"โลกของเปรต"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 29 พฤษภาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    "โลกของเปรต"

    เปรต เป็นอะไรที่เราได้ยินได้ฟังมาแต่เด็ก มักเชื่อกันว่าอยู่ใกล้ๆ วัดวาอาราม คอยขอส่วนบุญจากผู้คน โดยแท้จริงแล้วในคติของพระพุทธศาสนานั้น เปรตโดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้เขาสิเนรุ ในซอกเขาตรีกูฎ

    เปรตบางพวกเท่านั้นที่อยู่ซ้อนทับกับภูมิอื่นเช่น โลกมนุษย์ โลกอสูร และ นรกภูมิ

    เปรตเป็นโอปปาติกะ ที่เกิดทันที โตทันที มีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว มีชีวิตอย่างทุกข์ยากลำบาก มีสุขน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย แต่ก็ยังดีกว่า สัตว์นรกหรือสัตว์เดรัจฉานบางพวก

    เปรตยังพอสร้างกุศลได้บ้าง ด้วยการโมทนาบุญในบุญที่มีผุ้อุทิศให้

    เปรตนั้นยังมีผู้เป็นใหญ่ในหมู่เปรตด้วย คือ "มหิทธิกเปรต" ซึ่งเป็นเปรตกึ่งเทวดา เสวยสุขเหมือนเทวดาแต่ก็ต้องกินของเสียเป็นอาหาร และถูกทรมานด้วยสัตว์พยศ

    เปรตอีกชนิดหนึ่งที่เป็นเปรตกึ่งเทวดา คือ "เวมานิกเปรต เสวยสุขเป็นเทวดาในกลางวัน แต่กลายเป็นเปรตในกลางคืน ต้องกินเนื้อตัวเอง

    เปรตที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เรามักโดนขู่ให้กลัวคือ "กาลกัญจิกเปรต" คือ เปรตที่มีปากเท่ารูเข็มอยู่กลางหัว ตัวใหญ่ ไร้เรี่ยวแรง ผิวซีดเหมือนใบไม้ ตาถลนออกมาเหมือนปู

    ส่วนเปรตชนิดเดียวที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นอุทิศได้ และสามารถรับส่วนบุญผู้อื่นได้คือ "ปรทัตตูปชีวีเปรต"

    เปรตบางจำพวกก็จะมีลักษณะเป็นนักบวชเช่น ภิกขุเปรต ภิกขุณีเปรต สิกขมานาเปรต สามเณรเปรต และ สามเณรีเปรต เพราะสมัยที่เป็นมนุษย์ได้บวชแล้วได้ทำผิดวินัยบางอย่างไว้ก่อนตาย

    เหตุแห่งกรรมที่นำไปเกิดเป็นเปรตก็คือ "จิตละโมภ และหลงผิด"

    คนที่คิดเอาแต่อยากจะได้ของๆ คนอื่น ขี้อิจฉาริษยามักจะมีจิตเหนี่ยวนำให้ไปเกิดในภพภูมินี้

    ผู้ที่จะไปเกิดเป็นเปรตก่อนตายจะเห็นแต่สถานที่วังเวง เลือด น้ำหนอง สิ่งสกปรก และรู้สึกหิวกระหาย ไขว่คว้าต้องการก่อนจะสิ้นใจ

    เรื่องราวของเปรตนั้นมีตัวอยางอีกมากมาย รวมถึงวิธีพ้นจากภพภูมิเปรตได้ ติดตามในตอนหน้า

    ****
    เครดิต สนพ. เสบียงบุญ
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เปรตพ้นทุกข์ได้ หากได้รับและโมทนาบุญ

    เรื่องราวเกี่ยวกับเปรตวิสัย มีเรื่องราวที่น่าสนใจจากครูบาอาจารย์ หลวงปู่ จันทา ถาวโร

    ในปี พ.ศ.2503 หลวงปู่จันทา ถาวโรได้จำพรรษาที่บริเวณป่าช้าวัดบ้านหัวดง อ.เมือง จ. นครพนม

    คืนหนึ่งขณะที่ท่านกำลังเดินจงกรมกำหนดสมาธิภาวนา เมื่อจิตรวมเป็นหนึ่งแล้วก็เกิดแสงสว่างขึ้นมาในใจ ขณะเดียวกันท่านก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมาต้องจมูกอย่างแรงจึงได้ลืมตาขึ้นมาดู

    สิ่งที่ปรากฏให้เห็นต่อหน้าของท่านก็คือเปรตหญิง 3 ตนสูงใหญ่มาก ลักษณะเหมือนคนอีสานโบราณไม่ใส่เสื้อผ้ายืนห่างจากหลวงปู่อยู่ไกล

    ทั้งสามตนมีร่างกายที่เน่าเหม็นเต็มไปด้วยน้ำหนองพากันเอาของลับของตัวเองถูกับเถาไม้ เครือไม้อย่างเอาเป็นเอาตาย มีหนอนปากขอหลุดร่วงออกมาจากบริเวณของลับ แล้วก็ไต่ขึ้นไปยังต้นไม้ถูตัวเองอย่างนั้นใหม่ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

    หลวงปู่จึงได้ถามถึงบุพกรรมของเปรตทั้ง 3 ตนว่า “พวกเจ้าไปทำกรรมอะไรมาหรือถึงต้องมารับกรรมอันน่าเวทนาเช่นนี้”

    เปรตทั้งสามตนจึงได้เล่าให้หลวงปู่ฟังว่า

    “แต่ก่อนเราทั้งสามคนเกิดในหมู่บ้านนี้ได้กระทำการเล่นชู้ นอกใจสามีสำส่อนกับผู้ชายไม่เลือกหน้า ไม่เว้นแม้แต่คนเป็นพระสงฆ์องค์เจ้า”

    หลวงปู่จึงได้กำหนดจิตเข้าสมาธิภาวนาจึงทราบว่าเปรตทั้งสามตนนั้นเคยเกิดมาเป็นญาติกันมาในชาติก่อน ท่านจึงรับปากช่วยแต่มีข้อแม้ว่าเปรตทั้งสามจะต้องปฏิบัติธรรมช่วยตัวเองด้วยเพราะไม่มีสิ่งใดสามารถลบล้างกรรมได้นอกจากการถือพระรัตนตรัย และตั้งภาวนาพุท-โธ อยู่ตลอดเวลา

    ส่วนตัวหลวงปู่เองจะไปบอกชาวบ้านให้ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้อีกแรงหนึ่ง เปรตทั้งสามตนได้ยินแล้วก็รับคำว่าสาธุแล้วค่อยๆ หายตัวไป

    เช้าวันต่อมาหลวงปู่จึงเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านและเล่าเรื่องเปรตให้เหล่าญาติโยมฟังและขอให้ญาติโยมทั้งหลายช่วยกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ เพราะอย่างน้อยเปรตทั้งสามก็เคยเกิดมาในหมู่บ้านแห่งนั้นและอาจเป็นญาติของใครคนหนึ่งก็ได้

    ชาวบ้านจึงได้พากันน้อมใจใส่บาตรและทำบุญแก่หลวงปู่ และกรวดน้ำไปให้เปรตนั้น

    เวลาผ่านไปหลายเดือนจนวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่ยืนภาวนาอยู่ในบริเวณป่าช้า เปรตทั้งสามตนก็ได้ปรากฏกายต่อหน้าหลวงปู่อีกครั้ง

    แต่คราวนี้แตกต่างจากคราวก่อนอย่างสิ้นเชิง คือทั้งสามตนมีลักษณะผิวพรรณที่สวยงามมีรัศมีออกมาจากกาย รูปลักษณะก็สวยงามเป็นหญิงสาวสามคน

    ทั้งสามเข้ามากราบหลวงปู่และบอกว่า ทั้งสามคนก็คือเปรตที่หลวงปู่อนุเคราะห์ช่วยเหลือไว้

    หลวงปู่จึงได้กล่าวสั่งสอนไว้ว่า

    “พวกเจ้าจงจำไว้เถิดว่าบุญบาปนั้นมีจริง อย่าได้ทำบาปเพราะเห็นแก่ความสนุกสนานเพียงชั่วครู่ชั่วยาม เพราะผลกรรมที่ตามมามันสุดแสนทรมานและหนักหนายิ่งนักอย่างที่พวกเจ้าได้รับและประจักษ์แก่ตัวเองมาแล้ว”

    เปรตทั้งสามตนกล่าวรับโอวาทและจากไปสู่สุขคติโดยไม่ปรากฏกายอีกเลย

    คุณเชื่อเรื่องนี้หรือไม่แล้วแต่วิจารณญาณ
    อย่างไรก็ตามพึงเข้าใจเสมอว่า "ทำดีได้ดี ทำชัวได้ชั่ว"

    .............
    เครดิต สนพ. เสบียงบุญ
     
  3. อริยะบุคคล

    อริยะบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +476

แชร์หน้านี้

Loading...