ห้ามฆ่าแต่ไม่ห้ามกิน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย joeycoles, 21 เมษายน 2009.

  1. joeycoles

    joeycoles เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +457
    ห้ามฆ่า แต่ ทำไมไม่ห้ามกิน ?

    โ ด ย : พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์


    ปัญหาเกี่ยวกับศีลข้อที่ ๑ ยังมีให้สงสัยอีกประเด็นหนึ่ง นั่นก็คือปัญหาเรื่องการกินเนื้อสัตว์
    บาง คนคงคิดว่าในเมื่อพระพุทธเจ้าทรงห้ามฆ่าสัตว์แล้ว ทำไมจึงไม่ทรงห้ามการกินเนื้อสัตว์เสียด้วยจะมิเข้าทำนองที่ว่า ปากว่าตาขยิบรึ ?ปัญหาตรงนี้น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของพวกที่ทานเนื้อ กับพวกทานมังสวิรัติ มักจะมีปัญหาโต้แย้งกันอยู่เสมอ

    เราลองมาทำใจให้เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วฟังเหตุผลดูซิว่า ทำไมห้ามฆ่า
    จึงไม่ห้ามกิน ?ผู้ที่จะให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คือ อดีตอนุศาสนาจารย์ แห่งกองทัพบก

    “พ. อ.ปิ่น มุทุกันต์ ” ท่านให้เหตุผลไว้อย่างนี้ครับการที่พระพุทธเจ้าห้ามฆ่า แต่ไม่ห้ามกินนั้น เพราะการกระทำทั้ง ๒ อย่าง มีเหตุ และ ผลไม่เหมือนกัน การฆ่านั้นจิตของผู้ฆ่าจะต้องตกอยู่ในอำนาจของกิเลส อย่างหนึ่งอย่างใด ถ้าไม่โลภก็โกรธ ไม่โกรธก็หลง จึงจะฆ่าได้ ถ้าจิตเป็นอิสระแก่ตัว คือไม่มีอาการดังกล่าวครอบงำ
    คนเราจะไม่ฆ่าสัตว์ การฆ่าทุกครั้ง จะต้องกระทำในขณะจิตผิดปกติ เสมอ ฉะนั้นการฆ่าแต่ละครั้งจึงมีผล ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางจิตของผู้ฆ่า หมายความว่า การฆ่าทำให้จิตทรุดต่ำลงทุกครั้ง จะแคล้วคลาดไปไม่ได้เลยเพราะฉะนั้น ท่านจึงห้ามฆ่า

    ทีนี้การกินไม่เป็นอย่างนั้น จิตไม่ต้องโลภ ไม่ต้องโกรธ และไม่ต้องหลง ก็กินได้ และเนื้อสัตว์ที่ปราศจากชีวิตแล้ว เขาแล่มาขาย จำหน่ายจ่ายแจกกันมาเป็นทอดๆ
    ย่อมมีสภาพเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่งจะทิ้งก็เน่าจะกิน ก็อิ่ม ไม่มีเชื้อบาปเชื้อกรรม
    ติดอยู่ในเนื้อนั้นเลย พระพุทธองค์ จึงไม่ทรงห้ามการกินเนื้อสัตว์
    ชัดเจนใช่ไหมครับ สำหรับคำชี้แจงเรื่อง

    “ ห้ามฆ่า แต่ ทำไมไม่ห้ามกิน ? ”



    ขอบคุณบทความจากธรรมะไทย

    จาก http://www.teenee.com
    นำมาจาก mthai.com อีกที เพราะดูแล้วมีสาระครับ
    อนุโมทนาบุญกับผู้ที่ลงไว้ครั้งแรกและครั้งล่าสุดด้วยครับ
     
  2. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    จะห้ามกินเลยไม่ลำบากเหรอ สาวกต้องบิณฑบาตเลี้ยงชืพ ในเมื่อญาติโยมทั่วโลก(ส่วนใหญ่)เค้าก็กินกันทั้งนั้น

    เนื้อสัตว์ ถ้าห้ามกินเลย จะเป็นการสร้างความลำบากให้ญาติโยมหรือเปล่า

    และก็อาจถูกติเตียนให้ญาติโยมบาปอีก ว่าอยู่ยาก

    ปล. ไม่ได้ความคิดใคร ความคิดเห็นส่วนตัว ^-^
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เรื่องบาป ไม่บาป หากลองพิจารณาดู ทานเนื้อสัตว์ แม้ไม่ได้ฆ่าเอง มันก็ก่อความเศร้าหมองอยู่นะ

    แหม สัตว์ก็มีชีวิต ก็มีทุกข์ ก็ใช้กรรมอยู่ ก็ไม่เห็นจะต้องไปจำเป็นต้องเบียดเบียน ก่อเวร กินไปก็ให้โทษเยอะแยะเหมือนกัน ลองศึกษาใน google ดู

    ปล. ความคิดส่วนตัว ^-^
     
  4. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    พระสงฆ์กินเนื้อสัตว์ไม่ได้ กินผักก็ไม่ได้ พระต้องกินแต่ธาตุ 4 เท่านั้น ถ้าไม่สวดบทพิจารณาอาหารก่อนว่าอาหารที่ฉันเข้าไปเป็นเพียงธาตุที่บำรุงเลี้ยงร่างกายให้เป็นอยู่ได้ ก็ถือว่าอาบัติ ดังนั้นพระจึงไม่ฉันเนื้อหรือผัก แต่ฉันธาตุ 4 เท่านั้น
     
  5. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    โยนิโส ปิณฑปาตัง ปะติเสวามิ
    อนึ่ง เราย่อมพิจารณาโดยแยบคาย แล้วฉันบิณฑาต

    กินเพื่อดับเวทนาเก่า และไม่ทำเวทนาใหม่ให้เกิดขึ้น

    กินได้ไม่ติดรส ไม่นิยมชมชอบในรสก็ใช้ได้แล้วสำหรับ ผู้กิน
     
  6. สุขและทุกข์

    สุขและทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +55
    มีคำพูดประโยคหนึ่งที่ว่า "บาปอยู่ที่คนฆ่า กรรมอยู่ที่คนกิน" ไม่ทราบว่าใช้ได้กับกรณีนี้หรือเปล่า
     
  7. ():-)Hideki

    ():-)Hideki สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    เท่าที่ทราบมาเหมือนคุณโซแปงกล่าวครับ คือไม่ยืดติด ไม่หลงในรสชาติเมื่อรับประทานก็ พิจารณาให้ดีถึง ความไม่เที่ยง เป็นต้น ถ้าถือศีล 5 นั่งสมาธิก็แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่สัตว์พวกนั้น ส่วนในกรณีของคุณสุขและทุกข์ ผมคิดว่า"บาปอยู่ที่คนฆ่า กรรมอยู่ที่คนกิน" มันก็ใช่ว่าจะผิดซะทีเดียว เท่าที่ผมทราบมามันขึ้นอยู่ที่เจตนาเป็นหลักครับ
     
  8. yeepun

    yeepun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +425
    http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=134

    หาเวลาว่างๆซักวัน ไปดูในโรงฆ่าสัตว์ ดูเขาเชือดวัวควายหมู ไก่เป็ด ถ้าเป็นเรา เราจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน ชีวิตใครใครก็รัก ทุกชีวิตล้วนเจ็บปวดเป็นทั้งสิ้น ถ้าพวกสัตว์เหล่านี้ลุกฮือขึ้นมาประท้วง ว่ามนุษย์คืออาหารของเขาและเขาจะฆ่าเราแบบนี้บ้าง เราจะยอมหรือไม่ ..
     
  9. yeepun

    yeepun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +425
    ลองดูนี้ ประกอบนะ . [ame="http://www.youtube.com/watch?v=vTO7UXsdC9w"]YouTube - Slaughter Houses- Matadouro[/ame]
    เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
     
  10. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เรื่องของการกินนี่สำคัญนะ เช่น เรื่องการกินต้องกินสามมื้อ เช้า กลางวัน เย็น นี่มันเกินความจำเป็นหรือเปล่า ^-^
     
  11. สายลมสีขาว

    สายลมสีขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +144
    "บาปอยู่ที่คนฆ่า กรรมอยู่ที่คนกินครับ" อันนี้จริงครับแต่จะจริงก็ต่อเมื่อเกิดว่าคนกินเป็นคนสั้งให้เขาไปฆ่าเพื่อนำมาให้กิน


    แต่ถ้าคนกินไม่ใช้คนบงการให้ฆ่า ไม่ใช้คนสั้งให้ฆ่า แต่เขาไปฆ่าแล้วนำมาให้กินหรือนำมาให้ซื้อกิน ก็ถือว่าคนกินไม่มีส่วนในการฆ่าครับ

    อย่างในกรณีแม่ค้าในตลาดเขาฆ่าเขาบาป แล้วคนที่ไปซื้อเนื้อที่เขาฆ่ากับรอดเพราะไม่ได้บงการให้ฆ่า
    .....หลายคนอาจเถียงว่า แต่ถ้าไม่มีคนไปกินเนื้อ แม้ค้าในตลาดก็ไม่ฆ่า ดังนั้นคนกินคือปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการฆ่า....... อันนี้ก็ต้องตอบว่าก็จริงนะครับตามหลักเหตุและผลอาจจะใช่ แต่ถ้าดูที่จิต แม่ค้าบาปแน่นอนเพราะจิตของแม่ค้าฆ่าสัตว์นั้น แต่ถ้าดูที่คนกิน จิตของคนกินไม่ได้ร่วมในการทำให้สัตว์นั้นๆตายนิครับถึงแม้ว่าคนกินก็เป็นเหตุให้แม่ค้าฆ่าก็เถอะ แต่บาปกรรมมันอยู่ที่จิตดังนั้นคนฆ่าจึงเสียเปรียบคนกินซะงั้น......

    แต่ถ้าเกิดว่านึกสงสารสัตว์ที่ถูกฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ก็หยุดกินเนื้อก็ได้นะครับ แบบนั้นได้บุญ ซึ่งเป็นบุญที่เกิดจากเมตตาจิต

    ผมคิดผิดถูกประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ

    ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก มากเกินกว่าคนธรรมดาอย่างผมจะเข้าใจ ดังนั้นจึงควรเลือกที่จะฟังดีกว่า....ฟังผู้ที่เข้าใจเรื่องทุกเรื่องอย่างถ่องแท้....องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสว่ายังไงก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ นั้นคือความจริงที่สุดแล้ว เชื่อท่านไปก่อนแล้วปฏิบัติให้ถึงแล้วจะเข้าใจเรื่องอันซับซ้อนนี้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...