"ผู้หวังพระโพธิญาณและมรรคผลนิพพานในอนาคตอันไกล ย่อมเสียทั้งประโยชน์ทั้งของตนเองและผู้อื่น ด้วยว่า นาอันอุดมนี้มีอยู่บริบูรณ์...
อ้าว กลายเป็นผมปรามาสพระโพธิสัตว์ไปเสียแล้ว...ผมได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับวลีของท่านddman...
ดันครับ
พูดยากนะครับ ตอนนั้นผมกับคุณคงเป็นพรหมลูกฟักอยุ่มั้ง เลยไม่รู้เรื่องรุ้ราวอะไรกับเขา บางทีครั้งมีพระศาสนาแบบเดียวกันนี้...
ฝากคำตอบให้คุณแอ๊บแบ้วกับคุณtwentynine นะครับ ที่ถามว่าเอามาจากพระไตรปิฎกเล่มไหนหน้าที่เท่าใด พระสูตรอะไร ขอตอบตรงๆว่าข้อมูลดังกล่าว...
พระอรหันต์ก็คือพระอรหันต์ สาวกก็พระอรหันต์ พระพุทธเจ้าก็พระอรหันต์ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงพบและพระสาวกได้พบ ก็คือสัจธรรมอันเดียวกัน...
ท่านจขกท เข้าใจว่าเมื่อมีอาจารย์เก่งสอนฟิสิกส์แล้ว...
ข้อหนึ่ง ก.มี10ถูกแล้วครับ เพียงแต่ แต่ละข้อแบ่งเป็น 3ระดับ ข้อสอง ก.ครับ สะดวกตรงที่ไม่มีพระวินัยมากั้นการปฏิบัติ ข.บรรพชิตติดพระวินัย...
นั่นเป็นเพราะเราท่านทั้งหลายถูกสอนกันต่อๆมา ในยุคหลังพุทธกาลให้คิดว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก...
ทั้งหลายที่อ้างอิง ใครกัน? ที่พากันแต่งตั้งหลวงปู่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเป็นนู่นนี่นั่น เพื่อประโยชน์ของใคร? ยกตัวอย่าง...
นั่นนะสิครับ พระโพธิสัตว์(แท้ๆ)จะมีอยู่จริงหรือไม่ในศาสนานี้ ใครเล่าจะไปรู้ได้ และใครจะไปล่วงรู้ความคิดว่าท่านจะวัดรอยเท้าอาจารย์หรือไม่...
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พี่บู อ่านข้อความ "ผู้หวังพระโพธิญาณและมรรคผลนิพพานในอนาคตอันไกล ย่อมเสียทั้งประโยชน์ทั้งของตนเองและผู้อื่น ด้วยว่า...
ก็อย่างที่บอกไป พระโพธิสัตว์ ย่อมบังเกิดในสมัยพุทธกาลเพื่อรับคำพยากรณ์หนึ่ง
การที่บุคคลใดก็ตาม มีความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของตนเองและผู้อื่น โบราณเรียกว่า ท่านผู้นั้นเป็นพระโพธิสัตว์...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา