ปิดรับบริจาค (เชิญฝากชื่อเขียนลงแผ่นทอง)หล่อองค์ปฐมประจำวันเกิดองค์ๆละ10,000บาท!!!

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย เก๋ณัฐา, 7 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    พลาดไม่ได้
    อานิสงส์ใหญ่เปิดบารมีเปิดโภคทรัพย์!!!
    ชิญร่วมหล่อพระพุทธรูป
    สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ
    ปางเปิดโลก 100 องค์
    หรือตามจำนวนเจ้่าภาพ
    ความสูงรวมฐาน 2.5 เมตร
    หรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
    904444457006.jpg 904444412019.jpg 904444111666.jpg
    S__1474582.jpg S__1474575.jpg S__1474576.jpg S__1474577.jpg S__1474578.jpg S__1474579.jpg S__1474580.jpg S__1474581.jpg



    ณ วัดป่าโนนจ่าหอม 13 หมู่ 13 หมู่บ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี 34000
    ติดต่อ วัด : 080-167-1313 อีเมล watnonjahom@gmail.com
    ติดต่อ ประธานฝ่ายฆารวาส (คุณเก๋ณัฐา) : 086-337-4307 อีเมล nattha999@gmail.com
    (ตอนปฏิบัติธรรมอยู่อาจติดต่อไม่ได้ เก๋เห็นmissed call จะติดต่อกลับนะคะ) ​


    เนื่องด้วยทางวัดมีโครงการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำวันเกิดฐานเปิดโลกและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกเพื่อประดิษฐานภายในวัดและสถานปฏิบัติรอบวัดจึงขอเรียนเชิญท่านญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระพุทธรูปปางวัดเกิดฐานเปิดโลกและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก(รวมฐานสูง 2เมตรครึ่ง) เจ้าภาพหล่อองค์ละ 10,000 บาท โดยสามารถร่วมบุญได้ตามกำลังศรัทธาค่ะ อนุโมทนาสาธุ


    การร่วมบุญสามารโอนผ่านเอทีเอ็มหรือธนาคารเข้าบัญชีวัดตามรายละเอียดด้านล่าง


    บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ตลาดหนองบัว อุบลราชธานี
    บัญชีประเภท ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระชยางกูร โชติช่วง
    เลขที่บัญชี 917-203344-6



    การร่วมบุญภายในประเทศ
    1. กรณีอยู่จังหวัดอุบลราชธานีสามารถเดินทางไปทำบุญที่วัดได้เลยคะ ตามที่อยู่ด้านล่าง​

    วัดป่าโนนจ่าหอม 13 หมู่ 13 หมู่บ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี 34000 โทร 080-167-1313​

    2. กรณีอยู่ต่างจังหวัดสามารถร่วมบุญได้ดังนี้​

    2.1 ธนาณัติสั่งจ่าย พระชยางกูร โชติช่วง วัดป่าโนนจ่าหอม เลขที่ 13 หมู่ 13 หมู่บ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี 34000 โทร 080-167-1313​

    2.2 โอนผ่านบัญชีวัด ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ตลาดหนองบัว ชื่อบัญชี พระชยางกูร โชติช่วง เลขที่บัญชี 917-203344-6 ประเภทบัญชี ออมทรัพย์​

    การร่วมบุญจากต่างประเทศ
    1. โอนเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีวัด​

    Account Name: Pra Chayangkool Chotchuang
    Bank : The Siam Commercial Bank Public Company Limited
    Branch: Nongbua Market (Ubon Ratchathani)
    Savings Account Number: 917-203344-6
    S.W.I.F.T. Code : SICOTHBK
    Address: The Siam Commercial Bank Public Company Limited 614/4 -5 Chayangkul Road, Nai Mueang,
    Mueang Ubon Ratchathani , Ubon Ratchathani 34000 , Thailand​

    2. โอนเงินจากต่างประเทศผ่าน Western Union หรือ MoneyGram​

    ชื่อผู้รับ: Pra Chayangkool Chotchuang , Adress: 13 Moo 13 Tambon Phon Mueang, Amphur Lao Suea Kok,
    Ubon Ratchathani 34000 , Thailand Tel: 080-167-1313
    และแจ้งชื่อผู้ส่ง จำนวนเงินที่ส่ง หมายเลขกำกับการโอนเงิน (MTCN) และประเทศต้นทางที่ส่งเงิน มายังวัด
    วัด (หลวงพ่อเจ้าอาวาส) : 080-167-1313
    ประธานฝ่ายฆารวาส (คุณเก๋ณัฐา) : 086-337-4307
    ติดต่อ วัด watnonjahom@gmail.com
    ติดต่อ ประธานฝ่ายดำเนินการ คุณเก๋ณัฐา nattha999@gmail.com
    สำหรับท่านที่อยุ่ต่างประเทศไลน์เข้ามาถามรายละเอียดได้คะ line ID เก๋ : gaenattha คะ​


    การรับใบอนุโมทนาบัตรเพื่อนำไปใช้หักภาษี
    สามารถรับใบอนุโมทนาบัตรโดยแจ้งชื่อ-นามสกุล พร้อมที่อยู่ ไปส่งมายังวัด
    watnonjahom@gmail.com
    nattha999@gmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2014
  2. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ปางเปิดโลก

    904444457006.jpg


    เชิญร่วมหล่อพระพุทธรูป
    สมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักพรรดิ์ปางเปิดโลก
    ความสูงรวมฐาน 2 เมตรครึ่ง
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท


    ลักษณะพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกที่จะหล่อ ความรวมฐานพระจะสูงเท่ากับคนที่สูง 2.5 เมตรค่ะ น่าจะเท่าๆกับในภาพค่ะสามารถร่วมบุญตามกำลังศรัทธา


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  3. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อปางถวายเนตร พระพุทธรูปประจำเกิด ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

    S__1474582.jpg


    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2014
  4. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อปางห้ามญาติ พระพุทธรูปประจำ ผู้ที่วันจันทร์

    S__1474575.jpg


    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ทีี่เกิดวันจันทร์
    พระปางห้ามญาติ
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร

    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  5. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระปางปรินิพพาน พระพุทธรูปประจำเกิด ผู้ที่เกิดวันอังคาร

    S__1474576.jpg


    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำเกิด ผู้ที่เกิดวันอังคาร
    พระปางไสยาสน์ หรือ ปางปรินิพพาน
    หน้ากว้าง 2.5 เมตร

    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  6. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระปางอุ้มบาตร/พระปางป่าเลไลย์ พระประจำเกิดวันพุทธกลางวัน/กลางคืน

    S__1474577.jpg S__1474578.jpg


    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำเกิด
    ผู้ที่เกิดวันพุทธกลางวัน พระปางอุ้มบาตร/
    ผู้ที่เกิดวันพุทธกลางคืน พระปางป่าเลไลย์

    ความรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร

    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  7. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระปางสมาธิ/ปางตรัสรู้ พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันพฤหัส

    S__1474579.jpg


    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันพฤหัส
    พระปางสมาธิ/ปางตรัสรู้
    หน้าตัก 90 ซม. สูง 160 ซม.
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  8. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระปางรำพึง พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันศุกร์

    S__1474580.jpg

    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันศุกร์
    พระปางรำพึง

    ความสูงรวมฐาน 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  9. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อพระปางนาคปรก พระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันเสาร

    P_Saturday.jpg

    เชิญร่วมหล่อพระพุทธรูปประจำวันเกิด ผู้ที่เกิดวันเสาร์
    พระปางนาคปรก
    หน้าตักกว้าง 90 ซม. สูง 160 ซม.
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  10. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    รายชื่อเจ้าภาพหล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก/หล่อพระประจำวันเกิดปางต่างๆ

    1.คุณเทวานินและเพื่อนๆคณะแก๊งลูกหมี หล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก 1 องค์
    2.
    3.
    4.
    5.
    6.
    7.คุุณโยมผู้ไม่ประสงค์ออกนาม หล่อสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก 1 องค์
    8.
    .
    .
    .
    .
    100.
    .
    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2014
  11. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก

    พระพุทธเจ้า ปางเปิดโลก


    904444457006.jpg



    หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในวันอาสาฬหบูชา ณนครสาวัตถี แล้วได้เสด็จจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของท้าวสักกะเทวราชเพื่อแสดงธรรมโปรดพระมารดาที่ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตพระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา (พระอภิธรรม) แก่พระมารดาในที่สุดแห่งเทศนาพระมารดาทรงบรรลุโสดาปัตติผล เป็พระโสดาบันครั้นอยู่จำพรรษาปวารณาแล้วจึงได้ตรัสกับท้าวสักกะว่ามีพระประสงค์จะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ท้าวสักกะจึงได้นิรมิตบันไดทั้ง 3 คือบันไดทอง บันไดแก้ว บันไดเงิน ตีนบันไดทั้ง 3 ตั้งอยู่ที่ประตูเมืองสังกัสสะนครส่วนหัวบันไดพาดอยุ่ที่เขาสิเนรุ พระพุทธองค์เสด็จลงทางบันไดแก้วตรงกลางเทวดาลงทางบันไดทองทางด้านขวา มหาพรหมลงทางบันไดเงินทางด้านซ้ายในขณะที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้น ทรงทำยมกปาฏิหาริย์อีกครั้งหนึ่ง คือ ทรงเปิดโลกทั้ง3 ให้แก่เทวโลก มนุษย์โลก ยมโลก พร้อมทั้งทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีทำให้สัตว์โลกทั้ง3มองเห็นกันและกัน อนึ่งพุทธบริษัท ที่เห็นพุทธานุภาพแล้วล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิ เพราะเหตุดังกล่าวภายหลังจึงมีผู้สร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกเพื่อระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากเทวโลก ในวันปาฏิบท คือ วันแรม1 ค่ำ เดือน11 และวันนั้นจึงเป็นปฐมเหตุแห่ง วันเทโวโรหนะ (วันตักบาตรเทโวโรหนะ)



    พระปางเปิดโลกนั้นเนื่องจากการที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา ครบ 3 เดือนในตำนาน ได้กล่าวไว้ว่า พระองค์ได้ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ให้หมู่สัตว์ทั้ง 3 โลกคือ โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ โลกนรก ได้เห็นสภาพของกันและกันตามความต้องการตลอด 1 วัน จึงเรียกวันนั้นว่า "วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก"

    พระปางเปิดโลกที่เป็นที่นิยมกันนั้น ได้แก่ ที่จังหวัดสุโขทัย และกำแพงเพชรและตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณเกี่ยวกับพระปางเปิดโลกนั้นพระปางเปิดโลกนี้มีพุทธคุณในเรื่องการ เปิดทางสว่างทำให้การดำเนินชีวิตไปสู่ความดีงาม เปิดทางแห่งการรับ โชคลาภ วาสนา บารมีทั้งยังคุ้มครองป้องกันภัยและปกครองคนหมู่มาก มีเมตตามหานิยมทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตรนอกจากจะเป็นมงคลต่อตัวเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นโชคลาภที่ประเสริฐยิ่งท่านที่ทำมาค้าขายจะประสพกับความเจริญรุ่งเรือง ซื้อง่ายขายคล่องประสพกับความสุขความเจริญ สำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนาอุดมด้วยทรัพย์ยิ่งนักแลฯ

    ชื่อก็บอกอยู่แล้วค่ะพระพุทธรูปปางเปิดโลก พยุงดวงชะตาสร้างเมื่อใดอุดมสมบูรณ์เมื่อนั้น ชื่อปางก็บอกอยู่แล้ว ปางเปิดโลกเปิดชะตาเปิดบารมี ตรงไหนที่เคยติดขัดจะคลี่คลาย ตรงไหนที่เคยผืดเคืองจะหายฝืดเคือง

    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  12. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมฯปางเปิดโลกเป็นเหตุให้เกิดผู้ปรารถนาพุทธภูมิมากมาย

    904444412019.jpg


    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมฯปางเปิดโลก ปางนี้ทรงมหาพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่มาก หลังเสด็จโปรดพุทธมารดาทรงเปิดโลกทั้ง3 ให้แก่เทวโลก มนุษย์โลก ยมโลก พร้อมทั้งทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีทำให้สัตว์โลกทั้ง3มองเห็นกันและกัน อนึ่งพุทธบริษัท ที่เห็นพุทธานุภาพแล้วล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิ ทำให้เกิดมี "ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ" มากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  13. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางถวายเนตร (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันอาทิตย์)

    S__1474582.jpg


    พระปางถวายเนตร

    พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองเพ่งไปข้างหน้าพระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงมาประสานกันอยู่ระหว่างพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนเหลื่อมพระหัตถ์ซ้ายอยู่ในพระอาการสังวรทอดพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธ์​


    ประวัติย่อ


    ในสัปดาห์ที่ 2 ภายหลังจากการตรัสรู้พระองคค์ได้เสด็จไปด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้นพระศรีมหาโพธิ์ แล้วประทับยืนจ้องพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธิ์โดยไม้กระพริบพระเนตร ด้วยพระอิริยาบถนั้นตลอด 7 วัน และสถานที่ประทับยืนทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้นเรียกว่า อนิมิสสเจดีย์ (อนิมิสส แปลว่า ไม่กระพริบตา)ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางถวายเนตรขึ้นเป็นอนุสติ และนิยมสร้างไว้เป็นที่สักการะบูชาประจำวัน สำหรับคนเกิดวันอาทิตย์​


    บทสวดบูชาพระประจำวันอาทิตย์


    มีกำลัง 19 บทสวดย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ
    อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณ โณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง
    นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะคุต ตา วิหะเรมุ
    ทิวะสัง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะ ธัมเม, เต เม นะโม เต จะ มัง
    ปาละ ยันตุ นะมัตถุ พึทธานัง นะมัตถุ โพธิยา, นะ โม วิมุตตานัง นะโม
    วิมุตติยา อิมังโส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะน​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  14. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางห้ามญาติ (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันจันทร์)

    S__1474575.jpg

    พระปางห้ามญาติ

    พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ (อก)ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออก ไปข้างหน้า เป็นกิริยาห้าม เป็นปางเดี่ยวกับปางห้ามสมุทร นิยมทำเป็นแบบพระทรงเครื่อง

    ประวัติย่อ

    ในพรรษาที่ 4 หลังออกพรรษาแล้ว พรพุทธองค์ได้เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์เพราะทรงทราบข่าวที่พระเจ้าสุทโธทนะประชวรหนัก ทรงแสดงะรรมโปรดจนพระพุทธบิดาบรรลุเป็นพระอรหันต์และได้นิพพานด้วยการประชวนนั้น หลังจากถวายพระเพลิงพระศพ พระพุทธบิดาแล้วยังคงประทับอยู่ที่นิโครธาราม ในสมัยนั้น พวกเจ้าศากยะซึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพระพุทธบิดา แล้วทรงโกลิยะซึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพระพุทธมารดา ที่ตั้งหลักแหลงอยู่ริมฝั่งทั้งสองของแม่น้ำโรหิณี ได้เกิดทะเลาะวิวาทลุกลามมากขึ้น มี การด่าว่ากระทบถึงชาติ โคตร และลามถึงราชวงค์ ในที่สุดกษัตรย์ทั้งสองพระนครก็ได้ยกทัพออกมาประชิดกัน จนวนจะเกิดศึกพระหัตประหารกัน แต่พระพุทธองค์ทรงทราบเรื่องเสียก่อนจึงเสด็จไปยังที่กองทัพทั้งสองทั้งสองนครตั้งกำลังประชิดกัน แล้วตรัสถามถึงมูลเรื่องเสียก่อนจึงเสด็จไปยังที่กองทัพทั้งสองนครตั้งกำลังประชิดกันและตรัสถามถึงมูลเหตุของการทะเลาะวิวาทเมื่อพระญาติเหล่านั้นกราบทูลบอกจึงตรัสชี้แจงถึงเหตุที่ไม่สมควรซึ่งชีวิตกษัตริย์อันหาค่ามิได้จะต้องพากันมาล้มตายเพียงเพราะเหตุแห่งน้ำอันมีค่าเพียงนิดหน่อยจากนั้นจึงตรัสผันทน ชาดก ทุทุภายชาดก และลฏุกิกชาดก เพื่อระงับการทะเลาะวิวาท แล้วตรัสรุกธรรมชาติให้เกิดความสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ในที่สุดตรัสอัตตทัณฑสูตร เพื่อกำจัดกิเลสในอดีตกีดกันกิเลสไม่เกิดความสามัคคีพร้อมเพียงกัน ในที่สุดตรัสอัตตทักณสูตร เพื่อกำจัดกิเลสในอดีส กีดกันกิเลสไม่ให้เกิดในอนาคตและมีสติมั่นคงในปัจจุบันพระญาติวงศ์ทั้งสองพระนครต่างพากันทิ้งอาวุธ นมัสการและกล่าวสรรเสริญคุณพระพุทธองค์ว่า ถ้าพระองค์ไม์เสด็จมา ก็คงต้องฆ่าฟันกันจน เลือดไหลหนองเป็นแน่ครั้งพระญาติทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันดีแล้วพระพุทธองค์จึงเสด็จกลับด้วยพระพุทธจริยาในการบำเพ็ญญาตัตถจริยาดังกล่าวในภายหลังพุทธศาสนิกชนจึงได้สร้างพระพุทธรูปปางห้ามญาติขึ้น และเป็นปางพระพุทธรูปบูชาสำหรับคนที่เกิดวันจันทร์

    บทสวดบูชาพระประจำวันจันทร์

    มีกำลังวัน 15 บทสวดย่อ อิ ระ ขา คุ ตะ ระ สา
    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโห ทุสสุปิ นัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ
    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโหทุสสุปิ นัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ
    ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
    ปาปัคคะโหทุสสุปิ นัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  15. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางไสยาสน์/ปางปรินิพพาน (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันอังคาร)

    image.jpg


    พระปางไสยาสน์/ปางปรินิพพาน

    พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้นขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับบางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้

    ประวัติย่อ

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ในพระนครสาวัตถีอสุรินทราหูบุชาของท้าวเวปจิตติอสูร ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับพระเกียรติคุณของพระพุทธองค์จากสำนักเทพยดาทั้งหลาย จึงมีความปรารถนาจะไปเฝ้า แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์ มีพระวรกายเล็กถ้าเข้าไปเฝ้าก็คงต้องก้มลงมอง ซึ่งจะทำให้ตนเองลำบากทั้งไม่เคยคิดจะก้มหัวให้ใครอีกด้วย ดั้งนั้นจึงไม่ยอมเข้าไปเฝ้าพระศาสดา แต่เมื่อเห็นเหล่าทวยเทพจำนวนมากไปเฝ้าพระพุทธองค์เนื่อง ๆ จึงไม่อาจทนอยู่ได้ ในราตรีวันหนึ่งจึงตัดสินใจเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์
    ฝ่ายพระพุทธเจ้าทรงทราบว่าอสุรินทราหูจะมาเฝ้า จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ปูลาดบรรจถรณ์แล้วก็สำเร็จสีหไสยาสน์รออสุรินทราหูบนพระแท่นที่ประทับ ทรงทำปาฏิหาริย์เนรมิตพระวรกายให้ใหญ่กว่าพระอสุรินทราหูหลายเท่า ซึ่งปรากฏเห็นได้เฉพาะอสุรินทราหูเท่านั้น
    เมื่ออสุรินทราหูเข้าไปเฝ้าก็อัศจรรย์ใจ แทนที่ตนจะต้องก้มหน้ามองดูพระพุทธองค์ แต่กลายเป็นว่าต้องแหงนหน้ามองดูพระพุทธลักษณะ จนเป็นที่พอใจจากนั้นพระพุทธองค์ก็ได้พาเอาอสุรินทราหูไปปรากฎยังพรหมโลก ซึ่งก็มีพระพรหมจำนวนมาก พากันมาเข้าเฝ้า และล้วนแต่มีอัตตภาพใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูหลายร้อยหลายพันเท่า แต่ทั้งหมดก็ยังมีกายเล็กกว่าพระพุทธองค์ทั้งสิ้นส่วนอสุรินทราหูนั้นต้องคอยหลบอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ของพระพุทธองค์ตลอดเวลา เพราะความหวาดกลัว
    ในที่สุดอสุรินทราหูก็หมดมานะทิฏฐิอันแข็งกระด้าง กลับมีใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและพระพุทธองค์ได้พากลับมายังมนุษย์โลก
    ด้วยเหตุนี้ ต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหูหรือปางไสยาสน์ขึ้น และกลายมาเป็นพระบูชาประจำวันเกิดสำหรับผู้เกิดวังอังคาร


    บทสวดบูชาพระประจำวันอังคาร

    มีกำลัง 8 บทสวดย่อ ติ หัง จะ โต ถิ นัง
    ยัสสานุสสะระเณนาปิ อันตะลิก เขปิ ปาณิ โน ปะติฏิฐะมะธิ คัจฉันติ ภูมิยัง
    วิยะ สัพพะทา สัพพูปัททะวะชาลัมหา ยักขะโจราทิ สัมภะวา คะณะนานะ
    จะ มุตตานัง ปะริตตันตัม ภะณามะ เห
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  16. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันพุทธกลางวัน)

    S__1474577.jpg

    พระปางอุ้มบาตร
    พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในอิริยาบถยืน สันพระบาททั้งสองชิดกันพระหัตถ์ทั้งสองยกประคองบาตรราวสะเอว มีบาตรวางอยู่ที่ฝ่าพระหัตถ์ในท่าประคอง


    ประวัติย่อ

    ภายหลังจากส่งพระอรหัตนสาวกทั้ง 60 องค์ออกไปประกาศเผยแผ่พระศาสนาแล้วพระพุทธองค์ได้เด็จไปยังเมืองราชคฤห์เพื่อปลดเปลื้องปฏิญญาที่ทรงให้ไว้กับพระเจ้าพิมพิสารตั้งแต่สมัยที่ยังแสวงหาโมกขธรรม เมื่อแสดงธรรมโปรดพระเจ้าพิมพิมพิสารพร้อมข้าราชบริพารให้เกิดความเลื่อมใสได้แล้ว ก็ได้เสด็จไปประทับที่พระเวฬุวันซึ่งพระเจ้าพิมพิสารสร้างอุทิศถวายให้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา
    เมื่อพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบว่าพระโอรสได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว และตอนนี้กำลังประกาศพระศาสนาอยู่ ณ เมืองราชคฤห์ จึงทรงส่งทูตพร้อมบริวารไปทูลนิมนต์ให้พระพุทธองค์เสด็จมายังเมืองกบิลพัสดุ์ แต่คณะทูตที่ทรงส่งไปถึง 9 ครั้ง ต่างเงียบหายไปหมดในที่สุด ครั้งที่ 10 จึงทรงส่งกาฬุทายีอำมาตย์พร้อมบริวารไปทูลนิมนต์จึงสำเร็จตามประสงค์
    ในการเสด็จโปรดพระประยูรญาติครั้งนั้น พระพุทธองค์ได้สรัสมหาเวสสันดรชาดกในท่ามกลางสมาคมพระญาติ เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาจบแล้ว บรรดาพระญาติทั้งหลาย มีพระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดาเป็นประธาน ต่างเกิดปิติยินดี แล้วกราบทูลลากลับมายังพระราชนิเวสน์ของตนๆ โดยไม่มีใครทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์และภิกษุสงฆ์เสวยพระกระยาหารของเช้าวันรุ่งขึ้นเลยเนื่องจากดำริว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังเมืองของพระองค์เองแล้ว ถึงเวลาก็คงเสด็จเข้าไปเสวยในพระราชวังเอง
    ในวันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์จึงพาหมู่ภิกษุเข้าไปบิณฑบาตในเมืองกบิลพัสดุ์จนทำให้เกิดแตกตื่นกันขึ้นทั่วทั้งพระนคร เมื่อพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบข่าว จึงเสด็จออกไปประทับยืน ณ เบื้องพระพักตร์พระศาสดาและตรัสพ้อว่าเหตุไฉนพระศาสดาจึงทำให้พระองค์ได้รับความอับอายเยี่ยงนี้ เพราะวงศ์ของพระองค์เป็นกษตริย์ ไม่เคยมีกษัตริย์พระองค์ใดที่จะต้องเสด็จเที่ยวภิกขาจาร (เพื่อขออาหารคนื่นยังชีพ) เช่นนี้เลย
    พระพุทธองค์จึงตรัสชี้แจงว่า พระองค์กำลังทำตามพุทธวงศ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายปวงอันมีพระพุทธทีปังกร เป็นต้น ล้วนสำเร็จการเลี้ยงชีพด้วยการภิกขาจารทั้งนั้น แล้วตรัสพระคาถาว่าบุคคคลไม่ควรประมาท ในบิณฑบาตที่ตนจะพึงลุกรับ
    ควรประพฤติธรรมให้สุจริต
    บุคคลผู้ประพฤติธรรม
    ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
    ในเวลาจบพระคาถา พระเจ้าสุทโธทนะก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันในท่ามกลางถนนนั่นเอง และได้ทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์พร้อมหมู่ภิกษุเสด็จเข้าไปเสวยภัตตาหารในพระราชนิเวสน์
    ด้วยพระพุทธจริยาวัตรดังกล่าวจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสติรำลึกถึงการเสด็จออกโปรดเวไนยสัตว์ในตอนเช้าของพระพุทธองค์ และกลายเป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิด สำหรับผู้เกิดวันพุธ(กลางวัน)


    บทสวดบูชาพระประจำวันพุทธ (กลางวัน)

    มีกำลัง 17 บทสวดย่อ ปี สัม ระ โล ปุ สัต พุท
    สัพพาสีวสะชาตีนัง ทิพพะมันตาคะทัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะ ปาณินัง สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปริตตันตัมภะ ณามะเห
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2014
  17. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางป่าเลไลย์ (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันพุทธกลางคืน)



    S__1474578.jpg

    พระปางป่าเลไลย์

    พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งบนก้อนศิลา ห้อยพระบาททั้งสองข้างลง ทอดพระบาทเล็กน้อย พระหัตถ์ซ้ายคว่ำวางบนพระชานุซ้าย พระหัตถ์ขวาหงายวางบนพระชานุขวาเป็นกิริยาทรงรับ มีช้างหมอบถือน้ำยื่นถวาย และมีลิงหมอบถือรวงผึ้งถวายอยู่ข้างหน้า

    ประวัติย่อ

    ในสมัยหนึ่งพระวินัยธรและพระธรรมกถึกชาวเมืองโกสัมพี ได้ก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้นในโฆสิตารามด้วยเรื่องการยกโทษกันเกี่ยวกับวินัย จนหมู่ภิกษุตลอดถึงอุบาสก อุบาสิกาเกิดแตกแยกกันขึ้นเป็น 2 ฝ่ายแม้พระพุทธองค์จะทรงเข้าไปไกล่เกลี่ยให้สงฆ์ปรองดองกันเสียแต่ก็ไม่มีใครเชื่อฟังพระโอวาทนั้น ทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยหน่ายความถือรั้นด้วยทิฏฐิมานะของภิกษุเหล่านั้นจึงเสด็จไปยังราวป่าอันเป็นที่อยู่ของช้างชื่อปาริเลยยกะ เพียงพระองค์เดี่ยวโดยไม่อำลาใครๆและได้ประทับอยู่ที่ราวป่านั้นเพียงลำพัง โดยมีช้างปาริเลยยกะคอยปรนนิบัติทำกิจวัตรต่างๆ แต่พระศาสดา ทำให้ชัฏป่าแห่งนั้นได้ชื่อว่า รักชิตวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ต่อมา ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างทำกิจวัตรต่างๆปรนบัติพระศาสดาเช่นนั้นจึงเกิดความเลื่อมใสคิดอยากบำรุงพระศาสดาบ้าง ภายหลังวันหนึ่งได้พบรวงผึ้งบนกิ่งไม้จึงหักกิ่งนั้นนำมาถวายพระศาสดาแต่เห็นพระองค์รับแล้วกลับนิ่งเฉยเสีย จึงใคร่ครวญดูก็ได้เห็นว่ามีตัวอ่อนไต่อยู่บนรัง เลยเขี่ยตัวอ่อนนั้นทิ้งแล้วถวายเสียใหม่ คราวนี้พระพุทธองค์ทรงรับแล้วก็เสวย ทำให้ลิงตัวนั้นปิติยินดียิ่งนัก วิ่งกระโดดไปมาบนกิ่งไม้แต่บังเอิญกิ่งที่ลิงเหยียบและยึดเอาไว้นั้นหักลงมาตรงตอไม้ปลายแหลมพอดี ทำให้ลิงตัวหนั้นถูกปลายตอเสียบทะลุร่างสิ้นใจตายแล้ว ได้บังเกิดเป็นเทพบุตรบนดาวดึงส์

    ช้างปาริเลยยกะได้ปรนนิบัติรับใช้พระพุทธองค์ตลอดไตรมาส โดยมิได้ขาดตกบกพร่องฝ่ายภิกษุชาวเมืองโกสัมพี ภายหลังจากวันที่พะพุทธเจ้าเสด็จหลีกไปนั้น ได้มีพวกอุบาสกอุบาสิกามาเข้าเฝ้าพระศาสดาที่โฆสิตาราม แต่ไม่พบจึงสอบถามจนทราบเรื่องราวและสาเหตุที่พระพุทธองค์เสด็จหนีไป ทำให้ชนทั้งหลายต่างไม่พอใจภิกษุเหล่านั้น จึงพร้อมใจกันงดทำสามีจิกรรม งดถวายอาหาร ทำให้พวกเธอต้องอยู่จำพรรษาในโฆสิตารามด้วยความยากลำบาก จึงหันมาสามัคคีปองดองกันเหมือนเดิม แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ยกโทษให้จนกว่าพวกเธอจะทูลขอขมาให้พระพุทธองค์อดโทษเสียก่อน

    หลังออกพรรษา ตระกูลเศรษฐีคหบดี ในเมืองสาวัตถี มีอนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นต้น ได้ส่งข่าวไปขอร้องให้พระอานนท์พุทธอุปัฏฐากไปกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้เสด็จไปพระนครสาวัตถีด้วย

    พระอานนท์จึงพาภิกษุต่างถิ่น จำนวน 500 รูปที่เดินทางมาเพื่อประสงค์จะเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เช่นกัน ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ ราวป่ารักชิตวัน แล้วกราบทูลแจ้งตามความประสคงค์ของเศรษฐีคหบดีชาวพระนครสาวัตถึให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมโปรดพระภิกษุที่มาเข้าเฝ้าจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด จากนั้นก็ได้เสด็จไปยังพระนครสาวัตถี

    ฝ่ายช้างปาริเลยยกะ ไม่อาจตัดความรักที่มีต่อพระศาสดาได้ เมื่อพระองค์ทรงพาหมู่ภิกษุหลีกไปก็ขาดใจตายไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนดาวดึงส์ ส่วนภิกษุชาวเมืองโกสัมพีทราบข่าวว่าพระศาสดาเสด็จไปประทับอยู่ ณ เชตวัน เมืองสาวัตถีแล้วจึงพากันไปเข้าเฝ้าและกราบทูลขอขมาต่อพระพุทธองค์

    ด้วยเหตุที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับอยู่จำพรรษาตามลำพังที่ราวป่ารักขิตวันโดยมีช้างปาริเลยยกะคอยอุปัฏฐากปรนนิบัติบำรุงดังกล่าว ต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ขึ้น และใช้เป็นปางพระพุทธรูปบูชา สำหรับผู้เกิดวันพุทธกลางคืน


    บทสวดบูชาพระประจำวันพุทธ(กลางคืน)

    มีกำลัง 12 บทสวดย่อ พุท ปัน ทุ ธัม วะ คะ

    ยัสสานุภาเวน ยักขา เนวะ ทัสเสนะติ ภิง สะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต
    รัตตินทิวะมะตันทิโต สุขัง สุปะติ สุตโตจะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ
    เอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห

    หรือ
    กินนุ สันตะระมาโนวะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ
    ภีโต ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
    พุทธาคาถาภิคิโตมหิ โนเจ มุญเจยะ จันทิมันต

     
  18. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางสมาธิ หรือปางตรัสรู้ (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันพฤหัส)


    S__1474579.jpg


    พระปางสมาธิ หรือปางตรัสรู้

    พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองหงายวางซ้อนกัน บนพระเพลา คือพระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ขาวทับพระชงฆ์ซ้าย

    ประวัติย่อ

    ในเช้าของคืนวันที่จะตรัสรู้นั้น พระโพธิสัตว์สิตธัตถะ หลังเสวยข้าวมธุปายาสที่นางสุชาดานำมาถวายแล้ว ก็ได้ทรงอธิษฐานเสี่ยงทายถาดทองคำที่แม่น้ำเนรัญชรา แล้วประทับยับยั้งอยู่ที่นั้นจนตะวันบ่ายคล้อยเสด็จกลับมายังต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในระหว่างทาง ได้ทรงรับหญ้าคา 6 กำมือ จากโสตถิยะพราหมณ์ จึงนำมาปูลาด ณ ใต่ต้นไม่ พระศรีมหาโพธิ์แทนบัลลังก์ แล้วขึ้นประทับนั่งผันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ผันพระปฤษฏางค์ ให้ลำต้นพระศรีมหาโพธิ์ แล้วจึงทรงอธิษฐานพระทัยว่า จักไม่ลุกจากบัลลังก์นี้ ตามใดที่ยังไม่ได้บรรลุพระสัมโพธิญาณ แม้ว่าเนื้อและเลือดจะเหือดแห้งไปจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกก็ตามทีหลังจากอธิษฐานจิตพระองค์ก็ได้เผชิญกับการทำสงครามกับพญามาราธิราชพร้อมเสนาหมู่ใหญ่ แต่พระองค์ก็สามารถเอาชนะได้ด้วยพระบารมีต่างๆก่อนที่พระอาทิตย์จะอัสดงคตเล็กน้อย จากนั้นก็ได้เจริญภาวนาจนได้บรรลุพระญาณต่างๆ ไปตามลำดับ คือ​

    1.ในปฐมยาม ทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสสติญาณ สามารถระลึกชาติในอดีตได้เป็นเหตุให้ทรงยั่งรู้อัตตภาพขันธสังขารต่างที่ประกอบกันขึ้นและดับไปนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ทรงกำจัดความหลงในขันธ์อันเป็นเหตุรักหรือขังเสียได้โดยสิ้นเชิง

    2.ในมัชฌิมยาม ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ หรือ ทิพพจักษุ สามารหยั่งรู้การเกิดการตายตลอดถึงสาเหตุที่ทำให้สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิดในรูปแบบต่างๆ กันออกไปก็ด้วยอำนาจกรรมที่แตกต่างกัน เป็นผลให้ทรงกำจัดความหลง ในคติแห่งขันธ์อันเป็นเหตุสำคัญผิดด้วยประการต่างๆ ได้

    3.ในปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ สามารถกำจัดอาสวักกิเลสน้อยใหญ่ทั้งมวลได้สิ้นเชิงด้วยพระปัญญารู้แจ้งความจริงอันประเสริฐและเข้าใจชัดแจ้งถึงสายโซ่แห่งชีวิตที่เกิดดับ โดยความอาศัยกันและกัน แห่งเหตุปัจจัย หรือปฏิจจสมุทปบาทธรรมทำให้ทรงได้ชีวิตใหม่ บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ กลายเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระญาณอันหมดจดวิเศษเหนื่อยกว่ามนุษย์ และทวยเทพทั้งมวล

    ภายหลังจากตรัสรู้ พระองค์ก็ได้ประทับนั่งเสวยวิมุติสุขและพิจารณาปฏิจจสมุปบาทธรรมตลอด 7 วัน ณ ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์ โดยมิได้เสด็จลุกไปไหนด้วยเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว ภายหลังจึงมีการสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิขึ้นไว้เป็นอนุสติและกลายมาเป็นปางพระพุทธรูปบูชา สำหรับ ผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดี



    บทสวดบูชาพระประจำวันพฤหัส


    มีกำลัง 19 บทสวดย่อ ภะ สัม วิ สะ เท ภะ

    อัตถิโลเก สีละคุโณ สัจจังโสเจยยะ นะ ททะยา เตนะ สัเจนะ กาหามิ
    สัจจะกิริยะ มนุตตระรัง อาวัชชิตวา ธัมมัพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน
    สัจจะพะละมะสายะ สัจจะกิริ ยะมะกาสะหัง สันติ ปักขา อะปัตตะนา
    สันติ ปาทา อะวัญจะนา มาตาปิตา จะนิกขันตา ชะตะเวทะ ปฏิกกะมะ
    สะหะ สัจเจกะเต มัย หัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ
    อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ
     
  19. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางรำพึง (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันศุกร์)

    S__1474580.jpg


    พระปางรำพึง

    พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ ทั้งสองประสานกันยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถีขวาทับพระหัตถ์ซ้าย

    ประวัติย่อ

    ในสัปดาห์ที่ 7 ภายหลังการตรัสรู้ พระพุทธองค์ได้เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ที่ต้นเกตุ ชื่อราชายตนะ ตลอด 7 วัน แล้วเสด็จกลับมาที่ต้นอชปาลนิโครธซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากนั้นทรงรำพึงถึงธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ว่า เป็นธรรมที่ละเอียด ประณีต สุขุม คัมภีรภาพยากที่จะมีใครๆ ตรัสรู้ตามได้ ทำให้น้อมพระทัยไปในการจะไม่ทรง แสดงธรรมแก่สรรพสัตว์ครั้งนั้น ท้าวสหัมบดีพรหม ทราบวารจิตเช่นนั้นของพระพุทธเช้า เลยกล่าวกับทวยเทพว่า คราวนี้โลกคงต้องฉิบหายแน่ จึงเข้าเฝ้าพระพุทธองค์และทูลอาราธนาให้พระองค์แสดงธรรรมโปรดเวไนยสัตว์ด้วย เพื่อบุคคลที่มีกิเลสธุลีในจิตใจน้อยจะได้รู้ธรรมที่พระองค์ได้สรัสรู้บ้างพระศาสดาเองทรงอาศัยพระทัยอันประกอบด้วยพระมหากรุณา จึงทรงรำพึงถึงธรรมเนียม ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตทรงกระทำภายหลังจากการตรัสรู้ ย่อมทรงแสดธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ประดิษฐานพระศาสนาให้ตั้งมั่นแล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพานจึงน้อมพระทัยไปเพื่อการแสดงธรรมสรรพสัตว์จากนั้นทรงพิจารณาอุปนิสัยของสรรพสัตว์ ก็ทรงทราบว่าแตกต่างกันออกไป บางเหล่าก็มีอุปนิสัยประณีต บางเหล่าก็ปานกลาง บางเหล่าก็หยาบ ที่มีอุปนิสัยดี มีกิเลสเบาบาง มีบารมีที่สั่งสมอบรมมาแล้วซึ่งพอที่จะตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ก็มี ผู้ที่มีอินทรีย์แก่กล้าก็มีผู้มีอินทรีย์ยังอ่อนก็มี ผู้ที่จะพึงแนะนำสั่งสอนได้โดยง่ายก็มี ผู้ที่จะแนะนำได้โดยยากก็มี ผู้สามารถจะรู้ได้ก็มี เปรียบเหมือนประทุมชาติบางเหล่าที่โผล่พ้นเหนือน้ำพร้อมจะผลิบาน เมื่อได้รับสุรีย์แสงก็มี บางเหล่าก็ยังอยู่เสมอน้ำก็มี บางเหล่ายังจมอยู่ในน้ำก็มีเมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาด้วยพระปรีชาญาณ หยั่งทราบเวไนยสัตว์ผู้จะได้รับประโยชน์จากพระธรรมเทศนาแล้วก็ทรงอธิษฐานพระทัยในอันจะแสดงธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์และตั้งพุทธปณิธานที่จะดำรงพระชนม์อยู่จนกว่าจะได้ประกาศพระศาสนาให้แพร่หลายและตั้งมั้นเสียก่อนท้าวสหัมบดีพรหมได้ทรงถึงพุทธปณิธานและเห็นว่าทรงรับอาราธนาในการเผยแผ่พระธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สพรรพสัตว์แล้ว จึงกลับไปยังพรหมโลกด้วยพุทธจริยาที่ทรงรำพึงถึงธรรมที่จะทรงแสดงโปรดชนนิกรผู้เป็นเวไนยบุคคลดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้มีการสร้างพระพุทธรูปปางรำพึงขึ้น และใช้เป็นปางพระพุทธรูป บูชา สำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์


    บทสวดบูชาพระประจำวันศุกร์


    มีกำลัง 21 บทสวดย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา
    อัปปะสันเนติ นาถัสสะ สาสเน สาธุสัมมะเต
    อะมะนุสเสหิ สะทา กิพพิสะการิภิ
    ปริสานัญจตัสสันนะ มะหิงสายะจะคุตติยา
    ยันเทเสสิ มะหาวีโร ปริตตันตัมภะณามะ เห



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014
  20. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ประวัติพระปางนาคปรก (พระประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันเสาร์)



    P_Saturday.jpg


    พระปางนาคปรก

    พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิหงายพระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้ายเหมือนปางสมาธิ แต่มีพญานาคขนดร่างเป็นวงกลมเป็นพุทธบัลลังก์ และแผ่พังพานปกคลุมอยู่เหนือพระเศียร


    ประวัติย่อ


    ในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้พระพุทธองค์ได้เสด็จไปนั่งขัดสมาธิเสวยวิมุตติสุขภายใต้ร่มไม้จิกชื่อมุจจลินท์ อันตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์และ ณ ที่แห่งนี้ได้มีฝนตกพรำๆ และสายลมพัดผ่านตลอด 7 วัน พญานาคราชมุจจลินท์จึงได้ออกมาจากนาคพิภพทำขนดล้อมพระวรกายพระพุทธองค์ ถึง 7 ชั้นแล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเหนือพระเศรียรด้วยพระประสงค์จะป้องกันมิให้สายฝนและสายลมพัดเข้ามาถูกต้องพระศาสดาได้เมื่อฝนหายขาด พญานาคราชมุจจลินท์ จึงได้จำแลงเพศเป็นมาณพหนุ่มเข้ามายืนถวาย บังคมพระบรมศาสดา ณ เฉพาะพระพักตร์ พระพุทธองค์จึงทรงเปล่งพระอุทานว่า
    "ความสงัดเป็นความสุขสำหรับบุคคลผู้ได้สดับธรรม ยินดีในเสนาสนะ
    อันสงัด เห็นสังขารทั้งปวงตามความเป็นจริง ความเป็นผู้ไม่เบียดเบียน
    คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความเป็นผู้ปราศจากความกำหนัด
    คือ ความก้าวล่วงกามทั้งหลายเสียได้ เป็นความสุขในโลกความนำออก
    เสียได้ซึ่งอัสมิมานะ (คือความถือตัว) เป็นความสุขอย่างยิ่ง"​
    ด้วยเหตุนี้ ในสมัยต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก และใช้เป็นพระพุทธรูปบูชา สำหรับผู้เกิดวันเสาร์



    บทสวดบูชาพระประจำวันสาร์



    มีกำลัง 10 บทสวดย่อ โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
    ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต, นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง
    ชีวิตา โวโร เปตาฯ เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2014

แชร์หน้านี้

Loading...