อยากทราบเรื่องฌานหน่อยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย marutnacpaladfg, 31 มีนาคม 2009.

  1. marutnacpaladfg

    marutnacpaladfg Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +98
    ตอนนี้ผมฝึกสมาธิภาวนาอยู่อ่ะครับ แล้วคือว่านั่งไปสักแปปมันวูปหายไปหมดเลยไม่มีสติอยู่เลยครับสักพักมีสติมันจะถอนออกมาบางครั้งผมก็สะดุ้งตกใจอ่ะครับ แล้วเวลานอนผมก็เข้าสมาธิมันก็เป็นเหมือนตอนนั่งสมาธิรู้สึกว่ามันไม่ได้หลับเลย แต่มันไปพักอยู่ในถ้ำแบบความรับรู้ดับหมดพอตื่นขึ้นมาไม่มีความง่วงเลย เหมือนไม่ได้นอนเลยครับ อย่างนี้คือฌานป่ะ
     
  2. theexcaribur

    theexcaribur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +3,907
    เป็นฌาณครับ แต่ยังไม่ชิน จึงคล้ายกับว่าหลับไป จนเมื่อเราไปตามดู
    มันก็กลับออกมาจากอารมณ์นั้นครับ ถ้าตอนที่รู้สึกตัวไม่ง่วงและไม่หาวก็
    แสดงว่าไม่ได้เผลอหลับไป
     
  3. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
  4. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
    โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นฌานค่ะ เป็นฌาน4ด้วยเพราะความรับรู้ทางกายดับหมด
    แต่ข้างในรู้สึกสว่างโพลงค่ะ ดีแล้วค่ะ ทำต่อไป อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    .......ตอนนี้ผมฝึกสมาธิภาวนาอยู่อ่ะครับ แล้วคือว่านั่งไปสักแปปมันวูปหายไปหมดเลยไม่มีสติอยู่เลยครับสักพักมีสติมันจะถอนออกมาบางครั้งผมก็สะดุ้งตกใจอ่ะครับ ......

    ตอนนี้เหมือนวูปเหมือนกับการตกจากที่สูงหรือเปล่าครับ....พอหลังจากอาการนั้นจะรู้สึกตกใจใช่ไมครับ.......เอางี้แล้วกันนะครับ...ผมจะยกตามหลวงพ่อท่านตอบนะ...


    <TABLE width="46%" align=center border=1><TBODY><TR><TD height=27>พลัดตกจากฌาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เรื่องอาการพลัดตกจากฌานนี้มีผู้ประสบกันมามาก แม้ผู้เขียนเองอาการอย่างนี้ก็พบมา
    ตั้งแต่อายุ ๗ ปี ตอนนั้นถ้ามีอารมณ์ชอบใจอะไรจิตจะเป็นสุข สักครู่ก็มีอาการเสียววาบคล้าย
    พลัดตกจากที่สูง ตอนนั้นเป็นเด็กไม่ได้ถามใครเพราะไม่รู้เรื่องของฌาน เป็นอยู่อย่างนี้มานาน
    เกือบหนึ่งปี เมื่อท่านแม่พาไปหา หลวงพ่อปาน หลวงพ่อท่านเห็นหน้า ท่านก็ถามท่านแม่ว่า
    เจ้าหนูคนนี้ชอบทำสมาธิหรือ ท่านถามทั้งๆ ที่เพิ่งเห็นหน้า ท่านแม่ยังไม่ได้บอกท่านเลย
    หลวงพ่อปานท่านก็พูดของท่านต่อไปว่า เอ..เจ้าหนูนี่มันม ทิพจักขุญาณ ใช้ได้แล้วนี่หว่า
    ท่านหันมาถามผู้เขียนว่า เจ้าหนูเคยเห็นผีไหม" ก็กราบเรียนท่านว่า "ผีเคยมาคุยด้วย
    ขอรับ แต่ทว่าเขาไม่ได้มาเป็นผี เขามาเป็นคนธรรมดาต่อเมื่อเขาจะลากลับเขา
    จึงบอกว่า เขาตายไปแล้วกี่ปี แล้วก็สั่งให้ช่วยบอกลูกบอกหลานเขาด้วย"
    หลวงพ่อปานท่านก็พูดต่อไปว่า "อาการที่เสียวใจคล้ายหวิวเหมือนคนตกจากที่สูง
    นั้นเป็นอาการที่จิตพลัดตกจากฌาน คือ เมื่อจิตเข้าถึงฌานมีอารมณ์สบายแล้ว
    ประเดี๋ยวหนึ่งอาศัยที่ความเข็มแข็งยังน้อย ไม่สามารถทรงตัวได้ ก็พลัดตก
    ลงมา"
    ท่านบอกว่า "ก่อนภาวนาให้หายใจยาวๆ แรงๆ สักสองสามครั้งหรือหลายครั้งก็ดี
    หายใจแรงยาวๆ ก่อน แล้วจึงภาวนา ระบายลมหยาบทิ้งไป เหลือแต่ลมละเอียด
    ต่อไปอาการหวิวหรือเสียวจะไม่มีอีก" ถ้าทำครั้งเดียวไม่หายก็ทำเรื่อยๆ ไป เมื่อทำ
    ตามท่านก็หายจากอาการเสียว ใครมีอาการอย่างนี้ลองทำดูแล้วกัน หายหรือไม่หายก็สุดแล้ว
    แต่เปอร์เซ็นต์ของคน คนเปอร์เซ็นต์มากบอกครั้งเดียวก็เข้าใจและทำได้แต่ท่านที่มีเปอร์เซ็นต์
    พิเศษไม่ทราบผลเหมือนกัน (ตามใจเถอะ)
    เป็นอันว่าเรื่องสมาธิหมดเรื่องกันเสียที เรื่องปฏิภาคนิมิตก็ของดไม่อธิบายไม่รู้จะอธิบาย
    ไปทำไม เพราะพูดถึงฌานแล้วก็หมดเรื่องกัน อัปปนาสมาธิเป็นสมาธิขั้นฌานก็คืออารมณ์ฌาน
    นั่นเอง ปฏิภาคนิมิตเป็นนิมิตของฌานมีรูปสวยเหมือนดาวประกายพรึกรู้เท่านี้ก็แล้วกัน


    ........แล้วเวลานอนผมก็เข้าสมาธิมันก็เป็นเหมือนตอนนั่งสมาธิรู้สึกว่ามันไม่ได้หลับเลย แต่มันไปพักอยู่ในถ้ำแบบความรับรู้ดับหมดพอตื่นขึ้นมาไม่มีความง่วงเลย เหมือนไม่ได้นอนเลยครับ อย่างนี้คือฌานป่ะ..........

    เป็นอาการของฌาน...ลองสังเกตว่าตื่นมามีอาการเพลียไม.....ถ้าไม่เพลีย...กำหนดเวลาตื่นนอนได้.....ไม่มีความเครียด...อย่างนี้ไม่ต้องแก้......แต่ถ้ามีอาการเครียด...เหนื่อย....ไม่สดชื่น.....ควรแก้....โดยการถอยสมาธิลง....ให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง....อาจกำหนดลม...เฉยๆ...จนหลับไปก็ได้...อย่าฝืนร่างกายนัก.....ถ้าฝืนร่างกายไม่ได้พัก...เครียดเกินไป..อาจเป็นโรคประสาทได้.....

    แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้...จนจบนะ....แล้วลองพิจารณาอารมณ์ด้วยตัวคุณเอง....อ่านให้จบสักรอบ(ไม่ยาวนัก)...หนังสือเล่มนี้เนื้อหาค่อนข้างที่จะควบคุมนะครับ...ไม่ว่าเรื่องระดับสมาธิและอาการของสมาธิ.....ถ้ายังไม่พอต่อได้ที่คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน.......

    วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ โดยหลวงพ่อ.....
    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=7
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    การรู้ก่อนก็ดี การไม่รู้อะไรเลยก็ดี

    รู้ก่อนดี รู้ว่าจะมาเป็นอย่างนี้ๆๆ พอเป็นอย่างนี้ๆๆๆ..จะได้รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างนี้ๆๆๆ เป็นต้นฯ

    ไม่รู้เลยก็ดี ตัดความคิดที่ว่า
    "ฉันจะต้อง"
    "เมื่อไหร่ฉันจะ.."
    "ฉันถึงตรงไหนแล้ว"
    "เหลืออีกเท่าไหร่"
    "ฉันคิดไปเอง"
    "ฉันทำได้แล้วนี่"
    หรือ..อื่นๆอีกมากมาย

    จะดีมากเมื่อรู้แล้วปล่อยวาง รู้แล้วก็สักแต่ว่ารู้ (||)

    ขออย่างเดียวคือจะต้องมีสัมมาทิฐิ มีความวิริยะ มีสติ มีสมาธิ รู้เห็นตามความเป็นไปทุกๆสภาวะต่างๆ มีปัญญาประกอบถึงความเกิดดับของสภาวะต่างนั้นๆ อยู่เสมอๆ..

    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...