เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 22 กรกฎาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +26,370
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +26,370
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนหายไป ๑ วัน เพราะว่าเมื่อวานมีผู้หวังดีปรารถนาดี ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัด ฟ้องผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ฟ้องนายอำเภอ ฟ้องมาถึงนายกเทศมนตรี ว่าวัดท่าขนุนจัดปฏิบัติธรรม มีคนตั้งสามสี่ร้อย..! จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ที่ใหญ่มาก ซึ่งบางทีคนฟ้องก็ไม่ทราบว่าตัวกระผม/อาตมภาพ อยู่กับท่านนายอำเภอและท่านนายกเทศมนตรี และทั้งสองท่านก็เพิ่งจะมาตรวจวัดไปไม่กี่ชั่วโมง

    สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ รวมทั้งพระ รวมทั้งโยม รวมทั้งหมาอีก ๒๐๐ กว่าตัว ก็ยังไม่ถึง ๓๐๐ อยู่ดี แต่ในส่วนที่เสียเวลาก็คือ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ซึ่งต้องบอกว่าคอยดูแลวัดต่าง ๆ และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ต้องชี้แจงกันนาน

    เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าคนเรากำลังใจดีก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ว่าตัวคนฟ้องนั้นกำลังใจแย่มาก ทนเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ ความจริงจะว่าไปแล้ว หลวงวิจิตรวาทการท่านก็ว่าเอาไว้ถูก ท่านแต่งกลอนไว้ว่า

    "อันที่จริงคนเขาอยากเห็นเราดี.....แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
    จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย.......ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน"


    ตรงจุดนี้..เมื่อเกิดการฟ้องร้องและต้องเสียเวลาไปชี้แจง ก็ทำให้ได้เห็นอย่างชัดเจนอยู่ ๒ ด้านด้วยกัน ด้านแรกก็คือตัวเรา กำลังใจมี รัก โลภ โกรธ หลง เหลืออยู่เท่าไร ? อีกด้านหนึ่งก็คือตัวเขา กำลังใจมี รัก โลภ โกรธ หลง เหลืออยู่เท่าไร ? เมื่อพิจารณาแล้วก็เกิดความสงสารขึ้นมาแทน คือ เรื่องของยศ เรื่องของตำแหน่งมาพร้อมกับภาระงานที่หนักมาก แต่เป็นเรื่องแปลกที่ว่า ท่านทั้งหลายเหล่านี้อยากได้ครับ ได้ไปแล้วก็ทำงานไม่เป็น ลำดับความสำคัญของงานไม่เป็น

    อย่างเช่นว่าระยะนี้ เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ทำอย่างไรที่จะจัดการให้เรื่องนี้จบลงเร็วที่สุด เราก็กลับไปทำเรื่องเหลวไหลอื่นแทน ทั้ง ๆ ที่ทำงานไม่เป็น แต่อยากได้ยศ อยากได้ตำแหน่ง เมื่อเห็นคนอื่นมีทีท่าว่าจะได้ก็เตะสกัด แทงข้างหลัง ทำทุกวิถีทางที่จะให้อีกฝ่ายมัวหมอง

    แต่ขอให้เชื่อกระผม/อาตมภาพเถอะ ต่อให้ตัวกระผม/อาตมภาพมัวหมองไปจริง ๆ อย่างที่เขาทำ ยศและตำแหน่งก็ไปไม่ถึงเขาอยู่ดี กลายเป็นตีงูให้กากิน เพราะความโง่ของตัวเองที่ถูกคนอื่นหลอกใช้..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +26,370
    ในส่วนที่น่าสงสารมากก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง ที่ท่วมหัวอยู่ ทำให้ต้องเสียเวลาไปคิดแผนการต่าง ๆ ขึ้นมา แล้วก็ไม่อาจจะทำให้อาตมภาพกระทบกระเทือนอะไรได้เลย เหมือนกับท่านอาจารย์หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช กล่าวเอาไว้ว่า หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง ภูเขาทองจะไปรู้สึกสะเทือนอะไร มีแต่คนเห็นว่าหมาไม่รู้กาลเทศะ ไม่เจียมตัวเท่านั้น

    ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าศึกษาหลักธรรมของพระพุทธเจ้า จะมีอยู่จุดหนึ่งที่พระองค์ท่านตรัสว่า บุคคลที่ประทุษร้ายบุคคลผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ จะพบกับความวิบัติต่าง ๆ ๑๐ ประการด้วยกัน


    เห็นแล้วน่าสงสาร เอาแค่ช่วงประมาณ ๓๐ ปีที่อาตมภาพอยู่ทองผาภูมิมา หลายท่านที่เคยคิดไม่ดี ทำไม่ดี พูดไม่ดีกับกระผม/อาตมภาพ ประสบความวิบัติไปมากแล้ว บางรายก็ถึงกับเสียชีวิต แล้วช่วงที่เสียชีวิตติดกันหลายศพ คนก็ไปลือกันว่า "อย่าไปทำให้อาจารย์เล็กโกรธ เดี๋ยวแกเล่นไสยศาสตร์ถึงตาย..!" ก็ดี...เขาไปลือกันในแนวนั้น ก็ทำให้กระผม/อาตมภาพ สบายไปในระยะหนึ่ง คือไม่มีใครกล้ามายุ่งด้วย

    แต่ระยะนี้ยศและตำแหน่งที่จะตกลงมา ต้องบอกว่าหอมหวานเกินกว่าที่เขาจะห้ามใจ ก็เลยลืมนึกถึงเรื่องที่เขาลือกันว่า ถ้าอาจารย์เล็กเล่นไสยศาสตร์ คู่แข่งอาจจะถึงตาย

    ความจริงเรื่องพวกนี้ผมก็อยากทำเป็น เผื่อว่าหมั่นไส้ใครจะได้เล่นงานได้..! แต่เสียดายครูบาอาจารย์ท่านไม่เคยสอนไว้ ท่านสอนแต่ให้คิดดี พูดดี ทำดี ท่านบอกว่าเมื่อสั่งสมไปนาน ๆ จากบุญก็กลายเป็นบารมี จากบารมีก็จะเป็นบุญฤทธิ์ ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่คนอื่นเขาคิดร้ายก็ฉิบหายไปเอง..!


    ดังนั้น...เรื่องไม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากกำลังใจที่ต่ำมากของบุคคล ซึ่งเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ต่อให้วัดเราจัดปฏิบัติธรรมแล้วมีคน ๓๐๐ คนจริง ๆ เราก็มีระบบจัดการที่ชัดเจน เพราะระบุเอาไว้แล้วว่า ผู้ที่จะมาอย่างน้อยก็ต้องฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ มาแล้ว ๑ เข็ม หรือมีหนังสือรับรองว่าผ่านการ "สวอป" มาไม่เกิน ๓ วัน

    เมื่อเข้ามาแล้วก็ยังมีการตรวจคัดกรองต่าง ๆ อีก แล้วของเราเองก็ไม่ได้จัดแล้วมีคนมามากมายขนาดนั้น พูดง่าย ๆ ว่าคณะโมทนาบุญสัญจร ถ้าหากว่าจัดรถพาคนมาปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนช่วงนี้ จะได้เต็มรถตู้สักคันก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ? เพราะว่าทุกคนก็กลัวกันหมด ไม่ใช่แต่เขากลัว เราเองก็กลัวเหมือนกัน ก็คือกลัวว่าคนอื่นจะเอาเชื้อมาระบาดใส่พระเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่อยู่ในวัด

    แต่ถ้าหากว่ามีการปฏิบัติธรรมถึง ๓๐๐ คน แล้วการฟ้องร้องของท่านสำเร็จขึ้นมา การขัดขวางการทำความดีของคน ๓๐๐ คนนี่ โทษสาหัสขนาดไหนยังนึกไม่ออก !? แทนที่จะโกรธจึงกลายเป็นสงสารเขาแทน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,533
    ค่าพลัง:
    +26,370
    ถ้าหากว่าประทุษร้ายผู้ที่ไม่ประทุษร้ายตอบ จะบังเกิดความวิบัติ ๑๐ ประการ ชาตินี้คุณก็ไม่ต้องหวังความเจริญก้าวหน้าใด ๆ แล้ว และก็ยังไม่รู้ว่าโทษนี้จะติดตัวไปอีกกี่ชาติ แล้วการที่จะติดตัวไปอีกหลายชาตินั้น ก่อนที่โทษนี้จะไปถึงชาติอื่น ชาตินี้ตายไปแล้วจะต้องรับอะไรบ้าง ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงว่าจะเกิด แต่ก็เกิดขึ้น จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง ว่าทำไมเมื่อวานถึงได้ขาดบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไป

    สำหรับวันนี้อีกสักครู่เราจะมีการเทศน์สอนนาค ซึ่งมีผู้กล้าหาญสมัครบวชเพื่อจำพรรษา ๖ ท่านด้วยกัน ต้องบอกว่ากล้าหาญมาก..! ทำไมถึงพูดเช่นนั้น ? เพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพเอง ฝึกกรรมฐานมาอย่างเต็มที่ ๑๑ ปีเต็ม ๆ อะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรมี อะไรที่ควรฝึกในเรื่องของกรรมฐาน ๔๐ กองและมหาสติปัฎฐานสูตร..ทำหมด แต่ยังมีความกล้าบวชแค่ ๗ วันเท่านั้น เพราะว่าเมื่อหลวงพ่อวัดท่าซุงขอให้บวชให้ท่าน คำถามแรกเลยก็คือ "ต้องการกี่วันครับ ?" ถ้าเยอะก็คือไม่เอา แต่ว่าพวกท่านทั้ง ๖ กล้าเริ่มต้นทีหนึ่ง ๓ เดือน แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง..! ๓ เดือนนี่นานพอที่จะอกแตกตายเลย..!

    โบราณเขาถึงได้บอกว่า ให้บวชก่อนเบียด เพราะว่าเมื่อบวชเข้ามาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยทำได้ตอนเป็นฆราวาส พอมาเป็นพระ ส่วนใหญ่แล้วจะทำไม่ได้อีก เพราะว่าโดนจำกัดด้วยศีลและอภิสมาจาร ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยเปรียบเอาไว้ว่า ชีวิตฆราวาส เหมือนกับเอาเรากับเสือตัวหนึ่งไปปล่อยไว้ในป่าด้วยกัน บางทีเดินทั้งปีไม่เจอเสือตัวนั้นเลย แต่ชีวิตความเป็นพระ เขาเอาเรากับเสือไปยัดไว้ในกรงแคบ ๆ จึงโดนเสือฟัดอยู่ทุกวัน สิ่งที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ โดนตีกรอบด้วยศีลและอภิสมาจาร กลายเป็นแรงกดดันอย่างมหาศาล


    ที่โบราณเขานิยมให้บวชก่อน ก็เพราะว่าถ้าเราสามารถอดทนอดกลั้น จนกระทั่งผ่านพ้นพรรษาไปได้ เขาถือว่ามีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะเป็นผู้นำครอบครัวได้ ถึงได้บอกว่า ต้องบวชก่อนแล้วค่อยไปเบียด เพื่อที่จะฝึกฝนกำลังใจของตนเองให้อดทนอดกลั้่นต่อสิ่งต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในการดำเนินชีวิต

    จึงขออนุโมทนาต่อนาคทั้ง ๖ ท่าน ที่กล้าหาญเข้ามาบวชและบวชเป็นพรรษาด้วย ขณะเดียวกันญาติโยมที่อยากจะร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ ก็ดูเลขบัญชีใต้คลิปนี้ และก็โอนเข้าบัญชีวัดท่าขนุนร่วมเป็นเจ้าภาพได้

    การบวชก็จะมีขึ้นพรุ่งนี้ เวลาประมาณบ่ายโมง เพราะว่าช่วงเช้า หน่วยราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ จะทยอยกันมาเพื่อถวายเทียนพรรษา จึงขอแจ้งกำหนดการคร่าว ๆ ให้กับพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายได้ทราบแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...