ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

พระพุทธชินราชเนื้อเหล็กน้ำพี้ และพระบรมรูปสมเด็จฯเหล็กน้ำพี้



ได้เห็นองค์จริงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์ยืน 22 นิ้ว สวมพระมาลา (พระมาลานี้สร้างตามแบบที่หลวงพี่พระมหาฯท่านนิมิตเช่นกันเพราะเป็นแบบของพระมาลาของพระมหากษัตริย์นักรบ พระมาลาของสมเด็จพระนเรศวรจะทรงมี พระชัยมงคล(ชื่อพระองค์เล็กๆรอบหมวก) 17 องค์ มีพู่ 4 ทิศ และพู่ยอดหมวก ปีกพระมาลาไม่เดินลาย (ต่างกับของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ปีกพระมาลาจะเดินลาย) มีพระองค์หน้าสุด จำชื่อไม่ได้แล้ว ต้องให้หลวงพี่เล่าให้ฟังอีกครั้ง สร้างขึ้นจากหนังวัวหรือหนังควาย เป็นเสมือนเครื่องป้องกันพระเศียรได้ส่วนหนึ่ง

พระท่านว่า คนโบราณออกศึกไม่มีเกราะเพราะว่ามันเกะกะ มีตะกรุดอัน หรือมียันต์สักผืน ก็อุ่นใจพร้อมลุยกับข้าศึกแล้ว

ตอนได้องค์สมเด็จพระนเรศวรมา ทวนยังไม่เสร็จ หล่อเสร็จแต่ยังไม่เจียให้เรียบร้อยและยังไม่มีด้าม ทางสายธาตุกับเพื่อนจะไม่เอาทวน พระมหาฯท่านว่าต้องเอาไปด้วย (คาดเองนะคะว่า สมเด็จท่านจะมีอาวุธคู่พระกายตลอดเวลา)

มวลสารเหล็กน้ำพี้จากบ่อเหล็กน้ำพี้บ่อเดียวในประเทศไทยคือที่อุตรดิตถ์ ลาวาภูเขาไฟจากศีรษะเกษ นิลดูดเหล็ก จำไม่ได้ รู้ว่าท่านต้องล่องแม่น้ำหาแหล่งวัตถุดิบ อาศัยสัญญาเดิมที่เคยทำมาแล้วท่านก็จำได้ว่าต้องไปหาที่ไหนบ้าง

ฟังท่านเล่าเรื่องเชื้อพระวงศ์ และข้าราชบริพารถูกกวาดต้อนไปหงสา 3 ระลอกรู้สึกว่าผู้ที่ต้องไปคงทุกข์ใจกันมาก

คนโบราณเสียสละกันจริงๆ

 

ความเจ็บไข้ได้ป่วยที่เกิดขึ้นกับน้องโมเย น้องไก่เหลือง หรือพี่ทางสายธาตุเองในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้

ความคิดของทางสายธาตุ จะรู้สึกขอบคุณเจ้ากรรมนายเวรที่เขาให้โอกาศเราได้ทำบุญอุทิศผลบุญให้เขา และเพราะเขาให้โอกาศรับชดใช้หนี้กรรมจากเรา ไม่ผูกเกี่ยวเราไว้เป็นลูกหนี้กรรมไปอีกนานแสนนาน ถือว่าเจ้ากรรมนายเวรเขามีพระคุณที่ให้โอกาศ

พวกเราจึงได้ชดเชยให้เขาตรงจุดที่เขาต้องการ ขอบพระคุณพระมหากรุณาธิคุณเหนือสิ่งอื่นใดในปฐพีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้พวกเรารู้จักการให้ การชดใช้ การอโหสิกรรม การแผ่เมตตา สอนการหลุดพ้นจากบ่วงทุกข์ทั้งปวง เป็นบรมครู ที่สุดของโลก เป็นบรมครู ที่สุดของเทวดาและอมนุษย์ทั้งหลาย หากไม่มีคำสอนของพระองค์ท่าน สัตว์โลกคงว่ายเวียนวนอยู่ในทะเลแห่งทุกข์ไม่มีทางออก

 

อนุโมทนากับคุณทางสายธาตุ ครับ เราทุกคนโชคดีที่ได้มาเกิดในแผ่นดินไทย

ในประเทศไทย แผ่นดินที่มีพระบวรพุทธศาสนาเป็นความเชื่อมั่นและเคารพยึด

ถือของประชาชนชาวไทยเกือบจะทั้งแผ่นดินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษจนกระทั่ง

ถึงปัจจุบัน บรรดาหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีอยู่

ครบบริบูรณ์ อาจกล่าวได้ว่าเราโชคดีได้เกิดมาทันพระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครู

ที่สุดของโลก ของเหล่าเทวดา มนุษย์ และอมนุษย์ ทั้งหลาย แล้วเหตุไฉนไย

เล่าจึงไม่รีบเร่งเดินตามหนทางที่พระองค์ได้ทรงค้นพบทางรอดอันเป็นทางสาย

เอก คือทางสายเดียวที่จะพาผู้ดำเนินตามให้พ้นจากทุกข์ได้จริง...

 

สวยมากเลยครับ คุณจู

 

พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมนะคะน้องโมเย

-----------------------------------------

ถ้าคุณอ่อนหัดธรรม ได้เห็นองค์พระบรมรูปจะต้องรักและเทิดทูนเลยค่ะ

เพราะพระอริยบถคือทรงพร้อมจะรบทุกรูปแบบ ทรงแกร่ง ลายพระกล้ามเนื้อก็ชัดดี

พระสรีระทรงสมสัดส่วน งามมมมมม มากกกกกก

พระบรมรูปพระเอกาทศรถ พระมหาฯท่านก็ปั้นเอง องค์นี้ประดิษฐานที่ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลกค่ะ รูปสมเด็จพระเอกาทศรถ แบบนี้ค่ะ

อ้างอิง http://www.chaiyanuparp.com/imagehome/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%20%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%96.html​

 

​

 

๔๐๐ ปี แห่งการสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

​

 

สดุดี ๔๐๐ ปี มหาราชจอมราชันย์

​

 

เอกบุรุษอยุธยา

​

 

สมเด็จพระพี่นาง สุพรรณกัลยา

​

 

พระองค์ขาว อนุชาคู่พระบารมี

​

 

อนุโมทนากับคุณทางสายธาตุ ครับ

ทุกภาพที่นำมาวางช่างงดงามยิ่ง หนึ่งไม่มีสองจริงๆ

 

....

"จากความเชื่อว่าวิญญาณเป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่สถิตตามสิ่งต่างๆ วัตถุใดที่เข้าสู่พิธีกรรม เชิญวิญญาณมาสถิต ย่อมมีพลังวิญญาณอยู่ทั้งสิ้น สำคัญที่ว่า พลังวิญญาณสถิตนั้นมาจากไหน และใครเป็นผู้เชิญ"
ตรรกะแบบนี้ บางคนอาจเข้าใจยากถ้าไม่ยอมรับความเชื่อเรื่องพลังงานหลังการดับสิ้นของ สิ่งมีชีวิต แต่สำหรับ กร ทัพพะรังสี เขาเชื่ออย่างไม่เคลือบแคลงสงสัย โยงมาสู่การนับถือศรัทธา ในพลังกษัตริยาธิราชเจ้าบารมี โดยเฉพาะ " สมเด็จพระนเรศวรมหาราช " กษัตริย์ผู้ทรง กอบกู้กรุงศรีอยุธยา
จนเป็นที่ร่ำลือว่า ฤาจะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์สำหรับพรรคชาติพัฒนา ที่พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ เจ้าของผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน ผู้ศรัทธาต่อ "พระนางสุพรรณกัลยา" พระพี่นางของพระองค์ดำ กลับโคจรมาพบกับผู้มีศรัทธาต่อ "พระองค์ดำ" อย่างกร กลายเป็นแนวร่วมทางการเมืองจนได้
"คุณหมอจะเกี่ยวข้องกับพระนางสุพรรณกัลยาหรือไม่ ผมไม่ทราบ มันเป็นเรื่องของแต่ละคน เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถตอบได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะมันไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นสิ่งผม ที่เชื่อมั่นในพุทธะว่า คนเราไม่ได้เกิดในชาติเดียว" ..........

๐๐๐ ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site​

 

อนุโมทนาขอรับ พี่จงรักภักดี ได้ยินข่าวมานานแล้วครับ ในเรื่องความเชื่อถือและผูกพัน ของท่านกร ทัพพะรังสี และ พ.ญ. นลินี ไพบูลย์ ที่มีต่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระพี่นางสุพรรณกัลยา แต่ยังหาจุดเริ่มต้นไม่พบ

 

...........

แม้แต่คนในพรรคยังไม่ทราบนักว่า ผู้ชายวัย 55 ปี ชื่อ กร ทัพพะรังสี หัวหน้าพรรค ชาติพัฒนาคนนี้ ปฏิบัติธรรมอยู่เนืองนิตย์ เงียบๆที่บ้าน โดยไม่ต้องเข้าวัดเป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้ว
ภาพสะท้อนของเขาคือ ผู้นำที่มีบุคลิกนิ่ง สุขุม ลุ่มลึก ออกมาทาง "บุ๋น" มากกว่า "บู๊" ซึ่งบทบาท หลัง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคครองตำแหน่งปรมาจารย์แห่งยุค
ใครจะมองว่า การศึกษาพุทธศาสนา ควบคู่การนั่งสมาธิ เป็นความเพียรเพื่อสั่งสมบารมีคงใช่ เพราะเขาพูดตลอดเวลาว่า ต้องพึ่งธรรมะเพื่อฝึกจิตใจให้ไม่ขุ่นมัว ติดบ่วงกิเลสจนเกิดทุกข์ แต่การปฏิบัติธรรมนี้ เป็นบุญกริยาเฉพาะบุคคล ใครทำคนนั้นได้ หรือแม้แต่คนทำบุญร่วมกัน
กร ยังยืนยันว่า ไม่ได้หมายความจะต้องเกิดมาพบกันอีก เพราะต้องยอมรับว่า คนเราเกิดมาแล้ว หลายชาติ แต่ละคนต่างมีกรรม มีบัญชีทองคำ บัญชีดำของตัวเองที่ส่งผลติดตัวไปทุกชาติ
ต่อไปนี้คือประสบการณ์ธรรมะที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด จะถ่ายทอดให้ฟัง เรื่องเล่าตรง นี้มีให้เลือกเสพทั้งแบบปาฏิหาริย์ และแบบเป็นเหตุเป็นผล
หลักกาลามสูตร ว่าด้วยเหตุแห่งความเชื่อ 10 ประการ อ้างตามพุทธบัญญัติ ยังเป็นเครื่องเตือน สติที่ดี อย่าเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครู…อย่าเชื่อเพราะ…ฯลฯ แต่วินาทีนี้ เป็นเรื่องเล่าสู่กันฟัง ไม่จำเป็น ต้องเชื่อ......


๐๐๐ ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site


ปล.โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ข้อความบางตอนน่าจะเป็นเหตุการณ์ใน
ขณะนั้น​

 

... "เราสามารถปฏิบัติจิตแนวทางของเราได้โดยไม่ต้องห่มผ้าเหลือง การปฏิบัติจิตนำไปสู่อะไร นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังค้นหาคำตอบอยู่"
เนื้อหาธรรมะเมื่อกรเคี่ยวจนข้น ได้บทสรุปว่า
1). วิถีทางที่จะนำชีวิตให้พ้นจากความทุกข์ เป็นวิถีทางที่จะต้องปฏิบัติทางจิต ไม่ให้มีกิเลส ไม่ให้มีอารมณ์
2). วิญญาณไม่มีตาย สิ่งที่ตายคือร่าง วิญญาณมีทั้งชาติที่แล้วและชาติหน้า ซึ่งต้องอาศัยร่างอยู่ จะเป็นในร่างใดขึ้นกับกรรม
3). เราไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ทุกชาติ ชาติที่แล้ว หรือ ชาติหน้า เป็นมนุษย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉะนั้น ชาตินี้เกิดเป็นมนุษย์ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ มีสติ มีปัญญา รู้ดีรู้ชั่ว ........​

๐๐๐ ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site​

 

...........

เหตุแห่งศรัทธาต่อองค์พระนเรศวร ไม่ได้เริ่มต้นที่ประวัติศาสตร์ แต่กลับเริ่มที่พุทธศาสนา สืบเนื่องจากของขวัญวันมงคลสมรสที่บิดามอบให้เป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งสวยงามมาก ทว่า เจ้าของไม่ยักรู้จักพระดี เพราะเพิ่งกลับจากอเมริกา
กระทั่งวันหนึ่ง…
"ผมนั่นสมาธิเห็นเป็นรูป 3 เหลี่ยมลอยอยู่ข้างหน้า จิตผมนิ่งเงียบ! แล้วผุดคำถามว่าเอ๊ะ? สามเหลี่ยมนี่อะไร สักครู่สามเหลี่ยมนั้นเริ่มกะเทาะออกเป็นรูป " พระพุทธชินราช " ลอยเด่นตรงหน้า ผมพูดกับตัวเอง เอ้า! นี่พระพุทธชินราขนี่ เท่านั้นล่ะ รูปนั้นก็หายไป อารามตกใจรีบบอกภรรยา นุ้ยๆเมื่อกี้พี่กรเห็นพระพุทธชินราชในสมาธิ ท่านอยู่ที่ไหน…"
วิญญาณ "อินเดียนน่าโจนส์" กระตุ้นต่อมผจญภัยในตัวเขาให้ทุ่มเทเวลาค้นคว้าประวัติ พระพุทธชินราช เป็นการใหญ่ เอาแผนที่ทางหลวงมากาง ปักธงขึ้นไปทางเหนือ ขับเข้าเส้น เพชรบูรณ์ - หล่มสัก อย่างทุลักทุเล มุ่งสู่ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" อ.เมือง จ.พิษณุโลก กราบนมัสการพระพุทธชินราชต้นแบบสำเร็จดั่งตั้งใจ
กระนั้น ยังค้นพบอีกว่า "พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่ไม่ได้สร้างขึ้นโดยมนุษย์"
เหตุเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าลิไท กษัตริย์ราชวงศ์สุโขทัยองค์สุดท้าย มีการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา
สององค์หลังไม่มีปัญหา แต่องค์แรกทำอย่างไรก็ไม่เสร็จ พระเจ้าลิไทจึงตั้งศาลเพียงตาปักธูป อธิษฐานให้เทวดาฟ้าดินช่วย ปรากฏว่า มีตาชีปะขาวมาถวายตัวทำพิธีดังกล่าวจนเสร็จ แล้วหายลับไป พระเจ้าลิไทจึงตั้งเครื่องบวงสรวงชุดใหญ่ คิดว่าตาชีปะขาวคนนี้อาจเป็น เทพยดาบนสวรรค์ มีกระแสรับสั่งเดี๋ยวนั้นให้สถานที่เททองหล่อเป็น "วัดชีปะขาวหาย" และยังมีรูปไม้แกะสลักตาชีปะขาวเขียนไว้ว่า ตาชีคนนี้คือผู้สร้างพระพุทธชินราช จนถึงวันนี้
พระพุทธชินราชจึงเป็นพุทธบารมีของพิษณุโลก 200 ปี ก่อนที่พระนเรศวรประสูติ ณ พระราชวังจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตามคติจึงถือว่าพระพุทธชินราช เป็นพระคู่บุญบารมีของพระนเรศวร
ซึ่งพระองค์กราบไหว้มาตั้งแต่เกิด และกราบทุกครั้งที่เดินทัพผ่านพิษณุโลก .......

๐๐๐ธรรมะฉบับ "กร ทัพพะรังสี" Welcome To Korn Thapparansi's Web Site​

 

คณะกรรมการโครงการรวมดวงใจศิลปินเพื่อพระพุทธศาสนา ซึ่งมี พระมหาดร.กมล ถาวโร ผุ้อำนวยการสำนักงานบริหาร ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นประธานฝ่ายบรรพชิต และมี นางเตือนใจ สจริตกุล ดาวใจ ไพจิตร เป็นประธาน และมี ดร.ศุภชัย ไพจิตร (ศุภชัย ผ่องสวัสดิ์) เป็นเลขานุการโครงการฯ
ได้ทำการพิจารณาประกาศผล รางวัลศิลปินคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา2553 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด้จพระสังฆราชฯ เป็นองค์ประธานมอบ ในปีนี้
ในวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 14.00 น ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีศิลปินดารานักร้องที่ได้รับคัดเลือกดังนี้

ไชยา มิตรชัย สมบัติ เมทะนี กิฟอัญชิสา เก่งชัชวาล
กระแต โฟร์ทีน เชน ไนซ์ทูมีทยู หมอริว ปาณรวัฐ
หมอพรหมญาน หมอต้อง
ดญ.พอฟ้า พรรณพิเชษฐ์
และผู้แทนเวบไซด์พลังจิต


แหล่งที่มา ขอบคุณคุณนาส ครับ


ขอแสดงความยินดีกับทีมงานเว็บพลังจิต ด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโมทนาค่ะ ดีใจที่จะมีละครเรื่องพระสุพรรณกัลยา (อ่านจะบทความที่พี่จงรักภักดีลิ้งค์มาค่ะ)

ยินดีกับเวปไซด์พลังจิตด้วยค่ะ

 

อัญมณีใหม่แห่งเมืองกาญจน์ กำลังเจียรนัยให้ใสปิ๊ง

​

"ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องผองเราชาวไทยด้วยได้ข่าวมาว่าจังหวัดกาญจนบุรี กำลังเตรียมทุ่มงบประมาณหลายสิบล้านเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์อุทยานประวัติศาสตร์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสถานที่เดียวกันกับ โบราณสถานเจดีย์ยุทธหัตถี

ที่ซึ่งอธิบดีกรมศิลปากร ได้ลงนามในประกาศราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 113 ตอน พิเศษ 3 ง. ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2538 ให้เจดีย์ยุทธหัตถี - สระมอญ - พระปรางค์ประธาน/เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สององค์ เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ชื่อ " โบราณสถานเจดีย์ยุทธหัตถี" สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญยิ่ง ทั้งอดีตไกลโพ้นและอดีตอันใกล้

กล่าวอีกนัยคือที่นี้เองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จพระราชดำเนินด้วยการขับรถยนต์พระที่นั่งโดยลำพังพระองค์เอง เพื่อจะมาทอดพระเนตรเจดีย์ยุทธหัตถีกลางทุ่งนาบ้านดอนเจดีย์เมื่อปี พศ. 2510 ในคราวเสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์ เขื่อนวชิราลงกรณ์(เขื่อนแม่กลอง)อำเภอท่าม่วง ทรงหลงทาง แม้ทรงสอบถามทางกับชาวบ้านไปตลอดทาง แต่รถยนต์พระที่นั่งไปน้ำมันหมดที่ตำบลหนองขาว ทำให้เสค็จไม่ถึงเจดีย์ยุทธหัตถี ซึ่งอยู่กลางป่าละเมาะ รายล้อมด้วยไร่อ้อยและเรือกสวนไร่นาของประชาชน

แต่ในที่สุดอีกครั้ง ท่านได้เสด็จเยือนเจดีย์ยุทธหัตถีอีกครั้งเมือวันที่ 6 ธันวาคม 2516 หลังเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจที่อำเภอบ่อพลอย ทอดพระเนตรเจดีย์ยุทธหัตถีและปรางค์ประธานในบริเวณใกล้เคียงด้วยความสนพระทัยยิ่ง จนกระทั่งพลบคำ จึงเสด็จกลับท่ามกลางการรับและส่งเสด็จของประชาชนในละแวกนั้นอย่างคับคั่ง และหลังจากนั้นอีกเพียง 6 เดือน การบูรณะปฎิสังขรณ์องค์พระเจดีย์ก็แล้วเสร็จ เป็นอันสิ้นสุดความสงสัยของประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่ตั้งของเจดีย์ยุทธหัตถี ว่าอยู่ที่ใดแน่

และห่างจากเจดีย์ยุทธหัตถีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 1200 เมตรเป็นที่ตั้งของ วัดบ้านน้อย โบราณสถานอีกแห่ง ที่ทรงคุณค่าทั้งความศักด์สิทธิ์และด้านประวัติศาสตร์/โบราณคดี เพราะเชื่อกันว่า วัดบ้านน้อยน่าจะมีชื่อเดิมว่าวัดครุฑ วัดร้างแต่สมัยโบราณ(อยุธยาตอนกลาง) ที่วัน วลิตเรียกเพิ้ยนเป็นวัดเคร็งเอ่ยถึงในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับวัน วลิต

และทั้งวัดบ้านน้อยและเจดีย์ยุทธหัตถีแห่งนี้ อาจารย์ประยูร อุลุชาฏะ หรือ น. ณ ปากน้ำปรมาจารย์ทางด้านโบราณคดีและศิลปสมัยอยุธยา ศิลปินแห่งชาติ ได้เคยประกาศก้องว่า"...ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเจดีย์และกลุ่มเจดีย์ที่ดอนเจดีย์(พนมทวน)คือเจดีย์ยุทธหัตถีที่แท้จริง และเอาเกียรติยศจากการที่ได้ศึกษาศิลปมาอย่างจำเจที่สุดเป็นประกัน." ในบทความชื่อ..."ไปพิสูจน์เจดีย์ยุทธหัตถีที่ดอนเจดีย์"ใน นิตยสาร"ชาวกรุง"เล่ม 7 ประจำเดือนเมษายน 2516 หากประสงค์ได้ข้อมูลและเพิ่มเติม คลิ๊กไปที่กระทู้ "แปลกใจ ทำไมไม่มีสถานที่นี้ใน อสท." หรือ ที่ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมสัญจร.is-trip.com .ในบทความขื่อ "วัดบ้านน้อย: คุณค่าไม่น้อยที่กำลังดับสูญ" โดย สว. บ้านดอกไม้ บทความที่ส่งผลสะเทือนให้กรมศิลปากรรีบไปขุดแต่งโบราณสถานวัดบ้านน้อยโดยเร็วเมื่อต้นปีนี้เอง"

::