตอบว่ากูเจ้าแม่ตะเคียนทองจะมาเอาชีวิดมึง...ไอ้บิ้ก... โชคดีไม่ใช่ชื่อผม เพื่อนผมอุทานทันที กูว่าแล้วกูบอกเมิงแล้วว่าอย่าเล่น ผมเอามือออกไม่ได้ต้องปล่อยให้ปากกาขยับไปเรื่อยๆ เพื่อนผมกันกลัวผีเลยบอกว่าผมไปทำไรให้คุณ เขาบอกมึงฆ่ากูเมื่อชาติที่แล้วกูรอมึงนานแล้ว เรื่องมันบานปลายไปใหญ่เลยใช้ประคำคล่องจนสบัดหลุด ถึงได้รู้ว่ามีคนตามมาตลอด พอมาคืนนั้นเพื่อนนอนแขวนพระตลอดเป็นคืนฝนตก ในห้องไม่มีสายสิณได้แต่เอาด้ายชุบน้ำมนต์ เอามาติดรอบห้องน้ำฝนที่ค้างบนดาดฟ้าไหลซึมเข้ามาในห้อง ทำให้น้ำมนต์โดนล้างออก ผีเข้าเพื่อนทันที เพื่อนตะโกนบอกว่าผีเข้าเปิดไฟหน่อย ผมก็จะด่ามันเมิงแขวนพระจะเข้าได้ไง พอหันไปมองหน้ามันตาค้าง ผมตกใจเปิดไฟแล้วมันก็บอกว่ามันอึดอัดขยับไม่ได้ แต่มีพลังมารวมออกเป็นแบบพองๆที่หน้าอกที่พระอยู่แล้วผลักออกไป มีเสียงร้องออกมาพุ่งชนประตู ตั้งแต่นั้นมาก็ต้องระวังเพราะมันมาไม่เลิก .....ค่อยเล่าต่อครับมันมาก
     
  5. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    เรื่องของคุณ infinityboon สนุกดีครับ อยากฟังอีกครับ ต่อไปจะเป็นยังไงต่อ
     
  6. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    <font size="3">ขนาดตัวอักษร 16 p </font> โดยส่วนตัวนะครับเรื่องผีๆนี้ ถ้าคนที่เคยเจอบ่อยก็จะเจอบ่อย เพราะแรกว่าสันญาณซื้อสารระหว่างกันเริ่มเปิดออก พูดทางพระที่2อย่างคือ คนที่ดวงตกสุดๆ(อาจมีเคราะห์กรรมหนักหรือใกล้ตาย) ผีไม่อยากให้เห็นแต่ดันไปเห็นเขาเอง และอีกอย่างนี้ดีหน่อยคือเป็นเพราะเขามาขอส่สวนบุญ เขาคงอยากให้เราช่วยเขา ถ้าใครกลัวหรือไม่กลัวก็ทำบุญให้......เอาล่ะครับผมจะเล่าต่อจากเมื่อวานนะครับ หลังจากที่ผีเข้าแล้วมีพระห้อยคอที่ตัว คือหลวงพ่อเงินวัดบางคลานรุ่นฟ้าผ่าอะไรประมาณนี้ (เพราะตอนสร้างมีฟ้าผ่าลงมา ผมก็เล่าไปตามประวัติไม่ได้เห็นเอง) จากนั้นก็เปิดไฟนอนเพื่อนมันก็ตามว่าได้ยินเสียงหรือเปล่าผมบอกว่าไม่ ผมเองก็เอามาแขวนด้วยเล่นเอาหลอนเลย พอรู้อน่างนี้แล้วผมกับเพื่อนก็ไปทำบุญทุกเช้า ผมก็เริ่มที่จะเข้าวัดศึกษาการนั่งสมาธิจากพระ และเริ่มเลี้ยงกุมารทอง เพราะคิดว่าเอากุมารทองมาไว้น่าจะช่วยได้ และก็จริงครับเรื่องเงียบไปพักใหญ่ๆ เพราะเพื่อนผมก็ทำบุญไปให้เพราะกลัวตาย และไปสัญญาว่าจะทำให้ทุกวัน วันนั้นเพื่อนมันกินเหล้าเมามากแล้วไปพูดลบหลู่ว่า เจ้าแม่ตะเคียนทองนี้กูเคยฆ่าแล้วยังจะมาอีก เท่านั้นแหละครับมันมาอีกแล้ว คราวนี้ให้ห้องที่ผมเลี้ยงกุมารทองไว้ จะมีของเล่นให้เล่นที่ทำจากไม้ไผ่ แต่พอกลับมาในห้องของเล่นพังเสียหายเหมือนมีคนทุบพังไปหมด ผมกับเพื่อนก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะกลับมาที่ห้องเจอแบบนี้ มันหมายความว่าอะไร ก็เลยต้องถามการถามนี้จะติดต่อกับวิญญาณแล้ว ซึ่งเขาก็บอกมาว่าไปพูดลบหลู่เขา จากที่เขาใจเย็นลงเพราะได้บุญไป พอทำไปให้เขาไม่เอา แล้วผมก็ถามว่าเขาเข้ามาได้ไงในห้องเจ้าที่ล่ะไปไหน สิ่งที่รู้ก็คือเพราะแรงอาฆาตที่จะเอาให้ตายเพิ่มมากขึ้น และเมื่อก่อนเขาเป็นคนดีวิญญาณเลยมีบารมีสูง พอเป็นเจ้าแม่อีกก็มีลูกน้องด้วย มีศาลตั้งไว้ด้วยผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นศาลเขา ศาลเขาจะเป็นนางกวักไม่มีหัว น่าแปลกนะครับไม่มีหัวแต่ยังมีคนมาไหว้มาเซ่น แล้วจะไม่มีบารมีได้ไง พอเรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ผมเองก็เริ่มศึกษาการนั่งสมาธิ เพราะเคยไปอ่านพบว่าถ้าจะสู้กันก็ต้องใช้ไฟเผา ด้วยพลังจิตจากการฝึกกสิณไฟ เตโช ทุกวันผมก็เริ่มฝึกตื่นเช้าและก่อนนอน จนเจ้าแม่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เพราะในห้องมีพระธาตุของพระอรหันต์ แบบว่าจุดธูปกันเต็มห้อง แต่ก็แปลกในหอเกิดเรื่องแปลกห้องอื่นก็เจอดี ค่าเช่าจาก3500บาท ลดเหลือ3000บาท มันก็น่าแปลก เรื่องถูกผีหลอกพวกผม ผมก็ไปบอกเพื่อนๆในห้องที่เรียนด้วยกัน ทีนี้มีคนไม่เชื่อมาลองของ วันนั้นเป็นวันที่พวกผมจะไปเรียน ร.ด.กันเลยนอนดึก นั่งเล่นไพ่สนุกกันไปพอปิดประตู เวลา 00.00 น.มีคนตบประตูห้องดังตูม......เสียงดังไปทั้งหอ เหมือนว่าจะมีเรื่องกัน เพือ่นที่อยู่ห้องชั้นบนโทรลงมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น จากโทรศัพท์ในหอ ผมก็เปิดประตูออกไปดูไม่พบใครเพราะถ้าเจอคนมากวนตรีน ก็ต้องเจอกับผู้ชายในห้อง 6 คน ซึ่งทั้งหอเขาอยู่กันเป็นคู่ และเป็นหอหลังมหาลัยผู้หญิงอยู่กันมาก พอเจอแบบนี้เพื่อนผมที่จะมาลองของก็พูดไม่ออก เพราะเกิดขึ้นจริงแต่ไม่เห็นตัว เรื่องเริ่มบานปลายเพราะผมเข้ามายุ่ง เขาเลยจะมาเก็บผมก่อนแต่ผมนั้นฝึกสมาธิทุกวัน(การฝึกนี้ต้องพระสอนนะครับ) ผมเริ่มเข้าใจจนมีสมาธินิ่งได้ เลยติดต่อพูดคุยได้ในบางครั้งและก็ถึงเวลาที่ผมมีพลังมากพอ ผมลองนั่งดูว่าเขาอยู่ไหนในตอนกลางวันวันนั้น และพบว่าเขามาอยู่ในห้องของพวกผมจากที่พวกผมนั่งเรียนกันอยู่ ผมก็ลองใช้ไฟเผาชนิดว่าไฟสูง3เมตร แต่ก็หลบไปได้ พอเป็นอย่างนั้นผมกลับมาห้องก็หลับ กับเพื่อนกลางดึกมีคนมานั่งข้างขา ตัวผมระสึกว่ามีคนมานั่งจ่อง ผมลองดูหลี่ตาดูเป็นผู้หญิงใส่คอกระเช้า ผมยาว เท่านั้นผมก็คิดทันทีว่าไม่ใช่เพื่อนตูแน่ เอามือกระชากคอกะลากให้ตกเตียง แต่กระชากมาจะสุดแขนก็หันไปเห็นมีอีก3ตัวนั่งตัวดำอยู่ข้างๆ แล้วมีเสียงสวดแต่ไม่เป็นภาษาของคนฟังไม่เข้าใจ ตัวผมหยุดนิ่งขยับไม่ได้ ผมเคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤษีลิงดำว่า ไม่มีคาถาใดที่จะมีพลังเท่าเรานึกถึงพระพุทธองค์ ผมหลับตานึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วพูดว่าพุทโธ ตัวผมหลุดแล้วตื่น ผมก็มานั่งคิดว่าตะกี้โดนอะไรไม่ใช่ฝัน ผมเลยเอาพระมาตั้งใกล้ๆ ในใจก็คิดถ้ามาอีกจะเอาให้เจ็บเพราะมาเล่นลอบกัดกัน (เริ่มเก่งนิดๆ) เรื่องนี้ผมก็ไปเล่าให้เพื่อนฟังอีกที่ห้องเรียน มีเพื่อนคนนึงไม่เชื่อเรื่องผีมาท้าผมว่าถ้าผีมีจริงๆ ให้มาหลอกกูคืนนี้หน่อย ด้วยความโมโหผมก็ลองนั่งอีก คราวนี้ไปที่หอของเพื่อนแล้วบอกเจ้าที่ว่าอนุญาตให้ผีไปหลอกเพื่อนหน่อยเพราะมันไม่เชื่อ พอดีกับเพื่อนนั่งกินเหล้ากัน5-6คน แต่ก็ไม่ทันจะเมากัน ไอ้เพื่อนคนนี้ที่ว่าผม ดันนั้งร้องเป็นเสียงผู้หญิงแล้วพูดว่าตัวเองเป็นแฟนของเพื่อน ที่ตายไปเพราะเพื่อนมันขับมอเตอร์ไซด์ล้ม แล้วแฟนที่ซ้อนท้ายมาโดนรถที่สวนมาชนตาย เขาบอกว่าเป็นคนๆนี้เอง ทำไมไม่รักเขาแล้ว เพื่อนที่นั่งอยู่ก็กระชากคอมาว่าเมิงเป็นอะไร เท่านั้นก็สลบแล้วก็มีคนสลบตามแล้วร้อง เพื่อนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นไม่ได้เพราะกลัวมาก ตอนเช้ามันมาผาผมทันทีเลยว่า เมื่อวานโดนผีหลอกทำไงดี ไอ้ผมเองก็ลืมเลยนั่งไปที่หอมันแล้วหาดูว่าใคร ก็รู้ทันทีว่าเราสั่งนี้เองเลยไม่ได้ทำอะไรเขา แค่บอกว่าพอแล้วและก็แผ่เมตตาไปให้ หลังจากที่เจ้าแม่หายไปพักใหญ่เพราะผมก็ศึกษาธรรมมะ ไม่อยากไปทำอะไรเขาแต่เขาไม่เลิกกลับมาทำร้ายคนใกล้ตัวต่างๆ จนในที่สุดผมก็จัดการด้วยไฟ แต่ว่าผมฝึกกสิณลมด้วย เลยใช้ไฟเผาแล้วให้ลมพัดเป็นเกลียว เลยเป็นทอนาโดไฟสูง 5 เมตรน่าจะได้เผาจนวิญาณเขาเริ่มที่จะสลาย เพราะต้องบังคับให้ใจเย็นลง พวกลูกน้องที่จะมาช่วยก็โดนเผากันทุกตัวเลย หลังจากที่เผาจนยอมผมก็บอกว่าให้หยุดทำบาป ดวงวิญญาณไม่สงบไปเกิดไม่ได้ต้องใช้กรรม และก็อุทิศบุญกุศลไปให้ร่างของเขาก็เป็นสีขาวขึ้นมาทันที ผมก็ออกจากสมาธิแต่เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียพลังไปมากก็รู้สึกเหนื่อยก็หลับไป หยุดวิญญาณไว้ได้แต่ก็มาบอกเพื่อนว่าอย่าได้ไปลบหลู่เขาอีก เขาสงบก็ทำบุญไปให้เขาด้วย เรื่องราวนี้ผมฝึกสมาธิ2ปี ถึงทำได้ เรื่องมันเกิดในเวลา2ปี ก็ลองดูนะครับว่ามันนาน เจอเรื่องต่างๆที่แปลกจากที่ผมเข้ามาศึกษาสมาธิ เพราะแค่ต้องการเอาตัวรอดจากผีแค่นั้นแต่กลับยาวไปเลย ทิ้งนิสัยที่อยากจะเที่ยวไปเลย แต่ก็มีเรื่องแปลกในหอนะครับ มีเด็กในหอมาเล่าให้ฟังว่า เขารับที่จะเป็นผู้สืบทอดหรือที่เรียกว่าคูรหมอ เขารับจากพ่อเขาเป็นช้อนหรืออะไรนี้แหละแต่เป็นของเขมร เป็นของตระกลูเขา ถ้าไม่มีคนรับจะตายไม่ได้ จะนอนทรมารไปเรื่อยๆ พ่อเขาก็รับมาจากพ่อ แต่พอมารุ่นเขา มีพี่ๆอยู่ด้วยแต่ไม่มีใครรับ เขาสงสารพ่อเลยรับแทน ทุกปีเขาจะต้องกินน้ำมนต์จากพ่อของเขาที่ทำพิธี แต่ว่าปีนี้ติดสอบเขากลับบ้านไม่ได้ ครูหมอเข้าในตัว คล้ายๆของขึ้นกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก มาหาผมแล้วบอกว่ามีน้ำมนต์เปล่าเขารู้สึกว่าต้องกลับบ้านให้ได้ พี่ช่วยหาน้ำมนต์ให้หน่อยไม่ได้กินตายแน่ๆ ไอ้ผมก็นึกตลกน่ะว่าเราไม่ใช่หมอผีจะช่วยอะไรได้ พอดีในห้องมีพระธาตุที่บูชาอยู่ ผมเลยอาราธนามาใส่น้ำ แล้วนั่งมาธิสวดไปแล้วบอกให้มาเอา เขากินเข้าไปก็หาย ผมก็แปลกใจนะว่าเขาหายได้ไง ไอ้สวดนี้ก็แค่นึกให้พระธาตุช่วยเขาทีให้บารมีที่เกิดขึ้นช่วย แต่ก็หายเขาไปบอกพ่อที่บ้านตอนกลับบ้านว่าโชคดีเจอพี่เขาไม่งั้นแย่ พอก่อนดีกว่าครับเริ่มมึนล่ะพิมพ์กันนานเลย ไว้ใครสนใจก็จะเล่าต่อเรื่องแปลกๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2008
  7. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    infinityboon อยากฝึกสมาธิแบบคุณจังครับ ต้องทำยังไงครับ จะฝึกได้ที่ไหน รบกวนด้วยนะครับ
     
  8. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ถ้าอยากเรียนนะครับก็มีวิธีฝึกไม่ยาก แต่ทำลำบากครับ ก็อื่นก่อนนั่งสมาธิทุกคั้งต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ และถ้าฝึกแล้วเหนี่อยก็ให้พักนะครับ เพราะเราฝึกกสิณคือการเพ่งรวมจุดใดจุดหนึ่ง แล้วถ้ามีอำนาจจิตที่เพียงพอก็จะเกิดอภิญญาไปเอง แต่ในตอนผมฝึกผมมุ่งให้เกิดสมาธิไม่ได้อยากเป็นผู้มีฤทธิ์ ถ้าเรามุ่งไปทางมีฤทธิ์โอกาสที่มารเข้ามาแทรกได้ ในที่นี้หมายถึงเราฟุ้งส่านได้อ่ะครับ เอาง่ายๆคุณฝึกกสิณน้ำก่อนผมว่าน่าจะง่ายสุด คือเราไปมองน้ำในอ่างหรือกะละมังใบใหญ่ๆ หรือที่สระที่มีน้ำนิ่ง ย่ำนะครับต้องนิ่งแล้วเราจำภาพน้ำนิ่งให้ติดตา คุณลองมองน้ำแล้วหลับตามองน้ำแล้วหลับตาสลับกันไป จนเราจำภาพน้ำนั้นได้แล้วเอามาฝึก ตอนนั่งก็ให้ภาวนาพุทโธแค่นั้นเอง ฟังดูง่ายป่าวครับ แต่ผมฝึกแบบวิธีลัดคือผมเอาบุญช่วยโดยการตื่นเช้าไปใส่บาตร แล้วอธิฐานว่าให้สำเร็จวิชาสมาธิรับรองถ้าคุณมีจิตแน่วแน่ แม้แต่เทวดาก็จะเจอในนิมิต หรือพวกวิญญาณที่อยากให้เราช่วยก็จะมา แต่ถ้าเราไม่อยากเห็นพวกเขาก็ง่ายๆพอเราเริ่มนั่งเราแผ่เมตตาก่อนเลย ผมขอบอกนะครับเราไม่ต้องท่องมนต์ก็ได้ให้เราตั้งจิตว่า การนั่งครั้งนี้หรือบุญที่เรามีให้แผ่ถึงทุกดวงวิญญาณหรือญาติของเรา เราไม่ต้องกลัวว่าบุญหมดนะครับเพราะในทางพุทธเราก็เหมือนเทียน ตัวเราเป็นเทียนที่จุดไฟอาจจะแท่งใหญ่หรือไม่ใหญ่ก็หมายถึงบุญเรา แล้วผู้ที่เราแผ่ให้เขาก็เหมือนเทียนที่ยังไม่ได้จุด ของเราแท่งใหญ่แต่เขาอาจไม่เท่าเราอยู่ที่บุญกรรมของเราซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปคิดมากครับ เราทำไปก็พอแค่อธิบายให้เข้าใจ จะได้ไม่ต้องสงสัย การฝึกให้นั่งในครั้งแรกๆให้ได้15นาทีก็เพียงพอ ถ้าจิตเราไปไกลหมายถึงอยู่ดีๆไปคิดเรื่องอื่นก็ให้ดึงกลับมา พอเราเห็นน้ำนิ่งได้แล้วก็ใช้จิตมองไปรอบๆ โดยที่น้ำยังนิ่งเป็นอันว่าสำเร็จในขั้นนี้ เอาเท่านี้ก่อนนะครับตัวผมฝึกขั้นนี้กินเวลาประมาณ 2 เดือนท่านที่ฝึกอาจทำได้เร็วกว่าถ้ามีบุญมาช่วย เพราะบุญผมมีเท่านี้ และอีกอย่างถ้าใครเคยอาจฝึกมาเมื่อชาติที่แล้วก็จะยิ่งเร็วกว่านะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  9. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227

แชร์หน้านี้

Loading...