“อาจารย์แดง” ต้นแบบที่คงอยู่ พระนักพัฒนาแห่งเมืองกรุงเก่า

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมืองไทยมีพระเกจิอาจารย์เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ละรูปเป็นแบบอย่างของพระสายวิปัสสนากรรมฐานบ้าง ทำนุบำรุงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามรอย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งพระสายพัฒนาที่สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศ

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา “พระครูเกษมจันทวิมล” หรือ“พระอาจารย์แดง” เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นับเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์อีกรูปที่ได้รับการเคารพศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก


ประตูทางเข้าวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา วัดต้นแบบการพัฒนาและช่วยเหลือสังคม ตกแต่งสวยงามตามธรรมชาติ มีต้นไม้ขึ้นร่มรื่นตลอดสองข้างทาง.

พระครูเกษมจันทวิมล หรือ “พระอาจารย์แดง” เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับบิณฑบาตจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี.

ใครทุกข์ร้อนไม่สบายใจมักจะไปกราบนมัสการ หลังได้พูดคุยกับ “พระอาจารย์แดง” แล้ว ทุกคนกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ประหนึ่งว่าได้ปลดทุกข์ออกจากใจ ด้วยคำสอนที่ให้ทุกคนรักษาศีล หมั่นทำความดี แล้วชีวิตจะพบกับความสุขความเจริญ

พระอาจารย์แดง เล่าย้อนถึงประวัติให้ฟังว่า เกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2507 เป็นชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังเรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้ว ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป

ต่อมาเริ่มสนใจทางศาสนา หันไปนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมอยู่ระยะหนึ่ง จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทเป็นพระที่วัดบ้านรี จ.สระบุรี จากนั้นย้ายไปจำพรรษาที่วัดโบสถ์และวัดตองปู จ.พระนครศรีอยุธยา สอบได้นักธรรมเอก


ภาพบรรยากาศภายในบริเวณวัดป้อมรามัญ มีโบสถ์สง่างามโดดเด่นและมีการปลูกต้นไม้สวยงาม สร้างความร่มรื่นแก่ผู้ที่ไปทำบุญ ปฏิบัติธรรม และเที่ยวชมธรรมชาติภายในวัดด้วยจิตใจเย็นสงบ.

กระทั่งในวันที่ 18 ธ.ค.2543 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ และในปี 2550 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นโทในราชทินนาม พระครูเกษมจันทวิมล ก่อนจะได้รับเลื่อนเป็นพระครูชั้นเอกในปี 2558

“วัดป้อมรามัญเป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระนเรศวร ได้นำชาวมอญที่ติดตามพระองค์มากับคณะของ พระมหาเถรคันฉ่อง ภายหลังอาตมาได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงได้บูรณะศาสนสถานทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร ขึ้นมาใหม่” พระอาจารย์แดง เล่าให้ฟัง

เกจิดังแห่งเมืองกรุงเก่าเล่าอีกว่า ทุกวันนี้ได้ปรับปรุงบูรณะเมรุให้เป็นแบบไร้มลพิษ ใช้ระบบไฟฟ้า ผู้ที่มาจัดงานศพไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และทางวัดยังมอบเงินช่วยเหลืออีกศพละ 5,000 บาท

นอกจากนี้ยังได้สร้างศาลาปฏิบัติธรรม ศาลาพ่อปู่ชุชกเศรษฐีและศาลารวยให้เพลิน เพื่อให้ญาติโยมได้ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน


พระอาจารย์แดง บริจาคเงินสร้างอาคารแพทย์แผนไทยขึ้นในพื้นที่เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสาธารณกุศล ที่ พระอาจารย์แดง ทำมาอย่างต่อเนื่อง.

พระอุโบสถในวัดป้อมรามัญ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ชาวไทยและนักท่องเที่ยวไปชมความงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันมาก.

ที่สำคัญเมื่อถึงช่วงเทศกาลต่างๆ “พระอาจารย์แดง” จะร่วมกับ ตำรวจทางหลวง รณรงค์ “เมาไม่ขับ” ใช้ธรรมะเตือนสติด้วย

ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์ ส่งผลให้ “พระอาจารย์แดง” ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย นับเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็น “พระนักพัฒนา”

นอกจากนี้ “พระอาจารย์แดง” ยังได้รับความศรัทธาเชื่อถือจากลูกศิษย์ว่า มี “เมตตามหานิยม” สิ่งของอะไรที่มอบให้ลูกศิษย์นำไปบูชา และเป็นเครื่องเตือนสติให้ตั้งมั่นในการปฏิบัติตนเป็นคนดี บรรดาลูกศิษย์จะยึดถือเป็นวัตถุมงคลเสมอ


พระอาจารย์แดง เข้ารับรางวัล “เพชรสุบรรณ” ในฐานะบุคคลต้นแบบ คนดีแห่งปี 2562 จัดโดย มูลนิธิสร้างสรรค์สังคมไทย.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หน.พรรคเสรีรวมไทย นำลูกพรรคเข้ากราบนมัสการ พระอาจารย์แดง พร้อมกับให้พระอาจารย์แดงทำพิธีลงนะหน้าทอง.

จากคำสอน “ใครคิดดี ทำดี ย่อมเจริญรุ่งเรืองในชีวิต” จึงมีลูกศิษย์ลูกหาเคารพศรัทธามากมายจากหลากหลายวงการ ทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดารานักร้องนักแสดง จนถึงชาวบ้านทั่วไป

“พระอาจารย์แดงไม่เคยอวดอ้างตัวเอง ท่านเป็นพระที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทุกคนเข้าหาท่านได้ตลอด ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ จะเห็นได้ว่าในแต่ละวันมีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลไปกราบไหว้ท่าน จนตัวท่านเองแทบไม่มีเวลาพักผ่อน” ลูกศิษย์คนใกล้ชิด เล่าให้ฟัง


“พระอาจารย์แดง” แจกข้าวสารอาหารแห้ง และเครื่องปรุงอาหารแก่ประชาชนที่ไปรับการแจกทาน.

นอกจากแจกข้าวสารอาหารแห้งแก่ประชาชนแล้ว “พระอาจารย์แดง” ยังแจกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มด้วย.

ขอขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/1597700