เรื่องเด่น “หนองคาย” สร้างพระธาตุรวงข้าวสูงที่สุดในโลก

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 24 ธันวาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    0b8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7.jpg

    นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนชาวอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย ที่ได้ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันเร่งเตรียมการจัดงานมหกรรม แสง สี เสียง บุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสระใคร โดยได้เร่งสร้างพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ กว้าง 7 เมตร สูง 32 เมตร และส่วนประกอบโดยรอบ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการเตรียมงานฯ ไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ช่วงนี้จะเป็นการนำรวงข้าวขึ้นประดับพระธาตุรวงข้าวฯ กำแพง และซุ้มประตูรอบพระธาตุรวงข้าวฯ

    นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร กล่าวว่า อำเภอสระใคร ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดข้าวหอมมะละ 105 ถึง 2 ปีซ้อน ชาวอำเภอสระใคร จึงได้มีแนวความคิดในการจัดงานบุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ขึ้น เพื่อเป็นการตอบแทนคุณและบูชาพระพุทธเจ้าและพระแม่โพสพ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่สืบต่อกันมาแต่โบราณกาล และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอสระใครและจังหวัดหนองคาย โดยจะมีการจัดงานในระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 กิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย บุญเบิกฟ้า ที่จะมีการทำบุญสู่ขวัญข้าว การหาบฝุ่นลงนา เวียนเทียนเข้าเปลือกเป็นการขอขมาพระแม่โพสพและบูชาพระพุทธเจ้า และมีการเสี่ยงทายถึงความอุดมสมบูรณ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี ผู้ที่เข้ามาร่วมงานยังจะได้ชมพระธาตุรวงข้าว ถือเป็นหนึ่งเดียวและเป็นอันซีน ของประเทศไทย ที่มีที่อำเภอสระใครเพียงแห่งเดียว ในประเทศไทยและในโลก องค์พระธาตุมีความกว้าง 7 เมตร สูงถึง 32 เมตร ใช้มัดข้าวนับแสนมัด รวงข้าวนับล้านรวงประดับตกแต่ง

    8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7-1.jpg

    นอกจากนี้ยังมีขบวนรถบุพชาติพระธาตุรวงข้าวจำลองจากหมู่บ้านต่าง ๆ กว่า 10 ขบวนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ มีการจัดทำโคมไฟข้าวตอกแตกที่มีความสวยงามนับร้อยโคม มาประดับตกแต่งตั้งแต่บริเวณทางเข้างานยาวไปตลอดตามถนนทั่วบริเวณงานและจัดทำเป็นอุโมงค์โคมไฟข้าวตอกแตกที่ยาวที่สุด และที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน คือการแสดง แสง สี เสียง ประกอบม่านน้ำพุดนตรี เป็นม่านน้ำพุบนบกที่ใหญ่ที่สุด ความยาวถึง 60 เมตรบนเวทีกลางแจ้ง และยังมีกิจกรรมการแสดงและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

    นายอำเภอสระใคร กล่าวว่า ได้มีการเตรียมงานทั้งหมดประมาณ 5 เดือน เริ่มตั้งแต่ลงเสาเข็มองค์พระธาตุรวงข้าว การลงแขกดำนา การลงแขกหว่านปุ๋ย การลงแขกเกี่ยวข้าว และมีการมอบข้าวที่เกี่ยวเสร็จไปให้ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านนำไปจัดเตรียมเป็นมัดข้าว และขอรับการบริจาคข้าวจากประชาชนชาวสระใคร ตามจิตศรัทธา ก่อนจะนำมารวมกันที่อำเภอ และร่วมกันนำมัดข้าวขึ้นประดับตกแต่งที่องค์พระธาตุรวงข้าว ซึ่งแรงงานที่ร่วมกันเตรียมงานและสร้างพระธาตุรวงข้าวนั้น เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนชาวอำเภอสระใคร ที่ออกมาช่วยกันเตรียมงานไม่ต่ำวันละ 100 คน

    8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7-2.jpg
    สำหรับสิ่งที่อยากให้นักท่องเที่ยวมาชมนั้น เนื่องจากองค์พระธาตุรวงข้าว ที่ถือเป็นหนึ่งเดียวในจังหวัดหนองคาย หนึ่งเดียวในประเทศไทย และหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีประตูสวรรค์ ที่ทำเป็นเสาโทริอิ แบบญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่โดยรอบ เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมอีสาน บูรณาการกับวัฒนธรรมโลก ไม่ต้องไปเที่ยวถึงประเทศญี่ปุ่นก็ได้ นอกจากนี้สวนนงนุช ยังจะเข้ามาช่วยจัดสวนบริเวณพื้นที่รอบ ๆ องค์พระธาตุรวงข้าวให้มีความยิ่งใหญ่สวยงามมากยิ่งขึ้น ที่ถือเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการจัดงานฯเมื่อปีที่ผ่านมา และปีนี้ก็จะมีเช่นกันคือ หุ่นสานไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ปีนี้จะมีการสร้างใหม่ จำนวน 10 ตัว ความสูงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร สร้างตามความเชื่อโบราญของคนอีสาน เป็นการสร้างหุ่นประจำทิศ เช่นพญานาค ราชสีห์ พญาควาย และพญาช้าง เป็นต้น ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่ในการจัดงานครั้งที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมเป็นจำนวนมาก เป็นหนึ่งเดียวในโลกที่เป็นหุ่นจักรสานไม้ไผ่ขนาดใหญ่ด้วยมือจากชาวบ้าน เช่นกัน

    หลังเสร็จงานฯ ก็จะจัดแสดงต่อไปจนถึงเดือนมีนาคม 2563 ก่อนจะรื้อลง แล้วนำมัดข้าวแจกจ่ายให้กับประชาชนในอำเภอสระใคร ทุกครัวเรือน ถือเป็นสิ่งมงคล เก็บไว้ในบ้านเรือนของตนเอง
    นายอำเภอสระใคร กล่าวในตอนท้ายว่า หากประชาชนและนักท่องเที่ยวอยากจะมาช่วยในการเตรียมงาน โดยเฉพาะการนำมัดข้าวประดับตกแต่ง ก็พร้อมรับทุกคน ทุกชนชั้น ให้มาร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่มีมาแต่โบราณของประชาชนลุ่มน้ำโขง ให้โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันไปถึงระดับโลก
    ทางด้านนายรณชัย จิตรวิเศษ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดหนองคาย ก็ได้มีตอบรับนโยบายในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่เป็นลักษณะของวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งในช่วงฤดูหนาวและในช่วงปลายปีนี้ ก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย เป็นจำนวนมาก ถือเป็นช่วงที่สภาวะอากาศที่หนาวเย็นและมีทะเลหมอกเกิดขึ้น ส่วนงานมหกรรม แสง สี เสียง บุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2563 ที่จะจัดให้มีขึ้นที่อำเภอสระใคร เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งอำเภอสระใคร ได้จัดขึ้นแล้ว 1 ครั้งอย่างยิ่งใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้จะเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จังหวัดจึงได้สนับสนุนให้จัดยิ่งใหญ่ขึ้น และจะจัดสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกปีไม่แพ้งานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ

    8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7-3.jpg

    0b8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7.png

    ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็น
    เพิ่มเราเป็นเพื่อนทางไลน์ @prachachat


    8b2e0b8a2-e0b8aae0b8a3e0b989e0b8b2e0b887e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b898e0b8b2e0b895e0b8b8e0b8a3e0b8a7-1.png

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.prachachat.net/local-economy/news-404907
     

แชร์หน้านี้

Loading...