พี่ด๊อกครับอะไรทำไห้เครื่องบิน หรือ ยานอวกาศ บินได้

ที่จริงอยากถามพี่ด๊อกอะนะ แต่ไม่รู้ว่าพี่จะลดตัวมาเสวนาด้วยไหม

งั้นถามเด็กวิทก็ดะ อะไรทำไห้เครื่องบิน หรือยานอวกาศบินได้ครับ

พวกเห็นว่าศาสนาดีกว่าวิทยาศาสตร์ ไม่ต้องตอบนะพี่ ขอร้อง หุหุ
pig_cryy2

 

พี่ด๊อกไปไหน - - อะเด็กวิทอ่า ในนี้ไม่มีเด็กวิทเลยหรอ
ขุดรอบที่1

 

ถามเพราะอยากรู้จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย

ที่เครื่องบินบินได้เพราะว่ามีแรงยกที่ปีก ปีกของเครื่องบินนั้นด้านบนจะโค้งกว่าด้านล่างทำให้อากาศด้านบนปีกเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าอากาศที่ด้านล่างปีกทำให้แรงกดอากาศที่ด้านบนน้อยกว่าด้านล่าง เลยทำให้มีแรงยกของปีกขึ้นมา



ส่วนที่ยานอวกาศออกไปนอกโลกได้เพราะว่าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลุดพ้นซึ่งเท่ากับ 11.2km/s หรือ 40,320 km/h

ที่มาของสูตรก็
พลังงานที่ผิวโลก = พลังงานที่ infinity

-GMm/R + 1/2 m v^2 = 0

ได้ v = sqrt(2GM/R) = 1.12*10^4 m/s
= 11.2 km/s

รายละเอียดเพิ่มเติมก็อ่านได้จากสองเวปนี้ เพราะเอาข้อมูลมาจากสองเวปนี้แหล่ะ

 

ยังไม่ไช่ คนก็ไม่ไช่ นี่ถ้าไห้พวกดูจิตตอบตอบได้นานแล้ว มั๊ง^^

 

ไม่ใช่ก็ไม่ใช่....

 

แต่เมื่อกี๊ผมเห็นพี่ด๊อกมาด้อมๆมองๆแล้วนี่ครับ เดี๋ยวคงมาตอบไห้

 

เพราะนกยังบินได้...

 

เพราะ
มีโลก
มีเครื่องบิน ยาน
มีอากาศ มีเวลา
มีคนขับ กลไกบังคับ
มีความเกิดขึ้นพร้อม!
มีจิตที่ไม่ปรกติ

 

ทั้งหมดมีไม่ได้หรอก ถ้าไม่มี จิตที่ไม่ปรกติ - -

เอ้าจริงๆนะเอ่อ

 

ใช่ มันเริ่มที่ความไม่ปรกติอยู่นั่นเอง

 

โอเคครับในเมื่อน้องขอมาก็จะจัดให้
1.เอาเครื่องบินก่อน
ก็ไอ้ที่มีคนไปหามาข้างบนนั้นก็คือสมการแบร์นูลีนั้นเอง คนคิดก็คือนักวิทยาศาสตร์ผุ้ร่วมสมัยกับนิวตันDaniel Bernoulli



เขาเป็นคนสวิตครับเกิดในตระกูลนักคณิตศาสตร์และศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนด้วยกัน
สรุปง่ายๆก็คือตระกูลอัจฉริยะสุดๆนั้นเอง

ไอ้เจ้าสมการแบร์นูลีที่ว่านี้มีที่มาก็ค่อนข้างจะขมขื่นเล็กน้อย
กล่าวคือเมื่อDaniel Bernoulli เขียนหนังสือเกี่ยวกับมันขึ้นมาชื่อHydrodynamica
และถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น Hydraulica.

ในตอนท้าย
นั้นเขาจะต้องแย่งชิงกับคนๆหนึ่งว่าใครคือเจ้าของผลงานชิ้นนี้คนๆนั้นก็คือ

บิดาของเขาJohann Bernoulliซึ่งต่อมาก็ได้มีการพิสูตรว่าJohann Bernoulli ขโมยผลงานของลูกชาย

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นถึงแม้ Danielจะไม่เคยคิดแค้นเครืองบิดาเขาเลยแต่Johannก็ยังคงแค้นเครืองบุตรชายไปจนตาย

นอกจากนี้เขายังมีผลงานมากมายครับทั้ง

Euler-Bernoulli beam equation

St. Petersburg paradox

the economic theory of risk aversion, risk premium and utility
เป็นต้น


นี่ครับหน้าตาของBernoulli's Equation
สมการแบร์นูลีเป็นผลพวงมาจากสมการความต่อเนื่อง
ซึ่งความจริงเราสามารถจะทำการพิสูตรได้โดยใช้กฏของนิวตันครับแต่ถ้าใช้หลักงานและพลังงานง่ายกว่ามากๆ


หลักการคร่าว ๆ ของสมการแบร์นุลลีก็คือ เมื่ออากาศเคลื่อนที่นั้นความดันอากาศจะน้อยลง ยิ่งมีความเร็วมากขึ้น ความดันก็ยิ่งลดลง
ดังนั้น
การออกแบบปีกเครื่องบิน ก็จะต้องให้อากาศเคลื่อนที่ผ่านปีกด้านบนด้วยความเร็วที่สูงกว่าอากาศที่ผ่านปีกด้านล่าง
จะทำให้อากาศที่ใต้ปีกมีความดันสูงกว่าอากาศเหนือปีก
ก็ส่งผลให้เกิดแรงยกที่ปีก ทำให้เครื่องบินลอยอยู่ในอากาศได้ครับ





อันนี้สำหรับคนใฝ่รู้จริงๆ
จาก P+Dgh+1/2Dกำลัง2 = P+Dgh+1/2Dvกำลัง2 (เมื่อD=ความหนาแน่น
gก็เป็นความเร่งแน่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก Vคือความเร็ว hคือความสูง)
ให้ด้านซ้ายของสมการเป็นส่วนของด้านบนปีกและด้านขวาเป็นสมการด้านล่างของปีก

จะได้ว่า P+Dgh+1/2Dกำลัง2 = P+Dgh+1/2Dvกำลัง2


ความสูงของปีกด้านบนกับด้านล่างสูงแทบจะเท่ากันเมื่อเทียบกับความสูงของโลก จึงตัด Dghทิ้งได้เลย เพราะลบกันหมดไป

จะได้ว่า P+1/2Dvกำลัง2 = P+1/2Dvกำลัง2
แล้วลองสังเกต v=s/t โดยส่วนมาก พื้นที่ด้านบนปีกนั้นมันจะมีความโค้งมากกว่าตรงด้านล่าง จึงทำให้ vที่ด้านบน นั้นมากกว่า vที่ด้านล่าง

ทำให้ P ทางขวามือของสมการ มีค่ามากกว่า P ทางซ้ายของสมการ ทำให้ ความดัน ยก เครื่องบินให้บินขึ้นไปได้

โดยปกติแล้วสมการแบร์นูลีเป็นสมการที่ใช้กับของไหลไม่มีความหนืดและบีบอัดไม่ได้
ของไหลแบบสมำเสมอต้องมีอัตราการไหลคงที่ แต่ถ้าอัตราการไหลคงที่แล้วความดัน 2 ปลายไม่เท่ากันแสดงว่ามีความหนืด
เนื่องจาก ท่อน้ำนั้นเป็นท่อขนาน ซึ่งถ้าไม่มีแรงจากภายนอกมากระทำต่อระบบ มันจะมค่า P และ V คงที่ทั้งระบบครับ แต่ถ้ามีค่า P ต่างจากเดิม แสดงว่า มันมีแรงมากระทำภาย นอกต่อระบบนี้ จึงใช้สมการแบนูลีไม่ได้ครับ

โทษทีครับๆ กระผม ลืมพูดออกไป ว่า สมการแบร์นูลลี ใช้ได้เมื่อไหลนั้น เป็นของไหลในอุดมคติเท่านั้น คือ ไม่มีความหนืด อนุภาคของน้ำไหลเป็นสาย มีค่า D และ V คงที่ และอื่นๆ หรือว่า ไม่มีแรงภายนอกระบบ นอกจากแรงg จะมากระทำครับ แต่ว่า จากระบบนี้ เราเห็นได้ชัดมากๆเลยครับว่า ของไหลนี้ ไม่เป็นของไหลในอุดมคติ หรือ มีแรงภายนอกระบบนอกจากแรง g มากระทำครับ ทำให้ระบบนี้ เราจะใช้ สมการแบนูลลี ไม่ได้นะครับ ^ ^

แล้วเนื่องจาก สมการแบนูลีนั้นเป็นผลพวงมาจาก สมการของความต่อเนื่อง มีเงื่อนไขเหมือนกัน จึงไม่มีระบบไหนที่สมการความต่อเนื่องใช้ได้ แต่สมการแบนูลลีใช้ไม่ได้นะครับ

 

ต่อมาเอาเรื่องจรวด
อันนี้หากอธิบายทั้งหมดโดยยกสมการมาน้องอาจจะมึนตึบ
เอาเป็นว่า

ขอเล่าเลยเนื่องจากอวกาศอยู่เหนือจากเราขึ้นไปเพียงร้อ
ยกิโลเมตรเท่านั้นเองครับ แต่การที่จะขึ้นไปถึงมิใช่เรื่องง่ายเลยSir Isaac Newton



อันนี้ก็เป็นการทดลองในจินตนาการของนิวตันเองเลยตอนเขาคิดกฏแรงโน้มถ่วงนะครับบางคนชอบบอกว่าเขาคิดได้เพราะแอปเปิ้ลตกใส่หัว
แต่ความจริงไม่ใช่ครับ ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นของเขาเท่านั้น
เขาได้อธิบายไว้ว่า หากเราขึ้นไปอยู่บนที่สูง และ
ปล่อยก้อนหินให้หล่นจากมือ ก้อนหินก็จะตกลงสู่พื้นในแนวดิ่ง เมื่อออกแรงขว้างก้อนหินออกไปให้ขนานกับพื้น ก้อนหินจะเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งเพราะตามกฏข้อที่1ของเขาหากไม่มีแรงมากระทำต่อ
ก้อนหินมันก็จะยังตคงรักษาความเร็วคงที่เดิมเอาไว้ครับคือพุ่งเป็นแนวเส้นตรงไปเรื่อยๆจบสุดขอบจักรวาลแต่ในความเป็นจริง
แล้วนั้นก้อนหินไม่ได้เคลื่อนที่ไปแบบนี้เพราะมีแรงดึงดูดของโลกมากระทำมันจึ่งต้องเครื่อนที่เป็นแนวโค้งหรือการเคลื่อนที่แบบ
โพรเจกไทล์เนื่องจากแรงลัพธ์ซึ่งเกิดจากแรงที่เราขว้างและแรงโน้มถ่วงของโลกรวมกัน หากเราออกแรง
มากขึ้น วิถีการเคลื่อนที่ของวัตถุจะโค้งมากขึ้น และก้อนหินจะยิ่งตกไกลขึ้น
และหากเราออกแรงมากจนวิถีของวัตถุขนานกับความโค้งของโลก ก้อนหินก็จะไม่ตกสู่พื้นโลก
อีก แต่จะโคจรรอบโลกเป็นวงกลม เราเรียกการตกลักษณะนี้ว่า “การตกอย่างอิสระ” (free fall)
และนี่เองคือหลักการส่งยานอวกาศขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก
หากเราเพิ่มแรงให้กับวัตถุมากขึ้นไปอีก เราจะได้วงโคจรเป็นรูปวงรี และถ้าเราออกแรงขว้าง
วัตถุไปด้วยความเร็ว 11.2 กิโลเมตรต่อวินาที วัตถุจะไม่หวนกลับคืนอีกแล้ว แต่
จะเดินทางออกสู่ห้วงอวกาศ เราเรียกความเร็วนี้ว่า “ความเร็วหลุดพ้น” (escape speed)นั้นเอง
นี่คือหลักการส่งยานอวกาศไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น

และทำงานตามกฎของนิวตัน ข้อที่ 3 “แรงกริยา = แรงปฏิกิริยา”
จรวดปล่อยก๊าซร้อนออกทางท่อท้าย (แรงกริยา) ทำให้
จรวดเคลื่อนที่ไปข้างหน้า (แรงปฏิกริยา)

ในความเป็นจริงเวลาคำนวณเราจะไม่ใช้กฏของนิวตันนะครับเพราะมวลของจรวด
จะไม่คงตัวแต่เราจะใช้หลักการของโมเมนตัมแทน

 

เหอะๆ ไม่ไหวเลย
แค่ตอบยังไม่ตรงประเด็น
แล้วไอ้คำที่ว่า
จิตไม่ปรกติ คุณมั่นใจแล้วเหรอ ที่ตอบแบบนี้

 

ที่จริงผมก็กะจะตอบว่า จิตเท่านั้น แต่เขาตอบว่าจิตที่ไม่ปรกติ มันก็ไช่อะ

เริ่มที่จิตจริงๆครับ คือ จิตที่มีความอยากบินอย่างนก เป็นจุดเริ่มต้น

จิตที่ไม่ปรกติก็คือ จิตที่มีความอยาก หรือตัณหาไงครับ

 

พี่ด๊อกมาละ พี่เขาก็ถูกแบบวิทยาศาสมั๊งครับ ผมไม่รู้ผมเพราะผมเรียนน้อย^^

 

ที่จริงแล้วพูดได้เลยว่าที่โลกมีและเป็นอย่างทุกวันนี้ ก็เพราะจิตเท่านั้นเองครับ

จิต2ประเภท ที่นำไห้โลกนี้ดำเนินไปแล้วแต่ว่าจิตแบบไหนมีมากกว่ากัน

มนุษย์เราทำเราสร้างสิ่งต่างๆได้ไหม ถ้าไม่มีจิตใจ ที่ อยากสร้าง

 

ถูกในแบบ คนคิดค้น (เอาปัญญามาใช้งาน)
ถูกในแบบ สาวก (จำเอาความรู้มาใช้งาน)

ถ้าไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลย ก็รอบริโภคอย่างเดียว ทำไม่เป็น รอกิน รอใช้ ของที่เขาทำ
สำเร็จแล้ว แบบเราๆนี้แหละ เดินทางด้วยเครื่องบิน อะ ทำเป็น แต่สร้างเครื่องบินไม่เป็น
ขับเครื่องบินก็ยังไม่เป็น ถ้าเป็นทางพุทธศาสตร์(อดวกเข้ามาไม่ได้) ก็ทำได้แค่ รู้จักทำ
ทาน ถือศีล แต่ภาวนา ไม่เป็น

ไม่รู้ตรงประเด็นไหม แต่อยากตอบมั่ง

 

แหม อยากไห้นักวิทยาสาดไทย เป็นนักวิทยาศาสคนแรกในโลก ที่สามารถอธิบายเรื่อง

นรก สวรรค์ การระรึกชาติ อภิญญาต่างๆ วิญญาณ

ได้ด้วยวิธีทางวิทยาสาดจังเล้ย

แต่ช่างมันเถอะ ไม่ไช่เรื่องของเรา หุหุ

 

ได้ยินมาว่านักวิทยาศาสตร์ฝรั่งบางกลุ่มก็กำลังพิสูจน์เรื่องชาติภพผ่านทางสะกดจิตอยู่นะครับ หนังสือเค้ามีแปลไทยด้วย

 

อาศัยแรงยก ของอากาศ ไงครับ เวลานั่งรถ หรือซ้อนมอเตอร์ไซค์ ลองเอามือตัวเองแบบออกเหมือนปีกเครื่องบินแล้ว ลองปรับ ทริม ขึ้นลงดู ถ้าค่อนพลิกมือขึ้น มันก็จะเหมือนลมตีให้มือเราลอย ขึ้น