9 เคล็ดที่จำเป็นต้องทำ ถ้าไม่อยากเจอผีในโรงแรม

ดูจะเป็นของคู่กันไปแล้วสำหรับ โรงแรม กับ ผี เพราะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีในโรงแรมสารพัดเรื่อง จนคนที่จะไปพักตามโรงแรมต่างๆ พากันหวาดผวาล่วงหน้าว่าจะได้เจออะไรที่ไม่ควรจะเจอหรือไม่

และเรามีเคล็ดลับ 9 อย่าง ที่คุณควรทำเวลาไปพักโรงแรม เพื่อจะได้หลบเลี่ยงแขกไม่พึงประสงค์ มีอะไรบ้าง มาดู

​

1. เคาะประตูก่อนเข้าห้อง

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเราต้องได้ห้องว่าง แต่ก่อนเข้าไปเคาะห้องสักเล็กน้อยก็ไม่เสียหาย และถ้าเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นวาบแปลกๆ ให้ขอเปลี่ยนห้องเลย



2. เปิดไฟ-เปิดม่าน

พอเข้ามาอยู่ในห้องแล้ว ให้เปิดไฟให้หมดทุกดวง รวมถึงเปิดหน้าต่างด้วย นอกจากจะทำให้ห้องสว่างแล้วยังช่วยไล่ 'อะไรๆ' ในห้องออกไปด้วย



3. วางรองเท้ากลับหัวกลับหาง

การวางรองเท้าสลับหัวสลับหาง เป็นการสร้างสมดุลระหว่างพลังงาน หยิน-หยาง เป็นการคุ้มครองคุณจากสิ่งร้ายๆ ที่อาจมีอยู่ในห้อง



4. เปิดไฟทิ้งไว้สักดวง

เมื่อจะนอนควรเปิดไฟในห้องทิ้งไว้สักดวง จะเป็นโคมไฟหวัเตียง ไฟทางเดิน หรือตรงไหนก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรเป็นไฟห้องน้ำ



5. อย่าปล่อยให้เตียงว่าง

ถ้าในห้องมีสองเตียง แต่คุณดันนอนคนเดียว อย่าปล่อยให้อีกเตียงว่างเป็นอันขาด ให้หากระเป๋าหรือข้าวของต่างๆ ไปวางไว้บนนั้น



6. ขยับเตียงเล็กน้อย

ก่อนจะนอนหรือตอนที่เข้ามาในห้องใหม่ๆ ให้ขยับเตียงออกจากที่เดิมสักเล็กน้อย เพื่อเป้นเคล็ดว่าคุณไม่ได้มานอนทับที่เจ้าของเดิม



7. หาอะไรมาปิดกระจก

ลองจินตนาการว่าตื่นขึ้นมายามดึกแล้วเจอเงาใครที่ไม่ใช่คุณอยู่ในกระจก เอาผ้ามาคลุมไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า



8. พกเครื่องรางหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คนพุทธอาจพกสร้อยพระ หรือคนศาสนาอื่นอาจพกไม้กางเขน หรือเครื่องรางต่างๆ ตามความเชื่อของตน สร้างความสบายใจได้เยอะเลยล่ะ



9. สวดมนต์ก่อนนอน

จะมีอะไรดีไปกว่าการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา และนี่ยังเป็นการขอขมาหากเราบังเอิญทำอะไรล่วงเกินคนที่อยู่มาก่อนโดยไม่ตั้งใจด้วย





ขอบคุณข้อมูลจาก petmaya
เรียบเรียงโดย Boxza.com
ขอบคุณภาพจาก pantip

9 เคล็ดที่จำเป็นต้องทำ ถ้าไม่อยากเจอผีในโรงแรม - ข่าว เรื่องผี เรื่องลึกลับ ทั่วไป ข่าวล่า


.

 

ข้อ 5 อย่าปล่อยให้เตียงว่าง

- เอาของไปวางซะเต็ม กลัวยิ่งทำให้เจ้าของเตียงเค้าเคืองเอาอะดิ เด๊วมาเขย่าเตียงตอนดึกๆ (ล่อเล่งน่อ) ^ ^

 

เคยเจอเสียงเปิดกระป๋องน้ำอัดลมดังทั้งคืนอ่ะจ่ะ...

กับผู้หญิงสวมชุดว่ายน้ำยืนอยู่ในมุมมืดของขอบสระน้ำ แค่หันไปหันกลับก็หายไปแล้ว...

 

คราวหน้าถ้าได้ยินเสียงอีก ก็ขอเขาดื่ม ... เขาจะได้ไม่มากวน

เพราะเขากลัวว่าเดี๋ยวเราดื่มหมด

 

น่าตะโกนถามเขาหน่อยรับขนนจีบซาลาเปาเพืมใหมจ๊ะ

 

เอิ่ม... บังเอิญไม่มี service mind อ่ะจ่ะ
ถ้ามาดีก็ไม่มีปัญหา ถ้ามาไม่ดีก็เจอกันสักตั้งนึง....

 

ถ้าดื่มก็เสียตังก์สิ พี่ปอฯ...เครื่องดื่มในตู้เย็นแพงกว่าข้างนอกอีก....

 

เล่าให้เฮียแกฟัง ท่านนั่งหัวเราะและสั่งเมรีแกมกำชับว่า ยูจะทำไรทำเถอะแต่ข้อ 7 ห้ามทำตามเด็ดขาด

 

มีประสบการณ์พี่คนหนึ่งครับ แต่ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ไปพักที่ลำปาง เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งค่อนข้างจะเก่าครับ เป็นโรงแรมสามดาว กลางคืนพี่ผู้หญิงคนนี้แกนอนคนเดียว (แต่นอนห้องเตียงคู่ครับ) แกก็ทำตามวิธีข้างต้นครับ เช่นเคาะประตู วางรองเท้าสลับหัวท้าย เอากระเป๋าไปวางเตียงที่ไม่ได้นอน แล้วแกก็ว่า แกแขวนพระมาอีกด้วย

ตกดึกประมาณตีหนึ่งครึ่ง ผมกับเพื่อน(นอนอีกห้อง) กำลังจะหลับ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ผมกับเพื่อนมองหน้ากันว่า ป่านนี้ใครจะมาเคาะประตู ผมพยักเพยิบให้เพื่อนไปเปิดประตู เพื่อนก็ให้ผมไปเปิด ผมเดินมาหน้าประตู ส่องผ่านตาแมว ไม่เห็นมีใคร ผมคิดในใจ...เอาตรูแล้วไง สักอึดใจก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอีก ผมสะดุ้ง คราวนี้เปิดประตูเลย (ยืนอยู่หน้าประตูอยู่แล้ว) ก็เห็นพี่ผู้หญิงคนที่นอนคนเดียวยืนคลุมโปงอยู่ ผมเลยถึงบางอ้อ ว่าทำไมผมไม่เห็นแก เพราะแกเตี้ยกว่าระดับตาแมวที่ประตูมองแล้วจะเห็นครับ ก็ฮากันไป แต่พี่เขาไม่ฮาด้วย แกพูดปากคอสั่นว่า คืนนี้ขอนอนด้วยนะ แล้วก็ไม่รอคำอนุญาต แกเดินมาปูผ้านอนตรงพื้นระหว่างเตียงผมกับเพื่อน ให้แกนอนเตียงแกก็ไม่ยอม ถามแกว่ามีอะไร แกบอกเดี๋ยวเช้าก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง

เช้ามาแกเล่าให้ฟังว่า กลางคืนกำลังห่มผ้านอน แต่ยังไม่หลับ อยู่ดีๆผ้าห่มก็ร่วงลงพื้นทางปลายเท้า แกไม่คิดอะไร แกจึงลงจากเตียงมาหยิบผ้าห่มที่พื้น แล้วห่มผ้านอนต่อ

สักพักผ้าห่มก็ไหลลงทางปลายเท้าอีก แต่ทีนี้แกจับผ้าห่มทัน เลยดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มต่อ ตอนนั้นแกยังคิดว่า ผ้าห่มลื่นร่วงลงไปเอง แต่แกก็จับผ้าห่มไว้ไม่ปล่อยแล้ว เพราะแกกลัวมันร่วงไปอีก

ไม่นานเท่าไหร่ ผ้าห่มจะร่วงลงอีก ทีนี้ แกจับผ้าห่มอยู่ใช่ไหมครับ แกก็ดึงขึ้น แต่แกกลับรู้สึกว่า มีอีกแรงจากปลายเท้า กำลังชักคะเย่อแย่งผ้าห่มกับแกอยู่ แกเห็นเลยว่าผ้าห่มนั้นตึงขึ้นมาจากแรงของแกที่ดึง กับอีกแรงที่มาจากปลายเตียง

ระหว่างกำลังออกแรงชิงผ้าห่ม แกบอกว่า มีลมมาเป่าใส่หูแก ข้างซ้ายที ข้างขวาที ตอนนั้น แกตัดสินใจทันทีว่าแกจะยอมเป็นผู้ปราชัย แล้วก็กระเด้งตัวมาจากเตียงนั้นมาหยิบหมอนผ้าห่มอีกเตียง แล้ววิ่งออกมาเคาะห้องผมเพื่อมาขอนอนด้วย

ผมก็ถามแกไปว่า "อ้าว พี่ เมื่อวานพี่บอกว่าพี่มีพระไง ทำไมไม่แขวนไว้ล่ะ"

พี่แกก็ตอบว่า "แขวนสิวะ เนี่ยยังอยู่ที่คออยู่เลย"

ว่าแล้วแกก็ดึงสร้อยเชือกพร้อมพระเลี่ยมทองมาอวดผม ผมก็เลยถึงบางอ้อ เพราะพระที่แกแขวนคือพระเศรษฐีนวโกฏิครับ เป็นพระที่เน้นเรื่องโภคทรัพย์เงินทอง ค้าขาย เรื่องป้องกันภูตผีสิ่งน่ากลัวนี่ น่าจะไม่เน้นทางนั้นครับ

จึงเป็นเรื่องแซวแกทุกครั้งเวลาที่เดินทางด้วยกันแล้วไปพักตามโรงแรมต่างๆว่า

"พี่แขวนพระอะไรมา"

 

เอาพวงมาลัยไปไหว้เจ้าที่โรงแรมก็ช่วยได้นะ

 

สวดคาถาพญายมราช ผีคงกลัว

 

ทำไมถึงห้ามทำข้อ 7 คะ ?


---------------------------------------------