เทวดาประจำตัว (ตรวจญาณบารมีองค์เทพ..อำนาจญาณบารมี)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย me-pui, 8 กรกฎาคม 2012.

  1. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    การที่จะพบเจอเทวดาประจำตัวไม่ใช่สิ่งที่จะทราบได้ง่ายและก็ไม่ใช่ว่าจะทราบชื่อแล้วจะสามารถปฏิบัติได้ถูกต้องครูไม่ได้ตอบชื่อและพยากรณ์เทวดาประจำตัวแล้วเพราะไม่ได้ทำให้มนุษย์หลุดพ้นและมีความสุขได้จริง
     
  2. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    29/10/2018
    ถ้าคุณได้เห็นข้อความนี้ แสดงว่า
    " ศี ล เ ร า เ ส ม อ กั น "

    เรื่องบุญ เรื่องกรรม นั้นมีอยู่จริง คำว่า
    " ศี ล ต้ อ ง เ ส ม อ " จึงจะได้พบนั้นเป็นเรื่องจริง

    " บุ ญ มี แ ต่ ก ร ร ม บั ง "
    สำหรับคนที่ยังไม่ถึงเวลาของเขา
    ต่อให้เคี่ยวเข็ญเท่าไร เขาก็จะไม่มีวันสนใจ
    ในความดีของเรา เพราะเขาถูก" กรรมบัง "

    " บุ ญ ไ ม่ ถึ ง "
    ต่อให้ยื่นความช่วยเหลือไป
    อย่างไรก็ไม่ได้ผล เอาหนังสือดีๆไปวาง
    เขาก็ไม่อ่าน ออกเงินให้ไปเข้าสัมมนา
    เขา ก็ฟัง ไปหลับไป
    แคล้วคลาดกับทางออกของชีวิตอยู่ร่ำไป

    " เ ผ ชิ ญ ก ร ร ม "
    ทุกคนต้องพบเจอช่วงหลุมดำของชีวิต
    ต้องเผชิญกรรม ไขว่คว้าหาทางออกยังก็ไม่เจอ
    หรือต่อให้มีทางออก คุณก็มองไม่เห็น
    เพราะ" บุ ญ " ไ ม่ ถึ ง

    " บุ ญ ถึ ง "
    ในวันที่ทุกอย่างดูสิ้นหวัง อยู่ดีๆทางรอด
    ก็ มาพร้อมกันหมด เจอหนังสือดีๆ เจอคนดีๆ
    และเจอโอกาสดีๆ ทั้งนี้เป็นเพราะ
    " บุ ญ ถึ ง " นั่ น เ อ ง

    ทำอย่างไรให้" บุญถึง " ?
    แท้จริงแล้วคำว่าบุญ ตีความว่ามันคือ
    " พ ลั ง ง า น ด้ า น บ ว ก "
    ถ้าเราทำให้จิตใจเราอยู่ใน พลังบวก
    บุญที่ว่า ก็จะค่อยๆสะสม จน" บุญถึง "

    ทำไปเถอะ สั่งสมบุญไปเรื่อยๆ
    ทำโดยไม่หวังผล

    ร่วมกิจกรรมการกุศล ให้อภัยไม่คิดยึดติด

    มีทรัพย์ถึงให้ ท า น
    มีความรู้พึงให้ วิ ท ย า ท า น
    มีแรงมีกำลังก็ ช่ ว ย สั ง ค ม
    ไม่มีแรงก็ขอเพียง " ร อ ย ยิ้ ม "
    ให้กันก็พอ

    ที่คุณบังเอิญผ่านมา อ่านบทความนี้
    นั่นเป็นเพราะเราศีลเสมอกัน และ
    บทความนี้ มีประสงค์เดียวคือ
    อยากให้หมั่นสร้างบุญ

    ท้ายสุด
    " อะไรที่ทำให้คุณ รู้สึกไม่ดี จงปล่อยมันไป
    อะไรที่ทำให้คุณยิ้มได้จงรักษามันไว้ "
    ......................

    ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นเอง .....ตะถะตา
     
  3. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +301
    ขอตรวจด้วยคนครับ
    ชื่อชัดเจน นามสกุลตัณฑอินทร์
    เกิดที่ โรงพยาบาลระนอง
    ชื่อเดิมชื่อ อาทิตย์ เพิ่งเปลี่ยนเป็น ชัดเจน ได้ประมาณ 1 ปีครับ ออ ผมเกิดเวลา 14.02 น. วันอาทิตย์นะครับ
     
  4. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    15/11/2018
    สนามพลังงานสากลเป็นสนามพลังงานที่มีอยู่แต่เดิมนับ 1 ล้านปีมาแล้วโดยมันมีของมันมาอย่างนั้นและสนามพลังงานสากลนี้ยังเป็นสนามพลังงานซึ่งเต็มไปด้วยสรรพสิ่งที่เรียกว่าแก่นแท้แห่ง อนัตตาดำรงอยู่อีกด้วย

    กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมานี้มันจะเกิดขึ้นได้หรือเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อมีการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องของแก่นแท้แห่งอัตราเกิดขึ้นก่อนเท่านั้น

    ณ จุดศูนย์กลางของการหมุนอันเป็นที่มาแห่งการอุบัติขึ้นด้วยตนเองของจิตจักรวาล

    ในที่สุดเมื่อแก่นแท้แห่งอัตราทั้งหมดที่มีอยู่จริงในสนามพลังงานสากลนั้นพากันหมุนวนเข้าหาจุดศูนย์กลางจนรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นหน้าบริเวณจุดศูนย์กลางการหมุนซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับจุดศูนย์กลางของสนามพลังงานสากลได้อย่างลงตัวแล้วสรรพสิ่งใหม่อันเป็นสรรพสิ่งแรกสุดที่อุบัติขึ้นมาในท่ามกลางความว่างเปล่าที่เสมือนไร้ขอบเขตสิ้นสุดของสนามพลังงานสากลก็คือการอุบัติขึ้นมาของรูปธรรมทางพลังงานรูปธรรมหนึ่งซึ่งมีโครงสร้างทางกายภาพเป็นศูนย์รวมของแก่นแท้แห่งอนะตาทั้งหมดที่มีอยู่จริงในสนามพลังงานสากลนั้นและเป็นรูปธรรมทางพลังงานซึ่งมีความสมดุลย์อยู่ในตนเองเพราะมีการหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเร็ว เท่ากับความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของสนามพลังงานสากลที่ตนดำรงอยู่นั้น

    ถ้ามนุษย์ยอมรับว่าสรรพสิ่งที่เป็นแก่นแท้แห่งอัตตานี้หมายถึงสรรพสิ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่ไม่มีแม้เงามายาแต่สามารถกระทำตนเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งที่เป็นทั้งอนัตตาและอัตตาได้เช่นนี้แล้วมนุษย์ก็คงจะยอมรับความจริงได้เช่นกันว่าแก่นแท้แห่งอัตตาเหล่านี้ก็คือสรรพสิ่งที่มีอยู่แต่เหมือนไม่มีตัวตนอยู่

    การมารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้รูปธรรมเดียวของแก่นแท้แห่งสุญตาที่มีอยู่ทั้งหมดในสนามพลังงานสากลอันกว้างใหญ่ไพศาลเสมือนไร้ขอบเขตจำกัดนี้ยังผลในรูปธรรมทางพลังงานที่สมดุลย์ที่อุบัติขึ้นใหม่นี้มีพลังอำนาจอันสูงส่งให้ตัวเองเกิดขึ้นเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวด้วยเช่นเดียวกันพลังอำนาจหลักหลักที่สำคัญมีดังนี้

    1. อำนาจแห่งความรักเป็นคลื่นความถี่ด้านบวกสูงสุดอันเกิดจากการสั่นสะเทือนทางพลังงานภายในตนเองในบทบาทของผู้ให้ที่รูปธรรมนี้สามารถเข้าถึงได้

    2. อำนาจแห่งอัจฉริยะญาณ
    เป็นผู้มีปัญญาญาณระดับสูงสุดในการคิดรู้ล่วงรู้และหยั่งรู้เหนือมนุษย์ในทุกสรรพสิ่งที่มีความเฉลียวฉลาดทางปัญญาจะสามารถเข้าถึงได้

    3. อำนาจแห่งการเป็นผู้รู้แจ้งเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจในการรับรู้และเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งได้ทุกมิติได้อย่างลึกซึ้งอย่างถ่องแท้เพราะตนเองคือผู้สร้างตนเองคือจุดเริ่มต้นและตนเองคือจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนของทุกสรรพสิ่ง

    4.อำนาจแห่งการเป็นผู้สร้างเป็นศูนย์รวมของแก่นแห่งอนัตตา ทั้งมวลที่มีอยู่ในสนามพลังงานสากลซึ่งแก่นแห่งอนัตตาเหล่านี้เมื่อสันสะเทือนตนเองขึ้นเมื่อใดก็จะสามารถสร้างสรรพสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าสรรพสิ่งนั้นจะเป็น อนัตตาหรืออัตราก็ตามและนอกจากนั้นรูปธรรมดังกล่าวนี้ยังสามารถกำหนดรูปแบบบุคลิกและคุณสมบัติของสรรพสิ่งนั้นนั้นที่ตนจะกำหนดสร้างได้ดังประสงค์อีกด้วย

    5. อำนาจแห่งการเป็นผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งเป็นผู้มีพลังอำนาจของการสั่นสะเทือนด้านบวกสูงสุดเหนือสรรพสิ่งใดใดเป็นผู้สั่นสะเทือนตนเองเพื่อสร้างสรรพสิ่งใหม่ใหม่ขึ้นมาได้เป็นผู้สามารถเหนี่ยวรั้งสรรพสิ่งทั้งหลายที่ตนกำหนดสร้างขึ้นไว้ด้วยพลังงานความรักบริสุทธิ์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นผู้สามารถกำหนดบทบาทบุคลิกและคุณสมบัติต่างๆของสรรพสิ่งใดใดที่ตนกำหนดสร้างได้ทั้งสิ้น

    6. อำนาจแห่งการเป็นอมตะเป็นผู้อยู่เหนือ กฎเกณฑ์ทางกายภาพ 3 ประการของทุกถ้วนสรรพสิ่งในจักรวาลสากลซึ่งตนเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเองนั่นคือการสั่นสะเทือนตนเองเพื่อการดำรงอยู่
    การสั่นสะเทือนตนเองเพื่อการสร้างใหม่
    และการสั่นสะเทือนตนเองเพื่อการเสื่อมสลาย

    รูปธรรมอันสูงส่งนี้สามารถที่จะดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอมตะด้วยเสมือนไม่ต้องมีการสั่นสะเทือนตนเองเพื่อการดำรงอยู่แต่อย่างใดเนื่องจาก แท้แล้วมีการสั่นสะเทือนด้านบวกภายในตนเองด้วยคลื่นความถี่สูงมากจึงดูเสมือนว่าหยุดนิ่งไม่มีการสั่นสะเทือนใดใดเกิดขึ้นรูปธรรมอันสูงส่งนี้สามารถที่จะดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอมตะชั่วนิรันดร์แม้ว่าตนจะสั่นสะเทือนเพื่อการสร้างสรรพสิ่งใหม่ขึ้นเป็นผู้กระทำต่างๆที่ผ่านมาแล้วเป็นจำนวนมากมายสักปานใดจะถ่ายทอดพลังอำนาจแห่งตนออกไปเพื่อมอบให้แก่สรรพสิ่งอื่นมาแล้วมากแค่ไหนไม่ว่าสรรพสิ่งนั้นจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ไม่ว่า สรรพสิ่งนั้นจะอยู่ใกล้หรืออยู่ห่างไกลออกไปและไม่ว่าสรรพสิ่งนั้นนั้นจะอยู่ในมิติใดพลังอำนาจภายในเพื่อการสร้างใหม่แห่งตนของรูปธรรมนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

    รูปธรรมอันสูงส่งนี้สามารถที่จะดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอมตะโดยไม่มีวันเสื่อมสลายคุณสมบัติไปจากเดิมหรือเกิดการร่วงโรยสลายไปตามกาลเวลาเพราะเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีความสมดุลย์อยู่ในระบบของตนอันเกิดจากการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงหลาย 10,000 ไมล์ต่อวินาทีนอกจากนั้นรูปธรรมนี้ก็ยังเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการเริ่มต้นเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการสั่นสะเทือนของทุกสรรพสิ่งและเป็นจุดศูนย์กลางของสนามพลังงานสากลอีกด้วยดังนั้นรูปธรรมนี้จึงเป็นผู้อยู่เหนือมิติแห่งกาลเวลาทั้งมวล

    จึงสมควรแล้วที่มนุษย์ยุคพลังงานใหม่ทั้งหลายจะต้องกล่าวนามเรียกขานรูปธรรมทางพลังงานนี้อย่างพร้อมเพรียงกันว่าจิตแห่งจักรวาล

    ครูปุ๊ย แม่ครูน้อยครูผู้เชื่อมสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ห้า
     
  5. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    15/11/2018
    ที่ว่างโล่ง
    จนไม่มีสรรพสิ่งใดใดในมิติทางกายภาพดำรงอยู่เลยนี้มิได้หมายความว่าณสถานที่แห่งนั้นมันว่างเสียจนไม่มีอะไรเลย

    ถ้าภายในขวดโหลอันว่างเปล่าที่ปิดฝาไว้แม้ตาจะมองเห็นว่าไม่ได้บรรจุสิ่งใดไว้ก็จริงอยู่แต่แท้จริงแล้วภายในนั้นยังมีอากาศมีสนามแม่เหล็กมีคลื่นพลังงานหลายหลายย่านความถี่รถเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่และมีละอองแห่งฝุ่นธุลีรวมอยู่ในนั้นด้วยที่ว่างโล่ง อันกว้างใหญ่ไพศาลเสมือนไร้ขอบเขตจำกัดในการอดีตนั้นก็เช่นกันแม้จะเป็นที่ว่างโล่ง อย่างไรมันก็ยังมีบางสิ่งที่ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่เช่นเดียวกัน

    แต่สำหรับสรรพสิ่งที่ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่ภายในบริเวณที่ว่างโล่งอันกว้างใหญ่ไพศาลจนเสมือนไร้ขอบเขตสิ้นสุดนี้มิใช่อวกาศมิใช่อากาศไม่ใช่สนามแม่เหล็กมิใช่ผงฝุ่นละอองธุลีและไม่ใช่สรรพสิ่งซึ่งมีอัตราตัวตนใดใดทั้งสิ้นแต่สรรพสิ่งที่ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่ภายในที่วางโล่ง ดังกล่าวนี้ก็คือสรรพสิ่งที่ไม่มีตัวตนเป็นสรรพสิ่งที่ไรเงามายาแล้วไร้ร่องรอยสรรพสิ่งที่ไม่มีตัวตนนี้มีคุณสมบัติสำคัญเฉพาะตัวประการหนึ่งก็คือถ้ามีการสั่นสะเทือนตัวเองขึ้นมาเมื่อใดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์แห่งมายาขึ้นอย่างหนึ่งซึ่งมนุษย์โลกเรียกกันว่าคลื่นพลังงาน

    คลื่นพลังงานอันเป็นความถี่ในย่านต่างๆที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลจากการสั่นสะเทือนของสรรพสิ่งที่ไม่มีตัวตนจำนวนมากมายที่ลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่ในที่ว่างโล่งอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นเรียกว่าสรรพสิ่งซึ่งเป็นอนัตตา

    อนุภาคของคลื่นความถี่ที่กำลังแสดงตนด้วยการสั่นสะเทือนอยู่นี้มันจะเริ่มต้นแสดงอาการสั่นสะเทือนขึ้นมาเมื่อใดมันจะสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงต่ำเพียงใดและมันจะหยุดการสั่นสะเทือนนั้นเพื่อการล่องหนหายตัวไปเมื่อใดก็ยังขึ้นอยู่กับผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่เบื้องหลังการสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่ของอนุภาคนั้นนั้นอีกที่หนึ่งด้วยมิได้ขึ้นอยู่กับตัวอนุภาคของคลื่นความถี่นั้นนั้นเองแต่อย่างใด

    รู้ดิใช่ไหมเมื่อเราเข้าไปอยู่ศูนย์กลางแห่งอนัตตาได้เมื่อไหร่เราจะเข้าใจชีวิตและสรรพสัตว์มากยิ่งขึ้น

    ครูปุ๊ย ครูผู้เชื่อมสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ห้า
     
  6. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    15/11/2018
    การมีปณิธานแห่งนิพพานอย่างแท้จริงนั้นคือการมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรมและจิตวิญญาณโดยมีจุดหมายปลายทางคือการหลุดพ้นของจิตวิญญาณโดยหลุดออกไปจากสนามพลังงานแห่งจักรภพและเอกภพอันไพศาลเพื่อคืนสู่บ้านยังแดนสุญญาติที่ตนจากมาเสียนานให้ได้ในภพชาติใดภพชาติหนึ่งที่มีโอกาสได้เป็นมนุษย์

    เพราะว่าจิตวิญญาณนิพพานหรือกลับบ้านยังแดนสุญญาติในตอนที่เกิดเป็นมนุษย์ได้ง่ายกว่าตอนที่ไปเกิดเป็นอื่นนั่นเองถ้ามนุษย์ต้องการนำพาจิตวิญญาณของตนสู่นิพานแท้จริงมนุษย์จะต้องปณิธานแห่งนิพพานและดำเนินชีวิตไปตามคันรองนั้นให้มั่นคงนั่นคือ

    ต้องเป็นผู้ครองสติ
    ต้องเป็นผู้มีความสงบทั้งกายใจ
    ต้องเป็นผู้มีความสำรวมทั้งกายใจ
    ต้องเป็นผู้มีความรักความเมตตาเป็นอารมณ์
    ต้องเป็นผู้ใช้ปัญญาญาณในการดำเนินชีวิตร่วมกันกับผู้อื่น

    มนุษย์จะต้องรู้ว่าความบกพร่องเหลวไหลในบทบาทบุตรผู้มีความกตัญญูทั้งห้าประการที่กล่าวมาพอสังเขปนี่เองเป็นเหตุให้จิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์แต่ละคนกลไกทางไฟฟ้าและอวัยวะต่างๆในเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์และดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ถึงคราวเสื่อมประสิทธิภาพและคุณภาพลงจนสิ้น

    มนุษย์ไม่รู้ว่าสุญตาคืออะไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าความรักบริสุทธิ์คืออะไรอย่างไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน
    มนุษย์ไม่รู้ว่าตนเกิดมาเป็นมนุษย์กันทำไมหน้าที่ของตนคืออะไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าดาวเคราะห์โลกและสรรพสิ่งอื่นๆเกี่ยวข้องกับตนเองอย่างไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าจะทำให้โลกของตนเป็นดังสวรรค์บนดินดังเดิมได้อย่างไร
    มนุษย์ไม่รู้ว่าทำไมทุกคนต้องนิพพาน
    มนุษย์ไม่รู้ว่านิพพานคืออะไรอย่างไร

    ครูปุ๊ย ครูผู้เชื่อมสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ห้า
    ญาณบารมี #เทวดาประจำตัว
     
  7. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
     
  8. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    15/11/2018
    สายธารที่มีต้นธารมาจากแหล่งเดียวกันคือถือกำเนิดมาจากพระบิดาผู้ทรงเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลด้วยกันทั้งสิ้น และต่างก็ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในการกล่าวสัจธรรมและโอวาทของพระบิดาเพื่อสื่อสอนถ่ายทอดต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายเช่นเดียวกันโดยทำหน้าที่ในต่างยุคต่างสมัยกันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองเมื่อสัจธรรมและพระโอวาทที่พระศาสดาแต่ละพระองค์ทรงนำมาตัดสื่อสอนกันนั้นมีที่มาจากแหล่งเดียวกันหรือนำมาจากคัมภีร์เล่มเดียวกันเช่นนี้แล้วความหลงผิดที่สงสัยที่ว่าใครจะนำมากล่าวก่อนกล่าวหลังใครจะหยิบฉวยเอาพระโอวาทหรือสัจธรรมข้อใดตอนไหนมากล่าวใครจะมิได้กล่าวความข้อใดเรื่องใดตอนใดไว้ในขณะที่ผู้อื่นกลับได้หยิบฉวยเอาความข้อนั้นเรื่องนั้นตอนนั้นมากล่าวความคิด ประการนี้จึงกลายเป็นการคิดแบบจิตมนุษย์ไปทันทีเพราะเหตุว่าถ้าคิดด้วยปัญญาญาณแล้วมนุษย์สามารถจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งได้ทันที

    ใครจะเป็นผู้กล่าวสื่อสอนก่อนหลังมิใช่เรื่องสำคัญว่าใครจะต้องเลียนแบบใครเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนด้วยการนำความรู้ที่มีผู้ฝากให้ถือมาเพื่อ เอามาฝากเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆต่ออีกทอดหนึ่งต่างหาก โดยผู้ฝากเป็นรูปธรรมเดียวกันเพียงแต่ผู้ถือเอามาเป็นคนละคนกันเท่านั้นเอง

    การกล่าวสัจธรรมก็คือการกล่าวความจริงที่แท้ไม่ว่าผู้ใดจะกล่าวก่อนเก่าหลังสัจธรรมนั้นก็ย่อมเหมือนกันตรงกันเสมอมิฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นสัจธรรมได้อย่างไร

    มนุษย์คนใดจะถือสิทธิ์ว่าเป็นความรู้ของกูหรือของพวกกูมนุษย์คนใดจะร่ำร้องว่ามันเรียนแบบกูหรือพวกกูก็เห็นทีจะไม่ได้

    จิตที่เป็นอิสระไม่มีการยึดติดใดใดมีแต่ความว่างเว้นแต่ระหว่างทางล้วนย่อมมีกระบวนการในการผลักดันจิตเสมอ

    ครูปุ๊ย ครูผู้เชื่อมสนามพลังงานเข้าสู่มิติห้า
    #ญาณบารมี #เทวดาประจำตัว
     
  9. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    20/11/2018

    สิ่งที่ปรากฏทุกอย่างล้วนเป็นอจินไตย

    อจินไตย แปลว่า สิ่งที่ไม่ควรคิด อจินไตย มาจากคำว่า (พึงคิดพิจารณา) แปลว่า ไม่พึงคิดหริอจำแนกตรรกะลงไปได้ หมายถึง สิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน มี 4 อย่างได้แก่

    พุทธวิสัย วิสัยแห่งความมหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ฌานวิสัย วิสัยแห่งอิทธิฤทธิ์ของผู้มีฌาน ทั้งมนุษย์ และเทวดา
    กรรมวิสัย วิสัยของกฎแห่งกรรม และวิบากกรรม คือการให้ผลของกรรมที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติ
    โลกวิสัย วิสัยแห่งโลก คือการมีอยู่ของสวรรค์ นรก และสังสาระวัฏ

    ในทางพระพุทธศาสนาไม่แนะนำให้คิดเรื่องอจินไตย เพราะวิสัยปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้โดยถูกต้องถ่องแท้ ทั้งเพราะความเข้าใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นของลึกซึ้ง เป็นเรื่องทางจิต หรือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบที่สิ้นสุดได้ ถ้าคิดมากจริงจังในการหาคำตอบเหล่านั้นจากการคิดเดาเอาด้วยตรรกะเองจึงอาจกลายเป็นคนบ้าได้ อจินไตยในเรื่องทางจิตจึงเป็นเรื่องที่รู้ได้ด้วยการบรรลุธรรมชั้นสูงเท่านั้น

    วิทยาศาสตร์ทางจิตฝึกฝนให้ดีต้องมีครูนำทางที่ถูก

    ครูปุ๊ย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    22/11/2018
    การสั่นสะเทือนด้านบวกในมิติทางพลังงานด้านแก่นแท้ของสรรพสิ่งนั้นนั้นก่อให้เกิดพลังงานที่ใช้ในการดึงดูดเหนี่ยวรั้งที่ตนเองจะเป็นผู้ให้แก่สรรพสิ่งอื่นเรียกว่าแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งเพื่อการเป็นระบบเดียวกันของแต่ละสรรพสิ่งเช่นแรงดึงดูดที่โลกกระทำต่อดวงจันทร์และแรงดึงดูดที่ดวงจันทร์กระทำต่อโลกทั้งสองฝ่ายจะต้องพอดีกันหรือสมดุลย์กันเท่านั้น

    ตัวตนมายาหยาบๆในมิติทางกายภาพก็เช่นกันมันจะดำรงรูปธรรมของตนเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีรูปธรรมทางพลังงานซึ่งเป็นแก่นแท้ช่วยหยุดยั้งอนุภาพอะตอมหรือม้วนหยาบๆแต่ละชิ้นของมันเอาไว้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันก้อนเดียวกันชิ้นเดียวกันหรือรูปธรรมเดียวกันไม่ได้เลย

    จากความจริงแท้ระหว่างสรรพสิ่งสองมิตินี่เองจิตจักรวาลดวงใหญ่ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งเหล่านี้จึงได้กำหนดให้ภายในใจกลางของโครงสร้างทางกายภาพของสรรพสิ่งที่เป็นดวงดาวแข็งและเทหวัตถุทั้งหลายในเอกภพและจักรวาลมีกเอนออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ที่เข้มข้น 100% เป็นแก่นแท้อยู่ภายในใจกลางทั้งสิ้น

    ครูปุ๊ย ครูผู้เชื่อมสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ห้า
    ญาณบารมี #เทวดาประจำตัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    “ท่านผู้รู้” เมตตาบอกว่า หลวงปู่ครูบาธรรมชัยปรารถนาซึ่งพระโพธิญาณ จะเห็นได้ว่างานสงเคราะห์ญาติโยมพุทธบริษัท ด้วยการรักษาโรคภัยและแก้กรรมทุกชนิดนั้น เป็นงานของพุทธภูมิอย่างแท้จริง แม้ภายหลังหลวงปู่จะเปลี่ยนใจ ขอเป็นเพียงอัครสาวกของสมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัยก็ตาม ท่านก็ยังคงทำงานของพระโพธิสัตว์อยู่เช่นเดิม...

    5/3/2019
     
  12. mepui

    mepui สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +20
    แม่ครูน้อยพูดถึงพ่อครู หลวงปู่ครูบาธรรมชัย

    วันนั้นหลวงปู่มาธุระที่กรุงเทพฯ มาพักที่บ้านซอยสายลม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พ่ออยู่ที่วัดท่าซุง พี่อ๋อย (ที่จริงผู้เขียนน่าจะเรียกแม่ ถึงตอนที่เขียนถึงท่านจะเรียกให้สมใจ) ก็ให้จัดหลวงปู่พักบนห้องพ่อ เราก็พาท่านขึ้นไปกราบเรียนว่า

    “หลวงปู่... พักบนเตียงหลวงพ่อนะขอรับ ผมเปลี่ยนที่นอนให้เรียบร้อยแล้ว”

    เท่านั้นแหละผู้อ่านเอ๋ย.... หลวงปู่ธรรมชัยถึงกับคุกเข่าลงบนพื้นหน้าเตียงนอน กราบลงบนพรมวางเท้าแล้วพูดเสียงน่าสงสารว่า

    “จะฆ่าหลวงปู่หรื๊อ.... จะให้หลวงปู่ตกนรกหรื๊อ.... หลวงปู่ขอนอนตรงนี้ก็พอแล้ว...”

    แล้วท่านก็กราบชี้ตรงที่วางเท้าหน้าเตียงนอนพ่อ ก็ต้องรื้อฟูกลงมาปูตามที่ท่านยืนยันขันแข็ง

    หลวงปู่ธรรมชัยน่าจะปีเดียวกับพ่อ (หลวงพ่อฤๅษีฯ) แต่มารยาทการแสดงออกนั้น เสมือนลูกที่กระทำต่อพ่อที่ตนรักและเกรงกลัว

    ....ยิ่งหลวงปู่อ่อนน้อมและค้อมต่ำ ก็ยิ่งส่งให้ท่านดูสูงส่ง มั่นคงในความดีไม่มีประมาณ และยิ่งชี้ชัดให้พระคุณของพ่อเด่นกระจ่าง แม้จะพยายามปกปิดซ่อนเร้นให้เห็นแต่ความธรรมดาสามัญตลอดมาก็ตาม...
    จนเวลานี้.... แม้พระคุณทั้งสองจะทิ้งร่างลาโลกไปแล้วก็ยังส่งมอบมรดกธรรมล้ำค่าไว้ให้ลูกหลานทัศนาใช้สอย นั่นก็คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และการปกปิดความดีไม่อวดอ้าง เหมือนจันทร์เพ็ญเด่นกระจ่าง แม้จะเอาเมฆนุ่มหนามาบดบังเอาไว้ก็ยังครองใจชาวโลกให้จดจ่อระลึกถึงอยู่ไม่มีเวลาเสื่อมสลายคลายศรัทธา.
     
  13. Shinagawa

    Shinagawa สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีครับ คุณ me-pui ผมเชื่อนะครับว่าทุกๆคนนั้นมีเทวดารักษาตัวอยู่ทุกคน แต่ทุกคนนั้นจะมีเทพเทวดามาปกปักรักษาไม่เหมือนกัน ผมอยากขอความกรุณารบกวนช่วยตรวจให้หน่อยนะครับ ว่าของตัวผมเองเป็นอย่างไร และควรจะปฏิบัติอย่างไร และที่สำคัญเลยคือ ในยุคนี้ผมสมควรที่จะถืออาวุธหรือไม่ ขอบคุณมากครับ


    ผมวันเกิดวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2540 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2019
  14. น้ำตะวันภู

    น้ำตะวันภู มานั่งสมาธิกันนะครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +262
    ผมวันเกิดวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2510 ครับ ขอรบกวนสงเคราะห์ตรวจสอบถามเทวดาประจำตัวให้ผมด้วยครับ ว่าท่านคือใครและผมควรปฏิบัติต่อท่านอย่างไร เพื่อให้ชีวิตผมดีขึ้น ผมอยากจะบวชแต่ติดที่ครอบครัว ผมจะสละออกบวชจะดีไหม ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  15. me-pui

    me-pui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +348
    พญานาคชอบการถวายแบบใด
    ๑.พญานาคเบื้องสูงที่อยู่สวรรค์ ชอบ การปฏิบัติบูชา ความกตัญญูต่อบุพการี การช่วยเหลือ แบ่งปัน (เรียกว่า นาควัตร)
    ๒.นาคเบื้องล่าง ชอบของเส้นไหว้ เช่นของต้มต่างๆ

    เมื่อทำบุญจงแผ่เมตตาให้นาคทุกตะกูล
    ๒๓๑๑(๒๐๒๐)
     
  16. ฅนรักควาย

    ฅนรักควาย "ฮาเร็มพี่เต็มแล้ว"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2020
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมสับสน ไม่รู้ว่า อนาคต จะไปใน ทิศทางไหน มันสำคัญ ผมจะแก้ไขอะไรไม่ได้ใช่ไม๊ ถ้าคุณไม่รู้ว่าผมพยายามแก้ไขสิ่งใด คุณก้อไม่ควรตอบกระทู้นี้ครับ ผมได้รับอีเมล์แจ้งเตือน ยังมีความหวังบ้าง ผมไม่ทราบว่าในโลกวิญญาณ ใครจะช่วยผมได้บ้าง ผมสัมผัสได้ว่าผมพิเศษ แต่ผมรู้สึกโดดเดี่ยว ในโลกนี้ผมไม่ทราบว่าจะพึ่งพาอะไรใครได้อีก อาจเพราะในสายตาคนทั่วไปผมดูไร้ค่า แต่ความจริงแล้ว มันตรงกันข้าม ใครๆก็คิดได้ว่าจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไร หากรู้ว่าสิ่งใดถูก หรือผิด แต่มันจะไม่สามารถเกิดความรู้ในสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามความเป็นจริง ผมศึกษาประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สิ่งต่างๆ ในสากลจักรวาลนับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้น และดับไป ผมรู้ว่า "คำตอบคือ เมื่อถึงเวลาผมจะรู้ได้ด้วยตนเองว่าผมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิดพลาด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ได้หรือไม่ อย่างน้อยก็เมื่อลมหายใจ เฮือกสุดท้ายมาถึง ใช่ถึงตอนนั้นผมต้องรู้แน่นอน แต่เมื่อถึงเวลานั้น มันจะสายจนเกินไป ผมไม่รู้ว่าควรปรึกษาใคร ผมมีแค่เสียงจากหัวใจที่แผ่วเบา เป็นที่ปรึกษา และมารดาที่คอยปลอบใจ แต่เมื่อเวลาของผมหมดไป ผมจะไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีก และถึงแม้นจะเริ่มต้นใหม่ได้ ผมก็คงปฏิเสธ ที่จะทำสิ่งนี้อีกเป็นครั้งที่สอง และคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว สำหรับผม ในคีั้งที่สอง ผมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างได้แม้แต่ชีวิต หากจะมีใครสักคนยินดีที่จะแบกรับหน้าที่ ทั้งหลายเหล่านี้ ผมไม่ได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนในอดีต ผมรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงโลกนั้นผมคนเดียวไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน แต่เวลานี้ผมพยายามถึงที่สุดแล้ว แม้นว่าจะรู้ว่าผมพยายามอยู่เพียงลำพังก็ตามที แค่หวังว่าจะมีใครสักคนที่ เคยคิดถึงสิ่งดีๆ ที่สามารถทำได้ เพื่อผู้ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเอง หรือใครๆได้อีกในโลกใบนี้ แล้วคอยแสวงหาปัจจัยในการดำรงชีวิตขึ้นพื้นฐานอย่างยากลำบาก ผมไม่รู้ว่าผมมาอยู่ ณ จุดนี้เมื่อไหร่ ผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในทางความคิดแล้ว สติปัญญา ในขณะเดียวกันร่างกายก็มีแต่ทรุดโทรมลง ตามกาลเวลา ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกๆท่านที่สละเวลา อ่านเรื่องราวนี้ แต่มันจะดีกว่ามาก หากผมสามารถพึ่งพา คนจริงๆ ที่มีลมหายใจ ไม่ใช่เทวดาประจำตัว ไม่ใช่ผมจะไม่เชื่อ หรือลบหลู่ดูหมิ่น เพราะในโลกของความเป็นจริง สำหรับผม คนที่ยังมีลมหายใจเท่านั้น ที่จะคอยชี้แนะ และช่วยเหลือผมได้ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเวลาที่ท่านเสียสละให้ กระทู้ของผม

    ขอแสดงความนับถือ

    เสนาธิการคณะปฏิวัติแห่งจักรวาล

    ชัดเจน ตัณฑอินทร์
     

แชร์หน้านี้

Loading...