แบ่งปัน ให้บูชาเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์พลครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ธัญญ์นิธิ, 26 พฤษภาคม 2017.

  1. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอจองรายการนี้ครับ
    ขอเลขบัญชีทางข้อความด้วยครับ
     
  2. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    หูหลู:น้ำเต้าตั้งตัวฟื้นชะตาดูดวิญญาณ(ปราบหมื่นมาร)

    ให้บูชา 2500 บาท

    รายการนี้แถม ตะกรุดจันทร์เพ็ญตำรับนารายณ์พลิกดวง

    ปิดรายการนี้ทาง pm แล้วครับ

    IMG_20190915_013807.jpg IMG_20190915_013834.jpg


    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-22#post-10860870
    แต่เดิมนั้นวิชาทำน้ำเต้าได้รับความนิยมตกทอดกันมายาวนาน หากจะหาต้นสายหรือใครที่ทำได้ดังและมีชื่อเสียงที่สุด นั่นย่อมต้องเป็นพระสังวราชุ่มวัดพลับที่ทำน้ำเต้ากันไฟขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยท่านได้วิชานี้มาขณะออกเดินธุดงค์และได้พบศาลาพักร้อนกลางป่าหลังหนึ่งถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด แต่ตัวศาลากับไม่ได้รับความเสียหายเป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อท่านสำรวจจึงพบว่าบริเวณอกไก่มีน้ำเต้าแขวนไว้ลูกหนึ่งพอเทออกดูก็พบคาถากันไฟบทหนึ่งบรรจุอยู่ภายใน.....เมื่อประจักษ์ในอภินิหารดังกล่าวท่านจึงได้สร้างน้ำเต้าขนาดเล็กบรรจุคาถาแจกจ่ายแก่ศิษย์ยานุศิษย์จนมีชื่อเสียงถึงทุกวันนี้ ดังนั้นวิชาทำน้ำเต้าจึงนิยมกันสืบมา แต่ทว่าก็มีหลายอาจารย์ได้สร้างขึ้นให้น้ำเต้านั้นมีอานุภาพแตกต่างกันออกไป ไม่ใช่ดีทางด้านกันไฟแบบเดียว มีทั้งใช้กันไฟ กันปืน แคล้วคลาด หรือทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองตามความถนัดของผู้สร้างนั้นๆ

    น้ำเต้าหรือ “หูหลู” ในภาษาจีน มีความเชื่อถือต่อเนื่องกันมาโดยนับถือเป็นหนึ่งในของวิเศษของเซียน ซึ่งภายหลังคณาจารย์จีนนิยมเอามาทำเป็นเครื่องรางมงคลและแขวนไว้ตามบ้านเรือนเพื่อขับไล่สิ่งชัวร้ายไล่สิ่งอัปมงคล คนจีนที่นับถือลัทธิเต๋าเชื่อว่าน้ำเต้าเป็นของวิเศษของเซียนที่มีศักดิ์ใหญ่หลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นทิก้วยลี้หนึ่งในแปดเซียน หรือไท่ซ่างเหล่ากุงผู้ปรุงยาในสรวงสวรรค์ดังนี้ ความวิเศษของน้ำเต้าเซียนนั้นนอกจากจะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์มงคลแล้ว ภายในน้ำเต้าเซียนยังเชื่อว่าบรรจุน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะไว้ ดังนั้นการแขวนน้ำเต้าจึงทำไปเพื่อเป็นการเก็บกักเคราะห์ภัยร้ายไว้ภายในไม่ให้มาเยือนสถานที่หรือผู้พกพา ทั้งยังใช้น้ำเต้าวิเศษนั้นดูดหรือกักขังมารปีศาจไว้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการแขวนน้ำเต้าไว้จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงไร้โรคภัยอีกด้วย ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคล ความมั่งคั่ง ร่ำรวย เพราะมีรูปลักษณะคล้ายเลขแปดอันหมายถึงความร่ำรวยที่ไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังงานที่ไม่สิ้นสุดหรือการมาถึงของวาสนาแบบอินฟินิตี้จึงถือว่าเป็นสิริมงคลเพราะจะได้ใช้แก้เคล็ดคนที่วาสนายังมาไม่ถึงเหล่านั้น ทั้งยังจะได้ทำเครื่องรางเกี่ยวทรัพย์ บันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายในรูปน้ำเต้านี้ ด้วยน้ำเต้าของท่านนั้นจะคอยดูดซับพลังงานที่ดี ดูดทรัพย์สินเงินทอง นำพาให้เกิดโชคลาภแก่ผู้บูชา ทำให้มีผลด้านโชคลาภอย่างมาก ทั้งยังจะคอยเก็บกักความชั่วร้ายเอาไว้ไม่ให้เข้ามาเยือนในชีวิตได้ เช่นนั้นท่านจึงทำน้ำเต้าขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ...ให้คนเอาไปใช้ตั้งตัวตั้งตนได้

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวย้ำว่าวิชาน้ำเต้านั้นถ้าทำให้ละเอียดและมีอิทธิคุณสูงสุดแล้ว จะมีอานุภาพสูงมากกว่าพวกเบี้ยแก้นับหมื่นนับแสนเท่า เพราะน้ำเต้าทิพย์นั้นจะเป็นของวิเศษที่มีหน้าที่ในตัวเอง นั่นคือการใช้เขาเพื่อดลบันดาลความสุขให้แก่มนุษย์โดยมหาศาสตร์ของวิชาทำน้ำเต้านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าภายในจะต้องมีความสุขห้าประการของมนุษย์อุปมาดุจค้างคาวห้าตัวเช่นนั้น ทั้งยังมีอานุภาพเฉพาะทางเป็นพลังซึ่งใช้สลายและป้องกันสิ่งไม่ดีตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรมให้กับผู้พกพาด้วย แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก็คือใช้กักเก็บเงินทองดั่งน้ำเต้าทิพย์นี้ต้องมีกำลังของธาตุทอง ดังนั้นเมื่อสร้างพ่ออาจารย์ท่านจึงต้องรีดทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นฉนวนลงจารยันต์โภคทรัพย์ในเบื้องต้นหล่อหลอมลงไปด้วยเพื่อเอากำลังของธาตุทองที่จะไปช่วยสลายถ่ายเทพลังร้าย ช่วยขับไล่สลายโรคภัยไข้เจ็บและความมืดมนชั่วร้ายให้พ้นไปจากชีวิตผู้พกพา ทั้งอานุภาพธาตุทองที่เสริมกับยันต์โภคทรัพย์จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ถือเปี่ยมด้วยโชคลาภวาสนา และบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง ยิ่งมีพลังความชั่วร้ายหรือโรคภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งดวงซวยหรือตกต่ำมากเท่าไหร่ น้ำเต้านั้นก็จะดูดและแปรเปลี่ยนพลังงานนั้นกลับมาฟื้นฟูตัวเราได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวมากเท่านั้น จะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีเป็นทรัพย์สินสิริมงคลเช่นนั้น เพื่อเปลี่ยนถ่ายพลังงานให้มีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาหาตลอดเวลา ทั้งเสริมดวง แก้อาถรรพ์ เพิ่มความเป็นสิริมงคล ปราบสิ่งชั่วร้าย ด้วยคติที่ว่าน้ำเต้าเป็นผลไม้ที่อยู่ในดินเมื่อเอาเมล็ดฝังดินแล้วโผล่จากดินขึ้นมาอยู่ด้านบน เพราะน้ำเต้าเป็นธาตุทองพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าดินที่ต่ำที่สุดกลับให้กำเนิดทองที่อยู่สูงที่สุดได้(ดินให้กำเนิดทอง)ดังนั้นเครื่องรางน้ำเต้านี้ท่านจึงตั้งใจทำเพื่อแก้วาสนาคนที่อยู่ต่ำที่สุดดุจดั่งเม็ดน้ำเต้าที่โดนฝังดินไว้นั่นเอง

    ด้วยศาสตร์การสร้างน้ำเต้าที่ให้คุณด้านต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำน้ำเต้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่านขึ้นมาและทำการปลุกเสกไว้ ซึ่งวาระนี้ท่านทำด้วยสองมหาศาสตร์ควบคู่กัน หนึ่งก็คือใช้พระยันต์กันไฟ กันฟ้า กันเคราะห์ กันกระทำย่ำยีมาหลอมหล่อกับชนวนทองคำหนักหนึ่งบาทที่ลงยันต์โภคทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นเทออกมาเป็นองค์น้ำเต้าแล้วจึงเสกตามวิชาลงน้ำเต้าของท่าน เมื่อสำเร็จดีแล้วท่านจึงเชิญโพธิสัตว์และเซียนฝ่ายมหายานตลอดจนลัทธิเต๋ามาช่วยสำเร็จน้ำเต้านี้ ซึ่งท่านตั้งใจทำให้เป็นของวิเศษที่ให้คุณมหาศาลกับผู้พกพาเพราะน้ำเต้านั้นเป็นของสูง เมื่อเสกสำเร็จพ่ออาจารย์ท่านว่าคติคนจีนนั้นเขาเชื่อว่าในน้ำเต้าจะมีสุราเซียนหมื่นปีซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะถ้าบ้านเราก็ต้องเรียกว่าน้ำอมฤตนั่นเองดังนั้นน้ำเต้าทิพย์นี้ผู้บูชานอกจากจะอายุยืน สุขภาพแข็งแรงแล้ว ในทางกลับกันยังใช้ปราบปีศาจดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสลายด้วยอานุภาพน้ำทิพย์ในน้ำเต้าเช่นนั้น เรียกได้ว่าน้ำเต้าจะดูดสิ่งชั่วร้ายแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสิริมงคลให้กับเรานั่นเอง เพราะคติที่ในน้ำเต้ามีน้ำอมฤตสามารถนำมาใช้ชุบชีวิตคนตายให้กลับฟื้นคืนชีพได้ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตของใครที่โดนปัญหารุมเร้าหนักๆ หรือคนที่มีชีวิตดุจคนตายแม้จะแก้ไขได้ยากแล้ว หากได้น้ำเต้าทิพย์ไปเขาก็จะต้องฟื้นได้ฉับพลันทันทีดุจมีชีวิตด้วยน้ำอมฤตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเสกกำกับเชิญครูมาลงไว้เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้มีอานุภาพดุจน้ำเต้าทิพย์ดังนี้ถ้วนทุกประการ

    เมื่อได้องค์น้ำเต้าทิพย์แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อให้คนใช้เอาไปตั้งตัวได้ไวๆท่านจะต้องนำมาสำเร็จด้วยธาตุน้ำเพื่อให้เขาอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายดี ทำอะไรก็ดี มีความชุ่มเย็นเหมือนธาตุน้ำ กันไฟได้ ทั้งยังดับความร้อนรุ่มในใจ ทำให้ผู้บูชามีสติมากขึ้น ใจเย็นขึ้นเรียกว่าประคองตนให้เป็นคนดีได้ แล้วน้ำเต้านี้เมื่อหนุนด้วยกำลังธาตุน้ำแล้วเวลาเขาพกพานำไปใช้จะได้เกิดประสบการณ์ในด้านโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ค้าขายดี มีกำไร ด้วยน้ำเต้านั้นจะดึงดูดทรัพย์ ถ้าเขาจะพกไปค้าขายหรือไปหาลาภสักการะก็จะได้สมความปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านเสกให้มีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้านหนุนดวงให้ดีขึ้น หนุนให้มีโชคลาภ หนุนให้มีความเจริญรุ่งเรือง หนุนให้การค้าดีทุกด้าน ทั้งเป็นเมตตามหานิยม กันภัย ให้โชคลาภ เสริมดวง ปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆ โดยน้ำเต้าทิพย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากพกเอาคุณวิเศษแล้วยังสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยได้อีกด้วยไม่ว่าจะในบ้านหรือร้านค้าก็ดีทั้งคุ้มครอง ปกป้องภัยอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะกันคุณไสยกันสิ่งอัปมงคลลมเพลมพัดมนต์ดำคาถาต่างๆได้เป็นอย่างดีเพราะเขาจะขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้ไกลห่างจากเราไป ทั้งใช้เสริมดวง เสริมบารมี กันดวงตก ดวงแตกก็ได้เพราะพ่ออาจารย์ท่านลงไว้ครบทั้งกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำ...

    พ่ออาจารย์ท่านถือคติว่าด้วยน้ำเต้านั้นนับเป็นไม้มงคลที่มักจะออกลูกตลอดจนกว่าจะแก่ตาย ซึ่งมีความหมายอุปมาถึงชีวิตคนพกพาว่าจะมีดอกหรือออกผล ได้กำไร ได้โชคลาภ ดั่งวาสนา ทรัพย์สินเงินทองต้องเพิ่มพูลงอกเงยขึ้นเท่านั้น เงินทองจะไหลมาเทมาไปตลอดชีวิตจนสิ้นใจจากภูมิมนุษย์นี้ไปและเพื่อสิริมงคลเช่นนั้นท่านจึงให้พกน้ำเต้าทิพย์นี้ไว้กับตัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไปทั้งยังคุ้มภัย และที่สำคัญคือพลังในการดูดทรัพย์สินเงินทองและความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครองนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพานแก้อาถรรพ์ ผงไม้ยอ ผงหัวว่านนางกอดทรัพย์ ผงไม้พญาพรานหลง ผงว่านเศรษฐีและผงกะลาตาเดียวลงราหูหนุนชะตา ที่ให้คุณทางเรียกโชคลาภให้มาหา เสริมโชค เสริมลาภ หนุนดวง เมตตามหานิยม เสี่ยงโชครับลาภ นำมาปั้นรวมกันเป็นแท่งผงลงมนต์ลบผงพระสังข์เรียกเนื้อ และเสกผงลบนั้นให้มีคุณทางด้านเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาหาได้เองในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านว่าผงนี้แม้ไม่คาดคิดว่าจะได้อยู่ดีๆก็ได้ เรียกว่าอยู่เฉยๆโชคลาภก็มาให้เอาถึงที่อยู่เฉยๆโชคลาภก็เข้ามาหาเองเช่นนั้น ท่านนำผงลบนี้มาผสมเข้ากับผงน้ำเต้าตายพรายที่ลงวิชาดูดทรัพย์เอาไว้เพื่อให้ผู้ที่ได้ไปบูชามีลาภผลไม่ขาดมือ มีทรัพย์สมบัติเพิ่มพูนขึ้นตลอดเวลา หากมุ่งหวังสิ่งใดก็ให้อธิษฐานเอาก็จะสำเร็จสมความปารถนาก่อนจะนำมาอธิษฐานจิตเปิดโลก เปิดทาง ขอบารมีคุณครูคุณพระช่วยเสริมอาถรรพ์ผงวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันบอกได้แค่ฉันขอให้ครูท่านช่วยหน่อย ช่วยในเรื่องเสี่ยงดวงเรื่องโชคลาภให้เขาได้กันหนักๆหน่อย ให้มีแต่โชคลาภไม่ขาดสาย..(ท่านว่าบอกได้เท่านี้) ก่อนที่จะนำผงสำคัญนี้มาชักยันต์นะสำเร็จคลุมไว้เป็นกฤติยาคมแฝดว่าหวังอะไรล้วนแต่ต้องได้ ต้องสำเร็จ ก่อนจะนำผงมาผสมกันแล้วกดฝังองค์น้ำเต้าทิพย์ลงไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงวิเศษนี้ก็เอาว่าเฉียบขาดแน่นอนโดยเฉพาะคนชอบเสี่ยงดวง เสี่ยงโชคเอาว่าสำเร็จ

    ด้านหลังท่านฝังก้อนผงดูดพลังเอาไว้ ท่านว่าก้อนผงนี้สมัยก่อนท่านธุดงค์เข้าไปในมเหนทรบรรพต ก็ไปเจอก้อนผงนี้วางอยู่หน้าแท่นศิวลึงค์ ไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไรรู้แต่ว่ามีอาถรรพ์มากเพราะรอบๆบริเวณสถานที่นั้นมันแสดงออกมาอย่างชัดเจน(ไม่สามารถเล่าได้) ท่านจึงได้พลีกรรมบอกกล่าวและขอมาเพื่อจะทำประโยชน์ให้เกิดแก่ชนหมู่มากในภายหลังจนครูพระสยมท่านมอบให้และบอกว่าเป็นก้อนผงดูดพลังที่พวกฤาษีสมัยก่อนทำมาวางข่มอาถรรพ์ไว้... เมื่อพ่ออาจารย์ท่านนำออกมาแล้วท่านว่าเราก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดีเพราะผงนี้มีอาถรรพ์มาก และก็มีพลังงานสูงเกินไป จนเมื่อได้ทำน้ำเต้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันจำเป็นต้องใช้พลังดูดเพื่อย่อยสลายสิ่งตกค้างทั้งวิบากกรรมและอกุศลกรรมอย่างมหาศาล ซึ่งคุณวิชาทั่วไปไม่สามารถทำได้ครอบคลุม ท่านจึงนำก้อนผงที่แข็งเป็นหินนี้มาทุบและฝังเอาไว้เป็นพลังงานตั้งต้นเพื่อให้น้ำเต้าทิพย์นี้มีอำนาจรุนแรงที่สุดนั่นเอง เพราะท่านเสกกำกับให้ดึงดูดความรุ่งโรจน์ ให้ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ให้ก่อเกิดความมั่งคั่งมีชัยชนะทุกๆด้าน

    ด้วยน้ำเต้าทิพย์นี้จะเป็นของค้ำคูณ แม้นักแสวงโชคก็ยังจำเป็นต้องมี ทั้งคนที่เก็บเงินไม่อยู่ก็จะแก้อาถรรพ์ให้เก็บเงินเก็บทองได้ดี อีกประการหนึ่งน้ำเต้าทิพย์นี้จะกระตุ้นให้วาสนาผู้พกเปิดรับโชคลาภ ทั้งยังดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา เสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรือง ปราศจากอุปสรรคเคราะห์ภัย ทั้งอำนวยให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวครบถ้วน จะมีดอกออกผลทรัพย์สมบัติงอกเงยเช่นนั้น ท่านว่าเอาว่าบูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ดีมาก ให้หมั่นสักการะบูชานำติดตัวไว้จะเจริญด้วยลาภ


    คาถาบูชา
    พระโสนามะยักโข เมตทันตปริวาสะโก อะสุณิหะเตโหตะโต ชยะมังคละ เออุ อุเอ อาคัจฉะ มานิ มานิ


    **** น้ำเต้าทิพย์นี้เป็นของสำคัญซึ่งพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจนำมาเสกปิดในฤกษ์จันทร์เพ็ญ ท่านว่าหากจะคิดว่าเป็นเทพศาสตราวุธเขาก็มีอานุภาพมากกว่าการทำลาย เพราะน้ำเต้าทิพย์นี้ใช้ได้ทั้งปราบปรามและทำลายล้าง ทั้งยังเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน เป็นคุณที่เกินกว่าเทพศาสตราทั้งหลายจะทำได้เพราะเขามีอานุภาพการดึงดูด การย่อยสลาย การสร้างเสริมถ่ายเทพลังงานเข้าสู่วาสนาคนพกพาเป็นของตัวเขาเอง สำหรับผู้ที่บูชาน้ำเต้าทิพย์นี้ควรจะใช้ติดตัวหนึ่งใบและอาราธนาไว้ในเคหะสถานที่อยู่อาศัยเพื่แก้ฮวงจุ้ยอีกหนึ่งใบ ****และพ่ออาจารย์ท่านได้ลงตะกรุดจันทร์เพ็ญตำรับนารายณ์พลิกดวงไว้ในฤกษ์จันทร์เพ็ญที่ผ่านมา ท่านว่าจะมอบให้แถมไปกับผู้บูชาเฉพาะน้ำเต้านี้ ซึ่งตะกรุดจันทร์เพ็ญหนนี้ไม่มีแยกให้บูชาในกรณีใดๆทั้งสิ้น ท่านให้แถมไว้ใช้คู่กันเพราะทำวิชามาด้วยกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  3. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบการจอง ขอบคุณมากครับ
     
  4. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    เหรียญหล่อจิ๋วแม่ย่าเทวดามหาปราบโลก
    (ชนะชัย ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม ศักติมหากาลี)

    ให้บูชา 900 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190915_014258.jpg IMG_20190915_014324.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-21#post-10827149


    กะซิบกันมาหลายคนว่าอยากได้เฉพาะพระแม่กาลี(แม่ย่า) แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าอันนี้องค์จะจิ๋วๆหน่อย เพราะเป็นแม่ย่ารุ่นแรกสุดตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านทำพระสยมพิมพ์ใบมะตูมนับเวลานานปีมาแล้ว ซึ่งแม่ย่าชุดนี้จะเสกเข้มมากๆถึงมากที่สุดและเป็นชุดพิเศษที่ท่านฝังตะกรุดเฉพาะไว้ เอาแค่เสกก็ยาวนานแล้วเต็มสูตร เต็มพิธี เต็มพลังจิตวิญญาณ แต่ขนาดนี่น่ารักกำลังใช้จริงๆ

    แม่ย่ากาลีผู้มีอานุภาพ สำหรับแม่ย่ากาลีนั้นเป็นครูสำคัญของสำนัก ที่พ่ออาจารย์ได้สร้างแบบเป็นทางการและเปิดบารมีไว้เป็นครั้งแรก พระแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะทำพิธีคู่กันกับครูพระสยม โดยเป็นครูทางอิตถีเทวะที่ทรงพลานุภาพแกล้วกล้าดุดันสูงสุดให้คุณได้มากที่สุด

    แม่ย่านั้นมีอานุภาพแรงกล้า ท่านจะคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ทุกข์โทษโทสาทั้งหลายเข้าไม่ถึงตัว ด้วยแม่ย่านั้นเป็นเทวีที่มีอานุภาพสูงสุดทรงไว้ด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ สามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพของท่านไม่มีได้กิน ซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย

    เพราะท่านมีคุณถึงปานนี้ถึงกับว่าผู้บูชานั้นจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแพ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้ายล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ประทานพลังอำนาจให้กับผู้ทรงธรรมสุจริตแล้ว พระนางยังปรารถนาจะเติมเต็มความรู้สึกรักใคร่ชอบพอของเหล่าผู้ศรัทธาให้สุขสมหวัง

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวว่าพระนางนั้นให้ค่ากับคำว่าความรักและความรู้สึกมาก มากเกินจะทำความเข้าใจได้ทีเดียว ในทางกลับกัน หากผู้บูชาเข้าใจนัยยะที่แฝงอยู่ในรูปกายอันเสียสละและทรงพลังอำนาจของพระนาง สามารถรักพระนางได้ดุจแม่บังเกิดเกล้า ค่าของความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย สายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ยิ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่มีต่อมหาเทวีอันเป็นร่างจำแลงของฤทธานุภาพสูงสุดในมหาศักติด้วยแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการได้เป็นลูกท่านและรับการอุ้มชูนั้นถือว่าคุ้มค่าโดยแท้ เพราะแม่ยอมปกป้องลูกเสมอ และแม่ยอมให้ลูกได้ทุกสิ่ง

    กาลี คำๆนี้หากกล่าวเฉยๆ ในความรู้สึกคนฟังนับว่าเลวร้ายนัก ด้วยมีความเข้าใจผิดสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ว่าการบูชาพระนางจะต้องสังเวยด้วยเลือดบ้าง ต้องใช้เลือดสาวพรหมจรรย์บ้าง ก็สุดแท้แต่จะเชื่อตามลัทธินิกายใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้มีการสังเวยพระนางด้วยชีวิตมนุษย์มายาวนานนับร้อยนับพันปี ซ้ำยังมีความเข้าใจว่าพระนางนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งอำนาจมืดและความชั่วร้ายต่างๆ เพราะว่ารูปลักษณะของพระนางนั้นดูอย่างไรก็แตกต่างจากมหาเทวีทั่วไปอย่างพระลักษมี พระสุรัสวดีเป็นอาทิ ด้วยว่ามีรูปลักษณะเช่นนั้น คนจึงยิ่งเข้าใจว่าพระนางเป็นเทพแห่งไสยศาสตร์มนต์ดำ ตันตระ ความมืดอำนาจมืดต่างๆ เสริมให้คนที่เป็นศิษย์คิดบูชานิยมกันอยู่ในซ่องโจรบ้าง พวกที่ประกอบกรรมทำชั่วต่างๆบ้างๆ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนที่ทำผิดคิดอุบาทว์ ไปบูชาแม่ย่า สุดท้ายไม่มีตายดีกันซักคน ทั้งนี้เพราะเหตุผลสองประการ หนึ่งคือเพราะท่านไม่ใช่ สองคือเพราะท่านไม่ชอบ ไม่ใช่ในที่นี้หมายถึง ไม่ใช่ตัวตนในรูปแบบที่ความรู้สึกมนุษย์เข้าใจและพยายามจะให้ท่านเป็น ไม่ชอบคือ ท่านไม่ชอบคนใจบาปหยาบช้ากระทำการอกุศล ดังนั้นแม่ย่าจึงเป็นมหาเทวีที่จะเข้าถึงได้ด้วยความเพียร ความศรัทธา ตลอดจนคุณธรรมความดีเฉกเช่นเทวะพระองค์อื่น

    ด้วยว่าพระพิมพ์นี้เป็นการประดิษฐานรูปครูสำคัญไว้โดยเฉพาะแม่ย่ากาลีนั้น ที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างเพราะท่านอยากให้ทุกคนสุขสมหวังไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม ให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้ อย่างเช่นเรื่องความรักของแม่ย่า* สำหรับแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ได้แยกมาประกอบพิธีบูชาอัญเชิญปลุกเสกให้พระรูปมีภูติพระเจ้าของพระนางกาลีสถิตย์ทุกองค์ ท่านว่าแม่ย่านี้มีอาถรรพ์สูงมีความรักความเป็นห่วงลูกหลานอย่างจริงใจและรุนแรง ให้คุณมาก ให้ผู้บูชาอาราธนาบูชาด้วยความรักและจะเห็นเองว่าแม่รักลูกเป็นอย่างไร

    พ่ออาจารย์ท่านเสกไว้ครบ มีเทวานุภาพเด่นทางด้านข่มสะกด ปราบไพรี สะกดเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้สำหรับศิษย์ที่ศรัทธาและยึดถือท่านเป็นที่พึ่งแล้ว ท่านมักจะประทานพรด้วยอำนาจอันไม่อาจยับยั้งเรียกว่าเป็นแม่ผู้ให้ชนิดไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าได้ ด้วยหากผู้ใดบูชาจนพระนางพอพระทัยท่านก็มักจะประทานพรชนิดลืมตัวและให้ผลไวกว่าการบูชาเทพองค์ใดเพราะแม่ย่าเป็นลักษณะอำนาจของการปลดปล่อยผู้มีศรัทธาออกจากความเลวร้ายทั้งปวง เป็นอำนาจแห่งการปกป้องในฐานะแม่ที่แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งอยู่เหนือเหตุผล กฏเกณฑ์วัฏจักรและอำนาจความสมดุลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท่านเชื่อว่ามนุษย์ทุกวันนี้หลายคนมีชีวิตที่เรียกว่าทุกข์จนเสียสมดุลไปแล้ว เจอเรื่องหนักๆ เจอสิ่งเร้า เจออุปสรรคใหญ่ๆที่สู้ชีวิตต่อไปไม่ไหว สำหรับยุคแปดในปัจจุบันซึ่งมีภัยพิบัติและภยันอันตรายต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ท่านว่าต้องใช้แม่ย่านี่แหละ ขอให้ท่านผลักดันเราให้พ้นจากสภาวการณ์เลวร้ายต่างๆด้วยอำนาจเกรี้ยวกราดของผู้เป็นมารดาเท่านั้น




    โดยปกติเครื่องรางเกี่ยวกับพระแม่ย่านี้ พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ได้ออกให้ใครบูชาเท่าไหร่ จะมีบ้างก็เฉพาะคนที่ถามกันเข้ามาหรือแจ้งความประสงค์ว่าอยากได้ไว้เคารพสักการะจริงๆท่านก็จะลงตะกรุดขอบารมีแม่ย่าให้สมัยก่อน ซึ่งตะกรุดแม่ย่ากาลีนี้เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก ที่ว่ามากนั้นเพราะเล่ากันสามวันก็ไม่จบ โดยผู้ที่ได้รับไปก็นำไปบอกกล่าวกันต่อ มาขอให้ท่านทำเพิ่มบ้าง ให้ญาติพี่น้องบ้างกระจายกันไปทั่ว เค้าไม่ได้เข้าใจเลยว่าท่านทำให้เฉพาะกิจ แต่ด้วยความเมตตาพอใครขอมาก็สนองตอบทำให้เขาไป จนในที่สุดบางท่านถึงกับจองบูชากันมาเป็นร้อยดอก ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบพ่ออาจารย์ท่านจึงหยุดลงตะกรุดแม่ย่าเสียแต่นั้นมา แม้ใครถามท่านก็ไม่เคยทำอีก และไม่เคยตอบรับใดๆ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าแม้เพียงตะกรุดยังขลังถึงปานนี้

    ดังนั้นเมื่อท่านทำตะกรุดแม่ย่าให้ใครไปใช้ในยุคก่อน ท่านจะย้ำสั้นๆด้วยคำว่า"รัก"เสมอ แม่ย่าของท่านไม่ต้องเซ่นด้วยเลือด ไม่ต้องถวายอามิสสินจ้างใดๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกรักเท่านั้น เพราะในปางนี้สิ่งที่ท่านขาดจากพระสวามีก็คือความรัก เรียกว่าถวายใจ มีสายสัมพันธ์ มีความรักคให้ท่าน ท่านก็จะหยิบยื่นพลังชีวิตและความปรารถนาดีให้แก่เรา ง่ายๆเพียงเท่านี้ แม้ท่านจะไม่ได้บอกกล่าวอย่างละเอียดแต่ก็มีประสบการณ์เข้ามามากมายเกินคำว่าปาฏิหาริย์ มากจนกระทั่งบางครั้งคนเดียวขอบูชาร้อยดอกบ้าง สี่สิบดอกบ้างก็มี สำหรับผู้ศรัทธาในสายแม่ย่ากาลี จนพ่ออาจารย์ท่านต้องหยุดทำ

    หนนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่พ่ออาจารย์ท่านนำพระแม่กาลีรุ่นแรกที่ท่านเสกเก็บไว้อย่างยาวนานตั้งแต่พิธีสมัยพระจันทรโมเลศวร(พระสยมใบมะตูม) ซ้ำยังเป็นชุดพิเศษที่ท่านทำไว้ด้วยการฝังตะกรุดมนต์เฉพาะบทพิเศษของพระแม่ ซึ่งตะกรุดนี้ก็คือตะกรุดที่ท่านเลิกทำไปแล้ว เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก เป็นตะกรุดในสายบารมีพระแม่ที่จะหาใครทำเสมอเหมือนได้เป็นไม่มีอย่างแน่นอน เป็นเป็นตะกรุดแห่งความรัก ความห่วงหาอาทร ความปราถนาดีและสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาที่จะมีเกิดขึ้นแก่บุตร พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำก่อนออกให้บูชาว่า "ชุดนี้จะเป็นชุดประสบการณ์ เพราะคนที่เอาไปแขวนคอเขาจะพบเจอสัมผัสลี้ลับ ด้วยเจตน์จำนงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาจะได้ดีเพียงไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาแล้ว ว่าเขาจะรักและให้ค่าทางความรู้สึกและจิตวิญญาณกับคำว่าแม่ได้มากมายเท่าไหร่ เราบอกได้แค่ว่าให้รักท่านเหมือนแม่แท้ๆ เดี๋ยวจะสนิทกันเอง อะไรก็ล้วนจะดีไปหมด จะเจริญก้าวหน้าง่าย ชีวิตมีโชคอย่างง่ายๆ จะมีความรักง่ายๆ เปลี่ยนผันศัตรูเป็นมิตรได้ง่ายๆ... พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งรักกันมากอะไรมันก็ง่ายถึงปานนั้น เพราะไม่มีหรอกซักเรื่องที่แม่จะไม่เดือดร้อนแทนลูก"

    แม่ย่ารุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำให้มีขนาดเล็กสวยงามห้อยกำลังดีเป็นศิลปะแบบชาวบ้าน สวยมีเสน่ห์คลาสสิคแบบงานโบราณที่ของใหม่ๆจะทำไม่ได้ ซึ่งองค์พระนั้นก็จะมีขนาดจิ๋วๆเพียงใหญ่กว่าพระนาคปรกใบมะขามไม่มาก ท่านว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะมีบารมีเต็ม และเราเชิญท่านมาทำให้เองเสกกันจนอัดไม่เข้าแล้ว ท่านว่าใครเอาไปเพียงแค่ห้อยเฉยๆอำนาจบารมีแม่ย่าเขาก็จับตัว สัมผัสกายพร้อมที่จะปกปักรักษาแล้ว รุ่นนี้ท่านจึงเน้นตลอดว่าใช้งาย ถ้าเป็นคนมีหัวใจ รักแม่เป็นนี่ใช้ได้เลย

    คาถาบูชา
    โอม ชยะตีมหากาลี ชยะตีอาธยะกาลีมาตา ชยะรูปะประจัญทิกา มหากาลิกะเทวี ชยะตีรักตาสะนะ เราทะระมุขี รุทะรานี อริ โศนิตขะไประ ภะระนี ขัททะคะ ธรณี ศุจี ปาณนี ฯ

    เหรียญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเน้นเป็นพิเศษ ด้วยเป็นอำนาจแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแม่ย่าท่าน ดังนั้นคนใช้จึงแพ้ไม่เป็น ด้วยแรงครูหนุนนำคุ้มเกล้าคุ้มเกศไปแข่งอะไรใครเขาก็ชนะหมด ไอ้ความเชื่อที่ว่าตัวเราต่ำต้อยแข่งกะใครเขาก็ย่อยยับ เพราะแข่งเรือแข่งพายมันแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาย่อมแข่งกันไม่ได้แบบนั้น ท่านว่าตัดทิ้งมันไปได้เลยเพราะวาสนาของแม่ย่านี้ ใครก็มาแข่งกับท่านไม่ได้ ชนะโลก ชนะอสูร ชนะเทวดา เมื่อท่านคุ้มเราท่านก็จะดลให้คนใช้มีแต่คำว่าชนะๆๆ ชนะโชค ชนะชัย ชนะไพรี ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม และเมื่อเป็นลูกแม่ย่าแล้วก็ต้องชนะอย่างราบคาบเท่านั้น

    *** เหรียญหล่อรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าควรจะใช้อย่างน้อยคนละสององค์ถึงจะดีเป็นที่สุด องค์หนึ่งนั้นท่านให้อาราธนาไว้ในบ้าน ในถิ่นที่อยู่ของตน ตรงหิ้งพระหรือหิ้งเทพที่ตนเองกราบไหว้บูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าประดิษฐานท่านไว้ตรงนั้นให้ท่านล้างบางอวิชชาพลังงานเลวร้ายทั้งหลายเพื่อจะขับส่งพลังงานบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณสูงสุดให้เกิดขึ้นและเป็นมหามงคลแก่สถานที่อันเราพักอาศัยเพื่อเชื่อมต่อพลังงานนั้นเข้ากับเรา ท่านว่าถ้าที่พักมีอาถรรพ์เยอะนอกจากที่ไม่ดีแล้ว คนที่อยู่ก็จะแย่ลงๆไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ส่วนอีกองค์นั้นท่านว่าให้อาราธนาไว้ติดคอ ติดตัวตลอดขอความรักขอบารมีแม่ย่าท่านเปลี่ยนชีวิตเรา สำหรับใครที่จะบนอะไรแม่ย่านั้นจริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องบน แต่ถ้าอยากหรือทนไม่ไหวมีเรื่องใหญ่อะไรจริงๆก็ให้บนด้วยมาลัยดอกกุหลาบหรือจะเป็นน้ำแดงซักแก้วง่ายๆเท่านี้ก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2019
  5. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ตะกรุดมหาโองการสูตรขอพรเข้าตัว(เทวราชเนรมิต)

    ให้บูชา 500 บาท

    ปิดรายการนี้ทาง pm ครับ

    IMG_20190915_013412.jpg IMG_20190915_013439.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ตะกรุดพระยมราชผลาญเพชรฆาต-สมใจนึก-เผาคำอธิษฐาน-พ่ออาจารย์พล.548127/page-18#post-10729488

    สืบเนื่องจากตะกรุดมหาโองการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นวิชาเฉพาะทางจริงๆก็เลยทำไว้ ทีแรกไม่คิดว่าจะเอาให้ใครใช้กลัวจะไปเขียนอะไรเหลวไหล แต่ลึกๆเลยท่านก็ยอมรับว่าเป็นวิชาระดับตำนานเช่นกัน เนื่องจากตะกรุดนี้เป็นวิชาที่ใช้เกี่ยวกับการอธิษฐานจิต

    การอธิษฐานจิต อธิษฐานใจเวลาเราขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเคยมีหลายๆคนบอกหมดธูปไปเป็นกำๆ บางทีเกือบสิบหนเพียรจุเพียรขอถึงจะสำเร็จ ที่เป็นเช่นนี้ท่านว่าเพราะเราไม่เคยอธิษฐานปากตัวเอง ไม่เคยมีสัจจะหรือรักษาสัจจะยิ่งชีวิต เวลาพูดเวลาขออะไรจึงไม่มีความมั่นคงแลไม่เห็นผลสัมฤทธิ์เหมือนดั่งที่ควรจะเป็น เพราะมนุษย์นั้นประมาทพลาดพลั้งผิดคำพูดทำกรรมทางวจีกรรมล่วงไปในวันๆหนึ่งนั้นหลายครั้งหลายครา

    ในขณะเดียวกันเทพเจ้าทั้งหลายก็ไม่ชอบยุ่งกับมนุษย์บางจำพวก ด้วยกายของพวกเทวดานั้นหยาบสำหรับพวกเทวดาด้วยกัน แต่ก็ละเอียดสำหรับมนุษย์จะรู้เห็นได้ทั่วไป นอกจากผู้มีใจผ่องใสจึงจะรู้จะเห็นได้ไม่ยากนัก ทั้งยังมีอคติกับสัตว์โลกที่ไม่ตั้งอยู่ในคุณธรรม ด้วยว่ามนุษย์ที่เหม็นคาวน่ารังเกียจคือมนุษย์ที่เหม็นคาวศีลธรรม รังเกียจศีลธรรม ไม่สนใจในศีลธรรม มนุษย์ประเภทเบื่อศีลธรรมซึ่งเป็นของดีเลิศในโลกทั้งสาม แต่ชอบในสิ่งที่น่ารังเกียจของท่านผู้ดีมีศีลธรรมทั้งหลาย มนุษย์ประเภทนี้น่ารังเกียจจึงไม่อยากเข้าใกล้และเหม็นคาวฟุ้งไปไกลด้วย ดังนั้นเมื่อชนทั้งหลายเดือดเนื้อร้อนใจเอ่ยปากพึ่งพิงเทวดาจึงได้รับแต่อาการเฉยเมยกลับมา ทำให้รู้สึกกันไปเองว่าสวรรค์ไม่มีตา ฟ้ากลั่นแกล้ง เป็นวลีติดปากที่โทษเทวดาฟ้าดินนั่นเอง

    ทีนี้ตะกรุดตัวนี้มันให้ค่าต่างกัน นั่นก็คือความไวของการอธิษฐานจิตเวลาเราขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วิชานี้เหมือนเราเขียนสาสน์ถึงสวรรค์โดยตรง อยากขออะไร ฟ้องอะไร อธิษฐานอะไรเขียนสอดใส่ไว้ท่านว่าเหมือนยื่นเรื่องให้เทพเจ้าโดยตรงไม่ต้องผ่านมือใคร ไม่ต้องผ่านแม้กระทั่งปากตัวเอง เพราะหากปากตนยังไม่ศักดิ์สิทธิ์ไม่รักษาสัจจะวาจาก้าวล่วงวจีกรรมบ่อยก็อย่าหวังจะไปบนบานอะไร ท่านว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเลือก เขาก็คร้านที่จะฟังทีนี้พอไอ้เราขอท่านด้วยปากเรา ปากมันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วคำขอต่างๆท่านก็จะนิ่ง วิชานี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่เอาไว้ติดต่อสื่อสารเวลาอธิษฐานหรือแสดงความต้องการแบบตรงตัวให้ถีงรวดเร็ว แม่นมั่นอย่างที่สุด

    ด้วยเทพยดาทั้งหลายก็เหมือนชนทั้งปวง เขาจะคบหาสมาคมแต่คนประเภทเดียวกัน ดังนั้นในปัจจุบันนี้พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนเดือดร้อนกันมาก หาความสุขสบายเพียงหยิบมือเล็กน้อย ส่วนเรื่องทุกข์ เรื่องร้อนใจมีประดังเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน คนทั้งหลายจึงนิยมหาที่พึ่งพิง ไปกราบไหว้เทพ เทวดาต่างๆ ไปตำหนักทรงต่างๆ ท่านว่าคนเหล่านี้ไปตำหนักทรงก็เพื่อต้องการความสบายใจว่าเขาสามารถพูดคุย บอกเล่าติดต่อกับเทพเจ้าได้ แต่กลับกันกลายเป็นว่ากลับโดนหลอกลวงให้เสียทรัพย์หนักขึ้นบ้าง โดนคุณไสยอวิชชาของบรรดาร่างทรงบ้างเช่นนี้

    ท่านว่าเหตุด้วยมนุษย์ต้องการสื่อสารกับเทพยดาจึงแสวงหาเรื่องเดือดร้อนมาใส่ตัวดุจจุดไฟเผาตัวเอง ดังนั้นหากจะแก้ปัญหาก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ เมื่อท่านมาพิจารณาถึงวิชาที่เสด็จพระใหญ่เคยประทานไว้ หากมีปัญหาจะบอกกล่าวสิ่งใดก็ให้ทำวิชาเช่นนี้ปรารถนาจะขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าองค์ใดๆก็ย่อมไปถึงกันทั่วทั้งสิ้นในฉับพลันทันที แม้เทพเจ้าก็ดี หมู่พรหมก็ดี เขาไม่อาจจะปิดโสตประสาทรับรู้ของเขาได้

    พ่ออาจารย์ท่านเรียกวิชาทำตะกรุดนี้ว่าตะกรุดมหาโองการสูตรขอพรเข้าตัว ตะกรุดนี้ท่านว่าเมื่อเราเขียนความปรารถนาส่งคำอธิษฐานใดๆก็ตามเปรียบดั่งโองการฟ้าที่ออกมาแล้ว โองการนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ ปกาศิตทุกสรรพสิ่งให้ปฏิบัติตามเช่นหน้าที่ อยู่เหนือกว่าความรู้สึกที่จะตอบรับแลปฏิเสธด้วยพึงใจหรือไม่พึงใจเช่นนั้น ท่านว่าเมื่อไม่ใช่คำขอแต่เป็นหน้าที่เขาก็จะรีบทำ ในอดีตนั้นท่านเกรงว่าคนจะเอาไปเขียนเล่น เขียนกันมั่วท่านจึงทำหากแต่ระงับไว้ จะมีให้บูชาก็เฉพาะคนที่ไปโดนโกง เจอปัญหาร่างทรงทำพิษบ้างเป็นรายๆไปเท่านั้น จนเกิดประสบการณ์กลายเป็นที่กล่าวขานในหมู่ญาติและเพื่อนร่วมงานว่าบุคคลเหล่านั้นที่บูชาตะกรุด มีพลังงานพิเศษสามารถติดต่อสื่อสารเทวดาฟ้าดินได้ กลายเป็นของดีคู่กายที่ไม่อยากเอ่ยปากบอกใครว่ามีไว้ในครอบครอง

    ในกาลบัดนี้ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมาะแก่เวลาและตะกรุดของท่านก็ไม่ได้ทำไว้มากมายเช่นใด จะขอกันไว้เป็นสัญญาใจก็แต่เพียงว่า อย่าเอาไปเขียนเล่น อย่าไปทำอะไรที่ไร้สาระ เพราะเขียนอะไรไปนั้นย่อมถึงเทพยดาแลครูบาอาจารย์ทั้งหมด

    ท่านว่าตะกรุดนี้เทวดาท่านช่วยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แต่ก็อย่าไปทำให้ท่านชังในความเป็นมนุษย์เสียเลย ให้เขียนแต่เรื่องที่เราเดือดร้อนจริงๆ คำขอที่สามารถเป็นไปได้ คำขอที่เพิ่มระดับมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปตามผลสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าสมมติถ้าคนอยากมีบ้าน ก็ให้ขอการงานที่มั่นคงสอดไว้ หนต่อมารู้สึกว่างานตนมั่นคงดีแล้วก็ให้ขอโอกาศขยับขยาย ขอสังคม ขอโชคลาภ คือค่อยๆขอเพิ่มขึ้นในขั้นกว่าไปเรื่อยๆจนรากฐานเรามั่นคง ไม่ใช่ว่าเขียนเป็นเล่นสักแต่เขียน ขอบ้าน ขอร้อยล้าน ขอพันล้าน ขอถูกหวยรางวัลที่1 ท่านว่าคนเช่นนี้ขอไม่เป็นและคร้านที่จะทำให้เทวดาเขารังเกียจมากขึ้นกว่าเดิมเสียเปล่า ท่านว่าถ้าหวังหวยก็ขอไป ขอให้เจอคนขายที่ดวงสมพงษ์กับเราวาสนาเกื้อหนุนเรา นี่ขอแบบนี้หวยมันก็จะถูก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าขอเป็น มีมารยาทเสียสามส่วน รู้จักลำดับเหตุการณ์และความสำคัญ ไม่โลภหรือแสดงตัวตนน่ารังเกียจ การใช้ตะกรุดมหาโองการเช่นนี้ย่อมไม่ยากเลย

    ตะกรุดมหาโองการนั้นท่านว่าคนใช้เป็นก็เป็นตัวช่วยชั้นดี เหมือนเสือติดปีกติดอาวุธเหมาะกับคนซึ่งมีความเพียรพยายามในการประกอบอาชีพ คนที่คาดหวังความสำเร็จโดยไม่สนบุญเก่า คนที่ชอบขอพรพระหรือเทวดาแต่ไม่เห็นผล ไม่ประสบความสำเร็จ จะด้วยขอไม่เป็นหรือเทพไม่พึงใจก็ตาม ท่านว่าให้ทำใหม่ ทำให้ถูกให้ควร ขอเป็นขั้นเป็นตอน เช่นนั้นความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเลย

    ดั่งที่เกริ่นไว้ พ่ออาจารย์ท่านดำริมาแต่เริ่มว่าตะกรุดมหาโองการนั้นเป็นของสำคัญยิ่งยวด ซ้ำจะเป็นอันตรายเมื่อไปอยู่ในมือของพวกมิจฉาทิฏฐิ จึงไม่ควรเผยแพร่ไปในวงกว้าง ควรมีตกไว้เป็นสิ่งสืบทอดในหมู่ชนที่เดือดเนื้อร้อนใจตกทุกข์ได้ยาก ต้องการพึ่งบารมีพระ บารมีเทพจริงๆเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงจะเปิดให้บูชาเพียงครั้งเดียว วาระนี้หนเดียวและจะไม่นำออกมาให้ปรากฏแก่ตาโลกอีก โดยท่านเมตตาให้ตั้งราคาไว้ไม่สูงมากเพื่อที่คนเช่าบูชาจะได้บูชากันได้ทั่วถึง

    วิธีใช้(ควรอ่าน)
    - ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำเร็จ เสกยาก ไม่ต้องมีคาถาอะไรมากำกับ มีแค่เอาไปแล้วก็ใช้ซะ หมั่นใช้ ขยันใช้ ใช้ในเรื่องดีๆเพียงเท่านั้น
    - เมื่อจะใช้ท่านว่าให้เขียนความปรารถนาหรือสิ่งที่อยากบอก อยากร้องเรียนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและม้วนกระดาษนั้นๆไว้
    - นำตะกรุดจบหัวและกราบไหว้ระลึกถึงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ สวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเป็นปกติ
    - เมื่อเสร็จกิจพิธีการแล้ว ให้นำกระดาษข้อความนั้นสอดใส่ไว้ในตะกรุด อธิษฐานตั้งใจฝากฝังความทุกข์ เรื่องเร่งด้วน ข้อเหตุการณ์ช่วยเหลือต่างๆถึงเสด็จพระใหญ่หรือครูบาอาจารย์เทพยดาต่างๆที่เราเคารพ
    - เมื่อใช้เสร็จเห็นผลแล้วให้นำความที่เขียนนั้นออกและเขียนสิ่งใหม่ๆตามวาระโอกาสต่อไป


    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิธีใช้ก็ง่ายๆมีเพียงเท่านี้ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด * แต่ให้จำเอาไว้ ตะกรุดดอกหนึ่งขอได้หนึ่งเรื่อง ไม่ควรเขียนอะไรที่เยอะมากหรือมากความ ท่านว่าถ้าจะให้เร็วหรือมีเรื่องที่จำเป็นต้องขอพร้อมกันหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่หนุนเนื่องกัน ต้องการความสำเร็จพร้อมๆกันอย่างขาดไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องใช้หลายดอกให้เหมาะสมตามสถานการณ์ความเป็นไป

    *ตะกรุดสำคัญวิชามหาโองการนี้ พ่ออาจารย์ท่านเปิดวิชาและทำไว้ให้บูชาเป็นสาธารณะเพียงวาระเดียวเท่านั้น ท่านว่าใครที่บุญยังมีวาสนายังหนุนส่งอยู่บ้าง ของๆเขาเดี๋ยวเขาก็มาเอาไปเอง แต่ใครที่กรรมมันบังหรือถึงคราวเคราะห์อย่างถึงที่สุดแล้ว จะทำอย่างไรก็จะไม่ได้ไปใช้เป็นแน่นอน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2019
  6. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    คันฉ่องดูดพลังจักรวาลแว่นฟ้าบาปวิบัติ(พระสิขีพุทธเจ้าส่องประทีบ)

    ให้บูชา 900 บาท

    ปิดรายการโดยคุณ powernext

    IMG_20190915_014212.jpg IMG_20190915_014236.jpg

    อ้างอิงจาก
    https://palungjit.org/threads/ร่วมทำบุญบูชา-ดวงแก้วกำลังพระจักรพรรดิ์ชะลอกรรม-พ่ออาจารย์พล.548127/page-20#post-10793069

    สืบเนื่องจากวาระที่ท่านทั้งหลายต้องการจะบูชาพระพุทธเรวัตตะ(ไพรีพินาศ)ซึ่งติดจองเต็มอย่างรวดเร็วนั้น ทั้งนี้หลายๆคนได้แสดงความต้องการว่าถ้าไม่ได้ก็ขอเพียงแว่นฟ้าบาปวิบัติก็ยังดี ทั้งอยากได้แบบพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญและใช้บารมีเฉพาะทางเหมือนพระไพรีด้วย

    ทั้งนี้ด้วยความบังเอิญหรือเหตุผลกลใดก็ไม่ทราพ่ออาจารย์ท่านว่ามีคันฉ่องชุดนำฤกษ์อยู่ ซึ่งท่านเทไว้ก่อนสร้างพระพุทธเรวัตตะ ทั้งคันฉ่องชุดนี้ท่านยังนำวิชาเฉพาะทางของสมเด็จพระพุทธสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำตะกรุดคุณวิชาฝังไว้ด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระพุทธสิขีนี้เป็นคนละองค์กับสมเด็จองค์ปฐมนะ ถึงชื่อเหมือนกันแต่ก็ต่างกาลต่างวาระเป็นยุคหลังองค์ปฐมลงมา ดังจะยกประวัติคร่าวๆชองพระองค์ลงไว้เพื่อใช้แยกแยะ ดังนี้
    ในคัมภีร์มธุรัตถวิลาสินีระบุว่า หลังจากที่พระสิขีโพธิสัตว์จุติจากการเป็นท้าวสันดุสิตแล้ว ได้ทรงปฏิสนธิในครรภ์ของพระนางปภาวดี พระอัครมเหสีในพระเจ้าอรุณแห่งกรุงอรุณวดี ได้รับพระนามว่าเจ้าชายสิขี เมื่อเจริญพระชนม์ขึ้นได้เสกสมรสกับพระนางสัพพกามา มีพระโอรสด้วยกันพระองค์หนึ่งชื่อเจ้าชายอตุละ เมื่อดำรงค์พระชนมายุได้ 7,000 พรรษา ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง 4 จึงตัดสินพระทัยทรงช้างต้นออกผนวชโดยมีข้าราขบริพาร 137,000 คน ตามเสด็จออกบวชด้วย บำเพ็ญอยู่ 8 เดือนจึงตรัสรู้ แล้วออกประกาศพระศาสนา ทรงตั้งพระอภิภูและพระสัมภวะเป็นพระอัครสาวก พระเขมังกรเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระสขิลาและพระปทุมาเป็นคู่พระอัครสาวิกา สมเด็จพระสิขีพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพานที่วัดอัสสารามวิหาร กรุงสีลวตี สิริพระชนมายุได้ 70,000 พรรษา


    แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์จะเป็นสัพพัญญูผู้รู้แจ้งในทุกโลกเสมอกัน แต่บารมีเฉพาะทางอันเป็นอุปนิสัย เป็นพุทธวิสัยที่ติดตัวมาแต่อดีตชาติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็แตกต่างกันไป จากการที่ได้ฝึกฝนบำเพ็ญบารมีมาแตกต่างกันนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระพุทธสิขีพุทธเจ้านี้ท่านอุบัติมาในสมัยที่ชนทั้งหลายในโลกติดอยู่กับความมืดบอด มีความเห็นผิดแยกแตกต่างกันรุนแรง และยังดำเนินชีวิตกันไปในหนทางที่ผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จท่านต้องใช้เวลาถึงเจ็ดพันปี เจ็ดพันปีนี้เพื่อวางรากฐานสังคม เพื่อนำทางแก้ไขความมืดบอด ความเห็นผิด ความหลงผิดทั้งหลายในชนชั้นที่แตกแยกกันอย่างรุนแรงให้ประสานสามัคคีกัน แม้ออกผนวชสำเร็จเป็นพระบรมศาสดาแล้วพระองค์ก็ยังโปรดที่จะสงเคราะห์สัตว์โลกและพุทธบริษัททั้งหลายที่มีชีวิตมืดแปดด้าน หาทางออก ทางที่เหมาะสมคู่ควรกับการดำเนินชีวิตไม่ได้

    ด้วยพระเมตตาอันใหญ่และมหากรุณาอันยิ่ง บารมีของสมเด็จพระพุทธสิขีนี้ จึงเป็นบารมีเฉพาะทางที่จะช่วยพลิกชีวิตคนอันตกอยู่ในหนทางมืดมนไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตดี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสมเด็จท่านนั้นเป็นดุจดั่งดวงประทีปที่ฉายรัศมีปัดเป่าความขัดข้องออกไป หากได้สงเคราะห์ใครแล้วก็ดุจชีวิตเขาได้พบเจอหนทางเดินใหม่ ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดหนทางที่ปิด ขจัดเมฆหมอกอันมืดมัวในโลกสงสาร

    ด้วยมนุษย์ทุกวันนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้บางคนจะผ่านเวลามาครึ่งชีวิตแล้วก็ตามที แต่เขาก็ยังไม่รู้หน้าที่ ไม่รู้กิจที่ตนควรจะทำ ไม่รู้คำว่าเมื่อถึงเวลา เมื่อเวลามาถึง เวลานั้นคือเมื่อไหร่ มีแต่ต้องถอยร่นตกหล่นจนตายสิ้นชาติภพกันไปก็ยังไม่เข้าใจคำว่ายังไม่ถึงเวลา ด้วยความเห็นที่ผิดพลาดทั้งการสำคัญตัวผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งนั้นรังแต่จะประวิงเวลาให้ความสว่างความสงบในชาติภพนี้ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ซ้ำกรรมยังซ้อนทับกันให้ชาติภพใหม่ก็ไม่อาจพานพบ ดังนั้นท่านจึงได้ขออนุญาติใช้วิชาของสมเด็จพระพุทธสิขี ตลอดจนบารมีเฉพาะทางของพระองค์ท่านมาสงเคราะห์เพื่อเป็นแสงสว่างขับไล่ความมืดมน ขับไล่เมฆหมอกลางร้าย หายนะ จิตมาร และห้วงแห่งความผิดพลาดต่างๆ ให้ชีวิตที่มืดแปดด้าน หาทางเดินไม่เจอ หาทางออกไม่ได้ ให้คนที่เกิดมาไม่รู้หน้าที่อยู่ในสิ่งที่พึงกระทำ

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลงอักขระพระเจ้าส่องประทีปพร้อมทั้งขอบารมีสมเด็จพระพุทธสิขีสำเร็จตะกรุดนั้น ท่านว่าเราขอให้พระองค์ท่านเปิดทาง ส่องสว่างชีวิตที่มืดมน ใครที่ตาบอดมืดมัวด้วยอกุศลกรรมใดๆปิดกั้นอยู่ท่านว่านี่ใช้ได้เลย ถ้าพวกไหนชอบจับพลังพ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาพระเจ้าส่องประทีปนี่เอาให้จับไปเลยเขาจะพบเจอแต่แสงสว่างที่ไม่รู้จุดสิ้นสุดเป็นพลังงานที่จะทำลายความติดขัดมืดมนในอัตภาพตัวตนที่ติดกับชาติภพทุกรูปนาม

    ในส่วนของวิชานี้ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่างน่าคิดว่ ถามหน่อยสิ ชีวิตใครบ้างที่มันจะส่องสว่างได้ตลอดเส้นทาง ไม่ตก ไม่มืดดับอับแสงเลย ในช่วงที่ชีวิตมืดบอดนี่แหละบางคนก็เสียเวลาอยู่กับมันทั้งชีวิต บางคนก็ล้มไปแล้วไม่สามารถกลับมาลุกยืนขึ้นได้อีก ซึ่งในจุดที่พลิกกลับนั้นหากมีดวงประทีปดวงหนึ่งส่องนำทางให้เธอล่ะ ในความมืดของชีวิตเธอยังมีแสงสว่างปัดเป่าและเป็นเชื้อเพลิงเติมให้จิตวิญญาณเธอตลอดเวลาอยู่ล่ะ ในเมื่อมีทางให้ไป มีแสงสว่างให้เดิน มีพลังงานลึกลับที่จะฉุดยื้อไม่ให้เธอตกลงไปได้ ในหนทางอันมืดบอดกับคนที่มีแสงสว่างนำทางมันก็ต่างกันถึงเพียงนั้น ..เพราะแสงสว่างของสมเด็จพระพุทธสิขีที่จะสถิตย์อยู่กับชีวิตของเธอต่อจากนี้ได้ชื่อว่ามีกำลังแรงกล้ายิ่งกว่าตะวันพันดวงเสียอีก

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดสำเร็จวิชาที่ขอบารมีพระพุทธสิขีดีแล้ว มาฝังไว้ในแว่นฟ้าบาปวิบัติด้วยความตั้งใจของท่าน เพื่อเป็นการเพิ่มพลังงานและขยายวงจรให้แว่นฟ้ามีแสงสว่างดุจตะวันพันดวงเบิกทางเปิดชีวิตให้กับผู้ถือครองได้

    แว่นฟ้าบาปวิบัติ พ่ออาจารย์ท่านได้ทำแว่นฟ้าบาปวิบัติขึ้นโดยอาศัยคติการสร้างคันฉ่องแต่โบราณที่ใช้รวบรวมพลังมงคลแห่งจักรวาลเพื่อหนุนเสริมบารมี วาสนา ยศถาบรรดาศักดิ์ ความก้าวหน้าในตำแหน่ง ความเจริญในหน้าที่การงาน ทั้งเสริมดวงให้แก่ผู้ครองครองบูชาได้มีพลังอำนาจเหนือดวงดาวด้วยพลังจักรวาลทั้งสามารถปกป้องคุ้มภัย ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีขับไล่เสนียดจัญไรโรคาพยาธิทั้งหลายให้มลายสิ้นไป

    อันแว่นฟ้านั้นท่านว่าแม้ได้ถือครองจะอุดมพรั่งพร้อมไปด้วยลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุขดั่งมหาเศรษฐี อายุยืนตลอดกาล และจะปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งที่เป็นอัปมงคลใดๆทั้งปวง ทั้งป้องกันเสนียดจัญไร ป้องกันลมเพลมพัด ป้องกันภูตผีปีศาจ

    ด้วยคันฉ่องหรือแว่นฟ้านี้สำคัญนักเพราะใช้ได้ทั้งกันทั้งดูดในคราวเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะดูดพลังจักรวาลมาเสริมส่งมงคลแก่ผู้ครอบครองแล้ว ยังดูดพลังวิญญาณร้าย พลังงานด้านลบทั้งหลายมาใช้เป็นอำนาจให้แก่ตนเองได้อีกด้วย เมื่อได้พกติดตัวก็จะสลายพลังร้ายในร่างกายเราได้ทั้งหมดเพราะเขาสังเคราะห์พลังงานทั้งจากในร่างกายเราและจักรวาลมาทำงานร่วมกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวแว่นฟ้านั้นเป็นสิ่งเล็กๆที่สร้างให้เกิดวงจรอันยิ่งใหญ่ เพื่อสนองตอบกับปัจจัยสี่ข้อหนุนเสริมผู้ครอบครองคือ
    - ความยิ่งใหญ่
    - ความสุข
    - ความมั่งคั่ง
    - ความไม่มีโรคมีอายุยืนยาว

    ซึ่งปัจจัยทั้งสี่นี้ท่านว่าเป็นเสมือนพรมงคลที่แม้แต่ทวยเทพยังทำให้ไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก ทั้งแว่นฟ้ายังเป็นสัญลักษณ์แสดงอำนาจเหนือกรรมลิขิตของพระบรมบิดาพรหมเทพ

    ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเสกและใช้แว่นฟ้าเพื่อรวมศูนย์พลังงานจักรวาลอันเป็นพลังมงคลที่ต่อต้านความหายนะ พินาศ ฉิบหายของอกุศลและความมัวหมองได้อย่างน่าฉงน ท่านจึงให้ชื่อแว่นฟ้านี้ว่าบาปวิบัติ

    อันพลังที่ขัดเกลาอกุศลตรงนี้เกี่ยวข้องกับวงจรใหญ่ ท่านว่าเปรียบได้กับการสร้างวงจรใหม่ขึ้นไปทดแทน ถึงจะเป็นวงจรเล็กๆแต่ก็เป็นวงจรใหม่ที่ใช้เปลี่ยนได้ทั้งหมด อาศัยอำนาจพลังมงคลของจักรวาลที่แว่นฟ้าจะรวบรวมไว้ตลอดเวลาลดทอนหายนะ อกุศลกรรมและความพินาศที่จะเกิดแก่ผู้ถือครอง

    *** เหนือสิ่งอื่นใดแว่นฟ้านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกยากมากเพราะเขามีอาถรรพ์ให้คุณเหนือกว่าเทวดาเจ้าบุญนายคุณนับสิบเท่า ทั้งยังดีทางด้านการพนันเสี่ยงดวงทั้งหลายด้วย โดยนัยน์ของแว่นฟ้านี้ท่านว่าแม้เราอยากได้ใครไม่ว่าจะคน จะเป็นสิ่งของหรือที่ดินทั้งหลาย ให้เราส่องแว่นฟ้านี้ออกไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเสมือนเงาสิ่งนั้นได้ถูกดูดไว้ในคันฉ่องแล้วท่านว่าพูดมากไม่ได้แต่เอาว่าได้แน่ๆ

    แว่นฟ้าหรือคันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความสำคัญอยู่มาก แม้ตอนเสกเองท่านได้เชิญเสด็จพระใหญ่มาเสกซึ่งท่านก็มาดูด้วย ท่านว่า "คันฉ่องนี้มีความลับอีกมากมายที่เธอบอกเขาได้ไม่หมด ร้อยเรื่องพันเหตุการณ์ เขาจะไปประสบพบเจอกับปาฏิหาริย์ที่คู่ควรกับวาสนากันเอง ท่านว่าฉันเห็นไม่บ่อยหรอกนะที่ใครจะเชิญท่านพุทธสิขี ขอบารมีท่านสงเคราะห์คนเช่นนี้" (ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะบารมีพระพุทธสิขีนั้นเป็นแสงสว่างที่มีกำลังดุจตะวันพันดวง ท่านจะเผาผลาญความมืดบอดและขลาดเขลาทั้งหลายให้ย่อยยับไป)

    ด้วยวิชาคันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านทำให้เป็นเครื่องสูง เป็นของสูง ท่านว่านับแต่สมัยโบราณคันฉ่องถือเป็นของใช้งานเฉพาะจักรพรรดิ เป็นของแสดงพระราชอำนาจที่จะเลือกมอบให้แก่ใคร เป็นของแทนตัวพระจักรพรรดิ แม้มีทรัพย์สินเงินทองปานใดก็ไม่สามารถสร้างคันฉ่องได้ด้วยจะถือว่าเป็นกบฏทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าคันฉ่องนี้ก็เช่นกัน ท่านทำให้เป็นของสูงเสกตามศาสตร์ทุกศาสตร์ทีละเรื่อง เพราะเป็นชุดพิเศษ จึงเสกลงอาถรรพ์ของคันฉ่องโดยเฉพาะแยกออกมา ท่านว่าพกไว้เถอะ ดุจเรามีความน่าเกรงขาม มีพลังงานของโอรสสวรรค์คอยหนุนฐานชีวิต

    ท่านว่าที่สำคัญที่สุดเลย คันฉ่องนี้พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้เชื่อมโยงกับแว่นฟ้าของบรมบิดาพรหมเทพ ทุกความเป็นไป ทุกปัญหาและอุปสรรคมากมายในชีวิต จะฉายเป็นภาพขึ้นตรงกับพระบรมบิดา ท่านว่าเราบอกได้เท่านี้ แต่เราเองก็ขอท่านไว้แล้ว เรื่องไหน ใครเจออะไร ถ้ามันจะทำให้ชีวิตเขาแย่ลง เรื่องนั้นเราขอให้พระบรมบิดาท่านสงเคราะห์ทันที อย่าให้เหตุการณ์อันนำมาซึ่งความวิบัติรุนแรงเกิดขึ้นได้

    คาถาบูชา
    (พ่ออาจารย์ท่านว่าแว่นฟ้านี้เป็นของวิเศษ มีจิตสำนึกในตัวเอง เขาแรง เขาไวด้วยตัวของเขาอยู่แล้ว ให้อธิษฐานใช้งานได้เลยไม่ต้องอาราธนาอะไร เพียงแต่ระลึกถึงชื่อสมเด็จพระพุทธสิขีท่านเท่านั้นก็พอ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  7. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    จองครับ
     
  8. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  9. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    ผมโอนเงินให้ตามรายการที่จองเรียบร้อยแล้วครับ
    รายละเอียดตามPMครับ
     
  10. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ พรุ่งนี้จัดส่ง ems ให้นะครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  11. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  12. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอบคุณครับ ที่แจ้งให้ทราบ
     
  13. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  14. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอบคุณครับ ที่แจ้งให้ทราบ
     
  15. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    จองรายการนี้ครับ
     
  16. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  17. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอบคุณครับ ที่แจ้งให้ทราบ
     
  19. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +3,290
    จอง3รายการนี้ครับ
     
  20. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...