***กสินใน 1 วัน / อรูปฌาน4 ใน 1 วัน***

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย GluayNewman, 18 ธันวาคม 2011.

  1. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    วันนี้ขอพูดเรื่อง จิตว่าง (ตอนที่ 1) นะครับ

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]พูดถึงเรื่องจิตว่าง บางคนดูว่าเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน ยากที่จะเข้าถึง ยากที่เชื่อ[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นคำที่ดูสูงและไกลเกินกว่าคนธรรมดาๆ จะสัมผัสได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ยกให้เป็นคำในตำรา ที่ไม่น่าสนใจ เพราะไม่รู้จะสนใจไปทำไม[/FONT]
    [FONT=&quot]ชาตินี้คงไม่รู้จักหรอก ค่อยสะสมบารมีไปเจอเอาชาติหน้าก็แล้วกัน[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าผมบอกว่าเราเจอจิตว่างกันอยู่ทุกวัน จะเชื่อไหมครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]อันนี้ไม่ได้พูดเอง ครูบาอาจารย์เช่น หลวงพ่อพุทธทาสท่านก็กล่าวไว้เช่นนี้เหมือนกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นจิตที่ปราศจากการปรุงแต่ง แต่ก็มักจะเกิดชั่วครู่ ชั่วยาม เพราะเราชินกับการปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]เราจะอยู่กับความปรุงแต่งเสียมาก เลยไม่เห็นจิตชนิดนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตว่างเป็นจิตที่ว่างๆ ครับ(สมชื่อ) ไม่มีความคิด หรือ ความรู้สึกใดๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่ก็มีสติสัมปชัญญะนะครับ[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ได้หมดสติ[/FONT] [FONT=&quot]ว่างจากความปรุงแต่ง แต่ยังคงมีสติ และปัญญาด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]ใครยังไม่เคยสัมผัสก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะว่างยังไง[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตว่าง สำคัญว่า ถ้าไม่มีใครมาชี้ให้เราเห็น เราอาจเห็นเองไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ผมแนะนำหลวงพ่อสมบูรณ์ ผู้ที่สามารถชี้ให้เราเห็นจิตว่างได้[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นแล้วก็เป็นปัจจัตตัง เอาออกมาโชว์ให้คนอื่นดูไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่งั้นก็คงบรรลุธรรมกันหมดแล้วครับ ไม่ต้องมาทนทุกข์กันอยู่แบบนี้[/FONT]

    [FONT=&quot]มาถึงคำถามที่ว่าจิตว่างอาจเกิดจากการทำสมาธิก็ได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]คือทำสมาธิมาถึงจุดหนึ่ง เรียกว่าเข้าฌาน รู้สึกว่าตัวเราหายไป กลายเป็นความว่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่มีตัวเรา ว่าง จิตนิ่ง เป็นหนึ่ง [/FONT]
    [FONT=&quot]ความว่างแบบนี้ เป็นความว่างที่ถูกปรุงแต่งขึ้นครับ ปรุงแต่งจากการเพ่งของจิตไปยังอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]จนจิตนิ่งเป็นฌานก็รู้สึกว่าง แต่พอออกจากสมาธิ ก็กลับมามีตัวเราเหมือนเดิม[/FONT]
    [FONT=&quot]อันนี้ไม่ใช่ว่างแบบธรรมชาติ ว่างแบบไม่ปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เป็นการปรุงแต่งอีกแบบหนึ่ง[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งแน่นอนความปรุงแต่งย่อมไม่ใช่ทางพ้นทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]ดังพุทธพจน์ที่ว่า สัพเพ สังขารา ทุกขาติ[/FONT] : [FONT=&quot]สังขาร(คือความปรุงแต่ง)ทั้งปวงเป็นทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้นความว่างแบบนี้ไม่พาให้พ้นทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าท่านเคยฝึกฝนกับดาบส [/FONT]2 [FONT=&quot]ท่านจนถึงฌาน [/FONT]8 [FONT=&quot]ก่อนตรัสรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านเห็นว่าพอออกจากฌานแล้วก็ยังมีทุกข์อยู่ ท่านจึงเลิกใช้วิธีนี้[/FONT] [FONT=&quot]ไปลองวิธีอื่นๆ[/FONT]

    [FONT=&quot]คราวนี้ก็มีคำถามว่า คืนที่ท่านตรัสรู้ ท่านก็ทำสมาธิ ทำฌาน ก่อนตรัสรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านกลับมาใช้วิธีนี้อีกหรือเปล่า[/FONT] [FONT=&quot]ผมตอบตรงนี้เลยครับว่าไม่ใช่วิธีนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เชื่อว่ามีหลายคนไม่เชื่อผม หลายคนมีความเชื่อว่าท่านกลับมาใช้ฌานที่ท่านเรียนมากับดาบสอีกครั้ง[/FONT]
    [FONT=&quot]ขอให้กลับไปอ่านพุทธประวัติอีกครั้ง มีอะไรซ่อนอยู่นะครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]คือ ท่านระลึกถึงฌาน ตอนสมัยท่านมีอายุได้ [/FONT]7 [FONT=&quot]ขวบ ตอนที่มีพิธีแรกนาขวัญครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนนั้นพุทธประวัติบอกไว้ชัดเจน ว่าท่านนั่งอยู่ลำพัง เพราะสนมไปดูพิธีแรกนาขวัญกันหมด[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ท่านก็บรรลุปฐมฌาน[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นไม๊ครับ ท่านรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ ไม่ใช่ท่านเพ่งอารมณ์อะไร ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เรียนฌานกับดาบส[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นฌานที่เกิดตามธรรมชาติ คือลักษณะแบบจิตว่างนี่เอง[/FONT] [FONT=&quot]แบบผ่อนคลาย ไม่ใช่เพ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านก็มาระลึกได้อีกครั้งตอนคืนวันตรัสรู้ และท่านก็ได้ใช้ฌานนี้เป็นวิหารธรรมในการตรัสรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]ผมฟันธงว่า ท่านตรัสรู้ด้วยสมาธิแบบธรรมชาติ แม้จะเป็นอานาปานสติ ก็เป็นแบบผ่อนคลาย ไม่ใช่เพ่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นหรือยังครับว่าจิตว่างมีความสัมพันธ์กับการบรรลุธรรมอย่างไร[/FONT]
    [FONT=&quot]การบรรลุธรรมเริ่มต้นจากการเห็นจิตว่างก่อนครับ[/FONT]


    เรื่องนี้ ไม่หวังว่าจะให้เชื่อ แต่อยากให้ลองพิสูจน์นะครับ
    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  2. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    สาธุครับพี่กล้วย ธรรมใดที่พี่ได้เห็นแล้ว ขอให้ผมได้เห็นธรรมนั้นด้วยนะครับ
     
  3. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ยินดีช่วยเต็มที่เลยครับ...ขอให้สมปรารถนา
    เมื่อก่อน ผมก็ตั้งความปรารถนาเหมือนกับคุณApichan แบบนี้แหละครับ
    เจอครูบาอาจารย์ ก็อธิษฐานจิตกับท่านทุกครั้ง

    วันนี้ความปรารถนาก็ค่อยๆ เป็นจริงขึ้นมา
    แม้จะยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็มากพอที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่นได้
    ที่ลาออกจากงานมาก็เพื่อตรงนี้แหละ
    ชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อช่วยคนอื่นให้พ้นทุกข์
    เป็นสิ่งเดียวที่จะทำ ชีวิตผมไม่มีเรื่องอื่นแล้วครับ
     
  4. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ......
     
  5. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ยังไม่ได้ขอบคุณ คุณ Java 108 ที่ช่วยดูแลให้นะครับ...
    ขอขอบคุณด้วยบทความนี้ก็แล้วกัน

    ทำไมสติจึงทำให้เราหลุดพ้นได้

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]คืออย่างนี้ครับ มันมีความจริงตามธรรมชาติ ที่เป็นความจริงสูงสุด[/FONT][FONT=&quot] (Ultimate Truth)[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นความจริงที่ไม่มีใครค้นพบมาก่อน จนกระทั่งพระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่[/FONT]
    [FONT=&quot]ท่านนิยามว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ ท่านเน้นเรื่องอนัตตาเรื่องเดียว [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะอนิจจังและทุกขัง เป็นเรื่องที่รู้กันมาก่อนแล้ว ใครรู้เรื่องนี้ก็ยังไม่พ้นทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]อนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงธรรมชาติ ที่เป็นไป ตามแต่เหตุปัจจัยที่กำหนด[/FONT]
    [FONT=&quot]คือพูดง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นตัวตนถาวรจริงๆ ทุกอย่างเป็นไปตามเรื่องของมัน [/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วแต่เหตุ แล้วแต่ผล ของมัน แม้แต่จิต ที่เรามักรู้สึกว่าเป็นเรา จริงๆ ก็ไม่ใช่[/FONT]
    [FONT=&quot]มันเกิดมาตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เหมือนกับร่างกายเรานี่เแหละ แถมเร็วกว่าด้วย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าใครเข้าถึง(ใช้คำว่าเข้าถึงนะครับ ไม่ใช่เข้าใจ)ความจริงอันนี้ รู้ได้ว่าที่แท้ไม่มีเรา[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อไม่มีเรา ก็ไม่มีใครเป็นผู้ทุกข์ ความทุกข์ก็หมดไปทันที อัตโนมัติ เรียกว่าบรรลุธรรม[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตปล่อยความยึดมั่นว่าเป็นเราไป หมด จบ เบา สบาย ใช้ชีวิตต่อด้วยความสบาย [/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นตัวเราต้องให้แบก ไม่มีอะไรเป็นของเราอีกต่อไป [/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ทีนี้ ในเมื่อความจริงมันมีอยู่อย่างนี้แล้ว ทำไมเราถึงไม่รู้ ไม่เห็น ไม่บรรลุ ล่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ก็เพราะว่ามีสิ่งที่บังความจริงนั้นอยู่ครับ อะไรที่บังล่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ความปรุงแต่งครับ ความปรุงแต่งของจิต โดยเฉพาะปรุงแต่งว่าเป็นตัวเรานี่แหละ[/FONT]
    [FONT=&quot]มากับสัญชาตญาณเลย ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไม่ใช่เรา บังสนิทเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]ดูยังไง ก็ไม่มีทางไม่มีเราไปได้เลย มีเราทนโท่ จิตเราปรุงแต่งแทบจะตลอดเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]ความปรุงแต่งนี่แหละครับสำคัญที่สุด ที่ทำให้เราเหมือนคนตาบอด[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ที่นี้ครูบาอาจารย์ให้เรามีสติ เพื่ออะไร[/FONT]
    [FONT=&quot]การมีสติ รู้สึกตัว เป็นการมองย้อนกลับมาที่จิตตัวเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะการปรุงแต่งเกิดที่จิต ให้จิตย้อนมาดูความปรุงแต่งตรงนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]ดูเฉยๆ จิตมันเก่งนะ ทำได้หลายอย่าง ให้ดูเฉยๆ มันก็ทำได้[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะถ้าไม่ดูเฉยๆ มันก็ปรุงแต่งไปตามกระแสนั้น ตามความคิดนั่นแหละ[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อดูเฉยๆ ไประยะหนึ่ง ไม่ปรุงแต่งไปตามความรู้สึก นึก คิด [/FONT]
    [FONT=&quot]ความปรุงแต่งจะค่อยๆ หยุด เพราะขบวนการปรุงแต่งมันหยุด จิตไม่ไปตามมัน [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อจิตหยุดปรุงแต่งแล้ว จะเหลือแต่จิตเดิมๆ จิตที่ไม่ปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตที่ไม่มีอะไรมาบังแล้ว ทีนี้ก็เห็นความจริงซิครับ ไม่มีอะไรมาบังแล้ว เห็นว่าไม่มีเรานี่หว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]เอ้ย มันว่าง มันไม่มีเรา นี่ พอหยุดปรุงแต่ง ไม่มีอะไรบัง ความจริงปรากฎเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]มันเป็นอะไรที่ว่างๆ ไม่มีคำพูด เป็นอย่างนั้นๆ ของมัน ไม่เป็นอะไรเลย[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ที่นี้ใหม่ๆ ยังเห็นได้ไม่นาน บางทีแว้บนึง มันก็ปรุงแต่งอีกแล้ว มันเป็นความเคยชิน[/FONT]
    [FONT=&quot]เคยชินตามสัญชาติญาณ อาจกล่าวได้ว่ามาตั้งแต่ชาติก่อนๆ นับชาติไม่ถ้วน[/FONT][FONT=&quot]![/FONT]
    [FONT=&quot]ทราบหรือยังครับ ว่าทำไมครูบาอาจารย์ให้มีสติ [/FONT]
    [FONT=&quot]พอมีสติเห็นความจริงนี่เริ่มมีปัญญาหน่อยๆ แล้วนะครับ [/FONT]
    [FONT=&quot]เรียกว่า ตรุณวิปัสสนา[/FONT][FONT=&quot]= วิปัสสนาน้อยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ทีนี้เราก็มีสติ คือรู้เฉยๆ ดูเฉยๆ เรื่อยๆ พยายามทำให้มากเขา นานเข้า[/FONT][FONT=&quot] เรียกว่าเจริญสติ[/FONT]
    [FONT=&quot]สติก็จะติดต่อกันทีละนิดๆ จนกลายเป็นสมาธิ ทำให้จิตมีเวลาเห็นความจริงนานขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นได้ชัดขึ้น ละเอียดขึ้น ตามอำนาจการช่วยเหลือของสมาธิ สมาธิมันมีแรงมาช่วยด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]จนปัญญาเกิดขึ้นมาชัดๆ แล้ว เป็นปัญญาจริงๆ วิปัสสนาญาณตัวจริงมาแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่สำคัญที่สุด ต้องมีสติให้เป็นนะครับ ดูเฉยๆ ไม่ใช่ "เราดู"[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ารู้สึกว่าเราดู มันก็ยังปรุงแต่งเป็นเราอยู่ ไม่ได้ออกจากการปรุงแต่งเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]เราจะไม่สามารถเห็นความจริงได้เลย อาจมีสมาธิ แต่ไม่เกิดปัญญาครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้ปฏิบัติส่วนมาก ติดตรงนี้มากๆ นะครับ เป็น "เรา" มีสติ กันเป็นส่วนมาก[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วก็ไม่ไปไหน แม้อาจมีปัญญาเกิด แต่ก็เกิดจากความปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นปัญญาเทียม โบราณเรียก เฉโก เรียกอย่างนี้จริงๆ นะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ลองสำรวจตัวเองดูครับว่ามีปัญญา หรือ เฉโก ถ้ามีสติ แล้วยังมีเราก็ เฉโก แน่นอน[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วก็แก้ไขความทุกข์ไม่ได้ รู้มาก แต่ไม่พ้นทุกข์ก็มี[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]พอวิปัสสนาปัญญาเกิดแล้ว ก็จะเห็นความจริงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตก็ถอดถอนความรู้สึกว่าเป็นเราไปตามลำดับเหมือนกัน จิตก็บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตยิ่งบริสุทธิ์ ก็ยิ่งเห็นความจริงลึกลงไป ปัญญาหยั่งลงไป [/FONT]
    [FONT=&quot]จนในที่สุดก็เห็นความจริงที่ลึกที่สุด อันสืบเนื่องมาจากการมีสติตลอดเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตก็หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหมด ดังที่กล่าวมาแล้ว ก็จบ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] จะเห็นได้ว่าสติเป็นกลวิธีที่ทำให้จิตกับความจริงเจอกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อทำให้มากก็จะมีสมาธิมาช่วยให้เห็นได้นานและชัดขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อปัญญาเกิด สติและสมาธิ ก็จะผลักดันให้ปัญญาหยั่งลงไปเรือยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]จนกระทั่งเข้าถึงความจริงสูงสุด หมดทุกข์กัน [/FONT]
    [FONT=&quot]ขบวนการทั้งหมดนี่ ต้องเป็นไปโดยอัตโนมัติ แค่เรามีสติอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าไปกำหนดให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ก็เป็นการปรุงแต่งอีกนะครับ ระวัง[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้น การมีสติจึงทำให้จิตหลุดพ้นได้ ด้วยประการะฉะนี้เอง [/FONT]
    [FONT=&quot]มากับสัญชาตญาณเลย ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไม่ใช่เรา บังสนิทเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]ดูยังไง ก็ไม่มีทางไม่มีเราไปได้เลย มีเราทนโท่ จิตเราปรุงแต่งแทบจะตลอดเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]ความปรุงแต่งนี่แหละครับสำคัญที่สุด ที่ทำให้เราเหมือนคนตาบอด[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ที่นี้ครูบาอาจารย์ให้เรามีสติ เพื่ออะไร[/FONT]
    [FONT=&quot]การมีสติ รู้สึกตัว เป็นการมองย้อนกลับมาที่จิตตัวเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะการปรุงแต่งเกิดที่จิต ให้จิตย้อนมาดูความปรุงแต่งตรงนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]ดูเฉยๆ จิตมันเก่งนะ ทำได้หลายอย่าง ให้ดูเฉยๆ มันก็ทำได้[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะถ้าไม่ดูเฉยๆ มันก็ปรุงแต่งไปตามกระแสนั้น ตามความคิดนั่นแหละ[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อดูเฉยๆ ไประยะหนึ่ง ไม่ปรุงแต่งไปตามความรู้สึก นึก คิด [/FONT]
    [FONT=&quot]ความปรุงแต่งจะค่อยๆ หยุด เพราะขบวนการปรุงแต่งมันหยุด จิตไม่ไปตามมัน [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อจิตหยุดปรุงแต่งแล้ว จะเหลือแต่จิตเดิมๆ จิตที่ไม่ปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตที่ไม่มีอะไรมาบังแล้ว ทีนี้ก็เห็นความจริงซิครับ ไม่มีอะไรมาบังแล้ว เห็นว่าไม่มีเรานี่หว่า[/FONT]
    [FONT=&quot]เอ้ย มันว่าง มันไม่มีเรา นี่ พอหยุดปรุงแต่ง ไม่มีอะไรบัง ความจริงปรากฎเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]มันเป็นอะไรที่ว่างๆ ไม่มีคำพูด เป็นอย่างนั้นๆ ของมัน ไม่เป็นอะไรเลย[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ที่นี้ใหม่ๆ ยังเห็นได้ไม่นาน บางทีแว้บนึง มันก็ปรุงแต่งอีกแล้ว มันเป็นความเคยชิน[/FONT]
    [FONT=&quot]เคยชินตามสัญชาติญาณ อาจกล่าวได้ว่ามาตั้งแต่ชาติก่อนๆ นับชาติไม่ถ้วน[/FONT][FONT=&quot]![/FONT]
    [FONT=&quot]ทราบหรือยังครับ ว่าทำไมครูบาอาจารย์ให้มีสติ [/FONT]
    [FONT=&quot]พอมีสติเห็นความจริงนี่เริ่มมีปัญญาหน่อยๆ แล้วนะครับ [/FONT]
    [FONT=&quot]เรียกว่า ตรุณวิปัสสนา[/FONT][FONT=&quot]= วิปัสสนาน้อยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ทีนี้เราก็มีสติ คือรู้เฉยๆ ดูเฉยๆ เรื่อยๆ พยายามทำให้มากเขา นานเข้า[/FONT][FONT=&quot] เรียกว่าเจริญสติ[/FONT]
    [FONT=&quot]สติก็จะติดต่อกันทีละนิดๆ จนกลายเป็นสมาธิ ทำให้จิตมีเวลาเห็นความจริงนานขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นได้ชัดขึ้น ละเอียดขึ้น ตามอำนาจการช่วยเหลือของสมาธิ สมาธิมันมีแรงมาช่วยด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]จนปัญญาเกิดขึ้นมาชัดๆ แล้ว เป็นปัญญาจริงๆ วิปัสสนาญาณตัวจริงมาแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่สำคัญที่สุด ต้องมีสติให้เป็นนะครับ ดูเฉยๆ ไม่ใช่ "เราดู"[/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ารู้สึกว่าเราดู มันก็ยังปรุงแต่งเป็นเราอยู่ ไม่ได้ออกจากการปรุงแต่งเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]เราจะไม่สามารถเห็นความจริงได้เลย อาจมีสมาธิ แต่ไม่เกิดปัญญาครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้ปฏิบัติส่วนมาก ติดตรงนี้มากๆ นะครับ เป็น "เรา" มีสติ กันเป็นส่วนมาก[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วก็ไม่ไปไหน แม้อาจมีปัญญาเกิด แต่ก็เกิดจากความปรุงแต่ง[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นปัญญาเทียม โบราณเรียก เฉโก เรียกอย่างนี้จริงๆ นะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ลองสำรวจตัวเองดูครับว่ามีปัญญา หรือ เฉโก ถ้ามีสติ แล้วยังมีเราก็ เฉโก แน่นอน[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วก็แก้ไขความทุกข์ไม่ได้ รู้มาก แต่ไม่พ้นทุกข์ก็มี[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]พอวิปัสสนาปัญญาเกิดแล้ว ก็จะเห็นความจริงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตก็ถอดถอนความรู้สึกว่าเป็นเราไปตามลำดับเหมือนกัน จิตก็บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตยิ่งบริสุทธิ์ ก็ยิ่งเห็นความจริงลึกลงไป ปัญญาหยั่งลงไป [/FONT]
    [FONT=&quot]จนในที่สุดก็เห็นความจริงที่ลึกที่สุด อันสืบเนื่องมาจากการมีสติตลอดเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตก็หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหมด ดังที่กล่าวมาแล้ว ก็จบ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot] จะเห็นได้ว่าสติเป็นกลวิธีที่ทำให้จิตกับความจริงเจอกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อทำให้มากก็จะมีสมาธิมาช่วยให้เห็นได้นานและชัดขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อปัญญาเกิด สติและสมาธิ ก็จะผลักดันให้ปัญญาหยั่งลงไปเรือยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]จนกระทั่งเข้าถึงความจริงสูงสุด หมดทุกข์กัน [/FONT]
    [FONT=&quot]ขบวนการทั้งหมดนี่ ต้องเป็นไปโดยอัตโนมัติ แค่เรามีสติอย่างเดียวเท่านั้นนะครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าไปกำหนดให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ก็เป็นการปรุงแต่งอีกนะครับ ระวัง[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้น การมีสติจึงทำให้จิตหลุดพ้นได้ ด้วยประการะฉะนี้เอง [/FONT]
     
  6. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ขอขอบคุณ คุณกล้วยที่อุตส่าห์เสียสละเวลามาสอนและอธิบายวิธีการปฏิบัติ ให้กับผู้ที่ยังขาดประสพการณ์ ขออนุโมทนา ด้วยครับ
     
  7. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ยินดีครับ....
    วันนี้มีเกมส์มาให้เล่นนะครับ ลองเล่นกันดู
    รับรองว่าเป็นเกมส์ที่ดีที่สุดเกมส์หนึ่งในโลกเลยที่เดียวก็ว่าได้ ถ้าเล่นเป็น
    (...ลองดูว่าโม้หรือเปล่า....)

    ชื่อเกมส์...สิ่งที่มีอยู่แล้ว

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ลองนะครับ...ตอนนี้นะ กำลังอ่านอยู่นี่แหละ[/FONT]
    [FONT=&quot]ลองมาเล่นเกมส์กันนิดนึง...ลองดูนะครับ หนุกๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]รู้ไม๊ว่านั่งอยู่ท่าไหน ไม่ต้องดูนะครับ รู้สึกได้หรือเปล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]หายใจยาวหรือสั้น รู้ได้ไม๊ ถ้ายังไม่รู้ ...ก็รู้ซะเลยตอนนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]หายใจสั้น หรือยาว สบายกว่ากัน...รู้ได้ไม๊[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่น่ายากนะ...ต่อๆ ..เอ้า มันตึง มันเมื่อยตรงไหนไม๊...[/FONT]
    [FONT=&quot]แน่...บางทีเล่นเพลิน เกร็งจนเมื่อย ไม่รู้ตัว[/FONT]
    [FONT=&quot]เอ้า เมื่อยก็ยืด ก็บิดให้หายนะครับ...[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]เอ้า...ต่อไป ตอนนี้สบายหรือไม่สบาย...[/FONT]
    [FONT=&quot]รู้ได้ไม๊ครับ...อืม สบายก็แบบนี้ ไม่สบายมันก็เป็นแบบนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่สบาย หายใจยาวๆ ก็สบายขี้นได้นะครับ...[/FONT]
    [FONT=&quot]ต่อๆ...กะลังหงุดหงิดไม๊ หรือ กะลังมีความต้องการอะไรหรือเปล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]สังเกตุดูซิ ไม่ต้องไปเพ่งดูนะ...รู้แบบธรรมดาๆ ธรรมชาติๆ นี่แหละ[/FONT]
    [FONT=&quot]หรือว่ามึนๆ งงๆ อะไร ก็ให้รู้จักมันน่ะครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]แค่สังเกตุ และรู้จักเฉยๆ ไม่ต้องไปทำอะไรมันนะ[/FONT]
    [FONT=&quot]หรือมันไม่มีอะไรเลย มันเฉยๆ ก็ให้รู้ สังเกตุไว้ว่า...อ๋อ มันเฉยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]ในใจ มันไม่มีอะไรเลย ก็รู้ว่ามันไม่มีอะไร[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คิดอะไรหรือเปล่า อ่านไปด้วย สังเกตุไปด้วย แล้วคิดอะไรหรือเปล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]สังเกตุดูนะครับ ไม่ใช่ไปคิดตาม...ดูเฉยๆ ไม่ต้องไปเพ่ง ไปหา[/FONT]
    [FONT=&quot]มันคิดก็รู้ ไม่คิดก็รู้..แค่นั้น....อย่าไปวิเคราะห์...[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]อยู่ท่าไหน สบาย ไม่สบาย รู้สึกยังไง คิดอะไรหรือเปล่า[/FONT]
    [FONT=&quot]ตาก็ดู อ่านก็อ่าน...เอ่ะใจไม๊ครับ... ว่าเรารู้พร้อมๆ กันได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]มันรู้แบบกว้างๆ...รู้ได้เอง โดยไม่ต้องไปโฟกัสเป็นเรื่องๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นแบบนี้ไม๊....[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตคนเรารู้ได้เองนะครับ การรู้ของมันทำงานได้กว้างมาก[/FONT]
    [FONT=&quot]รู้หลายๆ อย่างพร้อมกันได้ แบบ [/FONT][FONT=&quot] Mutitasking (รู้ได้พร้อมกันหลายอย่าง)[/FONT]
    [FONT=&quot]กว้าง และเบาสบายด้วย ไม่จำเป็นต้องไปโฟกัส หรือเพ่งเป็นจุดๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]ไปดูแบบเป็นจุดๆ มันจะเป็นภาระนะครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่เชื่อลองดูก็ได้ ลองไปโฟกัสดูที่ท่านั่งอย่างเดียว...[/FONT]
    [FONT=&quot]ลองดูครับ...เป็นไง...เพ่งไปที่ร่างกาย ดูครับ... เพ่งไป ว่าอยู่ที่ท่าไหน[/FONT]
    [FONT=&quot]รู้สึกเป็นไงครับ... รู้สึกว่าเป็นภาระขึ้นทันทีไม๊[/FONT]
    [FONT=&quot]ทีนี้ กลับมารู้อย่างเดิม...ปล่อยภาระออก... ปึ้บ...[/FONT]
    [FONT=&quot]ให้รู้เอง ไม่ต้องไปเพ่ง...ต่างกันไม๊[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นความแตกต่างกันไม๊ครับ รู้ให้ต่อเนื่องไว้นะครับ...[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]อ้าวๆๆ มาถึง ตอนสุดท้ายแล้ว ทีนี้..ลองครับ[/FONT]
    [FONT=&quot]ลองไม่รู้อะไรเลยซิ[/FONT][FONT=&quot]! เนี๊ยะ ตอนนี้น่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ต้องรู้ว่านั่งท่าไหน... ไม่ต้องรู้ว่าสบายหรือไม่สบาย[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ต้องรู้ว่ารู้สึกยังไง...คิดอะไรก็ไม่ต้องรู้[/FONT]
    [FONT=&quot]แถมไม่ต้องรู้ว่าอ่านอยู่ ไม่ต้องเห็นหน้าจอด้วย....[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่รู้มันให้หมด....เอ้า...[/FONT]
    [FONT=&quot]ทำได้ป่ะ...เป็นไง...เป็นไปได้ไม๊ครับ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]มันไม่ได้ใช่ไม๊...ยังไงมันก็ต้องรู้อยู่วันยันค่ำ จะไม่ให้รู้นี่ ทำไม่ได้...[/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นไม๊ครับ ว่า มันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ตามชื่อเกมส์น่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตมันรู้เองได้อยู่แล้ว ต้องไปทำอะไรให้มันรู้ไม๊[/FONT]
    [FONT=&quot]แถมรู้แบบนี้ เบาสบายด้วย ไม่เป็นภาระ[/FONT]
    [FONT=&quot]รุ้สึกได้ไม๊ครับ เบา สบาย โล่ง กว่าตอนก่อนเล่นเกมส์... สบ๊าย สบาย[/FONT]
    [FONT=&quot]รู้ตัวด้วย รู้สึกยังไง คิดอะไร รู้ไปหมด...รู้เฉยๆ ไม่ได้ไปทำอะไรอย่างอื่นเลย[/FONT]
    [FONT=&quot]อ่านไปด้วย รู้ไปด้วยก็ได้ ไม่ต้องไปตามดู ตามรู้อะไรเลย..[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]นี่แหละครับ...สติตามธรรมชาติ สิ่งที่มีอยู่แล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ต้องไปทำ...ไม่ต้องไปสร้าง...ทำแล้วมีภาระ[/FONT]
    [FONT=&quot]มันจะหนัก จะต้องแบกภาระอะไรซักอย่าง...[/FONT]
    [FONT=&quot]ไปแบกทำไมครับ...ของเค้ามีอยู่แล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]จริงมะ...เนี๊ยะ เจริญสติอยู่นะ รู้ป่ะ[/FONT]
    [FONT=&quot]จบเกมส์ครับ (ถ้าดี... ก็รู้ต่อไปเลยนะ)[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ใครเล่นแล้วได้ผลเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อยก็ดีนะครับ...[/FONT]
     
  8. ฟ้าสว่าง

    ฟ้าสว่าง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +14
    ขอบคุณมากค่ะคุณกล้วยที่มาสอนธรรมะให้ จริงๆตัวเองก็กำลังฝึกเรื่องการเจริญสติอยู่ แต่รู้บ้าง เผลอบ้าง กำลังพยายามมากๆ อยากหมดทุกข์ให้ได้ในชาติ แต่รู้ว่าตัวอยากก็ทำให้มีทุกข์ จะรอวันที่คุณกล้วยเปิดสอนต้นเดือนหน้าค่ะ
     
  9. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ครับ....วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ จะจัดปฏิบัติธรรมเสวนา
    นอกจากการเจริญสติเพื่อความพ้นทุกข์แล้ว ก็มีความรู้เรื่องสุขภาพด้วย
    ...."จิตดี กายดี, กายดี จิตดี"....
    ใครต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ ...เชิญเลยนะครับ

    "จิตดี กายดี, กายดี จิตดี" | Facebook
     
  10. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]จิตว่างมี [/FONT]2[FONT=&quot] แบบครับ [/FONT]

    [FONT=&quot]หนึ่ง ว่างจากความปรุงแต่ง [/FONT]
    [FONT=&quot]สองไปปรุงแต่งความว่าง [/FONT]
    ...
    [FONT=&quot]หนึ่ง....ว่างจากความปรุงแต่ง คือสภาวะจิตที่ไม่มีการปรุงแต่งในขณะนั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]มีความว่างจากกิเลส ว่างจากอารมณ์ เป็นจิตเดิมๆ ของเรา [/FONT]
    [FONT=&quot]ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่าจิตประภัสสร.....[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นสภาวะจิตที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน มีบ่อยด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เป็นเรื่องแปลก ที่ไม่ค่อยมีใครเห็น ต้องมีผู้รู้มาชี้ให้ดู [/FONT]

    [FONT=&quot]จิตว่างแบบนี้ คือจิตว่างที่ผมหมายถึง นอกจากว่างจากกิเลสแล้ว ยังว่างจากความเป็นตัวตนด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot]ซึ่งเป็นความรู้มที่เราเคยได้ยินอยู่แต่ไม่เก็ทกัน ว่าแต่เดิมไม่ได้มีตัวตน [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะเข้าใจผิด (มีอวิชชา) จึงปรุงแต่งตัวตนขึ้นมา ตัวตนนี่มีภายหลังนะครับ แต่เดิมไม่ได้มี.... [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตว่างชนิดนี้ทำงานตามธรรมชาติของเค้า คือมีหน้าที่รู้ [/FONT]
    [FONT=&quot]รู้ในอายตนะทั้ง [/FONT]6[FONT=&quot] รู้เจตสิก รู้สิ่งปรุงแต่ง รู้ทั้งกาย เวทนา จิต ธรรม [/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วแต่จะเทียบเคียงกับธรรมในหมวดไหน [/FONT]
    [FONT=&quot]รู้โดยไม่หลงไปยึดมาเป็นตัวตนด้วย ทำให้เห็นอะไรๆ ตามความเป็นจริง [/FONT]
    [FONT=&quot]เห็นความเป็นไปของสิ่งที่เกิดขึ้นในจิต หมายถึงเห็นไตรลักษณ์ครับ[/FONT]

    ....[FONT=&quot]ว่างอย่างที่สอง ปรุงแต่งความว่าง [/FONT]
    [FONT=&quot]อันนี้เกิดจากการที่เรากำหนดอารมณ์ให้จิตเข้าไปยึดเกาะ [/FONT]
    [FONT=&quot]ให้จิตวิตกวิจารณ์อยู่กับอารมณ์นั้นจนจิตหยุดนิ่ง เกิดเป็นฌาน [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตจึงว่าง แต่ไม่ว่างจากอารมณ์แน่ๆ เพราะกำหนดอารมณ์มาให้จิตเกาะไว้แต่แรก [/FONT]
    [FONT=&quot]จิตวางชนิดนี้ ไม่มีปัญญาครับ รู้อารมณ์แต่ไม่เห็นไตรลักษณ์ได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]แช่อยู่กับอารมณ์นั้น แล้วก็ยังเสี่ยงกับการติดสุขที่เกิดจากการทำฌานนั้นด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]แถมอีกนิด....อาจมีว่างอย่างที่สามด้วย คือการคิดว่ามันว่าง ไม่มีอะไร[/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วจิตก็เผอิญ.."เชื่อ"จริงๆ ว่ามันว่าง...เลย "คิด" ว่านี่แหละจิตว่าง[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตมันเก่งครับ เราเชื่ออย่างไร มันก็สร้างจินตภาพอย่างนั้นขึ้นมาได้[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เมื่อไหร่ที่โดนผัสสะหนักๆ ล่ะก็...วุ่นไปเลย ไม่ว่างแล้ว คิดว่าว่างไม่ออกแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]จิตเต็มไปด้วยความทุกข์ แน่นในหัวใจ[/FONT]

    [FONT=&quot]ขอให้ทุกๆ ท่านพบจิตว่างชนิดที่จะปหานกิเลสได้จริงๆ นะครับ[/FONT]
     
  11. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    มาดันกระทู้รอพี่กล้วยครับ :)
     
  12. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ขอบคุณครับ

    นอกจากขอบคุณคุณ apichan แล้ว ก็ขอขอบคุณ.....
    [FONT=&quot] [/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ขอบคุณทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]คนเราไม่ชอบความทุกข์ มันบีบคั้น มันทรมาน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]แต่มันนี่เอง ที่ทำให้เราปฏิบัติธรรม ใช่ไม๊ครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าไม่มีความทุกข์ คนก็ไม่ปฏิบัติธรรม[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ก็ไม่หลุดพ้น เวียนว่ายอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมเคยขอบคุณความทุกข์นะครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]หลายครั้งด้วย ขอบคุณๆๆ จริงๆ นะครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าไม่ได้นาย เราก็ยังตาบอดอยู่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ยังหลงระเริง สนุกสนานไปกับวัฏฏะนี้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]นายเป็นเพื่อนที่แสนดีจริงๆ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]นายผลักดันเราทุกอย่างเลย [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อหวังให้เราได้ดี ขอบคุณๆ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ใครยังโกรธเกลียดความทุกข์อยู่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่เป็นไรครับ ซักวันคุณจะรู้สึกอย่างผม[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อคุณเริ่มประจักษ์ถึงคุณของมัน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อคุณเริ่มเห็นได้ว่าทุกข์ไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อคุณรู้ว่าทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เค้าอยู่กับเราตลอด ลองดูให้ดีนะครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นยิ่งกว่าเพื่อน ยิ่งกว่าพ่อแม่พี่น้อง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]พูดให้ชัดจริงๆ เค้าเป็นทั้งชีวิตของเราเลย[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกข์นี่คือชีวิตของเรานี่แหละครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ชีวิตเรานี่แหละครับ ตัวทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]แล้วจะรังเกียจเค้าไม๊ล่ะครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  13. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ปัจจัยแห่งการปฏิบัติ

    ถ้าถามว่าผู้ปฏิบัติต้องมีคุณสม<wbr>บัติอย่าไรจึงจะประสบความสำเร็จ
    ผมขอสรุปสั้นๆ ดังนี้ครับ

    1 ไม่ติดอัตตา
    ถ้ายังมีความรู้สึกว่า ฉันรู้แล้ว ฉันดีแล้ว ฉันเก่ง....
    หรือแม้แต่ ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่มีบุญ...
    ไม่ตระหนัก และแก้ไขตรงนี้ก่อน รับรองได้ว่าชาตินี้เป็นโมฆะครั<wbr>บ

    2 มีความเพียร
    คือมีความใส่ใจ หมั่นระลึก หมั่นฝึกฝนจิตอยู่เสมอ
    ไม่ขี้เกียจ ไม่มีข้อแม้ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแก้ตัว
    แต่ก็ไม่มุ่งมั่นขันแข็ง เสียจนกลายเป็นเพ่ง หรืออยากจะเอาให้ได้

    3 แสวงหาทางที่ถูก
    คือต้องมีต่อมเอ๊ะ ที่แข็งแรง คอยสังเกตุดูว่าทางที่เราเดินนั<wbr>้น ถูกหรือยัง
    ไม่ติดยึดในหนทางเก่าๆ อันไหนเห็นว่าไม่ใช่ ก็แสวงหาใหม่
    โดยเอาความทุกข์ และอัตตา เป็นตัววัด
    ความทุกข์ลดลง อัตตาไม่เพิ่มขึ้น นั่นแหละใช่ครับ จริงๆ จะบอกตัวเองได้เลย

    มี 3 สิ่งนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน พื้นเพเป็นยังไง
    จะฝึกมาแบบไหน หรือไม่เคยฝึกเลย จะเป็นคนคิดมาก
    จะเป็นคนป่วย หรือจะติดอารมณ์อะไรมา...ไม่ใช่<wbr>ปัญหาเลย

    ....มีโอกาศพ้นทุกข์ได้ครับ...ผ<wbr>มกล้ายืนยัน
     
  14. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ .....
     
  15. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    กิจของปุถุชน และ อริยะ

    ความจริงที่คนทั่วไปไม่รู้...
    กิจจริงๆ ของมนุษย์ คือการพยายามให้ "พ้นทุกข์"
    ไม่ได้มีอย่างอื่นเลย สังเกตุดูให้ดีซิครับ
    การกระทำทุกอย่างในชีวิต เพื่อให้พ้นทุกข์
    การหาความสุขในรูปแบบต่างๆ ก็เพื่อมาดับความทุกข์ลึกๆ
    กิน เที่ยว ทำงาน เล่น ฯลฯ
    แสวงหา เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ เพื่อความสุขทั้งนั้น
    เพราะลึกๆ มันมีความทุกข์จากการแสวงหาซ่อน<wbr>เร้นอยู่ไงครับ
    แสวงหาสิ่งที่เป็นที่สุด ...ดีที่สุด สุขที่สุด เลิศที่สุด
    อันนี้แหละครับ....ศัพท์ของพุทธ<wbr>ศาสนา คือ "พ้นทุกข์"
    นั่นคือกิจของปุถุชน....

    ซึ่งก็อาจหาทางพ้นทุกข์ได้ถูกทา<wbr>งหรือไม่
    ถ้าผิด ก็วนเวียนๆ อยู่กับทุกข์ไม่รู้จบ
    ถ้าถูกทาง...ก็ค่อยๆ พ้นทุกข์ไปเรื่อยๆ

    กิจของปุถุชนจบลงที่การข้ามพ้นค<wbr>วามเป็นปุถุชน
    ก้าวล่วงไปสู่อริยภูมิ...ที่เรา<wbr>เรียกว่า พระอริยะ หรือ อริยบุคคล
    นั่นคือ จบกิจของปุถุชน ...
    เมื่อก้าวล่วงปุถุชนไปแล้ว...จิ<wbr>ตจะไม่โดนความทุกข์เบียดเบียนอี<wbr>ก..ตลอดไป
    หมดความเป็นปุถุชน หมายถึง หมดการถูกเบียดเบียนจากความทุกข<wbr>์
    แม้มันจะมีอยู่...แต่จิตไม่ทุกข<wbr>์ บรรลุแล้วซึ่งสภาพที่ไม่มีทุกข์<wbr>...นิพพาน

    มีพุทธพจน์กล่าวถึง ความทุกข์ของพระโสดาบันว่า
    ความทุกข์ของปุถุชนเปรียบเสมือน<wbr>พื้นแผ่นดิน (หมายถึงโลก)
    ส่วนความทุกข์ของพระโสดาบันเปรี<wbr>ยบเสมือนเมล็ดถั่วเขียว
    เห็นไม๊ครับ พระอริยะแม้ขั้นต้น มีความทุกข์น้อยเพียงไร
    .....เม็ดถั่วเขียวเทียบกับโลกท<wbr>ั้งโลก.....
    ผมจึงกล่าวว่า กิจปุถุชนจบลงที่ตรงนี้ ไม่ทุกข์แล้ว ...มีก็เหมือนไม่มี

    ส่วนพระอริยะ ถ้ายังไม่ถึงพระอรหันต์ ยังมีกิจที่ต้องทำต่อ
    นั่นคือ "ล้าง" ความผูกพันธ์ในภพชาติที่เกี่ยวเ<wbr>นื่องกันมานานไกลโพ้น
    ล้าง หรือ ขัดเกลา ความผูกพันธ์ในก้นบึ้งของจิต ในจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง
    อันที่เรียกว่า สังโยชน์ คือสิ่งที่ยังยึดเกาะจิตให้หวนก<wbr>ลับมาเกิดใหม่ ...แม้ไม่จะทุกข์แล้วก็ตาม
    แต่ความเคยชิน ที่อยู่ในอนุสัย ตกตะกอนนอนก้นอยู่ในจิต ก็ยังเป็นเชื้อชักนำให้มาเกิดใน<wbr>ภพภูมิต่างๆ ได้อีก
    กล่าวกันว่า อย่างมากที่สุด 7 ชาติ ก็จะหมดความผูกพันธ์อย่างหมดจรด
    ท่านก็จะหมดเชื้อในการกลับมาเกิ<wbr>ดอีก...ตลอดกาล
    นี่คือกิจของพระอริยะ ...สิ่งที่ท่านจะทำหรือไม่ทำ ก็ต้องหมดไปอยู่ดี จบกิจในที่สุด
    หลวงพ่อพุทธทาสเปรียบเสมือน ขี่จักรยานลงเขา

    เรามาทำกิจของปุถุชนให้จบกันเถิ<wbr>ด ให้หมดในชาตินี้กันเลยครับ
    กิจที่เหลือ ไม่เป็นภาระใดๆ แล้ว ...เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีความรู้สึกเป็นทุกข์มาเบีย<wbr>ดเบียนแล้ว
    แค่มี 3 ข้อที่ผมโพสไว้....ไม่ติดอัตตา / มีความเพียร / แสวงหาทางที่ถูก
    มีโอกาศจบในชาตินี้....อย่ามัวแ<wbr>ต่ดูถูกตัวเอง
    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ....เราบัญญัตินิพพานเป็นสมบัติ<wbr>ของทุกคน...
    จบกิจ...แล้วชีวิตจะพบสิ่งที่เร<wbr>ียกได้ว่าเป็นความสุขที่แท้จริง<wbr>ครับ
     
  16. หนูฝ้าย^^

    หนูฝ้าย^^ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +0
    หนูขอยกนิ้วให้นะคะ..
     
  17. หนูฝ้าย^^

    หนูฝ้าย^^ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +0
    ยกอีกทีค่ะ.. อิอิ.ท่านประจำอยู่บอร์ดนี้เหรอจ๊ะ?
     
  18. หนูฝ้าย^^

    หนูฝ้าย^^ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +0
    ยกอีกครั้งจ๊ะ..อ่านแล้วหนูเก้ทมากเลย..
     
  19. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ถึง หนูฝ้าย...

    ก็อยู่ที่นี่ครับ
    และที่เฟซบุ๊คด้วย
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_175948619086580&ap=1

    หนูฝ้ายนี่รูปจริงหรือเปล่า สนใจธรรมะแต่อายุยังน้อยเลยเหรอ...
     
  20. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ......
     

แชร์หน้านี้

Loading...