เมืองแก้ว บุรี อสังขตสถาน สถานที่ นิพพาน ในพระไตรปิฏก

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย หลับอยู่, 20 พฤษภาคม 2015.

  1. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
    ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    <CENTER>๙. โคตมเถรคาถา</CENTER><CENTER>สุภาษิตเตือนไม่ให้ติดกาม</CENTER>[๒๖๖] มุนีเหล่าใด ย่อมไม่พัวพันในหญิงทั้งหลาย
    มุนีเหล่านั้นย่อมนอนหลับ เป็นสุข สัจจะที่ได้ยากแสนยากในหญิงเหล่าใด
    หญิงเหล่านั้นอันบุคคล ต้องรักษาทุกเมื่อแท้
    ดูกรกาม เราประพฤติพรหมจรรย์เพื่อฆ่าท่านบัดนี้ เราไม่เป็นหนี้ท่านอีก
    บัดนี้ เราไปถึงนิพพานอันเป็นที่บุคคลไปแล้วไม่ เศร้าโศก.
    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๕๗๒๔ - ๕๗๓๐. หน้าที่ ๒๔๒.





    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  2. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    Quote Tipitaka:
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔
    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑



    อัตถสันทัสสกเถราปทานที่ ๗ (๑๓๗)
    ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า ๓ คาถา

    [๑๓๙] เรานั่งอยู่ในโรงอันกว้างใหญ่ ได้เห็นพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตระ
    ผู้เป็นนายกของโลก ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ผู้บรรลุพลธรรมแวดล้อมด้วย
    ภิกษุสงฆ์ ภิกษุสงฆ์ประมาณ ๑ แสน ผู้บรรลุวิชชา ๓ ได้อภิญญา ๖
    มีฤทธิ์มาก แวดล้อมพระสัมพุทธเจ้า ใครเห็นแล้วจะไม่เลื่อมใส ใน
    มนุษยโลกพร้อมทั้งเทวโลกไม่มีอะไรเปรียบ ในพระญาณของพระสัมพุทธ-
    เจ้าองค์ใด ใครได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระญาณไม่สิ้นสุด
    แล้ว จะไม่เลื่อมใสเล่า ชนทั้งหลายแสดงธรรมกาย และไม่อาจทำ
    รัตนากรทั้งสิ้นให้กำเริบได้ ใครได้เห็นแล้วจะไม่เลื่อมใสเล่า พราหมณ์
    นารทะนั้นชมเชยพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระผู้ไม่แพ้ด้วย ๓ คาถา
    นี้แล้วเดินไปข้างหน้า ด้วยจิตอันเลื่อมใสและด้อยการชมเชยพระพุทธเจ้า
    นั้น เราไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัลป ในกัลปที่ ๓๐๐๐ แต่กัลปนี้
    ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์พระนามว่าสุมิตตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว
    ๗ ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
    และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
    ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระอัตถสันทัสสกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.

    จบ อัตถสันทัสสกเถราปทาน.
    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ บรรทัดที่ ๔๐๒๓ - ๔๐๔๑. หน้าที่ ๑๘๖ - ๑๘๗.
    <!-- m -->http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0<!-- m -->

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2015
  3. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน นันทวรรคที่ ๓ โกลิตสูตร</BIG> <CENTER class=D></CENTER></CENTER>




    <CENTER>อรรถกถาโกลิตสูตร </CENTER>

    บทว่า ชญฺญา นิพฺพานมตฺตโน ความว่า พระนิพพานอันเป็นอสังขตธาตุ นำมาซึ่งความสุขอย่างแท้จริง
    โดยเป็นอารมณ์อันดีเยี่ยมแก่มรรคญาณและผลญาณ ซึ่งได้บัญญัติว่า อัตตา เพราะไม่เป็นอารมณ์ของปุถุชนอื่น แม้โดยที่สุดความฝัน

    แต่เพราะเป็นแผนกหนึ่งแห่งมรรคญาณและผลญาณนั้นๆ ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    และเพราะเป็นเช่นกับอัตตา จึงเรียกว่า อตฺตโน ของตน
    พึงรู้ คือพึงทราบพระนิพพานนั้น อธิบายว่า พึงรู้แจ้ง คือพึงทำให้แจ้งด้วยมรรคญาณและผลญาณทั้งหลาย. ด้วยคำนั้น ทรงแสดงถึงความที่พระอริยเจ้าทั้งหลายมีจิตน้อมไปในพระนิพพาน.
    จริงอยู่ พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมอยู่ แม้ในเวลาที่อธิจิตเป็นไป ก็อยู่โดยภาวะที่น้อมโน้มโอนไปในพระนิพพานโดยส่วนเดียวเท่านั้น. ก็ในที่นี้ สติเป็นไปใน<WBR>กาย<WBR>ปรากฏ<WBR>แก่<WBR>ภิกษุ<WBR>ใด ภิกษุ<WBR>นั้นสำรวม<WBR>แล้วในผัสสายตนะ ๖ ต่อแต่นั้น ก็มีจิตตั้งมั่นเนืองๆ พึงรู้พระนิพพานของตน ด้วยการกระทำให้ประจักษ์แก่ตน พึงทราบการเชื่อมบทแห่งคาถาอย่างนี้ด้วยประการฉะนี้.

    ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=77


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2015
  4. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
  5. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
    มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <CENTER></CENTER><CENTER>๙. พรหมนิมันตนิกสูตร</CENTER><CENTER>ว่าด้วยพกพรหมมีทิฏฐิอันลามก</CENTER>
    </PRE>

    นิพพานอันผู้บรรลุพึงรู้แจ้งได้ เป็นอนิทัสสนะ (ไม่เห็นได้ด้วยจักษุวิญญาณ) เป็นอนันตะ (ไม่มีที่สุด หรือ หายไปจากความเกิดขึ้นและ
    ความเสื่อม) มีรัศมีในที่ทั้งปวง




    ที่มา
    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ บรรทัดที่ ๑๐๑๓๔ - ๑๐๒๘๖. หน้าที่ ๔๑๗ - ๔๒๓.
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=10134&Z=10286&pagebreak=0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  6. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
    ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>




    <CENTER></CENTER><CENTER>มหารถวรรคที่ ๕</CENTER><CENTER>มัณฑุกเทวปุตตวิมาน</CENTER><CENTER>ว่าด้วยบุญกรรมของมัณฑุกเทพบุตร</CENTER>พระผู้มีพระภาคตรัสถามมัณฑุกเทพบุตรว่า [๕๑] ใครมีวรรณะงามยิ่งนัก รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์และยศ ยังทิศทั้งปวงให้สว่าง ไสว ไหว้เท้าทั้งสองของเราอยู่? มัณฑุกเทพบุตรกราบทูลว่า เมื่อชาติก่อน ข้าพระองค์เป็นกบเที่ยวหาอาหารอยู่ในน้ำ เมื่อข้าพระองค์ กำลังฟังธรรมของพระองค์อยู่ คนเลี้ยงโคได้ฆ่าข้าพระองค์ ขอพระองค์ ทรงดูฤทธิ์ ยศ อานุภาพ ผิวพรรณและความรุ่งเรืองของข้าพระองค์ ผู้มีจิตเลื่อมใสครู่หนึ่งเท่านั้น ข้าแต่พระโคดม ก็ผู้ใดได้ฟังธรรมของ พระองค์สิ้นกาลนาน ผู้นั้นพึงได้บรรลุนิพพานอันเป็นฐานะไม่หวั่นไหว เป็นสถานที่ที่ไปแล้วไม่เศร้าโศกเป็นแน่.<CENTER>จบมัณฑุกเทวปุตตวิมานที่ ๑.</CENTER>






    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  7. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย จริยาปิฎก</BIG> <CENTER class=D>สโมธานกถา</CENTER></CENTER>
    หน้าต่างที่ ๒ / ๗.

    <CENTER>ปกิณณกกถา </CENTER>




    อีกอย่างหนึ่ง บารมีย่อมผูกสัตว์อื่นไว้ในตนด้วยการประกอบคุณวิเศษ.
    หรือบารมีย่อมขัดเกลาสัตว์อื่นให้หมดจดจากมลทินคือกิเลส.
    หรือบารมีย่อมถึงนิพพานอันประเสริฐที่สุดด้วยคุณวิเศษ.
    หรือบารมีย่อมกำหนดรู้โลกอื่นดุจรู้โลกนี้ด้วยคุณวิเศษคือญาณอันเป็นการกำหนดแล้ว.
    หรือบารมีย่อมตักตวงคุณมีศีลเป็นต้นอื่นไว้ในสันดานของตนเป็นอย่างยิ่ง.
    หรือบารมีย่อมทำลายปฏิปักษ์อื่นจากธรรมกาย อันเป็นอัตตา
    หรือหมู่โจรคือกิเลสอันทำความพินาศแก่ตนนั้น เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่าปรมะ.
    สัตว์ใดประกอบด้วยปรมะดังกล่าวมานี้ สัตว์นั้นชื่อว่ามหาสัตว์.
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.3&i=36&p=2
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.3&i=36&p=2

    ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33&i=244
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  8. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค </BIG><CENTER class=D>มหาปรินิพพานสูตร</CENTER></CENTER>
    หน้าต่างที่ ๕ / ๕.



    <CENTER>ตถาคตปจฺฉิมวาจาวณฺณนา </CENTER>



    แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ธรรมสามี เสด็จเข้าพระนครคือปรินิพพาน
    เสด็จเข้าสมาบัติทั้งหมดนับได้ยี่สิบสี่แสนโกฏิ แล้วเข้าเสวยสุขในสมาบัติทั้งหมด เหมือนคนไปต่างประเทศ กอดคนที่เป็นญาติฉะนั้น.
    ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-

    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=67&p=5
    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=67
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y9296500-37.jpg
      Y9296500-37.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.7 KB
      เปิดดู:
      157
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  9. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๒. สีหาสนิวรรค</BIG> <CENTER class=D>๘. รัฐปาลเถราปทาน (๑๘)</CENTER></CENTER>




    <CENTER>๑๘. อรรถกถารัฐปาลเถราปทาน </CENTER>

    โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระเสด็จอุบัติในโลก ทรงประกาศธรรมจักรอันประเสริฐ ยังสรรพสัตว์ให้ถึงภูมิอันเป็นแดนเกษมกล่าวคือนิพพานมหานคร.



    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=20

    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=20
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  10. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค สฬายตนสังยุตต์ อาสีวิสวรรคที่ ๔</BIG> <CENTER class=D>๘. กึสุกสูตร</CENTER></CENTER>



    <CENTER>อรรถกถากิงสุกสูตรที่ ๘ </CENTER>

    ในข้ออุปมานั้น พระนครคือพระนิพพาน
    พึงเห็นว่าเหมือนมหานคร.

    พระสัมมา<WBR>สัม<WBR>พุทธ<WBR>เจ้า เหมือนแพทย์บัณฑิต
    สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนสุนักขัตตะ คำว่า ภิสโก (อายุรแพทย์) สลฺลถตฺโต (ศัลยแพทย์) นี้เป็นชื่อของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.



    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=18&i=339
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  11. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา วีสตินิบาต</BIG> <CENTER class=D>๔. รัฏฐปาลเถรคาถา</CENTER></CENTER>



    <CENTER>อรรถกถารัฐปาลเถรคาถาที่ ๔ </CENTER>

    ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าปทุมุตตระ เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
    ทรงประกาศ<WBR>พระ<WBR>ธรรม<WBR>จักร<WBR>อัน<WBR>บวร ยังเวไนยสัตว์ให้ลุถึงภูมิอันเกษม กล่าวคือมหานครนิพพาน.
    ลำดับนั้น กุลบุตรนั้นรู้เดียงสาโดยลำดับ วันหนึ่งไปวิหารกับพวกอุบาสก เห็นพระศาสดากำลังทรงแสดงธรรม มีจิตเลื่อมใส จึงนั่งลง ณ ท้ายบริษัท.


    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=388

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  12. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย พุทธวงศ์</BIG> <CENTER class=D>๔. สุมนพุทธวงศ์</CENTER></CENTER>
    <CENTER> พรรณนาวงศ์พระสุมนพุทธเจ้าที่ ๔ </CENTER>

    อีกนัยหนึ่ง บรรดานครอันประเสริฐที่สำเร็จด้วยสัทธรรม นิพพานนครสูงสุด จึงชื่อว่าสัทธัมมปุรวรุตตมะนคร สูงสุดในบรรดาสัทธรรมนครอันประเสริฐ

    ในอรรถวิกัปต้น พึงเห็นคำว่า นคร ว่าเป็นไวพจน์ของพระนิพพานนั้นเท่านั้น.

    พระนิพพานเป็นที่ตั้งแห่งพระอริยบุคคลทั้งหลายที่เป็นพระเสกขะและอเสกขะ
    ผู้แทงตลอดสภาวธรรมแล้ว
    ท่านเรียกว่านครเพราะอรรถว่าเป็นโคจรและเป็นที่อยู่
    ก็ในสัทธรรมนครอันประเสริฐนั้น
    พระศาสดาพระองค์นั้นทรงสร้างถนนใหญ่ที่สำเร็จด้วยสติปัฏฐาน อันไม่ขาด ไม่คด แต่ตรง ทั้งหนาทั้งกว้างไว้.
    ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
    พระองค์ทรงสร้างถนนใหญ่ อันไม่ขาดไม่คด แต่ตรง
    ที่หนาและกว้าง คือสติปัฏฐานอันประเสริฐสูงสุด.


    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=33.2&i=5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2015
  13. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔
    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    <CENTER></CENTER><CENTER>รัฐปาลเถราปทานที่ ๘ (๑๘)</CENTER><CENTER>ว่าด้วยผลแห่งการถวายช้าง</CENTER>


    </PRE>



    เรามีความเพียรอันนำธุระไป
    อันนำมาซึ่งธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะ
    เราทรงไว้ซึ่งกายอันมีในที่สุดในศาสนา
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
    และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
    ฉะนี้แล.
    ทราบว่า ท่านพระรัฐปาลเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.



    <CENTER>จบ รัฐปาลเถราปทาน.


    </CENTER><CENTER class=l>-----------------------------------------------------
    </CENTER>

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  14. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา มหากัณหชาดก</BIG> <CENTER class=D>ว่าด้วย คราวที่สุนัขดำกินคน</CENTER></CENTER>


    ในอดีตกาล ครั้งพระศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเจ้าอุสสินนรราชเสวยราชสมบัติ<WBR>อยู่ในพระนครพาราณสี เมื่อพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าเปลื้องมหาชนให้พ้นจากเครื่องผูก<WBR>พัน<WBR>คือกิเลส ด้วยจตุราริยสัจเทศนา ทำพระนครคือพระนิพพานให้เต็มแล้วเสด็จปรินิพพาน

    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=1661
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  15. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>มิลินทปัญหา</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <CENTER></CENTER><CENTER>ปรินิพพานปัญหา ที่ ๔</CENTER></PRE>


    สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี จึงมีพระราชโองการซักว่า ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็น
    เจ้า ถ้าแม้นว่าพระอรหันต์ขีณาสพเจ้ามีทุกข์เกิดในกายอยู่กระนี้ เหตุไรจึงจะได้ไปนิพพาน
    พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะพิตรพระราชสมภาร ท่านเสวยทุกข์ก็
    แต่ทุกข์สำหรับกายอันเป็นเชื้อสายอุปทาน ท่านมีราคะปราศจากสันดาน หาเหตุปัจจัยที่จะ
    แต่งไปมิได้ ท่านก็คงจะไปนิพพานโดยฤดูกาลอันสมควร แล้วท่านก็ย่างเข้าสู่พระนครเมืองแก้ว
    อันกล่าวแล้วคือพระปถโมกขมหานครนิพพาน อันดับซึ่งชาติกันดาร ชรากันดาร พยาธิกันดาร
    มรณกันดาร เป็นที่สุขเกษมเอกันตะบรมสุขปราศจากทุกข์ในสงสาร สมด้วยถ้อยคำพระธรรม-
    เสนาบดีสารีบุตรพุทธอัครสาวกวิเศษนิเทศไว้เป็นคาถาดังนี้
    นาภินนฺทามิ มรณํ นาภินนฺทามิ ชีวิตํ
    กาลญฺจ ปฏิกงฺขามิ เวทนํ ภตฺตการโก ยถา ฯ
    นาภินนฺทามิ มรณํ นาภินนฺทามิ ชีวิตํ
    กาลญฺจ ปฏิกงฺขามิ สมฺปชาโน ปติสฺสโตติ ฯ

    กระแสความในพระคาถานี้ว่า อหํ อันว่าข้า นาภินนฺทามิ มิได้ยินดีบัดนี้ มรณํ ซึ่ง
    ความตาย อหํ อันว่าข้า นาภินนฺทามิ มิได้ยินดีบัดนี้ ชีวิตํ ซึ่งจะมีชีวิตเป็นไป ภตฺตการโก
    เปรียบดังพ่อครัวเชิญเครื่องเสวยคอยท่าสมเด็จบรมกษัตริย์จะเสวยเมื่อใด ก็จะยกเครื่องไป
    ถวายเมื่อนั้น ยถา มีครุวนาฉันใดเล่า อหํ ตัวข้าพเจ้านี้ ปติสฺสโต มีตัณหาปราศจากมี
    กิเลสราคะอันขาดจากสันดาน สมฺปชาโน มีสติรู้รอบคอบเป็นอันดี ข้าพเจ้าจะถึงแก่มรณะก็ไม่
    ยินดี จะมีชีวิตเป็นตัวเป็นตนอยู่ก็ไม่ยินดี กาลญฺจ ปฏิกงฺขามิ ข้าพเจ้านี้ปรารถนา ซึ่งกาล
    อันควรที่จะเข้าสู่พระนิพพาน เปรียบปานดุจพ่อครัวอันคอยกาลอันควรนั้น สิ้นคำพระธรรม
    เสนาบดีสารีบุตรเท่านี้ เหตุดังนั้นที่ท่านจะไม่เกิดอีกนั้น ยังมีชีวิตอยู่จะเสวยทุกข์สิ่งเดียวแต่
    ทุกข์ในกาย ทุกข์ภายในเจตสิกไม่มี ท่านคอยกาลสมควรของท่านแล้ว ท่านก็เข้าสู่พระนิพ
    พานนั้นแหละ ขอถวายพระพร
    สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี ได้ฟังพระนาคเสนวิสัชนาฉะนี้ ก็มีน้ำพระทัย
    หรรษาทรงพระโสมนัส มีพระโองการตรัสว่า กลฺโลสิ พระผู้เป็นเจ้ากล่าววิสัชนานี้สมควรนี่กระไร
    สิ้นวิมติสงสัยของโยม ในกาลบัดนี้

    <CENTER>ปรินิพพานปัญหา คำรบ ๔ จบเท่านี้
    </CENTER>

    เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๗๑ - ๗๒.
    http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=23
    (จากมิลินทปัญหา)​
     
  16. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>มิลินทปัญหา</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <CENTER>ทวินนัง ปิณฑปาตานัง มหัปผลภาวปัญหา ที่ ๔</CENTER>
    </PRE>



    อนึ่ง มหาราช ขอถวายพระพร จงทรงฟังซึ่งอุปมา เปรียบดุจหนึ่งว่าบุรุษเป็นกุจฉิ-
    โรคาพาธ ให้มักเจ็บท้องอยู่ก่อนแล้วเป็นกรกติเคยมา อญฺญ อปกฺกํ ครั้นว่าบริโภคโภชนาหาร
    อันสุกๆ ดิบๆ บูดแฉะเข้าไป ก็เสาะท้องให้ลงหนักไป เพราะท้องไม่ดีอยู่แล้วแต่ก่อนมา ยถา
    มีครุวนาฉันใด มหาราช ขอถวายพระพร สมเด็จพระบรมโลกุตตมาจารย์จวนจะสิ้นพระชนม์
    สังขาร กำหนดถึงแปดสิบพรรษา ชราทุพพลภาพจวนจะเสด็จสู่เมืองแก้วคือนิพพานอันเลิศอยู่
    แล้ว ครั้นว่าพระโรคบังเกิดกำเริบแรงขึ้นด้วยชราหากำลังบ่มิได้นั้น จะโทษเอาอาหารบิณฑบาต
    ของนายจุนท์นั้นหาควรไม่ น สกฺกา อาตมาไม่อาจจะว่า จังหันบิณฑบาตของนายจุนท์นี้เป็นโทษ
    ขอถวายพระพร
    เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๒๗๙ - ๒๘๒.
    http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=118
    (จากมิลินทปัญหา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  17. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>มิลินทปัญหา</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <CENTER>วัสสสตปัญหา ที่ ๒</CENTER></PRE>
    ราชา สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการว่า ภนฺเต ข้าแต่พระ
    ผู้เป็นเจ้าผู้ปรีชา ตุมฺเห ภณถ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถ้อยคำดังนี้ว่า บุคคลผู้ใดทำแต่งบาปอกุศล
    จนอายุได้ร้อยปี เมื่อความมรณะมาถึงตัวจะใกล้ตายนั้น มีสติระลึกถึงพระพุทธคุณ ครั้งเดียว
    เท่านั้น ครั้นกระทำกาลกิริยาตาย ได้บ่ายหน้าไปบังเกิดในสวรรค์เทวโลก ตกว่าคำนี้ น สทฺท-
    หามิ
    โยมจะเชื่อหามิได้ นี่ข้อหนึ่ง ยังอีกข้อหนึ่งเล่า พระผู้เป็นเจ้าว่า บุคคลผู้ใดกระทำปาณา-
    ติบาตไว้แต่ครั้งเดียว ก็ไปสู่นรก ตกว่าคำๆ นี้โยมจะได้เชื่อหามิได้
    พระนาคเสนจึงแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร พระองค์
    ทรงสันนิษฐานเข้าพระทัยอย่างไร จึงถามฉะนี้ อันบุคคลกระทำการปาณาติบาตกรรมครั้งเดียว
    มิได้กระทำการกุศลไว้ ครั้นกระทำกาลกิริยาตายบ่ายหน้าไปเกิดในนรก เปรียบดุจก้อนศิลาอัน
    น้อยบุคคลใส่นาวา นาวาก็พาศิลาลอยอยู่เหนือหลังน้ำได้ และศิลานั้นถ้าบุคคลยกหยิบวางลง
    <!--001-->ในคงคา ถึงว่าศิลานั้นน้อยก็มิอาจจะลอยอยู่เหนือหลังน้ำได้ หรือว่าศิลาน้อยนั้นจะลอยอยู่ได้
    นะบพิตรพระราชสมภาร
    พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชองการตรัสว่า น หิ ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า
    ศิลาน้อยตกน้ำจะลอยอยู่หามิได้
    พระนาคเสนจึงซักถามต่อไปว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ถ้าหากว่า
    เอาศิลานับด้วยร้อยเล่มเกวียนบรรทุกไว้ในสำเภาอันใหญ่จะพากันลอยอยู่ได้หรือไม่ นะ
    บพิตรพระราชสมภาร
    พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทารธิบดี มีพระราชโองการรับว่า อาม ภนฺเต กระนั้นซิพระผู้เป็น
    เจ้า อาจจะพากันลอยอยู่ได้


    พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร
    ศิลานั้นปานดุจอกุศลกรรม นาวานั้นดุจกุศลกรรม ถ้ากุศลกรรมมิได้รับรองอยู่แล้ว ก็มิอาจจะ
    พาลอยไปได้ ก็จะจมอยู่ในอบายทั้ง ๔ ถ้ากุศลกรรมรับรองอยู่แล้วก็จะพาลอยไปได้ เหตุดังนี้
    นรชาติมีแต่ว่าจะมาจมลงในสมุทรสาคร เหตุดังนั้นท่านนักปราชญ์แต่ก่อน จึงวิดซึ่งนาวาอันกล่าว
    คืออาตมา ให้บางเบาจากอกุศลมิให้เหลือเศษ เข้าสู่ศิเวศมหานครเมืองแก้วอันเกษมศานต์
    คืออมตมหานิพพาน ขอถวายพระพร
    สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ได้ทรงฟังพระนาคเสนองค์พระอรหันต์วิสัชนาแก้ไข
    มีน้ำพระทัยโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควร

    <CENTER>วัสสสตปัญหา คำรบ ๒ จบเท่านี้
    </CENTER>

    <CENTER></CENTER>

    เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๑๔๙ - ๑๕๐.
    http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=75
     
  18. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
    ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" vspace="0" hspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>





    <CENTER></CENTER><CENTER>คาถาธรรมบท มลวรรคที่ ๑๘</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>[๒๘] บัดนี้ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง อนึ่ง แม้บุรุษของพระยายมก็ ปรากฏแก่ท่านแล้ว ท่านตั้งอยู่ในปากแห่งความเสื่อม อนึ่ง เสบียงเดินทางของท่านก็ยังไม่มี ท่านจงทำที่พึ่งแก่ตน จงรีบ พยายาม จงเป็นบัณฑิต </CENTER><CENTER>ท่านเป็นผู้มีมลทินอันขจัดแล้ว ไม่มีกิเลสเครื่องยียวนจัก ถึง อริยภูมิ อันเป็น ทิพย์</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๘๙๕ - ๙๔๕. หน้าที่ ๓๙ - ๔๑.http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=895&Z=945&pagebreak=0</CENTER><CENTER></CENTER>






    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2015
  19. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
    ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
    </CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" vspace="0" hspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <CENTER></CENTER></PRE>
    <CENTER>คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔</CENTER></PRE>
    [๑๔] ใครจักรู้แจ้งแผ่นดินนี้ ใครจักรู้แจ้งยมโลกและมนุษยโลกนี้</PRE> พร้อมกับเทวโลก ใครจักเลือกสรรบทธรรมที่เราแสดงดีแล้ว ดุจนายมาลาการผู้ฉลาด เลือกสรรดอกไม้ ฉะนั้น พระเสขะ จักรู้แจ้งแผ่นดิน พระเสขะจักรู้แจ้งยมโลกและมนุษยโลกนี้ พร้อมกับเทวโลก พระเสขะจักเลือกสรรบทธรรมที่เรา แสดงดีแล้วดุจนายมาลาการผู้ฉลาดเลือกสรรดอกไม้ ฉะนั้น ภิกษุทราบกายนี้ว่า เปรียบด้วยฟองน้ำ ตรัสรู้พร้อมเฉพาะ กายนี้ว่ามีพยับแดดเป็นธรรม ตัดดอกไม้อันเป็นประธาน ของมารแล้ว พึงไปสู่ที่ที่มัจจุราชไม่เห็น


    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๓๙๕ - ๔๓๓. หน้าที่ ๑๘ - ๑๙.
    http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=395&Z=433&pagebreak=0
     
  20. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย สุตตนิบาต อุรควรรค</BIG> <CENTER class=D>ธนิยสูตร</CENTER></CENTER>

    <CENTER>อรรถกถาธนิยสูตร </CENTER>

    คำว่า สุคเต ได้แก่ ในสำนักของพระสุคต. ด้วยว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านเรียกว่า สุคตะ เพราะพระองค์เสด็จไปด้วยดี ไม่ถึงที่สุด ๒ อย่าง (คือกามสุขัลลิกานุโยคและอัตตกิลมถานุโยค) เพราะพระองค์ทรงประกอบด้วยการบรรลุถึงอริยมรรคอันงาม
    และเพราะพระองค์ทรงบรรลุถึงสถานที่กล่าวคือพระนิพพานอันดีงาม.


    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=295
     

แชร์หน้านี้

Loading...