เสียงธรรม สมมุติ บังวิมุติ/อุปลมณี / หลวงพ่อชา สุภัทโท 100+Hrs.

กุศลอันเลิศคือภาวนา หลวงปู่ชา สุภัทโท

Dhamma Buddha 1 ปล่อยวาง
Dec 4, 2021

 

ผู้นำที่ดีคือมีศิลซื่อสัตย์สุจริต หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

Dhamma Buddha 1 ปล่อยวาง
Apr 21, 2022

 

ปรมัตถธรรม ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

Dhamma Buddha 1 ปล่อยวาง
Apr 13, 2022

 

จะสุขก็อยู่ตรงนี้ จะทุกข์ก็อยู่ตรงนี้ เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
75,898 views Premiered May 30, 2022

 

ฟังธรรมให้เป็นสมาธิ เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
156,759 views Jun 4, 2022

 

วิธีฝึกจิตให้เกิดกำลัง เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
125,804 views Premiered Jul 17, 2022
เรื่อง วิธีฝึกจิตให้เกิดกำลัง เสียงเทศน์ ...หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี หลวงพ่อชาได้กล่าวไว้ว่า วิธีฝึกจิตให้เกิดกำลัง การฝึกจิตเป็นของที่ฝึกยาก พระพุทธองค์ของเราท่านก็ฝึกจิต จิตนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการรับรู้จาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย เหล่านี้ จะส่งไปให้จิตเป็นผู้บริหารต่อ ฉะนั้นการอบรมจิตนี้จึงเป็นของสำคัญ ถ้าใครอบรมจิตของตนให้สมบูรณ์แล้ว ปัญหาอะไรทุกอย่างมันก็หมดไป ที่มันมีปัญหาอยู่ก็เพราะจิตของเรานี้เองยังมีความสงสัย ไม่มีความรู้ตามความเป็นจริง จึงเป็นเหตุให้มีปัญหาอยู่ วิธีการที่จะฝึกจิตให้เกิดกำลัง ก็คือการทำจิตให้หยุดนิ่ง เพราะฉะนั้นการฝึกสมาธิ ก็คือการทำให้จิตเรามีกำลัง นั่นเอง

 

สงบระงับความวุ่นวาย เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
Jul 16, 2022
เรื่อง สงบระงับความวุ่นวาย เสียงเทศน์ ...หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี สิ่งที่สามารถระงับความวุ่นวายนอกจากความสงบแล้วไม่มี สิ่งที่ทำให้เกิดความสงบก็คือธรรมะ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องมาฝึกฝนปฏิบัติให้ถึงธรรมะ โดยใช้กาย วาจา และใจของเรา เพื่อนำไปปฏิบัติ ให้ครบถ้วนทั้งสามประการ คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เรามีความทุกข์ เพราะขาดอาหารของจิต จึงปล่อยจิตไปตามอารมณ์ ความทุกข์จึงเกิดขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราขาดปัญญา เมื่อเห็นสุขก็ตะครุบ เมื่อเห็นทุกข์ก็ตะครุบ แต่ไม่รู้จักแก้ไขในใจเราเอง ดังนั้น เราจึงต้องมาปฏิบัติให้เกิดปัญญา นั่นคือ รู้จักทุกข์ รู้จัดเหตุที่ให้เกิดทุกข์ รู้จักความดับทุกข์ และรู้วิธีปฏิบัติเพื่อไปสู่ความดับทุกข์ ทั้งสุขและทุกข์นั้นเป็นของไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ นี่คือธรรมะ ทั้งสองสิ่งนี้เองที่พระพุทธองค์ต้องการให้เรารู้จักและยอมรับตามความเป็นจริง การปฏิบัตินั้นก็เพื่อระงับความสุขและความทุกข์ ให้เกิดความสงบ หากเราไม่ยอมรับความจริง ก็เหมือนเรากอดทุกข์ไว้ในตัวเรา เราจะไม่มีวันออกจากทุกข์ได้

 

ปัจจัตตัง ความรู้เฉพาะตัว เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
23,100 views Premiered Aug 2, 2022

 

Bbc สัมภาษณ์หลวงปู่ชา ที่ประเทศอังกฤษ

ALeng Chamnan Phaiboonkasap
Nov 9, 2017

 

ใครไม่ทำเราทำเป็นกำไรของเรา เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
75,218 views Premiered Jul 15, 2022

 

027 หลวงพ่อชา อบรมพระภิกษุ สามเณร รวมทั้งท่านสุขุม

017 เทศนาบ้านก่อ วัดบ้านก่อนอก หลวงพ่อชา สุภัทโท- ฟังธรรมะออนไลน์

Buddhist 101
Aug 24, 2015

 

031 ความสงสัยในพระโสดาบัน ธรรมเทศนาหาฟังยาก หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง

Phoo warin
Jul 11, 2019
เป็น พระโสดาบัน เพราะถือศีล 5 พระโสดาบัน หมายถึง ผู้ถึงกระแสที่จะนำไปสู่พระนิพพาน พระอริยบุคคลผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผล คือสามารถละสังโยชน์ 3 ได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และ สีลัพพตปรามาส ละสังโยชน์ 3 ถึงจะเป็นพระโสดาบัน

สังโยชน์ หมายถึง กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์ หรือองค์ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ประการ คือ
1. สักกายทิฏฐิ หมายถึง คิดว่าตัวเราเป็นของเรา
2. วิจิกิจฉา หมายถึง ความลังเลสงสัย
3. สีลัพพตปรามาส หมายถึง การปฏิบัติพรตนอกรีต
4. กามราคะ หมายถึง ติดใจในกามคุณ
5. ปฏิฆะ หมายถึง ความกระทบกระทั่งในใจ
6. รูปราคะ หมายถึง ยึดติดในรูปที่ชอบพึ่งพอใจ
7. อรูปราคะ หมายถึง ความยึดติดในสิ่งที่เป็นนามธรรม
8. มานะ หมายถึง ถือว่าตนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
9. อุทธัจจะ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน และ
10 อวิชชา หมายถึง ความไม่รู้
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เพราะสังโยชน์ 3 สิ้นไป เป็นพระโสดาบัน ” มีปรากฏในพระสูตรที่มีชื่อว่า “มหาปรินิพพานสูตร” แสดงว่า ผู้บรรลุโสดาปัตติผลได้ ต้องเป็นผู้ที่สามารถขจัดกิเลส 3 ตัวได้ คือ การคิดว่าตัวเราเป็นของเรา (สักกายทิฏฐิ) การคิดลังเลสงสัย (วิจิกิจฉา) และ การปฏิบัติพรตนอกรีตที่ไม่ใช่การปฏิบัติในพระพุทธศาสนา (สีลัพพตปรามาส) การละสังโยชน์ 3 ทำให้บรรลุธรรมขั้นพื้นฐานของการเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาก็จริง แต่การละสังโยชน์ 3 ได้ ต้องมาจากการที่ผู้นั้นต้องพิจารณาธรรมจนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เช่น พระนางอภิรูปนันทา เจ้าหญิงศากยวงศ์ ผู้เป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้า ทรงบวชเป็นภิกษุณี ไม่ยอมเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อสดับพระธรรม เพราะพระพุทธเจ้ามักทรงเทศนาเรื่องข้อเสียของการมีรูปลักษณ์ที่งดงาม แต่สุดท้ายเมื่อพระนางเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ทอดพระเนตรหญิงงามที่พระพุทธเจ้าเนรมิตขึ้นมา จากหญิงามกลายเป็นหญิงชรา จากหญิงชรากลายเป็นซากศพ พระนางทรงเห็นดังนั้นถึงกับเข้าพระทัยแล้วว่ารูปนั้นไม่ใช่ของ ๆ เรา เพราะสุดท้ายรูปโฉมที่ว่างามก็ต้องแห้งเหี่ยวและกลายเป็นศพไปในที่สุด เมื่อพระนางเข้าพระทัยดังนั้นก็บรรลุธรรมขั้นโสดาปัตติผลทันที อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบันได้ คือการถือศีล 5 ดังมีปรากฏในปัญจเวรภัยสูตร มีความโดยสังเขปดังนี้ ศีล 5 ย่อมทำให้ผู้นั้นสงบ และมีองค์ประกอบแห่งโสดาปัตติ 4 ( 1. การคบสัตบุรุษ (คนดี) 2. การฟังธรรม 3. การทำไว้ในใจโดยแยบคาย และ 4. การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ) และเข้าใจในญายธรรม (โยนิโสมนสิการและปฏิจจสมุปบาท) ทำให้เป็นผู้ที่มองและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง จากข้อความที่สรุปพระพุทธพจน์จากปัญจเวรภัยสูตรมานี้ แสดงให้เห็นว่า ก้าวแรกของการมีโสดาปัตติ 4 ประการคือ การมีศีล 5 ซึ่งศีล 5 เป็นศีลพื้นฐานของชาวพุทธ ดังนั้นการถือศีล 5 เพื่อให้พัฒนาไปสู่การมีโสดาปัตติ 4 และการแยกคายสิ่งต่าง ๆ ตามหลักโยนิโสมนสิการ และการเข้าใจความเป็น ไปของทุกสรรพสิ่งด้วยหลักปฏิจจสมุปบาท จึงไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนาตนเองจากปุถุชนเป็นอริยบุคคล คือ พระโสดาบัน
ที่มา : ปัญจเวรภัยสูตร มหัทธนสูตร มหาปรินิพพานสูตร

 

หมั่นพิจารณา ทบทวน แก้ไขตัวเราเอง เสียงเทศน์ หลวงพ่อชา สุภัทโท (ไม่มีโฆษณาแทรก)

ธรรมะ ธรรมดา
21,765 views Premiered Jul 23, 2022
เรื่อง หมั่นพิจารณา ทบทวน แก้ไขตัวเราเอง
เสียงเทศน์ ...หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อชาได้กล่าวไว้ว่า การที่อยู่ด้วยกัน ต้องมีความเคารพกันซึ่งกันและกัน ถ้าขาดความเคารพกัน ทุกอย่างมันก็จะเสื่อมไป การปฏิบัติธรรมนั้น ปริยัติและปฏิบัติ มันต้องเป็นของคู่กัน เพราะการศึกษาแล้วก็รู้ รู้แล้วก็ปฏิบัติตามความรู้ของเรานั้น เรียกว่าการ ประพฤติปฏิบัติ หลวงพ่อชา ได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับเรื่อง กายกับจิต จิตมีกำลังกายก็ปราศจากโรค กายดีจิตมันก็ได้รับความสงบระงับ ถ้าหากว่าจิตวุ่นวาย กายสมบูรณ์อยู่มันก็เป็นไปได้ยาก ถ้าหากว่ากายมีเวทนามาก จิตไม่มีกำลัง ก็ไม่สบายกันไปอีก ข้อแนะนำที่หลวงพ่อชาได้แนะนำ ผู้ที่จะศึกษา ธรรมะ ก็คือ เราต้องศึกษาในทางกรรมฐาน และศึกษาเรื่องการบำเพ็ญและการละ เมื่อศึกษาแล้วก็หมั่นพิจารณาดูว่า เรายังไปยึดอยู่ไหม? ยังมีวิตกอยู่รึป่าว? ยังมีความน้อยใจอยู่ไหม? มีความดีใจบ้างรึป่าว? พูดง่ายๆเรายังหลงอารมณ์เหล่านั้นอยู่ไหม? ถ้ามี แสดงว่า เรายังบกพร่องอยู่ เราจะต้องศึกษา จะต้องมีการละ ต้องมีการบำเพ็ญอยู่เสมอไม่ให้ขาด และควรที่จะรู้ด้วยว่า เราติดอยู่ตรงนี้ เราเป็นอย่างนี้ เราจะต้องรู้จักแก้ไขตัวเราเอง อัตตะโน โจทยัตตะนัง จงเตือนตนด้วยตนเอง
ติดตามรับชมคลิปย้อนหลัง : [ Youtube : ธรรมะ ธรรมดา ] https://www.youtube.com/c/ธรรมะธรรมดา [Facebook : ธรรมะ ธรรมดา] https://web.facebook.com/FindTheRealT... พบปะพูดคุยกันได้ในกลุ่มธรรมะธรรมดา https://web.facebook.com/groups/32848...

 

เข้าวัดทำไม - หลวงพ่อชา สุภัทโท

เสรี ลพยิ้ม
Apr 7, 2014

 

048 สูตรแก้ทุกข์ - เสียงหลวงพ่อชา สุภัทโท

Buddhist 101
Aug 19, 2015

 

060 ฉลาดในการรักษาจิต - เสียงหลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถระ)

Buddhist 101
Aug 22, 2015

 

หลวงพ่อชา สุภทฺโท วิมุตติ

ThumpmaListening
Nov 13, 2013
เสียงอ่านพระธรรมเทศนาพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง ให้เสียงโดย ธรรมสภา
Credit source: จาก channel: hiphoplanla

 

004 เทศนาธรรมอบรมพระนิสิตจุฬา-รามคำแหง ๒๕๒๑ - เสียงหลวงพ่อชา

Buddhist 101
Aug 20, 2015
อบรมพระนิสิตจุฬาฯ-รามคำแหงฯ ณ วัดป่าวันโพธิญาณ ๒๕๒๑ - เสียงหลวงพ่อชา
พูดให้น้อย กินให้น้อย นอนให้น้อย เพื่อให้รู้จักความพอดี - หลวงพ่อชา สุภัทโท

 

{{" 25 . เรื่องยาก (ภาษาอีสาน ) "}} #หลวงปู่ชา #หลวงพ่อชา #ຫຼວງປູ່ຊາ #พระอาจารย์ชา สุภัทโท

namoธรรมะฟังสบาย
Mar 22, 2017

 

058 ฝึกดูจิต โดย หลวงพ่อชา สุภทฺโท (พระโพธิญาณเถระ)

Buddhist 101
Aug 22, 2015