ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466

    ขออนุญาตเป็นฝ่ายสนับสนุนคุณดอกไม้เมืองบน ด้วยเคยชอบในเนื้อหาของบทเพลงนี้เช่นกันครับ ขอถือโอกาสฝากข้อความท่อนนี้ถึงเหล่านักรบพระองค์ดำทุกๆท่านด้วยครับ

    เป็นเชื้อชาตินักรบ..กลั่นกล้า
    เหตุไฉนย่อท้อรอรา
    หรือจะกล้าแต่เพียงวาที...
     
  2. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    สวัสดี พี่ๆ น้องๆทุกท่าน เจริญ จิต เจริญ ธรรม กันถ้วนหน้านะคะ อนุโมทนา ค่ะ
     
  3. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    กินใจเหลือเกินค่ะ พี่ดอกไม้เมืองบน
     
  4. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หลายวันก่อนได้มีโอกาสเจอและพูดคุยกับน้องทางสายธาตุและคุณรุ้ง....
    ก่อนที่จะไปเจอะกับน้องโมเยอาทิตย์ถัดมา

    (อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นการทึกทักไปไหม...ถ้าจะนับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่
    วีรกษัตริย์มหาราชชาตินักรบของพวกเรา..ทรงกำหนดบทบาทให้กับ
    พวกเราทุกคนที่เข้ามาพบปะกันในบล็อกของคุณจงรักภักดีนี้หรือเปล่า

    หลังจากประเดิมด้วยการพูดคุยผ่านจอ ซึ่งต่างจากบล็อกอื่น ๆ ที่ก็มี
    การพูดคุยกัน..จนเหมือนเพื่อนคุ้นเคยแต่ก็แค่นั้นไม่มีการก้าวผ่านจอออกมา
    เจอตัวเป็น ๆ กันข้างนอก

    แล้วก็รอคอยบทบาทต่อ ๆ ไปว่าจะทรงขีดเส้นไว้เช่นไร ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ ที่ต่างคนก็ต่างไม่รู้ว่า คืออะไร เพียงแต่รู้ว่า มีภารกิจในพระองค์รออยู่)


    ที่ว่ามาเป็นแค่เกริ่นว่า ในการพบครั้งนั้น ได้คุยกันถึง สิ่งแปลก ๆ หลายด้าน
    ที่เหลือเชื่อ และความเกี่ยวพันที่ทำให้พวกเราต้องมาอยู่ในบล็อกนี้ ตอนหนึ่ง
    เลยเล่าให้ ทางสายธาตุและคุณรุ้งฟังเกี่ยวกับพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ท่าน กับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง... จนกลายมาเป็น มูลนิธินักรบไทย ไทรทองเทพนิมิตร

    เรื่องที่ว่านั้นอ่านพบจากหนังสือ“บอกกล่าวเล่าถึงภูมิหลัง” ของสุภาพสตรีท่านนั้น คือ คุณกุลิสรา บุญทับ (หาซื้อได้ที่มูลนิธินักรบไทย สถานเทวาลัยไทรทองเทพนิมิต)

    ทางสายธาตุ บอกน่าจะนำมาเล่าผ่านบล็อกนี้เผื่อพวกเราที่อาจยังไม่เคยทราบ และไปเยือนสถานที่นั้น ๆ

    ยอมรับค่ะว่า ไม่แน่ใจว่าเคยนำมาเล่าที่นี่หรือยัง จำได้แต่ว่า คุณจงรักภักดีได้เดินทางไปเยือนมาหลังจากเล่าไป เอาเป็นว่า
    ขอสรุปย่อๆเป็นการปูทางให้พี่ๆน้องๆร่วมชมรมได้ไปกราบพระบาทท่านที่
    เทวสถานแห่งนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    ****************************************

    อนุญาตให้โมเย นำไปร้องได้นะจ้ะ ..ว่าง ๆ หลังไมค์(์หน้าโทรศัพท)์
    ถึงปี้โตยเนาะ

    อ้อ CD ที่น้องฝากไปให้เจ้ายอดศึก ยังไม่ถึงมือเจ้า

    พี่กำลังรอจะส่งไปพร้อมของอื่น ๆ เป็นขวัญ

    วันชาติไต 7 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ แต่จะโทรไปเรียนเจ้าด้วยตนเองอีกครั้ง
    เจ้ายอด..ว่ายังงัย จะนำมาบอกจ้ะ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  6. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    คุณกุลิสรา บุญทับ เธอเล่าว่า หลายปีก่อนสร้างมูลนิธิ เธอได้ฝันไป ว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า
    เสด็จมาพบ และตรัสขอให้เธอช่วยก่อตั้งสถานที่แห่งนี้ พร้อมกรอบเงื่อนไขมากมาย เช่น
    ทรงกำหนดสถานที่ก่อตั้งเอง ที่ถนนปักธงชัย ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
    และในสถานที่นั้นต้องมีพระบรมรูป 3 พระองค์พี่น้อง ขนาดเท่าคนจริงอยู่ด้วยกัน
    เป็นต้น

    เหตุผลที่ทรงมาขอให้ดำเนินการทรงตรัสว่า บ้านเมือง ดวงเมือง กำลังไม่ดี จักมีเหตุมากมาย
    และพระองค์ต้องทรงช่วย ส่วนสถานที่บริเวณนั้น ๆ ครั้งหนึ่งทรงเคยนำทัพติดตามพระยาละแวกมาถึงที่นี้
    ก่อนทรงกระทำพิธีปฐมกรรม

    (พูดถึงพิธีนี้ ขอออกนอกเรื่องไปนิด ว่า ยังมีการโต้แย้งกันอยู่หลายที่ว่า
    เป็นพิธีตัดหัวเอาเลือดล้างเท้าแน่หรือ บางคนยังแย้งว่า ดูจากภาพต่าง ๆ
    เกี่ยวกับพระองค์ท่านตอนตามจับพระยาละแวกได้ จะเห็นได้ว่าเป็นภาพวาด
    พิธีที่สมเด็จพระนเรศวรประทับนั่งบนยกพื้นโปร่งๆ แล้วให้คนเทน้ำล้างพระบาทผ่านลงไปรดศีรษะ
    พระยาละแวกที่นั่งอยู่ข้างล่าง

    แต่จริง ๆ ใครถูกใครผิด ยังหาข้อสรุปไม่ได้ชัด ก็ลองคิดกันเองแล้วกันค่ะ
    เพราะ ตัวเองก็ ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน

    ถ้านำจากความคิดส่วนตัวแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะใช้เลือดโดยเฉพาะศัตรู
    มาต้องพระบาท แต่ถ้านำน้ำมาราดล้างพระบาทรดหัวศัตรู แค่นี้คนถูกน้ำ
    ล้างพระบาทราดรดหัว ก็น่าจะสุดแสบ สุดแค้น ตายแล้ว
    แย่อยู่แล้ว)


    ในตอนแรก ๆ เธอไม่ให้ความสำคัญ นอกจากเป็นการฝันไป แต่เธอก็ยังได้เฝ้า
    พระองค์ท่านในฝันอีกหลาย ๆ ครั้งติดต่อกัน จนเธอเริ่มยอมรับว่าไม่ได้คิดฝันไปเอง

    แต่ด้วยเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินสติปัญญา และกำลัง ตลอดจนทุนทรัพย์ที่จะ
    ทำสนองได้ เธอเล่าว่า ได้กราบบังคมทูลถึงเรื่องหนักใจที่เป็นอุปสรรค
    ในการทำ คือ กำลังทรัพย์ กำลังคน บารมีที่จะทำหรือให้คนมาร่วมทำ อีกอย่างสถานที่
    ที่ทรงประสงค์ก็ไม่ใช่จะไปเอามาได้ง่าย ๆ ที่ดินติดถนนค่อนข้างเจริญต้องใช้เงินมากมายในการซื้อ
    และเจ้าของจะขายหรือไม่ก็ไม่ทราบ และแย้งไปว่า ที่รับสั่งว่าง่ายนั้น ไม่ใช่ เพราะโลกยุคปัจจุบัน
    ไม่เหมือนสมัยที่ทรงพระชนม์ชีพอยู่ การทำอะไรต้องใช้เงินมากมาย จึงทูลปฏิเสธไปว่าทำไม่ได้


    ทรงตรัสว่า เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ จะไปช่วยบ้านเมืองได้อย่างไร ขนาดพระองค์ท่านเองเหนื่อยยาก
    ลำบากแสนสาหัสในการกอบกู้แผ่นดินยังทรงยอมทำ เธอเป็นลูกท่านช่วยแค่นี้ไม่ได้...เพียงขอให้
    รับปากเท่านั้น ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ จะทรงจัดการเอง

    ในที่สุดเธอก็ยอมจำนนโดยมีข้อแม้ ว่า พระองค์ต้องหาคนมาช่วย ขอให้ทรงเรียก
    ข้าทหารเก่า หรือเชื้อสายลูกหลานพวกเขา หรือลูกหลานในพระองค์ ใคร ๆ
    ที่เกี่ยวข้องในสมัยโน้น ไม่ว่าอยู่ที่ใดใด มาให้หมด
    ทรงรับปาก

    เธอจึงนำเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้สามีพลเอกณพล บุญทับ สมุหองครักษ์
    สมเด็จราชินีฟัง ได้รับการท้วงติงว่าเป็นเรื่องใหญ่เหลือเกิน ไม่มีปัญญาทำแน่ แค่เรื่องที่ก็แย่แล้ว
    เพราะพื้นที่ว่างเปล่าที่ทรงเจาะจงเป็นของผู้มีอันจะกิน สืบไปมาจึงรู้ว่าเป็นของท่านผู้หญิง(จำไม่ได้)
    เคยรับใช้ใกล้ชิดพระนางเจ้ามาแต่เสียชีวิตแล้ว มรดกเป็นของทายาท

    (สิ่งอัศจรรย์ คือ ท่านผู้หญิงเจ้าของที่แปลงใหญ่นั้น มาเข้าฝันเธอ
    บอกยกที่ดินให้ ส่วนปัญหาทายาท ท่านจะไปบอกทายาทเอง
    มีข้อแม้ว่า ที่ดินผืนนี้ต้องใช้เพื่อโครงการที่เกี่ยวในสมเด็จพระนางเจ้าเท่านั้น
    และเธอก็ได้รับการติดต่อจากทายาทท่านผู้หญิงว่า แม่มาบอกยกที่ให้ทำประโยชน์
    ตามที่เข้าฝัน เธอก็ได้ที่มา)

    สำหรับเรื่องพระบรมรูปทั้ง 3 พระองค์เธอจนปัญญาที่จะไปหามา หรือจัดสร้างเพราะการสร้าง
    พระบรมรูปพระมหากษัตริย์ มีข้อบังคับ กฎระเบียบมากมาย ไม่ใช่เรื่องง่าย

    เรื่องนี้ พระองค์ท่านก็ทรงมาพบในนิมิตอีก ว่า มีอยู่แล้วทั้ง 3 พระองค์
    แล้วจะรู้เอง

    ด้วยเดชะพระบารมี(คิดเอง) วันหนึ่งเพื่อนนายทหารของสามีได้มาที่บ้าน หลังพูดคุยกันไปแล้ว
    เกิดมีการเล่าเรื่องความฝันให้ฟัง เพื่อนสามีบอกเรื่องพระบรมรูปให้ลองไปกราบนมัสการพระอาจารย์

    (ขอโทษ ที่จำรายละเอียดบุคคลไม่ได้ เพราะจำมาเล่าจากความทรงจำที่เคยอ่านเจอในหนังสือ
    นานพอดู และตอนนี้ มีการย้ายบ้าน เลยยังหาหนังสือที่เธอเขียนไม่เจอ จึงไม่แน่ใจ ชื่อพระท่านและวัด เข้าใจว่าอยู่อยุธยาและขออภัย..คุณกุลิสรา..มา..ณ..ที่นี้ด้วยถ้าจำเรื่องราว
    บางช่วงสับสนในรายละเอียดบุคคลไปบ้าง ค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  7. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    จึงได้มีการช่วยประสานนัดให้ไปกราบ พอวันนัดพระอาจารย์กลับไม่อยู่
    โทรไปท่านให้ตามไปหาที่พิพิธภัณฑ์วังจันทรเกษม
    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงพากันตามไป

    (ต่อไปนี้เป็นบทคัดจากหนังสือ“บอกกล่าวเล่าถึงภูมิหลัง”
    โดย คุณกุลิสรา บุญทับ แต่ไม่ได้คัดเอง เพราะหาหนังสือไม่เจอ
    จึงขอยกบทความจากเว็ปไซ๊ด์มูลนิธิมาโพสให้อ่านกันต่อค่ะ)

    ย้อนไปถึงตอนที่คุณกุลิสราฯ เล่านิมิตให้สามีฟัง..........

    ด้วยเหตุนี้คุณกุลิสราฯ จึงได้นำเรื่องดังกล่าวบอกเล่า
    ให้พลเอกณพลฯ สมุหองครักษ์ สมเด็จราชินี ฟัง และพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะสนอง
    รับสั่งที่มีในนิมิต และด้วยพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ท่านก็ปรากฎให้เห็น
    ในความเป็นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ นั่นคือ พระบรมรูปสามพระองค์พี่น้อง
    ตามที่บอกในนิมิตมีอยู่จริงที่พิพิธภัณฑ์วังจันทรเกษม
    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา....

    แต่ไม่ได้รับการถวายพระเกียรติเท่าที่ควรจะเป็นทั้ง ๆ ที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์
    ที่ทรงมีพระคุณอย่างใหญ่หลวงต่อแผ่นดินไทย

    และสถานที่แห่งนี้ในประวัติศาสตร์ก็คือวังหน้าที่ประทับของพระองค์
    ในขณะดำรงพระยศเป็นพระอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา

    จากการที่ไปพบก็ทำให้ทราบปัญหาว่าด้วยระเบียบข้อกฎหมายหรือ
    การประสานงานภายในของกรมศิลปากรซึ่งมีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้โดยตรง
    ได้มีหนังสือสั่งการ ให้นำพระบรมรูปสามพระองค์ไปเก็บไว้ในคลังพัสดุ
    จนทำให้เกิดอาเพสต่าง ๆ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของพิพิธภัณฑ์ จนต้องไปบวงสรวง
    และเชิญพระองค์ท่านมาประดิษฐานที่ชายคาด้านนอกซึ่งไม่สง่างาม สมพระเกียรติ

    และทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้มีหนังสือแจ้งให้พระเทพภาวนาวิกรม ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มจัดสร้าง
    พระบรมรูป ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์ที่มีความจงรักภักดี ว่าให้นำพระบรมรูปกลับไป

    ซึ่งน่าแปลกว่าห้วงเวลาที่เกิดนิมิตนั้นภายหลังจากวันที่ที่กรมศิลปากร ได้ออกหนังสือแจ้ง
    ให้นำพระบรมรูปไปเก็บในคลังพัสดุเพียงหนึ่งเดือน เสมือนหนึ่งพระองค์ท่านทรงทราบว่า
    สถานที่แห่งนี้ไม่ต้องการท่านและไม่มีการถวายพระเกียรติท่าน ท่านจึงมานิมิตให้คุณกุลิสราฯ
    เห็นและดลบันดาลจนได้ไปพบเจอ และบอกเล่าให้พลเอกณพลฯ ได้รับทราบและเห็นว่า
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นถึงพระมหากษัตริย์ที่มีพระคุณอย่างใหญ่หลวง
    ในการกู้ชาติกู้แผ่นดินให้พวกเราได้มีที่อยู่อาศัยอย่างอิสระ
    อย่างเป็นสุขมาตราบเท่าทุกวันนี้ พระองค์ท่านต้องทรงเสียสละ
    อย่างมากมาย...แล้วทำไมคนไทยเยาวชนลูกหลานไทยไม่ร่วมกัน
    ถวายพระเกียรติยกย่องเชิดชูพระมหาวีรกรรมของท่าน

    และการจัดสร้างสถานที่เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปให้อยู่ใน
    ที่อันควรจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง

    พลเอกณพล..บุญทับ...จึงได้จัดหาทุนทรัพย์มาก่อสร้างอนุสรณ์
    สถานเทวาลัยไทรทองเทพนิมิตโดยใช้เวลาเพียงประมาณ ๑๒๐ วัน และ
    ได้จัดทำพิธีอัญเชิญพระบรมรูปจากพิพิธภัณฑ์วังจันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    มาประดิษฐานไว้ที่อนุสรณ์สถานฯเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๗

    ต่อมาเมื่อความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    พระองค์ได้ทรงมีรับสั่งว่า..สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็น
    พระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระคุณต่อแผ่นดินไทยอย่างใหญ่หลวง และ
    ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก พระองค์ท่านยังทรง
    ปกป้องคุ้มครองประเทศไทยอยู่ สมควรที่คนไทยทุกคนจะได้มากราบไหว้ถวายสักการะ
    เพื่อสำนึกในพระมหาวีรกรรมและพระมหากรุณาธิคุณที่ยิ่งใหญ่ และร่วมกันบวงสรวง
    ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่าน เพื่อให้แผ่พระบารมีเพื่อปกป้องคุ้มครองประเทศไทยตราบนานเท่านาน

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  8. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงได้เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีบวงสรวง
    ดวงพระวิญญาณวีรกษัตริย์สามพระองค์ อย่างเป็นทางการ
    เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๗ และทรงมีพระเมตตาพระราชทาน
    พระนามาภิไธย่อ สก. และตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา มาประดิษฐานไว้เหนือ
    ช่อดอกบัวบนยอดเทวาลัย


    (ตรงตามที่วิญญาณท่านผู้หญิงต้องการ)(ดอกไม้เมืองบน)

    เนื่องในวโรกาสอันเป็นปีมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบและรัฐบาล
    ได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี ๒๕๔๗

    และในห้วงเวลาที่เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นเดือนมหามงคล
    เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวา มหาราช

    คุณกุลิสราฯ จึงได้จัดการแสดงแสง สี เสียง เรื่อง
    “ยุทธหัตถีวีรกรรม วีรกษัตริย์ไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา” ถวายทอดพระเนตร ซึ่งทรงมีรับสั่งว่า

    “เป็นการแสดงที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด และนับเป็นของขวัญวันเกิดที่วิเศษที่สุด”

    นอกจากนั้นยังทรงรับสั่งกับแขกผู้มีเกียรติและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่
    ไปร่วมงานว่า

    การแสดงเช่นนี้น่าที่จะนำไปแสดงหรืออวดให้แขกบ้านแขกเมืองหรือ
    ชาวต่างชาติได้เห็น และจะช่วยปลุกจิตสำนึกในความรักชาติ รักแผ่นดินถิ่นเกิดให้แก่คนไทย
    หรือเยาวชนคนไทยทุกคนได้รับทราบ………..


    ตอนที่ ตัวเองเดินทางไปสถานเทวาลัยไทรทองเทพนิมิตนั้น
    ยังก่อสร้างไม่เรียบร้อย มีแค่สถานเทวาลัยประดิษฐานพระบรมรูป กับสำนักงานที่จำหน่าย
    สินค้าเท่านั้นโดยทั่วไปยังมีกองดิน และการก่อสร้างอยู่ ระยะหลังทราบจากเจ้าหน้าที่ที่นั่นว่า
    เรียบร้อยสมบูรณ์งดงามมาก

    สถานเทวาลัยไทรทองเทพนิมิต....เป็นสถานที่รวบรวมประวัตินักรบ
    ของไทยที่สำคัญๆ เช่น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ
    พระพี่นาง สุพรรณกัลยา สมเด็จพระเจ้าตากสิน รัชกาลที่ 5 และท้าวสุรนารี
    บุคคลสำคัญของเมืองโคราช

    ..................................................
    เกี่ยวกับของถวายที่ทรงโปรด คุณกุลิสราพ์ เล่าว่า มี ไก่ ช้าง ม้า ดาบ
    แล้วแต่ประเภทการถวายกับสิ่งที่ทูลขอจากพระองค์ท่าน ลองดูตามคลิปนี้นะคะ

    ( แต่ถ้าผิดพลาดดูไม่ได้ กระบี่มือ 1 ดอกไม้เมืองบน
    ขอส่งต่อกระบี่มือ 2 หนูทางสายธาตุ ช่วยลงมือต่อไปได้เลย

    .. เออ ใครมือ 1 มือ 2ไม่รู้แฮะ 555 555 )

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  9. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    โมเยจ้ะ..

    ตอนนี้ทั้งพี่และโมเย ก็มีของขวัญให้เจ้ายอดศึก
    และพี่น้องเราบนดอยไตแลงในโอกาสวันชาติ รัฐฉาน ด้วยกันแล้วนะ

    โมเยร้องเพลง โดยเฉพาะเจ้าคงชอบมาก เพลงพระนเรศวร
    ส่วนของขวัญชิ้นหนึ่ง(ใน 2ชิ้น)ที่พี่จะมอบให้ คนไตยทุกคน
    ในวันชาติของเขา..ซึ่งกำลังจัดทำอยู่ คือ...กลอนประกอบภาพใส่กรอบ
    เช่นเดียวกับทุก ๆปี


    " 64 ปี วันเจื้อเคอจึ้งไต"

    จาก..ปางโหลง..ถึง ไตแลง..แหล่งสุดท้าย
    กี่ชีวิตที่ปลิดไปได้แลเห็น
    ต้องถอยร่นสุดแผ่นดิน..ด้วยจำเป็น
    แต่ใช่เร้น..หลีกหนี..อย่างขี้แพ้

    จาก..หยดน้ำ หนึ่งหยด..รินรดเริ่ม
    จาก ผาสูง ไหลประเดิมเป็นกระแส
    ยังกลายเป็น..สะละวิน..ใหญ่เกินแล
    กระโจนผ่าน.แก่งหิน.แง่ พังทลาย

    จาก..คนไต.หนึ่งคน ดิ้นรนเริ่ม
    จากปางโหลง ม่าน..เหิมเกริม..ฉาน...สลาย
    ถ้ารวม..ไต ในแผ่นดินได้มากมาย
    ผนึกรวมไหลแรง..คล้าย สาละวิน

    อันเกาะแก่ง ดุจ .พม่า...ฤากล้าแกร่ง
    คลื่นคนแรง..กว่าสายน้ำ.... คำตัดสิน
    ขอเพียง ไต ร่วมกับ ไต..ทุกแผ่นดิน
    คงยื้อถิ่น แผ่นดินฉาน...นั้นคืนครอง


    แต่ยามใด คนไต ดังสายน้ำ
    ไหลแยกสาม สี่ ห้า สาย .เป็นห้วยหนอง
    อย่าหมายเป็น สาละวิน... แรง ลำพอง
    ยามหน้าแล้ง เหล่าห้วยหนอง ก็แห้งลง

    มาเถิดมา..พี่น้องไต ในแหล่งหล้า
    รวม กาย..ใจ..กันมา อย่าใหลหลง
    แผ่นดินฉาน บ้านเกิดไต ยังดำรง
    ชะเง้อ..คอย..ลูกหลาน..พะวง ให้กลับมา

    จากปางโหลง..ถึงไตแลง แหล่งสุดท้าย
    ไต..จะถอยไปที่ไหน.ได้ละหวา
    ไต รวมพลัง รัฐฉาน หรือ...จักไกลตา
    อย่าทิ้งเพียง.“ นักรบกล้า. ”.บนไตแลง


    มอบเป็นกำลังใจด้วยความปรารถนาดี
    แด่ พลโทเจ้ายอดศึก....
    ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน
    และขุนเศิกไตทุกผู้ และพี่น้องชาวไตทุกนาม

    จากลูกหลานผู้สืบทอดพระราชปณิธาน
    ........ขุนหอคำตองเจ.....

    โดย “หมอกเต่หว่า ”

    7 กุมภาพันธ์ 2011
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518

    *********เคยชอบในเนื้อหาของบทเพลง********
    แปลว่า ปัจจุบัน เลิกชอบแล้วหรือคะ

    พวกเราพี่น้องร่วมพ่อองค์เดียวกัน ไม่ว่าเมื่อ 400 กว่าปีที่ยาวนาน หรือ ปัจจุบัน
    ความรู้สึกนึกคิดจึงไม่ไกลกัน

    ได้รับการพิสูจน์ แล้วหลายๆกระทู้ จากหลาย ๆ คนในบล๊อกนี้
    พวกเราจึงจูนคลื่นและสื่อถึงกันได้โดยไม่ต้องใช้อะไรมากมายมาช่วย

    บัดนี้ กองทัพหนึ่งของพระองค์ดำ คือทุกคนที่มีปณิธานเดียวกัน ในฐานทัพที่ตั้งค่าย "จงรักภักดี"แห่งนี้

    และ......เรานี้หรือก็คือ คนหนึ่ง ในนักรบพระองค์ดำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  11. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210

    คำตอบ ใช่ค่ะคุณเจ๊จู
    อ่านทุกถ้อยคำที่คุณพี่ดอกไม้เมืองบน เล่าสู่กันฟัง
    ขออนุโมทนาสาธุ ทุกประการค่ะ

    พวกเราคือลูกหลาน ทหารกล้า ของพระองค์
    ทุกคนมีหน้าที่ มีงาน ตามที่พระองค์ ขีดกำหนดไว้
    หน้าที่คือเพื่อส่วนรวมคือ เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรย์

    จึงขอเล่าที่มาของ พระพุทธรูป ซึ่งมีพระนามว่า
    พระพุทธ พระทหัยนเรศ พระนามนี้ได้มาอย่างไร เชิญติดตามได้ค่ะ
    (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)


    ตอนทำพิธี ถวายพระแสงของ้าว ที่ กองพันพัฒนาที่ 3 แม่ริม
    ใจจิตของโมเย ได้ยินเสียงว่า พระหทัยนเรศวร พระหทัยนเรศวร
    ดังก้อง อยู่ระหว่างพิธี

    หลังจากเสร็จ พิธี หนึ่งสัปดาห์ ได้ยินเสียงนี้ตลอด
    ได้ยินแล้ว เข่า ทรุด น้ำตาร่วง (หูเรา แว่ว หรือเปล่า)

    พระ หทัยนเรศวร.....โมเยจะสร้างถวายพระองค์
    องค์ใหญ่ จะขออนุญาติประดิษฐาน ณ. วัดป่าดาราภิรมย์
    องค์เล็ก จะ นำไปประดิษฐาน ตามฐาน ทหาร ตชด นักรบผู้กล้า
    (สานต่อ พระอาจารย์)


    ผู้หญิง ตัวเล็กๆ อวบๆ คนเดียว จะสร้างได้หรือ ทรัพย์ หล่ะ แบบหล่ะ จะทำอย่างไร (ถามตัวเอง)

    ได้ยินเสียง ปางมารวิชัย ทรงเครื่อง ลักษณะ้ล้านนา

    จึงไ้ด้ปรึกษา ท่านพี่จงรักภักดี ว่า หนู ได้ยินเสียงเช่นนี้จริงๆ

    ต่อมาจึงได้ มารู้จักพี่คนหนึ่ง ขออนุญาติเอ่ยนาม ว่าท่านพี่ คือพี่กบ
    ท่านพี่ท่านนี้ใจดี มีศรัทํธาต่อสมเด็จท่าน

    มาร่วมบุญด้วยการ ออกแบบพระให้โดย ที่ไม่คิดมูลค่า ขอ อนุโมทนาสาธุ ค่ะ
    เครติด ท่านพี่คือ ฝ่ายศิลปกรรม ของภาพยนต์ เรื่อง พระนเรศวร
    (มหัศจรรย์ การจัดสรร)

    โมเย อธิฐาน ต่อ พระองค์ว่า ข้าพพุทธเจ้า เป็นผู้หญิง ตัวคนเล็กๆในภพนี้ จะทำงานใหญ่เยี่ยงนี้ได้อย่างไรพระพุทธเจ้าข้า

    ขอให้ได้พบเจอ ทหาร หาญ ญาติพี่นอง ผู้ที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่
    และจงรักภักดี ต่อพระองค์ท่านมาช่วยสานภาระกิจนี้ด้วยเทอญ

    ต่อมา ได้มาเจอคุณนาย ท่านหนึ่ง คือคุณนาย จันทร์
    ขอร่วมสร้างพระพุทธหทัยนเรศ องค์ใหญ่ 1 องค์
    เพื่อ อัญเชิญ มาประดิษฐาน ที่ อยุธยา

    ได้มารู้จัก นักเขียน ชื่อดัง คือ คุณพี่ ษา เสนา ณ.อรุโณทัย
    นักเขียนหนังสือเรื่อง มากกว่ารักที่ยะลา
    จักขอสานต่อ ภาระกิจ
    นำพระพุทธหทัยนเรศวร องค์เล็ก มาประดิษฐาน
    ในฐาน ตาม สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    แบบจะนี้ เรียกว่า อะไรดีคะ ปรากฏการณ์ บังเอิญ หรือจัดวาง

    ขอขอมาเ่ล่าตอนต่อไป คราวต่อไป ค่ะ

    ครั้งแรก ที่เห็นแบบพระที่พี่กบส่งมา น้ำตาร่วง หยด
    เพราะ งามจริงๆ พระพักตร์ เป็นศิลปะ แบบพม่า ค่ะ.

     
  12. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    โมเย แต่งกาย เสื้อลายพราง มีคน ถามว่า อยู่หน่วยไหนหรือ
    เลยบอกไปว่า ทหาร โบราณ เก่าแก่ หน่วยพระองค์ดำ

    ช่วงนี้ ขอเก็บตัว แต่งเพลง พระเอกาทศรส ค่ะ คงมาแบบ แว๊บๆ

    อนุโมทนา กับทุกท่าน ด้วยนะคะ

    พี่ดอกไม้เมืองบนคะ
    ของขวัญของพี่ที่จะมอบให้แก่เจ้ายอดศึกและชาวดอยไตแลง
    ล้ำค่าจากใจจริง จริง ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2011
  13. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    สักวันต้องไปที่เทวสถานที่มูลนิธินักรบไทยให้ได้ครับ
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    หลังจากหายหน้าไป 3-4 วัน นั่งอ่านจบทุกความเห็น อิ่มใจจริงจริ๊ง ใจนั้นเอ่ยแต่คำว่า สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนากับทุกคน อิ่มใจ

    คุณแม่ที่ป่วยอยู่ก็ดีขึ้นมาก พระบารมีของพระพุทธเจ้าที่ทางสายธาตุไปขอพึ่งวันที่ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุที่วัดสัมพันธวงศ์ ขออธิษฐานในใจว่าอันข้าพเจ้านี้ตั้งความปรารถนาจะร่วมกฐินสร้างพระมหาเจดีย์หลวงประดิษฐานพระจักษุธาตุ 1 กอง ทอดวันที่ 16 ตุลาคม 2554 กองละ 25000 บาท ตั้งไว้ในใจก่อนยังไม่ได้ลงชื่อจองกฐิน ถ้ามีบุญบารมีพอขอให้รวบรวมเงินได้ทันก่อน 16 ตุลาคม 2554 แล้วจะนำเงินปัจจัยไปถวายพระอาจารย์ประจักษ์ท่านเลย กำลังใช้สติปัญญาในการหาปัจจัย เป็นคนละงานกับงานบุญผ้าป่าวัดชุมพลฯนะคะ ผ้าป่าวัดชุมพลฯนั้นจะซ่อมโบสถ์ แต่กฐินสร้างพระมหาเจดีย์นี้สำหรับประดิษฐานพระจักษุธาตุ สำหรับกฐินสร้างพระมหาเจดีย์นั้น ทางสายธาตุมิได้บอกบุญนะคะ เพราะตั้งใจจะทำบุญใหญ่ครั้งนี้ด้วยตนเอง ส่วนท่านใดศรัทธาในพระจักษุธาตุอยากร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ จะตั้งอยู่ที่อุดรธานีนะคะ ท่านไปถวายปัจจัยสร้างได้ที่พระอาจารย์ประจักษ์ วัดสัมพันธวงศ์โดยตรงได้เลยเจ้าค่ะ มหากุศลครั้งใหญ่ของชีวิตสร้างมหาเจดีย์ถวายพระพุทธเจ้า
     
  15. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ได้ภาพมาแล้วเจ้าค่ะท่านพี่ หนูว่าพระมหาฯท่านเป็นศิลปินในสายเลือด พรสวรรค์ของท่าน ทั้งๆที่ไม่เคยเรียนทางช่างศิลป์มาก่อนเลย พระบรมรูปช่างงามบ่ล้ำบ่เหลือ (ไม่รู้ใครพูดคำนี้ให้ฟัง แต่ฟังแล้วเข้าใจว่า บ่ล้ำบ่เหลือ แปลว่างามไม่มีที่ติ ใครทราบภาษาอีสานหรือเป็นภาษาเหนือ ทางสายธาตุแปลถูกต้องหรือไม่คะ)

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พระสีวลี บารมี 3 พระองค์


    สาธุค่ะคุณ Florence

    ทางสายธาตุเคยฝึกกรรมฐานกับพระอาจารย์จิรยุทธ์ สมัยที่ท่านยังอยู่ที่วัดอัมพวันกับหลวงพ่อจรัญ ที่จำท่านได้เพราะพระท่านให้วิธีจัดแถวทหารมาใช้กับฆราวาสที่มาบวชเนกขัมมะ ทางสายธาตุขำในใจว่า จะสำเร็จหรือไม่หนอที่พระท่านจะจับปูใส่กระด้งแบบนี้ สุดท้ายก็เรียบร้อยดีค่ะ ท่านจัดแถวได้เรียบร้อยจึงจำท่านได้ค่ะ

    พระท่านมีความผูกพันกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นอย่างมากด้วยใช่ไหมคะคุณ Florence เล่าสู่กันฟังบ้างซิคะ
     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ตอบคุณพี่ดอกไม้ และคุณนายเจ๊โหน่ง เรื่องเหรียญฟ้าผ่า ว่าไม่บอกหลอกให้งง รอเก็บได้สัก 20 เหรียญก่อนแล้วจะโพสรูปค่ะ เก็บไว้ทำไมก็ไม่รู้ค่ะ แค่ว่าเหรียญนี้มีที่มาแปลกประหลาดหนักหนาขอเก็บไว้เป็นบุญตา พูดไปใครเขาจะเชื่อ ดังนั้นหาสอยเก็บตามหน้าอินเตอร์เนตต่อไปอย่างเงียบเชียบ กริ๊บ...เสียงเข็มตกบนพื้น เงียบขนาดนี้เลยแหละ อิอิ
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    สวัสดีคุณนารถฯ

    แล้วท่านๆเขาอยากเฝ้าแผ่นดินต่ออย่างนี้หรือคะ ทรมานดวงจิตของท่านๆมากนะคะ ถ้ามีโอกาศได้ไปที่ดีท่านๆน่าจะไปในที่ที่ดีกว่า ว่าไหมคะคุณนารถฯ เท่าที่เคยคุณกับพระมหาฤทธิชัย ท่านทำสม่ำเสมอเลยค่ะ ท่านไปปลดปล่อยวิญญานทหารฝ่ายพม่าที่พนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีหลายครั้งแล้ว พระมหาฯท่านยังให้หาหุ่นทหารสัก 1000 ตัวไปร่วมในการปลดปล่อยด้วยค่ะ ลืมเรื่องนี้ไปเลยเพราะพระท่านคุยไว้นานแล้ว ท่านให้หาคนที่สื่อกับพระเจ้าบุเรงนองได้ด้วยมาช่วยทรงรับรู้และทรงรับดวงวิญญานทหารเหล่านั้นกลับแผ่นดินบ้านเกิด น้องนารถฯพูดขึ้นมาทำให้เพิ่งจะจำเรื่องนี้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2011
  19. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466

    ได้เคยมีโอกาสไปกราบท่านครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานนี้เอง ท่านได้มีเมตตาอธิบายให้ข้อคิดในเหตุที่ท่านได้สร้างพระบรมรูปของทั้ง 3 พระองค์คือ สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ไว้ที่กลางวัดเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา (เหตุที่เขียนว่ากลางวัดก็เพราะวัดนี้มีถนนตัดผ่านกลางวัด) เจตนาที่สำคัญที่สุดของท่านเจ้าอาวาสต้องการจะชูประเด็นในเรื่องของความรักสามัคคีและความเสียสละของทั้งสามพระองค์

    ความรักสามัคคีของทั้งสามพระองค์เป็นอย่างไรหลายๆท่านคงอธิบายได้ ผมเพียงแต่จะหยิบยกในบางเรื่องมากล่าวซ้ำหรือกล่าวเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย กรณี
    ของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยากับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หากเรายังจำกันได้ถึงการขอแลกเปลี่ยนองค์กันของทั้งสองพระองค์เพื่อให้สมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จกลับ
    กรุงศรีอยุธยาจนสามารถกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ เราต้องยอมรับในความรักสามัคคี
    ของทั้งสองพระองค์ จะเห็นว่าพระพี่นางสุพรรณกัลยาทรงมีความรักต่อองค์อนุชาด้วยการยอมแลกอิสรภาพของพระองค์กับอิสรภาพของพระอนุชาเป็นปฐมบท และในห้วงระยะเวลาที่ทั้งสองพระองค์ยังต้องคงประทับอยู่ด้วยกันที่หงสาวดีก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรจะเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยานั้น แน่นอนว่าทั้งสองพระองค์จะต้องมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการและแนวทางต่างๆในอนาคต
    อาจจะมีข้อสงสัยว่าทั้งสองพระองค์จะต้องอยู่ในสายตาของพม่าแทบจะทุกอิริยาบท จะสามารถทำได้อย่างไร ข้อนี้ขอวิสัชนาว่าในสมัยก่อนนั้นผู้คนทั้งไทยและพม่าต่างก็เคร่งครัดในพระพุทธศาสนา ทุกคนก็มักจะพากันไปวัด คนไทยทั้งหลายไม่ว่าเจ้าหรือเชลยที่ถูกกวาดต้อนไป ก็คงจะหาโอกาสไปทำบุญที่วัดกันเป็นปกติ สำหรับคนไทยก็คงจะพากันไปที่วัดของชาวมอญ รวมทั้งสมเด็จพระนเรศวรและพระพี่นางสุพรรณกัลยาด้วย สมเด็จพระนเรศวรนั้นเป็นที่รู้กันต่อมาว่าพระองค์ท่านเคารพและนับถือต่อพระมหาเถรคันฉ่องอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นทั้งสองพระองค์ก็น่าจะต้องใช้โอกาสนี้พบปะและปรึกษาหารือกันอยู่เป็นเนืองๆ สำหรับเรื่องของความเสียสละนั้นเป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างเด่นชัด
    จนไม่จำเป็นจะต้องนำมากล่าวถึงกันอีก

    ส่วนกรณีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเอกาทศรถก็คงจะเช่นเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างเด่นชัดทั้งในด้านของความสามัคคีและความเสียสละ ทรงร่วมกันรบแบบที่เรียกกันว่าเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่มีพระชนมายุยังเป็นวัยรุ่นจนถึงวารสวรรคต รวม 30 ปีเศษ

    เห็นเป็นโอกาสอันดีจึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อที่เราชาวไทยจักได้กราบไหว้บูชาและยึดถือพระองค์ท่านทั้ง 3 พระองค์เป็นเยี่ยงอย่างแห่งความรักสามัคคีและความเสียสละ

    ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล
     
  20. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    พระสุพรรณกัลยา ฝีมือของพระอาจารย์ สวยงามมากจริง จริง ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...