[อาชีพที่กำไรโคตรดีสำหรับคนไทย ทำกำไรเป็นร้อยๆเท่าหรืออาจเป็นพันเท่า] หน้า 4#74 ขึ้นไป

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธ ธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น (ด้วยเศียรเกล้า)

ผมขออนุญาตเขียนบันทึกตำนานที่เป็นตำนานที่แท้จริง (เกิดขึ้นจริง) ในการหล่อพระแก้วของโลก แต่ด้วยเหตุผลทางด้านกฏหมาย จึงไม่สามารถโพสต์รูปภาพหรือเปิดเผยชื่อบุคคล นิติบุคคล และหรืออื่นใดให้ชัดเจนลงไปได้ และด้วยเหตุผลทางกฏหมายอีกนั่นแหละ ผมจำเป็นต้องเขียนไว้บนเนื้อความของกระทู้นี้ว่า กระทู้นี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทู้อื่นๆที่ผมได้เคยเขียนไว้ในที่อื่นใดทั้งสิ้น ดังนั้น กระทู้นี้ถือว่าแยกเป็นอิสระ ไม่เชื่อมโยงถึงกระทู้หรือข้อความในที่อื่นใดทั้งสิ้นครับ

ขออภัยที่ผมมีความจำเป็นต้องปกป้องตัวผมเองไว้ก่อน เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ก็อาจมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เก็บผมไว้เป็นผู้เขียนตำนานที่แท้จริงที่ทั้งประเทศไทยก็อาจไม่มีผู้รู้และผู้ที่ติดตามปรากฏการณ์นี้อย่างถี่ถ้วนเหมือนผม

ต้องกราบขออภัย ขออภัยทุกๆท่าน ขออนุญาตงดตอบหลังไมค์นะครับ (โปรดติดตามอ่านในกระทู้นะครับ)

 

สำรองพื้นที่ 1

 

สำรองพื้นที่ 2

กระทู้นี้เคยชื่อ : บันทึกตำนานการหล่อพระแก้วของโลก เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2563 (ค.ศ.2020)

กระทู้นี้เปลี่ยนชื่อกระทู้ชั่วคราวเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563
[อาชีพที่กำไรโคตรดีสำหรับคนไทย ทำกำไรเป็นร้อยๆเท่าหรืออาจเป็นพันเท่า] หน้า 4#74 ขึ้นไป

 

สารบัญ 1

 

สารบัญ 2

 

สารบัญ 3

 

สารบัญ 4

 

สารบัญ 5

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 1

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 2

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 3

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 4

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 5

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 6

 

การค้นหาด้วยคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 7

 

คำจำกัดความของคำว่า การสร้างพระแก้วในโลกนี้ ของผมในกระทู้นี้ ผมหมายถึง โลกมนุษย์ที่มีคนเป็นผู้กระทำ ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่มองไม่เห็น หรือความเชื่อใดๆ เช่น ความเชื่อที่ว่าเคยมีเทพเทวดาเคยสร้างพระแก้วไว้บนสวรรค์หรือใต้บาดาลอะไรทำนองนั้น

เรื่องช่วงเวลาในการสร้างที่ผมหมายถึงในกระทู้นี้ ผมจำกัดความว่า ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2496 ถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2563 เท่านั้น

คำจำกัดความของคำว่า แก้ว ในกระทู้นี้ ผมหมายถึงการหลอมทรายหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทางวิทยาศาสตร์นับเนื่องเกี่ยวข้องกับทราย อาจเป็นควอทซ์ก็ได้ แต่ต้องผ่านการหลอมจนเป็นเนื้อเดียวกัน

 

การสร้างพระแก้วในประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2496 เมื่อมีข่าวว่า ประเทศไทยจะสร้างโรงงานแก้วที่มีขีดความสามารถสร้างชิ้นงานแก้วต่างๆได้ภายในประเทศไทยภายใต้ชื่อองค์การแก้ว โดยมีการเชิญนายช่างที่มีความสามารถทางการเป่าแก้วด้วยปอด Mouth Blown Glass, กดปั๊มแก้ว Pressed Glass, การปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม Hand Made (ช่างแก้วไทยเรียกวิธีนี้ว่าแฮนด์เมด แต่ผมคิดว่าถูกเพียงครึ่งเดียว น่าจะเรียกอย่างอื่น เช่น Hand Craft อย่างไรก็ดี เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่เป็นเทคนิคเชี่ยนทางด้านแก้วที่เป็นคนไทยจำนวนมากที่ถนัดกับคำศัพท์นี้ จึงอนุโลมเรียกอย่างนี้ไปก่อนนะครับ)

 

ข่าวการสร้างโรงงานแก้วขององค์การแก้วไปไกลถึงประเทศไต้หวัน และประเทศจีน ซึ่งทั้งสองได้รับความรู้เช่นเดียวกันกับที่นายช่างแก้วจากยุโรปที่จะมาสอนคนไทยในประเทศไทย ทางโรงงานแก้วในไต้หวันและจีนจึงต้องการมาลงทุนสร้างโรงงานแก้วในไทย เพราะเห็นว่า เขาไม่ต้องสอนคนงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ใช้วิธีซื้อตัวนายช่างขององค์การแก้วนี่แหละ ดังนั้นประมาณปี พ.ศ. 2497 เป็นต้นมา ได้มีโรงงานแก้วจากทั้งไต้หวันและจีนและอาจมีประเทศอื่นๆด้วย เข้ามาเปิดกิจการในประเทศไทยหลายโรงงาน

 

เมื่อองค์การแก้วเปิดโรงงานแก้ว ได้เชิญนายช่างแก้วจากยุโรปเข้ามาทำการฝึกฝนให้คนไทยเป็นนายช่างในสาขาวิชาดังกล่าว ส่วนโรงงานแก้วจากไต้หวันและจีน ไม่ต้องฝึกคนไทยมากนัก ใช้วิธีซื้อตัวเอา ก็ถือว่าง่ายสำหรับกิจการนี้ เพราะนายช่างแก้วจากยุโรปเขาสอนคนเป็นระบบ ส่วนมากคนที่เข้ามาในวิชาใดก็เป็นวิชานั้นเพียงอย่างเดียว เช่น ถ้าเป่าแก้วด้วยปอด ก็เป่าไป ไม่ข้ามสาขาวิชากัน

 

เมื่อปี พ.ศ. 2497 องค์การแก้วเปิดโรงงานแก้วและได้ดำเนินกิจการสร้างชิ้นงานแก้วต่างๆ ได้สร้างช่างแก้วจำนวนมาก และในประมาณปี พ.ศ. 2497 98 เป็นต้นมา โรงงานแก้วจากทั้งไต้หวันและจีนก็เข้ามาเปิดกิจการในไทยนับได้หลายสายมาก ที่ผมรู้จักดีมี 4 สาย หรือที่เรียกกันว่า 4 ปรามาจารย์ ถ้านับรวมขององค์การแก้วที่เป็นนายช่างจากยุโรป ผมคิดว่าควรนับเป็น 5 สายเป็นอย่างน้อย แต่เขาเรียกกันมาแค่ 4 สาย ก็เรียกตามๆผู้ใหญ่เขา