เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 16 กรกฎาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,355
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +25,920
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,355
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +25,920
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ในช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เนื่องจากว่าพระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล หรือที่บรรดาพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ เรียกกันแบบคุ้นเคยว่า "หลวงพ่อเจ้าคุณแย้ม" ท่านได้นัดให้พระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ร่วมกันทำสามีจิกรรม ถวายสักการะพระเถระเจ้าคณะปกครองระดับสูงในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔

    โดยปกติแล้วพิธีสามีจิกรรมหรือการถวายสักการะพระเถระในช่วงเข้าพรรษานั้น ก่อนหน้านี้มีไว้สำหรับสัทธิวิหาริกหรืออันเตวาสิก ก็คือลูกศิษย์ที่บวชให้ กับบุคคลที่อยู่อาศัยพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ไปกราบรายงานตัวต่อพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของตนเอง เพื่อที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์จะได้รู้ว่า ปีนี้อยู่ที่ไหน ? อยู่กันกี่รูป ? ใกล้ไกลเท่าไร ? ถ้ามีอะไรจะเรียกหาใช้งาน หรือว่ามีอะไรจะสงเคราะห์กัน ก็จะได้รู้แหล่งรู้ที่ แล้วทำกันได้โดยสะดวก

    ภายหลังเมื่อมีการปกครองคณะสงฆ์ตามลำดับชั้นแล้ว ก็อนุโลมขยายออกมาให้มีการทำพิธีสามีจิกรรมต่อบรรดาเจ้าคณะปกครองด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเรียกกันง่าย ๆ ก็คือเรียกกันว่า "งานทำวัตรพระเถระ"

    เมื่อทำพิธีสามีจิกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางต่อไปยังวัดโพธิ์ลังกา ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อร่วมงานพุทธาภิเษกวัตถุมงคล

    เมื่อไปถึงก็พบว่าตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่ในสายกรรมฐานของหลวงพ่อวัดท่าซุง พระเดชพระคุณพระราชภาวนาพัชรญาณ วิ. (เจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ตลอดจนกระทั่งท่านพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) ไปถึงโดยพร้อมเพรียงกันแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) แห่งวัดโพธิ์ลังกา เจ้าของพื้นที่ ก็เข้ามาร่วมวงเสวนาด้วย

    เมื่อเจ้าภาพได้ส่งรายการวัตถุมงคลมา กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีวัตถุมงคลสมเด็จองค์ปฐมอยู่ด้วย ก็เป็นอันว่างานนี้ตัวใครตัวมัน..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัตถุมงคลสมเด็จองค์ปฐมนั้น ไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ไหน หรือว่าพรหม เทวดา องค์ไหนจะรับเสกให้ ยกเว้นว่าต้องกราบอาราธนาพระองค์ท่านมาเสกด้วยพระองค์เอง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,355
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +25,920
    แต่เมื่อเริ่มพิธีขึ้นมา กระผม/อาตมภาพกราบครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง หรือว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค กราบเรียนว่า "ขอถวายภาระเลยนะครับ งานนี้กระผมจะนั่งดูอย่างเดียว" ปรากฏว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเงื้อไม้เท้าใส่ บอกว่า "เอ็งอย่าหวังว่าจะอู้...! พระท่านสั่งให้ทำอะไรเอ็งก็ทำไป"

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องแล้วแต่พระท่านว่าจะเอาอย่างไรบ้าง ก็เห็นสมเด็จองค์ปฐมเจ้าของงานท่านเสด็จมาแวบหนึ่ง แต่ "แวบหนึ่ง" ของพระองค์ท่านนั้น ถ้าหากว่าเป็นเวลาข้างล่างก็นานทีเดียว

    หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็มอบหมายงานให้กับพระพุทธเจ้ามีนามว่า "ทีปังกร" ดูแลตรงจุดนั้น ซึ่งเมื่อสมเด็จพระพุทธทีปังกรท่านแผ่พระรัศมีลงมา ก็อยากจะบอกว่า "กระจ่างแจ้งสามภพจบสากล" คือเป็นรัศมีสีทองจนกระทั่งกลายเป็นสีขาวสว่างเจิดจ้า ไม่สามารถจะบรรยายได้ว่าสว่างเท่าไร แต่ขอบอกว่ากำลังใจของกระผม/อาตมภาพนั้น โปร่งเบาจนแทบจะเหาะจะบินได้

    เมื่อพระองค์ท่านถอนกำลังกลับ ก็ได้กราบอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด โดยเฉพาะสมเด็จพระพุทธธนเสฏฐปัจเจกพุทธเจ้า ซึ่งต้องบอกว่าพระองค์ท่านเป็นเจ้าของงานวันนี้ คือเจ้าเป็นของรูปหล่องานนี้โดยตรง ช่วยเสกให้อีกวาระหนึ่ง ซึ่งพระองค์ท่านก็ทำให้แบบเสียไม่ได้ เหตุเพราะว่าบารมีพระที่สงเคราะห์ลงมาก็เหลือล้นแล้ว

    นอกจากนั้นก็ยังเห็นหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เดินเข้ามาในบริเวณพิธี จึงเข้าไปกราบท่าน ถามว่า "หลวงพ่อมาทำอะไรครับ ?" ท่านบอกว่า "งานนี้มันจะให้เสกมีดหมอด้วย แกดูไม่ทั่วใช่ไหม ?" กระผม/อาตมภาพก็ยอมรับสารภาพว่า "เห็นแค่ว่ามีสมเด็จองค์ปฐม กระผมก็ไม่ดูรายการอื่นแล้วครับ" เมื่อถามว่ามีดหมออะไร ? หลวงพ่อเดิมท่านบอกว่า "พวกมันจะเอามีดหมอโสฬส แล้วก็อยากให้ข้าทำให้ด้วย"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,355
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +25,920
    กระผม/อาตมภาพจึงกราบเรียนท่านว่า "ถ้ามีดหมอโสฬส สายตรงต้องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าครับ" ท่านบอกว่า "ท่านก็ตามข้ามาอยู่นี่ไง" จึงเห็นหลวงปู่ศุขท่านถือไม้เท้าเดินเข้ามา ได้แต่นั่งมองหลวงปู่ทั้ง ๒ รูปท่านจัดการเกี่ยวกับเรื่องของมีดหมอในลำดับต่อไป

    ท้ายสุดที่โผล่มาก็คือหลวงปู่ผู้เป็นพระเถระชาวทิเบตรูปหนึ่ง รูปร่างผอม แต่ว่าสูงใหญ่มาก ก็คือเป็นคนสูงใหญ่ แต่ว่าผอม เคยพบท่านครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่ไปเที่ยวเมืองจีนกัน คือครั้งที่ไปยังเสฉวนตะวันตก แล้วทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) ได้ไปบูชาประคำมาเส้นหนึ่ง ซึ่งดูแล้วว่าเป็นของ
    เก่าแท้แน่นอน ในราคาที่ค่อนข้างจะสูง นำมาให้กระผม/อาตมภาพเสกซ้ำ แต่เมื่อจะเสก ปรากฏว่าหลวงปู่เจ้าของประคำท่านโผล่มา บอกว่าท่านเป็นพระเถระชาวทิเบตเจ้าของประคำเส้นนี้

    แต่ด้วยความที่ท่านบอกแค่นั้น แล้วกระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้สอบถามต่อว่า ท่านเป็นใคร ? มาจากไหน ? งานวันนี้ทิดเฟิร์สนำประคำมาหย่อนเอาไว้ให้ในพานข้างตัว บอกว่าฝากเข้าพิธีรอบนี้ด้วย หลวงปู่ท่านก็เลยต้องมา ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ท่านว่า "ชื่ออะไรครับ ?" ท่านบอกว่า "ต้าถักรินโปเช่"

    กระผม/อาตมภาพฟังแล้วก็งง ๆ หลวงปู่ท่านเป็นพระทิเบต แต่ทำไมชื่อเหมือนภาษาจีน ? แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะเกรงว่าท่านจะโขกกบาลเอา เนื่องจากว่าหลวงปู่ท่านรูปร่างสูงใหญ่มาก ดูจากความสูงแล้วน่าจะถึง ๒ เมตร เพียงแต่ว่าท่านเป็นคนผอม ก็เลยดูเหมือนอย่างกับว่าผอมสูง แต่ความจริงแล้วรูปร่างน่าจะใหญ่กว่ากระผม/อาตมภาพสัก ๔ คนรวมกัน..! ท่านมาชี้ ๆ จิ้ม ๆ ให้ไม่กี่ทีแล้วก็ไป

    กระผม/อาตมภาพเห็นบรรดาพระเถรานุเถระทั้งหลายที่เมตตามาช่วยเสกวัตถุมงคลให้ ค่อย ๆ ทยอยกลับตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าไปกันหมดแล้ว ก็ได้ลืมตาขึ้นมาทำน้ำมนต์ แล้วก็พรมรอบบริเวณพิธี จนกระทั่งครบถ้วนสมบูรณ์
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,355
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +25,920
    โดยปกติแล้วงานพวกนี้กระผม/อาตมภาพจะต้องเป็น "เทศบาล" ก็คือคอยเก็บกวาดสิ่งที่ยุ่งยากต่าง ๆ ซึ่งบรรดาท่านอื่น ๆ เหลือเอาไว้ ก็คือแต่ละท่าน ถ้าหากว่าเป็นสายอื่นที่มาเสกร่วมด้วย ก็จะมีสารพัด ทั้งสายเสน่ห์ สายเมตตา สายคงกระพัน สายมหาลาภ ในเมื่อทำกันให้ยุ่งไปหมด บางทีเสกอย่างอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งที่เพิ่งมาถึง ก็ดันไปเอามหาอุดมาลงปิดท้าย ก็เป็นอันว่าไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันพอดี แต่ว่างานนี้ท่านอาจารย์บ๊ะเป็นเจ้าของถิ่น กระผม/อาตมภาพก็เลยทิ้งให้ท่านเป็นเทศบาล มีหน้าที่เก็บกวาดสถานที่แทน

    หลังจากที่เสร็จพิธีแล้วก็ไปนั่งรอท่านอาจารย์บ๊ะ เมื่อเก็บกวาดสถานที่เรียบร้อย ท่านก็มาช่วยซ่อมสุขภาพให้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าระยะนี้กระผม/อาตมภาพห่างไกลหมอไปนิดหนึ่ง ทำให้เรื่องของสายตาค่อนข้างจะมีปัญหา แล้วก็เรื่องกระดูกสันหลังทรุดจนกระทั่งไปทับประสาท ก็มีปัญหาตรงที่ว่าทำให้เจ็บร้าวลงไปถึงขาเลย ไม่ใช่แค่สะโพกเท่านั้น เมื่อท่านดันเข้าที่ให้ ทุกอย่างก็เหมือนกับปกติ เพียงแต่ว่าด้วยความเคยชิน คาดว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะกลับไปเหมือนเดิม..!

    เนื่องจากว่าเวลาหลับแล้ว บางทีร่างกายก็พลิกไปในมุมที่ตนเองถนัด แต่ว่าด้วยความที่สภาพจิตทรงตัวอยู่ กระผม/อาตมภาพก็ไม่อยากที่จะไปยุ่งด้วย เอาการภาวนาของตนเป็นหลัก การระมัดระวังไม่ให้กิเลสกินตนเองได้ทั้งหลับและตื่นนั้นสำคัญกว่าการดูแลร่างกาย จึงทำให้การรักษานั้นได้ผลไม่นาน ก็จะกลับไปอยู่ในลักษณะของการเจ็บตัวเหมือนเดิม จะสมน้ำหน้าตนเองก็ใช่ที่ หรือจะยอมรับว่าเป็นกฎของกรรมก็ไม่น่าจะใช่ หากแต่ว่าเป็นคนขี้เกียจ ในเมื่อเอ็งอยากนอนท่านั้นก็จงนอนต่อไป ข้าก็มีหน้าที่แค่อยู่กับพระ แค่คอยระวังกำลังใจไม่ให้กิเลสกินได้ก็แล้วกัน


    เมื่อได้รับการซ่อมสุขภาพแล้ว ก็เดินทางกลับยังที่พัก ซึ่งตอนที่เดินทางอยู่นี้ ฝนฟ้าก็มืดมัวไปหมด ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะกลับถึงที่พักโดยปลอดภัยหรือไม่ ? แต่ว่าอาศัยระยะเวลาในการเดินทางนี้ ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน เผื่อว่าถ้าหากว่ามีปัญหา สิ้นชีวิตลงไปก่อนที่จะหมดวัน ก็จะทำให้มีเสียงธรรมให้ญาติโยมได้ฟังกันอีกวันหนึ่ง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...