ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ

    " หลักธรรมที่แท้นั้นคือ จิต
    ให้กำหนดดูจิต ให้เข้าใจจิตตัวเองให้ลึกซึ้ง
    เมื่อเข้าใจจิตตัวเองได้ลึกซึ้งแล้วนั่นแหละได้แล้วซึ่งหลักธรรม "


    สาธุ สาธุ สาธุ


     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    วัดเสาธงทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

    <HR SIZE=1> [FONT=Ms Sans Serif,Tahoma]
    <CENTER>[​IMG]

    </CENTER>
    วัดเสาธงทอง ตัวเมืองสุพรรณ

    ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำสุพรรณ ต.มดแดง เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดพระบาทเพราะมีพระพุทธบาทหินทรายเป็นที่นับถือบูชาของคนทั่วไป จากโบราณสถาน และโบราณวัตถุภายในวัดสันนิษฐานว่า คงเป็นวัดในสมัยทวารวดี ผ่านการรุ่งเรืองร้างโรย มาตามกาลเวลาและความทรุดโทรมของเมืองสุพรรณในยุคก่อน
    หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด ) คราวเสด็จมาวัดเสาธงเพื่อบูชาพระพุทธบาท ได้นิพนธ์ เกี่ยวกับวัดเสาธงทองไว้ ว่า

    วัด พระสงฆ์อยู่ไท้ กอบกิจ ตามแฮ
    เสา บ่อมิวิจิตร แต่งตั้ง
    ธง ก็หมดเหลือพิศ เห็นเหตุ แน่นอ
    ทอง พระพุทธรูปทั้ง สุภาแล้วงามจริง ฯ

    หลวงพ่อเพิ่ม และหลวงพ่อหรุ่น เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้สร้างพระเครื่องเป็นที่นิยมสะสมของนักสะสมได้พัฒนาวัด เสาธงทองมาตามยุคสมัยของท่านอย่างสุดความสามารถ


    เมื่อวานพระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ ได้เล่าให้กลุ่มของทางสายธาตุฟังเกี่ยวกับเรื่องดอนเจดีย์ดังนี้

    ครั้งหนึ่งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนที่ดอนเจดีย์ ไปวัดเสาธงทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะนั้นมีพระภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อพระอาจารย์เสือ อยู่ในเหตุการณ์ด้วย คืออาจารย์ใหญ่โรงเรียนั้นได้แสดงจดหมายจากกรมศิลปากรว่า ให้อาจารย์ใหญ่เก็บก้อนอิฐที่ดอนเจดีย์ส่งไปทดสอบที่กรมศิลปากรด้วย

    อาจเพราะท่านอาจารย์ใหญ่ไม่ทราบถึงจุดประสงค์ที่กรมศิลปากรจะนำอิฐเก่าไปทำอะไรหรือคิดว่าอิฐที่ไหนก็เหมือนกัน เวลานั้นท่านอยู่ที่วัดเสาธงทอง จึงนำอิฐที่วัดเสาธงทองส่งไปกรมศิลปากรแทน

    อิฐวัดเสาธงทองเป็นอิฐในยุคของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้กรมศิลปากรสรุปว่าดอนเจดีย์คือสถานที่ทำยุทธหัตถี

    เรื่องนี้พระอาจารย์เสือนั้นยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน พระอาจารย์สิงห์ทนบอกว่าไปถามท่านดูได้ ว่าเรื่องการส่งอิฐวัดเสาธงทองไปแทนอิฐที่ดอนเจดีย์นั้นจริงหรือไม่

    แท้จริงแล้วอิฐในบริเวณดอนเจดีย์เป็นอิฐในสมัยยุคทวาราวดี
    ---------------------------------------------------------------------------------------------
    [/FONT]
     
  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ศิลปะ ย่อมุมไม้สิบสอง ที่วัดวรเชษฐ์

    [​IMG]


    เมื่อวานสนทนาธรรมกับพระอาจารย์สิงห์ทน หลายชั่วโมง อันหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ วัดวรเชษฐารม (ในเมือง) ที่จริงควรจะใช้ชื่อ วัดเชษฐาราม มากกว่า​

    สันนิษฐานว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างเพื่อถวายพระราชกุศลให้พระเชษฐาธิราช พระราชโอรสของพระเจ้าทรงธรรมมากกว่า​

    ดังนั้น ต่อจากนี้ทางสายธาตุจะเขียนชื่อวัดวรเชษฐ์ (นอกเกาะ) ว่าวัดวรเชษฐ์ และ วัดวรเชษฐาราม (ในเกาะ) ว่าวัดเชษฐาราม อย่างนี้จะชัดเจนยิ่งขึ้นมาก​

    ---------------------------------------------------------------------​

    หลังจากสำรวจศิลปย่อมุมไม้สิบสองรอบวัดวรเชษฐ์แล้วพบว่า มีปรากฏที่​

    1 เสาของกำแพงวัด ทุกเสาเป็นย่อมุมไม้สิบสองทั้งหมด​

    2 ฐานของพระเจดีย์ทรงระฆัง (เจดีย์บรรจุอัฐิพระพนรัตน์) เป็นฐานย่อมุมไม้สิบสอง​

    3 ฐานของเสาใบเสมาทุกฐาน เป็นฐานย่อมุมไม้สิบสอง​

    4 เสาเตี้ยๆที่เป็นเสาบนระเบียงรายรอบพระปรางค์ประธาน ทำเป็นย่อมุมไม้สิบสอง​

    5 ช่องกระจกรอบพระเจดีย์ทรงปราสาทยอด เป็นช่องกระจกรูปย่อมุมไม้สิบสอง​

    ที่วัดวรเชษฐ์แห่งนี้ใช้ศิลปย่อมุมไม้สิบสองหลายแห่งค่ะ​

    -------------------------------------------------------------------​

    พระอาจารย์สิงห์ทน ท่านอธิบายเรื่อง Vibrational Medicine ให้ฟังด้วย​

    แต่ทางสายธาตุยังไม่ค่อยเข้าใจนัก แค่พอจับหลักการได้ว่าเป็นการอธิบาย ​

    ร่างกาย จิตใจ เส้นชีวิตที่โยงร่างกายกับจิตใจ ดวงจิต ที่วิทยาศาสตร์สามารถอธิบาย​

    ความหมายของคำว่าชีวิต ในทางพุทธศาสนาได้อย่างลงตัว บทความนี้เป็นของ ดร. ริชาร์ด เกอร์เบอร์ ​

    ถ้าเข้าใจดีขึ้นแล้วจะนำมาลงให้อ่าน พระอาจารย์ลงไว้ในหนังสือของท่านแล้วและอธิบายไว้โดยสังเขปด้วยค่ะ​

    เป็นเรื่องที่คนที่ชอบเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์น่าจะศึกษาไว้ เพราะอธิบายคำว่าชีวิตได้ชัดเจนดีค่ะ​
     
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    [​IMG]

    กุหลาบเมาะลำเลิง ครับ ก๊อปมาจากภาพที่คุณทางสายธาตุได้นำมาโพสต์ไว้

    ครับ ท่านผู้ใดอยากจะรำลึกถึงความหลังก็เชิญนะครับ ดูมีเสน่ห์ชวนให้ชื่นชม
     
  5. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ทั้ง ๓ ภาพล้วนเป็นดอกโบตั๋นที่สวยสดงดงาม


    นำมาให้ชมกันสามสีสามแบบเลยครับ จากผลงานของคุณทางสายธาตุ

    เจ้าเก่าครับ อากาศเย็นเป็นใจอย่างนี้ หากท่านใดยังไม่มีแผนหรือโอกาส

    จะไปโต้ลมหนาวที่ใด ก็ขอเชิญมาร่วมชื่นชมกับความงามของดอกโบตั๋น

    ที่งดงามและค่อนข้างจะหาดูได้ยากนะครับจำได้ว่าคุณแม่เคยปลูกไว้ต้น

    หนึ่ง ทุกครั้งที่ย้ายบ้านก็จะหอบหิ้วกระถางต้นโบตั๋นนี้ไปด้วย จนกระทั่งสิ้น

    อายุขัยของทั้งคุณแม่และโบตั๋นต้นนั้น อนิจจังครับ
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    กุหลาบเมาะลำเลิง กุหลาบพุกาม

    กุหลาบเมาะลำเลิง กุหลาบพุกาม

    [​IMG]
    ดอกสีชมพูมีชื่อเรียกว่า กุหลาบเมาะลำเลิง (Pereskia grandiflora)


    [​IMG]
    ดอกสีส้ม เรียกว่า กุหลาบพุกาม ( Pereskia corrugata)

    ถ้าจะยึดถือกันตามเกณฑ์ของสากลนิยม พืชในสกุลปีรีสเคีย (Pereskia) นี้ ก็น่าจะได้ชื่อภาษาไทยว่า "กุหลาบเมาะลำเลิง" เพราะว่าชื่อนี้เป็นชื่อแรกที่ชึ่งมีปรากฏอยู่ใน "ทะเบียนพันธุ์ไม้ประดับ" ของสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ซึ่งระบุว่า กุหลาบเมาะลำเลิง คือปีรีสเคีย แกรนดิฟลอรา (Pereskia grandiflora) แต่พืชพันธุ์ที่ว่านี้กลีบดอกจะมีสีเป็นสีชมพูเพียงสีเดียว ส่วนพวกที่มีกลีบดอกเป็นสีเฉดแดง หรือเฉดส้ม ดังภาพที่ปรากฏนี้คือพืชอีกพันธุ์หนึ่ง อาจเรียกว่า กุหลาบเมาะลำเลิงสีส้ม แต่อีกชื่อหนึ่งเขาจะเรียกว่า กุหลาบพุกาม เป็นพันธุ์ ปีรีสเคีย คอร์ริวกาตา (Pereskia corrugata) ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านของทวีปอเมริกาถิ่นร้อนฐานเดียวกับพันธุ์ปีรีสเคีย แกรนดิฟลอรานั้นเอง

    ดร. ปฏิเวธ อารยะศาสตร์ ได้นำกิ่งปีรีสเคีย แกรนดิฟลอรา ซึ่งท่านตั้งชื่อเรียกในตอนนั้นว่าต้น "กุหลาบแก้ว" มาจากประเทศฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2502 เมื่อต้นไม้เจริญงอกงามดีแล้ว ดร.ปฏิเวธจึงได้แบ่งให้ญาติมิตรที่สนิทสนม ไปปลูกดูเล่น ต่างก็เรียกชื่อว่า "กุหลาบแก้ว" ตามที่ ดร. ปฏิเวธได้บอกไว้ทั้งนั้น เพราะในครั้งนั้น ดร. ปฏิเวธท่านมักจะต้องบอกกับทุกคนที่ได้ต้นไม้นี้ไปปลูกด้วยความตื่นเต้นเป็นแนวเดียวกันว่า

    "กุหลาบแก้ว" เป็นพืชในวงศ์กระบองเพชรที่ประหลาดที่สุด เพราะเป็นกระบองเพชรพวกเดียวที่มีใบอย่างใบไม้ทั่ว ๆ ไป และพืชในสกุลเดียวกันนี้ก็มีอยู่ในโลกเพียงสองสามพันธุ์เท่านั้นเอง

    ต้นไม้นี้ลักษณะอวบน้ำ มีหนามแหลมยาวที่ลำต้นและกิ่ง ดอกคล้ายดอกกุหลาบ

    -----------------------------------------------------------------------------------------

    สีชมพูจึงจะเรียกว่า กุหลาบเมาะลำเลิง ส่วนสีแสด เรียกว่ากุหลาบพุกาม

    ทั้งกุหลาบเมาะลำเลิง กุหลาบพุกาม และดอกโบตั๋น อยู่ในวงศ์ของตระบองเพชรด้วยกันทั้งสามชนิด

    เท่าที่เคยได้ยินตำนานเล่าต่อๆกันมาว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้กุหลาบเมาะลำเลิงเป็นสัญญลักษณ์เพื่อระลึกถึงพระนางอันเป็นที่รักของพระองค์ ในยามที่ทั้งสองพระองค์ทรงต้องห่างไกลกันเพราะศึกสงคราม

    ถ้าเป็นอย่างที่มีตำนานกล่าวไว้ดังนี้แล้ว แสดงว่าพระองค์ท่านทั้งสองคงจะทรงมีความห่วงหาอาทรซึ่งกันและกันเป็นอย่างมากและคงจะทรงคำนึงระลึกถึงกันและกันอยู่เสมอๆ

    ขอใช้ชื่อว่า Rose la Reine (โรสลาเรน) ควบคู่ไปกับ กุหลาบเมาะลำเลิงในเชิงของความหมายที่กล่าวข้างบนนี้นะคะ


    http://www.maetang.ac.th/pluksasad/kulab_p14.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2009
  7. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    " ตุ๋ย " หันหลังวงการมายา ชีวิตอุทิศแล้วเพื่อพระธรรม

    .................................................

    ตั้งใจหายไปหันศึกษาธรรมะเลยเหรอตอนนั้น?

    "แรกๆ ไม่นะ แต่พอไปปฏิบัติธรรมสักพัก ก็ไม่อยากกลับวงการแสดงแล้ว พอได้ศึกษาธรรมะรู้สึกสงบ แต่ไม่ได้หมายความว่าวงการไม่ดี แต่เราเหมือนรู้แล้วว่าความสุขที่แท้จริงคือความสุขจากความสงบ แรกๆก็ไปศึกษาธรรมะแบบไปๆกลับๆ จนพระอาจารย์เมืองเอามาไว้ที่วัดป่าบ้านตาด ให้มาเรียนการภาวนากับหลวงตาบัว ท่านก็เทศน์ธรรมะสอน จนอยู่ได้ 8 เดือน ไม่ได้ออกไปจากวัดเลย พอครบกำหนดก็มาลาขอไปปฏิบัติเองข้างนอก เราอยากให้โอกาสคนอื่นได้เข้ามาศึกษาธรรมะบ้าง โดยตุ๋ยก็ออกมาเช่าห้องพักอยู่ข้างนอก แต่ก็ตื่นตี 2 มาภาวนา เดินจงกรม พอเริ่มมีแสงพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็มาทำบุญกับหลวงตาทุกเช้า ลงไปจัดอาหารที่ญาติโยมนำมาถวายหลวงตา และก็ทานข้าวอยู่ข้างหลังท่าน ทานสำรวม ตอนปฏิบัติก็ฟังเทศน์ปฏิบัติตัวอย่าง เคร่งครัด และท่านก็ออกไปสงเคราะห์โลกตามที่ต่างๆ ตุ๋ยก็กลับที่พัก ไปล้างจาน ซักผ้า เจริญภาวนา ทำอะไรก็ได้ให้มีสติอยู่กับตัว ท่านสอนให้ดูตัวเอง และแก้ไขตัวเองไปทีละเรื่อง อะไรที่ผิดพลาดก็แก้ไข การนั่งสมาธิแรกๆก็ยาก ท่านก็สอนให้เราพิจารณาตัวเอง ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มีแต่ของสกปรก ไม่ให้ไปยึดติด และตุ๋ยก็ฟังคำเทศน์ของท่านทางวิทยุตอนกลางคืน ซึ่งมีคำเทศน์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 จากที่ตุ๋ยไม่เป็นอะไรเลย แต่พอเราทำตามคำสอนก็ดีขึ้น ทำให้เห็นความสำคัญในการเผยแพร่ธรรมะว่ามีประโยชน์มาก ไม่ต้องมาเชื่อคำพูดของตุ๋ย แต่อยากให้ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วลองทำดู ว่าจะมีสิ่งอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง"







    เสียดายมั้ยเราเป็นผู้หญิงบวชพระไม่ได้?

    "แต่ ก่อนเสียดาย แต่หลวงตาเทศน์ว่าพระอรหันต์ไม่ต้องเป็นหญิงหรือชาย ก็สามารถบรรลุธรรมได้ ถ้าปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ธรรมะสามารถปฏิบัติได้ ขอให้ตั้งใจจริงๆ อยู่ตรงไหนก็ทำได้"


    แหล่งที่มา : 'ตุ๋ย' หันหลังวงการมายา ชีวิตอุทิศแล้วเพื่อพระธรรม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    และคุณ วิญญาณนิพพาน

    ปล.( คุณตุ๋ย- คุณมนฤดี ยมาภัย ) ขออนุโมทนาบุญกับคุณตุ๋ย ครับ
     
  8. พระราชมนู

    พระราชมนู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +78
    วัดวรเชต

    ดีใจที่มีคนระลึกถึงพระองค์ท่านกัน ไปกันที่วัดวรเชตเป็นไปได้ เอาธูปเทียนแพไปขอขมาท่านด้วยก็ดีนะครับ หลายๆคนอาจสงสัย แต่เราทุกคนต้องไปขอขมาท่านครับ เราทิ้งท่านไว้แบบนี้นานหลายร้อยปี จนวัดเปลี่ยนสภาพไปต่างๆนาๆ จะด้วยรู้สึกในชาตินี้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องจะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเราทุกคนต่างผิดต่อพระองค์ครับ ก็อยากให้ขอขมาต่อท่านซะ ไม่ใช่เรื่องซีเรียสครับ แต่ควรทำ แล้ววางไว้ที่พระปรางค์ ขอบคุณทุกคนที่รักและยังระลึกถึงพระองค์ ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพวกเรา รวมถึงข้าราชบริพารของพระองค์ที่ไม่ว่าจะกี่ชาติก็ยังระลึกนึกถึงพระองค์ได้ครับ
     
  9. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    อ่านแล้วน้ำตาซึมที่พวกเราชาวไทยไม่รู้กันว่า นี่คือวัดที่ยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์เจ้าผู้ยิ่งใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    วัดวรเชษฐ์กำลังปรับเข้าสู่สภาพที่ดีขึ้นๆ ไปเรื่อยๆค่ะ ขอพระบารมีสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงคุ้มครองวัดและพระตลอดจนลูกศิษย์ทั้งหลายให้พ้นจากภัยคุกคามทุกสิ่งทุกอย่างด้วยค่ะ
     
  10. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.739395/[/MUSIC]

    ประกาศความภักดี พระนเรศวรมหาราช
    กัญนัทธ์ ศิริ ประพันธ์/ ขับร้อง<!-- google_ad_section_end -->

    สงวนลิขสิทธ์ มีนาคม 2552




    อนุโมทนาด้วยค่ะ

    เมื่อมีหลักฐาน ที่ชัดเจนขึ้น ทุกๆจะอย่าง ก็คงจะ เกิดขึ้นตา กระบวนการ และขั้นตอน

    วัดวรเชฐษ์ จะกลับมางดงาม รุ่งเรื่องอีกครั้งหนึ่งค่ะ

    ขอพระบารมี ในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แผ่ไพศาล

    ให้ทุกภาระกิจการ ลุล่วง ด้วยดี



    ก้มกราบลงที่แผ่นดิน

    ยังมิเลือน มิลืม เหมือน มิสิ้น ปรเมนทร์

    น้อมด้วยดวงใจ ถวาย เพื่อขมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009
  11. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    รูปถ่ายวัดวรเชษฐ์ ด้วยกล้องความละเอียดสูง

    [​IMG]


    [​IMG]


    ถ่ายจากกล้องความไวและความละเอียดสูง ของทีมงานมิติพิศวง ที่มาขออนุญาตถ่ายทำจากพระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ​

    และยังมีรูปที่สายสิญจ์เป็นแสงสัตตรังสี 7 สีด้วยค่ะ ขอบคุณพี่อุกามณีสำหรับรูปค่ะ​

    แสงรังษีธรรมที่สถิตย์ ณ วัดวรเชษฐ์แห่งนี้ชัดมากค่ะ ถ้าใครมีกล้องความละเอียดสูงก็สามารถถ่ายรูปแบบนี้ได้ เพราะพลังรังษีธรรมอยู่ทั่วไปในบริเวณวัดแห่งนี้ค่ะ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2009
  12. จมื่นราชฯ

    จมื่นราชฯ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +57
    สาธุ อนุโมทนานะขอรับ
     
  13. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ยินดี ต้อนรับ

    ท่าน จมื่นราช <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> และท่าน พระราชมนู ด้วยค่ะ

     
  14. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ฟอร์ทขออนุญาตเรียนทั้งพี่โมและพี่จงรักภักดีรวมทั้งพี่ๆท่านอื่นๆพร้อมกัน

    หากฟอร์ทจะขอร้องให้พี่โมได้พิจารณานำเพลงพระสุพรรณกัลยามาลงใน

    "บ้านน้อยปลายซอย" ด้วย จะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดครับ ด้วย

    ความสัตย์จริงแล้ว ฟอร์ทเกรงใจพี่โมมากครับ ถ้าคำขอนี้สร้างความลำบาก

    ใจให้กับพี่โมแล้วละก็ ฟอร์ทต้องกราบขอโทษด้วย กับขอเรียนถึงเหตุผล

    เนื่องจากเห็นว่าทั้งสองเพลงล้วนต่างมีความไพเราะและเกี่ยวพันกันเมื่อรำลึก

    ถึงพระองค์ใดพระองค์หนึ่งก็น่าจะกล่าวถึงอีกพระองค์หนึ่งควบคู่กันไปด้วย

    ฟอร์ทคิดเช่นนั้นครับมิได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น อนึ่งหากข้อความในโพสท์นี้

    ไม่เหมาะสมในทุกๆกรณีฟอร์ทขอน้อมรับในทุกๆถ้อยคำนั้นและพร้อมที่จะลบ

    ทิ้งไปครับ
     
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    คุณน้องฟอร์ท ครับ สำหรับผมไม่มีปัญหาเลยครับ สุดแท้แต่คุณโมเยจะ

    พิจารณาเป็นประการใด เพราะเป็นเพลงที่ได้มีการจดทะเบียนลิขสิทธิไว้

    โดยส่วนตัวแล้วชอบฟังเพลงนี้มาก ถ้าได้ฟังเพลงใดเพลงหนึ่งแล้วก็ควร

    ได้ฟังอีกเพลงหนึ่งควบคู่กันไปด้วย เห็นสอดคล้องกับที่คุณน้องฟอร์ทได้

    กล่าวไว้จริงๆครับ

    ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  16. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ดีเลยจ้าน้อง พี่โมกำลังพยายาม ให้คนแปงไฟล์ให้อยู่จ้า เพราะเป็นไฟล์ซีดี น้องทำได้หรือเปล่า เรืองการแปลงไฟล์ อะจ้า

    หากไม่เป็นการรบกวน จัดให้พี่โม สักหน่อยได้ ก่อเจ้า

    ยินดีเจ้า
     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พี่อุกามณี ได้นำเพลงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มิ่งแก้วเจ้าจอม และบทสวดโพชงคปริตร ไปเผยแพร่กับคนรู้จักที่จังหวัดสุรินทร์แล้ว

    เพลงเป็นสื่อให้พวกเราได้ทำงานถวายพระองค์ท่านทุกพระองค์ได้อย่างดียิ่ง

    พี่เองยังคิดว่าน่าจะมีเพลงสมเด็จพระอนุชาด้วย เพราะพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยไม่แพ้ใคร

    ทรงอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระเชษฐา พระพี่นาง ทั้งที่อยุธยา ทั้งที่ตอนเป็นเชลยที่หงสา

    ทั้งสามพระองค์ทรงรักกันมากด้วย เป็นพี่เป็นน้อง รักและเสียสละร่วมกันมาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์

    สิ่งที่พวกเรากำลังรวมใจกันก็คือ การทำงานถวายพระมหาราชและบูรพกษัตริย์ รวมถึงการรวมความจงรักภักดีถวายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ผู้ใดสามารถทำสิ่งใดได้ ย่อมเป็นสิ่งดีทั้งนั้น ตามกำลังของแต่ละบุคคล ทางสายธาตุพอจะหาข้อมูลมายืนยันความเป็นวัดป่าแก้วและความเป็นวัดวรเชษฐ์ได้

    ทางสายธาตุขอพยายามทำถวายตามสติกำลังของตนเองสุดความสามารถ

    เรื่องเพลงต่างๆนั้น ต้องมีคนเชี่ยวชาญมาทำ เป็นงานที่คุณโมเยได้รับทำขึ้นตามสติกำลัง

    พี่จงรักภักดี ได้หล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปประดิษฐานที่วัดเวียงเชียงรุ้ง ก็เป็นงานใหญ่ที่พี่จงรักภักดีทำถวายสมเด็จฯ

    พี่อุกามณีก็ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องราวของวัดวรเชษฐ์ให้กับคนรอบข้างได้รับรู้ได้มาทำสักการะถวายสมเด็จพระนเรศวรเจ้าท่า

    คุณFort คุณศรัทธา พิสุทธ์ คุณไก่เหลืองหางขาว ช่วยขยายช่วยกระจาย ช่วยเป็นกำลังใจ และคงทำงานถวายสมเด็จพระนเรศวรอยู่เงียบๆ ปิดทองหลังพระ

    งานใหญ่สำเร็จได้ต้องอาศัยทุกคนทุกฝ่ายร่วมใจกันจริงๆค่ะ

    ขออนุโมทนากับบุญที่ทุกท่านได้ร่วมกันทำนี้ค่ะ สาธุค่ะ
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เจดีย์คู่ วัดสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

    <TABLE class=tborder id=post2519604 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 20-10-2009, 06:56 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #731 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ทางสายธาตุ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2519604", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jan 2009
    ข้อความ: 635
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 952
    ได้รับอนุโมทนา 2,817 ครั้ง ใน 660 โพส
    พลังการให้คะแนน: 102 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2519604 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->เจดีย์คู่ ประดิษฐานหน้าวัดสมเด็จพระนารายณ์มหาราช<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
    เจดีย์คู่



    [​IMG]

    [​IMG]


    ภาค ภาคเหนือ

    จังหวัด ตาก
    • สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ในบริเวณวัดสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
    • ประวัติความเป็นมา
    สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพสันนิษฐานว่า เจดีย์คู่นี้สร้างไว้แต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเอกาทศรถ เมื่อคราวตีได้เมืองเชียงใหม่กลับคืนมาเป็นของไทย ทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครั้งกระนั้น ต่อมาของเดิมคงจะชำรุดทรุดโทรมลง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงโปรดให้บูรณะขึ้นใหม่
    • ลักษณะทั่วไป
    เป็นเจดีย์คู่กัน ๒ องค์ ที่กำแพงและฐานเจดีย์ทำเป็นช่องสำหรับตามประทีปโดยรอบ
    • หลักฐานที่พบ
    เจดีย์คู่ ๒ องค์นี้ เป็นฝีมือช่างอยุธยา ที่ฐานเจดีย์มีช่องสำหรับตามประทีปโดยรอบ เป็นหลักฐานว่าน่าจะเป็นของที่สร้างหรือปฏิสังขรณ์แต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระ นารายณ์มหาราช เพราะช่องตามประทีปซึ่งทำไว้ตามกำแพงและฐานเจดีย์นั้นเป็นของที่นิยมสร้างใน สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
    • เส้นทางสู่เจดีย์คู่
    ตั้งอยู่เชิงสะพานกิตติขจรฝั่งตะวันตก

    บางข้อมูลก็บอกว่าเป็นวัดที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชสร้าง แต่ที่สนใจก็คือการสร้างเจดีย์คู่สององค์บนฐานเดียวกัน ซึ่งทางสายธาตุเห็นว่าพอจะรู้แล้วว่า เจดีย์คู่ที่วัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ) น่าจะตั้งอยู่ตรงไหน ตามคติความเชื่อของคนโบราณที่ต้องสร้างเจดีย์คู่กันแบบนี้เพื่ออุทิศกุศลที่เกิดขึ้นจากการสร้างวัดให้กับบิดาและมารดาของผู้สร้าง พอดีเช้านี้ตื่นขึ้นมา เกิดความคิดว่าพอจะอนุมานได้แล้ว่า เจดีย์คู่หน้าวัด วรเชษฐ์ น่าจะตั้งอยู่ที่ไหน พอมีเวลาในเช้าวันนี้ก่อนจะออกจากบ้าน จิตบอกให้เขียนเลยก็นำมาลงไว้เลยแต่เช้าค่ะ


    ข้อมูลจาก แหล่งโบราณคดีภาคเหนือ - เจดีย์คู่ | OpenBase.in.th
    และจาก แหล่งโบราณคดีภาคเหนือ - วัดสมเด็จพระนารายณ์มหาราช | OpenBase.in.th<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ดูที่ลักษณะเจดีย์คู่ยุคเดียวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฐานจะสูง ถ้าคนไปยืนน่าจะได้ถึงเกือบอก เรียงอิฐซ้อนกันขึ้นไปชั้นน่าจะเรียงอิฐได้สัก 30 ชั้น กะจากสายตานะคะ
     
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ฐานเจดีย์คู่ ที่วัดวรเชษฐ์

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    <!-- google_ad_section_start -->
    [​IMG]


    สังเกตุการเรียงอิฐ เฉพาะที่ฐานจะสูงขึ้นไปจนเกือบถึงอกเหมือนที่วัดสมเด็จพระนารายณ์มหาราชค่ะ

    ขอบคุณเจ้าของรูป คือคุณพิชญ์ ที่ขออนุญาตเธอแล้วว่าต้องการรูปกองอิฐด้านหลังรูปของเธอ เธอก็ยินยอมให้แสดงค่ะ​
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ฐานเจดีย์คู่ที่วัดเชษฐาราม

    [​IMG]


    [​IMG]
    ฐานเจดีย์วัดเชษฐาราม เรียงอิฐที่ฐานไม่สูง แค่ฟุตกว่าค่ะ ไปยืนเทียบก็ยังสูงไม่ถึงเอวค่ะ

    ดังนั้สันนิษฐานว่า เจดีย์คู่วัดเชษฐารามไม่ร่วมยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...