><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041



    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$$




    2611.ของดีนิตยสารสายสิญจน์ ชนวนเข้มเสกขลัง(๒)
    เหรียญพระพุทธชินสีห์ ลป.ดู่,ลพ.จรัล,ลพ.ตาบ,ลป.คร่ำ ปลุกเสกประจุพลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    เหรียญพระพุทธชินสีห์ เนื้อโลหะผสมชนวนแผ่นยันต์มากมาย รมน้ำตาล จัดสร้างโดย นิตยสารสายสิญจน์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ.2529 เพื่อเป็นสมนาคุณแจกให้แก่ผู้อ่าน

    เนื้อโลหะหลากหลายวรรณะ พื้นผิวขรุขระนิดๆ ตามสูตรเนื้อชนวนที่นำมาหลอม แล้วถึงจะนำมารีดเป็นเเผ่นโลหะสำหรับปั้มเป็นเหรียญ ดูเข้มขลังไปอีกแบบ

    แล้วได้ขอความเมตตาจากพระเถราจารย์จำนวน 7 รูปอธิษฐานจิตปลุกเสก ดังรายนามต่อไปนี้
    1)พระพุทธวรญาณ วัดกวิศราราม ลพบุรี เมื่อครั้งยังเป็น พระธรรมญาณมุนี
    2)หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    3)หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา
    4)หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    5)หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    6)หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง สระบุรี
    7)หลวงพ่อสนิท วัดพระเชตุพน กทม.


    ข้อมูลจาก สวนขลัง



    สภาพหิ้งเก่าเก็บ พุทธคุณคงไม่ต้องบรรยายแล้วหละครับประสบการณ์สูง เมตตา โชคลาภ เจริญโภคทรัพย์ดีนักแล แบ่งให้บูชา 444 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • X6Sy22.jpg
      X6Sy22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      344.5 KB
      เปิดดู:
      393
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2024
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2612.ผิวหิ้งเก่าเก็บของดีที่ถูกลืม ลป.หมุน เสก 9วัน9คืน
    พระสมเด็จทรงเครื่อง วัดช้าง ลป.หมุน,ลป.ลมัย,ลป.ทอง อธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    Xn1RS2.jpg

    พระสมเด็จทรงเครื่อง พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่9 วัดช้าง จังหวัดนครนายก ( ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น จากท่านอาจารย์นิรันดร์(อ.หนู) แดงวิจิตร อาจารย์ต๊ะท่านเป็นพระหลานชายของ อ.หนู และ มีเกี่ยวพันเป็นอย่างดีกับทางวัดสุทัศน์) พระอาจารย์ต๊ะรูปนี้ไม่ธรรมดานะครับ ท่านเป็นผู้คงแก่เรียน ท่านศึกษาสรรพวิชามากมายหลายแขนง เรียกได้ว่าใครอยกาเจอของจริงๆ ต้องท่านเลย และที่สำคัญท่านละสังขารไป 5ปีสรีระไม่เน่าไม่เปื่อย

    เนื้อผงพุทธคุณ หลัง ปั๊มโค้ดตัวหนังสืออักษร (วัดช้าง ) ดำเนินการจัดสร้างขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2544 นำเข้าพิธีไหว้ครู ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม.



    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน อธิฐานปลุกเสกก่อนงานพิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม 9 วัน 9 คืน


    วาระที่ : 2
    - ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ พิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2544 อธิษฐานจิตปลุกเสก โดย


    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อายุ 107 ปี พระปรมาจารย์อมตะมหาเถระ 5 แผ่นดิน
    2. หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์ พระผู้เชี่ยวชาญในกสิณสมาบัติ และวิชาปรอท เล่นแร่แปรธาตุ
    3.หลวงปู่ทอง อายุ 96 ปี วัดจักรวรรดิ กทม. สหธรรมิกร่วมสมัยกับหลวงปู่หมุน ผู้เคยทดลองวิชาอาคมในยุคอินโดจีน

    พระเครื่องรุ่นนี้ ท่านเจ้าคุณ วัดสุทัศน์ เตรียมไว้แจกแก่ผู้ที่มาร่วมงานพิธีไหว้ครูในครั้งนี้

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์สายตรง พระเครื่องหลวงปู่หมุน
    - https://tnews.teenee.com/weird/8472.html
    - https://www.komchadluek.net/amulet/152400



    พระครูธวัชภัทราภรณ์(อ.ต๊ะ)
    พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น เป็นที่รู้จักกันดีในวงการผู้ที่นิยมพระกริ่งในเมืองไทย ทั้งนี้พระกริ่งวัดช้างถือเป็นพระกริ่งที่มีความเป็นมาเกี่ยวพันกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม อดีตพระเถระผู้เรื่องวิทยาคมอีก รูปหนึ่งของชาวอำเภอบ้านนา นครนายก

    ประวัติพอสังเขป
    พระอาจารย์ต๊ะ วัดช้าง บ้านนา เมื่อสมัยท่านเป็น เลขารองเจ้าคณะอำเภอบ้านนา ในสมัยที่ พระครูภัทรกิจโกศล (ภู) ท่านได้ศึกษาท่องจำตำราของท่านอาจารย์เทพ สาริกาบุตร วันหนึ่งในขณะที่อยู่ในโบสถท่านก็ได้ท่องมนต์ของอาจารย์เทพ สาริกาบุตรอยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านได้เดินมาในโบสถ์ท่านได้ยิน อาจารย์ต๊ะกำลังท่องมนต์อยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านบอกให้ไปหาที่กุฏิท่านหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว อาจารย์ต๊ะก็ได้ไปพบตามที่นัดหม ายไว้ หลวงพ่อภูท่านก็ให้ไปหยิบใบพลูมา 1 ใบ แล้วท่านก็ถาม อาจารย์ต๊ะว่าจะเอาเปรี้ยวหรือเอาหวาน อาจารย์ต๊ะท่านตอบว่าเอาหวาน หลวงพ่อภูท่านก็เอาใบพลูมาฉีกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ท่านหยิบส่วนแรก แล้วเสกลงในส่วนนั้น ส่งให้ อาจารย์ต๊ะ ท่านเคี้ยว ปรากฏว่ารสชาติออกมาหวาน แล้วท่านก็เสกลงที่ใบพลูส่วนที่เหลือแล้วให้ อาจารย์ต๊ะเคี้ยวปรากฏว่ารสเปรี้ยว ด้วยเหตุนั้นมาทำให้อาจารย์ต๊ะท่านเกิดความตั้งใจขอเรียนวิชากับ หลวงพ่อภูมาโดยตลอดทุกวันหลังทำวัตรเย็นเสร็จ จนสามารถสืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อภูมาอย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม

    หลังจากนั้นต่อมาท่านติดตาม หลวงพ่อภูไปนั่งปรก พุทธาพิเษกวัตถุมงคลตามวัดวาอารามต่างๆที่ได้รับนิมนต์ ในยุคสมัยนั้น จนท่านอาจารย์ต๊ะได้มีโอกาสไปพบกับ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ผู้โด่งดังแห่งยุคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระนารายณ์ พระบุตร – ลบ หนุมาน ราชสีห์ ท่านก็ไปขอศึกษาร่ำเรียนวิชา พระนารายณ์ หนุมาน และวิชาสักยันต์ จากหลวงพ่อมาโดยตรง และนอกเหนือจากนั้นท่านร่ำเรียนวิชา เสกปลัดขิกจาก ปู่พาน ศิษย์ฆราวาสคนเดียวของหลวงพ่อเกิด วัดสะพาน ตำรานี้เป็นตำราของหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก

    ต่อมาท่านเดินทางไปเรียนวิชา ทำตะกรุดหน้าผากเสือ และเสกเสือ จาก หลวงพ่อขวัญ วัดอรุณ ฯ ท่านได้เรียนมาจากหลวงปู่นาค และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ตามให้ท่านไปเรียนกับท่าน (เจ้าตำหรับ 5 ม)
    หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม ท่านไปเรียน วิชาทำน้ำมนต์ เสกนะ หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ท่านก็ไปฝากตัวเป็นศิษย์ และต่อมา อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ผู้เป็นตาเคยเรียก อาจารย์ต๊ะท่านไปอาบน้ำมนต์ครอบครูวิชาและตำราเทพระกริ่ง ให้เมื่อ ลอยกระทงปี 36 และปี 40 หลังจากนั่งปรกวัดสุทัศน์เทพวรารามเสร็จแล้ว

    และได้เรียนตำราเสกช้าง เพิ่มเติมจากตำราเก่าของวัดช้าง จาก หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จังหวัดชัยนาถ
    อีกทั้งท่านได้ร่ำเรียนวิชาลงตะกรุดบังปืนใบลานจากหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม้น้ำแม่กลอง จากหลวงพ่อมาโดยตรงอีกมายมาย และไปมาหาสู่เป็นประจำ หลวงพ่อสง่าท่านรักและเมตตา อาจารย์ต๊ะเป็นอย่างมาก ที่มีงานพุทธาพิเษกพระกริ่งของทางวัดช้างครั้งใด หลวงพ่อท่านจะเมตตามานั่งปรกให้ทุกครั้ง
    ท่านไปศึกษาโหราศาสตร์ กับพระมหาณัฐพงษ์ ฐิตปญฺโญ วัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) เชิงสะพานยศเส ปทุมวัน กรุงเทพฯ

    และคาดว่าท่านยังศึกษาวิชาต่าง ๆ จากพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่มิได้กล่าวมาข้างต้น
    จากหลักฐานรูปถ่ายพิธีปลุกเสกพระกริ่งของท่านไม่ว่ารุ่นใดในอดีต พระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น โดยมี หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อถนอม วัดสุทัศน์ พระอาจารย์สาท (โม่ง) ธรรมโชติ วัดขนอนเหนือ ศิษย์และมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อพรห์ม วัดขนอนเหนือ และพระเถระสายสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม อีก หลาย ๆ รูป ด้วยกัน ที่มิได้เอ่ยนาม ก็เป็นพระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ และกราบอาราธนามานั่งปรกในมณฑลพิธีพระกริ่งวัดช้างของท่าน
    นับว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ท่านมาด่วนจากไป เนื่องจากสุขภาพร่างกายท่าน มีโรคประจำตัวแทรกซ้อนมากมาย ทั้งเบาหวาน ความดัน ก่อนการเดินทางแพทย์ประจำตัวของท่านตรวจรักษาโรคประจำตัว และกำชับว่าไม่อยากให้เดินทางในช่วงนี้ แต่เนื่องจากอุปนิสัยของพระอาจารย์ท่านมักเป็นคนดื้อรั้น ไม่อยากผิดคำพูดที่รับปากว่าจะไป และท่านก็ไม่ได้นำยาที่ฉันประจำ ติดไปจึงทำให้ท่านมิอาจทนกับความทุกข์ทรมานในร่างกายของท่านได้ ท่านระสังขารไปอย่างรวดเร็วโดยที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ของท่านทุกคนมิทันตั้งตัว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ท่านหลงเหลือไว้ก็เป็นคุณความดี และหลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาให้ชาวอำเภอบ้านนา ได้กราบไหว้บูชา อยู่ทุกวันนี้

    ท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจารย์ต๊ะ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างลำดับ ที่ ๙ หลังจากที่พระจารย์ต๊ะ เข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ได้ดำริที่จะให้มีการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่ของวัดช้าง ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีเคยการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งการสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างในครั้งนั้น เกิดขึ้นโดยท่านอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร หรืออาจารย์หนู ได้กราบทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนา จัดสร้างพระกริ่งวัดช้างขึ้นมา เพื่อหารายได้มาใช้ในการก่อสร้างโรงเรียนวัดช้าง ซึ่งองค์สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ก็ทรงพระเมตตา ประทานอนุญาต ตามคำกราบทูลขอ และได้ดำเนินจัดสร้างขึ้น โดยกำหนดให้มีการเททองหล่อพระกริ่ง ขึ้นในวันเพ็ญกลางเดือนสิบสอง ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ ซึ่งตรงวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และทรงเสด็จพระดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธี ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ อีกด้วย

    การจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง ขึ้นอีกในครั้งนี้ แต่เดิมพระอาจารย์ต๊ะดำริที่จะจัดสร้างรูปหล่อจำลององค์หลวงพ่อดำซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยของวัดสุทัศน์ฯ ให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดช้างเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้กราบไว้บูชา การจัดสร้างองค์หลวงพ่อดำนั้น อาจารย์ต๊ะ ได้ให้ช่างออกแบบขยายใหญ่ ขนาดหน้าตัก ๙ ศอก สูง ๑๓ ศอก แต่การจัดสร้างมีอุปสรรคมากมาย เริ่มตั้งแต่การปั้นหุ่นพระ ก็ต้องปั้นแล้วปั้นอีก เป็นเวลานานถึง ๒ ปีจึงสามารถปั้นจนแล้วเสร็จ แล้วจึงได้ทำพิธีเททองหล่อองค์หลวงพ่อดำ ซึ่งต่อมาพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ประทานพระนามว่า “หลวงพ่อพระพุทธมหามุณีศรีวรเขตนายก สาธกสรรพมงคลมหาชนอภิปูชะนี”

    เมื่อหลวงพ่อดำ สร้างแล้วเสร็จ ก็มีปัญหาตามมาเนื่องจากหลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างวิหารครอบ แต่ยังขาดทุนทรัพย์อีกเป็นจำนวนมากในการก่อสร้าง พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ตั้งจิตอธิฐานขอให้พบกับผู้มีบุญมีจิตศรัทธามาร่วมสร้างบุญกับท่าน

    แล้วท่านก็สมความปรารถนา เมื่ออาจารย์ต๊ะได้พบกับพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ จึงได้ปรึกษาหารือถึงการก่อสร้างวิหารครอบหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นช่วงที่ทางวัดสุทัศน์ฯ กำลังจะจัดสร้างพระกริ่งจักรพรรดิ เพื่อฉลองชนมายุ ๗๑ พรรษาของพระวิสุทธาธิบดี พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ถวายตำราและแนะนำให้พระเดชพระคุณเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้ทำการเฉลิมพระนามพระพุทธเจ้า เพิ่มจากเดิมในสมัยกรมหลวงมรุพงษ์ศิริพัฒน์ รวมเป็น ๖๗๒ พระนาม ทั้งยังรับอาสาเป็น-านในการจาร “พระนามแดง” ( เป็นภาบาลีขอม) ลงในใต้ฐานองค์พระกริ่งจักรพรรดิ

    นอกจากนี้ยังได้ถวายมณฑลพิธีวัดช้างให้เป็นสถานที่เททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิ อีกทั้งพระอาจารย์ต๊ะ ยังได้ถวายชนวนมวลสาร แร่ธาตุของพระกริ่งรุ่นเก่าของวัดสุทัศน์ ที่ท่านอาจารย์หนู ผู้เป็นคุณตาเก็บรักษาไว้ ให้นำไปหล่อเป็นพระกริ่งจักรพรรดิ ซึ่งมีทั้งชนวนก้าน ชนวนแผ่นและชนวนเม็ด จำนวนเป็นกระสอบๆ

    จนถึงวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช(แพ) คณะ ๖ วัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นวันไหว้ครูของท่านอาจารย์นิรันดร์(หนู) ซึ่งในวันนั้นตรงกับวันสถาปนาพระกริ่งวัดช้าง (พ.ศ.๒๔๘๔) ซึ่งเป็นรุ่นแรก และยังตรงกับวันประสูติของสมเด็จพระสังราช(แพ) อีกด้วย โดยในวันนั้นพระวิสุทธาธิบดี ได้มีเมตตาอนุญาตให้พระอาจารย์จัดสร้างพระกริ่งวัดช้าง ขึ้นมาอีก ๑ รุ่น รวมทั้งมอบต้นแบบพิมพ์พระกริ่งใหญ่ ให้กับพระอาจารย์ต๊ะ และท่านอาจารย์หนูไปจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ
    ๑.เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ ๖๐ ปี ที่อาจารย์นิรันดร์(หนู)ได้ทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนาพระกริ่งวัดช้างขึ้น ณ.วัดสุทัศน์เทพวราราม พุทธศักราช ๒๔๘๔
    ๒. เพื่อมอบเป็นพุทธานุสรณ์ให้แก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมทำบุญ สนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปใหญ่และวิหาร วัดช้าง
    ๓. เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา
    ในค่ำคืนวันนั้นพระครูวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจาร์ต๊ะและพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม ได้ร่วมกันการจารแผ่นพระยันต์ ๑๐๘ เพื่อเตรียมไว้ในการทำพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง และมีพิธีพุทธาภิเษกน้ำทิพย์มนต์ ที่พระวิสุทธาธิบดีได้จัดถวายน้ำสรงรูปเหมือนท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ณ พระอุโบสถวันสุทัศน์เทพวราราม หลังเสร็จพิธี ได้มีการแจกน้ำทิพย์มนต์ในคืนศิวาราตรีนั้นให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

    จากนั้นในวันที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง มงคลฤกษ์ ๑๘.๕๕ น.ได้ประกอบพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยทำพิธีเททองหล่อร่วมกับพิธีเททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิและเททองหล่อพระพุทธรูปใหญ่องค์หลวงพ่อดำ(ส่วนพระเกศ) ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นองค์ประธานในพิธี

    เมื่อทำการเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้างเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๕ โดยพระวิสุทธาธิบดี เป็นองค์ประธาน มีพระเถรานุเถระผู้ทรงวิทยาคมร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งพระกริ่งใหญ่วัดช้างรุ่นนี้ได้ทำการบรรจุเกศาและผงพุทธคุณของพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดีไว้ทุกองค์ มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๔๕ องค์ แบ่งเป็นแบบก้นถ้วย ๕๖๐ องค์ และก้นเรียบ ๑๙๘๕ องค์
    หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษก แล้วมีการเปิดให้ประชาชนบูชา ปรากฏว่าได้มีคลื่นประชาชนจำนวนมาก ต่างหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเช่าบูชาพระกริ่งใหญ่ จนบริเวณวัดและบริเวณใกล้เคียงเนืองแน่นไปด้วยศาสนิกชน นับเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวัดช้าง

    เมื่อองค์จำลองพระพุทธรูปใหญ่(หลวงพ่อดำ)ได้มีการหล่อเสร็จสมบูรณ์ จากเงินรายได้ในการให้บูชาพระกริ่งใหญ่วัดช้าง อันถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาระอันเป็นมหากุศลอย่างยิ่งของพระอาจารย์ต๊ะ หรือ พระครูธวัชภัทราภรณ์ ที่ได้ตั้งมั่นในการดำเนินการจัดสร้าง จึงเป็นเสมือนการยกภูเขาออกจากอก จนท่านถึงกับเคยเอ่ยปากกับคนใกล้ชิดว่า “ภาระเสร็จแล้ว สบายแล้ว จะไปแล้ว จะไปพักผ่อนแล้ว ” ซึ่งหลังจากที่ท่านพระอาจารย์ปรารภเพียงไม่กี่วัน คือวันที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ท่านก็เดินทางไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน สิริรวมอายุได้ ๓๔ ปี โดยทิ้งผลงานและคุณงามความดีไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้กราบไหว้มาจนปัจจุบันนี้

    เมื่อท่านพระอาจารย์ต๊ะมรณภาพลงแล้ว คณะกรรมการวัดช้างและลูกศิยษ์ที่เคารพนับถือ จึงได้ตกลงร่วมกันให้เก็บสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงศพ แล้วทำพิธีสวดพระอภิธรรมติดต่อกันตลอดมา เป็นเวลานานเกือบ ๕ ปี และมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ แต่ก่อนจะถึงกำหนดวันพระราชทานเพลิง คือวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ คณะกรรมการและลูกศิษย์ของท่านจึงได้ทำพิธีเปิดโลงศพของท่าน แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าสังขารของพระอาจารย์ต๊ะที่นอนสงบนิ่งอยู่ในโลงมานานกว่า ๔ ปี กลับไม่เน่าเปื่อย หรือมีกลิ่นเหม็น ร่างของท่านเพียงแค่แห้งไปเท่านั้น

    ท่านพระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จึงได้นำแผนทองคำเปลวมาปิดที่ใบหน้าของพระอาจารย์ต๊ะ และเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะบูชา เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป บรรดาผู้ที่เคารพนับถือต่างเดินทางมากราบสังขารของท่านกันเป็นจำนวนมาก

    ซึ่งทางวัดก็ได้จัดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้เป็นเวลา ๑ วัน รุ่งขึ้นวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เวลา ๑๖.๐๐ น.จึงได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ ท่ามกลางประชาชนผู้มีจิตเคารพศรัทธาในองค์พระอาจารย์มาร่วมในพิธีนับหมื่นคน
    ข้อมูล พระครูโสภณนาคกิจ อ.เดช



    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเยาว์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 350 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2022
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2613.ยอดของดีของพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อยบาตรโต พุทธคุณครอบจักรวาล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    Xn15w9.jpg

    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว (หลวงพ่อบาตรโต) จังหวัดสระบุรี เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2503 หลวงพ่อสร้อย วิจาโร คือพระอรหันต์อีกหนึ่งรูปในนั้น ท่านมีฤทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย เพียงแต่ว่าปฎิปทาของท่านคือ ซ่อนตัวหลบเร้นซุกซ่อน เปรียบเหมือนช้างเผือกในป่าใหญ่ ไม่ได้ยุ่งสุงสิงกับใคร หากใครหาพระที่มีพลังวิเศษ พลังศักดิ์สิทธิ์ พระของหลวงพ่อสร้อยเนี่ยแน่นอน ท่านเสกเดี่ยว ประจุจนท่านมั่นใจ ท่านจึงแจกแก่ศิษย์ และท่านว่าการสร้างพระแต่ละอย่างแจกใครก็ตาม จะเสกส่งเดชทำเล่นไม่ได้ เสียชื่อครูบาอาจารย์ เพราะคนที่จะมาเป็นครูบาอาจารย์ คนที่เป็นลูกศิษย์เค้าเคารพนับถือคือมอบกายถวายชีวิตแขวนพระท่านด้วยความเคารพนับถือและศรัทธา หากทำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์จริงไม่ขลังจริงเค้าเอาไปแขวนเอาไปตายเป็นอะไรไปท่านก็ว่าจะเป็นบาป ของของท่านเชื่อได้จริงขอให้มั่นใจได้ว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงทำจริง ดีจริง ทั้งนอกและใจ เจตนาก็บริสุทธิ์

    หลวงพ่อสร้อย ... พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    เล่าโดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    เคยพบพระองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบันนี้ คือ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๕ ต่อกัน
    พระรูปนั้นมีชื่อว่า "พระสร้อย"
    ท่านบอกว่า ท่านเป็นชาวจังหวัดสระบุรี ไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนเลย
    แม้หนังสือไทยนี้ ปกติท่านก็อ่านไม่ออก

    ท่านว่าเมื่อท่านอายุได้ ๗ ปี มีพระในถ้ำเขตสระบุรีท่านหนึ่ง ไปเยี่ยมโยมท่านที่บ้าน
    เมื่อพระรูปนั้นจะกลับถ้ำ ได้ออกปากชวนท่านไปอยู่ด้วย
    ท่านก็ขออนุญาตโยมหญิง - ชายจะไปอยู่กับพระรูปนั้น
    โยมทั้งสองก็อนุญาตด้วยความเต็มใจ

    ท่านเล่าให้ฟังว่า
    เมื่อไปอยู่กับพระรูปนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
    เพราะในถ้ำนั้นมีพระอยู่ ๒ - ๓ รูป
    ท่านบิณฑบาตกลับมาแล้ว ท่านฉันจังหันเสร็จ
    ต่างก็บูชาพระ แล้วนั่งภาวนากันตลอดวันตลอดคืน ไม่ใคร่มีเวลาพูดคุยกัน
    ท่านก็สอนให้ท่านอาจารย์สร้อยภาวนาด้วย ทำอยู่อย่างนั้นจนครบบวช
    พระที่ท่านพาไปก็พาออกมาบวชที่บ้าน บวชแล้วก็พากลับมาอยู่ถ้ำ นั่งภาวนาตามเดิม

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ ท่านป่วย
    ได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่บางกะปิ พระนคร
    ใครจะนิมนต์ท่านเข้าไปในชายคาบ้าน ท่านไม่ยอมเข้า
    ต่อมาพลเรือตรีสนิท เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือไปพบเข้า มีความเลื่อมใส
    นิมนต์ให้มารักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ ให้พักอยู่ที่ตึก ๑ เป็นตึกคนไข้พิเศษ
    อาจารย์สร้อยนี่เป็น ... พระพิเศษ

    ปฏิปทาของท่านอาจารย์สร้อย ที่มาอยู่ที่กรมแพทย์ทหารเรือก็คือ
    ตอนเช้า ท่านจะต้องออกบิณฑบาตทุกวัน ท่านมีบาตรของท่านมาลูกหนึ่ง
    ไปยืนเอาบาตรแขวนไว้ ที่ต้นมะฮ็อกกานี
    ข้างประตูเข้ากรมแพทย์ทหารเรือ เวลาเข้าไป ไอ้ต้นนี้มันจะอยู่ซ้ายมือ ชิดประตู ต้นใหญ่มาก
    ยืนหลับตาประเดี๋ยว ... ก็เอาบาตรมา
    ตามปกตินายทหารประจำตึก เขาจะเก็บบาตรไว้
    แล้วเขาจะเช็ดจะขัดจะถูเป็นอย่างดี พอเช้าท่านจะมาเอา
    เขาตรวจดูว่า ไม่มีอะไรเขาก็ส่งมาให้
    เวลาท่านเอาบาตรไปแขวน ... ท่านก็ยืนหลับตา
    คนเขาผ่านไปผ่านมา มันไม่ใช่ป่านี่ คนเดินกันไขว่เทียว

    ตอนเช้า ทุกคนก็เห็นว่า ... ท่านยืนหลับตาเฉยๆ บาตรก็แขวนที่กิ่งมะฮ็อกกานี
    สักประเดี๋ยวหนึ่งท่านก็กลับ สะพายบาตรกลับไป ส่งให้นายทหารหัวหน้าตึก
    ก็ปรากฏว่า ... มีข้าว ประมาณ ๒ - ๓ ทัพพี
    แล้วมีดอกไม้แปลกๆ ๑ ดอกทุกวัน ดอกใหญ่เกือบจะเต็มบาตร
    แต่ไม่รู้ว่าดอกอะไร ไม่มีใครรู้จัก ... เป็นแบบนั้นทุกวัน

    สำหรับท่าน อาจารย์สร้อย ปรากฏภายหลังว่า ... รู้ภาษาได้ทุกภาษา
    มีนายทหารมาพูดแบบนั้น แล้วพูดถึงปฏิปทาบางอย่างของท่าน
    ดู ๆ แล้วคล้ายจะ ... ไม่ใช่พระธรรมดา
    ที่ว่า ... ไม่ใช่พระธรรมดา คือ คิดว่าพระองค์นี้จะเป็น "พระอริยเจ้า"
    เวลานั่งพูดคุยกับใคร ท่านไม่ได้นั่งหลับตาปี๋ ทำท่าเป็นคนเคร่งครัดมัธยัสถ์ไม่ใช่ยังงั้น
    แสดงตัวเป็นกันเองตามปกติ พูดแบบกันเองธรรมดาๆ
    แต่ว่าทรมานเอานายทหารไม่กินเหล้าไปหลายคน

    ฉันสงสัยเหลือเกินละว่า พระองค์นี้จะเป็น ... "พระอริยเจ้า"
    สำหรับ พระอริยเจ้า มีอยู่ ๔ ประเภทด้วยกัน
    ว่ากันเฉพาะ พระอรหันต์ คือมี
    - สุขวิปัสสโก
    - เตวิชโช ( วิชชา ๓)
    - ฉฬภิญโญ (อภิญญา ๖)
    - ปฏิสัมภิทัปปัตโต (ปฏิสัมภิทาญาณ)

    สำหรับพระอริยเจ้าที่เป็น ... พระสุขวิปัสสโก
    ประเภทนี้ ไม่มีบทบาทอะไรทั้งหมด
    หมายความว่า ละกิเลสได้แบบเงียบๆ
    ผีสางเทวดา ... ท่านก็ไม่เห็น
    นรกสวรรค์ ... ท่านก็ไม่เห็น
    แต่ว่า จิตสงัดจากกิเลส

    สำหรับท่าน "เตวิชโช"
    อันนี้ได้ ทิพยจักขุญาณ กับ ปุพเพนิวาสนุสติญาณ คือว่า
    สามารถจะเห็นผี เห็นเทวดา เห็นสวรรค์ เห็นนรก เห็นพรหมโลก เห็นนิพพาน ได้ตามอัธยาศัย
    แล้วก็สามารถระลึกชาติได้ ชาติของตัวเองเคยเป็นอะไรมาบ้างรู้หมด

    ต่อไปก็ "ฉฬภิญโญ" (อภิญญา ๖) อันนี้ ... แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
    สำหรับ "ปฏิสัมภิทัปปัตโต" ก็แสดงได้อย่างกับท่านอภิญญา ๖
    แต่มีกรณีพิเศษโดยเฉพาะ เอาอย่างที่แปลกที่สุดคือ
    รู้ภาษาทุกภาษาโดยไม่ต้องเรียน นี่ก็ว่ากันอย่างย่อๆ
    รู้ภาษาทุกภาษาทั้งหมดโดยไม่ต้องเรียน
    ภาษาคน ภาษาสัตว์ ... รู้หมด

    ทีนี้สำหรับ "หลวงพ่อสร้อย" องค์นี้
    อาตมาสงสัยว่า จะเป็น พระอรหันต์ ขั้นปฏิสัมภิทัปปัตโต
    ก็เลยบอกบรรดาท่านนายทหารว่า เอายังงี้ก็แล้วกัน
    สำหรับพระอรหันต์มี ๔ แบบ สำหรับแบบอื่นเราจะพิสูจน์ได้ด้วยการทดลองอย่างอื่น
    แต่องค์นี้ฉันสงสัยว่เป็น ปฏิสัมภิทาญาณ

    ลองดูนะ ไม่แน่นัก ถามว่าพวกคุณนี่น่ะพูดภาษาอะไรได้บ้าง เอาภาษาที่ถนัด
    บางคนก็บอกว่า ภาษาอังกฤษผมเก่ง
    บางคนบอกว่า ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน
    ภาษาจีน เพราะเคยเป็นลูกจีน
    แล้วก็ภาษาแขก บังเอิญมีนายทหารแขกอยู่คนหนึ่ง พูดภาษาแขกเร็วปรื๋อ
    เรียกว่าได้กันหลายๆ ภาษา
    เมื่อได้กันแล้วซักซ้อมกันดีแล้ว ก็ส่งเข้าไปทีละคน
    คนไหนถนัดภาษาอะไร เข้าไปหาท่าน
    พูดภาษาแบบนั้น พูดภาษาที่ตนถนัด
    พอเขาเข้าไปพูด จะเป็น ... ภาษาอะไรก็ตาม
    หลวงพ่อสร้อย ... ตอบภาษานั้นได้อย่างชัดเจน
    คล้ายๆ กับเป็นเจ้าของภาษาเอง ทุกภาษา
    ในที่สุด พวกนายทหารถามว่า หลวงพ่อเรียนมาจากไหน
    ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้เรียน
    อยู่ในถ้ำนั่น ... เจริญสมาธิมันเกิดความรู้สึกขึ้นเอง
    เขาถามว่า ในเมื่อเขาพูดภาษาอื่น หลวงพ่อมีความรู้สึกยังไง
    ท่านก็บอกว่า มีความรู้สึกเหมือนเขาพูดภาษาไทย
    เวลาที่จะตอบไปก็เหมือนกัน
    มีความรู้สึกว่า ... ตอบเป็นภาษาไทย
    นี่แหละท่านผู้ฟัง

    สำหรับ ท่านอาจารย์สร้อย ... มีกรณีพิเศษ แปลกแบบนี้
    แล้วต่อมาพวกนายทหารแจ้งให้ทราบว่า ท่านกำหนดเวลาตาย
    ท่านบอกว่า ใครจะเอาอะไรก็เอา ท่านจะตายเดือนนั้นเดือนนี้
    ถ้าจะต้องการอะไร ให้ไปหาท่านก่อน
    คนที่ไปก็ได้ของดีพิเศษมาทุกคน คือว่า
    มีคำสั่งมอบหมายสมบัติชิ้นสำคัญนั่นก็คือ
    ให้รู้จักเป็นคนมีจิตเมตตา ให้มีเมตตาเป็นปกติ มีกรุณา มีมุทิตา มีอุเบกขา
    แล้วก็มีการให้ทานการสงเคราะห์ รู้จักรักษาศีล
    สำหรับศีลอย่าให้ขาดตลอดชีวิต
    แล้วให้รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะตาย

    นี่สมบัติชิ้นสุดท้าย ... ที่ "หลวงพ่อสร้อย" มอบให้แก่บรรดานายทหารที่มีความเคารพในท่าน
    และเมื่อพวกนายทหารได้รับมาแล้ว ก็มาบอกให้อาตมาทราบ
    อาตมาก็บอกว่า ... นั่นเป็นของดีที่สุด
    ที่คุณจะไปเอาพระ เอาตะกรุด อะไรนั่นก็ดีเหมือนกัน
    ถ้าหากพวกคุณแขวนพระไว้แต่คุณประพฤติตัวเป็นโจร พระท่านก็ไม่เอาด้วย
    เพราะหากว่าพระเป็นโจร พระก็ศีลขาด
    ถ้าหากว่า คุณเอาพระแขวนคอไว้แล้ว ... ใจคุณเป็นพระ
    หรือว่าคุณไม่มีพระแขวนคอ แต่ว่า ... ใจคุณเป็นพระ
    ถึงแม้ว่าร่างกายคุณเป็นฆราวาส แต่ "ใจคุณเป็นพระ" แล้ว
    ก็ชื่อว่า คุณเป็นพระทั้งตัว พระนี่แปลว่า ผู้ประเสริฐ


    สภาพสวยเดิมพระเนื้อดินกดพมิพ์โบราณ มีกดไม่ติดบ้างตามขอบตามมุมครับ พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาค้าขาย โชคลาภมหานิยมดีนักแล แบ่งให้บูชา 440บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณMATHS จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2022
  4. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,335
    ค่าพลัง:
    +6,401
    ขอจองครับ
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2614.ของดีที่ถูกลืม ยอดเมตตามหาเสน่ห์
    พระสมเด็จฟ้าฟื้น วัดบางสะแกนอก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานปลุกเสก


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XHtyDN.jpg


    vss7ln-jpg.jpg
    พระสมเด็จฟ้าฟื้น วัดบางสะแกนอก กทม. ดำเนินการจัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ.2516

    สร้างด้วยผงพุทธคุณมวลสารหลายชนิด
    ได้แก่ ผงพระรอดเป็นตัวแม่บท, ผงขุนแผน, พระนารายณ์กลืนสมุทร, ผลิกแผ่นดินหงาย, นารายณ์ห้ามทัพ, ผงอธิเจ, ปถมัง, มหาราช, ตรีนิสิงเห, ผงฝนแสนห่า, กระทู้เจ็ดแบก

    พิธีพุทธาภิเษก
    - ณ. วัดบางสะแกนอก กทม. ฤกษ์ เสาร์ 5 พ.ศ.2516
    โดยมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานปลุกเสก และพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอีกมากมาย

    พุทธคุณ
    - เด่นทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์เป็นหลัก


    สภาพเก่าเก็บ เนื้อหาเข้มข้น พุทธคุณเมตตา มหาเสน่ห์เป็นหลัก แบ่งให้บูชา 300 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2022
  6. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +908
    ขอจองครับ
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2615.The last สุดยอดมวลสารเส้นพระเจ้า(๕) พระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9
    ลป.สี,ลพ.แดง,ลพ.กวย,ลป.ทิม,ลป.ดู่,ลป.ฝั้น,ลพ.เอีย มหาพิธีพุทธาภิเษก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XaDO4Q.jpg

    v1p8uj-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9 วัดพระมหาธาตุ จังหวัดเพชรบุรี เนื้อผงมหาพุทธคุณ ผสมเส้นพระเจ้า พระราชทาน(พระเกศา) หลังยันต์โต๊ะกัง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 ออกในปี พ.ศ.2512

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - เส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
    - ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ที่ท่านลบไว้สมัยที่จำพรรษาที่วัดปากทะเล เพชรบุรี
    - ผงพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม กรุปี 2500 ของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    - ได้รับมอบผงพุทธคุณพระอาจารย์ชื่อดังมากมาย อาทิเช่น ผงพุทธคุณหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ผงพุทธคุณหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ผงพุทธคุณหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นต้น

    พระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9 วัดพระมหาธาตุ สร้างตามสูตรพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509 โดยพระครูบริหารคุณวัตร (หลวงพ่อชม) อดีตเจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหมถวายมวลสารให้หลายปี๊บ สร้างเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์พระสมเด็จและพิมพ์พระสมเด็จปรกโพธิ์ ประกอบด้วยพิมพ์พระสมเด็จ 4 บล็อก และพิมพ์สมเด็จปกโพธิ์อีก 3 บล็อก

    พิธีพุทธาภิเษก
    ณ. พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ เพชรบุรี จัดว่ายิ่งใหญ่นัก เป็นการชุมนุนพระเกจิชื่อดัง อาทิ
    - หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    - หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    - หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    - หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    - หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    - หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อเขียว วัดทรงหลบน
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร
    - หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
    - หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    - หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้
    - หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค
    - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์
    - หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง
    - หลวงพ่อตัด วัดชายนา
    - หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    - หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว
    - พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
    - พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
    - พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    - พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นต้น

    พระสมเด็จและพระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9 จึงเป็นพระสมเด็จที่เพียบพร้อมด้วย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และทรงไว้ซึ่งพระบารมี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักบริหาร นักธุรกิจ ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนโดยทั่วไป



    สภาพสวยเดิมพิมพ์คมชัดลึก สุดยอดมวลสารมหาพิธีใหญ่ แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณpnt014 จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2022
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2616.เมตตาคงกระพันชาตรี เหรียญวังหน้าพระยาเสือ(๔)
    ลป.โต๊ะ,ลพ.สุด,ลพ.อุตตมะ,ลพ.สมภพ,ลพ.แช่ม,ครูบาพรมหมจักร ร่วมปลุกเสกมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XaDPm1.jpg

    เหรียญกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ผู้ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กทม. เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสจัดสร้างพระอนุสาวรีย์กรมพระราชวังบวรองค์ใหญ่ ณ วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ

    พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก ได้แก่
    1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    3. หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ
    4. หลวงปู่คอน วัดชัยพฤษมาลา
    5. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    6. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    7. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    8. หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    9. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    10.หลวงพ่อวัดพระพุทธบาทตากผ้า
    11.หลวงพ่ออินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    12.หลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโข ฯลฯ

    พุทธคุณ
    - เด่นด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตมหานิยม ตำรวจทหารหลายคนพบ ประสบการณ์แคล้วคลาด คงกระพันยิงไม่เข้า


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - https://www.komchadluek.net/amulet/515839



    สภาพสวยเดิมๆเก่าเก็บ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  9. pnt014

    pnt014 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +308
    จองครับ
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2617.เข้มขลังหนักแน่นปลุกเสกด้วยเตโชกสิณ พระสมเด็จสามชั้น หลังยันต์
    หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ทายาทพุทธาคม หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XashPW.jpg

    พระสมเด็จสามชั้น หลังยันต์ ( ว ท ค ) หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อดินเผา ดำเนินการจัดสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2500

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีหลายอย่าง โดยเฉพาะพระเนื้อดินเผา มีหลายพิมพ์ สร้างในช่วงก่อนและหลัง 2500 เป็นจำนวนมาก ท่านได้สร้างพระเครื่อง เนื้อดิน สืบทอดตามเจตนารมณ์ของ หลวงพ่อโหน่ง ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ ของท่าน โดยการปลุกเสกด้วย เตโชกสิณ คือ ขณะเผาพระเนื้อดินท่านจะเดินวนเวียนปลุกเสกรอบเตาเผานั้น จนกว่าพระจะสุกได้ที่เป็นอันเสร็จพิธี

    หลวงพ่อแดง (พระครูสุวรรณสาธุกิจ) สงฺฆรกฺขิโต วัดทุ่งคอก ท่านเป็น พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมานานกว่า๖๐ ปี ท่านเป็นศิษย์เอกร่วมสำนักเดียวกับ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อผึ่ง วัดสว่างอารมณ์ นั้นก็คือ สำนักวัดคลองมะดันสำนักวัดคลองมะดัน เจ้าสำนักก็คือ หลวงพ่อโหน่ง พระอริยสงฆ์ผู้สำเร็จอรหันต์ มรณภาพไปแล้ว ศพไม่เน่าไม่เปื่อย อีกทั้งยังมรณภาพในลักษณะอิริยาบท ปางไสยยาสน์ ซึ่งในเมืองไทยมีเพียง 2 องค์เท่านั้น คือ ท่านและหลวงพ่อเนียม วัดน้อย



    ประวัติพระครูสุวรรณสาธุกิจ (หลวงพ่อแดง) วัดทุ่งคอก
    หลวงพ่อแดง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2440 โยมบิดาชื่อบุญ โยมมารดาชื่อใน เมื่อตอนอายุได้ 13 ปี บิดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน พออายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดทุ่งคอก โดยมีพระครู วินยานุโยค (หลวงพ่อเนี่ยง) วัดสองพี่น้อง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโหน่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเผื่อน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วก็อยู่จำพรรษาที่วัดคลองมะดันกับหลวงพ่อโหน่ง ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อโหน่ง

    ต่อมาเมื่อพรรษาที่ 5 เจ้าอาวาสวัดทุ่งคอกว่างลง ทางคณะสงฆ์จึงมอบให้ท่านมารักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก จนถึงปี พ.ศ.2476 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก พอปี พ.ศ.2478 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งคอก พ.ศ.2496 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุวรรณสาธุกิจ

    หลวงพ่อแดงเมื่อมาอยู่ที่วัดทุ่งคอกก็ได้พัฒนาวัดที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่ในขณะนั้นให้มีสภาพดีขึ้น ในสมัยนั้นวัดทุ่งคอกอยู่ห่างไกลความเจริญ การไปมาไม่สะดวก วัดทุ่งคอกเป็นวัดเล็กๆ ยากจน หลวงพ่อแดงจึงเริ่มพัฒนาวัดทุ่งคอกโดยเข้าไปหาไม้ในป่าเพื่อมาสร้างเสนาสนะและวัดให้ดีขึ้น

    โดยมี ชาวบ้านช่วยกันหาไม้มาสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ ตลอดจนสร้างโบสถ์ วัดทุ่งคอกก็มีความเจริญขึ้นโดยลำดับ ต่อมาหลวงพ่อแดงก็ได้จัดให้ศาลาการเปรียญเป็นที่เรียนของเด็กๆ แถบนั้น ต่อมาก็ได้พัฒนาเป็นโรงเรียนในที่สุด และหลวงพ่อแดงก็ได้สร้างโรงเรียนพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุและสามเณร ถือว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกของตำบลทุ่งคอก

    ในเรื่องช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บไข้ ได้ป่วยหลวงพ่อแดงก็ได้รักษาโดยใช้ยาสมุนไพรตามแบบแผนโบราณที่ท่านมีความรู้ในด้านนี้ ช่วยเหลือชาวบ้านให้หายเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี คนป่วยโรคจิตหลวงพ่อแดงก็ช่วยรักษาให้หายได้ ชาวบ้านมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็มักจะไปให้ท่านช่วย หลวงพ่อแดงก็ช่วยเหลือทุกรายด้วยความเมตตา หลวงพ่อแดงจึงเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านสองพี่น้องมาก

    หลวงพ่อแดงสร้างวัดทุ่งคอกจนเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก จวบจนถึง พ.ศ.2510 จึงมรณภาพ สิริอายุได้ 70 ปี พรรษาที่ 50



    สภาพสวยเดิมๆเก่าเก็บ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2618.ของดีพิธีใหญ่ พระกริ่งโสฬส วัดราชประดิษฐ์ ในหลวงเสด็จทรงสุหร่าย
    ลป.ดู่,ลป.ทิม,ลต.มหาบัว,ลพ.มุ่ย ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XpfpIv.jpg


    thumb-9b77_573dd925-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-bc86_573dd925-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-789d_573dd925-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระกริ่งโสฬส "มปร." วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กทม. เนื้อทองเหลืองรมดำบรรุกริ่ง จัดสร้างขึ้นระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน พ.ศ.2515

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง 3 ประการคือ
    (1) สมโภชพระอารามหลวงที่มีอายุครบ 108 ปี
    (2) สมโภช “พระนิรันตราย” องค์ประจำวัดซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานประจำวัดธรรมยุตตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ สมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งองค์ของวัดราชประดิษฐ์ฯ
    (3) จัดสร้าง “พระนิรันตราย” (ขนาดบูชา) พร้อม “พระกริ่งนิรันตราย” และ “พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา)” หรือ “พระกริ่งโสฬส รุ่น 2” (รุ่น แรกสร้างเมื่อครั้งจัดงานสมโภชครบ 100 ปีวัด พ.ศ. 2507) นอกจากนั้นยังมี “เหรียญนิรันตราย” อีก 2 แบบคือ “พัดยศ” หรือ “เจริญยศ” และแบบ “เสมา” หรือ “เจริญลาภ” รวมทั้ง “พระกริ่งนิรันตรายขนาดเล็ก” และ “พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4” พร้อม “ล็อกเกตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ขณะทรงถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่ “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” เพื่อให้พุทธศาสนิกชนนำไปสักการบูชาโดยรายได้นำบูรณ ปฏิสังขรณ์วัดราชประดิษฐ์ฯ ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

    ประวัติการจัดสร้างพระกริ่งโสฬส
    สำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้นทางคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย
    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ทิม) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ พระธรรมปาโมกข์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พลเอกประภาส จารุเสถียร รองหัวหน้าคณะปฏิวัติในขณะนั้นเป็นประธานฝ่ายฆราวาส
    โดยกราบบังคมทูลอัญเชิญ เชิญเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเสด็จฯ เททองหล่อพระนิรันตราย (ขนาดบูชา) เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2515 จำนวน 908 องค์ ตามจำนวนสั่งจองจากนั้นจึงนำทองชนวนที่เหลือจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองไปจัดสร้าง พระกริ่งนิรันตราย ทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก, พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราชสา (กริ่งโสฬส) และ เหรียญพระนิรันตราย ทั้งสองแบบ ดังกล่าวข้างต้นอย่างละ 50,000 องค์ เท่ากันยกเว้น พระบรมรูปรัชกาลที่ 4ประทับยืนแบบเดียวกับองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ใน ปราสาทพระจอมเกล้า (ปราสาททรงพระปรางค์) สร้างจำนวน 108 องค์ และ ล็อกเกต จำนวนหลักร้อยเช่นกันซึ่งหลังการสร้างวัตถุมงคลเสร็จแล้วได้จัดทำ พิธีพุทธาภิเษกและมังคลาภิเษก ภายใน พระวิหารหลวงวัดราชประดิษฐ์ฯ ระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 รวม 9 วัน 9 คืน ซึ่งตรงกับช่วงวันสถาปนาวัดพอดี
    โดยนิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในขณะนั้น ทั่วพระราชอาณาจักร เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก คืนละ 12 รูป รวมทั้งหมด 108 รูป เท่ากับอายุของวัดราชประดิษฐ์ฯ ทุกประการ

    รายนามพระคณาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณได้แก่
    1.พระสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ประธานจุดเทียนชัย
    2.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    5.หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    6.หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด
    7.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกองเพล
    8.หลวงปู่เทศก์ วัดหินหมากเป้ง
    9.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    10.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    11.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    12.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    13.หลวงพ่อโชติ (ระลึกชาติ) วัดตะโน
    14.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    15.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    16.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    17.หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
    18.หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    19.หลวงปู่จันทร์ วัดเลยหลง
    20.หลวพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    21.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    22.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    23.หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    24.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    25.หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า เป็นต้น
    นอกจากนี้ยังมีพระคณาจารย์สายวิปัสสนาทั้ง 4 ภาค ร่วมนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน โดยผลัดกันวันละ 12 รูป อีกหนึ่งพิธีที่ครูบาอาจารย์หลายสายเข้าร่วมพิธี แผ่เมตตาอธิฐานจิต

    สภาพสวยผิวเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จด้วยพระองค์เอง แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าไม่ธรรมดาจริงๆ แบ่งให้บูชา 1,200 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  12. Peterbn

    Peterbn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +275
    ขอจอง2618
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2619.สุดยอดเมตตาค้าขาย 1ใน2,000(๒) พระสมเด็จลาภผลพูนทวี
    หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง พระเถรจารย์ 5แผ่นดิน ศิษย์ตัวจริงหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XvxyBa.jpg


    image-4fe4_59460bd1-jpg.jpg
    พระสมเด็จ หลังยันต์องค์ครูหลวงปู่ รุ่นลาภผลพูนทวี หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อผงพุทธคุณต่างๆมากมายผสมเกศาหลวงปู่ บรรจุตะกรุดเงินแท้(แก่ผงแป้งเจิมหลวงปู่ ซึ่งเป็นเอกอุของท่าน) ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2536 ประสบการณ์มากมายทั้งเมตตา ค้าขาย และคลาดแคล้ว ลูกศิษย์ต่างรู้กันดีว่าไม่เป็นสองรองใคร จำนวนการสร้าง 2,000องค์

    จำนวนการสร้างทั้งหมด 40,000องค์ จำแนกดังนี้
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดทองคำ 1,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดเงิน 2,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดทองแดง 3,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดตะกั่ว 4,000องค์
    - พระสมเด็จ ไม่บรรจุตะกรุด 30,000องค์

    มวลสารสำคัญที่ใช้จัดสร้าง
    มวลสารผงมหาพุทธคุณผสมผงเก่า อาทิเช่น ผงกิ่งโพธิ์อธิษฐานหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, ผงพุทธคุณเก่าหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, ผงมหาพุทธคุณของหลวงปู่, ผงพระกรุเก่ากรุโบราณหลายสิบกรุของสุโขทัย, ดินพุทธคยา, ผงว่านและเกสรหลายชนิด, ผงอิธิเจตรีนิสิงเห, แร่เหล็หน้ำพี้, ผงว่าน 120 ชนิด , ผงพระกรุอยุธยา สุโขทัย , เม็ดพระศกพระพุทธรูปโบราณ , ผงและข้าวก้นบาตรเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก , ไคลเสมา , แร่เหล็กน้ำพี้ , ข้าวตอกพระร่วง , นิลดำ , แก้วท่าปลา , แป้งเสก จีวรและชานหมาก หลวงปู่ทองดำ , ผงไม้จันทร์หอม , ผงงาช้างพลายกระเด็น , กิ่งโพธิ์นิพพาน , ขี้ธูปหลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน , ผงพุทธคุณพระเจ้า 28 พระองค์ พระเจ้า 16 พระองค์ และแป้งมหาราช เป็นต้น


    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง
    ภูมิหลังชาติกำเนิด
    วันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 พุทธศักราช 2441 ณ.บ้านไซโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นายบุญนาค นางจ่าย แม่พริ้ง ได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 4 เพศชาย(ในจำนวนพี่น้องชายหญิง 8 คน) บิดามารดาได้ตั้งชื่อ เด็กชายทองดำ เม่นพริ้ง


    การศึกษา
    วัยเด็ก
    ขณะเด็กชายทองดำ อายุ 3 ขวบ บิดามารดาได้นำไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (วัดบางคลาน จ.พิจิตร) หลวงพ่อเงินเห็นครั้งแรกได้เอ๋ยคำออกมา "ไอ้หนูเด็กน้อยคนนี้เป็นเทวดามาเกิด ใครเสี้ยงก็ไม่ได้ มาเป็นลูกของเราเถิดนะ" หลวงพ่อเงินเอาผ้าผืนลงปูรองรับเด็กน้อยคนนี้ ทำพิธีรับลูก จากนั้นเด็กคนนี้ได้รับการเลี้ยงดูอุปถัมภ์ สั่งสอน อบรม วิชาความรู้ และสรรพวิชาต่าง ๆ โดยได้พักอาศัยกับหลวงพ่อ เมื่อหลวงพ่อเงินเงินท่องบทสวดมนต์เด็กชายทองดำก็สามารถท่องได้จบเล่มในวันเดียว ชาวบ้านรู้ข่าวต่างแห่มาดูการใหญ่ว่าเด็กน้อยคนนี้มีหน้าตาอย่างไร กระทั่งโตขึ้นบิดามารดามารับเด็กชายทองดำไปเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์โต (เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ จ.อุตรดิตถ์ในสมัยนั้น)


    วัยหนุ่มฉกรรจ์
    นายทองดำได้ฝึกฝนและศึกษาศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยจนมีความชำนาญ จนได้เป็นนักมวยที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ซึ่งช่วงวัยหนุ่มนี้ทองดำได้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ "เล็กย่งหลี"(ต้นตระกูลเล็กอุทัย)มีรูปร่างเล็กไปไหนไปด้วยกันประจำ ได้ฝึกชกมวยด้วยกันมา หากออกชกมวยที่ไหนจะให้เล็กย่งหลีขึ้นไปเปรียบหาคู่ชก แต่ตอนเวลาชกนายทองดำจะเป็นผู้ชกแทน ก่อนชกนายทองดำจะบริกรรมคาถาที่ได้ร่ำเรียนมาโยมปู่จนรู้สึกตัวหนา(ของขึ้น)และนายทองดำก็สามารถชกมวยชนะแทบทุกครั้ง อายุครบเกณฑ์ทหาร ได้เข้ารับเป็นทหาร 2 ปี ปลดจากทหารประจำการแล้วจึงได้อุปสมบทสู่ร่มพระศาสนา


    สู่ร่มพระศาสนา
    อุปสมบทเมื่ออายุ 22 ปี ณ. พระอุโบสถ วัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี (เรือง )เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนน ต.ท่าอฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ในขณะนั้นเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2463 พระอาจารย์แส เจ้าอาวาสวัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฐิตวณโณ” เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าทอง 1 พรรษา ทางวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง คณะศรัทธา วัดท่าทองได้ลงความเห็นพ้องกัน โดยได้ไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขออนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยดี คณะศรัทธาให้”พระภิกษุทองดำ” เพื่อนิมนต์ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ซึ่งหลวงพ่อเองก็มีเจตนาอันบริสุทธิ์และจิตใจอันแน่วแน่ต่อพระพุทธศาสนาและเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาทำนุบำรุงเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุงเรืองยิ่งขึ้นสมความตั้งใจ หลวงพ่อจึงรับภารกิจนิมนต์ครั้งนี้และย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2468เป็นต้นมา


    การศึกษาพระปริยัติธรรม
    การที่หลวงย้ายมาจากวัดท่าทองมาอยู่วัดท่าถนน ซึ่งเป็นวัดของพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัยให้ละเอียดและถ่องแท้ หลวงปู่ได้มีความขยันเพียนตั้งใจศึกษาด้วยความวิริยะอุตสาหะภายในปีเดียวก็สอบได้นักธรรมตรี (พ.ศ.2466) ด้วยเหตุแห่งการศึกษาทางพระธรรมวินัยในสมัยนั้นยังไม่เจริญพอการศึกษามีเพียงชั้นนักธรรมตรีเท่านั้น ฉะนั้นการศึกษาของท่านต้องหยุดชะงักลง


    ตำแหน่งการปกครองและสมณศักดิ์ที่ได้รับตั้งแต่ปี พ.ศ.2468
    หลวงปู่มีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์พัดยศดังนี้
    - ปีพ.ศ.2468 อายุ 27 ปี พรรษา 5 ดำลงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง
    - ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระธรรมธรฐานานุกรมของพระครูวิเชียรปัญญา มหามุณีศรีอุตรดิตถ์ เจ้าคณะอุตรดิถต์
    - ปี พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะเป็นเจ้าคณะตำบลหาดกรวด-วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์และในปีนั้นได้เลือนสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระปลัดฐานานุกรม ของพระครูธรรมสารโกวิทย์ (ยศ)เจ้าคณะแขวงเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการ อ.เมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. 2487 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูธรรมมาภรณ์ประสาท
    - ปี พ.ศ.2497 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
    - ปี พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชทานคณะชั้นสามัญนาม “พระนิมมานโกวิท”
    - ปี พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จวบจนมรณภาพ(ในปี พ.ศ.2548)


    การศึกษาด้านเวทย์มนต์คาถาอาคม
    ช่วยวัยเด็กหลวงปู่ได้ติดตามบิดาล่องเรือขายยาสูบระหว่างอุตรดิตถ์ จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ บิดามารดาได้ฝากเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร คอยรับใช้ใกล้ชิดท่านอนุญาตให้พักกุฎิเดียวกับท่าน หลวงพ่อเงินได้สอนสรรพวิชาอาคมไสยเวทต่าง ๆ คาถาที่หลวงพ่อเงินสอนไว้นั้นที่สำคัญคือ “นะโมพุทธายะ” (พระเจ้าห้าพระองค์) ซึ่งต่อมาหลวงปู่ได้ใช้เป็นคาถาประจำตัวของท่านตลออดมา นอกจากนั้นหลวงปู่ยังได้ศึกษาวิชาอาคมกับโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพัน เพื่อป้องกันตนเอง หลวงปู่ได้ใช้วิชานี้ปลุกเศกตัวเองก่อนจะขึ้นชกมวยทุกครั้ง โดยก่อนจะขึ้นชกมวยหลวงปู่จะบริกรรมคาถาจนรู้สึกว่าเนื้อเริ่มหน่าขึ้น (ของชึ้น)จึงจะชกได้


    เมื่อขณะหลวงอุปสมบทแล้ว ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าถนน (วัดหลวงพ่อเพ็ชร) ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์ หลวงปู่ทราบว่าที่วัดกลางอยู่ห่างจากวัดท่าถนนทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร มีพระภิกษุชราอยู่รูปหนึ่ง “หลวงพ่อทิม” ขาดการดูแลเอาใจใส่ หลวงปู่จึงได้ใช้เวลาว่างเดินทางจากวัดท่าถนนมาวัดกลางทุกวัน เพื่อปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทิมด้วยจิตใจเมตตาและให้ความเคราพนับถึอ โดยหลวงปู่ได้ปฎิบัติภารกิจเป็นประจำทุกวัน ได้แก่ ตักน้ำ ขึ้นมาจากท่าแม่น้ำน่าน นำมาใส่ตุ่มไว้ให้หลวงพ่อทิมได้สรง เก็บกวาดกุฎิ ชำระล้างภาชนะต่างๆ ประจำมิขาด โดยหลวงปู่มิได้หวังสิ่งค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แต่ทำไปเพราะจิตเมตตาแก่ภิกษุผู้สูงอายุโดยแท้ซึงจากการกระทำความดีของหลวงปู่ ทำให้หลวงพ่อทิมซึ่งขณะนั้นไม่มีผู้ใดทราบความเป็นมาหลวงพ่อทิมว่าเป็นพระภิกษุเชี่ยวชาญมนต์คาถาทุกด้าน

    ซึ่งกิตติศัพท์ ชาวบ้านย่านเกาะบางโพและตำบลใกล้เคียงทราบคือ “ตะกรุดโทน” ซึ่งหลวงพ่อปลุกเศกโดยดำลงน้ำจารึกอักขระบนแผ่นตะกรุดจนกว่าจะเสร็จ *น่าเสียดายวันหนึ่งมีมนุษย์ผู้เขลาด้วยปัญญา นำตะกรุดที่ท่านมอบไปผูกคอสุนัขและยิงสุนัข แต่ปาฎิหารย์กระสุนด้านหมด เมื่อหลวงพ่อทิมเห็นสุขันวิ่งหลบใต้กุฎิจึงถอดออกจากคอสุนัข ท่านโกรธจึงประกาศงดให้เครื่องรางของขลังแก่ชาวบ้าน หลวงปู่เมื่อได้รับมอบวิชาและตำราจากหลวงพ่อทิมไปแล้ว ท่านหมั่นศึกษาภาวนาปฎิบัติ ทุกบท ทุกวรรคตอน จนสิ้นกระบวนความในตำรา จนชาวบ้าน บ้านเกาะต่างกล่าวกันว่าหลวงพ่อทิมไปเกิดที่วัดท่าทอง หลวงปู่ได้ใช้คาถาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านตลอดมา ประพรมชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการท่าน ซึ่งน้ำมนต์นี้หลวงปู่จะปลุกเศกทุกวัน ใส่โองมังกรขนาดใหญ่

    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆวัด ขออภัยกล่องบางกล่องอาาจะมีคราบปลวกปกคลุมบ้างนะครับ เพราะเก่าเก็บมานาน ไม่ผ่านการบูชา คราบแป้งไขฝ้าผงเก่าเดิมๆ พุทธคุณครอบครบ สุดยอดเมตตาค้าขาย ประสบการณ์ล้นเปี่ยมแบ่งให้บูชา 650 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2022
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    รายการจัดส่งเคอรี่ 16/08/2565


    - คุณเมธี TH012734H0P49D
    - คุณวรัชพรรณ TH470434H0SK8F
    - คุณพิสุทธิ์ศักดิ์ TH030634H0WC4B
    - คุณทัศภูมิ TH015134H10K6C



    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu

    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2620.สวยเดิมๆ กันนิวเคลียร์(๑)
    พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XJQL1R.jpg

    yx1s-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    yx1z-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระปิดตามหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ ฝังปฐวีธาตุกันนิวเคลียร์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยพระครูปลัดอรรถสิทธิ์ ชินวโส เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมือง *** จะมีคราบผงขาวๆ เปื้อนอยู่บ้างนะครับ ***

    มวลสารพระปิดตามหาลาภ
    1. ปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
    2. ผงพุทธคุณ พระธาตุเจดีย์นพีสีพิศาลมงคล - ผงเบ้าหลอมพระเจ้าเพชรเงินล้าน
    3. ผงธูปพุทธคุณ เสาร์ 5
    4. ผงดอกไม้ บูชาพระเจ้าเพชรเงินล้าน ตั้งแต่ปี2550-2552 หลวงพ่อประสิทธิ์ เสกทุกวาระที่มีการปลุกเสกพระ
    - งานเสกมวลสารพระเจ้าเพชรศรีมุงเมือง รุ่นแรก และหล่อพระเจ้าเพชรเงินล้าน วิสาขะ 2550
    - งานเสกพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และเสกพระเจ้าเพชรเงินล้าน 5 ธ.ค. 2550
    - งานเสกรูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ 16 ม.ค. 2552
    - งานกฐินมหากุศล และเสกประเจ้าเพชรเงินล้าน รุ่นแรก 22 ต.ค. 2552
    - งานเสกพระสิวลี (ต่ออายุ) 15 เม.ย.2553
    - งานบรรจุหัวใจ พระสิวลี (ต่ออายุ) 25 ก.ค. 2553 (เป็นองค์พระแล้ว)
    5. ทรายเสก เสาร์ 5
    6. กล้วยน้ำหว้า เสาร์ 5
    7. ข้าวก้นบาตร เสาร์ 5
    8. น้ำมนต์ เสาร์ 5 เป็นต้น

    การอธิษฐานจิต
    - เข้าพิธีอธิษฐานจิตโดยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ณ วัดศรีมุงเมือง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


    ปฐวีธาตุหลวงพ่อประสิทธิ์

    ปฐวีธาตุ หรือก็คือธาตุดิน แต่ถ้าบอกว่าปฐวีธาตุเจ้าคุณนรฯ กลับกลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ ที่มีอานุภาพครอบคลุมคุ้มครองผู้บูชาอย่างเอกอุ กันได้กระทั่งกัมมันตภาพรังสี หรือนิวเคลียร์

    สืบต่อจากท่านเจ้าคุณนรฯ ก็มีอีกหลายองค์ที่สามารถทำก้อนหินธรรมดาให้กลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่คำพัน และหลวงปู่อ่อนสา ทุกวันนี้ปฐวีธาตุเหล่านี้ล้วนเป็นตำนาน ที่พอหาได้และมั่นใจ ก็ต้องยกให้ ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพัน ที่บรรจุอยู่ในพระเครื่องท่านบางรุ่น และปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสา ที่บรรจุอยู่ในพระปิดตาสมจินตนา นอกนั้นอาศัยความเชื่อใจทั้งสิ้น หิน เก็บตรงไหนก็เหมือนๆกัน พลังจากเนื้อในหาใช่สิ่งที่ปุถุชน คนเดินดินเช่นเราจะรับทราบ

    หลังจากสิ้นหลวงปู่คำพันก็พอทราบว่าท่านพ่อเมือง ท่านพอทำปฐวีธาตุได้ แต่ปัจจุบันทราบว่าท่านได้งดเสียแล้ว และโบ้ยให้ไปหาปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสาแทน

    จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
    เพื่อนผมคนหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ซึ่งบังเอิญวันนั้นท่านเอก เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมือง ก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์เช่นกัน เป็นการไปโดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อนผมได้กราบเรียนถามหลวงพ่อประสิทธ์ว่า

    หลวงพ่อครับ หลวงพ่อเคยได้ยินเรื่องปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันรึเปล่าครับ
    เคยได้ยินอยู่

    หลวงพ่อทำได้รึเปล่าครับปฐวีธาตุ
    ทำได้อยู่

    เขาว่าปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพัน กันนิวเคลียร์ได้ ถ้าหลวงพ่อทำจะกันได้เหมือนกันรึเปล่าครับ
    หลวงพ่อพยักหน้ารับ

    ท่านเจ้าคุณนรฯใช้หินบางบ่อ หลวงปู่คำพันใช้หินแม่น้ำโขง ไม่ทราบของหลวงพ่อจะต้องใช้หินที่ไหนครับ
    ปฐวีธาตุก็คือธาตุดิน หินที่ไหนก็ใช้ได้หมด

    หลังจากนั้นท่านเอกก็ได้นำหินชุดแรก ที่มีผู้ศรัทธานำมาจากแม่น้ำโขงชุดแรก
    พร้อมทรายและมงคลวัตถุต่างๆ ไปขอเมตตาหลวงพ่อประสิทธิ์อธิษฐานในวันเสาร์ห้า


    โดยการนำปฐวีธาตุไปอธิษฐาน ได้กราบเรียนขอให้หลวงพ่ออธิษฐาน ให้เป็นปฐวีธาตุเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯและหลวงปู่คำพัน
    ซึ่งหลวงพ่อก็พยักหน้ารับ

    แต่เนื่องจากปฐวีธาตุชุดแรกได้แต่หินก้อนใหญ่ ไม่สามารถบรรจุลงในพระได้จึงเกิดปฐวีธาตุชุดที่สอง โดนนำหินจากแม่น้ำโขงเหมือนเดิมแต่เป็นขนาดเล็ก นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเศกพระสิวลีเมื่อพญาวันที่ผ่านมา แต่ไม่ได้กราบเรียนเรื่องขอให้อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ
    และปฐวีธาตุในชุดที่สองนี้ได้นำมาบรรจุใน พระผงพระเจ้าเพชรเงินล้านพิมพ์หกเหลี่ยม
    ซึ่งหลวงพ่อประสิทธิ์ได้เมตตาอธิษฐานจิต ในวันอาทิตย์ที่25ก.ค.ที่ผ่านมา


    และการขอเมตตาหลวงพ่อในครั้งนี้ได้กราบเรียนหลวงพ่อ
    เรื่องอธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุด้วย
    ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตา พยักหน้ารับ



    ปฐวีธาตุ ของดีที่ต้องมีไว้บูชา
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีพลังอิทธิฤิทธิ์ในตัวมันเองตามธรรมชาติ แบ่งออกเป็นตามธาตุต่างๆในธรรมชาติได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่รู้จักและเป็นข่าวกันอย่างหนาหูในช่วงนี้ได้แก่เหล็กไหลที่มีการเรียกตามถ้ำต่างๆนั้นก็คือธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งเช่นกัน ธาตุกายสิทธิ์นี้มีแบบให้คุณและให้โทษแก่ผู้ครอบครองนั้นๆล้วนแล้วแต่ว่าเป็นแบบไหน
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มาในลักษณะของหินที่อยู่ในแม่น้ำผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยหรือพันปีมาแล้ว ปฐวีธาตุมีความใสมาก หากเอามือไปรองจะเห็นมือผ่านหิน เมื่อได้หินนี้มาแล้วต้องผ่านการอธิษฐานจิตจากผู้บรรลุธรรมชั้นสูงจากสายปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น สายอาคมเวทย์มนต์เสกปฐวีธาตุไม่ได้ ปัจจุบันหากจะหาปฐวีธาตุมาบูชาไม่ง่ายนักเพราะมีคนหลอกหากินบนความศรัทธาเอาหินกรวดธรรมดามาหลอกขายเป็นปฐวีธาตุ ดังนั้นจึงไม่เกิดผลอันใดแก่ผู้บูชาเสียเงินเสียทองไปเป็นจำนวนมาก
    ข้อควรรู้เกี่ยวกับปฐวีธาตุ
    - เป็นหินแม่น้ำที่ต้องอยู่ในแม่น้ำที่มีน้ำไหลเท่านั้น มีความโปร่งแสง ค่อนข้างใส
    - เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม
    - ปลุกเสกจากพระปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น ไม่ใช่สายวิชาอาคมแต่อย่างใด เช่น หลวงปู่คำพันธ์ , หลวงพ่อประสิทธิ์ , เจ้าคุณนร
    วิธีบูชาปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นของมีฤทธิ์ในตัว บางตำราว่าเป็นหินที่เกี่ยวพันกับพญานาคราช พญานาคได้เตรียมหินเหล่านี้แก่พระอภิญญาเพื่อสร้างเป็นปฐวีธาตุ พระเกจิจึงนำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นพระเครื่องรุ่นต่างๆ เช่น หลวงปู่คำพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นของมงคลให้ใส่น้ำหรือเอาแช่น้ำ ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมเป็นการบูชาไว้ในที่สูง หรือ ห้องพระเพื่อการกราบไหว้สักการะในแต่ละวัน ขอโชคขอลาภก็ดีทั้งนั้น
    พุทธคุณของปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นธาตุกายสิทธิ์ซึ่งจะมีธาตุทั้ง 4 ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ในก้อนเดียวโดยการประจุเสกเข้าไปโดยพระเกจิเมื่อนำปฐวีธาตุมาใช้ให้อธิษฐานจิตเอาตามสุดจะปรารถนา สามารถกันภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติก็ดี เกิดจากมนุษย์ก็ดี ทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต (หลวงปู่คำพันธ์บอกว่าสามารถกันกันมันตภาพรังสีได้ทุกชนิด โปรดใช้วิจารณาญานด้วยนะครับ) ปฐวีธาตุที่จะเป็นก้อนเดี่ยวๆเลี่ยมห้อยคอหรือเป็นเม็ดเล็กๆโรยในพระเครื่องก็มีอานุภาพเท่ากัน หากจะหาของแท้ๆมาบูชาต้องหาจากที่มาดีๆจริงๆเท่านั้นครับ
    หากได้ปฐวีธาตุมาบูชาให้แนะนำเลี่ยมแบบเปิดหน้าและหลังให้ปฐวีธาตุให้โดนสัมผัสกับไอร่างกายของผู้ที่บูชาซึ่งจะทำให้เชื่อมจิตและสื่อจิตไปถึงปฐวีธาตุง่ายขึ้น
    คาถาบูชาปฐวีธาตุจุดธูป 7 ดอก
    "นะโม 3 จบ"
    "หิตะรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนคะเน 3 จบ"


    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครบครอบ แบ่งให้บูชา 269 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2022
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2621.สวยเดิมๆกดชัดกล่องเดิมสมบูรณ์สุดๆ พระผงอริยะธัมโม วัดเขาพลอง
    ลพ.กวย,ลพ.เชื้อ,ลพ.จวน ร่วมปลุกเสกกันทั้งคืนจนไฟลุก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    XJUKK1.jpg


    image-f852_595eff7f-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระผงอริยะธัมโม ว่าน 108 หลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง จังหวัดชัยนาท เนื้อผงว่าน 108 สีน้ำตาลปึก (แก่ผงว่าน) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518 ออกแบบโดย นายช่างยิ้ม ยอดเมือง วัตถุประสงค์ เพื่อหาปัจจัยในการจัดสร้างพระอุโบสถวัดเขาพลอง, ขยายทางขึ้นเขา และ ซื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวนการสร้างประมาณ 1,000 องค์

    พระผงอริยะธัมโม จัดสร้าง 4 สี ได้แก่ สีแดง (ชานหมาก) สีน้ำตาลปึก (แก่ผงว่าน) สีน้ำตาลอ่อนๆออกโซนขาว (แก่ผงพุทธคุณ) และสีดำ (ใบลาน) ใครมีไว้บูชาถือว่า มีบุญและวาสนา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พุทธคุณหายห่วง ครอบจักรวาล จำนวนการสร้างประมาณ 1,000 องค์

    วาระมหาพิธีพุทธาภิเษก
    ประกอบพิธี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ย. 2518 ตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน 10 เวลา 19:10 น. ณ ศาลาการเปรียญบนเขาพลอง โดยอัญเชิญดวงจิต สมเด็จพระบรมครูหลวงพ่อเขาสาริกา (หลวงพ่อกบ) หลวงพ่อโอภาสี และเหล่าทวยเทพทั่วแสนโกฏจักวาลมาเป็นสักขีพยานและอวยพร

    รายนามพระเกจิมาร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
    - หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    - หลวงพ่อกล่อม วัดเขาแก้ว
    - หลวงพ่อประเทือง วัดโพธาราม
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    - หลวงพ่อพุฒ วัดศรีวิชัยวัฒนาราม
    - หลวงพ่อชม วัดอินทาราม (ตลุก)
    - หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดเขาพลอง
    - พระอาจารย์บุญยัง และพระสงฆ์ศิษย์ในสายหลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี เป็นต้น

    วัตถุมงคลหลวงพ่อชื้น อริยธัมโม รุ่นนี้พระเกจิปลุกเสกกันทั้งคืนจนไฟลุก พุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล

    หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม วัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) อ.เมือง จ.ชัยนาท ผู้สร้างตำนาน “ฟ้าผ่าไม่ตาย ปืนยิงไม่ระคาย” อันลือลั่น ศิษย์ของ สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ปรมาจารย์กสิณไฟและเป็นศิษย์ผู้น้อง หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี สุดยอกเกจิ มรรภาพเมื่อปี21 หลังมรณภาพเกศากลายเป็นพระธาตุ

    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์สวยคมชัด คราบฝ้าไขว่านแป้งลองพิมพ์เดิมๆ ที่เห็นรอยด่างๆไม่ใช่รอยบิ่นนะครับเป็นรอยของคราบฝ้าไขว่านครับ พระผงดีดีปีลึกที่ราคายังสบายกระเป๋า ดูจากรายนามพระเกจิที่ปลุกเสกก็จบแล้วครับ อัดกันจนไฟลุกเลย แบ่งให้บูชา 700 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณสักการะ จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2022
  17. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,896
    ค่าพลัง:
    +5,717
    2620 , 2621 จองครับ
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2622.เหรียญพระนิรันตราย ญสส.(๒) วัดบวรนิเวศ
    สมเด็จพระสังฆราช,ลป.ทิม,ลพ.มหาวิบูลย์,ลป.มี เมตตาอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-51af_58514fc7-jpg-jpg-jpg.jpg

    thumb-b53c_571ba88a-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-97a3_571ba88a-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-8aae_571ba88a-jpg-jpg-jpg.jpg thumb-4680_571ba88a-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญพระนิรันตราย ญสส. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 เพื่อเป็นที่ระลึกครบรอบ 45 ปี บมจ.ธนาคารศรีนคร

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    => เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2538 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เวลา 15.29น. ดังมีรายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    - สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (ประธานจุดเทียนชัย)
    - หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก
    - หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
    - หลวงพ่อดี วัดพระรูป
    - หลวงพ่อมหาวิบูลย์ วัดโพธิคุณ
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    - หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    - หลวงพ่อคง วัดตะคล้อ
    - หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
    - หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    - หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    - หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    - หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ
    - หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
    - หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงษ์
    - หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง
    เป็นต้น

    วาระที่ : 2
    => เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2538 ณ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา
    - อธิษฐานจิตแบบบินเดี่ยว โดย หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

    สภาพสวยสมบูรณ์สวยกริ๊บกล่องเดิมๆ ไม่เคยออกมาจากกล่องเลย ผิวไฟแดงๆผิวรุ้งเดิม พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครบครอบ เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต แบ่งให้บูชา 222 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2022
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,622
    ค่าพลัง:
    +14,041
    2623.ยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์(ฝ.๑) พระผงหลวงปู่ฝั้น วัดภูเขาแก้ว
    อธิษฐานโดย พระสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6v2y-jpg.jpg

    image-8480_59b79519-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระผงหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลังธรรมจักร พุทโธ วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เนื้อผงมหาพุทธคุณ หลังโรยผงตะไบเหล็กเปียกยอดพระธาตุพนม,ผงศักดิ์สิทธิ์มากมายและอัญมณี ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2528 เมตตาอธิษฐานโดย พระสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร
    ประวัติการสร้างพระสมเด็จอาภัคโค
    มงคลฤกษ์ในการสร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค พระเดชพระคุณท่านพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ได้ให้มงคลฤกษ์สร้างพระผงสมเด็จอาภัคโคเป็นปฐมฤกษ์ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2526 เวลา 09.09 น. ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน จุลศักราช 1345 โดยท่านพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) เป็นประทานจุดเทียนชัยเจริญสวดพระคาถา นั่งบริกรรมภาวนาอธิษฐานจิตขอพุทธบารมีสร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค พร้อมกับพิมพ์พระผงสมเด็จอาภัคโคขึ้นเป็นปฐมฤกษ์ 9 องค์ และมีคณะศิษยานุศิษย์ผู้เข้าร่วมในพิธี ได้แก่ นาวาตรีกวี รัตนวโรภาส คุณอุดม รัมมะวาสน์ คุณเทพ ขาวมงคล พ.ต.อ. นายแพทย์ปราโมทย์ ศรศรีวิชัย คุณมัณฑนา ศรศรีวิชัย และคุณย่าอนงค์ ศรศรีวิชัย เป็นผู้ดำเนินการสร้าง ในขณะกดพิมพ์พระจะต้องภาวนาพระคาถาว่า "สัง วิ รา ปุ กะ ยะ ปะ" ดังนั้น เมื่อท่านมีพระผงสมเด็จอาภัคโคของวัดภูเขาแก้วไว้บูชาแล้ว ท่านควรจะภาวนาพระคาถานี้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการเสริมประสิทธิภาพด้วยพลังจิตของท่านเอง จะทำให้พระผงสมเด็จอาภัคโคของท่านมีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้นไป

    การกดพิมพ์พระผงสมเด็จอาภัคโคเป็นอันแล้วเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2528 ตรงกับวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีฉลู จุลศักราช 1347 ใช้เวลาในการสร้าง 1 ปี 9 เดือน 14 วัน ครบ 84,000 องค์ และพระผงพระเกจิอาจารย์ที่หลวงปู่โชติเคารพนับถือสายพระกัมมัฏฐานอีกจำนวนหนึ่ง เช่น พระรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระผงรูปเหมือนพระอาจารย์ขาว อนาลโยเพื่อให้ศาสนิกชนมีไว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ นับว่าเป็นของดีของวิเศษที่ทุกท่านควรให้ความสนใจเก็บสะสมไว้สักการะบูชาต่อไป สถานที่สร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค คือ ศาลาริมคลองมอญ ณ บริเวณของคุณย่าอนงค์ ศรศรีวิชัย

    รายการมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค
    1. ผงวิเศษพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม
    2. ผงวิเศษวัดพลับ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) พระอาจารย์พุฒ วัดใหม่พิเรนทร์ ได้จากหลานชาย พระสังวรานุวงศ์เถร (หลวงปู่ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม ได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี 2508

    3. ผงวิเศษดอนเจดีย์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว (ขรัวตาคง) อาจารย์ ม.ร.ว. สิทธิประภัทร เกษมสันต์ ได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร ที่วัดอัมพวา กรุงเทพฯ เมื่อปี 2492
    4. ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระผงสมเด็จวัดระฆังฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้ตั้งแต่จำพรรษาอยู่วัดพระยาทำ กรุงเทพฯ
    5. ผงวิเศษ 5 อย่าง คือ ผงอิทธิเจ ผงปัตถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห หลวงปู่อ่อง ยโสธร ได้มาจากหลวงปู่คง พุทธสร วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
    6. ผงยาวิเศษพระฤาษีพันปี หลวงพ่อศรีทัต วิปัสสโน วัดหนองสามหมื่น อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้ถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร จำนวนหนึ่ง และไปนำมาจากถ้ำบนเขาพังเหย จังหวัดลพบุรี เมื่อปี 2506
    7. ผงวิเศษหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จังหวัดประทุมธานี ท่านพระครูสารทราพัฒนกิจ (หลวงพ่อละมูล) วัดเสด็จ ได้มอบให้เมื่อปี 2509
    8. แร่เหล็กมันปูเกาะล้าน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระภิกษุ (ไม่ทราบนาม) ซึ่งเป็นน้องชาย จ.อ.สวัสดิ์ ทองเสริม ได้มอบให้เมื่อครั้งเดินทางไปราชการที่สถานีทหารเรือสัตหีบ เมื่อเดือน มีนาคม 2505
    9. ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระกรุ วัดอัมพวา กรุงเทพฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้จำนวนมากขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวา
    10. ผงวิเศษ หลวงปู่อ่อง ยโสธร ซึ่งท่านผสมเป็นแท่งจากผงชอล์คของบุคคลต่างๆ ที่ได้มาให้ท่านตรวจดวงชะตา โดยเลือกเฉพาะบุคคลที่มีเกษตรมหาอุจ มหาจักร และราชาโชค ทำเป็นผงวิเศษ 5 ประการ
    11. ผงเกสรดอกไม้รอบโลกจากประเทศต่างๆ นาวาอากาศตรีหญิงเผ่าทอง เมนะรุจิ (ยศขณะนั้น) นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี 2508
    12. ผงสังเวชนียสถานสี่แห่งในชมพูทวีป คือ ผงดินที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา ที่ปรินิพพาน และใบศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ ซึ่งหลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้และได้นำมาจากประเทศอินเดียอีกในปี 2523
    13. ผงวิเศษบึงพระยาสุเรนทร์ ผงใบลานเผา พระผงบึงพระยาสุเรนทร์ชำรุด 30 กว่าองค์ ท่านพระครูสุตาธิการี หรือหลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครมอบให้
    14. ผงตะใบพระกริ่ง พระบูชาจากวัดต่างๆ คุณอุดม รัมมะวาสน์ และคุณสงัด ปัจฉิมสุภาคม มอบให้
    15. เปลือกต้นศรีมหาโพธิ์พุทธคยา หลวงปู่สิม พุทธธาโร ให้คุณธนา ศรีพันธ์ุ นำมามอบให้
    16. ผงวิเศษ ท่านพระครูญาณวิลาส (หลวงพ่อแดง) วัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี พ.ต.ต.ประสงค์ เจิมพร นำมามอบให้เมื่อเดือนสิงหาคม 2526
    17. ผงกบิลว่าน 108 และเกสรดอกไม้ 108 หลวงปู่อ่อง ยโสธร ได้เก็บรวบรวมไว้
    18. ผงวิเศษ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หรือพระมงคลเทพมุนี วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ศิษย์ฆราวาสของท่านได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร 3 ก้อน
    19. ผงวิเศษ พระอาจารย์เมี๊ยก ฉันทวุฑโฒ วัดสัมมาธัญญาวาส กรุงเทพฯ มอบให้
    20. ผงมวลสารอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่ท่านพุทธศาสนิกชน ผู้ใจบุญทั้งหลายนำมามอบให้
    21. ผงวิเศษพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม ดร.พระมหาสม สุมโน นำมามอบให้เพิ่มเติม ดังนี้
    21.1 ผงอิฐพระธาตุองค์เดิม
    21.2 ผงเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งได้จากฐานพระบุเงิน,บุทอง จากกรุพระธาตุพนมเมื่อปี 2518
    21.3 ผงผอบสำริดหลังเดิม ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ
    21.4 ผงพระยอดพระธาตุองค์เดิมช่วงกลาง
    21.5 ผงพระยอดพระธาตุองค์เดิมช่วงบนด้านนอก
    21.6 ผงยอดพระธาตุช่วงบนสุดด้านใน ซึ่งเข้าใจว่าเป็น "ขี้เหล็กไหล"

    21.7 ผลเหล็กเปียก ซึ่งหล่อหุ้มยิดพระธาตุองค์เดิม

    วาระพิธีพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ.2529 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5
    เวลา 12.59น. ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดภูเขาแก้ว โดย พระสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร นั่งบริกรรมเจริญภาวนา ทำสมาธิขอพุทธบารมี จนได้เวลาดับเทียนชัย
    เวลา 14.19น. พระสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ดับเทียนชัยและประพรมน้ำพุทธมนต์วัตถุมงคลในพิธีทั้งหมด


    สภาพสวยเดิม ไม่ผ่านการใช้งานเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึกน่าบูชา ยอดวัตถุมงคลที่รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย ยิ่งเป็นสิริมงคลเนื่องด้วยได้รับความเมตตาอธิษฐานโดย พระสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร พุทธคุณดีครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณsunmk จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...