ขอถามเรื่องการปรามาสพระรัตนตรัย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 28 พฤศจิกายน 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    เอ่อก็จริงครับ แต่อามรมณ์ผมประมาณว่า สมมุติ ผมสวดบทพุทธคุณอยู่ แต่บางครั้ง (มันอยากคิดไปจุดเดิมจุดเลว) ปากผมสวด แต่ใจผมจะแตก ก็ไม่ไหว เหมือนกันครับ

    ตอนนี้ ทุกข์สัจจะ ผมก็ได้แต่คิด แบบว่า ย้ำคิดย้ำทําจนทําให้จิตเห็นจริง ขันธ์ห้าไม่เที่ยงเป็นทุกข์ มีวันเสื่อมสลาย เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แล้วตายลงนที่สุด การต้องเกิด

    แต่พี่ครับ คือผมแบบว่า ผมก็เคยโดนอาการแบบนี้(ตัวปรามาส) ตอนที่จะปฎิบัติธรรม ตอนนั้น ศรัทธาพระพุทธเจ้ามาก (แต่ก็สงสัย แต่ก็วินิจฉัย พระพุทธเจ้ามาจากกษัตริย์ออกบวช บวชแล้วไม่สึก การบวชมีไรดีแน่ๆ) แล้วตอนนั้นตัวปรามาสมาครับ คิดจะทําร้ายพระพุทธรูป แล้วผมตอนนั้นนอนไม่ได้กินไม่ลม ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วตอนนั้นไปวัดขอขมา แล้ว ก็ภาวนาไป จิตสบายครับ ตอนนั้นอารมณ์ที่ขอขมา คือรู้สึกผิดจริง ไม่รู้คิดได้ไง ก็ขอวให้พระท่านยกโทษให้ แต่ตอนนี้บางครั้ง เหนื่อยรําคาญ ก็ขอขมาเพราะกลัวตกนรก กลัวอดมรรคผล
     
  2. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .........แล้วไอ้ความเครียดที่ทำให้ป่วยกาย นั้นแหละ อัตถกิลมถานุโยค(ประกอบการทรมาณตน)ลองพิจารณาดีดี...ทำตัวเองแท้แท้........เจ้าชายสิทธัทถะผ่านตรงนี้มาได้...และ เข้าสู่ มัชฌิมาปฎิปทา..........นั้นแหละทางสายกลาง อริยมรรคมีองค์แปดนั้น ภาวนา เพื่อ ปราโมทย์ ปิติ สุข ตั้งมั่นเห็นความเกิดดับของสภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดใน กาย เวทนา จิต ธรรม หรือ ในขันธิ์ ทั้งห้า อันไม่มีคำว่าเรา มีแต่ผู้รู้ผู้ดู มีสติสัมปชัญญะอยู่เท่านั้น (เหมือนเอามือ ไปจับไฟ มันร้อนมือใช่ใหม?)มันร้อนจริง แต่สติที่รู้สภาพธรรมนั้นอยู่ไม่ว่าสภาพธรรมใดเกิด ก็รู้ เวทนากาย(ร้อนมือ)ก็รู้.....จิตหดหู่เพราะความร้อนมือนั้นก้รู้....ถ้าจิตตั้งมั่นจริง จะเห็นว่ามันเป็นแค่สภาพธรรมที่เปลี่ยนจากสภาพธรรมหนึ่งสู่สภาพธรรมหนึ่ง เห็นเปลี่ยนแปลง เกิดดับ...ด้วยจิตตั้งมั่นนั้น...มันจะแยก ขันธิ์หรือสภาพธรรมให้เห็นว่าไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา...แต่ถามว่า จะต้อง เจริญภาวนาไปถึงเมื่อใหร่....ก็ ดูที่ลมหายใจนั้นแหละ...:cool:
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .....................มันไม่ทันความคิด(คือไม่รู้ว่ากำลังคิดอยู่)...ให้ลองรู้ทันความคิด...ให้รู้ทันจิตในจิต...ลองดู ตอนที่คิดว่าทำร้ายพระพุทธรูป นี่คือความคิดเป็นสภาพธรรมอันหนึ่ง-----นอนไม่ได้กินไม่ได้ นี่สภาพธรรมอีกอันหนึ่ง-----ไปวัดขอขมาแล้วสบายใจ นี่สภาพธรรมอีกอันหนึ่ง---เหนื่อยรำคาญ นี่ สภาพธรรมอีกอันหนึ่ง................ดูให้เห็นอย่างนี่ แล้วจะรู้ว่า สภาพธรรม เกิดดับ ไม่ใช่เรา มันไม่ใช่คงทนถาวร มันเกิดดับเปลี่ยนแปลงมันเป็นอย่างไร หวังว่า คงจะเข้าใจ หาคำว่า สติสัมปชัญญะให้เจอ:cool:
     
  4. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...............นั้นแหละ ของดี มาให้เห็นแล้ว....ที่ว่าสวดมนตร์ไป แล้วใจไปคิดเรื่องเก่าเก่า นั้นแหละ ถ้าเห็นได้(จิตผู้รู้ผู้ดูด้วยสติ)จะเห็นการเกิดการดับของการ เข้าไปรู้ของจิต...ให้ รู้ รู้ จิตมันจะรู้วนเวียนไปในขันธิ์ทั้งสี่เท่านั้น ที่เรียกว่า วิญญานฐิติ คือ รูป(กาย) เวทนา สัญญา สังขาร....ทีนี้ขั้นแรกอาจจะรู้ไปอย่างนี้ก่อน ต่อไป เมื่อเข้าใจมากขึ้นอาจจะมีธรรมวิจัยด้วยตนเอง อาจจะบริหารการภาวนาได้มากขึ้น....คือเข้าใจคำว่าจิตผูกติดกับอารมณ์ มีสัญโญชน์ความพอใจในอารมณ์เกิดขึ้น...ก็ จะมีวิถี การภาวนาของตัวเอง...เช่นกลับมาอยู่กับอานาปานสติ(กาย)ถ้าเห็นว่า การที่จิตหลงไปรู้อารมณ์นั้นไม่มีประโยชน์อะไรแต่กับเกิดนันทิราคะขึ้นมา...ก็ จะเข้าใจมากขึ้นเป้นลำดับลำดับไป...ตามแต่ ตัวผู้ภาวนาเอง(ที่ผมบอกมา ไม่ใช่ให้ทำตาม แค่ เล่าเฉยเฉย):cool: อาจจะเห็นความไม่ใช่ตัวตน ความไม่เที่ยง เพื่อ วิราคะ และ เพื่อ...
     
  5. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบคุณครับ
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นานๆจะเห็นพี่ทริกหายใจยาว
     
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....เขาว่า ขี้เป็นเลือดแล้ว..พี่พี่ข้างบนมาก่อน ผม เลย ตาม..:cool:
     
  8. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ฟังตามพี่ทริกแล้วนึกบทคุณของสติน่ะครับ ที่เห็นความเพลินในข้างยินดียินร้ายเฉยปรากฏ
    ทีนี้พาเข้าไปวิจัยต่อในสมาธิ รวมลงตรงนี้ก่อนจะเข้าสู่ความรู้เห็นตามเป็นจริง มีพระวัจนะไหมครับ
     
  9. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....พระสูตรมีมากมายนะครับในส่วนที่กล่าวถึง จากอานาปานสติ สู่ วิมุติ---พระวจนะ"ภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันเอกนั้นมีอยู่ ซึ่งเมื่อบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำธรรมั้งสี่ให้บริบูรณ์ ครั้นธรรมทั้งสี่นั้น อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำธรรมทั้ง7ให้บริบูรณ์ ครั้นธรรมทั้ง7นั้นอันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำธรรมทั้งสองให้บริบูรณ์ได้..........ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติสมาธินี้แล เป็นธรรมอันเอกซึ่งเมื่อบุคคล เจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำสติปัฎฐานทั้งสี่ให้บริบูรณ์ สติปัฎฐานทั้งสี่อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ทั้ง7ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ทั้ง7อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำ วิชชาและวิมุติให้บริบูรณ์ได้-----(อริยสัจจากพระโอษฐ์ท่านพุทธทาสหน้าที่1249):cool:
     
  10. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ยังมีบทอื่นที่ขึ้นต้นต่างจากทางนี้ไหมครับเพื่อเข้าสู่วิชชาและวิมุติบริบูรณ์
     
  11. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็มีพูดถึง สัมมาสมาธิ ค่อยๆ ดับวิตก วิจารณ์ ปิติ ...
    มีสติชัด แล้วแลอยู่...

    ภิกษุทั้งหลาย ! ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไร ?
    ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึง ฌานที่หนึ่ง อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่ เพราะวิตกวิจารรำางับลง,เธอเข้าถึงฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่ เพราะปีติจางหายไป, เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุขด้วยนามกาย ย่อมเข้าถึงฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า “เป็นผู้เฉยอยู่ได้มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม” แล้วแลอยู่ เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน เธอย่อมเข้าถึงฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาแล้วแลอยู่, นี้เราเรียกว่าสัมมาสมาธิ.
    ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.

    ส่วนที่พูดถึงเวทนาจากธรรมมารมณ์(ที่ปรุงแต่ง)
    ไม่ยินดียินร้ายตาม.. เวทนาใดๆที่เกิด...
    ก็ไม่เพลิดเพลิน ไม่ยินดียินร้าย.. (ดับนันทิ)
    อุปาทานก็ดับไป ...ต่อไป ..จนดับสุดสาย
    (หาเอาจากกระทู้แถวนี้..ขอบคุณผู้โพสต์)


    ภิกษุนั้น รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว
    ย่อมไม่กำหนัดยินดี ในธรรมารมณ์ อันมีลักษณะเป็นที่ตั้งแห่งความรัก
    ย่อมไม่ขัดเคือง ในธรรมมารมณ์ อันมีลักษณะเป็นที่ตั้งแห่งความเกลียดชัง
    เป็นผู้อยู่ด้วยสติเป็นไปในกายอันตนเข้าไปตั้งไว้แล้ว
    มีจิตหาประมาณมิได้ด้วย
    ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
    อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลายด้วย

    ภิกษุนั้น เป็นผู้ละเสียได้แล้ว ซึ่งความยินดี และความยินร้ายอย่างนี้แล้ว
    เสวยเวทนาใด ๆ อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตาม
    ย่อมไม่เพลิดเพลิน
    ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ในเวทนานั้น ๆ
    เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ ในเวทนานั้น ๆ
    นันทิ (ความเพลิน) ในเวทนาทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมดับไป
    เพราะความดับแห่งนันทิของภิกษุนั้น จึงมีความดับแห่งอุปาทาน
    เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ
    เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะฯ จึงดับสิ้น
    ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.

    http://palungjit.org/threads/เมื่อมีสติ-ความเพลินย่อมดับ.388572/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  12. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ทั้ง7 อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้วอย่างไรเล่า จึงจะทำวิชชาและวิมุติให้บริบูรณ์?....ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเจริญ สติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ..........ย่อมเจริญธัมวิจัยสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.......ย่อมเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ...........ย่อมเจริญ ปิติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ.................ย่อมเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ................ย่อมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อ โวสสัคคะ...........ย่อมเจริญ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อันอาศัยนิโรธ อันน้อมไปเพื่อโวสสัคคะ..........ภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ทั้ง7 อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว อย่างนี้แล ย่อมทำวิชชาและ วิมุติให้บริบูรร์ได้ ดังนี้----------อุปริ.ม.14/201/291....:cool:
     
  13. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ูู^ในบทนี้กล่าวถึงการเข้าสมาธิในส่วนของสมาธิสัมโพชฌงค์ จะหมายว่าในการเจริญกองกรรมฐานแต่ละกองสามารถเป็นทางเริ่มได้เช่นกันหรือเปล่าครับ
     
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คิดว่า มันไม่ได้ แยกกันได้ แต่น่าจะเป็นสิ่งเดียวกัน...ในสัมโพชฌงค์7นั้น มี รายละเอียด มากมายจนสามารถรวมเอาการภาวนา เกือบทั้งหมดลงได้:cool:
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สู้ๆ แพ้ทริก อย่าให้ จิตตีนนท์ มานชวนให้ เลิกกล่าวด้วย พุทธวัจนะ ทีเดียวเชียว


    มี เกลือ ก็ให้เทินเอาไว้ให้ดี

    ส่วน พวก"ลา dongy" มาหลอกถาม เพื่อให้เราเลิกขนเกลือ อย่าเผลอวาง
    ลงหละ เดี๋ยวเขาเอาไปขนเอง โอยยยยยยย...........

    จิตติ-กร พรหมพักดู มันยิ้มเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ในส่วนของพระสูตรนี้ ขอย่อความนิดนึงครับ เริ่มจากอานาปานสติ ทำให้สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์จนเป็นสติสัมโพชฌงค์ ทำการเลือกเฟ้น ธรรมด้วยปัญญาเกิดธัมวิจัยสัมโพชฌงค์ เมื่อมีความเพียรไม่ย่อหย่อนในการวิจัยธรรม สมัยนั้นวิริยะสัมโพชฌงค์ ต่อมาเกิดปิติจากความเพียรนั้น เกิดปิติสัมโพชฌงค์ สมัยต่อมาเกิดปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เมื่อเต็มรอบแห่งการเจริญสมัยต่อมาเกิด สมาธิสัมโพชฌงค์ สมัยต่อมาเกิดอุเบกขาสัมโพชฌงค์:cool:(ก็พระสูตรเดิมที่เคยยกมา เดี๋ยวว่างว่างจะยกมา ให้บริบูรร์อีกทีครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  17. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ก็ไม่ค่อยเห็นพี่ทริกคุยได้ยาว เลยทักกันสักนิดน่ะครับ ตั้งแต่เห็นพี่ทริกคุยกะป๋าเทพออกรส เลยเพลินตาม
     
  18. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    555 ว่าแต่พี่ขว้างมีดบินเร็วตลอด แว๊บหน่อยไม่ได้เชียว
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .........คิดว่า คงไม่เลิกเทินครับ..ลาก็ทำหน้าที่ของลาไป..เพื่อ ระวังเกลือ..แต่บางที ลา มันก็ไม่เก่งกาจ(ลืมบ้าง) อะไร..ก็ค่อย ค่อยไป :cool:
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    มะฉ่าย มะฉ่าย

    ท่านอย่าได้ดูเบาในฝีมือในการ ยอยกสัทธรรมของท่านเอง ท่านหาสมควรกับ ลา ไม่

    ลา นั้น เป็นของพวกที่ไม่รู้จักสัทธรรม ไปกราบไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์อื่น ต่างหาก

    ********

    ลา กับ เกลือ เป็น ภาษิตฝาหรั่ง หรือ ไทย ไม่แน่ชัด แต่ทว่า ลา กับ เกลือนั้น
    เขาหมายถึง มันขนไม่ได้ พอถึงที่หมาย เหลือแต่ ถุงกระสอบ ทั้งนี้เพราะลา
    เวลามันข้ามแม่น้ำ มันจะเอ้อระเหยกับ การบริกรรมคาถา ไสยหัวอยู่ในน้ำ ไม่
    พ้นจากห้วงหนองคลองบึงโดยพลันได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...