ใครคือ ฅนขลัง คลังวิชา ตัวจริง

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย ยลไตรเพ็ชร, 28 มกราคม 2013.

  1. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    เปนเพียง ข้อสันนิษฐานของแต่ละท่านเท่านั้นที่ผมยกมา ผมไม่ได้บอกหรือฟันธงเลยว่าเปนใคร แต่ที่ผมยกเอาคำของหลวงพ่อสงกรานต์มาเพราะได้สอบถามและได้ทราบจากปากของท่านเท่านั้น เพราะท่านเปนศิษย์ก้นกุฏิ และอยู่กับหลวงพ่อตลอด หลวงพ่อท่านมักเล่าอะไรให้ฟังเสมอ คุณอย่าใช้อารมย์ในการตัดสินว่าข้อมูลใครผิดหรือถูกเลยครับ เพราะคุณเองก้ไม่เคยรับรุ้อะไรจากปากของหลวงพ่ออภิชิโตเลยใช่ไหม หัดทำใจให้กว้างและเปนกลางเถอะครับ เพื่อมิตรภาพคุณอย่าทำอย่างฅนขลังซึ่งไม่รับฟังใครเลยครับ
     
  2. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    คุณยลไตรเพร็ช หัดทำใจให้กว้างและเปิดรับความคิดเหนคนอื่นบ้างนะครับ ผมขอร้อง ที่ผมนำมาเล่าคือผมได้ข้อมุลมาจากศิาย์ใกล้ชิดและยืนยันได้ ไหนล่ะครับข้อมูลที่คุณว่ามีรูปหลวงพ่อแปลงสัตว์กรุณา นำมาลงให้เพื่อนสมาชิกได้ชมเปนบุญตาสักหน่อยสิครับและกรุณาอ้างอิงที่มาด้วยนะครับ ขอบคุณ ผมอยากให้กระทุ้นี้ใครมีอะไรข้อมูลอะไรก็นำมาแชร์กันไม่ใช่ว่าทำตัวว่าข้ารู้ทุกเรื่องแต่ผู้เดียวคนอื่นไม่มีสิทธิ์รู้เท่าอย่าง ฅนขลังชั่วทำน่ะครับ
     
  3. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    แต่ถ้าอยากรู้คนเดียวก็ทำไปครับหรือขอแชร์ฅนเดียวก็บอกนะครับ หรือรำคาญผมจะได้ไม่เข้ามาอีกขอบคุณนะครับ
     
  4. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    ผมขอแจ้งให้เพื่อนสมาชิกทุกท่านได้ทราบสิ่งที่นำมาบอกเล่าให้เพื่อนๆๆรู้กันนั้น ผมได้รับฟังมาจากศิาย์ใกล้ชิดของท่านคือหลวงพ่อสงกรานต์ วัดทอง จรัญ35 ซึ่งท่านได้รับข้อมูลมาจากหลวงพ่ออภิชิโตอีกครั้งปัจจุบันยังอยู่ไปสอบถามกันได้ กระผมไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น มีอย่างเดียวคือเทิดทูนครูบาอาจารย์ไว้เหนือเศียรเกล้ามีอีกหลายเรื่องที่ท่านเมตตาเล่าให้กระผมทราบ ทั้งพิสดารและธรรมดา การฝึกกระโดดหน้าผาที่เหวสุวัต เขาใหญ่นั่นเปนการฝึกเข้าฌาณกลางอากาสให้ เปน วสี ที่แสนจะพิสดาร แต่ได้มาซึ่งสมาธิขั้นสูงของหลวงพ่อ แต่นี้ไปผมขอมอบหน้าที่การถ่ายทอดเรื่องราวนี้ ให้แก่คุณยลไตรเพช็รครับ
     
  5. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    คุณ ช.40 ครับ การที่ผมแจ้งว่า ครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อฯได้ไปฝึกมานั้น เราๆท่านๆคงไม่ทราบดีแน่ว่าเป็นใคร คุณให้ข้อมูลมาว่า



    " หลวงปู่ดำท่านเปนศิษย์พระมหากัสสปะ คอยส่งต่อพระศาสนาให้พระศรีอาริย์ ท่านอธิษฐานอิทธิบาท4ไว้ และอยู่คอยฝึกพระที่มีวาสนาให้เปนพระแท้ สืบทอดแก่นแท้พระศาสนาต่อไปผมอ้างตามคำบอกหลวงพ่อสงกรานต์นะครับ เราจะเห็นได้ว่าวาสนาบารมีหลวงพ่ออภิชิโตนี้สูงส่งจริงๆๆท่านบำเพ็ญมาหลายชาติแล้ว ถึงขั้นหลวงปู่ใหญ่มารับตัวไปเรียนในหิมพานต์เลยและเรียนโดยตรงกับท่าน อีกด้วย "



    และอีกข้อความหนึ่ง คือ



    " ถูกสิ่งที่หลวงพ่อท่านพบเปนเรื่องเหลือเชื่อครับ ที่นำมาเล่าก็เพื่อแสดงให้เหนว่าหลวงพ่อมีบุญบารมีมากเพียงใด ท่านคงบำเพ็ญญาณบารมี มาแต่ครั้งพุทธกาลถึงได้เปนศิษย์พระอรหันต์ในครั้งกระโน้น ผมขอบอกนะครับ บางกระแส อย่าง อาจารย์ น ท่านเชื่อว่าหลวงปู่ดำ องค์ที่ว่า คือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดา เอกในโลกเลยทีเดียว ทุกอย่างเปนอจินไตร รู้ได้เฉพาะผู้ปฏิบัติเท่านั้น ดังพุทธดำรัส ผู้ใดเหนธรรม ผู้นั้นเหนตถาคต นั่นแล "



    นั่นไม่ได้หมายความว่ารู้กันแน่ชัดแล้ว ใช่ไหมครับ? แล้วที่ผมแจ้งไปก็หมายถึงอย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้เราก็ยังไม่ทราบ แต่ผู้ที่เข้ามาอ่านแล้วจะคิดอย่างไร? ก็ต้องเดากันไปต่างๆนานา ผมจึงนำข้อมูลที่ว่า หลวงพ่อฯยังไม่ทราบในขณะนั้น ก็เท่ากับว่าเป็นปริศนาอยู่ ยังยืนยันไม่ได้แน่ชัด


    ที่คุณบอกมาว่ารับทราบจากท่านหลวงพ่อพระมหาสงกรานต์มาก็ใช่ครับ ผมเองก็ยังเคยไปฟังท่านเล่าอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่สมัยที่ท่านอาจารย์พันเอกชมฯยังแข็งแรงอยู่ ก็มีอยู่หลายเรื่องที่ได้ยินจากปากท่านพระมหาสงกรานต์มากับหูตนเองและยังจำได้ดี...



    และที่สำคัญ ผมไม่ได้ตัดสินเลยแม้แต่น้อยว่า " ใครผิดหรือใครถูก " ผมจะไปตัดสินได้อย่างไร? ในเมื่อผมนำข้อมูลมาให้รับรู้กันบางส่วน และก็ไม่ได้ใช้อารมณ์อะไรแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทั้งยังพยายามจำกัดในสิ่งที่ยังไม่ทราบแน่ชัดให้เป็นที่สังเกตและละไว้เพื่อมิให้สับสน ครูบาอาจารย์จะได้ไม่เป็นที่ครหาในความเห็นของผู้ที่เข้ามาอ่านกัน การเทิดทูนครูบาอาจารย์นั้น น่าจะระวังความเห็นที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลที่นำมาให้รับรู้กันด้วย ความเห็นของผมเป็นดังนี้ และก็ยังไม่เข้าใจว่าได้ทำให้เสียมิตรภาพอย่างไร



    ข้อมูลที่คุณได้รับมาก็ดี ผมก็ได้รับทราบด้วยและก็ขอขอบคุณ ส่วนที่ผมไม่ทราบ ผมก็แจ้งตามตรงว่า ไม่เคยทราบ ส่วนที่ผมเห็นว่าไม่แน่ใจ ควรต้องระวัง ก็แสดงความเห็นไว้ ไม่ได้แปลว่า สิ่งที่คุณนำมาแจ้งให้ทราบ เป็นเรื่องถูกหรือผิด นั่นคือการแสดงความเห็นของผม ส่วนผู้ที่เข้ามาอ่านจะมีความเห็นและเชื่อในข้อมูลใด ย่อมมีวิจารณญานของตนเอง มองตรงไหนก็ไม่เห็นว่าเป็นการใช้อารมณ์ตัดสินใครผิดใครถูก ทำไมคุณอ่านแล้วเข้าใจอย่างนั้น?



    เรื่องภาพที่หลวงพ่อแปลงใบไม้เป็นสัตว์ นั่นเป็นเอกสารที่อยู่กับผู้ใหญ่ คงต้องไปขอก่อน มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปขอมาครับ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะอนุญาตหรือไม่



    แล้วคุณจะมามอบหน้าที่การถ่ายทอดเรื่องราวอย่างไรให้ผมครับ ผมก็ตอบไปแค่เท่าที่พอทราบมาบ้าง คงไม่บังอาจมีหน้าที่หรือรับมอบหน้าที่จากใครได้ แต่เพราะคุณถามมาหลายครั้ง ก็แค่นั้นเอง หากคุณต้องการถ่ายทอดเรื่องที่คุณทราบมาก็ขึ้นอยู่กับคุณเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ผมจะได้หยุดพักแล้วอ่านบ้าง

    ผมไม่เคยคิดว่าข้อมูลหรือความเห็นที่ตนเองทราบมาจะต้องถูกต้องอยู่คนเดียว ซึ่งจะไปคิดแบบนั้นไม่ได้แน่ และก็พร้อมที่จะรับความเห็นทุกอย่าง

    และนี่ก็แสดงให้เห็นว่า การนำเรื่องราวมาลงไว้น่าจะเป็นปัญหา ซึ่งแต่เดิมผมมีแค่เจตนาบันทึกไว้ให้ลูกหลานอ่านกันเองเท่านั้น ว่าในอดีตมีเรื่องราวของผู้ฝึกจิตอันสามารถบรรลุอภิญญาได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องหลอกลวงไร้สาระ ดังยุคนี้ที่มีแต่การหวังประโยชน์ทางทรัพย์สินและชื่อเสียงดังที่เห็นกันอยู่มากมายในสังคม.
     
  6. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    อ้าว ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมได้ฟังมาจากปากหลวงพ่อสงกรานต์ ส่วนคุณจะคิดอย่างไรก็เรื่องของคุณเถอะครับ ผมไม่มีเวลามาพิมพ์เถียงกับคุณหรอกเชิญสิครับไหนล่ะ รูปหลวงพ่อลงสิครับเหนคุณอ้างมาหลายรอบว่ามี ใครล่ะครับศิษย์รุ่นใหญ่เหนคุณอ้างมาตลอด แจ้งให้เพื่อนสมาชิกทราบสิครับใครมีตัวตนหรือไม่ ผมเหนอ้างมาหลายครั้งมากเพื่อขายพระหลวงพ่อ คุณอย่ามาทำตัวเปนฅนขลังเลยครับ ถ้าจะทำก็เอาให้เนียน แต่นี้ไปผมจะขอดูหลักฐานที่คุณว่ามีพร้อมเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ ผมจะไม่ขอโพสอะไรอีก แล้วแต่คุณเลยนะครับตามสบาย ผมพร้อมเพื่อนสมาชิกจะขอดูหลักฐานที่คุณอ้างมาแต่แรกแล้วกันนะครับ
     
  7. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    หัดวิเคราะห์ คำว่าสันนิษฐาน ให้ดีนะครับ ผมไม่ใช่คนเก่งและไม่เคยอวดเก่งหรืออวดตัวว่าเปนผู้รู้อยู่ฝ่ายเดียว เพื่อนสมาชิกมีอะไรก็นำมาแชร์กันครับเพื่อเทิดเกียรติคุรหลวงพ่อ และเรามาขอดูหลักฐานของนาย ยลไตรเพช็ร คนนี้กันครับ เขาคงมีมาให้เราดูกัน
     
  8. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    ผมไม่ฟันธงนะครับ หลวงพ่อสงกรานต์ท่านเคยสอบถามเกี่ยวกับหลวงปู่ดำโดยท่านเล่าว่าหลวงพ่ออภิชิโตเคยสอบถาม แต่ท่านไม่บอก บอกแต่เพียงเลาๆ ว่า ท่านเปนศิษย์ของพระมหากัสสปะ (แต่ไม่บอกชื่อของท่าน)เคยได้ร่วมงานพระศพพระพุทธเจ้า ได้รับมอบหมายตามพุทธบัญชา ให้มีชีวิตอยู่(เจริญ อิทธิบาท4) เพื่อดูแลพระศาสนาและคอยดูว่าใครที่เข้าข่ายญาณว่าพอจะบรรลุธรรมได้ท่านก็จะไปสอนไปนำตัวมาฝึก เพื่อแก่นแท้ของพระศาสนาตามคำสอนพระพุทธเจ้า ขอแจ้งให้เพื่อนสมาชิกทราบเท่านี้ ใครอยากทราบอะไรก็ ไปทำบุญกับหลวงพ่อสงกรานต์ ที่วัดทองแล้วลองสอบถามท่านดู นะครับที่ผมนำมากล่าวนี้เพราะเหนเปนข้อมูลที่ออกมาจากหลวงพ่อท่านซึ่งเปนศิษย์ไม่มีเจตนาในการขายครูบาอาจารย์หรือใดๆๆทั้งสิ้น ขอให้หลวงพ่ออภิชิโตและครูบาอาจารย์ในดงคุ้มครองเพื่อนสมาชิกทุกท่านนะครับ
     
  9. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283


    ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร...




    คุณ ช.40


    1. คุณรับฟังจากหลวงพี่พระมหาสงกรานต์มาแตกต่างจากที่ผมทราบอย่างไรก็เชิญนำเสนอตามสะดวก ส่วนที่ผมรับฟังมาจากใครนั้น ผู้ที่ผมระบุถึงแม้ไม่แสดงนามของท่านผู้นั้น ( ด้วยมารยาท ) ถ้าคุณนำไปถามหลวงพี่พระมหาสงกรานต์ ท่านต้องทราบดีว่าหมายถึงผู้ใด การที่คุณไม่เชื่อก็น่าจะลองไปกราบเรียนสอบถามท่าน ว่ามีบุคคลดังที่ผมได้แจ้งไว้หรือไม๋ ( เช่น คุณลุงที่ช่วยหลวงพ่อฯตัดพิมพ์พระ มีความคุ้นเคยกับหลวงพี่พระมหาสงกรานต์ดี เพราะตอนที่คุณลุงท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ไปเยี่ยมหลวงพี่พระมหาสงกรานต์อยู่บ่อยครั้งที่กุฏิ ( ในวัดทอง ) และยังได้บวชอุทิศกุศลถวายความกตัญญูแด่หลวงพ่อฯพร้อมกับศิษย์อีกท่านหนึ่ง ในปีที่หลวงพ่อฯท่านละสังขาร )



    ส่วนคุณลุงที่เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ หลวงพี่พระมหาสงกรานต์ก็ต้องรู้จักดีครับ เพราะในหมู่ศิษย์เรียกท่านกันด้วยคำนำหน้าว่า " สารวัตร "และแต่ละท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อฯตั้งแต่ก่อนปี 2500 ทั้งคู่



    2. เรื่องภาพก็เช่นกัน คุณเร่งกดดันเพื่อให้ผมนำมาแสดงทั้งๆที่ผมได้แจ้งไปแล้วว่า ต้องไป " ขอ " จากผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ทราบว่าจะอนุญาตหรือไม่? ไม่ได้ยืนยันว่าจะต้องได้มาหรือนำมาลง และถึงขณะนี้ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะต้องนำมาลง คุณใกล้ชิดกับหลวงพ่อพระมหาสงกรานต์ น่าจะกราบเรียนสอบถามท่านดูว่า ท่านมีภาพนี้อยู่บ้างไหม? หากมีอยู่ ก็ขอกราบเรียนท่านได้นี่ครับ เผื่อว่าท่านจะอนุญาต จะได้สะดวกกว่าที่ผมจะไปขอผู้ใหญ่มาซึ่งน่าจะลำบากกว่ามาก


    ส่วนเรื่องที่นำมาแสดงเป็นเรื่องที่นำประสบการณ์ที่ได้ยินได้ฟังมาจากศิษย์ของหลวงพ่อฯบางท่านที่ผมรับฟังมา คุณเองก็เป็นผู้บอกผมให้นำข้ิอมูลมาลง ถ้าจำไม่ได้ก็ช่วยนำมาเตือนความจำดังนี้



    ช40
    " ขออนุญาติพี่ยลครับ พี่พอจะมีบันทึกของหลวงพ่ออภิชิโตของหนังสือสมัยเก่าๆๆ บ้างไหม คือ อยากให้พี่นำบันทึกนั้นมาลง เปนวิทยาทาน ให้พวกเราที่เคารพศรัทธา แต่เกิดไม่ทันได้รู้ ได้ศึกษา กันครับ ถึงปฏิปทา ของครูบาอาจารย์ ครับ ขอบคุณครับ " ( 09-07-2013, 10:30 PM ) หน้าที่ 4 ของกระทู้นี้





    ช40

    " ครับพี่ผมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยกระทู้นี้ยังมีผู้ที่ศรัทธา และระลึกถึงท่านอยู่ เพราะข้อมูลของท่านน้อยมากจริงๆ ยอมรับครับศรัทธาท่านมากจริงๆๆครับ ไปกราบรูปท่านที่วัดทอง อยู่เสมอทึ่งครับ กับการฝึกสมาธิอย่างหนักของท่านแบบเสี่ยงชีวิตจริงๆๆนี่ละครับของแท้ ผมขอรบกวนพี่ช่วยนำบันทึกของคนรุ่นก่อนที่บันทึกไว้มาลงเปนวิทยาทาน สำหรับผู้ที่เคารพศรัทธาได้ศึกษากันได้ไหมครับ ผมเห็นว่าน่าจะเปนประโยชน์ต่ออนุชนร่นหลัง ว่าอย่างน้อยยังมีพระสุปฏิปันโน ที่ปฏิบัติอย่างจริงจังรูปหนึ่งในเมืองไทยครับ " ( 12-07-2013, 08:19 PM ) หน้าที่ 5 ของกระทู้นี้




    ช.40
    " ครับพี่ขอบตุณสำหรับข้อมูลนี้ครับ ขออนุญาติพี่ช่วยนำบันทึกหลวงพ่ออภิชิโตสมัยหนุ่มที่เรียนวิชามาลงให้ศึกษากันได้ไหมครับ รวมทั้งบันทึกเกี่ยวกับหลวงปู่ดำด้วย เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้ทราบกันเปนวิทยาทานครับ มีภาพช่วงที่ท่านแปลงใบไม้ หรืออย่างอื่นก็ขออนุญาติพี่ลงเปนวิทยาทานด้วยนะครับ รับรองว่าไม่มี การนำไปก็อปหาผลประโยชน์เพื้อซื้อขาย อย่างที่ฅนขลัง ชั่ว ทำแน่ครับ ผมเชื่อว่าพวกเราเคารพหลวงพ่อด้วยหัวใจ ไม่ขายครูบาอาจารย์แน่นอนครับ ขอขอบคุณพี่ล่วงหน้าครับ ขอบคุณมาก " ( 13-07-2013, 06:27 PM ) หน้าที่ 5 ของกระทู้นี้


    เมื่อลงแล้วมันน้อยไปไม่ถึงใจคุณ หรือต้องการเห็นภาพ มาถึงตอนนี้ก็จะให้ผมเปิดเผยชื่อบุคคล ซึ่งโดยมารยาทผมไม่ทำ แล้วยังเร่งกดดันให้ผมนำภาพมาลงอีก เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ?


    ผมไม่เคยกล่าวหาว่าคุณเป็นผู้รู้ฝ่ายเดียว มีข้อความตรงไหนครับ? มีแต่คุณคิดไปฝ่ายเดียวจึงมาตั้งคำถามอย่างนั้น แล้วคุณก็มาอ้างว่าจะรอดูหลักฐานอะไรเอาเองอีกล่ะครับ ถ้าเป็นเรื่องให้ระบุชื่อผู้ใหญ่ ผมไม่ทำ


    ถ้าผมไม่ได้มีภาพหรือนำภาพที่คุณบอกว่าเป็นหลักฐานมาลงให้เห็น คุณจะว่าเรื่องที่ผมได้นำมาแสดงทั้งหมดนี้เป็นเรื่องหลอกลวงหรือครับ ทั้งๆที่คุณเองก็นำเสนอเรื่องราวอันพิศดารของหลวงพ่อฯองค์เดียวกัน
     
  10. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    ขอโทดนะครับ คุณอย่าร้อนตัวเลยครับที่ผมเอ่ยชื่อท่านเพราะได้เคยบอกกล่าวท่านแล้วครับและอีกอย่างหนึ่งเพื่อยืนยันให้สมาชิกทราบว่าเรื่องที่ผมมาเสนอผมไม่ได้กล่าว ลอยๆๆ โดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงครับ ส่วนคุณจะเดือดร้อนใจเรื่องเปิดเผยตัวบุคคล หรือไม่น่ะมันเรื่องของคุณครับ ที่จริงน่ะคุณมันก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่พอนะครับ พอมีอะไรมากระทบก้ดิ้นพลาดๆ ผมถามว่าว่า ไอ้ข้อความของคุณที่ ว่า ผมมาว่า ผมจะรู้ว่า หลวงพ่อดำ เปนใครมันหนักกบาลคุณตรงไหนล่ะครับคุณไปห้ามความคิดใครเขาไม่ได้หรอก พอคนอื่นเขามีข้อความอะไรมาคุณ ก็มาแย้งหมดสิ ถ้างั้นเพื่อนสมาชิกมีอะไรไม่ตรงกับคุณ คุณก็ว่าคุณถูกแต่ผู้เดียว ผมเสียใจนะ ที่คุรเปนคนแบบนี้ครับหลงศรัทธา พวกเราครับไอ้คนๆนี้มันไม่ได้ต่างอะไรกับไอ้ (ฅนขลัง)เลยครับ ส่วนภาพ เห็นมันอ้างว่ามีอย่างนั้นอย่างนี้ ไหนล่ะ อย่ามาคิดว่ารู้มากอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่เพื่อนๆๆฅนอื่นเขาไม่รู้นะ
     
  11. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    เอาเปนว่า ถ้าลงแล้วทำลายความรู้ของเพื่อนสมาชิกคนอื่น ก็กรุณาอย่ามาลงเลยนะ สงสัยไอ้บุคคล คนนี้ มันจะเปนไอ้ ฅนขลัง ตัวจริงนะครับ เพื่อน ๆๆ มันคอยแต่จะว่าข้อมูลของคนอื่น คิดว่าอวดรู้อยู่ผู้เดียว
     
  12. ช40

    ช40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +926
    ถ้าไม่ยอมที่จะรับฟังคนอื่นบ้างกระทู้ของคุณคงไปไม่รอดนะ สวัสดี
     
  13. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    คุณ ช.40 นอกจากคุณจะมีปัญหาในการเขียนหรือพิมพ์แล้ว คุณยังมีปัญหาในการอ่านหรือทำความเข้าใจในข้อความอยู่อย่างมาก ซึ่งดูแล้วทั้งหมดคงมาจากสิ่งที่คุณกำลังเป็นอยู่


    ต่อจากนี้ผมจะไม่ตอบโต้อะไรกับคุณอีก เพราะไม่มีประโยชน์ทางการสื่อสารใดๆทั้งสิ้น คุณจะใช้คำผรุสวาทแต่อย่างใดก็ตามแต่อารมณ์ของคุณ ผู้ที่เข้ามาอ่านก็จะเห็นและพิจารณาได้เอง ถ้าคุณเห็นว่าสิ่งที่คุณนำเสนอมาถูกต้อง คุณควรไปเปิดกระทู้ใหม่เพื่อเสนอเรื่องราวที่คุณต้องการ จะได้ไม่ต้องมีวิวาทะกันในนี้อีกต่อไป...
     
  14. องคตชาตรี

    องคตชาตรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +47
    ผมมีข้อสงสัยอยากจะถามคุณยลไตรฯหน่อยครับ
    ผมติดตามอ่านเรื่องของหลวงพ่อท่านมานานแล้วและเรื่องราวของคนขลังในกระทู้เรื่่องสมเด็จเขียวมีการกล่าวเอาไว้ว่า คนขลังเป็นกลุ่มคนหลายคนบ้าง หรือ บอกว่ามีคนสามคนเป็นผู้ให้ข้อมูลต่างๆ แต่ยิ่งติดตามอ่านไปนานๆ ก็เริ่มจะมีวิวาทะรุนแรงเผ็ดร้อน สำนวนภาษาเริ่มเปลี่ยนไป ผมอยากทราบว่าจริงหรือไม่ครับ
    (ถ้าไม่เป็นการรบกวนหรือทำให้รำคาญกรุณาขี้แจงให้ทราบด้วยเพราะคงมีคนคิดเหมือนผมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ขอน้อมรับด้วยใจ )
     
  15. องคตชาตรี

    องคตชาตรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +47
    ถึงพี่ยลฯอีกเรื่องครับ ผมอยากทราบเรื่องเกจิอาจารย์ที่พี่เคยได้ไปสำผัสว่าองค์ไหนดี องค์ไหนเก่งบ้าง เอาทั้งพระและฆารวาสเลย ผมอยากได้ไกด์ไลท์เผื่อจะได้ตามไปหาบ้างหรือตามเก็บของบ้าง (เพราะผมเชื่อว่าพี่ต้องผ่านมาเยอะกว่าจะได้มาพบหลวงพ่อแน่ๆ)
    ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยครับ ขอบคุณ
     
  16. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    ตอบคุณ องคตชาตรี

    กรณีที่ มีการให้ข้อมูลแก่สมาชิกใน fb ว่า คนขลัง มี 3 คนนั้น ถ้าเป็นจริง ทำไมถึงไม่บอกแก่สมาชิกตั้งแต่แรก? เป็นเรื่องบอกเองเออเองทั้งนั้น ทำไมจึงให้ข้อมูลนี้เมื่อเกิดการเปิดเผยเรื่องขึ้นมา ไม่กล้าระบุเอง แต่พยายามปั้นเรื่องให้สมาชิกออกมาบอกใบ้ เป็นการเบี่ยงเบนเรื่องที่ตนเองทำไว้ ให้ผู้อื่นเห็นว่า มีการกระทำร่วมกันหลายบุคคล ให้เป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ เพราะก่อนหน้านี้ก็แสร้งทำเป็นมีคนอื่นเข้ามาโพสต์ใน fb บอกว่าตนไม่ใช่คนขลัง คนขลังไม่ว่างจึงเข้ามาแทนอยู่ครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่ามีการวางแผนเผื่อล่วงหน้าเลยทีเดียว


    ถ้าหากเป็นดังว่าจริง ใครเป็นผู้ใช้ fb ในชื่อคนขลัง password ที่ใช้ก็รู้อยู่คนเดียวและไม่ยอมให้ใครรู้ด้วยแน่ มิฉะนั้นผมคงไม่ต้องมาpost ในบอร์ดพลังจิตแห่งนี้ นอกจากนี้ยังทำการ block ทุกกรณีไม่ให้ใครรู้รายละเอียดทั้งสิ้น แล้วตัด fb ที่ให้ผมไว้เป็นสมาชิกไว้และเพือนรุ่นน้องของผมผู้เป็นเจ้าของภาพถ่ายที่หลวงพ่อฯนั่งยิ้มออกจากสมาชิกเพราะเหตุใด? ถ้าไม่ใช่ต้องการปกปิดสิ่งที่ตนกระทำและเข้าดำเนินการตามแผนของตน

    ที่สำคัญก็ยังไม่กล้าเปิดเผยเพื่อพิสูจน์ ซึ่งถ้าจริงก็ต้องกล้ามาเผชิญกัน ที่อ้างใน fb ว่าเป็นการเปิดเผยความจริงของผู้อื่น หรือความจริงเพื่อเป็นการปกปิดเรื่องของตนเองที่ทำไว้กับคนอีกหลายคน ทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ที่ตนเองวางแผนลวงไว้


    การที่ไปอ้างว่าคนขลังมี 3 คน ก็เพราะอีก 2 คนถูกขอให้ช่วยพาไปหาข้อมูล ( ทั้งยังช่วยหาพระเครื่องจากที่มีผู้เก็บไว้และยังให้ผู้ใหญ่ไปรับปากเจ้าอาวาสว่าจะสร้างศาลาถวายแล้วก็ทิ้งเรื่องเฉย หลังจากรับทรัพย์ก้อนโตไปแล้ว ) ผมเองเป็นผู้เรียบเรียงส่งข้อมูลให้ทาง fb เนื่องจากถูกขอให้ช่วยเพราะได้บอกว่าต้องการทุนไปเปิดกิจการใหม่ และต้องการทำหนังสือออกจำหน่าย โดยผมได้มีข้อแม้ว่าหากจะทำ ต้องให้ผมตรวจต้นฉบับและเรียบเรียงการใช้ภาษาให้ถูกต้อง ( มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ) และในหนังสือต้องไม่ระบุพาดพิงนามผู้อื่น ( รวมทั้งภาพถ่ายส่วนบุคคล ) เพราะมิได้ขออนุญาต (ซึ่งเชื่อแน่ว่าไม่น่าจะมีใครอนุญาต ) เมื่อได้ทำการตัดผมออกจาก fb แล้ว ผมได้โทรไปสอบถาม ครั้งแรกก็โกหกว่าไม่ได้ตัดออกไม่รู้เรื่อง ต่อมาก็ไม่รับโทรศัพท์อีกเลยเป็นเวลาแรมเดือน จึงทำให้ต้องออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังนี้ ความจริงมีรายละเอียดยิ่งกว่านี้อีกมาก ถ้าผู้ที่ไม่มีเถยฺยจิตคงทำไม่ได้ ซึ่งผมและผู้ใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ถ้าย้อนเวลาได้ไม่จำเป็นต้องมาพบกันไม่ต้องรู้จักกันเลยจะดีกว่ามาก ไม่ต้องเปลืองตัวกันขนาดนี้


    หากสังเกตจะเห็นได้ว่า มิใช่เพียงเรื่องราวของหลวงพ่ออภิชิโตที่นำมาลงใน fb เท่านั้น แม้เรื่องของหลวงพ่อบุญธรรม ก็เอาจากผมไปลง หากตนเองทราบจริง ก็ต้องถามว่า ได้พบหลวงพ่อบุญธรรมครั้งแรกเมื่อใด ทำไมถึงทราบเรื่องที่ท่านมีความสามารถทางโหราศาสตร์ และฯลฯ


    เรื่องพระอาจารย์ประยงค์ หรือที่ผมเรียกตามเพื่อนรุ่นน้องที่นำผมไปพบว่า
    " หลวงน้าย้ง " ซึ่งท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อไพล ชำนาญเรื่องการทำเบี้ยแก้ สามารถพิสูจน์เรื่องเกี่ยวกับอาถรรพ์และวิญญานให้เห็นกันได้เสมอ หากทราบด้วยตนเองจริง ก็ต้องทราบด้วยว่า ท่านเรียนจากใครมาอีกนอกจากหลวงพ่อไพล

    การกระทำโดยวิธีที่สร้างภาพให้ตนเองดูดีในทุกเรื่องทุกกรณี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น " ให้มีคนเห็น " แสดงสีหน้าเศร้าถึงขั้นหลั่งน้ำตาบ่อยๆ การวางแผนการเป็นขั้นตอน การมีมารยาในการแสดง หลอกใช้ผู้อื่นที่เจตนาดีกับตน ส่อให้เห็นถึงว่าได้กระทำมาอยู่บ่อยครั้ง การแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวมีโทสะรุนแรง ทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่นอยู่เป็นประจำ แม้กระทั่งบนท้องถนน ทั้งหมดหากไม่ใช่การแสดงก็ต้องมีภาวะไม่ปรกติทางจิต ซึ่งรวมถึงการพยายามหาทางได้ผลประโยชน์จากการหลอกลวงเข้าไปผสมอีกด้วย
     
  17. องคตชาตรี

    องคตชาตรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +47
    ขอบคุณครับ
    แล้วหนังสือที่ว่าได้พิมพ์ออกมาหรือไม่ครับ
     
  18. ยลไตรเพ็ชร

    ยลไตรเพ็ชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +283
    เรื่องครูบาอาจารย์ที่ผมเคยได้พบมานั้น ไม่ได้มากมายเท่าไรนักหรอกครับ หลายครั้งที่เข้าไปแสวงหาก็เจอเรื่องลวงโลกอยู่บ่อยๆ แต่ที่จริงแท้ก็มีอยู่ เพียงแต่ถ้ารวมกันแล้วเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ต้องนับได้ว่าน้อยมากครับ
    ผมพบพระสงฆ์ที่ในสมัยราว 40 ปีก่อน ผู้คนมักจะเรียกกันว่า " พระธุดงค์ " เป็นรูปแรกก็คือ หลวงปู่ สาม อกิญฺจโน แห่งวัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ ( ตอนนั้นยังไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระ-เจ้า อะไรทั้งนั้น อยากได้แต่พระเครื่อง หรือ เครื่องราง จากพระที่คิดว่ามีความวิเศษ เอามาเป็นสมบัติติดตัวตนเองตามความเชื่อเท่านั้น ) มีผู้นิมนต์ท่านมาในงานวัดใกล้บ้าน ที่ กทม.ก็เลยมีโอกาสเข้ากราบนมัสการท่านแบบเด็กๆที่ยังไม่รู้อะไรเลย
    ต่อมาปลายปี 2517 ก็ได้พบหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง โดยได้ร่วมไปกับคณะกฐิน ที่คุณ ชินพร สุขสถิตย์ ที่สร้างพระชุด ชินบัญชร ที่มีชื่อเสียงในทุกวันนี้ ก็ยังเด็กอยู่ ไม่ได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆอีกอยู่ดี
    ปี 2519 ผมได้ไปพบกับ ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ฆราวาสสายเขาอ้อ และได้เข้าทำการยกครูเป็นศิษย์ของท่าน ได้พบความอัศจรรย์ใจเป็นครั้งแรกของชีวิตก็ตอนที่พบ ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี นี่แหละ ผมและเพื่อนที่ไปด้วยกัน ถูกอ่านจิตด้วยกันทั้งคู่ นึกคำถามเรื่องใดอยู่ ท่านก็ตอบออกมาทันที โดยที่ผมและเพื่อนยังมิได้เอ่ยปากถาม โดนเข้าไป คนละ 3 คำถามในใจ และ 3 คำตอบทางวาจา ถึงกับกลัว ไม่กล้าที่จะคิดอะไรในตอนนั้น หลังจากนั้นก็พบสิ่งต่างๆที่ไม่เคยพบมาก่อนอีกหลายเรื่องหลายประการ...
    ( เรื่องที่มีการกล่าวถึง พระผงเทพนิมิตร ปี 2496 ของท่านอ.ชุม ไชยคีรี ที่บอกว่าเป็นพระที่ดีที่สุดในความเห็นของท่าน อ.ชุม ไชยคีรี นั้น ผมเองเป็นผู้เรียนถามท่าน ซึ่งน่าจะราวปี พ.ศ.2520 - 2521 เพราะไม่มีใครเคยถามมาก่อนเท่าที่ผมทราบ ตอนนั้นผมเห็นไม่มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ในสำนัก( ที่บ้าน ย่านสะพานควาย กทม.) ผมเห็นท่านว่างอยู่เลยเข้าไปกราบเรียนถามท่านว่า " คุณพ่อครับ ( เรื่องการเรียกท่านว่าคุณพ่อ ก็มีตำนานส่วนตัวระหว่างผมกับท่านเช่นกัน แต่ศิษย์ทุกๆคนก็เรียกท่านว่า "คุณพ่อ" กันทั้งนั้น ) คุณพ่อสร้างพระมาก็มากมายหลายครั้ง ผมอยากทราบว่า พระรุ่นไหนที่คุณพ่อสร้างไว้ดีที่สุด? " ท่านตอบสวนผมมาทันทีว่า " ดีทุกรุ่นแหละลูก พ่อทำเต็มที่ทุกครั้ง " ผมจึงกราบเรียนถามท่านไปอีกว่า " ใช่ครับ แต่ผมอยากทราบในความเห็นของคุณพ่อโดยเฉพาะว่า ต้องมีรุ่นไหนที่คุณพ่อรู้สึกว่าเป็นพิเศษกว่ารุ่นอื่นที่ได้ทำมา " ท่านก็ตอบมาทันทีว่า " พระเทพนิมิตร ลูก " ผมถามต่อทันทีว่า " เพราะอะไรครับ? " ท่านก็ตอบว่า " มันอัศจรรย์ตั้งแต่ยังไม่สร้าง ตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้จะทำได้อย่างนี้อีกรึเปล่า " ซึ่งก็มีการนำเรื่องนี้ไปลง ประกอบการจำหน่ายพระเทพนิมิตร ในหลายบุคคล แต่ " บางคน " ก็พยายามเบี่ยงเบนให้เจ้าของเรื่องเป็นศิษย์อาวุโส ปี 2512 ไปในหน้าโฆษณาของตนไป จึงต้องลงแก้ไขให้ถูกต้อง ณ ที่นี้ )
    ในปี 2519 ช่วงเดียวกัน ก็ได้ไปพบอาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่ง คือ ท่านอาจารย์เจ็ก เป็นอาจารย์ลงน้ำมันสายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา( เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นศิษย์ท่านอยู่ ) เป็นอีกท่านหนึ่งที่ผมนับถือในความเป็นนักเลง ไม่มีมารยา พูดแล้วรักษาคำพูด แม้ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ในภาษาไทย แต่ก็มีความจำที่เกิดจากความตั้งใจดีเยี่ยม เขียนอักขระขอมลงน้ำมันให้ศิษย์ได้มากมายทั่วประเทศ ผมมักไปนั่งคุยกับท่านอยู่บ่อยๆ และอาจารย์เจ็กท่านนี้แหละ ที่เป็นผู้บอกผมว่า ครูบาอาจารย์เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ,หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ,หลวงปู่เงิน (วัดวังตะโก) บางคลาน จ.พิจิตร ,หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ,หลวงพ่อพัฒน์ นารทะ จ.สุราษฎร์ธานี ,หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี ,หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐมและอีกฯลฯ ซึ่งผมยังหัวเราะแล้วบอกท่านอาจารย์เจ็กว่า " จะเป็นไปได้ยังไง? "เพราะอยู่คนละทิศคนละทางกันทั้งนั้น แต่ท่านอาจารย์เจ็ก ก็หัวเราะแล้วตอบว่า " อย่างเอ็งจะไปรู้อะไร เรื่องนี้ครูบาอาจารย์ท่านบอกมานานแล้ว "
    แถมอีกไม่นานนักอาจารย์เจ็กยังให้ศิษย์ทำหนังสือตามที่ท่านบอกออกมาอีก 1 ฉบับ เป็นปกแข็ง ออกจำหน่ายเพื่อหาทุนเข้าร่วมทำบุญ(จำไม่ได้ว่าเป็นงานกฐินรึไม่) ซึ่งใครที่ทันในสมัยนั้นและยังเก็บหนังสือนี้ไว้อยู่ ก็คงจะได้เคยอ่านกันมาแล้ว ผมเองก็ไม่คิดว่าสิ่งที่อาจารย์เจ็กบอกมาและผมไม่เชื่อในเวลานั้น ผมจะได้ทราบในภายหลังตามนั้นจริง
    หลังจากปี 2525 ที่ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้จากไปแล้ว ( โดยทิ้งสังขารให้คงอยู่โดยไม่เน่าเปื่อย ) ในปี 2526 ผมก็ได้อ่านหนังสืออาณาจักรพระเครื่อง ซึ่งเป็นนิตยสารพระเครื่องและเครื่องรางของขลังในยุคนั้น มีคอลัมน์ที่เขียนถึง " เข็มทอง " สายวัดหุบมะกล่ำ ต.หนองรี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ( โดย อ.ปรีชา เอี่ยมธรรม เป็นผู้เขียน ) ก็ได้เดินทางไปพบกับ หลวงพ่อพระอธิการสวัสดิ์ ปภังกโร ท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ก็ได้พบว่า หลวงพ่อสวัสดิ์ ( เป็นศิษย์หลวงปู่พิมพ์มาลัย อดีตเจ้าอาวาสผู้เป็นอาจารย์ของท่าน ) เป็นพระที่มีเมตตาสูงมากๆ ใจดี ใครขออะไร หากท่านทำให้ได้ หรือ ท่านมีอยู่ ท่านก็จะให้ได้ทั้งนั้น ผมก็ได้ไปหาท่านอยู่หลายครั้ง เป็นพระดีจริงอีกรูปหนึ่งที่ได้พบมา
    ปี 2527 ช่วงหลังปีใหม่ไม่นาน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ในสมัยนั้นลงข่าวหน้าหนึ่ง เรื่องคนหนังเหนียว คือ มีกลุ่มชายฉกรรจ์มีเรื่องกัน แล้วใช้อาวุธมีดแทงกันตายในป่าช้า แต่ศพที่ถูกแทงตายกลับใช้มีดหมอผ่าตัดเฉือนไม่เข้า เพราะสักยันต์ โดยหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐมผมก็ไปทันทีในวันรุ่งขึ้น ก็ได้พบหลวงพ่อเปิ่นและก็(สักน้ำมันกับหลวงพี่ติ่ง)มอบตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเปิ่นท่านอีกหนึ่งอาจารย์ (เป็นอีกองค์หนึ่งที่ใจดีมีเมตตามาก )
    ปี 2528 ผมได้อ่านข่าวจากหนังสือ(ขออภัย จำชื่อหนังสือไม่ได้) พบเรื่องราวของ ท่าน อ.หมอ อภิชาติ ชินะโชติ อาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รักในวิชาต่างๆและเป็นผู้ใฝ่รู้เป็นอย่างมาก มีวิชาความรู้มาก( เรียกว่ามีครูบาอาจารย์ที่ไหนที่ว่าดี ท่านเป็นต้องไปหาเพื่อขอเรียนวิชานั้นสืบต่อมาแทบทั้งนั้น) ผมได้ไปพบท่านที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และก็ฝังตะกรุดทองคำที่ท่านไปเรียนจาก หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก็เป็นศิษย์ท่านไปอีกหนึ่งอาจารย์
    ปี 2529 ราวๆเลยกลางปีไปแล้ว ได้ไปเรียนวิชาต่างๆที่เรียกว่า " วิทยาศาสตร์ทางใจ "กับท่านอาจารย์พันเอกชม สุคันธรัต ก็ได้พบความแตกต่างในสายวิชา และเห็นสิ่งต่างๆมากขึ้น ที่สำคัญการมาเรียนกับท่าน
    อาจารย์ชม สุคันธรัต เป็นเหตุให้ได้รู้จักเรื่องราวของหลวงพ่ออภิชิโต และเรื่องต่างๆอีกมากมาย และท่านอาจารย์ชม สุคันธรัตเป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งมีมีเมตตาสูง เสียสละโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นผู้มีน้ำใจกว้างขวางมากอีกท่านหนึ่ง...
    ปี 2530 ได้ไปพบอาจารย์ฆราวาส คือ ท่านอาจารย์ เที่ยง น่วมมานา ซึ่งเป็นศิษย์สายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา อีกท่านหนึ่ง โดยไม่ทราบหรือรู้จักท่านมาก่อน แต่เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งมาชักชวนให้ไปพบด้วยกัน ก็ได้พบเห็นสิ่งต่างๆที่เป็นความสามารถของท่านอาจารย์เที่ยงหลายอย่าง ทั้งยังได้พิสูจน์วิชาของท่านอาจารย์เที่ยงด้วยตาตนเองพร้อมบุคคลอื่นอีกหลายคน
    ปี 2532 ราวกลางปี ได้ไปพบหลวงพ่อคูน ปริสุทฺโธ ณ วัดบ้านไร่ พร้อมกับเพื่อนและพี่รวม 5 คน ทำให้ได้ทราบว่า จิตของหลวงพ่อคูน ก็ไม่ธรรมดา รู้วาระได้ฉับพลันเช่นกัน ก็ได้ตอกตะกรุดและมอบตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อคูนไปอีกหนึ่งท่าน ซึ่งในปี 2533 และ 2534 ก็ยังเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อท่านอีก ปีละครั้ง
    ( เรื่องหลวงพ่อคูน ปริสุทฺโธ นี้ บางคนไปอ้างว่าท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออภิชิโต ซึ่งความจริงนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย หลวงพ่อคูนไม่ได้เคยรู้จักหลวงพ่ออภิชิโตมาก่อนแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ เพราะเมื่อปี 2538 ผมได้มีโอกาสไปวัดบ้านไร่อีกครั้ง โดยเพื่อนให้ช่วยพาผู้ใหญ่ที่บ้านไปกราบนมัสการท่าน ผมก็เลยนำภาพถ่ายของหลวงพ่ออภิชิโต ไปกราบนมัสการเรียนถามหลวงพ่อคูนโดยตรง โดยถามท่านว่า " หลวงพ่อครับ พระในภาพนี้หลวงพ่อเคยพบเห็นหรือรู้จักมาก่อนไหมครับ? " ท่านหยิบภาพมาดูอยู่พักหนึ่งก็ตอบว่า " ใคร? กูไม่รู้จักด๊อก แต่ลักษณะดีมาก " ผมก็กราบเรียนหลวงพ่อคูนว่า " ท่านชื่อว่า พระอาจารย์ชาญณรงค์ครับ ทราบว่ามาฝึกอยู่แถวเขาใหญ่บ่อยๆ เผื่อว่าหลวงพ่อจะรู้จักหรือเคยพบบ้าง " หลวงพ่อคูนก็ยังตอบยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก...)
    ปี 2533 ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพบหลวงพ่อซ่วน แห่งวัดท่าลาดใต้(เขาหินซ้อน) อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งกำลังเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอยู่ในขณะนั้น และก็ได้รับปลัดมาจากวัดนี้ ได้มีโอกาสสนทนากับท่านอาจารย์ซ่วนอยู่พอสมควร
    ปี 2533 ผมได้มีโอกาสพบหลวงพ่อบุญธรรม ธมฺมปุญฺโญ ที่ อ.วังน้อยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งกว่าจะได้คุญกับท่านต้องใช้โอกาสมากว่า 1 ครั้งในการเดินทางไปพบ จึงทราบว่า หลวงพ่อบุญธรรม ท่านดูนรลักษณ์ศาสตร์ได้ด้วย นอกจากวิชาโหราศาสตร์ที่ท่านชำนาญอยู่แล้ว
    ปี 2536 ได้มีโอกาสไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกครั้งได้ไปพบหลวงพ่อสละ เจ้าอาวาสวัดประดู่ทรงธรรม ได้ไปเห็นท่านนั่งตอกอักขระลงปลัดขิกตัวใหญ่(ตัวครู) และได้สนทนากับท่านเล็กน้อย
    และในปี 2536 เช่นเดียวกันก็ได้ไปกราบหลวงปู่เผื่อน (ศิษย์รูปสุดท้ายของหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติการาม ) ณ วัดสามบัณฑิต ก็ได้พบว่าท่านสามารถดูเรื่องราวต่างๆได้โดยใช้สมาธิจิต และยังรดน้ำมนต์ถอนอาถรรพ์ต่างๆช่วยเหลือผู้คนโดยมิได้เรียกร้องค่าตอบแทนแต่อย่างใด

    ถึงตอนนี้ก็เอาเท่าที่ขณะนี้นึกได้ก่อนนะครับ ยังมีทั้งเรื่องไปเห็นเป็นประสบการณ์ตามสำนักทรงก็มีอยู่บ้าง

    ส่วนเรื่องหนังสือนั้น ผมไม่ได้มีเจตนาแต่แรกว่าจะทำ เพราะต้องการแค่ทำบันทึกส่วนตัวไว้ให้ลูกหลานตามที่เคยแจ้งไว้ ถ้าไม่ได้ถูกลวงให้ช่วยในปีที่แล้วก็คงไม่ทำแต่หากมีเหตุอันควรในภายภาคหน้า ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งครับ ขึ้นอยู่กับเหตุผลว่าควรรึไม่...
     
  19. Williamboy

    Williamboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +644
    ขอบคุณคุณยลไตรเพรชมากนะครับสำหรับเรื่องราวดีๆ ครับติดตามกระทู้นี้บ่อยๆครับ
     
  20. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ขออภัยพี่ยลไตรเพ็ชร ครับ

    "...และอาจารย์เจ็กท่านนี้แหละ ที่เป็นผู้บอกผมว่า ครูบาอาจารย์เช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ,หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ,หลวงปู่เงิน (วัดวังตะโก) บางคลาน จ.พิจิตร ,หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ,หลวงพ่อพัฒน์ นารทะ จ.สุราษฎร์ธานี ,หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี ,หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐมและอีกฯลฯ ซึ่งผมยังหัวเราะแล้วบอกท่านอาจารย์เจ็กว่า " จะเป็นไปได้ยังไง? "เพราะอยู่คนละทิศคนละทางกันทั้งนั้น แต่ท่านอาจารย์เจ็ก ก็หัวเราะแล้วตอบว่า " อย่างเอ็งจะไปรู้อะไร เรื่องนี้ครูบาอาจารย์ท่านบอกมานานแล้ว..."

    อ่านตรงช่วงนี้แล้วไม่เข้าใจครับ ไม่ทราบว่ามีท่อนไหนขาดหายไปหรือไม่ครับ

    ขอบพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...