อานิสงส์การปลูกและดูแลต้นโพธิ์

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย anny ming, 6 มกราคม 2020.

  1. anny ming

    anny ming สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2017
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    20190813_152209.jpg

    อานิสงส์ของการปลูก และดูแลต้นโพธิ์

    ในอดีต มีพระเถระท่านหนึ่ง ท่านเคยเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ และได้บำเพ็ญบุญกับพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งความปรารถนาพระนิพพานมาโดยตลอด

    จนมาถึงในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ติสสะ ท่านก็ได้มาเกิดในเรือนของผู้มีตระกูลแห่งหนึ่ง แม้ไม่ใช่ตระกูลที่รํ่ารวยอะไร ฐานะก็เพียงปานกลางเท่านั้น ครั้นเจริญเติบโตขึ้นในท่ามกลางหมู่ญาติและครอบครัวที่อบอุ่น อยู่มาจนกระทั่งได้ข่าวการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ติสสะ พระองค์ทรงประกาศพระสัทธรรมไปทั่วพื้นชมพูทวีป กิตติศัพท์อันงามของพระพุทธองค์ได้ฟุ้งขจรไปไกลว่า “บัดนี้ พระพุทธเจ้าผู้เลิศ อุบัติขึ้นแล้วในโลก พระธรรมของพระองค์ งดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย สามารถระงับทุกข์ ต้นเหตุแห่งทุกข์ได้อย่างสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ” ชาวชมพูทวีปต่างก็พากันกล่าวขานกันไปทั่ว กุลบุตรผู้มีบุญท่านนี้พอได้ฟังอย่างนั้นก็คิดว่า เมื่อไหร่หนอพระศาสดาจักเสด็จมาโปรดเรา แล้วสักวันหนึ่ง เราคงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดา และได้ฟังธรรมในสำนักของพระพุทธองค์

    จนถึงวันหนึ่ง พระติสสสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จไปถึงเมืองที่กุลบุตรนี้อาศัยอยู่ มีพุทธบริษัทมากมายเดินทางไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาชนิดที่เรียกว่าต้องเบียดเสียดกันเข้า กุลบุตรนี้ได้เดินทางร่วมไปกับสาธุชนเหล่านั้นด้วยและมี่โอกาสได้ฟังธรรม ในขณะที่ฟังธรรมพร้อมกับสาธุชนทั้งหลาย ก็ได้ไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง เกิดความรู้สึกประหนึ่งว่า พระศาสดาแสดงธรรมเฉพาะกับตนเท่านั้น พระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดาละเอียดลึกซึ้งลุ่มลึกไปตามลำดับ ทรงชี้ให้เห็นถึงโอกาสอันแสนยากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ควรตักตวงสร้างบุญใหญ่มุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า

    เราเป็นผู้ที่โชดดีอย่างมากที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีโอกาสฟังธรรมของพระพุทธองค์ หากเราไม่ได้มาฟังธรรมในวันนี้แล้ว ก็คงเป็นผู้ที่ประมาทอยู่ ดังนั้นเราไม่ควรประมาทในการสั่งสมบุญ #เราควรจะสร้างบุญพิเศษอะไรสักอย่าง ก็มองเห็นต้นประดู่ที่เป็นต้นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ จึงคิดว่า ฐานะเราก็ไม่ใช่รํ่ารวยดังเช่นคนอื่น เราจะเอาบุญด้วยการปลูกต้นไม้นี้บูชาธรรม จึงเอาหน่อต้นโพธิ์ที่ออกจากต้นโพธิ์นั้นมาปลูกใหม่เพื่อบูชาพระองค์ โดยตั้งใจดูแลรักษาอย่างดีเป็นเวลานานถึง ๕ ปี

    กุลบุตรนี้ดูแลต้นประดู่โพธิพฤกษ์นั้นถึง ๕ ปีจึงได้เห็นต้นไม้มีดอกบานสะพรั่ง ก็เกิดมหาปีติขนลุกขนพองทีเดียว จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ทูลเล่าเรื่องราวทั้งหลายให้พระพุทธองค์ทรงทราบ เมื่อพระบรมศาสดาสดับเรื่องราวความตั้งใจในการปลูกต้นไม้ถวายเป็นพุทธบูชาของกุลบุตรนั้นแล้ว จึงทรงมองไปในอนาคตกาล เห็นผลบุญอันมหาศาลที่จะบังเกิดขึ้น จึงตรัสพยากรณ์ ณ ที่ตรงนั้นว่า

    “ผู้ใดปลูกต้นโพธิ์นี้ และกระทำพุทธบูชาโดยเคารพ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นย่อมเข้าถึงอานิสงส์ใหญ่ไม่มีประมาณ จักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวโลกตลอด ๓๐ กัป และจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๔ ครั้ง เมื่อเคลื่อนจากดุสิตพิภพแล้ว อันกุศลมูลตักเตือน เสวยสมบัติทั้งสองแล้ว จักรื่นรมย์อยู่ในความเป็นมนุษย์ ผู้นั้นมีใจแน่วแน่เพื่อความเพียร สงบระงับ ไม่มีอุปธิ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วจักไม่มีอาสวะ ได้บรรลุพระนิพพาน เธอจะเป็นผู้สงบระงับในที่ทุกสถาน ด้วยบุญที่ได้ปลูกต้นโพธิ์เป็นพุทธบูชา

    ในกัปที่ ๗๔ แต่กัปนี้ เธอจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิทรงสมบูรณ์ด้วย แก้ว ๗ ประการ มีนามปรากฏว่า ทัณฑเสน ในกัปที่ ๗๓ แต่กัปนี้ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๗ ครั้ง ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีพระนามว่า สมันตเนมิ ในกัปที่ ๒๐ แต่กัปนี้ จักได้เป็นกษัตริย์พระนามว่าปุณณกะ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก ภพชาติสุดท้ายก็จะสมบูรณ์ด้วยคุณวิเศษทั้งหลาย คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖"

    เมื่อท่านได้ฟังอย่างนั้น ก็บังเกิดมหาปีติและตั้งใจทำบุญจนตลอดชีวิต ได้ท่องเที่ยวไปในสุคติโลกสวรรค์และมนุษย์ จนมาถึงสมัยพุทธกาล ท่านได้บังเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยสมบัติทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงพร้อมด้วยศรัทธา จึงออกบวชเมื่ออายุเพียง ๗ ขวบเท่านั้น และก็ได้บรรลุพระอรหัตขณะปลงผมนั่นเอง

    มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน อสนโพธิยเถราปทาน ความว่า

    “องค์พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ติสสะ เป็นสยัมภู เป็นอัครบุคคล ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดปลูกต้นโพธิ์นี้ และกระทำพุทธบูชาโดยเคารพ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดาทั้งหลาย ตลอด ๓๐ กัป และจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๔ ครั้ง เคลื่อนจากดุสิตพิภพแล้ว อันกุศลมูลตักเตือน เสวยสมบัติทั้งสองแล้วจักรื่นรมย์อยู่ในความเป็นมนุษย์ ผู้นั้นมีใจแน่วแน่เพื่อความเพียร สงบระงับ ไม่มีอุปธิ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะ เข้าถึงพระนิพพาน”



    #เชิญร่วมทำบุญซื้อต้นโพธิ์เงินโพธิ์ทอง #ปลูกสร้างเป็นลานธรรม #กองละ 199 บาท #หรือตามกำลังศรัทธา

    เพื่อปลูก ณ ดินแดนโบราณสุวรรณโคมคำ พิษณุโลก


    ร่วมทำบุญได้ที่ ธนาคารกรุงไทย
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 768-0-19292-8

    ชื่อบัญชี นายประเสริฐ คูร์พิพัฒน์
    น.ส. อธิญารัสย์ พงษ์ประภาชื่น
    น.ส. นวสรณ์ ฤทธิ์ธนาทิพย์

    แจ้งการโอนได้ที่ ID Line : pearrychoy หรือโทร. 083-825-9259

     

แชร์หน้านี้

Loading...