ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

"ข้อสำคัญ บรรดาแม่ทัพ นายกอง ทุกคนย่อมตระหนักดีว่า ในยามศึกสงคราม การสูญเสียแม่ทัพหรือผู้นำจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อขวัญและกำลังใจในการสู้รบของทหารเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันความจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำคนใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นเช่นกัน จึงน่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องพยายามปกปิดข่าวการประชวรและการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนเรศวรไว้ให้นานที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามเคลื่อนย้าย พระองค์ให้ถอยห่างออกมาจากแนวหน้าหรือกำลังทหารส่วนใหญ่ให้มากที่สุด ก็เป็นได้ อย่างน้อยก็เป็นการประวิงเวลาไว้เพื่อรอสมเด็จพระเอกาทศรถ ก่อนที่จะเสด็จมาถึง<!-- google_ad_section_end --> "


ตรงจุดนี้ที่พี่ภาวิโตได้เคยวิเคราะห์กับฟอร์ทว่าเป็นเหตุผลและตรรกะ ที่สำคัญที่มีน้ำหนัก ที่ทำให้น่าเชื่อว่าสมเด็จฯท่านไม่น่าจะสิ้นพระชนม์ที่เวียงแหงแต่น่าจะ
เป็นสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่เหมาะสมและปลอดภัยโดยที่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยถอยห่างออกมาได้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งหรือสองวัน (ไม่น่าจะเกินสองวัน
ก็จะได้จังหวะพบกันกับพระเอกาทศรถ)
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

ข้อนี้โมเยยังไม่ได้ เรียนถามอาจารย์ค่ะ

 

พี่เองขอสารภาพว่าไม่อยากเอ่ยถึงช่วงนี้เลย มหาราชเสด็จจากไพร่ฟ้าประชาชน ครานั้นข่าวนี้คงจะนำความโศกเศร้าอาดูรมาสู่หมู่ชนทุกหย่อมหญ้า

อยากรอให้ท่านผู้ที่สันทัดกรณีมากกว่ามาเขียน คราวนี้เจอกระทู้อันมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตอนที่พระองค์สวรรคต จึงลอกกระทู้เก่ามาค่ะ พี่ทางสายธาตุวิเคราะห์การเดินทัพไม่ได้เลยค่ะ ไม่สันทัดกรณีจริงๆค่ะ

 

เดิมทีฟอร์ทก็ไม่ค่อยได้สนใจประวัติศาสตร์สักเท่าไหร่ แต่พอมาเข้ากระทู้ที่

พี่ภาวิโตเขียนอยู่ก็เริ่มสนใจโชคดีได้มีโอกาสพูดคุยกันกับพี่ภาวิโตหลายครั้ง

ก็ได้ความรู้และไอเดียหลากหลาย ฟอร์ทอ่านข้อความของพี่ภาวิโตแล้วยังทึ่ง

เลยว่าพี่ภาวิโตคิดและเขียนเรื่องนี้ได้อย่างไร เหมือนยังกับเป็นคนวางแผนเอง

หรือเคยผ่านสมรภูมิรบในครั้งนั้นมาด้วยตนเอง ด้วยความที่เราคิดว่าเราเป็นเด็ก

ก็เลยถามพี่เขาไปตรงๆ พี่เขาก็หัวเราะ ไม่ตอบว่าอะไร พอฟอร์ทถามตื๊ออยู่

หลายครั้ง พี่ท่านก็สารภาพว่า พี่เองก็ไม่รู้ว่าเขียนเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่ที่ต้อง

เขียนก็เพราะได้แรงบันดาลใจจากอาจารย์ไก่ (อ.สุธาทิพ ภมรประวัติ )

ทั้งหมดนี่ก็เป็นสิ่งบันดาลใจให้ฟอร์ทสนใจเรื่องของประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ

เรื่องราวในกระทู้ปัจจบันนี้ที่พี่ทางสายธาตุได้กรุณาค้นคว้ามานำเสนอนั้นให้

ความรู้มากมายทีเดียวถ้าฟอร์ทต้องไปค้นคว้าหาอ่านเองก็คงได้ไม่ถึงครึ่งแน่

ต้องกล่าวคำขอบคุณไว้เป็นหลักฐาน ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนา

 

หลวงพ่อตามใจ"ส่งท่ายปีเงิน-ต้อนรับปีทอง"

<!-- main-content-block --><!-- 30 ธันวาคม 2552 - 00:00 -->

• เปลว สีเงิน

30 ธันวาคม 2552 - 00:00



................

.........................

เงินน่ะ ไหลไป-ไหลมา ไม่ใช่ของใครหรอกครับ แต่ "ความสุข" ไม่ไหลไปไหน อยู่ที่ "ใจ" ของเรา.




-ปกติจะเป็นแฟนติดตามคอลัมน์ของคุณเปลว สีเงิน ท่าน นะครับ

 

เงินน่ะ ไหลไป-ไหลมา ไม่ใช่ของใครหรอกครับ แต่ "ความสุข" ไม่ไหลไปไหน อยู่ที่ "ใจ" ของเรา.


เห็นด้วยค่ะ พี่จงรักภักดี ขออนุโมทนาค่ะ

 

พงศาวดารฉบับคำให้การชาวกรุงเก่า ว่าด้วยเรื่องพระนาม สุริยกุมาร

ขอแทรกเรื่องพระนามพระสุริยกุมารที่เคยเอ่ยถึงไว้ ขณะนี้หาข้อมูลเจอแล้วจึงขอนำมาแทรกไว้ ณ ที่นี้นะคะ

หนังสือ พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์นักสู้
เขียนโดย น.พ. วิบูล วิจิตรวาทการ
หน้าที่ 136 - 137

พงศาวดารฉบับคำให้การชาวกรุงเก่า เล่าไว้ว่า เมื่อพระเจ้าปราสาททองยังทรงเยาว์อยู่นั้น ทรงโปรดที่จะเล่นในบทบาทของกษัตริย์ คือ ขึ้นไปนั่งประทับบนจอมปลวก แล้วก็ว่าราชการ แต่งตั้งเด็กอื่นๆ เป็นเสนาบดีอยู่เสมอ

ครั้นได้ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว คืนหนึ่งทรงฝันว่า จอมปลวกที่เคยนั่งเล่นกับเพื่อนๆตอนเด็กนั้น มีปราสาททองฝังอยู่ข้างใน

เมื่อตื่นจากบรรทมจึงรับสั่งให้คนไปขุดดู ก็พบปราสาททองจริง หลังจากนั้น ผู้คนจึงถวายพระนามว่า พระเจ้าปราสาททอง

"และพระเจ้าติโลกนาถนั้น มีพระราชนัดดาองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สุริยกุมาร เป็นเชื้อพระวงศ์ฝ่ายพระราชมารดาของพระเจ้าติโลกนาถ

"พระสุริยกุมารนี้ มีอัธยาศรัยผิดกว่าคนธรรมดามาแต่ยังเยาว์ เวลาเล่นกับเพื่อนทารกด้วยกันนั้น พระสุริยกุมารให้เอาเครื่องราชย์ลาดบนจอมปลวกแล้วเสด็จขึ้นนั่ง แต่งตั้งพวกทารกให้เป็นเสนาบดีและข้าราชการ แล้วก็เล่นว่าราชการ วินิจฉัยพระราชกฤษฏีกากฏหมายอย่างทำนองกษัตริย์ ดังนี้เนืองๆ ....

"วันหนึ่ง พระเจ้ารามาธิเบศร์บรรทมหลับอยู่ในปราสาท ทรงพระสุบินนิมิตว่า ที่จอมปลวกซึ่งพระองค์เคยเสด็จขึ้นว่าราชการเล่นแต่เมื่อครั้งยังเป็นกุมารนั้น มีปราสาททองฝังอยู่

"พอรุ่งเช้าตื่นจากบรรทมแล้วจึงรับสั่งให้ราชบุรุษไปขุดดูที่จอมปลวกนั้นก็ได้ปราสาททองคำเก้าชั้นสูงประมาณหนึ่งศอก จึงรับสั่งให้นำมาประดิษฐานไว้ที่หอพระ เพราะที่ได้ปราสาททองนั้นเป็นเหตุ พระเจ้ารามาธิเบศร์จึงมีพระนามปรากฏอีกอย่างหนึ่งว่า พระเจ้าปราสาททอง "

หมายเหตุ พระเจ้าติโลกนาถในพงศาวดารนี้หมายถึงพระเจ้าทรงธรรม และพระรามาธิเบศร์ หมายถึงพระเจ้าปราสาททองค่ะ

พระเจ้าปราสาททองทรงใช้คำว่า สุริย ให้ปรากฏในอีกสองแห่ง

1) พระนามของพระองค์เมื่อครั้งเป็น เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์

2) ทรงเรียกพระราชตระกูลของพระองค์ว่า ราชตระกูลสุริยวงศ์ อนงคนารี (ตรงนี้มีข้อน่าสังเกตุว่ามีคำว่า อนงคนารี ท่านจะหมายถึงใคร) ข้อมูลนี้เอามาจากประวัติวัดชุมพลนิกายารามค่ะ

หากเชื่อว่าพระราชมารดาของพระองค์เป็นเจ้า มาแต่ราชวงศ์หมิง คำว่า 明 (หมิง) ซึ่งแปลว่า สว่าง รุ่งโรจน์ หรือจะแปลว่าแสงสว่างเจิดจ้าของพระอาทิตย์ หรือจะใช้ว่าแสงสุริย ก็ได้ ส่วนคำว่า อนงคนารี ก็อาจหมายถึงพระราชมารดาของพระองค์

อีกทั้งศิลปะย่อมุมไม้สิบสองบนลายเขียนสีฝุ่นนั้น ทางสายธาตุเข้าใจในเบื้องต้นนี้ว่าเป็นศิลปะที่ใช้กับเชื้อพระวงศ์หรือเจ้านายของราชวงศ์หมิงเท่านั้น แต่ตรงนี้ขอให้อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะว่าทางสายธาตุจะต้องหาข้อมูลเรื่องศิลปะย่อมุมไม้สิบสองให้มากกว่านี้เสียก่อน ซึ่งหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้คงอยู่ในรูปของภาษาจีน ทางสายธาตุไม่สามารถอ่านภาษาจีนได้ตอนนี้จึงขอติดไว้ก่อน ซึ่งอาจจะนานเป็นปีจึงจะได้ข้อมูลเรื่องศิลปะรูปแบบนี้

เจ้าฟ้าที่ทรงปฎิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็คือ เจ้าฟ้ากรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ (เจ้าฟ้านเรนทร์) พระราชโอรสของพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดโคกแสง ได้ทรงปฎิสังขรณ์ แล้วครั้งหนึ่ง อาจเป็นเพราะในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายนี้ บ้านเมืองวุ่นวายด้วยการแย่งชิงราชสมบัติและมีศึกสงครามกับพม่า จึงไม่มีเวลาที่จะมาทะนุบำรุงด้านการศาสนา

ครั้งต่อมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในราชวงศ์จักรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้พระยาพลเทพ (หลง) เป็นแม่กลองมาปฎิสังขรณ์ อีกครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ. 2406 สิ้นพระราชทรัพย์ไปประมาณ 500 ชั่งเศษ แล้วทรงอุทิศพระราชกุศลแด่พระเจ้าปราสาททองผู้เป็นเจ้าของวัด

ข้อความสีน้ำเงินคัดลอกจากหนังสือประวัติวัดชุมพลนิกายาราม ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ค่ะ

 

<TABLE class=tborder id=post2782518 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-12-2009, 08:09 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #7 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->WebSnow<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2782518", true); </SCRIPT>
ผู้ก่อตั้ง, WebMaster (วีระชัย)



วันที่สมัคร: Apr 2003
สถานที่: London, England
อายุ: 34
ข้อความ: 7,666
Groans: 20
Groaned at 65 Times in 33 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,354
ได้รับอนุโมทนา 71,371 ครั้ง ใน 5,581 โพส
พลังการให้คะแนน: 50000


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2782518 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->วันที่ 28/12/09
ตอนนี้เรามีสมาชิกเกือบ 3 แสนกว่ารายชื่อ
ยอดคนเข้าเว็บประมาณ 4-5 หมื่นกว่าคนต่อวัน

รวมทุกโครงการของเว็บพลังจิต
server, hosting, พระไตรและพลังจิตนานาชาติ

1. เรามีผู้สนับสนุนบริจาค เข้าเว็บพลังจิต แบบโอนเงินเข้าทางธนาคาร 345 คน
2. ผู้สนับนุนบริจาค โอนเงินทาง credit card หรือ paypal 212 คน
3. บริจาคแบบไม่ออกนามและไม่ใช่สมาชิก ก็มีแต่ไม่มาก

รวมทั้งหมดจำนวณสมาชิกที่เช็คได้ ที่บริจาคเข้าช่วยเหลือเว็บพลังจิต
เพื่อให้เว็บดำรงค์อยู่ได้เพื่อเผยแผ่พุทธศาสนา
บริการแบบตลอด 24 ชั่วโมง สร้างประโยชน์ให้กับคนจำนวณมาก
รวมแล้วจำนวณสมาชิก 557 คน

ถ้าเทียบส่วนแล้ว จะเห็นว่ามีจำนวณคนไม่มาก
พอๆกับกองทัพของพระเจ้าตากสินเลย ทหาร 500 กว่านาย
ตอนที่พระเจ้าตากตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา แล้วไปรวมคนตามหัวเมืองต่างๆ แล้วเป็นกองทัพใหญ่ เพื่อกู้บ้านเมืองให้เป็นเอกราชจากพม่าจนเป็นเมืองไทยในปัจจุบัน<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>


อนุโมทนา ครับ

 

ช่องทางในการบริจาค

โครงการของเว็บพลังจิต
ทุกโครงการบริจาคผ่านทาง Credit / Debit Card ได้ที่นี่
<TABLE id=table18 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="50%">

<TABLE id=table19 borderColor=#fdd580 cellSpacing=0 cellPadding=9 width=400 bgColor=#ffffc6 border=1><TBODY><TR><TD>

พระไตรปิฎก เว็บเวอร์ชั่น

พัฒนาพระไตรปิฎกหลายภาษา
และภาพประกอบและเสียงอ่าน
เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นพระไตรฯที่ดีที่สุดโลก

ร่วมบริจาคสร้างพระไตรปิฎกทางโอนเงินเข้าบัญชี

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สาขา : สะพานใหม่ดอนเมือง
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
เลขที่บัญชี : 081 - 2 - 47448 - 7
ชื่อบัญชี : ดร. ณัฐพัชร จันทรสูตร
เพื่อพระไตรปิฎกฉบับเว็บเวอร์ชั่น


ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
สาขา : สะพานใหม่ ดอนเมือง
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
เลขที่บัญชี : 134 - 7 - 02014 - 9
ชื่อบัญชี : ดร. ณัฐพัชร จันทรสูตร

รายละเอียดเพิ่มเติม
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE id=table25 borderColor=#fdd580 cellSpacing=0 cellPadding=9 width=400 bgColor=#ffffc6 border=1><TBODY><TR><TD>

Hosting
ค่าเช่าสถานที่เอาไปวาง server และต่อสัญญา Internet
เราต้องจ่ายปีละ 1 แสนกว่าบาท

ร่วมบริจาคทำบุญโอนได้ที่บัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์
Siam Commercial Bank (SCB)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 365 - 215 048 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana


ธนาคารกรุงเทพ
Bangkok Bank (BBL)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 924 - 005194 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana
รายละเอียดเพิ่มเติม
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

</TD><TD vAlign=top align=middle width="47%">

<TABLE id=table20 borderColor=#fdd580 cellSpacing=0 cellPadding=9 width=400 bgColor=#ffffc6 border=1><TBODY><TR><TD>

พลังจิตนานาชาติ
พัฒนาเว็บเว็บพลังจิตขยายเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนา
100 กว่าภาษาและ100 กว่าประเทศ
การพัฒนาระบบซอฟแวร์และฐานข้อมูลและการจัดการ

ร่วมบริจาคทำบุญโอนได้ที่บัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์
Siam Commercial Bank (SCB)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 365 - 215 048 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana


ธนาคารกรุงเทพ
Bangkok Bank (BBL)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 924 - 005194 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana
รายละเอียดเพิ่มเติม
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
. <TABLE id=table26 borderColor=#fdd580 cellSpacing=0 cellPadding=9 width=400 bgColor=#ffffc6 border=1><TBODY><TR><TD>

ซื้อ Server

เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการกับประชาชนและบรรจุข้อมูล
ออนไลน์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมบริจาคทำบุญโอนได้ที่บัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์
Siam Commercial Bank (SCB)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 365 - 215 048 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana


ธนาคารกรุงเทพ
Bangkok Bank (BBL)
สาขา : เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
เลขที่บัญชี : 924 - 005194 - 7
ชื่อบัญชี : Yosutee Thakana
รายละเอียดเพิ่มเติม
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ท่านใดที่บริจาคแล้ว ขอเชิญลงชื่อท่านในกระทู้ กดตรงรายละเอียดเพิ่มเติม
ท่านที่บริจาคแล้วสามารถรับพระเครื่องและวัตถุมงคลได้ในห้องประกาศ ​

 

<table width="100%" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="F16T" bgcolor="#faf8b3">มจ.ชาตรีสำรวจ-พระนเรศวร-ถ่ายทำหนังใหญ่

<center></center>
</td> </tr> <tr> <td class="F14T">
มจ.ชาตรี เฉลิมยุคลนำทีมงานลุย สำรวจวัดที่สมเด็จพระนเรศวร เสด็จ เพื่อถ่ายทำภาพยนต์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3

เมื่อ เวลา 12.30 น.วันที่ 23 ม.ค.52 มจ.ชาตรี เฉลิมยุคล หรือท่านมุ้ยพร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจ สอบเส้นทางเดินทัพของพระนเรศวรเมื่อครั้งยกทัพไปตีพม่า และทัพของพระนเรศวรได้มาหยุดพัก ที่ วัด เมืองกึ๊ด หมู่ 1 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งที่วัดดังกล่าวมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุ 404 ปี ซึ่งเป็น ต้นโพธิ์ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงปลูกไว้ และพบรอยพระหัตถ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและ หลักฐานทางโบราณคดีอีกหลายอย่าง พระอธิการถา รตนวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดเมืองกึ๊ด หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย นายชัยยง ไชยศรี อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้ศึกษาค้นคว้าเรื่องประวัติศาสตร์ชื่อดัง พร้อม คณะทีมงานถ่ายทำภาพยนต์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 โดยทั้งคณะได้สำรวจหลายจุดภาย ในวัด รวมทั้งต้นโพธิ์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงปลูกไว้ และรอยพระหัตถ์ รอยพระบาท

พระอธิการถา รัตนวณฺโณ เปิดเผยว่าทางวัดได้ทำการค้นพบรอยพระหัตถ์ ขนาดใหญ่ จึงได้ตั้งชื่อ ว่า "พระหัตถบาทก๊อแก้วเมืองกื้ด" โดยพระหัตถ์ มีความกว้าง 23 นิ้ว ความยาว 29 นิ้ว แต่ละนิ้วกว้าง 3 นิ้ว โดยเมืองกื้ดเป็นเมืองโบราณ ประมาณว่าสร้างขึ้นสมัยเมืองเชียงใหม่ เมืองพร้าว เมืองแหง ประมาณ 700 ปีที่ผ่านมา มีการจารึกไว้ในไม่กระดานเป็นอักษรขอม แต่ปัจจุบันได้หายไป ในยุคสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำศึกกับพม่าเพื่อขับไล่ออกไปจากแผ่นดินไทยนั้น ได้ยกทัพจำนวน 100,000 คนจะไปบุกตีกรุงอังวะ โดยได้ยกทัพมาตั้งทัพ ณ เมืองกึ๊ด แม่น้ำแม่แตง สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ได้มีการปรารภธรรมกับครูบาพรหมมหาปัญญา (ครูบาหน้อย) ในคราวเสด็จไปเมืองแหง ณ วัด เมืองกึ๊ดแห่งนี้ โดยพระองค์ทรงปลูกต้นโพธิ์กับครูบาพรหมมหาปัญญาไว้หน้าวัด ซึ่ง ใน ปัจจุบันต้นโพธิ์ที่ สมเด็จพระนเรศวรทรงปลูกไว้ยังคงอยู่ให้ร่มเงาและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ น้อยใหญ่รวมทั้งชาวบ้านที่ เข้ามาทำบุญภายในวัดใช้เป็นร่มเงาซึ่งถ้าจะนับอายุของต้นโพธิ์ดังกล่าวก็ อยู่ในราวๆ 404 ปี ในการเสด็จ

ครั้ง นั้นของพระองค์ทรงรับสั่งให้บูรณะวัดเมืองกื้ดด้วย หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2148 พระองค์ได้ยกทัพ เสด็จไปเมืองแหงและทรงสวรรคต มีพระชนมายุ 50 พรรษา ซึ่งจากตำนานก็ตรงตามที่นักโบราณคดีได้ ทำการศึกษาค้นคว้าไว้ ซึ่งนอกจากนั้นในอดีตที่วัดแห่งนี้ยังเคยขุดค้นเจอกริช หอก ดาบ และอื่นๆอีก มากมายแต่ก็สูญหายไปหมด ซึ่งการที่ มจ.ชาตรี เฉลิมยุคล ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อจะสำรวจสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องพระนเรศวร ภาค 3

เชียงใหม่นิวส์
----------------------


วันพรุ่งนี้ โมเยจะได้มีโอกาส ไป วัดเมืองกึ้ด
กับ อาจารย์ผู้สอนโมเยสอนปฏิบัติธรรม
ญาติธรรม และผู้ที่ ศรัทธาในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


และโมเยจะได้ถวายแผ่นซีดีเพลง
ชุดหนึ่งเพชรล้านนา แก่ทางวัดจำนวน 20 แผ่น
เพื่อรายได้ร่วมสมทบทุนในการบูรณะซ่อมแซมวัดต่อไป
</td></tr></tbody></table>

 

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>พรปีใหม่
PORN PEE MAI </CENTER><CENTER> </CENTER>ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ


<CENTER>
<TABLE border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD>[FONT=AngsanaUPC, Thonburi]สวัสดีวันปีใหม่พา
ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม
ต่างสุขสมนิยมยินดี

ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า
ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี
ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย ​

ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์
ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่
ผองชาวไทยจงสวัสดี

ตลอดปีจงมีสุขใจ
ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์
สวัสดีวันปีใหม่เทอญ ​

[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD>[FONT=AngsanaUPC, Thonburi]เกร็ดน่ารู้
เพลง<WBR>พระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ เป็น<WBR>เพลง<WBR>พระราชนิพนธ์<WBR>ลำดับ<WBR>ที่ ๑๓ ทรง<WBR>พระราชนิพนธ์<WBR>ขึ้น<WBR>ใน<WBR>เดือน<WBR>ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ เมื่อ<WBR>เสด็จ<WBR>นิวัต<WBR>พระนคร และ<WBR>ประทับ ณ พระตำหนัก<WBR>จิตรลดา<WBR>รโหฐาน พระราชวัง<WBR>ดุสิต มี<WBR>พระราชประสงค์<WBR>ที่จะ<WBR>พระราชทาน<WBR>พรปีใหม่ แก่<WBR>บรรดา<WBR>พสกนิกร<WBR>ไทย<WBR>ด้วย<WBR>เพลง จึง<WBR>ทรง<WBR>พระราชนิพนธ์<WBR>เพลง "พรปีใหม่" และ<WBR>ทรง<WBR>พระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรดเกล้าฯ ให้<WBR>พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า<WBR>จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์<WBR>คำร้อง<WBR>เป็น<WBR>คำ<WBR>อำนวยพร<WBR>ปีใหม่ แล้ว<WBR>พระราชทาน<WBR>แก่<WBR>วง<WBR>ดนตรี ๒ วง คือ วงดนตรี<WBR>นิสิต<WBR>จุฬาลงกรณ์<WBR>มหาวิทยาลัย นำ<WBR>ออก<WBR>บรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์<WBR>มหาวิทยาลัย และ<WBR>วงดนตรี<WBR>สุนทราภรณ์ นำ<WBR>ออก<WBR>บรรเลง ณ ศาลา<WBR>เฉลิมไทย ใน<WBR>วันปีใหม่ วัน<WBR>อังคาร<WBR>ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕ [/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>ลิขสิทธิ์: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.817956/[/MUSIC]

ขออัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ เพื่อมาเป็นศรีสวัสดิ์และความสุขให้กับชาวไทยทุกๆคนค่ะ

ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่ค่ะ
</CENTER>

 

จำนวนคนบริจาคน้อยจัง คิดว่าทางเวปไซด์จะมีคนบริจาคเยอะเสียอีกค่ะ

ขออนุโมทนากับผู้ที่บริจาคแล้วนะคะ คิดว่าตนเองก็ควรจะทำค่ะ เพราะเข้ามาใช้เวปไซด์เยอะ ขอบคุณที่นำมาบอกเล่าเก้าสิบกันนะคะ

คุณโมเยคงกำลังเดินทางไปวัดเมืองกึ้ด ขอให้ไป-กลับโดยสวัสดิภาพและบรรลุเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้นะคะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

วันนี้วันครบรอบ 1 ปีเต็มสำหรับการเข้ามาอ่านเวปไซด์พลังจิต สมัครสมาชิกวันที่ 1 มกราคม นี้จำง่ายเลย ปีนี้ขอให้ภารกิจที่ตั้งใจไว้ขอให้ทำสำเร็จค่ะ และขอให้สิ่งดีๆมาสู่ทุกๆท่านในวันปีใหม่ด้วยค่ะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระเทพรัตนฯ พระราชทาน ส.ค.ส.2553</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 ธันวาคม 2552 17:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วันที่ 29 ธันวาคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทาน ส.ค.ส.ปีใหม่ 2553 พร้อมลายพระหัตถ์คำอำนวยพรว่า "ส.ค.ส.2553 ปีขาล ถึงปีขาลเสือตัวใหญ่แต่ไม่ดุ มันกินจุทั้งข้าวปลามังสาหาร เกิดดินดำน้ำชุ่มชลประทาน ล้วนเบิกบานมีกินใช้ไปด้วยกัน ต้องทำงานเหนื่อยหน่อยไม่ถอยหนี ก็จะมีโชคช่วยอำนวยขวัญ อย่ากลัวเสือตัวนี้มันดีดีครัน ดีทุกวันทุกเดือนเหมือนคิดเอย" ตอนท้ายลงพระนามาภิไธย สิรินธร

สำหรับ ส.ค.ส.พระราชทานนี้พิมพ์บนการ์ด 2 สี คือ สีชมพูอมเนื้อ และสีฟ้า มีจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า ส่วนด้านหน้าเป็นภาพวาดฝีพระหัตรูปเสือและค้างคาว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมขออนุญาตกล่าวสวัสดีส่งท้ายปีเก่า 2552 และต้อนรับปีใหม่ 2553 ที่เป็น

ปีเสือ กับทุกๆท่านที่ได้มีส่วนร่วมให้กระทู้นี้ก้าวเดินไปได้และเจริญเติบใหญ่ขึ้น

ไปตามวันและเวลา คำว่าทุกๆท่านในที่นี้ผมตั้งใจหมายรวมทั้งท่านที่เป็นสมา

ชิกและไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บพลังจิตและยังครอบคลุมไปถึงท่านที่ได้โพสต์หรือ

ไม่ได้โพสต์แต่ได้กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนกระทู้ของเราที่ผมได้เคยเปรียบไว้

ว่าเป็นบ้านน้อยปลายซอย ทุกท่านยังคงจำได้ ผมขอกราบขอบพระคุณต่อทุกๆ

ท่านดังที่ผมได้กล่าวถึงแล้ว และใคร่ขออำนวยพรให้ท่านจงประสบแต่สิ่งที่ดี

ที่งามตั้งแต่บัดนี้จนตลอดปีเสือจงทุกท่าน เทอญฯ

 

วันนี้ ได้นำซีดีีบทเพลง เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ไปถวาย ที่วัดเมืองกึี็๊ด 20แผ่น ตามเจตนาที่ตั้งไว้แล้ว
ได้ไปกราบพระบรมรูป สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลปู่ดำ และต้น โพธิ์ สี่ร้อยปี

และได้ขอพระราชทานอนุญาติกรวดน้ำถวายพระราชกุศล
แด่ดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระพี่นางสุพรรกัลยา และพระเอกาทศรส

กุศลนี้จงแผ่ไพศาล
ขอดวงพระวิญญาณ ทรงพระเกษมสำราญ



และขอพระบารมี ของพระองค์คุ้มครอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี
และพระราชวงค์ทุกพระองค์

ตลอดจน ไพร่ฟ้าประชาชนชาวไทย ทุกคน
ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม


ขอกุศลนี้แผ่ไพศาล ในวาระดิถี ขึ้นปีใหม่ แก่ทุกๆท่านด้วยค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญและสวัสดีปีไหม่กับพี่โม ขอรับ

และสวัสดีปีใหม่กับพี่ๆทุกท่านและทุกคน

ตลอดปีจงมีสุขใจ
ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์
สวัสดีวันปีใหม่เทอญ ​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ส.ค.ส.ปีพุทธศักราช 2553 แก่ประชาชนชาวไทย</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 ธันวาคม 2552 20:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ 2553</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 ธันวาคม 2552 20:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>วันที่ 31 ธันวาคม 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสอวยพรปีใหม่ พ.ศ.2553 แก่ปวงชนชาวไทย ดังนี้

“ประชาชาชนชาวไทยทั้งหลาย

วันนี้ ขึ้นวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ทั้งขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่วิตก ห่วงใย แก่การเจ็บป่วยของข้าพเจ้า และแสดงออกโดยประการต่างๆ จากใจจริง ที่จะให้ข้าพเจ้าหายเจ็บป่วยและมีความสุขสวัสดี

ความสุขสวัสดีนี้ เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่จะสำเร็จผลเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและสติปัญญา และการประพฤติตัว ปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล ในปีใหม่นี้จึงขอให้ชาวไทยทุกคนได้ตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง แน่วแน่ ที่จะประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้เต็มกำลังความสามารถ โดยมีสติรู้ตัว และปัญญารู้คิด กำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือ จะคิดจะทำสิ่งใดต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดีให้ถูกต้อง ข้อสำคัญจะต้องระลึกรู้โดยตระหนักว่า ประโยชน์ส่วนรวมนั้นเป็นประโยชน์ที่แต่ละคนพึงยึดถือเป็นเป้าหมายหลักในการประพฤติตัวและปฏิบัติงาน เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแท้จริง ซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับทั่วถึงกัน ความสุขความสวัสดีจักได้เกิดมีขึ้นทั้งแก่บุคคล ทั้งแก่ชาติบ้านเมืองไทย ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และความสำเร็จสมประสงค์ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

ขอขอบคุณ คุณ hura ครับ