เรื่องของ วัตถุมงคล ... คิดให้ดีๆ ... คิดแบบพุทธะ

คล้องวัตถุมงคลกันไปทำไม ? ...<O</O
<O</O​

วุ่นวาย ? ... ยึดมั่นถือมั่น ? ...<O</O
<O</O​

หาเรื่องเปลืองตังค์ ... ทำตัวเป็นนักเลง ?<O</O
<O</O​

งมงายไร้สาระ ? <O</O
<O</O​

ไม่ใช่ทางของพระพุทธเจ้า ?<O</O​

<O</O

หากินกับพระเครื่อง เอาพระพุทธคุณบังหน้า ... ? ...
<O</O​

<O</O
<O</O

... ท่านผู้อ่านทุกคนเห็นด้วยกับที่ผมเขียนข้างบนไหม๊ครับ ...<O</O​

<O</O​

<O</O


เมื่อหลายปีก่อนโน้น ...<O</O
<O</O

ผมได้เคยฟังคำพูดจากท่านผู้มีความรู้ ท่านหนึ่ง .ท่านเล่าให้ฟังว่า<O</O
<O</O

ท่านไปร้านขายยาร้านหนึ่ง ( จังหวัดภาคเหนือ )แล้วก็เลือกซื้อยามาทานแก้เจ็บคออยู่ . โดยได้วางพวงกุญแจรถที่มีเครื่องรางติดอยู่ด้วย ไว้บนเคาน์เตอร์ร้านยา<O</O
<O</O

เจ้าของร้านยาซึ่งเป็นผู้หญิงก็มองเห็นเครื่องรางนั้นแล้วถามลูกค้าท่านชายท่านนี้ ว่า ...<O</O
<O</O

คุณพกพาเครื่องรางด้วยเหรอ ...
<O</O
<O</O
ทำไมต้องพกล่ะ ...
<O</O
<O</O
คุณเชื่อรึ ว่ามันจะช่วยคุณได้ตามที่คุณต้องการ ...
<O</O
<O</O
.......
<O</O
<O</O
ลูกค้าชายท่านนี้จึงตอบไปว่า .<O</O
<O</O

- ผมเชื่อครับ พกพาแล้วสบายใจดีมีความมั่นใจในตัวเองและการทำงานดีขึ้นด้วย ทำอะไรๆก็สำเร็จไปได้ด้วยดี<O</O
<O</O

ฯ จริงเร๊อะเครื่องรางตัวแค่นี้ มันจะช่วยอะไรคุณได้ ..ตั้งแต่คุณเอามาวางตรงหน้าฉันเนี่ยฉันก็เห็นมันนอนนิ่งอยู่ยังงั้นแหละไม่เห็นมันจะเดินได้ พูดได้ ช่วยทำมาหากินได้เลยเนี่ย
<O</O
<O</O
- ก็ ... พกแล้ว มันก็สบายใจดีครับ
<O</O
<O</O
ฯ ฉันว่า ... มันเป็นเรื่องของกำลังใจมากกว่านะคุณ
<O</O
เราเป็นคนนะ มีมือมีเท้า มีหัวสมอง มีความคิด ..จะไปพึ่งพาอะไรกับวัตถุที่มันไม่มีชีวิต .. แม้แต่สมองคิด มันยังไม่มีเลยคุ๊ณมันจะมาช่วยอะไรคุณได้<O</O
<O</O

- ก็ ... บูชาเอาไว้งั้นล่ะครับ ถือว่าช่วยๆวัดเขาไปพระสงฆ์จะได้นำเงินเล็กๆน้อยของเราไปพัฒนาวัดวาอาราม<O</O
<O</O

ฯ นี่ไง .. ก็เพราะคนไทยส่วนใหญ่น่ะ ชอบคิดกันอย่างนี้ไงล่ะนึงได้เป็นยังงี้<O</O
พระพุทธศาสนาจึงไม่เจริญซักที
<O</O
โลกเขาพัฒนากันไปถึงไหนแล้วยังจะมางมงายกับวัตถุที่ไม่มีหัวสมองไม่มีความคิดอ่านกันอีกรึ
<O</O
ถ้าคุณอยากขับขี่ปลอดภัย ก็ใจเย็นๆซิ อย่าขับเร็ว ..มองซ้ายมองขวาซักหน่อย
<O</O
ถ้าคุณอยากค้าขายดี ก็ต้องพูดจาดี สุภาพอ่อนน้อมอย่าขายแพงเกินไป<O</O
ถ้าคุณอยากร่ำรวย ก็ให้เก็บหอมรอบริบ อย่าสุรุ่ยสุร่าย ..รู้จักใช้เงินไปในทางที่สมควร .. ไม่ใช้เอาไปซื้อของหลอกเด็ก เอามาพกพานึกว่าจะช่วยให้มีโชคมีลาภได้ .. งมงายทั้งนั้น<O</O
<O</O

- ก็ ... มันก็ก็ไม่เชิงงมงายหลอกครับพกแล้วก็สบายใจดี<O</O
<O</O

ฯ นั่นไง ... มันก็ยังงี้แหละ<O</O
เอาความสบายใจมาเป็นข้ออ้างเสียเงินเสียทองไปกับของไร้สาระไม่รู้จักใช้ความคิดอ่าน ไม่พินิจพิจารณาแบพุทธะ
<O</O
<O</O
พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร .. ท่านสอนไม่ให้เรางมงาย<O</O
<O</O

ท่านสอนให้เรามีปัญญาอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ... อย่าเชื่อเพราะว่าพระสงฆ์องค์ที่ปลุกเสกนั้นท่านเป็นพระดี พระดังท่านเสกได้ขลัง<O</O
<O</O

วัตถุมันก็คือวัตถุเหล็กมันก็คือเหล็กวันยันค่ำแหละคุ๊ณ<O</O
<O</O

- เอ่ออ ... มันก็จริงอยู่นะครับ<O</O
<O</O

ฯ ช่ายยย ... นี่แสดงว่า คุณเริ่มมีปัญญาแล้ว<O</O
<O</O

งั้นฉันจะอธิบายให้คุณฟังนะ<O</O
<O</O

คุณเคยเข้าเวบไซด์ของท่านพระอาจารย์..... ที่วัด..... นี้ไหม๊<O</O
<O</O

- เอ่ออ ... ไม่เคยเลยครับได้ยินแต่ชื่อท่านไม่เคยไปวัดท่านด้วย<O</O
<O</O

ฯ ท่านสอนดีมากเลย<O</O
<O</O

ท่านสอนไม่ให้ยึดติดในวัตถุมงคล พระเครื่อง ฯลฯ
มันเป็นอุปาทานทั้งนั้น<O</O
ลูกศิษย์ลูกหาของท่านน่ะ ไม่มีการบูชาวัตถุมงคลเลย<O</O
ท่านสอนกันเฉพาะแก่นแท้ทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น<O</O
ไม่เอาของนอกพระพุทธสาสนามาหลอกขายกินกันหร๊อก<O</O
<O</O

- ... เหรอครับ ...
<O</O
<O</O
ฯ แล้วก็คุณเคยไปวัด.... ของท่าน....ไหม๊<O</O
มีแต่ชนชั้นระดับปัญญาชนทั้งนั้น<O</O
พระในวัดก็มีแต่ระดับนักธรรมหรือเปรียญ ...ศึกษาพุทธกันแบบปัญญาชน<O</O
ไม่มีวัตถุมงคลมาหลอกกัน<O</O
<O</O

ระวังนะคุณ ..<O</O
<O</O

ใจของเรานั่นแหละสำคัญที่สุด อย่าให้ใครเขาหลอกเราได้<O</O
<O</O

เราต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ ว่า ... เราทำได้ ... เราทำได้<O</O
<O</O

ท่องเอาไว้ในใจเสมอๆอย่าคิดไปพึงพาอะไรอย่างอื่น<O</O
<O</O

นะ ... จำไว้นะ .<O</O
<O</O

- ... ครับ ๆ ๆ ... ขอบคุณมากๆเลยครับที่กรุณาแนะนำ<O</O
<O</O

ฯ อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะชาวพุทธเหมือนกันก็อยากจะแนะนำธรรมะให้ปฏิบัติกัน
<O</O
<O</O
..... ..... .......<O</O
<O</O

- เอ่อ ... คุณพี่กำลังหาอะไรอยู่เหรอครับ
<O</O
<O</O

ฯ อ๋อ .. ฉันกำลังหามีดอยู่น่ะ
<O</O
<O</O
- จะเอาไปทำอะไรเหรอครับ<O</O
<O</O

ฯ ก็กะว่าจะทานมะม่วงซักหน่อย . พอดีว่า เมื่อกลางวันนี่แฟนพี่เค้าซื้อมะม่วงมาฝากก็เลยจะปลอกทานซักลูกสองลูก
<O</O
<O</O
- อ้าว ... แล้วทำไมต้องใช้มีดด้วยล่ะครับ<O</O
<O</O

ฯ หือ .. ก็ต้องมีดซิน้องเราจะกินมะม่วงนี่นา<O</O
เราเองปลอกไม่ได้ก็ต้องใช้มีดซิ<O</O
เอ้อ ... น้องนี่ถามแปลกๆ<O</O
<O</O

- ก็ คุณพี่ก็ท่องไว้ในใจซิครับว่า ...<O</O
" ... เราทำได้ ... เราทำได้ ... อย่าไปพึ่งพาวัตถุที่ไม่มีหัวสมอง ... เราเป็นคน ... เราทำได้ ... เราทำได้ ..."<O</O
<O</O

..... ..... ..... .... <O</O
<O</O

ฯ เอ่ออ.. อื๋อ..อะไรนะ<O</O
<O</O

- ก็หมายความว่าอย่าพึ่งพามีดซิครับพี่ ... เอาปากแทะมันเลย<O</O
ไม่เห็นต้องใช้มีด<O</O
มีดมันก็แค่เหล็กธรรมดาๆนี่แหละครับพี่มันจะเก่งอะไรไปกว่าเราซึ่งเป็นคนมีหัวสมอง ... ใช่ไหม๊พี่ ... แทะเลยเพ่<O</O
ไม่ต้องอายผมหรอก .. กันเอง ..นี่เห็นว่าเป็นชาวพุทธเหมือนกันนะเนี่ยจึงแนะนำให้รู้จักนำธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้บ้าง<O</O
... พึ่งตัวเองพี่ ...<O</O
<O</O

ฯ เอ่ออ ... อะ ๆ ๆ .. อะไรของเธอเนี่ยเธอหมายความว่าไง<O</O
<O</O

- ก็ความหมายตรงๆนี่แหละครับพี่
<O</O
มีดมันก็แค่เหล็กเราเป็นคน จะไปพึ่งพามันทำไมกัน .. ใช่ไหม๊
<O</O
มั่นใจหน่อยเด่ะเพ่ ... เราต้องมีปัญญา เราเป็นพุทธะ ...
<O</O
... แทะเด่ะ ...<O</O
<O</O


( แล้วลูกค้าคนนั้น ก็เดินออกมาจากร้าน โดยไม่ได้ซื้อยาอะไรเลย )
<O</O
<O</O

.......... .......... ......... ........<O</O​

<O</O

" ปัจจัตตัง ... รู้ได้เฉพาะตน "<O</O​

<O</O​

... ความงมงาย ...​

คือการยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตนเอง<O</O​

ว่า ถูกที่สุด ถูกต้องกว่าใคร ฉลาดกว่าใครมีปัญญาเหนือใครๆ<O</O​

... โดยไม่ได้เหลียวหันไปมองเหตุผลของคนอื่นเขาบ้าง ว่า ...<O</O​

เขาอาจจะมีเหตุผลที่ต่างมุมมองออกไปอีกก็เป็นได้<O</O​

โดยที่เรา ...ยังไม่เข้าใจ<O</O​

<O</O​

......... ......... ......... ..........​

วัตถุเหล็กน่ะ มันไม่ขลัง ไมศักดิ์สิทธิ์อะไรหรอก ... ผมก็รู้ครับ​

<O</O​

<Oแต่ที่เขาเคารพนับถือน่ะ ... เขาศรัทธาพุทธคุณที่ประจุปลุกเสกเข้าไปต่างหาก ไม่ใช่ศรัทธาเหล็ก</O​

<O</O​

<O</O​

......... ......... ......... ..........​

 

ทุกสิ่งย่อมพึ่งพาซึ่งกันและกัน
แต่ละคนมีระดับความสามารถไม่เท่ากัน เด็กต้องพึ่งผู้ใหญ่
คนที่ระดับจิตยังติดวัตถุอยู่ ติดวัตถุมงคลต่างๆที่เป็นตัวแทนศาสนาย่อมดีกว่าติดอบายมุข
เป็นการถางทางไปสู่ธรรมขั้นสูง

คำว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้น ในทางโลกทำไม่ได้หรอก ต้องพึ่งสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น เช่น เราต้องกินอาหาร จะไม่พึ่งอาหาร กินเนื้อตัวเองหรือ เกิดมาก็ต้องพึ่งนมแม่แล้ว​

มีความหมายในทางธรรมครับคือ เราต้องละกิเลส ไปสู่ทางหลุดพ้นด้วยตัวเอง ไม่มีใครขัดเกลากิเลสให้เราได้ นอกจากตัวเราเอง

 

อ่านแล้วได้ทั้งความรู้ได้สติและอารมณ์ฮาค่ะ
(deejai)

 

อย่างน้อยบทความนี้ก็แก้เครียดได้นะ ขอบคุณครับ

 

ไม่มีใครบังคับใคร พิจารณาดูเองเถิดจะเกิดผล
ส่วนผมมีพระดีบูชา มีชัยดีไปกว่าครึ่ง

 

ติดวัตถุมงคลดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล
ถ้าจิตเกาะวัตถุมงคลคือจิตเป็นกุศลเป็นพุทธานุสสติกัมมัฏฐาน เป็นสังฆานุสสติกัมมัฏฐาน ไปสุคติภูมิได้

 

ชอบจัง หุหุ

 

ชอบครับ มันเข้าท่าดี ย้อนได้สะใจ

 

คลายเครียดดีครับ...แหะๆ

ผมฟังเทศแบบนี้มาหลายที่ ระหว่างปรมัตถ์ กับสมมุติ

แต่ผมแกะสมมุติออกไปไม่ได้สักทีครับ ขอติดสมมุติไปเรื่อยๆน่ะครับ

คือเชื่อในจุดหมายปลายทางเดียวกัน แต่ผมขอแวะข้างทางไปเรื่อยๆก่อนน่ะครับ...แหะๆ

 

ฮาดี เหอๆๆ

ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจของแต่ล่ะคนจริงๆ นะ

 

ก็เนื่องจากว่า โลกมนุษย์ของเรานั้น มีรูปขันธ์เป็นเครื่องสมมติให้จิตวิญญาณมาครองไว้ จึงจำเป็นต้องมีสิ่งสมมติอื่นๆมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย

วัตถุมงคล ก็เป็นสิ่งสมมติอีกอย่างหนึ่ง ที่คนเรา(ที่กำลังใจยังไม่เข้มแข็ง)ต้องมีไว้พกพาติดตัว เพื่อเป็นสิ่งเตือนสติให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงห์ ครูบาอาจารย์ผู้ทรงความดีทั้งหลาย ... ซึ่งนับว่า เป็นตัวช่วยที่ดีมากทีเดียว เพราะทำให้เรา ไผลอสติจนเกินขอบเขตไป

เมื่อจะเผลอไผลไปในทางช่วย ... แต่พอก้มหน้ามา มองเห็นพระในคอเรา ก็อาจพอช่วยให้เราตั้งสติไว้ได้

แต่คนบางคนนั้น "ถือทิฏฐิของตนเอง" จนเกินไป ไม่ยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ของพลังจิตที่ประจุไว้ในวัตถุมงคลซึ่งพระอริยสงฆ์ท่านปลุกเสกไว้ .. แถมยังมาเหยียดหยามดูถูกคนที่คล้องพระเครื่องอีก หาว่า "นับถือของที่ไม่มีชีวิตจิตใจ" ...

... มันก็เลย ต้อง "ย้อนคำพูดของตัวเขาเอง" ไปสอนตัวเขาเองบ้าง
เผื่อว่า เขาอาจจะได้สติขึ้นมาบ้างก็ได้ ว่า ...

... คนเรานั้นต่างกัน ... ทั้งกรรม และ ความคิดอ่าน .. จะให้มาคิดและทำอย่างเดียวกันไปเสียหมดทุกๆคนนั้น ... ไม่ได้

เรื่องนี้ ชาวสมาชิกเวบไซด์พลังจิต ส่วนใหญ่... เข้าใจดีอยู่แล้ว ... เพราะมีการศึกษาธรรมะกันมาอยู่พอสมควร

 

ก็ ถือว่า ... เป็นการสงเคราะห์เขา ครับ ( ถ้าเขาคิดได้ )

แต่ถ้าเขาคิดไม่ออก .. ก็อาจจะเป็นเหตุให้เขาโกรธเราได้เหมือนกันนะ

 

จริงๆเรื่องนี้ยกมาถกเถียงกันมานานมากแล้ว

แต่ขอให้ย้อนไปคิดพิจารณาในมุมกลับบ้าง กล่าวคือ

1. พระคุณเจ้าที่ท่านสร้างวัตถุมงคล หลายท่านเป็นพระอริยบุคคล......จริงหรือไม่

2. แล้วถ้าเป็นจริงดังกล่าว......ทำไม ท่านถึงได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ญาติโยมได้บูชา

3. แล้วถ้าหากว่าวัตถุมงคลเป็นเรื่องงมงาย ดังที่ท่านกล่าวไว้....พระคุณเจ้าที่สร้างวัตถุมงคล เป็นผู้สร้างสิ่งงมงายมากให้ญาติโยม หรือไม่

4. ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลในประเทศไทย มีมากมายนับล้านคน ในทุกระดับ ไม่ว่ายากดีมีจน หรือการศึกษาในระดับใด ตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างไร......บุคคลทั้งหลายเหล่านั้นงมงายหรือไม่

5. บรรพบุรุษของไทยสั่งสมวัตถุมงคลและส่งมอบต่อให้ลูกหลานมาเป็นชั่วอายุคน.....บรรพชนของไทยงมงายมานับศตวรรษแล้ว หรืออย่างไร

ผู้เจริญก็ลองไปพิจารณาดูเอาเองบ้าง นะครับ

 

ชอบครับ...โมทนาสาธุครับ..อ่านแล้วได้สติและอารมณ์ขันดีอ่ะครับ อิอิ....

 

ชอบค่ะ...เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปัจจัตตัง

 

นับถือ .... สุโก้ยสุดยอด


คนเค้านับถือ เค้านับถือ พุทธคุณ ไม่ใช่นับถือเหล็ก