แพน้อย
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
29 พฤศจิกายน 2022
วันที่สมัครสมาชิก:
4 มิถุนายน 2008
โพสต์:
202
พลัง:
25

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 25 0
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
จุดบนโลก
อาชีพ:
ผู้จัดการ

แชร์หน้านี้

แพน้อย

Active Member, จาก จุดบนโลก

แพน้อย เห็นครั้งสุดท้าย:
29 พฤศจิกายน 2022
    1. แพน้อย
      แพน้อย
      ขอเวลานอกนะคะอาจารย์ทั้งสอง แพออกไปทานข้าวเดี๋ยวมาค่ะ
    2. บุคคลทั่วไป 3 คน
      บุคคลทั่วไป 3 คน
      ดีแล้ว นี้แปลว่า คุณแพน้อยถนัดดูกาย ก็ดูไปเลย ดูขาไปนั้นแหละ แต่อย่าพึ่ง
      ไปยกดูไตรลักษณ์ อันนั้นมันจงใจ ความรู้ที่อ่านมามากมันล้ำหน้า ไตรลักษณ์
      จิตมันต้องแจ้งเอง เหมือนการนึกขึ้นได้แล้วอุทานออกมา ไม่ใช่ขบคิดเอา

      ดังนั้น ขาขยับ ก็ดูไป มันต้องมีอะไรสักอย่างเป็นตัวผลักดัน ซึ่งไม่จำเป็นต้อง
      เป็นตัวเดียวกันเสมอไปด้วย

      คุณแพเป็นหัวหน้า เป็นเจ้านาย คงเคยจัดประชุม เคยเห็นลูกน้องมันพยักหน้าไหม
      พอเรามองไป บางทีก็ไม่มีคำถามอะไร แต่เขาเห็นเราจ้องก็พยักหน้า บางทีเราพูด
      อะไรที่ลึกซึ้ง มีคนๆหนึ่งพยักหน้าเพราะเข้าใจ แล้วทั้งห้องก็พยักหน้าตามคนนั้น เพราะ
      จิตของคนอื่นๆ ไปจับอยู่ที่คนนั้น ทำให้พยักหน้าตามวาระจิตคนอื่น บางครั้งลูกน้องมัน
      ก็พยักหน้าของมันเองเพื่อแสร้งทำเป็นเข้าใจ นี่แค่ พยักหน้า รูปเดียวนะ แต่มี นามเกี่ยว
      ข้องเป็นตัณหาคอยผลักดันเยอะแยะ

      ทีนี้ ก็มาดูตัวเราเองเท่านั้น ซึ่งระดับคุณแพผู้เป็นเจ้าของกิจการนี้ สมาธิไม่น้อยแล้วหละ
      การแยกจิตออกเป็นผู้ดูนั้นไม่น่าจะยากอะไร เว้นแต่ติดความไม่ชอบใจในโลกอันวุ่นวายก็
      เลยชอบใจการหมกมุ่นอยู่นิ่งๆ แต่ขามันขยับเพราะไม่อยากนิ่ง :)
    3. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      หุหุ เอาเถิด แพน้อยคุณดูไปเรื่อยๆสบายๆ เมื่อใดที่ที่จิตปรุงให้มีการระลึกรู้ จิตจะตื่นตรงนั้นเลย
      แต่หากกิเลสมันแรงก้ต้องอาศัยข่มใจ ด้วยกำลังสมาธินะ
    4. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ไม่ต้องไปจงใจรุ้ แต่ว่าให้สักว่ารู้ นั่งก็รู้ว่านั่ง
      มือเคลื่อนไหวก้รู้ว่าเคลื่อนไหว
      ใจรู้สึกอะไรก็รู้ รู้ไปเงียบๆ อะไรเด่นก็ดูตัวนั้นนะ
      ทำเช่นนี้ ใจจะไม่ไหล คิดฟุ้ง แต่จะต้งมั่นเป็นสติ
      เมื่อสติเกิด ก็ต้องมีการระลึกรู้ รู้ว่าปรุง รู้ธรรมชาติ เกิดดับ แค่สักว่ารู้
      หากเข้าไปคิด จะไม่รู้ หรือไปเผลอจ้องก็จะเคลียดๆ แข็งๆไป

      ส่วนในสมาธิค่อยดูของที่ละเอียด กายในกาย จิตในจิต
    5. แพน้อย
      แพน้อย
      เป็นปลื้ม... อาจารย์หมา อาจารย์แมว มาสอนธรรมแพลำน้อย
    6. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      เป็นอะไร ปวดขา ไขมันไปรวมอยู่หรอ หุหุ
    7. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
    8. บุคคลทั่วไป 3 คน
      บุคคลทั่วไป 3 คน
      การทิ้ง ไม่สนใจ ก็ คือ การกำหนดความคิด หรือ อารมณ์ไปจับกับสิ่งอื่นแทน

      นั่นคือ การทำ สมถะ ทำให้ละวางการรู้จากอาการขาสั่นได้

      ถ้าจะเอา ขาสั่นมาพิจารณาภาวนา ก็แค่ให้ดูไปเลยว่า ขาสั่น แล้วดูความชอบใจ
      หรือไม่ชอบใจ ที่ขามั่นสั่นที่จะทำให้สภาวธรรมเปลี่ยนจากการดู กลายเป็นตัณหา
      ถ้าไม่มีตัณหา ก็จะตามรู้ตามดู โดยไม่แทรกแซง จนกระทั่งแยกรูป-นาม ได้ ก็
      จะเริ่มเข้าสู่การภาวนา เห็นตามความเป็นจริง ไม่ทิ้งการดูลงเสียก่อน
    9. บุคคลทั่วไป 3 คน
      บุคคลทั่วไป 3 คน
      คนทั่วไปลำพังแค่ตื่นขึ้นเดินเหินได้ ก็เรียกว่า ตัวเองมีสติ

      พอใครคนหนึ่งอยู่ดีๆ ก็สะดุ้ง ตื่นจากภวังค์ โหวกเหวกโวยวาย ก็ไปว่า เขาไม่มี สติ

      ตัวคุณแพน้อยเอง ตอนไป สน. ก็เห็นอาการของตัวเอง เกิดเอะใจสั้น ไม่ได้สะดุ้ง แต่
      ถลำไปสงสัย แท้จริง ตัวสติ เกิดสั้น ขณะเดียว ดับไปแล้ว ที่เหลือคือ ไม่มีสติ ถลำไป
      สงสัย ถลำไปคิด ไปนึก จะไปรู้

      การ ภาวนา ให้สติเกิด ก็เหมือน การทำให้ ตัวสติ ที่เป็น ขณะๆ นั้นนั่นแหละให้เจริญ
      ได้ต่อเนื่อง เมื่อเจริญต่อเนื่องไม่สัดส่าย สงสัย ถลำไปตกใจ ไม่ชอบ ก็จะค่อยๆรู้
      ไปอย่างไม่กระโตกกระตาก ราบเรียบไปเรื่อยๆ รู้เห็น และตื่นอยู่ กับสภาวะกิเลส
      หรือ สภาวะใดๆ ที่จิตเขาจดจำได้แล้ว( ถิรสัญญา )

      สติ ที่คนทั่วไปคิดได้ว่า คือ สภาวะของการมีความคิดความอ่าน นั้นคือมุมมอง
      ของคนธรรมดา ทำให้คำว่า สติ ที่ใช้ในทางพระผิดเพี้ยนไป
    10. แพน้อย
      แพน้อย
      การปฏิบัติตนเป็นปรกติตามธรรมชาติมีสติระลึกรู้อยุ่เสมอปัญญาเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติจากการมีสติทุกอิริยาบท- หลวงพ่อชา
    11. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      แพน้อย วันนี้น้อย ซึ่งวาจา
      เอ่ยเถิดหนา กังวลใย หลงไต่ถาม
      ปวดใจ ปวดงาน หรือสิ่งใด
      บอกได้ไหม ให้รู้บ้าง เผื่อช่วยคลาย หุหุ
    12. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
      วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย
      ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียงตัว และจิตใจ
      เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน

      เหมือนชีวิตผันผ่าน คืนวันอันเปลี่ยวเหงา
      ตัวเป็นของเรา ใจของใคร
      มีชีวิตเพื่อสู้ คืน วันอันโหดร้าย
      คืนนี้ตัวกับใจ ไม่ตรงกัน

      คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว
      คืนและวันอัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ
      ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์
      อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น
      คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน
      คืนและวันฝันไป ไกลลิบโลก
      ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก
      พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ

      ทุกชีวิตดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย
      ใจในร่างกาย กลับไม่เจอ ทุกข์ที่เกิดซ้ำ
      เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอ ก็เป็นสุข

      คืน นั้น คืน ไหน ใจแพ้ตัว
      คืนและวัน อัน น่า กลัว ตัวแพ้ใจ
      ท่ามกลางแสงสี ศิวิไลซ์
      อาจหลงทางไปไม่ยาก เย็น
      คืน นั้น คืน ไหน ใจเพ้อฝัน
      คืนและวันฝันไป ไกลลับโลก
      ดังนกน้อย ลิ่วล่องลอย แรงลมโบก
      พออับโชค ตกลงกลาง ทะเลใจ

      แม้ชีวิตได้ผ่าน เลยวัยแห่งความฝัน
      วันที่ผ่านมา ไร้จุดหมาย
      ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ
      เป็นมิตรแท้ที่ดี ต่อกัน
      ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่ เพียง ตัวและจิตใจ
      เป็นมิตรแท้ที่ดี ตลอดกาล... .
    13. แพน้อย
      แพน้อย
      ทุกข์เพราะมีตนยึดมั่นของเรา
      ใครเขลาเก็บทุกข์สาหัสหนักนักหนา
      วันเดือนปีผ่านอุ้มตนไปมา
      ใครเก่งเกินข้าข้าไม่พอใจ

      จนมาถึงวันแบกไว้จนหนัก
      บ่าทรุดไหล่แอ่นเพิ่งค่อยเข้าใจ
      ตัวตนที่มีถืออยู่ทำไม
      แค่วางลงไปพลันโล่งโปร่งสบาย

      หยุดคิดปรุงอารมณ์ลดความสับสน
      วกวนในใจปล่อยวางทันใด
      ใจวางสงบลงสงบจริงรึเปล่า
      ชักยังสงสัยเลยวัดผัสสะกระทบทุกวัน

      ใจวางไม่หวั่นจิตสงบเหลือหลาย
      ค่อยคลายสับสนทุกข้อกังขา
      ผัสสะกระแทกมาธรรมใจไม่หวั่น
      วางเสี้ยววินาทีที่จะผ่านคือปัจจุบัน
    14. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      ถ้าพระธรรมเข้าไปสถิยต์ที่ใจแล้ว
      มองอะไรมันก็เป็นสภาวะที่อำนาจกรรมเหวี่ยงไปในแต่ละวัน
      เราสักว่ารู้ แต่ ไม่เข้าไปสนอง วิบากก็ส่งผลได้นิดหน่อย กรรมใหม่ก็ตกไป ครับ

      หากทำได้เช่นนี้ ก็ถึอว่ามีภูมิอริยะติดตัว
    15. สันโดษ
      สันโดษ
      ซี อี โอ Baby_par ใช้สันโดษ มา แปะ คะ เพราะ สันโดษ เกเร

      ไม่ยอม ไป ปั่น พระไตรปิฎก หลาย วัน อยู่คะ



      [IMG]

      ไปช่วยกันสร้างกุศลปั่นกระทู้พระไตรปิฏกเสียงอ่านกันเถอะค่ะ *-*

      สาธุๆๆๆๆ รอช้าอยู่ไย เวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว
    16. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      อำนาจมหาสติ

      สติที่ฝึกมาดีจนถึงระดับ มหาสตินั้น
      จะเกิดขึ้นทันทีที่กิเลสผุด และด้วยอำนาจของสัมปชัญญะหรือการระลึกรู้ นั้น
      บางเวลามักจะนำหน้าตัวกิเลสหนึ่งก้าวเสมอ คือรู้ผลของเหตุ จึงละได้ทันท่วงที
      นั่นเพราะ เห็นแล้ว รู้แล้ว ว่าสิ่งที่เกิดเป็นเพียงสภาวะของจิต เดี๋ยวก็ดับไปเอง

      จิตที่แยกระหว่างสิ่งมี่รู้และสิ่งที่ถูกรู้ได้แล้วนั้น
      ย่อมตั้งมั่น ทรงกำลังไว้ที่ฐานของรู้แบบกลางๆ ไม่ส่งออก และ เข้าใน
      เมื่อนั้น ระดับการกระทบของอายตนะ จึงเป็นเพียง สักว่ารู้

      จิตที่ถูกมหาสติกำกับนั้น การมองโลกจะเปลี่ยนไป คือ
      เห็น ได้ยิน ชิมรส สัมผัส ได้กลิ่น จะละเอียด ปราณี นุ่มนวลขึ้น
      ซึมซับสภาวะได้นุ่มลึกขึ้น
      เวลาให้การสัมผัสสิ่งที่ถูกรู้จะช้าลง กว่าปุถุชนทั้งๆที่ใช้เวลาเท่ากัน
      เช่น ปุถุชนมักโกรธ มักรับสิ่งที่ถูกรู้เข้ามา แล้วปรุงแต่งอารมณ์อย่างรวดเร็ว ขาดสติ
      ปฎิกิริยาตอบสนองกรรมนี้ เป็นไปแบบหยาบๆ จึงร้อนรนไม่จบสิ้น
      แม้แต่การมองเห็นของปุถุชน การเห็นมักถูกฉาบด้วยอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งเสมอ
      คือ ชอบ ไม่ชอบ หลง โกรธ ดังนั้นสิ่งที่เห็น กับสิ่งที่ใจรับ มักเป็นสิ่งลวง
      ผลก็คือ กรรม เวียนว่ายในสังสารวัฏ สร้างกรรม ใช้กรรม เป็นลูกโซ่

      จิตที่เป็นมหาสติ จะมีความปราณี ละเอียด
      เห็นกิเลสที่ละเอียดได้มากขึ้น ระยะเวลาจึงช้าลง ตรงนี้เป็นปัจจุบันธรรม
      เช่น เวลามันก็เท่าเดิม หากปล่อยจิตไหลไปกับความโกรธ ความหลง
      เราจะรู้สึกว่าเวลามันเร็ว เร็วจนขาดการระลึกรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
      หรือ เวลาช้าเหลือเกิน หากใจเราเกิดความกลัว หรืออยู่ในสภวะตึงเคลียส

      มหาสติ จะรู้ทันกิเลส จะเห็นโลกไปแบบซื่อๆ ตรงๆ ไม่มีการปรุงแต่งออกไปเลย
      อาการของผู้มีมหาสติ จะเห็น เป็นสภาวะทั้งหมด
      สิ่งใดเกิดขึ้น สักว่ารู้ หรือ มันเป็นเช่นนั้นเอง
      กิเลสภายนอกเข้ามากระทบก็ตกไป จะเหลือแต่กิเลสภายในที่ถูกส่งออกมา
      เช่น อยาก ไม่อยาก หงุดหงิดใจ แต่ก็ไม่รุนแรงมากนัก
      เพราะสติตั่งมั่นไม่ละออกจากฐานแล้ว ย่อมหยุดปรุงเป็นธรรมดา
      นั่นก้เพราะอำนาจของมหาสติในสัมโพชงค์นั่นเอง.
    17. แพน้อย
      แพน้อย
      สวัสดีพี่น้องยามเช้าเช้า
      เรามาเมาท์กันสนั่นสั่นสู้
      ธรรมมาดีดีส่งใจเฟื่องฟู
      ลองอู้หูลองอ้าหาสนทนาธรรม
    18. แพน้อย
      แพน้อย
      งานเสร็จขอตัวเข้านอนนะคะ
    19. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      เอาล่ะ ให้ลากันตอนที่ยังมีเรื่องคุยมากมายดีกว่า
      พรุ่งนี้จะได้เม้าท์สนั่นครับ หุหุ
      SEE YOU..

      ปล.ถามหน่อย เวลาคุยกับผม คุณยิ้มบ้างไหม (smile)
    20. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      พูดไปแล้ว ไม่คืนคำ
      แพน้อนนั้น หวั่นหรือไร
      เราพูดถูก ฟังแล้ว อาจไม่ถูกใจ
      ไม่แก้ไข คำเรา นั้นกล่าวดี

      ขาดใจตาย ตื่นมา ไม่เจอแพ
      นายหลงแย่ คงเหงา ขาดเพื่อนธรรม
      แพถามมา หลงตอบไป ถ้อยทางคำ
      ปรึกษาธรรม นำทางธรรม บ้างพุดคุย หุหุ ( คิดอะไรสาว เดี๋ยวปั๊ด....)
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    จุดบนโลก
    อาชีพ:
    ผู้จัดการ
    แนะนำตัวเอง:
    เรียบง่าย สบาย..สบาย
    ผู้หญิงธรรมดา

    หายใจ เข้า-ออก เป็นธรรม

    ลายเซ็น

    ..เหตุดีแล้ว ผลไม่จำเป็นต้องเข้าไปดู
    ด้วยเหตุเรารู้อยู่ว่าได้ทำอะไรอย่างไรไว้
Loading...